ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป“รอหลังเพื่อนหนูแต่งก่อนดีกว่าค่ะ...นะคะ...ปีหน้าแล้วกัน”“อาต้องรอข้ามปีเชียวหรือ” “เป็นพ่อม่ายข้ามปี หมักได้ที่นะคะ”ดำรงหัวเราะหึๆ “อ่ะ อีกปี...ข้ามปี...รอได้...”“ให้หนูเข้าใจเรื่องราวพวกนี้ก่อนค่ะ คุณอา...”“เข้าใจอะไร”“สมัยสาวๆ พวกเราเชื่อภาษิตโบราณ...ว่าเราจะไม่ร้องเพลงในครัว เพราะจะได้ผัวแก่”ดำรงทำตาโต“หนูไม่เคยร้องเพลงในครัวเลยนะคะ ไม่ว่าครัวไทย ครัวฝรั่งหรือที่ไหนที่ทำอาหาร...หนูกลัวมีผัวแก่ แล้วนี่อะไรกันคะ...ฮือๆ...” เหมือนกิตติมาครางเล็กน้อยอีกด้วย “หนูจะมีผัวแก่...หนูสับสนค่ะ แม้หนูจะฝ่ากมือหนูไว้กับคุณอา แต่ความจริงคือหนูจะมีผัวแก่”“อย่างเดียวเลย หนูมา” เสียงดำรงอ่อนโยนนัก “ถามใจตัวเองว่ารักอาไหม...จะแก่จะหนุ่มมิใช่ปัญหา ขอเพียงมีใจ”นั่นสินะ...กิตติมาบอกตัวเอง...ขอแค่มีใจ ขอแค่รัก... ในที่สุดหล่อนก็พยักหน้ารับ ความจริง ความรัก สองอย่างเดินไปด้วยกัน หล่อนฮัมเพลงเบาๆ“ถึงแก่แล้วจะรักใครจะทำไม”“ไม่ทำไมหรอกจ้ะ หนูมา แต่ขอหอมแก้มหนูสักฟอดแล้วกันนะ”อัจฉราขอถอนตัวออกไปจากบ้าน จากการดูแลวงและทุกคน เพราะดำรงจะแต่งงานแน่ๆ ในปีหน้า หล่อนพ
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ปรายตามอง...เอนตัวมาหาอีกนิด...“อย่า...อย่า” ชายหนุ่มร้องห้าม “นิสัยผมไม่ได้ดีนา... คุณนรี”“ไม่ดียังไงน้อ”“คุณนี่...เป็นดาวยั่วมาจากไหน”“ยั่วสวาทไม่เป็น แต่ยั่วโทสะ นี่ถนัด...”“ใครบอกว่าไม่ยั่วสวาท” เขากอด “ยั่วมาก รู้ไหม...ผมกลัวจริงๆนะ...”“ถ้างั้น ถอยห่างไปนิด...” เธองึมงำ...แต่คนที่ปากบอกว่าถอยห่างไปนิด คือคนที่กระแซะมาติดตัวเขา และสวมกอดเขาตอบ “อยากให้กลัวมากๆ...”“แล้วไงล่ะ ทำท่าเหมือนไม่กลัว”“แหม...ตัวสั่นแล้วนะเนี่ย” เอกนรีเอ่ย ลูกไฟจากกองไฟเล็กๆ แตกได้ยินเสียงเบาๆ กับเสียงแมลงกลางคืนจากต้นไม้ที่อยู่ในระดับต่ำจากเนินที่ปลูกบ้านนี้ “สั่นรอ...”“เดี๋ยวก็เจอดีตรงนี้...บนดิน...บนหญ้า ใต้ฟ้า ใต้จันทร์เสียหรอก”“ไม่เคยเจอ ถือเป็นประสบการณ์”เอกนรีตอบชัดนัก และก่อนจะโดนดี เธอก็กอดเขาไว้แน่น“ปีใหม่...จัดงานแต่ง...ไม่ต้องใหญ่มากนัก ก็ได้...”“ตอนไปขอคุณจากลุง...จะได้ไหมน้อ”“ไม่เป็นไร...ไม่ได้ก็จะแต่ง...ลุงคนเดียวตัดทิ้งได้”“น่ารักเสมอ คนดีของผม”“คุณก็หวานเสมอ จริงๆ นะ เกิดมาเพิ่งเคยเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงยอมข้ามขั้น เต็มอกเต็มใจ อยากพลีกาย...หลังจากพ
พุทธศักราช 2540ปีแห่งความผันผวนทางเศรษฐกิจ วิกฤตต้มยำกุ้ง“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...ไอ้วงคูนแคนของพี่ดุ่ยนี่ ไม่เคยขาดงานเดินสายเลยนา”เสียงพูดแกมหัวเราะจากปากแดงๆ ของนางดวงดังขึ้นนางดวง หญิงวัยกลางคนที่ยังคงความงามพริ้ง...ในวัย45...วัยที่บอกว่าผู้หญิงจะมีความงามเป็นของตัวเองได้อีกสักห้าปีใช่ ตำนานความงามของผู้หญิงที่เรียกว่าเบ่งบานสุดๆ นั่นคือวัยระหว่าง30ถึง45 นางดวงเช่นกัน คนมักจะเรียกนางว่ายายดวง...ทั้งที่ยังดูสาว เรียกกันติดปาก...ยายดวง...ยายดวง...กับการที่นางเป็นเจ้าของร้านส้มตำเลื่องชื่อ และวันนี้นางมาร่วมงานวันเกิดพี่ชาย...นายดุ่ย คูนแคน...พี่ชายนางดวงเป็นเจ้าของวงดนตรีที่เอานามสกุลมาใช้คูนแคน...และมีลูกชาย...ก็หลานยายดวง...ดำรง คูนแคนเขามีความสามารถทั้งเล่นดนตรีและแต่งเพลง...เขาทำเพลงลูกทุ่งอิสานหลายเพลง ได้รับความโด่งดัง...การเดินสายทำวงก็ดังมากมีนักร้องชายหญิงดังๆ หลายคน และดำรงกำลังปั้นนักร้องสาวคนใหม่...เอื้อยฟ้า อรลออ หรือ ซูยองฮวา...หล่อนเป็นนางฟ้าลูกทุ่ง...คือร้องเพลงลูกทุ่งได้...ทำเพลงมาแล้วสักพัก แต่ไม่ดังมากนัก...จนเมื่อเจอกับดำรง..และเซ็นสัญญาให้เขาดูแลแ
นางดวงทำตาโต ก่อนจะร้องอุทาน “พุทโธ ธัมโม สังโฆ ดำรงรู้ไหมนี่”นายดุ่ยส่ายหน้า “ลูกฉันมันโง่...ยังกะควาย...”เสียงตวัดลากสูง “คอยดูสิ...อีกไม่นาน...”“แล้วทำไมไม่บอก ไม่กล้าหรือเปล่า ฉันบอกเองได้นะ” นางดวงรับอาสา “ตัดไฟแต่ต้นลม”นายดุ่ยส่ายหน้าไปมา “ฉันพูดไปก็เท่านั้น”“ฉันถึงอาสาไง พี่ดุ่ย”แต่เขาห้ามน้องสาว บอกว่าสงสารดำรง และนั่นทำให้นางดวงมองหลานชายที่พาเอื้อยฟ้าเข้ามาหาด้วยแววตาที่เอื้อยฟ้าถอยหลบไปหลังเขาทันที“นั่นอาพี่เหรอ”“ใช่” ดำรงตอบ “อาดวง แกขายส้มตำแล้วทำวงกับลูกชายบ้าง วงเล็กๆ เล่นที่ร้านอาหารและรับงานแถวบ้าน ไม่มากมายอะไร”เป็นการพบกันครั้งแรกและนางดวงไม่ชอบหญิงสาวคนสวยลูกครึ่งไทยเกาหลีคนนี้เลยนางรับไหว้ หมางเมิน...ไม่ได้ยินดียินร้าย ไม่ตื่นเต้นเหมือนก่อนเจอกัน“ท้องเรอะ” นางยิงคำถามเอื้อยฟ้าเกาะแขนดำรงแน่น...“อา...” หลานชายท้วง ทำหน้าตาบึ้งๆ “อย่าถามแบบนี้อย่าพูดไป”“ทำไมปล่อยท้อง...” นางยังกังขา “ถุงยางมีทำไมไม่ใช้”“เรารักกัน”“รักกันตอนนี้ ตอนไหนก็ได้ แต่ยังท้องไม่ได้”นางพยักพเยิดไปทางอัจฉรา แม่ลูกอ่อนที่นั่งให้นมลูกอยู่ไม่ห่าง ทำหน้ามุ่ยๆ “นั่นก็ไปร
อัลบั้ม “กราบอกซ้ายอ้ายที่ฮัก”ขายดิบขายดี มีงานหลั่งไหลเข้ามาแต่ชีวิตของดำรงพังยับตั้งแต่วันนั้นไม่เพียงแต่ชีวิตแต่วงคูนแคนก็ถึงกาลอวสานไปด้วยเจ้าของวง นักแต่งเพลง ป่วย...เมา...ชีวิตพังยับ...และชีวิตน้อยๆ อีกชีวิต ของเดชชนะ...ลูกที่แม่ทิ้งไปตั้งแต่สามเดือนก็เติบโตขึ้นมาโดยมือพ่อขี้เมา ชีวิตตกอับในมือปู่ดุ่ยและแม่บุญธรรมอย่างอัจฉรา...แต่ความจริงมีประการหนึ่งที่ทำให้เขาเติบโตมาคือเขาไม่ได้กินนมแม่...หรือนมอัจฉราที่เขาเรียกแม่เอ๋ และทุกคนคิดว่าเขาคือลูกของอัจฉราวันที่เอื้อยฟ้าจากไป เขาสามเดือน ไม่มีนมแม่กิน และแน่นอนอัจฉรายังมีนมกับลูกอ่อนของตัว แต่ดำรงห้ามเด็ดขาดนายดุ่ยยังสงสัยว่าทำไม...ฉันจะไม่ให้เดชมันกินนมเอ๋ และรับเป็นแม่จริงๆ......มันนมคนนา แกจะให้ลูกโตเพราะนมวัวเหรอ มันจะไม่ดีนา... ...นมผงก็ได้... วันที่ปาดน้ำตา และหักใจได้บ้าง ดำรงขับรถออกไปหาซื้อนมผงมาชงให้ลูกชายกินด้วยตัวเอง และห้ามอัจฉราให้นมเดชชนะจุดมุ่งหมายในใจคือ เมื่อขาดแม่ มีแต่พ่อ...เขาจะเป็นพ่อที่พร้อมเป็นแม่ให้กับเดชชนะด้วย เขาจะไม่ยอมให้ เดชชนะต้องมีชีวิตที่ขาดไร้...อัจฉราอาจจะเป็นแม่ในนาม แม่ในสาย
เอื้อยฟ้าทิ้งคูนแคนไปอยู่กับวิลลี่ และทำอัลบั้มเดี่ยว โด่งดังกับฉายา นางฟ้าลูกทุ่ง แสนสวย ร้องเพลงเพราะ มีเพลงดังเพลงดีในมือแน่ละ...จะเป็นเพลงของใครไปไม่ได้ นอกจากเพลงของดำรงเอื้อยฟ้ากับวิลลี่กอบโกยไปมากจากเพลงของดำรงช่างหน้าไม่อาย ไร้ศีลธรรม...หลายคนคิดว่าดำรงเสียสติ นุ่งขาวห่มขาว โกนผม ไม่พูดจากับใคร ไม่ออกไปไหน แต่ในบ้านเขามีเครื่องดนตรีพร้อม ยามว่างดำรงยังเขียนเพลงอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะแนวเพลงซึ้งๆ ลูกทุ่งอกหัก ชอกช้ำดำรงเขียนเพลงให้ต้าร์ร้อง แต่เพลงของต้าร์ที่ออกมาชุดแรกนั้นเป็นอัลบั้มที่จริงๆ แล้วคนเข้าห้องอัดเสียงคือ เดชชนะ แต่ไม่มีใครรู้...เพราะวันจะอัดเสียง ต้าร์เมายา และอยู่เสพรักจนหมดแรง ร้องเพลงไม่ได้สรุปคือต้าร์นั้นทั้งยา ทั้งผู้หญิง ไม่เว้นว่างและไม่เคยลดหรืองด มีแต่จจะเสพอย่างหนัก...นายดุ่ยเคยเปรยว่า“ยังดีว่ามันไม่เอาการพนันอีกอย่าง”นั่นเหมือนปู่มองโลกแง่ดี...พยายามจะปลง.. แต่เขารู้ว่าปู่หนักใจ เขาก็หนักใจ เช่นเดียวกับอัจฉรา...ที่เหมือนจะจัดการให้ต้าร์อยู่ในร่องในรอยไม่ได้ ไม่ต้องถึงกับมีกรอบให้อยู่หรอก...ต้าร์เกะกะเกเรและเอาแต่ใจตัวเองปู่บอกว่าเขากับต้าร์ต่
เขาเอามืออังหน้าผากพ่อ ก่อนจะโดนปัดมือออกพร้อมกับเสียงหัวเราะ“แกอย่าทำเหมือนฉันเป็นลูก แล้วแกเป็นพ่อฉัน”“ก็ถ้าพ่อไม่ดูตัวเองดีๆ ผมจับป้อนข้าวป้อนยาเลยนะ ไม่ได้ขู่” เขาย้ำ แต่แววตาอ่อนโยนดำรงจับมือลูกชายไว้ เสียงแห้ง แววตาแห้ง “เดช ...ทำไมแกดีกับพ่อ”“เอ้า...ถามงี้ได้ไง” เขาเอ่ยทีเล่นทีจริง แววตาอ่อนโยนมากกว่าเดิม “พ่อผมนี่ ใครที่ไหนกันเล่า...”“แต่พ่อ...ทำแกเสียโอกาส”“โอกาสอะไร” เขาแกล้งเสถาม ทำหน้าจริงจังอีกนิด “หากยังคิดแบบนี้อีกนะ ผมจะไม่รักนะเออ”“เฮ้ย”“ผมพูดจริงนะ พ่อจะตำหนิตัวเองทำไม พ่อดูผมนี่...”เขาถอยไปยืนตัวตรง ทำท่าเข้มแข็งจัด“ที่พ่อเห็น นี่ใคร...” เอามือจิ้มอกตัวเอง “ดูสิ พ่อ ตั้งแต่หัวถึงเท้าผมนี่เลย พ่อเห็นไหม...ลูกพ่อนะ เดชชนะ...ลูกพ่อ ดูสิ หน้าตาเป็นไง แล้วผมก็โตจนพ่อกระเตงขึ้นเอว หรือเอาขึ้นหลังให้ผมขี่คอก็ไม่ไหวแล้ว ผมเป็นแบบนี้ สมบูรณ์แบบ”เขามั่นใจ ไม่ได้พูดเกินเลย“ทั้งหมดนี่เพราะพ่อปั้นผมขี้นมา พ่อคนนึง ปู่อีกคน...สองคน สองสมอง สี่มือ ให้ผมเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นกินข้าว กินยา ทำตัวดีๆ ...ให้ผมได้รักไปนานๆ ผมกำลังทำวงใหม่นะ พ่อ”“แต่...”“ผมพร้อม
เดชชนะเดินออกมาจากห้องก็ปะทะกับคนที่เข้ามาอย่างร้อนรน...อัจฉรา...เขาคว้าแขนหล่อนเอาไว้“เป็นอะไร แม่เอ๋” ถามออกไปแล้วก็พอจะนึกได้ว่าหากทำกิริยาแบบนี้แปลว่า“เจ้าตัวแสบทำเรื่องอีกแล้ว”“ต้าร์ทำอะไร”ผิดที่ไหนกันเล่า อัจฉราทำตาแดงๆ“มีคนมาโวยวายจะเอาเรื่องลูกสาวเค้า”“คราวนี้อายุเท่าไร” คำถามของเขารู้เท่าทัน “สิบหก เกือบจะสิบเจ็ด”“ผู้เยาว์ตามเคย”เขาไม่ได้ตกใจมากนัก “เค้าเรียกเท่าไร”เพราะจะลงเอยที่ค่าเสียหายเสมอ เขารู้ว่ามันไม่ถูกต้องหากจะใช้เงินปิดปัญหาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ทำอย่างไรได้อีก ในเมื่อต้าร์ทำมานานปี เริ่มตั้งแต่รู้เรื่องสืบพันธุ์ได้ ต้าร์ก็ระเริงไปกับเพศหญิง ไม่เลือกหน้า ไม่ซ้ำ เคยพลาดท่าจนติดโรคก็เคย...โรคทางเพศอันเกิดจากความสำส่อน แต่อย่างเดียวที่นับว่าดีสุดคือไม่เคยทำให้ผู้หญิงคนไหนท้องไม่อย่างนั้นบาปจะยิ่งหนักที่ไม่ไปรับผิดชอบเด็ก“ใจเย็นๆ แม่เอ๋” เขาเอ่ย “ไม่ต้องเข้าไปหาพ่อหรอก”เขาไม่อยากให้พ่อได้รับรู้“ห้าหมื่นนะ เดช”“แค่ห้าหมื่น” ชายหนุ่มเอ่ยแกมหัวเราะ “แม่เอ๋ก็รู้ ผมทำกองทุนไว้แล้วสำหรับเรื่องนี้”“เรื่องระยำพวกนี้น่ะหรือ เดช” นายดุ่ยเดินออกมา
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ปรายตามอง...เอนตัวมาหาอีกนิด...“อย่า...อย่า” ชายหนุ่มร้องห้าม “นิสัยผมไม่ได้ดีนา... คุณนรี”“ไม่ดียังไงน้อ”“คุณนี่...เป็นดาวยั่วมาจากไหน”“ยั่วสวาทไม่เป็น แต่ยั่วโทสะ นี่ถนัด...”“ใครบอกว่าไม่ยั่วสวาท” เขากอด “ยั่วมาก รู้ไหม...ผมกลัวจริงๆนะ...”“ถ้างั้น ถอยห่างไปนิด...” เธองึมงำ...แต่คนที่ปากบอกว่าถอยห่างไปนิด คือคนที่กระแซะมาติดตัวเขา และสวมกอดเขาตอบ “อยากให้กลัวมากๆ...”“แล้วไงล่ะ ทำท่าเหมือนไม่กลัว”“แหม...ตัวสั่นแล้วนะเนี่ย” เอกนรีเอ่ย ลูกไฟจากกองไฟเล็กๆ แตกได้ยินเสียงเบาๆ กับเสียงแมลงกลางคืนจากต้นไม้ที่อยู่ในระดับต่ำจากเนินที่ปลูกบ้านนี้ “สั่นรอ...”“เดี๋ยวก็เจอดีตรงนี้...บนดิน...บนหญ้า ใต้ฟ้า ใต้จันทร์เสียหรอก”“ไม่เคยเจอ ถือเป็นประสบการณ์”เอกนรีตอบชัดนัก และก่อนจะโดนดี เธอก็กอดเขาไว้แน่น“ปีใหม่...จัดงานแต่ง...ไม่ต้องใหญ่มากนัก ก็ได้...”“ตอนไปขอคุณจากลุง...จะได้ไหมน้อ”“ไม่เป็นไร...ไม่ได้ก็จะแต่ง...ลุงคนเดียวตัดทิ้งได้”“น่ารักเสมอ คนดีของผม”“คุณก็หวานเสมอ จริงๆ นะ เกิดมาเพิ่งเคยเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงยอมข้ามขั้น เต็มอกเต็มใจ อยากพลีกาย...หลังจากพ
ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป“รอหลังเพื่อนหนูแต่งก่อนดีกว่าค่ะ...นะคะ...ปีหน้าแล้วกัน”“อาต้องรอข้ามปีเชียวหรือ” “เป็นพ่อม่ายข้ามปี หมักได้ที่นะคะ”ดำรงหัวเราะหึๆ “อ่ะ อีกปี...ข้ามปี...รอได้...”“ให้หนูเข้าใจเรื่องราวพวกนี้ก่อนค่ะ คุณอา...”“เข้าใจอะไร”“สมัยสาวๆ พวกเราเชื่อภาษิตโบราณ...ว่าเราจะไม่ร้องเพลงในครัว เพราะจะได้ผัวแก่”ดำรงทำตาโต“หนูไม่เคยร้องเพลงในครัวเลยนะคะ ไม่ว่าครัวไทย ครัวฝรั่งหรือที่ไหนที่ทำอาหาร...หนูกลัวมีผัวแก่ แล้วนี่อะไรกันคะ...ฮือๆ...” เหมือนกิตติมาครางเล็กน้อยอีกด้วย “หนูจะมีผัวแก่...หนูสับสนค่ะ แม้หนูจะฝ่ากมือหนูไว้กับคุณอา แต่ความจริงคือหนูจะมีผัวแก่”“อย่างเดียวเลย หนูมา” เสียงดำรงอ่อนโยนนัก “ถามใจตัวเองว่ารักอาไหม...จะแก่จะหนุ่มมิใช่ปัญหา ขอเพียงมีใจ”นั่นสินะ...กิตติมาบอกตัวเอง...ขอแค่มีใจ ขอแค่รัก... ในที่สุดหล่อนก็พยักหน้ารับ ความจริง ความรัก สองอย่างเดินไปด้วยกัน หล่อนฮัมเพลงเบาๆ“ถึงแก่แล้วจะรักใครจะทำไม”“ไม่ทำไมหรอกจ้ะ หนูมา แต่ขอหอมแก้มหนูสักฟอดแล้วกันนะ”อัจฉราขอถอนตัวออกไปจากบ้าน จากการดูแลวงและทุกคน เพราะดำรงจะแต่งงานแน่ๆ ในปีหน้า หล่อนพ
เอกนรียอมจะแต่งงานกับเดชชนะ พร้อมกับเขาประกาศถอนตัวจากวงการเพลง สุดท้ายอำลาเวที คืนนี้หลังจากสามเพลงแรกผ่านไป เดชชนะเชิญผู้หญิงคนหนึ่งออกมา พร้อมกับการประกาศร้องเพลง“จะกี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน”เอกนรีแต่งตัวด้วยชุดที่เอ๋จัดหาให้...เป็นการขึ้นร้องเพลงครั้งแรกของเธอเสียงประกาศบอกว่าเธอคือผู้จัดการวงคูนแคนเธอคือยูทูปเปอร์ คือเจ้าของคลิปดังๆ หลายคลิป...บนแอพลิแคชั่นที่มาแรงต่างๆแฟนเพลงข้างล่างส่งเสียงกรี๊ดๆ เสียงเอกนรีไพเราะเพราะถูกเทรนมาไม่น้อย ที่พอจะร้องเพลงได้ จึงง่ายที่จะไม่ต้องคร่อมทำนองไม่ผิดคีย์...จบเพลงด้วยคำบอกว่า “โอป้าเดช ให้เพลงนี้กับฉันวันที่โลกของฉันถล่มลงมา วันที่ฉันถูกเท ผู้หญิงที่หลงว่าตัวเองพร้อมถูกเทกะทันหัน ต้องเยียวยาตัวเอง วันที่อ่อนแอและเขาก็บอกว่าไงนะคะ”เธอหันมาถามเขา“กี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน จะขอดูแล”เสียงยิ่งดังกว่าเดิม“กาแฟมันขม ใส่ผมแทนนม”เสียงแฟนเพลงกรี๊ดกี่ครั้งแล้ว...ไม่ได้เป็นเสียงไล่แห่ แต่เป็นเสียงชื่นชมกับโมเม้นท์นี้การยอมรับเอกนรีเดชชนะคุกเข่าลงบนเวที...ทีมงานวิ่งมาส่งดอกกุหลาบสีชมพูให้กับเขา1 ช่อใหญ่...เขาขอเอกนรีแต่งงาน“แจ่งง
“เขาเคยรักฉันมากนะ” เอื้อยฟ้าอวด “ก็ที่พังเป็นสิบๆ ปีไม่ใช่เพราะรักฉันหรือ”“จะหลงตัวเองไปถึงไหน เขาหมดแล้ว อ้อ...ตอนนี้เขามีคนรักใหม่แล้วนะ”“ใคร”ก่อนจะถึงกับหน้าถอดสี“กิตติมา เพื่อนของเอกนรี จิตแพทย์ พี่ดำรงบอกทุกคนที่บ้านว่าหลังจากเดชกับเอกนรีแต่งงานกัน เขาจะแต่งกับกิตติมา”“แต่งงาน?”“ใช่”“เขาคิดอะไร เด็กนั่นคราวลูก”“รักไง....เขารักเด็กคนนั้น...เขาดูมีชีวิตชีวาอีกหนนะ เอื้อยฟ้า นั่นคือความจริง ถอยไปจากชีวิตเขาให้ไกลเหมือนยี่สิบกว่าปีที่เธอมาจากบ้านเขา...จากชีวิตเขา จะหวนไปทำไม ผัวหรือลูกหรือ เธอไม่เคยอยากได้ เพราะเธออยากทำรายได้ จะไปเอาคนที่เธอทิ้งมาทำไม”“พูดมาก เอาลูกชายเธอคืนไป”เอ๋ อัจฉรายักไหล่ แล้วตอบหน้าตาเฉยว่า“สุดแต่เขานะ จะอยู่ตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น นั่นก็พ่อเขาแท้ๆเธอปั้นเขาสิ...ปั้นเลย ต้าร์มีดีกรีนักร้อวงมากกว่าเดชอีกนะ ทำให้ได้สิ วัดฝีมือเธอกับผัวด้วย”และความจริงต้าร์ไม่ได้ยินดีที่มีพ่อตัวจริงเขาตกใจ...เขาอยากเป็นลูกเอื้อยฟ้ากับดำรง วิลลี่อาจจะดูแลเขาดี และไปขอเมญ่าให้เขา...แต่ตัวเมญ่าเองเป็นฝ่ายหนี หล่อนบอกกับพ่อว่าขอไปอยู่เมืองจีนชั่วคราวด้วยข้ออ้างว่า.
“ผมขอพูดบ้างนะ ย่า” เดชชนะเอ่ย มองดูทุกคนกล่าวคำขอบคุณออกมา “ผมรู้ทุกคน รักและห่วงผม และผมขอบอกว่าผมรู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ตรงไหนและจะไปตรงไหนต่อ เรื่องของเอื้อยฟ้า หรือสามีเค้า...เป็นเรื่องอื่น เรื่องของคนนอก...ตอนนี้ผมห่วงแต่ต้าร์ว่าจะลงเอยแบบไหน”“เขาจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน ล่าสุดลุงบอกว่าจะไปขอเมญ่าให้เขาค่ะ”“อ่ะนะ ขอนังเด็กคนนั้น” นายดุ่ยรำพึง “จะได้ไหม”“น่าจะได้นะ...บางทีมีเมียอาจจะดีขึ้น และดีอีกข้อ นางจะได้ไม่ยุ่งกับโอป้าของคูนแคนด้วยค่ะ นางยังพยายามอยู่ตลอดนะคะ ตอดนิดตอดหน่อย ไมได้ก็ยังคุยโว...ทำเรื่องเอง”“หึง?” นายดุ่ยแกล้งถามหญิงสาวหัวเราะ “มาก...”อัจฉราเพิ่งขอเข้ามาสมทบ...“ฉันเพิ่งโทร.ไปคุยกับเอื้อยเฟ้า”“ยังไงบ้าง” ดำรงถาม “เอื้อยฟ้าพูดอะไร”“เค้าอยากได้เดชไปทำเพลง...”เดชชนะยิ้มมุมปาก “ขอในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้...”“เค้าอยากเจอเดชนะ”“เจอผม” แล้วชายหนุ่มก็ส่ายหน้า “ทำไมล่ะ เจอเค้าสักครั้งไหม”“ผมเจอมาแล้ว” เขายังจำภาพที่หล่อนชูเงินใบละพันห้าใบหน้าเวทีได้ “เริ่มต้นเจอกันครั้งแรก เค้าก็จะเอาเงินฟาดหัวผม...ห้าพัน...กับทั้งชีวิตที่ผ่านมา...ผมไม่ขอเจอครับ เ
ต้าร์รู้ตัวขึ้นมาอีกทีชีวิตก็ยิ่งบัดซบมากไปกว่าเดิม...ต้องใช้คำนี้ เขาไม่ได้สนใจจะทำตัวให้ดีขึ้นเอื้อยฟ้าวางมือมีแต่วิลลี่ที่หันมาประคบประหงมดูแล...พาไปพบหมอ...ทั้งหมอทางอายุกรรม หมอทางจิตเวช...แต่ต้าร์ก็ยังไม่ได้ดีขึ้น เพลงก็ไม่ได้ทำ และเอกนรีก็บอกกับคนเป็นลุงก่อนกลับไปบุรีรัมย์อีกครั้งว่า“ลุงต้องทบทวนหน่อยแล้วค่ะว่าจะเลี้ยงลูกชายลุงแบบไหน ให้เป็นคนเต็มคน มิใช่หมาขี้เมา เสพยา..บ้าผู้หญิง”เพราะมาอยู่กรุงเทพ ไม่มีเมญ่า ต้าร์ก็ซื้อบริการมากินถึงในบ้าน...“ติดโรคร้ายอีก จะยิ่งเสียใจนะลุง...ที่จริงหนูว่าหาเมียให้เป็นตัวเป็นตนก็ดีกับเขานะ”“เมีย?? ฮ้า...ใคร” วิลลี่ทวนอย่างฉงน“เมญ่า...ผู้หญิงงคนนั้นชื่อเมญ่า เป็นลูกสาวเสี่ยระดับเจ้าพ่อของเมือง มีโรงแรม ไปขอให้เขาสิ ลุง...เพราะตอนนี้ยัยนั่นกำลังไปแย่งยื้อเดช หนูไม่อยากเปิดศึก...อีกอย่างนางก็มีผัวแล้ว มายุ่งกับเดชชนะทำไม...จริงไหม ป้า” หันไปถามเอื้อยฟ้าเสียอีก “บอกสามีป้าไปขอลูกสะใภ้ซะ...บางทีมีเมียเป็นตัวเป็นคนอาจจะดีขึ้น แต่ค่าสินสอดคงแพงหน่อยนะ พ่อเขาดังและรวยจริงเมื่อความจริงปรากฏ ความผิดหวังของเขาก็มีเต็มที่ แต่เขาก็ยังอยากช่วยล
“เรื่องลูกของเรา...ลูกเธอกับดำรง ลูกฉันกับเอ๋”เอื้อยฟ้าไหวตัวอย่างแรง เรื่องนี้ชวนปวดหัวมาพอสมควร “ความจริง...ฉันพบเจอมันแล้ว เอื้อยฟ้า...” เสียงถอนใจหนักๆ ตามมา“ก็ดี...เราจะได้ไปถูกทาง”“ฉันจะทำเพลงต่อให้ต้าร์”“แต่เขาทำไม่ได้”“แล้วไง“ฉันจะไปเอาตัวเดชมา...”“มันคงมาหรอก” เขากระแทกเสียงใส่ “มันอยากได้เธอเป็นแม่ มันแล่นมาแต่แรกแล้ว ขอบอกหน่อยนะ เผื่อจะได้หูตาสว่าง...มันไม่เอาเธอ”เจ็บแปลบ“เพราะเธอทิ้งมันมา”“แล้วใครทำให้ฉันต้องทิ้งมา “ หล่อนเกรี้ยวกราดใส่ “เพราะใคร...ฉันเลือกคุณจนทิ้งลูก...” หล่อนเจ็บช้ำ “เห็นแก่ความรัก แล้วไง...กี่ปี...ที่ฉันทิ้งมา...วันนี้ ก็นะ...ฉันก็อยากเอาเขามาปั่น สายเลือดมีนะ...”ประตูเปิดเข้ามา ตามเคยกับการไร้มารยาทของเอกนรี หญิงสาวคนสวยก้าวเข้ามาทันได้ยินคำพูดของเอื้อยฟ้า หล่อนรีบยกมือห้าม“ขอนะ เอกนรี...อย่าเสือกกับเรื่องนี้” คำแรงตามเคยเสือกเอกนรีหัวเราะเบาๆ“เรื่องของแม่ลูก เธอไม่เกี่ยว”หญิงสาวนั่งลง “ทำไมจะไม่เกี่ยว ฉันกับเขาจะแต่งงานกัน”เอื้อยฟ้าเบิกตากว้าง “อย่าหวัง”“หือ...ว่าไงนะ คุณป้า”“อย่าหวัง ว่าฉันจะยอม”“ไม่ยอม ในฐานะอะไรล่ะ คุ
“ไม่ต้องขอ...ลุย”“เดี๋ยวๆ ไม่ดีเลย ลุยอะไร...ต้องแบบนี้สิ...” เขาก้มหน้าลงมา...มือข้างหนึ่งแตะแผ่นหลัง หญิงสาวแหงนหน้ารับจูบนั้น...ไม่ใช่จูบสะท้านโลก แต่เป็นจูบสะท้านใจได้อย่างมาก“แน่ใจหรือ นรี”วิลลี่เอ่ยถามเมื่อเธอกลับมาบอกกล่าวกับเขาว่าเธอกับ เดชชนะจะแต่งงานกัน“หนูรับชีวิตแบบนั้นได้จริงหรือ”“ทำไมจะไม่ได้คะ”“ลุงไม่อยากจะเชื่อเลย”“เป็นความจริงค่ะ”“แต่ลุงก็โอเคนะ”“ลุงยอมรับเขา...” เอกนรีแสดงท่าประหลาดใจนัก“อยากรู้ไหมว่าทำไม”“ค่ะ”“เพราะลุงคิดว่าเดชชนะน่าเป็นลูกของลุงกับอัจฉรา”เอกนรีหัวเราะขำๆ“ทำไมหนูหัวเราะเยาะ”“น่าจะใช่ค่ะ”“หมายความว่าไง”“น่าจะเป็นนายต้าร์มากกว่านะ”“ทำไม” เขายังกังขา“ตรงๆ นะ เพราะนิสัยหรือสันดานของนายต้าร์เหมือนลุง’แม้อยากโกรธหลานสาว แต่วิลลี่ก็โกรธไม่ลง และยังคิดว่าเพราะเอกนรีจะอ้างเช่นนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสายเลือด หากยอมรับว่าชอบกับเดชชนะ“หนูกลัวเรื่องสายเลือดหรือ ลูกพี่กับลูกน้อง...ใช่ไหม”“เปล่าค่ะ...หนูไม่กลัวเรื่องนั้นหรอก...แม้อาจจะมีข้อห้ามทางวิทยาศาสตร์ แต่เราก็แค่ลูกพี่ลูกน้อง เลือดยังไม่ได้ชิดมากมาย แต่เพราะเขาไม่ใช่ค่ะ...ข้อเดีย
เดชชนะกลายเป็นนักร้องสุดฮิทสุดฮอทเพราะความสามารถผสมหน้าตาอันหล่อเหลา อีกทั้งเพลงของเขาก็โดนใจคนทุกวัย และเขาเป็นเหมือนหนุ่มน่าเห็นใจ FC สาวๆ จึงมีเข้ามาหาเขามากมาย สิ่งนี้บาดตาและลงไปบาดใจต้าร์มากมาย เป็นรอยแผลและแฝงด้วยแรงอาฆาตมาดร้าย เขามองเห็นทางจะทำลายชื่อเสียงของเดชชนะ โดยอาศัยการร่วมมือจากใครบางคนเมญานี“เป็น FC เดชหน่อยสิ”หล่อนมองหน้าเขา ประคองไว้ในสองมือ“ไม่หวงเหรอ”“อย่าล่าแต้มไหมล่ะ”“ก็น่าสนใจ”เพราะหล่อนชอบสะสมแต้มอยู่แล้ว และอยากลอง เดชชนะดูบ้าง แต่การเข้าถึงเขายากมาก“จะหาทางไหนดีนะ นอกจากตัวเขาจะเข้าถึงยาก ยังมีตรงนั้นอีก”“นังเอกนรีหรือ” ต้าร์ถาม“หมั่นไส้มัน”“กลัวมันทำไม” ต้าร์ยุส่ง“มันดูแล...”“เราจะช่วย”“โจมตีตรงนั้นก่อน”จึงมีข่าวร้ายออกมามากมายเหลือเกินในช่วงสามวันนี้...โจมตีถึงเอกนรี ถึงความสัมพันธ์ที่ซ่อนเร้น...และการเข้ามาทำงานให้กับวงคูนแคน เพราะจะมาคว้าตัวโอป้าไปเอง พวกFC เริ่มฮือฮาแกมหวงแหน...แต่เมญานีเจาะไม่ถึงตัวเดชชนะ มยุรีป้องกันเต็มที่ และตัวเดชชนะก็ไม่เคยเปิดช่องให้หล่อนเลย เมญานีเลยรามือถอยไปเอง หล่อนบอกตัวเองอย่างผยองว่าผู้หญิงอย่าง