"ใช่สิ!" เซบาสเตียนยืนยันด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไอโนะเป็นตัวประกันของฉันก็จริง แต่ฉันจะให้เจ้าตัวเล็กเนี้ยเดินตามต้อย ๆ ทั้งวันก็ใช่เรื่อง เธอไม่เห็นเหรอว่าทุกวินาทีมันมีค่าสำหรับฉันมากแค่ไหน? เธอจ้างฉันเป็นพี่เลี้ยงเด็กไม่ได้!”“…” ซาบริน่าถึงกับพูดไม่ออกในทันที“ฉันก็เลยอยากส่งไอโนะไปเรียนอนุบาล ค่าเล่าเรียนของไอโนะจะบวกเพิ่มในหนี้ที่เธอติดฉันไว้ วันที่เธอจ่ายเงินคืนให้ฉันเท่ากับที่เธอติดไว้จะเป็นวันที่เธอและลูกสาวได้เป็นอิสระ” เซบาสเตียนพูดอย่างไร้อารมณ์ในขณะเดียวกัน คิงส์ตันซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเซบาสเตียนพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกลั้นเสียงหัวเราะของตนไว้ เขาเป็นคนเดียวที่รู้ว่านายท่านเซบาสเตียนทุ่มเทแค่ไหนในการตามหาซาบริน่าในช่วงหกปีที่ผ่านมา เซบาสเตียนแทบไม่ได้พักผ่อนเลย เขาเดินทางไปรอบโลกตามสัญญาณเพียงเล็กน้อยในการปรากฏตัวของซาบริน่า เขายกเลิกงานแต่งงานกับเซลีนเพราะเห็นแก่ซาบริน่าและไม่ได้แตะต้องผู้หญิงคนอื่นเลยนับตั้งแต่ซาบริน่าหายตัวไปเซบาสเตียนใช้เวลาทั้งหกปีในการติดตามหาซาบริน่าและในที่สุด ก็ได้เธอมาไว้ข้างกาย เขาไม่ได้ทรมานซาบริน่าจากปัญหาที่เธอสร้างให้เขาอย่างที่ท
ไอโนะเป็นเด็กที่ฉลาดมาก เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือมากนักในการทำความเข้าใจสถานการณ์ที่เธอนั้นเผชิญอยู่ ย้อนกลับไปตอนที่เธอเรียนอยู่ในโรงเรียนอนุบาลแห่งเดิม เธอมักจะก่อเหตุทะเลาะวิวาททุกครั้งที่มีคนพูดเรื่องแย่ ๆ เกี่ยวกับแม่ของเธอและทุบตีจนพวกเขายอมคืนคำพูดของตนเอง แต่ครั้งนี้ต่างออกไป เธอทะเลาะกับเด็กคนหนึ่ง ไม่เพียงแต่ทำให้แม่ของเธอมีปัญหากับครูเท่านั้น เธอยังทำให้แม่ของตนต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากอีกด้วยไอโนะทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดกับคิงส์ตันว่า “ลุงคิงส์ตัน ต่อจากนี้ไปอย่าเรียกหนูว่าเจ้าหญิงอีกเลยนะคะ หนูไม่ชอบเลย เรียกหนูว่าลูกกำพร้าเหมือนคนอื่น ๆ ก็ได้ หนูไม่โกรธค่ะ ถ้าหนูได้ยินมันบ่อย ๆ บางทีหนูอาจจะไม่รู้สึกว่าต้องต่อยใครอีกต่อไปในตอนที่ได้ยินแบบนั้น”คำพูดของเด็กไร้เดียงสาและเป็นความจริงเสมอ เธอไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่ทั้งเซบาสเตียนและคิงส์ตันได้รับความสะเทือนใจอย่างเห็นได้ชัด ซาบริน่ารู้สึกจุกในลำคอขณะที่เธอก้มหน้าลง หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความเจ็บปวดไม่กี่นาทีหลังจากนั้น คิงส์ตันก็ตอบว่า “เจ้าหญิงน้อย ไม่ต้องห่วง เด็กอนุบาลทุกคนจะต้องเรียกหนูว่าเจ้าหญิงน้อยนับ
“ฉันว่าการยอมแพ้ก็ไม่มีอะไรแย่ ฉันเข้าใจคุณผิด อย่างน้อยคุณก็ไม่ใจร้ายกับลูกสาวฉัน ฉันมีความสุขตราบใดที่ลูกสาวได้ไปโรงเรียนและได้รับการศึกษาเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ฉันไม่อยากคิดมากเรื่องนี้อีกแล้ว จากนี้ไปฉันจะทำทุกอย่างที่คุณขอ ชีวิตของฉันอยู่ในมือคุณแล้ว” ซาบริน่าพูดเสียงต่ำ ราวกับเธอยอมแพ้ต่อการดิ้นรนแล้ว ขณะที่เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเซบาสเตียน อันที่จริง เธออยากจะบอกว่าเธอยอมรับชะตากรรมและจะไปอยู่กับทุกคนที่เซบาสเตียนส่งเธอไป เธอจะติดตามเขาไปตลอดทั้งชีวิตถ้านั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ เธอจะไม่ขัดขืนใด ๆ อีกเลย ในตอนนี้ เธอเหน็ดเหนื่อยทั้งทางใจและทางกาย ถ้าเธอไม่มีลู่ทางจะหนีจากชายคนนี้ไปตั้งแต่แรก แล้วจะต้องต่อต้านเขาไปทำไม? เธอจะยอมเป็นผู้หญิงเลวร้ายอย่างที่ทุกคนคิดว่าเธอเป็นและมีความสุขกับทุกช่วงเวลาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในอ้อมแขนของเซบาสเตียนหน้าอกของเขาอบอุ่นและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออันทรงพลัง และซาบริน่าก็อดไม่ได้ที่จะถูไถเขาราวกับว่าเธอกำลังพยายามหาที่ที่ดีที่สุดเพื่อซ่อนตัว เซบาสเตียนรู้สึกว่ามีไฟลุกโชนจากส่วนลึกในตัวเขา ไฟนั้นท่วมท้นจนเกือบทำให้เขามืดบอดในชั่วพริบตา ในขณะนั้น
เธอไม่สนใจ ตราบใดที่ลูกสาวของเธอไปโรงเรียนและทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับซาบริน่า เธอรู้สึกราวกับยกภูเขาลูกหนึ่งออกจากอก เธอทำใจสงบสติอารมณ์กับเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นได้แล้ว หลังจากที่เซบาสเตียนจากไป เธอก็นอนลงบนเตียงอย่างเกียจคร้านในจุดที่ต่างกันออกไป เธอก็ยังนอนไม่หลับ เธอจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำ อ่างอาบน้ำของเซบาสเตียนในห้องน้ำนั้นใหญ่โตอย่างไม่จำเป็นพร้อมกับฟังก์ชันมากมายทำให้ดูหรูหรากว่าอ่างอาบน้ำอื่น ๆ ที่พบเห็นได้ในสปาระดับไฮคลาสซาบริน่านั่งอยู่คนเดียวในอ่างอาบน้ำซึ่งปกติแล้วเซบาสเตียนจะนั่งและปล่อยตัวปล่อยใจไปกับคลื่นของน้ำอุ่นที่ไหลเวียนจากก้นอ่างราวกับน้ำพุร้อน เธอค่อย ๆ หลับตาลงขณะที่เธอจมดิ่งสู่ประสบการณ์อันมหัศจรรย์ โดยไม่รู้ว่าเธอกำลังถูกจับตามองอยู่ในห้องทำงานของเขา เซบาสเตียนสังเกตทุกการเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดที่เขาติดตั้งไว้ในห้องของเขา เขาไม่ได้ตั้งใจจะสอดแนมซาบริน่า เขาเพียงอยากจะมั่นใจว่าเธอทำตามคำสั่งของเขาที่จะพักผ่อน แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุดเข้ากับภาพนั้นเขามองดูขณะที่เธอก้าวออกจากอ่างอาบน้ำพร้อมหยดน้ำทั่วร่างกาย หลังจากนอนเล่นอยู่ราวครึ่งชั่วโมง
สีหน้าของเซบาสเตียนมืดมนลงในทันที เขาขมวดคิ้ว “เธอพูดอะไร?” ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยหยุดที่จะทำให้เขาประหลาดใจด้วยความสามารถในการทำให้เขาโกรธเคืองได้เลยนะ!“ฉันพูดว่า คุณพูลดูเป็นคนสง่างามมีมาตรฐาน ฉันบอกได้เลยว่าเขาน่าจะได้รับการเลี้ยงดูที่มีสถานะคล้ายกับคุณ เขาจะไม่รังเกียจคนอย่างฉันหรอกเหรอ?” ซาบริน่าพูดซ้ำอย่างใจเย็นเซบาสเตียนเอื้อมมือไปคว้าคอของซาบริน่าอย่างกะทันหัน “เธอจะไม่พูดถึงตัวเองแบบนั้นอีกนะ!”ครู่หนึ่ง ซาบริน่าสำลักและหายใจลำบาก เธอพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เธอไม่ควรพูดถึงมัน หลังจากที่เขาปล่อยมือออก เธอไอเหมือนปลาที่ขาดน้ำและพยายามสูดอากาศบริสุทธิ์ ตอนนั้นเองที่มีคนมาเคาะประตู“เข้ามา” เซบาสเตียนพูดหลังจากกระแอมในลำคอพนักงานขายชั้นยอดของร้านก้าวเข้ามา "คุณฟอร์ดคะ นี่เป็นขนาดที่คุณให้กับทางเรา และรูปแบบได้รับการออกแบบตามคำอธิบายของคุณเรียบร้อยค่ะ เอ่อ...ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมคะที่จะลองสวม?" พนักงานขายมองไปที่ซาบริน่าซาบริน่าหน้าแดงเมื่อถูกการกล่าวถึง ตอนที่เซบาสเตียนพามาที่นี่ เธอสัมผัสได้ถึงสายตาที่ทุกคนตัดสินเธอ และเธอมั่นใจว่าพวกเขาคิดว่าเธอเป็นเพียงแค่ภรรยาอีกคนของเขาเ
ความงามของเธอเกินความคาดหมายไปมาก เธอมักจะเย็นชา แทบไร้ความรู้สึกเกือบตลอดเวลาที่เขารู้จักเธอ ครั้งเดียวที่เขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอคือตอนที่เธออยู่กับแม่ของเขา เป็นรอยยิ้มที่จะได้เห็นในสาววัยรุ่น ทั้งอ่อนหวานและไร้เดียงสา เขายังได้เห็นว่าซาบริน่าแสดงท่าทีที่เหินห่างจากทุกคนตลอดเวลาราวกับว่าเธอไม่อยากข้องเกี่ยวกับใคร แต่เขาไม่เคยเห็นเธออยู่ในกิริยาเย่อหยิ่งเช่นนี้ เขาต้องรู้สึกประหลาดใจกับความเย้ายวนจากเรือนร่างของเธอ"ฉันดูเป็นยังไงบ้าง?" ซาบริน่าถามอย่างไม่ใส่ใจ ไม่ว่าชีวิตจะเติบโตขึ้นมายากแค่ไหน เธอไม่เคยนึกภาพตัวเองว่าสักวันหนึ่งจะหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นของเล่นสำหรับผู้ชาย แม้ว่าเธอจะติดอยู่ในเรือนจำเป็นเวลาสองปี เธอก็ไม่เคยยอมแพ้ต่อชีวิตบ้า ๆ นี้ เธอทำงานอย่างหนักและเรียนสถาปัตยกรรมจากความช่วยเหลือของป้าเกรซ และมักใฝ่ฝันที่จะหางานออกแบบตามต้องการ ตอนที่ได้รับการปล่อยตัวเพื่อที่จะได้มีเงินเลี้ยงดูตัวเธอและแม่อันเป็นที่รักจวบจนวันตาย ในความฝันเล็ก ๆ ของเธอ เธอเห็นว่าเธอมีแฟนที่รักเธอและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป แต่สิ่งต่าง ๆ กลับไม่เป็นไปตามที่เธอหวังเลย บางทีชะตากรรมอาจถูกกำห
ซาบริน่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุด เซบาสเตียนก็พอใจ และเธอก็ไม่ต้องลองชุดอื่นอีก การลองเสื้อผ้าโดยเฉพาะที่ต้องทำให้คนดูพึงพอใจนั้นเป็นเรื่องที่น่าวิตก"เหนื่อยเหรอ?" เซบาสเตียนถาม“ฉันสบายดีค่ะ” เธอตอบเซบาสเตียนเหลือบมองไปที่พนักงานขาย "ช่วยจัดการเรื่องชุดทั้งหมดที่ฉันเลือกตั้งแต่แรกถึงชุดนี้ด้วย"“ค่ะ คุณฟอร์ด ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้” พนักงานขายขานรับอย่างร่าเริงจากนั้นเซบาสเตียนก็หรี่ตาลงมองตาซาบริน่าและถามว่า “ชอบชุดนี้ไหม?” เขาเป็นคนเลือกชุดแต่ละชุดให้เธอโดยเฉพาะ บางชุดก็ดูเป็นผู้ใหญ่และบางชุดดูเด็ก มีชุดทุกสไตล์ที่เหมาะกับลักษณะเฉพาะตัวของซาบริน่า“ก็ไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้นนะคะ” ซาบริน่าหลับตาลงอย่างสงบแล้วถามว่า “ฉันใส่ชุดนี้แล้ว ซื้อเยอะขนาดนี้จะไม่เสียเปล่าเหรอคะ?” เธออดไม่ได้ที่จะกังวลว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มเข้าไปในหนี้ที่เธอติดเขา และตัดสินใจเตือนเขา“นี่ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เธอต้องใช้เสื้อผ้าพวกนี้หรอกนะ ในอนาคตยังมีอีกหลายโอกาสที่เธอต้องใช้!” เซบาสเตียนตะคอก“อ๋อ!” ซาบริน่าคิด “ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ต่อจากนี้ไปฉันอาจถูกพาไปหาผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วน บางทีอาจจะหลายคนต่อวันด้วย น
พวกเธอต้องคำนึงถึงความเหมาะสม“อเล็กซ์ วันนี้ที่ฉันมาเนี้ยเพราะนายชวนหรอกนะ จะมีใครรู้บ้างไหมว่าเซบาสเตียนมันจะปรานีคนอย่างฉันบ้างรึเปล่าวะ ฉันหมายถึง นายน่ะรู้ดีกว่าฉันอยู่แล้วว่าหมอนั้นมันไร้ความเป็นมนุษย์มากขนาดไหนไง ฉันรู้สึกว่าฉันจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าได้ผูกมิตรกับหมอนั่นได้ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขารู้สึกเหมือนกันรึเปล่าไง!” ชายผู้พูดมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าและดูเหมือนคนอายุสามสิบ แม้จะมีหน้าตาที่ร้ายกาจ แต่ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ เขาก็เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์น่าดู“เคลวิน!” อเล็กซ์มีน้ำเสียงที่ไม่พอใจ “ฉันจะบอกนายให้นะว่าไอ้เรื่องที่เซบาสเตียนจะปรานีนายหรือไม่นั้นน่ะ นายไม่มีสิทธิ์จะบ่นหรอกนะ แม้แต่ฉันที่โตมากับเจ้าหมอนั่นน่ะก็ยังไม่เคยได้รับความเมตตาจากเขามากนักเลย! เขาเป็นพวกหน้าเนื้อใจเสือก็จริงนะ แต่ก็ไม่เคยแทงข้างหลังใครหรอกนะเว้ย คิดถึงสิ่งที่นายทำในตอนนั้นสิ ถ้านายไม่ได้เล่นเขาไว้หนักเหมือนวันนั้น ป้าเกรซคงไม่ต้องเข้าคุก ไม่ต้องพูดถึงการตายจากอาการป่วยหลังจากนั้นเลย เซบาสเตียนจะมองข้ามเรื่องนี้ไปและผูกมิตรกับนายได้ยังไงวะ?”“ก็ฉันโดนพี่ชายของเจ้าเซยาสเตียนมันบังคับนิหว่า ในตอนนั้น