เพราะมยุรียอมเสียมารยาทคว้าเครื่องจากมือเขากดปุ่มเปิดเสียงจึงได้ยินชัด“แม่คุณ...ถอย หลังจากไปแย่งเขามาแล้วนี่นะ...ลาออกจากงานให้ผัวเลี้ยงหรือไงจ๊ะ”“พี่ยุ...”“โทร.มาบอกเดชทำไม...เธอก็เคยรู้ว่าเขารักเธอ ชอบเธอ”“ยุ...” เดชชนะพยายามจะห้าม แต่มยุรีถือโทรศัพท์ไว้เอง “แย่งแฟนเพื่อนฉัน แล้วยังทำร้ายเดชอีก ไปไป๊ ไม่ต้องโทร.มาอวดอะไรอีกนะ”“หวันไม่ได้อวด แต่หวันกำลังเครียด”“แล้วไง...จะให้เดชปลอบเธอหรือ ยัยบ้า ไป...ไป”มยุรีกดปุ่มปิด ยัดเยียดเครื่องคืนให้กับเดชชนะ“ไม่ต้องปลอบนะ นี่เค้าหักอกนายนะ เดช”“หักอก?” ก่อนจะส่ายหัว “ยุ...เราไม่ได้รักหวัน...เราอาจจะเคยพอใจ แต่มันไม่ใช่ความรัก ดาหวันเด็ก คิดแบบเด็กโลกยังสวย”แต่มยุรีมีคำจำกัดความชัดเจนกว่านั้น“ดาหวันอาจจะดูไร้เดียงสาสำหรับนายนะ เดช แต่สำหรับเรามองออกว่ายัยนั่นแรดเงียบ”เดชชนะพูดไม่ออก“ถ้าไม่แรด คงไม่เอาผู้ชายของคนอื่นทั้งที่รู้ว่าเขามีคนรัก”“ยุ แรงไปไหม หวันก็คนคุ้นเคยของพวกเรา”มยุรีส่ายหน้าไปมา “จะว่าฉันเข้าบ้างเพื่อนใช่ไหม”“ก็เป็นไปได้นะ”“เดช มองอย่างที่เป็นจริง นายรักยัยหวัน”เขาทำท่าจะปฏิเสธ แต่มยุรียกมือห้าม“นายรัก และม
แต่เสียงที่ได้ยินกลับเป็นเดชชนะ“ยุไปหน้าเวที...” เขาบอก“หน้าเวที...”“เรากำลังแสดงที่งานวัด...”“ว้าว...งานวัด...แล้วทำไมไม่ออกไปหน้าเวทีด้วย”“มีน้กร้องตัวจริงแล้ว”“ต้าร์ แทมโป้?”“ใช่ ผมเป็นคนข้างหลัง” เขานิ่งไปสักครู่ก่อนจะเอ่ยว่า “ผมเห็นที่ไลฟ์สด”“ฉันออกแถลงการณ์”“ยังกะเรื่องการเมืองจริงจัง เรียกซะ”“ฉันพูดจริงตามนั้น”“ก็ไหนว่าเจอคนรัก...คนรักกัน...ทำไม...” แล้วเขาก็เปลี่ยนเรื่อง “ขอโทษนะครับ...ผมเสียใจด้วย”เอกนรีไม่ได้เอ่ยอะไร”“ผมว่าเดี๋ยวจะออกไปหน้าเวที หากอยากดูการแสดงสด เพราะผมมีเพลงจะให้คุณ”“เพลงให้ฉัน?”“ใช่ครับ เพลงของพ่อ...สำหรับความรักที่มันเศร้าหมอง”“ฉันไม่ได้เศร้านะ เอ...หรือเศร้า ไลฟ์สด...ของคุณหรือ”“ผมจะสลับกับต้าร์ขึ้นร้องเพลงอยู่แล้ว ยุเข้ามาแล้ว...”เธอจึงได้ยินเสียงมยุรี “นรี เป็นไงบ้าง”“สบายดี อยู่กับหมอมา...”“เขาล่ะ...”“ตะกี้เขามานะ แต่เชิญกลับไปแล้ว...”“เธอยกเขาให้ได้จริงหรือ นรี”“ยุ...ถ้าเธอรู้จักฉัน เธอไม่ควรจะถามแบบนี้นะ”“เพราะรู้ไง...ถึงรู้ว่านั่นไม่น่าจะใช่เธอ”“แล้วฉันจะทำอะไรได้ดีกว่าที่ทำไปแล้ว” เอกนรีเอ่ยถาม “ให้ผ่านคืนนี้ไปก่อน
“คนดีที่ผู้ชายไม่รัก” เอกนรีย้ำกับเพื่อนสาว เมื่อเพื่อนบอกว่าเธอเป็นคนดี คำพูดปลอบใจ คนที่ตกในห้วงทุกข์ เอกนรีเข้าใจ...เธอมองหน้าเพื่อนแล้วเอ่ยจริงจัง “ไม่ต้องบอกว่าฉันดีหรือไม่ดี เลวหรือไม่เลว...เอาความจริง...ฉันถูกผู้ชายปฏิเสธด้วยการ์ดหมั้น...งานหมั้นแล้วคงจะตามมาด้วยงานแต่งทุกอย่างเป็นแผนของเขาอยู่แล้ว ไม่ได้แค่เพิ่งเริ่มวันนี้ พวกเขามีกันและกันมานานแล้ว”กิตติมาถอนใจ “รู้มากเกิ๊น”“แล้วไง”คำถามแปร่งๆ สะท้านอยู่บ้างเหมือนกัน“รู้มาก รู้ทีหลัง ไม่เคยระแคะระคาย พวกเขาเอากันมาเท่าไหร่”“เอา?”“อ้าว...ไม่ใช่คำนี้จะให้ใช้คำไหน หลับนอนด้วยกัน มีเพศสัมพันธ์กัน ก็เอากันแหละ ง่ายๆ กระชับ ได้ใจความดี”“เพราะเธอไม่ยอมเอากับเขา” กิตติมาเอ่ยตรงๆ อีกนั่นแหละ “เธอมันเป็นไดโนเสาร์สำหรับเรื่องแบบนี้ เราเคยคุยกันจำได้ไหม ปี2022 เราผ่านอะไรกันมาถึงการมองเรื่องความสัมพันธ์แบบนั้น มันเป็นปกติวิสัยของความเป็นมนุษย์”“ฉันรู้” เสียงเอกนรีทอดต่ำ “ก็เกือบจะเอามาหลายหน”“แต่ไม่ได้เอา”“เพราะฉันบ้า...โลกสวย...สีชมพู อยากให้เป็นเรื่องที่ผ่านพิธีการ ให้พร้อมจริง เอาจริงไหม” เอกนรีเปลี่ยนเรื่อง
“เราบอกกับเพื่อนเธอว่าเราจะร้องเพลงให้เค้า”“ทำทำไม” หล่อนกอดอกมองหน้าเขา“ปลอบใจ...”“อุ๊ย....ปลอบใจ”มยุรีชี้หน้าเขาหัวเราะ “คิดอะไรกับเพื่อนฉัน”“เปล่านะ นอกจากจะเห็นใจ”“แน่ใจนะ”“ตอนนี้แค่เห็นใจ เจอแบบนั้น...สติไม่แตกแล้วเหรอ”“นายก็เห็น...เพื่อนฉันยังสวย...ยังแสนดีเป็นนางฟ้า”“ทั้งที่ข้างในแตกสลาย เป็นแม่มด เป็นแม่พระเพลิงน่ะหรือ”“ก็ยังดีกว่าทำร้ายตัวเอง...หรือไปทำร้ายพี่อาทรกับยัยดาหวันไม่ใช่หรือ”“เราว่าเพื่อนเธอกำลังเบิร์นเอ้าท์ และอาการจะแย่ลงหากไม่มีการดูแล เยียวยา”“ซึมเศร้า”เขาพยักหน้ารับ “และจะลงเอยด้วยการทำร้ายตัวเอง วูบเดียว”มยุรีทำท่ากริ่งเกรงขึ้นมาบ้างทันที“แต่หมอมาเพื่อนฉันอยู่ด้วย หมอมาเป็นจิตแพทย์”“จิตแพทย์เด็กไม่ใช่หรือ”“ก็ยังมีวิชาติดตัว ปลอบทัน...อยู่กันทั้งคืน...”“เราบอกเค้าแล้วว่าเราจะร้องเพลงให้เค้าฟัง”“ร้องเพลงอะไร”“เพลงที่พ่อเพิ่งแต่งปลอบใยคนอกหัก รักคุด...เราบอกเค้าไปว่าเราจะร้องเพลงสดๆ หน้าเวที ยุไปช่วยจัดการไลฟ์สดให้เราด้วยนะ”มยุรีมองหน้าญาติหนุ่มก่อนจะหัวเราะออกมา“หัวเราะอะไร”“คิดอะไรกันแน่กับเพื่อนฉัน”“เฮ้ย...อย่าคิดไกล แค่เพื่อนใหม่.
“ลูกครึ่งเกาหลีหรือ”“แต่ยุบอกว่าไม่ใช่ เขาไม่ใช่ เป็นอีกคน” เอกนรีตอบเน้นๆ “อีกคน...สำคัญ...ความลับเอาไว้ปิดปากยัยนางฟ้านรกได้เลย”“อะไร ยังไง” กิตติมายังไม่เข้าใจ“อีกคนชื่อต้าร์ แทมโป้ หรือตฤณ คูนแคน เขาเป็นลูกชายยัยป้าฉันไง...ลูกชายที่ยัยป้าทิ้ง”กิตติมาทำตาโต“มีเรื่องแบบนี้ด้วย”“ทั้งเน่า ทั้งคาว...เอาไว้กระแทกหน้ายัยนางฟ้านรก”“เออแน่ะ ยังมีแก่ใจไปฟาดฟันกับเค้าอีกนะ”“ไม่ว่าจะยังไง สถานการณ์แบบไหน ฉันพร้อมรบกับยัยป้านั่นเสมอ แยกได้เป็นคนละเรื่อง...ดูก่อน เขาจะปลอบฉันยังไง เพลงไหน...”เบื้องหน้าในจอคือหนุ่มรูปงาม เสียงกรี๊ดของสาวๆ บอกว่ามีแฟนคลับของตัวเองแน่นอน“สวัสดีอีกครั้ง สาวๆ...ทุกคน...คืนนี้อากาศเย็น...ไหนๆ ขอเสียงคนอกหัก รักคุด โดนเท มากองกันตรงหน้านี้หน่อยคร้าบ”เอกนรีเม้มปากเล็กน้อย...จี๊ดที่ใจอกหัก รักคุด...โดนเทเธอด้วยแน่นอนเสียงกรี๊ด เสียงเรียกเขา เสียงกรี๊ดๆ วี้ดๆ“โอ...นับไม่ถ้วนเลยครับ มา...ให้พี่เดช...ดามหัวใจ...เขาไม่รัก...เราตายไหมครับ”เสียงถาม ลอยหน้าลอยตา......ไม่ตายค่า......ไม่ตาย...เสียงตอบลั่นๆเธอรู้เขากำลัง “คุย” กับเธอโดยตรงมิใช่กับแฟนคลั
“ทำไมนายเลือกเค้า อยากปลอบใจเค้า...คิดอะไรอยู่”“สองเหตุผลนะ บอกตรงๆ ไม่ปิดเธอแล้วกัน” เดชชนะเอ่ยอย่างหนักแน่น “เหตุผลแรกเพราะเรื่องดาหวันด้วย...ถือว่าเราทำเพื่อลดบาปของดาหวันให้น้อยลง ไม่ได้ไปทำร้ายเอกนรีมากมาย...”“แหม...ยังรักไม่สร่าง ไม่พ้นจากมนต์หรือไร” คำถามติดจะประชด“ยุ...เราบอกเธอกี่หน เมื่อไรจะเชื่อ เราไม่ได้คิดกับ ดาหวันแบบชู้สาว รักแบบน้อง” คำท้ายหนักแน่น “แค่น้องจริงๆ ไม่มากไปกว่านั้น...ไม่เด็ดขาด”“เอาข้อสองมาสิ”“เอื้อยฟ้า...ทำร้ายพ่อเรา”มยุรีนิ่งไป“เธอรู้พ่อเราเป็นอย่างไรเพราะผู้หญิงคนนั้น...ทำร้ายพ่อ...”“นายเจ็บแทนพ่อ ทั้งที่นายไม่ใช่ลูกแท้ๆ”มยุรีรำพึง หล่อนรู้มากกว่าตฤณ...“นายต้าร์ลูกแท้ๆ จะคิดแบบนายไหม”“ยุ เพราะต้าร์ไม่รู้ และให้รู้ไม่ได้ว่าแม่แท้จริงของเขาเป็นใคร แค่นี้ต้าร์ก็เป็นตัวป่วนในครอบครัวมากพอแล้ว หากรู้จะยิ่งไปกันใหญ่...เอาละ...เราอยากช่วยเพื่อนเธอนะ...บางทีการพาตัวเองออกมาจากตรงนั้นสักพักจะดีสุด...ไม่มีความอดทนเพียงพอกับการต้องจมปลักกับสภาพแวดล้อมที่ทำร้ายเรา”มยุรีรับปากว่าจะรีบจัดการในเร็ววัน เดชชนะวางเรื่องนี้ไว้ชั่วคราว และคืนนี้เขาต้องไป
เดชชนะหัวเราะหึๆ “อย่า...อย่าทำตัวเป็นนักเลง...เป็นผู้หญิง...กระทืบ...กิริยาไม่งาม เราจะพาต้าร์กลับบ้าน”“มันพูดได้ไงว่านายโกงมัน...มันบอกกับเมญ่า อีนั่นก็นะ...พูดหมาไม่แดก”“โอย....” เดชชนะร้องคราง “ญาติเรา คุณยุ...พูดจาแรงมาก..เราจะไปบอกให้แม่เธอเอาสบู่ฟอกปากเธอ”.มยุรีหัวเราะเสียงกร้าว“เดช....ทำคูนแคนด้วยกัน...ทำให้ไอ้หมาต้าร์มันดูว่าอยากดัง...เป็นคนมีชื่อเสียงเขาทำตัวกันแบบไหน”เดชชนะยักไหล่นิดหนึ่ง “เราแค่ตัวแทน...เราไม่อยากได้อะไรเลย...”“แต่นายคือตัวจริง...”//////////////////////////////////////////////เอื้อยฟ้าหัวเราะกิ๊กๆ ร่าเริง เรื่องดีๆ ของชีวิตการพังพินาศของเอกนรีเมื่อรู้เรื่องจากวิลลี่ หล่อนแสดงออกเต็มที่....เขามองหน้าหล่อน ฉุนกึก...“หัวเราะเยาะหลานผมหรือ...” เขกระด้างใส่ทุกครั้งที่หล่อน “แตะต้อง” เอกนรีแต่หล่อนก็สวนไปเช่นกัน“ทำไมล่ะ...สมน้ำหน้า” หล่อนบอกตามจริง ไม่สนใจสีหน้าแววตาของเขา “โดนแบบนี้ ดูสิจะยังผยองได้อีกไหม”“ผมจะต้องดูแลนรีมากกว่านี้”“ยังไงล่ะ ไปอ้อนวอนผู้ชายกลับมา...แหม...แม่คุณเพิ่งจะประกาศตัวเป็นนางฟ้า เสียสละผู้ชาย...ตอแหลออนแอร์เลยล่ะ
“ฉันไม่รู้ว่านายเข้าใจอะไรผิดนะ ต้าร์”นั่นคือคำพูดที่ได้ยินเมื่อลืมตาบนเตียงตัวเองที่บ้าน...ต้าร์มองหาเจ้าของเสียง...ก่อนจะได้เห็นเดชชนะที่ยืนกอดอกอยู่ตรงปลายเตียง...เขายันตัวขึ้น...“ปวดหัวว่ะ” เสียงบอก “นายมาพูดอะไรอีก ฟังไม่รู้เรื่องแต่เช้า”“เที่ยงแล้ว” อีกเสียงแทรกห้วนๆ ต้าร์เบือนหน้าไปมองคนพูด...เอ่ยอุทาน...“พ่อ”นานๆ ทีจะได้เห็นหน้าดำรง...ต่างคนต่างอยู่และอีกคน...“ปู่...”เขาเริ่มเอะใจ ไม่ชอบมาพากล“แม่ไปไหน” อย่างน้อยแม่ก็คอยปกป้องเขาเสมอหากจะมีการตำหนิติเตียน...เขาเห็นสีหน้าเอาจริงของเดชชนะ“ฉันไม่ให้เข้ามาแอง” เดชชนะตอบ “ปู่กับพ่ออยากคุยกับนายด้วยว่าจะเอายังไงกับการใช้ชีวิต...และบอกตรงๆนะ ต้าร์...ที่ฉันแพลนเอาไว้หากนายยังเป็นแบบนี้...คือการรักษาตัวยาวในบ้านชีวิตใหม่ พวกเขาจะดูแลนาย...จนหายป่วย”“เฮ้...ฉันไม่ได้ป่วย”“นายป่วย...” เสียงย้ำหนักแน่น “เมื่อคืนนายร้องได้แค่สองเพลง...และนายก็หลบไปหลังเวที อยู่กับเมญ่า...”อัจฉราโผล่หน้ามาลับๆ ล่อๆ เสียงเดชชนะหันไปสำทับ“แม่เอ๋...อย่าเพิ่งเข้ามา...เราสามคนแค่ขอคุยกับต้าร์ แต่เราไม่ได้ทำร้ายเขา...ทั้งที่ผมอยากจะบีบคอเขา
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ปรายตามอง...เอนตัวมาหาอีกนิด...“อย่า...อย่า” ชายหนุ่มร้องห้าม “นิสัยผมไม่ได้ดีนา... คุณนรี”“ไม่ดียังไงน้อ”“คุณนี่...เป็นดาวยั่วมาจากไหน”“ยั่วสวาทไม่เป็น แต่ยั่วโทสะ นี่ถนัด...”“ใครบอกว่าไม่ยั่วสวาท” เขากอด “ยั่วมาก รู้ไหม...ผมกลัวจริงๆนะ...”“ถ้างั้น ถอยห่างไปนิด...” เธองึมงำ...แต่คนที่ปากบอกว่าถอยห่างไปนิด คือคนที่กระแซะมาติดตัวเขา และสวมกอดเขาตอบ “อยากให้กลัวมากๆ...”“แล้วไงล่ะ ทำท่าเหมือนไม่กลัว”“แหม...ตัวสั่นแล้วนะเนี่ย” เอกนรีเอ่ย ลูกไฟจากกองไฟเล็กๆ แตกได้ยินเสียงเบาๆ กับเสียงแมลงกลางคืนจากต้นไม้ที่อยู่ในระดับต่ำจากเนินที่ปลูกบ้านนี้ “สั่นรอ...”“เดี๋ยวก็เจอดีตรงนี้...บนดิน...บนหญ้า ใต้ฟ้า ใต้จันทร์เสียหรอก”“ไม่เคยเจอ ถือเป็นประสบการณ์”เอกนรีตอบชัดนัก และก่อนจะโดนดี เธอก็กอดเขาไว้แน่น“ปีใหม่...จัดงานแต่ง...ไม่ต้องใหญ่มากนัก ก็ได้...”“ตอนไปขอคุณจากลุง...จะได้ไหมน้อ”“ไม่เป็นไร...ไม่ได้ก็จะแต่ง...ลุงคนเดียวตัดทิ้งได้”“น่ารักเสมอ คนดีของผม”“คุณก็หวานเสมอ จริงๆ นะ เกิดมาเพิ่งเคยเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงยอมข้ามขั้น เต็มอกเต็มใจ อยากพลีกาย...หลังจากพ
ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป“รอหลังเพื่อนหนูแต่งก่อนดีกว่าค่ะ...นะคะ...ปีหน้าแล้วกัน”“อาต้องรอข้ามปีเชียวหรือ” “เป็นพ่อม่ายข้ามปี หมักได้ที่นะคะ”ดำรงหัวเราะหึๆ “อ่ะ อีกปี...ข้ามปี...รอได้...”“ให้หนูเข้าใจเรื่องราวพวกนี้ก่อนค่ะ คุณอา...”“เข้าใจอะไร”“สมัยสาวๆ พวกเราเชื่อภาษิตโบราณ...ว่าเราจะไม่ร้องเพลงในครัว เพราะจะได้ผัวแก่”ดำรงทำตาโต“หนูไม่เคยร้องเพลงในครัวเลยนะคะ ไม่ว่าครัวไทย ครัวฝรั่งหรือที่ไหนที่ทำอาหาร...หนูกลัวมีผัวแก่ แล้วนี่อะไรกันคะ...ฮือๆ...” เหมือนกิตติมาครางเล็กน้อยอีกด้วย “หนูจะมีผัวแก่...หนูสับสนค่ะ แม้หนูจะฝ่ากมือหนูไว้กับคุณอา แต่ความจริงคือหนูจะมีผัวแก่”“อย่างเดียวเลย หนูมา” เสียงดำรงอ่อนโยนนัก “ถามใจตัวเองว่ารักอาไหม...จะแก่จะหนุ่มมิใช่ปัญหา ขอเพียงมีใจ”นั่นสินะ...กิตติมาบอกตัวเอง...ขอแค่มีใจ ขอแค่รัก... ในที่สุดหล่อนก็พยักหน้ารับ ความจริง ความรัก สองอย่างเดินไปด้วยกัน หล่อนฮัมเพลงเบาๆ“ถึงแก่แล้วจะรักใครจะทำไม”“ไม่ทำไมหรอกจ้ะ หนูมา แต่ขอหอมแก้มหนูสักฟอดแล้วกันนะ”อัจฉราขอถอนตัวออกไปจากบ้าน จากการดูแลวงและทุกคน เพราะดำรงจะแต่งงานแน่ๆ ในปีหน้า หล่อนพ
เอกนรียอมจะแต่งงานกับเดชชนะ พร้อมกับเขาประกาศถอนตัวจากวงการเพลง สุดท้ายอำลาเวที คืนนี้หลังจากสามเพลงแรกผ่านไป เดชชนะเชิญผู้หญิงคนหนึ่งออกมา พร้อมกับการประกาศร้องเพลง“จะกี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน”เอกนรีแต่งตัวด้วยชุดที่เอ๋จัดหาให้...เป็นการขึ้นร้องเพลงครั้งแรกของเธอเสียงประกาศบอกว่าเธอคือผู้จัดการวงคูนแคนเธอคือยูทูปเปอร์ คือเจ้าของคลิปดังๆ หลายคลิป...บนแอพลิแคชั่นที่มาแรงต่างๆแฟนเพลงข้างล่างส่งเสียงกรี๊ดๆ เสียงเอกนรีไพเราะเพราะถูกเทรนมาไม่น้อย ที่พอจะร้องเพลงได้ จึงง่ายที่จะไม่ต้องคร่อมทำนองไม่ผิดคีย์...จบเพลงด้วยคำบอกว่า “โอป้าเดช ให้เพลงนี้กับฉันวันที่โลกของฉันถล่มลงมา วันที่ฉันถูกเท ผู้หญิงที่หลงว่าตัวเองพร้อมถูกเทกะทันหัน ต้องเยียวยาตัวเอง วันที่อ่อนแอและเขาก็บอกว่าไงนะคะ”เธอหันมาถามเขา“กี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน จะขอดูแล”เสียงยิ่งดังกว่าเดิม“กาแฟมันขม ใส่ผมแทนนม”เสียงแฟนเพลงกรี๊ดกี่ครั้งแล้ว...ไม่ได้เป็นเสียงไล่แห่ แต่เป็นเสียงชื่นชมกับโมเม้นท์นี้การยอมรับเอกนรีเดชชนะคุกเข่าลงบนเวที...ทีมงานวิ่งมาส่งดอกกุหลาบสีชมพูให้กับเขา1 ช่อใหญ่...เขาขอเอกนรีแต่งงาน“แจ่งง
“เขาเคยรักฉันมากนะ” เอื้อยฟ้าอวด “ก็ที่พังเป็นสิบๆ ปีไม่ใช่เพราะรักฉันหรือ”“จะหลงตัวเองไปถึงไหน เขาหมดแล้ว อ้อ...ตอนนี้เขามีคนรักใหม่แล้วนะ”“ใคร”ก่อนจะถึงกับหน้าถอดสี“กิตติมา เพื่อนของเอกนรี จิตแพทย์ พี่ดำรงบอกทุกคนที่บ้านว่าหลังจากเดชกับเอกนรีแต่งงานกัน เขาจะแต่งกับกิตติมา”“แต่งงาน?”“ใช่”“เขาคิดอะไร เด็กนั่นคราวลูก”“รักไง....เขารักเด็กคนนั้น...เขาดูมีชีวิตชีวาอีกหนนะ เอื้อยฟ้า นั่นคือความจริง ถอยไปจากชีวิตเขาให้ไกลเหมือนยี่สิบกว่าปีที่เธอมาจากบ้านเขา...จากชีวิตเขา จะหวนไปทำไม ผัวหรือลูกหรือ เธอไม่เคยอยากได้ เพราะเธออยากทำรายได้ จะไปเอาคนที่เธอทิ้งมาทำไม”“พูดมาก เอาลูกชายเธอคืนไป”เอ๋ อัจฉรายักไหล่ แล้วตอบหน้าตาเฉยว่า“สุดแต่เขานะ จะอยู่ตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น นั่นก็พ่อเขาแท้ๆเธอปั้นเขาสิ...ปั้นเลย ต้าร์มีดีกรีนักร้อวงมากกว่าเดชอีกนะ ทำให้ได้สิ วัดฝีมือเธอกับผัวด้วย”และความจริงต้าร์ไม่ได้ยินดีที่มีพ่อตัวจริงเขาตกใจ...เขาอยากเป็นลูกเอื้อยฟ้ากับดำรง วิลลี่อาจจะดูแลเขาดี และไปขอเมญ่าให้เขา...แต่ตัวเมญ่าเองเป็นฝ่ายหนี หล่อนบอกกับพ่อว่าขอไปอยู่เมืองจีนชั่วคราวด้วยข้ออ้างว่า.
“ผมขอพูดบ้างนะ ย่า” เดชชนะเอ่ย มองดูทุกคนกล่าวคำขอบคุณออกมา “ผมรู้ทุกคน รักและห่วงผม และผมขอบอกว่าผมรู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ตรงไหนและจะไปตรงไหนต่อ เรื่องของเอื้อยฟ้า หรือสามีเค้า...เป็นเรื่องอื่น เรื่องของคนนอก...ตอนนี้ผมห่วงแต่ต้าร์ว่าจะลงเอยแบบไหน”“เขาจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน ล่าสุดลุงบอกว่าจะไปขอเมญ่าให้เขาค่ะ”“อ่ะนะ ขอนังเด็กคนนั้น” นายดุ่ยรำพึง “จะได้ไหม”“น่าจะได้นะ...บางทีมีเมียอาจจะดีขึ้น และดีอีกข้อ นางจะได้ไม่ยุ่งกับโอป้าของคูนแคนด้วยค่ะ นางยังพยายามอยู่ตลอดนะคะ ตอดนิดตอดหน่อย ไมได้ก็ยังคุยโว...ทำเรื่องเอง”“หึง?” นายดุ่ยแกล้งถามหญิงสาวหัวเราะ “มาก...”อัจฉราเพิ่งขอเข้ามาสมทบ...“ฉันเพิ่งโทร.ไปคุยกับเอื้อยเฟ้า”“ยังไงบ้าง” ดำรงถาม “เอื้อยฟ้าพูดอะไร”“เค้าอยากได้เดชไปทำเพลง...”เดชชนะยิ้มมุมปาก “ขอในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้...”“เค้าอยากเจอเดชนะ”“เจอผม” แล้วชายหนุ่มก็ส่ายหน้า “ทำไมล่ะ เจอเค้าสักครั้งไหม”“ผมเจอมาแล้ว” เขายังจำภาพที่หล่อนชูเงินใบละพันห้าใบหน้าเวทีได้ “เริ่มต้นเจอกันครั้งแรก เค้าก็จะเอาเงินฟาดหัวผม...ห้าพัน...กับทั้งชีวิตที่ผ่านมา...ผมไม่ขอเจอครับ เ
ต้าร์รู้ตัวขึ้นมาอีกทีชีวิตก็ยิ่งบัดซบมากไปกว่าเดิม...ต้องใช้คำนี้ เขาไม่ได้สนใจจะทำตัวให้ดีขึ้นเอื้อยฟ้าวางมือมีแต่วิลลี่ที่หันมาประคบประหงมดูแล...พาไปพบหมอ...ทั้งหมอทางอายุกรรม หมอทางจิตเวช...แต่ต้าร์ก็ยังไม่ได้ดีขึ้น เพลงก็ไม่ได้ทำ และเอกนรีก็บอกกับคนเป็นลุงก่อนกลับไปบุรีรัมย์อีกครั้งว่า“ลุงต้องทบทวนหน่อยแล้วค่ะว่าจะเลี้ยงลูกชายลุงแบบไหน ให้เป็นคนเต็มคน มิใช่หมาขี้เมา เสพยา..บ้าผู้หญิง”เพราะมาอยู่กรุงเทพ ไม่มีเมญ่า ต้าร์ก็ซื้อบริการมากินถึงในบ้าน...“ติดโรคร้ายอีก จะยิ่งเสียใจนะลุง...ที่จริงหนูว่าหาเมียให้เป็นตัวเป็นตนก็ดีกับเขานะ”“เมีย?? ฮ้า...ใคร” วิลลี่ทวนอย่างฉงน“เมญ่า...ผู้หญิงงคนนั้นชื่อเมญ่า เป็นลูกสาวเสี่ยระดับเจ้าพ่อของเมือง มีโรงแรม ไปขอให้เขาสิ ลุง...เพราะตอนนี้ยัยนั่นกำลังไปแย่งยื้อเดช หนูไม่อยากเปิดศึก...อีกอย่างนางก็มีผัวแล้ว มายุ่งกับเดชชนะทำไม...จริงไหม ป้า” หันไปถามเอื้อยฟ้าเสียอีก “บอกสามีป้าไปขอลูกสะใภ้ซะ...บางทีมีเมียเป็นตัวเป็นคนอาจจะดีขึ้น แต่ค่าสินสอดคงแพงหน่อยนะ พ่อเขาดังและรวยจริงเมื่อความจริงปรากฏ ความผิดหวังของเขาก็มีเต็มที่ แต่เขาก็ยังอยากช่วยล
“เรื่องลูกของเรา...ลูกเธอกับดำรง ลูกฉันกับเอ๋”เอื้อยฟ้าไหวตัวอย่างแรง เรื่องนี้ชวนปวดหัวมาพอสมควร “ความจริง...ฉันพบเจอมันแล้ว เอื้อยฟ้า...” เสียงถอนใจหนักๆ ตามมา“ก็ดี...เราจะได้ไปถูกทาง”“ฉันจะทำเพลงต่อให้ต้าร์”“แต่เขาทำไม่ได้”“แล้วไง“ฉันจะไปเอาตัวเดชมา...”“มันคงมาหรอก” เขากระแทกเสียงใส่ “มันอยากได้เธอเป็นแม่ มันแล่นมาแต่แรกแล้ว ขอบอกหน่อยนะ เผื่อจะได้หูตาสว่าง...มันไม่เอาเธอ”เจ็บแปลบ“เพราะเธอทิ้งมันมา”“แล้วใครทำให้ฉันต้องทิ้งมา “ หล่อนเกรี้ยวกราดใส่ “เพราะใคร...ฉันเลือกคุณจนทิ้งลูก...” หล่อนเจ็บช้ำ “เห็นแก่ความรัก แล้วไง...กี่ปี...ที่ฉันทิ้งมา...วันนี้ ก็นะ...ฉันก็อยากเอาเขามาปั่น สายเลือดมีนะ...”ประตูเปิดเข้ามา ตามเคยกับการไร้มารยาทของเอกนรี หญิงสาวคนสวยก้าวเข้ามาทันได้ยินคำพูดของเอื้อยฟ้า หล่อนรีบยกมือห้าม“ขอนะ เอกนรี...อย่าเสือกกับเรื่องนี้” คำแรงตามเคยเสือกเอกนรีหัวเราะเบาๆ“เรื่องของแม่ลูก เธอไม่เกี่ยว”หญิงสาวนั่งลง “ทำไมจะไม่เกี่ยว ฉันกับเขาจะแต่งงานกัน”เอื้อยฟ้าเบิกตากว้าง “อย่าหวัง”“หือ...ว่าไงนะ คุณป้า”“อย่าหวัง ว่าฉันจะยอม”“ไม่ยอม ในฐานะอะไรล่ะ คุ
“ไม่ต้องขอ...ลุย”“เดี๋ยวๆ ไม่ดีเลย ลุยอะไร...ต้องแบบนี้สิ...” เขาก้มหน้าลงมา...มือข้างหนึ่งแตะแผ่นหลัง หญิงสาวแหงนหน้ารับจูบนั้น...ไม่ใช่จูบสะท้านโลก แต่เป็นจูบสะท้านใจได้อย่างมาก“แน่ใจหรือ นรี”วิลลี่เอ่ยถามเมื่อเธอกลับมาบอกกล่าวกับเขาว่าเธอกับ เดชชนะจะแต่งงานกัน“หนูรับชีวิตแบบนั้นได้จริงหรือ”“ทำไมจะไม่ได้คะ”“ลุงไม่อยากจะเชื่อเลย”“เป็นความจริงค่ะ”“แต่ลุงก็โอเคนะ”“ลุงยอมรับเขา...” เอกนรีแสดงท่าประหลาดใจนัก“อยากรู้ไหมว่าทำไม”“ค่ะ”“เพราะลุงคิดว่าเดชชนะน่าเป็นลูกของลุงกับอัจฉรา”เอกนรีหัวเราะขำๆ“ทำไมหนูหัวเราะเยาะ”“น่าจะใช่ค่ะ”“หมายความว่าไง”“น่าจะเป็นนายต้าร์มากกว่านะ”“ทำไม” เขายังกังขา“ตรงๆ นะ เพราะนิสัยหรือสันดานของนายต้าร์เหมือนลุง’แม้อยากโกรธหลานสาว แต่วิลลี่ก็โกรธไม่ลง และยังคิดว่าเพราะเอกนรีจะอ้างเช่นนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสายเลือด หากยอมรับว่าชอบกับเดชชนะ“หนูกลัวเรื่องสายเลือดหรือ ลูกพี่กับลูกน้อง...ใช่ไหม”“เปล่าค่ะ...หนูไม่กลัวเรื่องนั้นหรอก...แม้อาจจะมีข้อห้ามทางวิทยาศาสตร์ แต่เราก็แค่ลูกพี่ลูกน้อง เลือดยังไม่ได้ชิดมากมาย แต่เพราะเขาไม่ใช่ค่ะ...ข้อเดีย
เดชชนะกลายเป็นนักร้องสุดฮิทสุดฮอทเพราะความสามารถผสมหน้าตาอันหล่อเหลา อีกทั้งเพลงของเขาก็โดนใจคนทุกวัย และเขาเป็นเหมือนหนุ่มน่าเห็นใจ FC สาวๆ จึงมีเข้ามาหาเขามากมาย สิ่งนี้บาดตาและลงไปบาดใจต้าร์มากมาย เป็นรอยแผลและแฝงด้วยแรงอาฆาตมาดร้าย เขามองเห็นทางจะทำลายชื่อเสียงของเดชชนะ โดยอาศัยการร่วมมือจากใครบางคนเมญานี“เป็น FC เดชหน่อยสิ”หล่อนมองหน้าเขา ประคองไว้ในสองมือ“ไม่หวงเหรอ”“อย่าล่าแต้มไหมล่ะ”“ก็น่าสนใจ”เพราะหล่อนชอบสะสมแต้มอยู่แล้ว และอยากลอง เดชชนะดูบ้าง แต่การเข้าถึงเขายากมาก“จะหาทางไหนดีนะ นอกจากตัวเขาจะเข้าถึงยาก ยังมีตรงนั้นอีก”“นังเอกนรีหรือ” ต้าร์ถาม“หมั่นไส้มัน”“กลัวมันทำไม” ต้าร์ยุส่ง“มันดูแล...”“เราจะช่วย”“โจมตีตรงนั้นก่อน”จึงมีข่าวร้ายออกมามากมายเหลือเกินในช่วงสามวันนี้...โจมตีถึงเอกนรี ถึงความสัมพันธ์ที่ซ่อนเร้น...และการเข้ามาทำงานให้กับวงคูนแคน เพราะจะมาคว้าตัวโอป้าไปเอง พวกFC เริ่มฮือฮาแกมหวงแหน...แต่เมญานีเจาะไม่ถึงตัวเดชชนะ มยุรีป้องกันเต็มที่ และตัวเดชชนะก็ไม่เคยเปิดช่องให้หล่อนเลย เมญานีเลยรามือถอยไปเอง หล่อนบอกตัวเองอย่างผยองว่าผู้หญิงอย่าง