หนึ่งฤทัยรู้ดีว่าตอนนี้สภาพครอบครัวเป็นอย่างไร มารดาล้มป่วยด้วยโรคหัวใจเมื่อปีก่อนทำให้ไม่สามารถทำงานหนักได้เหมือนเมื่อเก่า และยังต้องพักรักษาตัวให้อาการดีขึ้นหลายเดือน นอกจากนี้ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใก้ชิดอีกด้วย
โชคดีที่ฝีมือการตัดเสื้อของแก้วใจไม่เป็นรองใครและค่อนข้างมีชื่อด้วยซ้ำ ทำให้เหล่าลูกค้าที่รู้ว่าแก้วใจสามารถกลับมาทำงานได้แล้ว ต่างก็ค่อยทยอยกันเอางานมาให้เรื่อยๆ แต่เพราะปัญหาสุขภาพทำให้บางครั้งทำได้ไม่ทันตามกำหนด ลูกค้าบางคนจึงหันไปตัดร้านอื่นหรือไม่ก็ซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปใส่
“ตอนนี้ก็ยังว่างล่ะซิ”
“ค่ะ แต่ถ้าเรียนจริงๆ ก็คงปีหน้า”
หนึ่งฤทัยยังมีเวลาอีกหลายเดือนที่จะเตรียมตัวสำหรับการเรียนต่อถ้าสอบได้จริงๆ แต่ถ้าค่าใช้จ่ายมันเยอะมากเกินกำลังก็คิดว่าอาจจะสละสิทธิ์ให้กับคนที่พร้อมมากกว่าเธอ
“สนใจอยากทำงานไหม ตอนนี้เธอน่าจะรู้ว่าที่บ้านติดค่าเช่ากี่เดือน และกว่าจะหางานได้มันอีกนานแค่ไหน ถ้าตกลงทำงานกับฉันเราก็จะมาคุยเรื่องค่าเช่าและค่าจ้างกัน” จู่ๆ คุณนายอนงค์ก็เอ่ยชวนให้มาทำงานโดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
สองคนแม่ลูกหันหน้ามามองกันด้วยความแปลกใจ งานอะไรที่คุณนายอนงค์หยิบยื่นมาให้ในเวลาแบบนี้ ไม่ใช่ว่าหนึ่งฤทัยไม่คิดหางานแต่สมัครไปกี่ที่ก็ยังไม่มีใครเรียก ถ้างานนี้น่าสนใจมีรายได้มากพอให้ดูแลมารดาและค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ต่อให้เหนื่อยหรือลำบากแค่ไหนหญิงสาวก็ไม่หวั่น
“งานอะไรคะ” แก้วใจถามขึ้นมาก่อน
“หลานสาวฉันกำลังต้องการครูไปสอนเพื่อสอบเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ลูกสาวเธอสอนได้ไหม” คุณนายหันมามองหน้าหนึ่งฤทัยแทน
“ถ้าสอนติวให้ไปสอบคิดว่าทำได้ค่ะ”
หนึ่งฤทัยเองก็เคยเป็นครูสอนพิเศษมาก่อนสมัยเรียนปีสามปีสี่ ดังนั้นเรื่องติวนักเรียนเข้าสอบจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหญิงสาวอยู่แล้ว
“แต่หลานฉันคนนี้ไม่เหมือนคนอื่น เพราะอีกหกเดือนข้างหน้ายัยฟ้าใสจะเข้ารับการผ่าตัดที่ขาเพื่อให้กลับมาเดินได้ ถ้ารับงานนี้ก็ต้องไปทำที่ไร่อิ่มรัก สนใจไหมล่ะ”
สองแม่ลูกมองหน้ากันอีกครั้ง ไร่อิ่มรักอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้และหลานคุณนายอนงค์กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ว่าที่ลูกศิษย์เธอเป็นอย่างไรกันแน่
“ไร่อิ่มรักอยู่ที่เพชรบูรณ์เธอต้องไปสอนให้ฟ้าใสพร้อมสำหรับการสอบเข้าเรียนต่อ เพราะหลังจากผ่าตัดยัยฟ้าใสจะได้เรียนหนังสือต่อเสียที” คุณนายขยายความต่อ
“ไม่ทราบว่าหลานคุณนายอายุเท่าไรคะ” หนึ่งฤทัยอยากรู้
“ปีนี้ยี่สิบเต็ม ถ้าไม่เกิดเรื่องร้ายนั่นตอนนี้ยัยฟ้าใสก็คงจะใกล้เรียนจบแล้ว” น้ำเสียงคุณนายอนงค์เศร้าลงมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหลานสาวคนนี้
สถานีขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์
หนึ่งฤทัยหิ้วกระเป๋าเดินทางลงจากรถทัวร์มายืนรอตามที่นัดหมาย หลังจากที่ได้คุยกับคุณนายอนงค์และปรึกษากับมารดาแล้ว หญิงสาวตัดสินใจที่จะมาทำงานที่ไร่อิ่มรักในฐานะคุณครูของคุณหนูฟ้าใส
‘แค่หกเดือนพอยัยฟ้าใสผ่าตัดเธอก็กลับมาได้ เงินเดือนฉันจะจัดการเอาเข้าบัญชีให้ทุกเดือน เธอก็จัดสรรค่าใช้จ่ายเองแต่ที่แน่ๆ คงไม่ต้องค้างค่าเช่าเหมือนเมื่อก่อนแน่’
เงินเดือนที่คุณนายอนงค์เสนอมานั้นสูงมากกว่าการหางานทำที่กรุงเทพฯเสียอีก หนึ่งฤทัยคิดว่าอย่างน้อยหกเดือนนี้ตนเองสามารถช่วยหารายได้เข้าบ้าน ที่สำคัญทันทีที่หญิงสาวตกลงว่าพร้อมเริ่มงานทันที คุณนายที่แสนรักหลานก็ใจดีไม่คิดค่าเช่าที่ค้างอยู่หกเดือนนั้นไปเฉยๆ หนำซ้ำยังใจดีออกเงินค่าตั๋วเดินทางให้เธอมาถึงเพชรบูรณ์ทันค่ำนี้ด้วย
“คุณครูหนึ่งฤทัยหรือเปล่าครับ” ชายท่าทางทะมัดทะแมงที่แนะนำตัวว่าชื่อนายสอนมาจากไร่อิ่มรักถามอย่างนอบน้อม
“จ้ะ นายสอนใช่ไหม” หนึ่งฤทัยยิ้มให้คนที่เพิ่งรู้จักอย่างเป็นมิตร
“ครับ เชิญคุณครูทางนี้เลย”
นายสอนเดินนำหญิงสาวมาที่รถกระบะซึ่งจอดรอไว้อีกด้าน จากนี้ไปหนึ่งฤทัยก็จะได้เจอหน้าลูกศิษย์คนใหม่ที่รออยู่ที่ไร่อิ่มรัก คุณนายอนงค์บอกเรื่องราวของคุณหนูฟ้าใสให้เธอรู้คร่าวๆ บ้างแล้ว คงไม่ยากถ้าคุณหนูตั้งใจจะเรียนหนังสือเพื่ออนาคตของตนเอง
คุณนายอนงค์เล่าว่าไร่อิ่มรักตั้งอยู่บนเขาค้อ น้องสาวและน้องเขยมาซื้อที่ปลูกพืชผลเมืองหนาวที่นี่เมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้ลูกชายที่ชื่อดนัยมาบริหารไร่จนขยายออกมามากกว่าเดิมและทำการตลาดไปได้ไกลกว่าที่คิด
โชคร้ายที่น้องสาวและน้องเขยมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปพร้อมๆ กันระหว่างเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ ที่สำคัญลูกสาวคนเล็กที่เดินทางมาด้วยแม้รอดชีวิตแต่ก็พิการเดินไม่ได้ ดนัยรักน้องมากพยายามจะหาทางทุกอย่างที่จะรักษาขาของคุณหนูฟ้าใสให้กลับมาเดินได้
จนกระทั่งดนัยแจ้งข่าวดีนี้ให้คุณอนงค์ทราบว่าน้องสาวยอมเข้ารับการผ่าตัดเพื่อกลับมาเดินได้อีกครั้ง นับเป็นข่าวดีที่สุดนับจากที่ทุกคนต้องจมอยู่กับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เมื่อสองปีที่ผ่านมา
“คุณครูไม่ต้องกลัวนะครับ ทางขึ้นเขาชันนิดหน่อยแต่ว่าผมขับได้แน่” นายสอนหันมาบอก หลังจากที่ชำเลืองมองคุณครูคนใหม่ทำท่ากลัวเส้นทางเข้าไร่ที่ค่อนข้างคดเคี้ยวและชันพอสมควร
แม้ทำใจมาแล้วว่าไร่อยู่บนเขาการเดินทางคงไม่สะดวกเหมือนพื้นราบ แต่พอเอาเข้าจริงหนึ่งฤทัยก็ทำท่าจะไม่ไหวเอา เธอเมารถมาแต่ไหนแต่ไรโดยเฉพาะเส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยวไปมาแบบนี้พาลจะทำให้ของเก่าออกมาง่ายๆ
“อีกนิดก็ถึงแล้วครับ คุณครู” สอนหันมามองหน้าซีดเผือดของคุณครูคนสวย“ฉันไม่เป็นไร นายสอนตามสบายไม่ต้องห่วงฉัน” หนึ่งฤทัยไม่อยากให้ใครเป็นภาระกับตนเองนายสอนเดาว่าคุณครูมาใหม่คงไม่ชินกับการนั่งรถแบบนี้ เขาจึงค่อยๆ ชะลอความเร็วลงเพื่อให้หนึ่งฤทัยได้ปรับสภาพ สักพักความยิ่งใหญ่ของไร่อิ่มรักก็ปรากฎให้เห็น“ถึงแล้วครับ”หนึ่งฤทัยรีบลงจากรถมายืนตั้งหลักก่อน หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ นี่ขนาดยามเย็นความงดงามและบรรยากาศรอบๆ ไร่ยังสดชื่นขนาดนี้ ทำให้อาการเมารถที่ทำท่าจะเล่นงานเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง ตอนนี้คนมาใหม่กำลังตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้ามากกว่า“คุณดนัยไม่อยู่เข้าไปในเมือง คุณฟ้าใสอยู่บนบ้าน เชิญคุณครูก่อนครับ” เสียงสอนเตือนให้หนึ่งฤทัยกลับมาทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากกรุงเทพฯทันทีหญิงสาวหน้าตาแฉล้มนางหนึ่งยืนมองอยู่ตรงบันไดทางขึ้นบ้าน สอนช่วยถือกระเป๋าเดินทางของหนึ่งฤทัยพร้อมทั้งนำเธอเดินขึ้นไปพักผ่อน“ถอยซิ บัวตอง ไม่เห็นหรือไงว่าคุณครูจะเดิน” สอนทำเสียงตำหนิหญิงสาวนามว่าบัวตองที่ยืนจ้องหน้าคนมาใหม่ด้วยความสนใจ“รู้แล้ว ก็เดินไปซิบันไดออกกว้าง” บัวตองกระแทกเสียงใส่พลางสะบัดหน
ดนัยบอกว่าจะมีครูมาสอนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเรียนต่อหลังจากที่การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี แม้ที่ผ่านมาจะมีครูแวะเวียนมาสอนวิชาที่คนอื่นเรียนกันในโรงเรียนบ้าง แต่ฟ้าใสก็ไม่รู้สึกสนใจเท่าที่ควรเพราะการเรียนการสอนจากครูเหล่านั้นไม่มีอะไรน่าสนใจ หนำซ้ำบางเรื่องหญิงสาวยังรู้ดีกว่าสิ่งที่ครูสอนเสียด้วยแม้ไม่ได้แต่งตัวไปโรงเรียนเหมือนเด็กอื่น แต่วิชาความรู้ที่ได้รับมาจากหน้าจอสี่เหลี่ยมที่เรียกว่าคอมพิวเตอร์ให้ฟ้าใสมากกว่าความรู้ที่เด็กในโรงเรียนได้รับ หรือบางครั้งหนังสือที่เธอสนใจหามาอ่านก็เป็นแหล่งความรู้ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ครูจะได้จัดเวลาการสอนให้เหมาะสมกับกิจกรรมของคุณฟ้าใสไงคะ” คุณครูสาวประเมินด้วยสายตาแล้วก็พอจะรู้ว่านักเรียนคนใหม่จะต้องเพิ่มเติมอะไรบ้างวิชาความรู้ที่ควรเรียนเพื่อใช้ในการสอบแข่งขันไม่น่าห่วง เพราะเท่าที่ดูฟ้าใสเรียนรู้ทุกอย่างได้ทันในเวลาหกเดือนแน่ สิ่งที่หนึ่งฤทัยคิดมากไปกว่านั้นก็คือตำราอาจทำให้คนสอบได้ แต่ตำราไม่อาจทำให้ทุกคนสามารถมีที่ยืนอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัยเสมอไปฟ้าใสก็เช่นกัน วิชาความรู้ในตำราเจ้าหล่อนคงหาได้จากคอมพิวเตอร์ตรงหน้า หรือไ
ตึกแถวสามชั้นริมถนนบางลำพูแหล่งช๊อปปิ้งตั้งแต่รุ่นคุณแม่ยังสาววันนี้ยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของ ร้านตัดเสื้อแก้วใจ ร้านหัวมุมสุดท้ายของตึกที่เปิดให้บริการกับลูกค้ามากหน้าหลายตามาเป็นเวลาเกือบสามสิบปี“ฉันไม่รู้หรอกว่าแม่แก้วจะได้ค่าตัดเสื้อเมื่อไรแต่วันนี้วันที่หนึ่ง และก็เป็นวันที่หนึ่งของทุกเดือนที่แม่แก้วต้องจ่ายค่าเช่าร้านมาหกเดือนแล้วด้วย”คุณนายอนงค์ ชาติสุขเศรษฐีนีวัยกลางคนที่ครองสถานะสาวโสดมาจนเกือบห้าสิบปี นางเป็นเจ้าของที่ดินย่านบางลำพูเกือบทั้งหมดรวมถึงตึกแถวของร้านแก้วใจนี้ด้วย“วันนี้ไม่มีค่าเช่าให้คุณนายจริงๆ ค่ะ อีกสามวันทางสมาคมที่ดิฉันไปรับตัดสูทให้เขาถึงจะจ่ายเช็คมาให้ คุณนายรออีกหน่อยได้ไหมคะ นึกว่าช่วยคนจนเถอะนะคะ” แก้วใจ เจ้าของร้านอ้อนวอน“ได้เช็คแล้วต้องรออีกกี่วันถึงจะได้เงิน คราวก่อนที่ขอร้องฉันก็ให้แล้ว กว่าจะได้เงินก็เกือบชนเดือนเลยนะ”คุณนายอนงค์ยังจำได้ดีว่าครั้งก่อนที่แก้วใจติดค่าเช่าร้าน นางก็ได้สิทธิ์ถือเช็คที่รอเงินจากลูกค้าโอนเข้ามาจ่ายค่าตัดเสื้อเป็นค่าเช่าแทน แต่กว่าจะได้เงินก้อนนั้นมาก็ต้องรอเกือบครบเดือน ครั้งนี้นางจะไม่รออีกแน่“ตึกน
ดนัยบอกว่าจะมีครูมาสอนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเรียนต่อหลังจากที่การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี แม้ที่ผ่านมาจะมีครูแวะเวียนมาสอนวิชาที่คนอื่นเรียนกันในโรงเรียนบ้าง แต่ฟ้าใสก็ไม่รู้สึกสนใจเท่าที่ควรเพราะการเรียนการสอนจากครูเหล่านั้นไม่มีอะไรน่าสนใจ หนำซ้ำบางเรื่องหญิงสาวยังรู้ดีกว่าสิ่งที่ครูสอนเสียด้วยแม้ไม่ได้แต่งตัวไปโรงเรียนเหมือนเด็กอื่น แต่วิชาความรู้ที่ได้รับมาจากหน้าจอสี่เหลี่ยมที่เรียกว่าคอมพิวเตอร์ให้ฟ้าใสมากกว่าความรู้ที่เด็กในโรงเรียนได้รับ หรือบางครั้งหนังสือที่เธอสนใจหามาอ่านก็เป็นแหล่งความรู้ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ครูจะได้จัดเวลาการสอนให้เหมาะสมกับกิจกรรมของคุณฟ้าใสไงคะ” คุณครูสาวประเมินด้วยสายตาแล้วก็พอจะรู้ว่านักเรียนคนใหม่จะต้องเพิ่มเติมอะไรบ้างวิชาความรู้ที่ควรเรียนเพื่อใช้ในการสอบแข่งขันไม่น่าห่วง เพราะเท่าที่ดูฟ้าใสเรียนรู้ทุกอย่างได้ทันในเวลาหกเดือนแน่ สิ่งที่หนึ่งฤทัยคิดมากไปกว่านั้นก็คือตำราอาจทำให้คนสอบได้ แต่ตำราไม่อาจทำให้ทุกคนสามารถมีที่ยืนอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัยเสมอไปฟ้าใสก็เช่นกัน วิชาความรู้ในตำราเจ้าหล่อนคงหาได้จากคอมพิวเตอร์ตรงหน้า หรือไ
“อีกนิดก็ถึงแล้วครับ คุณครู” สอนหันมามองหน้าซีดเผือดของคุณครูคนสวย“ฉันไม่เป็นไร นายสอนตามสบายไม่ต้องห่วงฉัน” หนึ่งฤทัยไม่อยากให้ใครเป็นภาระกับตนเองนายสอนเดาว่าคุณครูมาใหม่คงไม่ชินกับการนั่งรถแบบนี้ เขาจึงค่อยๆ ชะลอความเร็วลงเพื่อให้หนึ่งฤทัยได้ปรับสภาพ สักพักความยิ่งใหญ่ของไร่อิ่มรักก็ปรากฎให้เห็น“ถึงแล้วครับ”หนึ่งฤทัยรีบลงจากรถมายืนตั้งหลักก่อน หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ นี่ขนาดยามเย็นความงดงามและบรรยากาศรอบๆ ไร่ยังสดชื่นขนาดนี้ ทำให้อาการเมารถที่ทำท่าจะเล่นงานเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง ตอนนี้คนมาใหม่กำลังตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้ามากกว่า“คุณดนัยไม่อยู่เข้าไปในเมือง คุณฟ้าใสอยู่บนบ้าน เชิญคุณครูก่อนครับ” เสียงสอนเตือนให้หนึ่งฤทัยกลับมาทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากกรุงเทพฯทันทีหญิงสาวหน้าตาแฉล้มนางหนึ่งยืนมองอยู่ตรงบันไดทางขึ้นบ้าน สอนช่วยถือกระเป๋าเดินทางของหนึ่งฤทัยพร้อมทั้งนำเธอเดินขึ้นไปพักผ่อน“ถอยซิ บัวตอง ไม่เห็นหรือไงว่าคุณครูจะเดิน” สอนทำเสียงตำหนิหญิงสาวนามว่าบัวตองที่ยืนจ้องหน้าคนมาใหม่ด้วยความสนใจ“รู้แล้ว ก็เดินไปซิบันไดออกกว้าง” บัวตองกระแทกเสียงใส่พลางสะบัดหน
หนึ่งฤทัยรู้ดีว่าตอนนี้สภาพครอบครัวเป็นอย่างไร มารดาล้มป่วยด้วยโรคหัวใจเมื่อปีก่อนทำให้ไม่สามารถทำงานหนักได้เหมือนเมื่อเก่า และยังต้องพักรักษาตัวให้อาการดีขึ้นหลายเดือน นอกจากนี้ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใก้ชิดอีกด้วยโชคดีที่ฝีมือการตัดเสื้อของแก้วใจไม่เป็นรองใครและค่อนข้างมีชื่อด้วยซ้ำ ทำให้เหล่าลูกค้าที่รู้ว่าแก้วใจสามารถกลับมาทำงานได้แล้ว ต่างก็ค่อยทยอยกันเอางานมาให้เรื่อยๆ แต่เพราะปัญหาสุขภาพทำให้บางครั้งทำได้ไม่ทันตามกำหนด ลูกค้าบางคนจึงหันไปตัดร้านอื่นหรือไม่ก็ซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปใส่“ตอนนี้ก็ยังว่างล่ะซิ”“ค่ะ แต่ถ้าเรียนจริงๆ ก็คงปีหน้า”หนึ่งฤทัยยังมีเวลาอีกหลายเดือนที่จะเตรียมตัวสำหรับการเรียนต่อถ้าสอบได้จริงๆ แต่ถ้าค่าใช้จ่ายมันเยอะมากเกินกำลังก็คิดว่าอาจจะสละสิทธิ์ให้กับคนที่พร้อมมากกว่าเธอ“สนใจอยากทำงานไหม ตอนนี้เธอน่าจะรู้ว่าที่บ้านติดค่าเช่ากี่เดือน และกว่าจะหางานได้มันอีกนานแค่ไหน ถ้าตกลงทำงานกับฉันเราก็จะมาคุยเรื่องค่าเช่าและค่าจ้างกัน” จู่ๆ คุณนายอนงค์ก็เอ่ยชวนให้มาทำงานโดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนสองคนแม่ลูกหันหน้ามามองกันด้วยความแปลกใจ งานอะไรที่คุณนายอนงค
ตึกแถวสามชั้นริมถนนบางลำพูแหล่งช๊อปปิ้งตั้งแต่รุ่นคุณแม่ยังสาววันนี้ยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของ ร้านตัดเสื้อแก้วใจ ร้านหัวมุมสุดท้ายของตึกที่เปิดให้บริการกับลูกค้ามากหน้าหลายตามาเป็นเวลาเกือบสามสิบปี“ฉันไม่รู้หรอกว่าแม่แก้วจะได้ค่าตัดเสื้อเมื่อไรแต่วันนี้วันที่หนึ่ง และก็เป็นวันที่หนึ่งของทุกเดือนที่แม่แก้วต้องจ่ายค่าเช่าร้านมาหกเดือนแล้วด้วย”คุณนายอนงค์ ชาติสุขเศรษฐีนีวัยกลางคนที่ครองสถานะสาวโสดมาจนเกือบห้าสิบปี นางเป็นเจ้าของที่ดินย่านบางลำพูเกือบทั้งหมดรวมถึงตึกแถวของร้านแก้วใจนี้ด้วย“วันนี้ไม่มีค่าเช่าให้คุณนายจริงๆ ค่ะ อีกสามวันทางสมาคมที่ดิฉันไปรับตัดสูทให้เขาถึงจะจ่ายเช็คมาให้ คุณนายรออีกหน่อยได้ไหมคะ นึกว่าช่วยคนจนเถอะนะคะ” แก้วใจ เจ้าของร้านอ้อนวอน“ได้เช็คแล้วต้องรออีกกี่วันถึงจะได้เงิน คราวก่อนที่ขอร้องฉันก็ให้แล้ว กว่าจะได้เงินก็เกือบชนเดือนเลยนะ”คุณนายอนงค์ยังจำได้ดีว่าครั้งก่อนที่แก้วใจติดค่าเช่าร้าน นางก็ได้สิทธิ์ถือเช็คที่รอเงินจากลูกค้าโอนเข้ามาจ่ายค่าตัดเสื้อเป็นค่าเช่าแทน แต่กว่าจะได้เงินก้อนนั้นมาก็ต้องรอเกือบครบเดือน ครั้งนี้นางจะไม่รออีกแน่“ตึกน