พวกเธอต้องคำนึงถึงความเหมาะสม“อเล็กซ์ วันนี้ที่ฉันมาเนี้ยเพราะนายชวนหรอกนะ จะมีใครรู้บ้างไหมว่าเซบาสเตียนมันจะปรานีคนอย่างฉันบ้างรึเปล่าวะ ฉันหมายถึง นายน่ะรู้ดีกว่าฉันอยู่แล้วว่าหมอนั้นมันไร้ความเป็นมนุษย์มากขนาดไหนไง ฉันรู้สึกว่าฉันจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าได้ผูกมิตรกับหมอนั่นได้ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขารู้สึกเหมือนกันรึเปล่าไง!” ชายผู้พูดมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าและดูเหมือนคนอายุสามสิบ แม้จะมีหน้าตาที่ร้ายกาจ แต่ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ เขาก็เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์น่าดู“เคลวิน!” อเล็กซ์มีน้ำเสียงที่ไม่พอใจ “ฉันจะบอกนายให้นะว่าไอ้เรื่องที่เซบาสเตียนจะปรานีนายหรือไม่นั้นน่ะ นายไม่มีสิทธิ์จะบ่นหรอกนะ แม้แต่ฉันที่โตมากับเจ้าหมอนั่นน่ะก็ยังไม่เคยได้รับความเมตตาจากเขามากนักเลย! เขาเป็นพวกหน้าเนื้อใจเสือก็จริงนะ แต่ก็ไม่เคยแทงข้างหลังใครหรอกนะเว้ย คิดถึงสิ่งที่นายทำในตอนนั้นสิ ถ้านายไม่ได้เล่นเขาไว้หนักเหมือนวันนั้น ป้าเกรซคงไม่ต้องเข้าคุก ไม่ต้องพูดถึงการตายจากอาการป่วยหลังจากนั้นเลย เซบาสเตียนจะมองข้ามเรื่องนี้ไปและผูกมิตรกับนายได้ยังไงวะ?”“ก็ฉันโดนพี่ชายของเจ้าเซยาสเตียนมันบังคับนิหว่า ในตอนนั้น
การสนทนาอันร้อนแรงปะทุขึ้นระหว่างห้องทันทีที่ได้ยินคำพูดของซาบริน่า มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองเซ้าท์ ซิตี้ว่าเซบาสเตียน ฟอร์ดได้ตามหาผู้หญิงคนหนึ่งจากต่างแดนด้วยตนเองและพาเธอกลับมา ราวกับว่าเขามีความแค้นที่ไม่อาจบรรยายได้ต่อผู้หญิงคนนี้ เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่ซาบริน่าพูดก่อนหน้านี้ ทุกคนในห้องก็สรุปได้ทันทีว่าเธอเป็นต้นเหตุของข่าวลือ เมื่อเซบาสเตียนพาเธอมาที่นี่ เป็นไปได้ไหมที่เขาอยากจะมอบเธอให้เป็นของขวัญแก่เพื่อน ๆ ของเขา?“อยากประกาศนักรึไงว่าเธอเป็นใคร?” เซบาสเตียนกระซิบข้างหูของซาบริน่าด้วยท่าทางเย็นชา"อืม" ซาบริน่าไม่อยากอธิบายเพิ่มเติม อย่างไร สถานการณ์ปัจจุบันที่เธออยู่ มันก็ไม่ใช่จุดที่เธอจะแสดงความคิดเห็นได้ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ทั้งหมดที่เธอรู้คือต้องทำทุกอย่างที่เซบาสเตียนบอกให้ทำเซบาสเตียนจ้องไปที่ผู้หญิงตรงหน้าเขาอย่างหมดคำพูด เขาอยากจะบีบคอเธอนักในบรรดาแขกในห้องนี้ สี่คนในนั้นเป็นพี่น้องของเขาแต่คนละแม่ซึ่งยืนเคียงข้างมาโดยตลอดช่วงขาขึ้นและขาลงของเขา ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขาถูกตระกูลฟอร์ดลอยแพ เขาเป็นคนที่ไม่มีสิทธิ์ในมรดกของตระกูลและถูกห้ามไม่ให้มีส
เมื่อคนสนิทของเขาบุกเข้าไปในฟอร์ด กรุ๊ป ในที่สุดเซบาสเตียนก็สามารถพลิกสถานการณ์ในตระกูลฟอร์ดได้เมื่อหกปีที่แล้ว และกำจัดสมาชิกทุกคนในครอบครัวออกจากอำนาจในชั่วข้ามคืน แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งน่าจะทำให้เกิดความโกลาหลทั่วทั้งเมืองหรือแม้กระทั่งทั่วทั้งประเทศ แต่ฟอร์ด กรุ๊ปยังคงมั่นคงโดยไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย วันแรกที่เซบาสเตียนก้าวเข้ามาเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ของฟอร์ด กรุ๊ป ผู้บริหารระดับสูงทุกคนทักทายเขาทันทีในฐานะ "ผู้อำนวยการฟอร์ด" ราวกับว่าพวกเขารู้จักเซบาสเตียนมาโดยตลอด นั่นเป็นช่วงเวลาที่ฌอน ฟอร์ด นายท่านอาวุโสฟอร์ด และพ่อของเซบาสเตียนได้ตระหนักว่าพวกเขาประเมินเซบาสเตียนต่ำไป เซบาสเตียนอาจถูกส่งตัวไปไกล แต่เขาหาวิธีที่จะเข้าควบคุมฟอร์ด กรุ๊ป ตระกูลฟอร์ดได้ทำตามกฎที่จะไม่ส่งต่อมรดกให้กับลูกนอกกฎหมาย พวกเขาจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใด ๆ หรือได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลฟอร์ด และเซบาสเตียนเป็นคนแรกที่ฝ่าฝืนกฎนั้นเซบาสเตียนเข้ามากำจัดตระกูลฟอร์ดให้หมดไปจากรากที่หยั่งลึก จนเหลือนายท่านอาวุโสและคุณผู้หญิง พ่อและแม่เลี้ยงของเขาเพียงเท่านั้น ในที่สุด เขาก็พูดความคิดของเขา
ขณะที่เซบาสเตียนพยายามควบคุมอารมณ์ อเล็กซ์ก็สุขใจกับความทุกข์ทรมานของเพื่อนตนและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เขารู้จักเซบาสเตียนดีกว่าใคร ๆ สำหรับเขา เซบาสเตียนไม่เพียงแต่หาทางเอาตัวรอดมาได้ แต่ยังโต้กลับทุกการกดขี่จากตระกูลฟอร์ดทุกคนได้ด้วย เซบาสเตียนเป็นคนที่หาได้ยากในแง่ของความสามารถและความมุ่งมั่นเสมอมา ทั้งสี่คนอาจไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกัน แต่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจนสามารถผ่านความทุกข์ยากโดยมีเซบาสเตียนเป็นผู้นำ ตลอดระยะเวลาหกปี ใครจะคิดว่าในที่สุดเซบาสเตียน ฟอร์ดผู้โหดเหี้ยมจะพบหญิงสาวสักคนที่สามารถสะกดเขาให้อยู่อานัติได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ อเล็กซ์บอกได้ว่าคำเหล่านั้นที่ซาบริน่าพูดออกมาแม้ว่าจะไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่กลับส่งผลกระทบกับเซบาสเตียนมากเสียจนเขาหาคำที่จะโต้กลับไม่ได้“งั้น คุณสก๊อตต์ครับ” อเล็กซ์แซว “สำหรับค่าตัวที่เซบาสเตียนพาคุณมาที่นี่ ต้องแพงมากแน่ ๆ เลยสิครับ”"อืม... ขอบคุณที่ถามนะคะ ฉันก็คิดว่างั้นเหมือนกัน" ซาบริน่าตอบ“ฟู่ว...” อีกครั้งที่อเล็กซ์สูญเสียการควบคุมตนเองไปและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“แม่หนูนี่ใครแน่?” เคลวินเหลือบมองอเล็กซ์และถาม“ใครงั้นเหรอ?
การมีเซบาสเตียนนั่งอยู่ด้วยน่าจะเป็นสิ่งดีกว่า เมื่อเซบาสเตียนออกไปรับโทรศัพท์ ซาบริน่ารู้สึกอึดอัดอยู่ในห้องขนาดมหึมานั้นเป็นอย่างมาก ทุกสายตาต่างจับจ้องมายังซาบริน่าอเล็กซ์เผยรอยยิ้มบนใบหน้า ส่วนมาร์ตินดูสงบนิ่ง เคลวินมองไปที่อเล็กซ์ด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็นและต้องการรับรู้ข่าวคราวจากอเล็กซ์เพิ่มเติม เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ เคลวินอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศและแทบไม่ได้ติดต่อกับเซบาสเตียนเท่าไหร่เลย ดังนั้น เขาจึงไม่ทราบสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ถึงกระนั้น เขาก็รู้ว่าคู่หมั้นของเซบาสเตียนมาจากตระกูลลินชื่อเซลีนแล้วผู้หญิงคนนี้ที่เซบาสเตียนพามาด้วยเป็นใครกันแน่เล่า?ในห้องนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ชายหนุ่มที่จ้องมองซาบริน่าเท่านั้น แต่รวมถึงผู้หญิงทุกคนก็มองซาบริน่าเป็นตาเดียวเช่นกัน“ฉันได้ยินมาว่าเธอถูกเซบาสเตียนจับมานิ”“ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นคนที่ทำลายการแต่งงานของเซบาสเตียนเมื่อหลายปีก่อนสินะ”“เราก็ต่างรู้ดีว่าเซบาสเตียนโหดเหี้ยมแค่ไหน! เขาไม่เคยปล่อยให้ใครก็ตามที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจรอดไปได้ง่าย ๆ หรอก”“เธอไม่ได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูดเองเหรอ? เธอติดสอยห้อยตาม
ซาบริน่าไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมอง เพียงแต่ล้างมืออย่างใจเย็นเท่านั้น"เธอ!" น้ำเสียงเย็นชาของแอร์แฝงไปด้วยความไม่ยอมอ่อนข้อใด ๆ เลย “ข้อเท้าฉันแพลง ช่วยถือรองเท้าให้ฉันหน่อยได้ไหม ได้ยินรึเปล่า?!”ซาบริน่าล้างคราบเหงื่อออกจากฝ่ามือแล้วหันกลับไปมองแอร์ ผู้หญิงคนนั้นสวยแต่ก็มีความหยิ่งทะนงในตัวเองเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ซาบริน่าจะดูน่าเบื่อและดูไม่แยแสใคร ๆ น้ำเสียงของเธอดูเฉยเมยมากกว่า "พูดว่าอะไรนะคะ"แอร์สะบัดผมยาวเป็นลอนไปด้านหลัง พร้อมเชิดหน้าอกและเดินมาขวางทางของซาบริน่า “เธอเป็นแค่เด็กนั่งดริงก์ ทำไมเธอไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองเนี้ย? การได้ถือรองเท้าของฉันเป็นเกียรติสำหรับเธอนะ! เธอควรรู้ด้วยนะว่าเธอก็แค่เด็กที่ติดสอยห้อยตามเซบาสเตียนมาก็เท่านั้น! และควรรู้ไว้นะว่าในวันหนึ่งเซบาสเตียนจะทรมานเธอไปจนตาย ถ้าเธอถือรองเท้าให้ฉันตอนนี้ ฉันอาจจะช่วยเธอไว้ในอนาคตก็ได้ เธออยากจะทำตัวอวดดีต่อหน้าฉันจริง ๆ เหรอ?”ซาบริน่าไม่อยากลงเอยด้วยการทะเลาะกับผู้หญิงที่เธอไม่รู้จักคนนี้ เธอบีบจมูกของเธอและพูดอย่างเหยียดหยาม “คุณจะหลีกทางให้ฉันรึเปล่าคะ?”แอร์พูดไม่ออก เด็กนั่งดริงก์แสนน่ารังเ
เขาหนีหายไปเป็นเวลาหกปี เพื่อที่จะตามหาเซย์น พ่อแม่ของเซย์นถูกบังคับให้ขายบริษัทให้กับเเซคในราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ตอนนี้แซคเป็นผู้ที่ความคุมดูแลสมิธ กรุ๊ปครอบครัวของเซย์นกลับถูกเซบาสเตียนไล่ออกนอกประเทศ และไม่ทราบที่อยู่ของพวกเขา เซบาสเตียนสามารถตามหาซาบริน่าและเซย์นได้เพราะแซค แซคเคยช่วยเซบาสเตียนเพราะเขาต้องการให้เซบาสเตียนติดหนี้บุญคุณเขา และเขาต้องการเข้าไปในแวดวงของเซบาสเตียน เขาต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของตนเองในเซ้าท์ ซิตี้แซครู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาในการเข้าไปคลุกคลีกับแวดวงของเซบาสเตียน เพราะภรรยาของแซคเป็นลูกพี่ลูกน้องของอเล็กซ์ พูลแซคจึงโชคดีในการเข้าร่วมการสังสรรค์กับกลุ่มพี่น้องสี่คนด้วยความสัมพันธ์เช่นนั้น แต่แซคกังวลว่าจะไม่มีเรื่องคุยกับพวกเขาจึงได้พาผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ตัวเขามาด้วยเธอเป็นดาราภาพยนตร์ชั้นนำระดับนานาชาติ ความสวยและความสง่างามของแอร์ในทุกท่วงท่านั้นน่าจดจ้อง แม้แต่ทักษะการสื่อสารของเธอก็อยู่ในระดับที่ดีทีเดียว ติดเพียงแค่แอร์เป็นเพื่อนของภรรยาที่ทรงอำนาจมากกว่าเขานัก มิฉะนั้น แซคก็อยากจะได้ดาราหนังคนนี้มาอยู่บนเตียงนอนของเ
เมื่อเธอพูดไปเช่นนั้น ทุกคนก็ตกตะลึงก่อนที่ใครจะทันได้โต้ตอบ ซาบริน่าเดินไปหาแซคและถามว่า “คุณคะ… คุณเป็นญาติกับพี่ชายฉันใช่ไหมคะ? คุณรู้ไหมคะว่าตอนนี้พี่ชายอยู่ที่ไหน? เขาอยู่ที่ไหน เขาสบายดีรึเปล่าคะ?”แซคถอยกลับด้วยความประหลาดใจ ในห้องนั้นคนที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างซาบริน่ากับเซบาสเตียนมากที่สุดก็คือแซค เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับเซบาสเตียนมากขึ้น แซคแกล้งทำเป็นเป็นมิตรสนิทกับลุงและป้าของเขา แซคแอบฟังการสนทนาระหว่างพวกเขากับเซย์นและรู้ว่าที่ซ่อนของเซย์นอยู่ที่ไหน และได้ช่วยเซบาสเตียนค้นหาเซย์นและซาบริน่าแซคได้ยินจากลุงและป้าของเขาว่าเซบาสเตียนเกลียดซาบริน่ามากแค่ไหนในขณะนั้น เมื่อซาบริน่าพุ่งเข้าหาเขา แซคก็ตะโกนออกมาด้วยความรังเกียจทันทีว่า “เธอทำอะไรน่ะ นางผู้หญิงไร้หัวใจ! เธอทำร้ายลูกพี่ลูกน้องของฉัน เธอกำลังพยายามจะทำร้ายฉันอีกคนด้วยเหรอไง?! ฉันมีเมียแล้วเว้ย! เมียกับฉันยังรักกันดีอยู่ และฉันจะไม่ทำให้ตัวเองต้องมาแปดเปื้อนกับผู้หญิงอย่างเธอด้วย!”ซาบริน่าตกตะลึง “ลูกพี่ลูกน้องของคุณเหรอคะ? พี่ชายเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณใช่ไหมคะ? รู้ไหมคะว่าเขาอยู่ที่ไหน?”แซคตอบอย่างเย็นชาไปว่า “ข