แชร์

บทที่ 986

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
จากนั้นก็เห็นเย่ซิวถือกระบี่วิเศษที่เปล่งแสง ยืนอยู่กลางอากาศ

เสื้อผ้าของเขาปลิวไสวไปตามสายลมแรง ดวงตาคมกริบดั่งสายฟ้าจ้องไปที่กระสุนประเภทดีที่อยู่ตรงหน้า

เขาฟันกระบี่ออกไปหนึ่งครั้ง

ในการฟันครั้งนี้ เขาได้บีบอัดปราณกระบี่ถึงเก้าครั้ง ทำให้พลังของมันรุนแรงจนไม่อาจคาดเดาได้

ปราณกระบี่อันเจิดจรัส แปรเปลี่ยนเป็นมังกรกระบี่ห้าสิบตัว ความยาวแต่ละตัวถึงร้อยเมตร พุ่งเข้าใส่เหล่าขีปนาวุธ

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เมื่อทั้งสองพลังปะทะกัน เสียงระเบิดกึกก้องสะท้านฟ้า

ทั่วทั้งเมืองสั่นสะเทือน ราวกับอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรอันเกรี้ยวกราดและบ้าคลั่ง จนไม่อาจควบคุมตัวเองได้

กระจกของอาคารทุกแห่งแตกกระจาย

อาคารเก่าแก่หลายหลังเกิดรอยร้าวเป็นจำนวนมาก

ผู้คนทั้งเมือง ณ วินาทีนั้น แทบไม่ได้ยินอะไรอีกต่อไป

ความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจเป็นผลกระทบถาวร

แต่อย่างน้อยเย่ซิวก็ช่วยชีวิตพวกเขาไว้

ช่างเป็นเรื่องประชดประชันเสียจริง

ผู้บุกรุกกลับกลายเป็นผู้ช่วยชีวิตประชาชนของศัตรู

ขณะนั้นผู้นำตระกูลเฒ่าและผู้กำลังยืนอยู่ในห้องควบคุม สวมแว่นกันแดด มองภาพตรงหน้าด้วยความนิ่งสงบตาไม่กะพริบ

พวกเขาเห็นแสงสว่างขนาดมหึมาครอบ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1

    ประเทศหลงเถิง ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าโบราณทางตอนเหนือ“อาจารย์ ผมกลับมาแล้ว มื้อเย็นวันนี้เป็นเนื้อกระต่ายแหละ”ณ ส่วนลึกของป่าโบราณมีบ้านไม้หลายหลังตั้งอยู่เห็นเพียงเด็กหนุ่มอายุราวสิบหกหรือสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง ในมือหิ้วกระต่ายตัวอวบอ้วนมาด้วยหลายตัว เขากระโดดขึ้นไปบนโขดหินตะปุ่มตะป่ำขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ดีดตัวเพียงไม่กี่ครั้งก็มาถึงหน้าบ้านไม้เขาชื่อเย่ซิว อาศัยอยู่ที่นี่กับอาจารย์ของเขามาตั้งแต่ยังเด็กแล้วติดตามอาจารย์เพื่อฝึกฝนวรยุทธ เก็บสมุนไพร เรียนการแพทย์ และเรียนรู้ด้านการอ่านเขียนเอี๊ยดเย่ซิวผลักประตูแล้วเดินเข้าไป วินาทีต่อมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือกระต่ายในมือถูกทิ้งลงกับพื้นเห็นเพียงชายชราคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนฟูก ศีรษะตกลงมา ไม่มีลมหายใจเหลืออยู่แล้ว“อาจารย์ อาจารย์ครับ เป็นยังไงบ้าง?!”เย่ซิวตกใจมากรีบรุดขึ้นไปแล้วตรวจชีพจรของเขาก่อน จึงได้พบว่าไม่มีการเต้นของชีพจรแล้วจากนั้นเขาก็รีบหยิบเข็มเงินออกมาแล้วฝังเข็มลงไปไม่มีประโยชน์!เขาถ่ายทอดพลังปราณอันทรงพลังของตัวเองไปให้ แต่ก็ยังคงไร้ผลใด ๆความโศกเศร้าครั้งใหญ่เข้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 2

    “ไปให้พ้น แกไอ้คนเถื่อนตัวเหม็น อย่าเข้ามาในรถของฉันนะ และห้ามแตะต้องคุณปู่ของฉันด้วย!”เซี่ยชิงชิงแยกเขี้ยวยิงฟัน กางกรงเล็บของเธอเหมือนกับลูกแมวขี้โมโหเย่ซิวโกรธแล้ว ‘หญิงคนนี้คงไม่ปกติสินะ?!’เขาคว้าข้อมือของเซี่ยชิงชิง ออกแรงแล้วลากเธอออกมาเซี่ยชิงชิงพยายามดิ้นอย่างหนัก "กรี๊ดดด ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้นักเลงตัวเหม็น!"เพียะ เพียะ!เย่ซิวไม่ตามใจเธออยู่แล้ว จับเอวเธอขึ้นมาโดยตรงแล้วตีแรง ๆ สองทีร่างอ้อนแอ้นของเซี่ยชิงชิงชะงักกึก เธอหันไปมองเย่ซิวด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ "นาย...นายถึงกับ…!"เย่ซิวโยนเซี่ยชิงชิงลงกับพื้น ขู่เธออย่างดุร้ายว่า "หุบปากไปเลย ไม่งั้นฉันจะจัดการเธอตรงนี้แหละ! ในที่รกร้างห่างไกลแบบนี้ เธอหนีไม่รอดหรอก แม้แต่สัตว์ร้ายก็ยังเอาชนะฉันไม่ได้ ลองคิดดูเอาเองก็แล้วกัน!"เซี่ยชิงชิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันทีเย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเธออีก เขาหันหลังแล้วกลับเข้าไปในรถเขาตรวจชีพจรของชายชราก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย หยิบเข็มเงินออกมา หลังฆ่าเชื้อแล้ว จึงฝังเข็มลงไปบนจุดชีพจรของชายชราอย่างรวดเร็วแต่เดิมชายชรามีอาการหายใจติดขัดแต่หลังจา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 3

    เพียะ!หนึ่งฝ่ามือหนัก ๆ ฟาดไปที่หน้าของเซี่ยชิงชิงใบหน้าที่ขาวผ่องและเนียนละเอียดของเธอบวมขึ้นในทันทีนั้นเสียงตบที่คมชัด ดังก้องอยู่ในหูของทุกคน ทำให้เซี่ยเจี๋ยเบิกตากว้าง บอดี้การ์ดทั้งสองคนเองก็ตกตะลึงเช่นกันเซี่ยชิงชิงยกมือขึ้นกุมหน้า ความรู้สึกเจ็บและร้อนผ่าว รวมถึงความอัปยศอดสูอย่างถึงที่สุดทำเอาเธอแทบบ้าคลั่งเสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้นทันที "กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด แกกล้าตบหน้าฉันเหรอ?!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเธอ มองไปที่เซี่ยเจี๋ยแล้วพูด “หลานสาวของคุณกำเริบเสิบสาน ไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส ผมก็เลยช่วยสั่งสอนเธอแทนให้ มีปัญหาอะไรไหมครับ?"เซี่ยเจี๋ยยิ้มอย่างขมขื่น "ฉันไม่กล้ามีปัญหาหรอก หลานสาวฉันคนนี้ หยิ่งผยองมากเกินไปแล้วจริง ๆ"“คุณปู่ ฆ่าเขา รีบฆ่าเขาเดี๋ยวนี้เลย!” เซี่ยชิงชิงตีโพยตีพาย คนทั้งคนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกตบหน้า“หุบปาก!”เซี่ยเจี๋ยตะคอก เขาปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธออกมานิดหน่อย “ดูเหมือนว่าปกติปู่จะตามใจหลานจนเสียคนแล้วจริง ๆ รีบขอโทษผู้มีพระคุณเย่เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจนกระทั่งหลานเรียนจบ อย่าคิดว่าจะได้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 4

    จ้าวเฉียนเดินเข้ามาพร้อมกับเลขาฯ เมื่อเห็นฉากนี้เขาก็ตะโกนทันที "หยุดเดี๋ยวนี้!"ชายฉกรรจ์หลายสิบคนยั้งมือ“พ่อ?” จ้าวเฟิงตกตะลึง “พ่อมาทำอะไรที่นี่?”จ้าวเฉียนถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"จ้าวเฟิงอธิบายเหตุการณ์ให้จ้าวเฉียนฟังด้วยเสียงทุ้มต่ำดวงตาของจ้าวเฉียนเป็นประกาย ความคิดของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็วเขาเข้าใจสถานการณ์อย่างคร่าว ๆ แล้ว น่าจะเป็นเย่ซิวคนนี้ที่บังเอิญช่วยเซี่ยเจี๋ย แต่ขณะเดียวกันก็ดันไปทำให้เซี่ยชิงชิงขุ่นเคืองใจ จึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นต้องบอกว่าจ้าวเฉียนสมกับที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าจริง ๆเขาโบกมือ "อย่างนั้นก็ลงมือเถอะ"แต่ในตอนนี้เอง จู่ ๆ เย่ซิวก็โพล่งขึ้น "คุณคือจ้าวเฉียนงั้นเหรอ?"ที่นี่คืออาคารของบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป และในพินัยกรรมที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้นั้น ยังได้ทิ้งข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับจ้าวเฉียนเอาไว้ด้วยจ้าวเฟิงโกรธมาก "ชื่อของพ่อฉัน แกอยากจะเรียกก็เรียกได้หรือไง? ไอ้คนเถื่อน!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเขา "เป็นคุณจริง ๆ เยี่ยมเลย ผมมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ"“โอ้?” จ้าวเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "คนเถื่อนที่เพิ่งลงมาจากเขาอย่างนาย มีธุระอะไรกับฉ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 5

    ที่หน้าร้าน หญิงวัยกลางคนชี้ไปที่เย่ซิวแล้วตะโกนเสียงดังลั่น "ไสหัวไปให้ไกล ๆ เลย อย่ามาขัดขวางธุรกิจของฉัน!"ในความเห็นของเธอ เย่ซิวซึ่งสวมชุดผ้าขี้ริ้วและสะพายถุงผ้าเก่า ๆ ไม่ต่างอะไรจากขอทานเย่ซิวพูดว่า "ผมไม่ใช่ขอทาน ผมมาซื้อเสื้อผ้า ผมมีเงิน"หญิงวัยกลางคนกอดอกและเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่า "ขอทานอย่างแกจะมีเงินสักเท่าไหร่เชียว สิบหยวนหรือว่ายี่สิบหยวนล่ะ? แกไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้หรอกนะ ห้ามเข้ามาในร้านของฉัน อย่าทำให้ร้านของฉันสกปรก"เย่ซิวระงับความโกรธ "ผมบอกคุณไปแล้วนี่ว่าผมมีเงิน ถ้าคุณเปิดร้านทำธุรกิจ ทำไมถึงไม่ให้ผมเข้าไปล่ะ?"หญิงวัยกลางคนโกรธมาก "แกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? ถ้าไม่ไป ฉันจะไม่ยั้งมือแล้วนะ"หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบไม้กวาดข้างประตูขึ้นมาและจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าดุร้าย“พี่ชายคนนี้ อยากจะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ? มาที่ร้านฉันก็ได้นะ”ทันใดนั้นเอง เสียงอ่อนหวานเสียงหนึ่งก็ดังมาจากร้านข้าง ๆ เย่ซิวหันกลับไปมอง เห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณสิบแปดหรือสิบเก้าปีกำลังพูดกับเขาอย่างเขินอายเธอดูไร้เดียงสามาก สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีขาวผมถูกถักเป็นเปียสอง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 6

    “โรงพยาบาลโทรมา พ่อของฉันเขา..ฮึก.ฮือ..”หญิงสาวร้องไห้ปานจะขาดใจ พยายามก้าวเท้าออกไปทันที "ไม่ได้การ ตอนนี้ฉันต้องไปโรงพยาบาล"เย่ซิวตามมาทันในที่สุด "ให้ฉันไปกับเธอเอง"หญิงสาวไม่อาจประคองสติได้ดังเดิม เธอต้องการไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เย่ซิวช่วยเธอปิดประตูร้านทั้งหมดจากนั้น แท็กซี่คันหนึ่งก็เข้ามาจอดที่ข้างทางทั้งสองคนรีบเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว เย่ซิวตะโกนบอกคนขับว่า "ไปโรงพยาบาล ด่วนเลยครับ!""ได้!"คนขับเหยียบคันเร่งอย่างแรง จนรถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วหญิงสาวส่งเสียงร้องตกใจอย่างไม่ทันระวัง ร่างกายของเธอโน้มไปข้างหน้ากะทันหัน เกือบจะชนเข้ากับเบาะด้านหน้าเย่ซิวเอื้อมมือไปคว้าเธออย่างรวดเร็วแต่การยื่นมือไปคว้าตัวเธอ กลับเป็นสร้างปัญหาขึ้นแทนเย่ซิวรีบหยุดการกระทำดังกล่าวทันที "ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ"หญิงสาวส่ายหน้าอย่างไม่ถือสา ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติเธอคงจะเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก แต่ตอนนี้จิตใจของเธอจดจ่อเพียงเรื่องของผู้เป็นพ่อเท่านั้นทันใดนั้น คนขับก็สบถขึ้น "ให้ตายเถอะ! ข้างหน้ารถติดเป็นบ้า ดูเหมือนจะมีอุบัติเหตุ""ฉันจะทำยังไงดี?" เธอกังวลมา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 7

    "หยุดนะ! คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเรื่องบ้า ๆ กับคนไข้ของฉัน!" หมอคนสวยโกรธมากจนหน้าขึ้นสีแดง แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจหมอชายหลายคนเมื่อเห็นการกระทำของเย่ซิว ก็พากันมาล้อมตัวเขาเอาไว้เย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจคนเหล่านี้และมองไปที่หญิงสาว "นี่คือพ่อของเธอ ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะตัดสินใจให้ช่วยหรือไม่"ในการรักษาผู้ป่วย ขั้นตอนแรกคือต้องได้รับความยินยอมจากครอบครัวเสียก่อน"ฉัน... พี่ได้โปรดช่วยพ่อด้วยเถอะ อย่างไรเสียผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่มีทางแย่ไปกว่านี้แล้ว หมออย่าทำให้พี่เขาต้องลำบากใจเลย"หมอคนสวยพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า "น้องสาว อย่าไปหลงกลเขานะ เด็กคนนี้มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนดี!""หุบปาก!"ทันใดนั้น เย่ซิวก็ตะโกนขึ้นเสียงดังเสียงของเขาดังราวกับเสือคำรามอย่างดุร้ายทำให้ทุกคนในหอผู้ป่วยต่างตกใจ แววตาของพวกเขาก็เผยให้เห็นความกลัว มีเพียงผู้ป่วยที่ไร้สติและหญิงสาว เย่ซิวตะคอกอย่างเย็นชา "แม้แต่คนในครอบครัวเขาก็เห็นด้วย พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้กล้าพูดอะไรแบบนี้?"หลังจากพูดแล้ว เย่ซิวจึงเพิกเฉยต่อคนที่หว่าดกลัว และเขาเริ่มดำเนินการทันทีขั้นแรก เขาฆ่าเชื้อเข็ม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 8

    อาจเป็นเพราะไม่ทันได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน หลิ่วเมิ่งอิ๋นจึงลืมเก็บเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งเอาไว้เย่ซิวถึงกับคอแห้ง เขาละสายตาไปมองอย่างอื่นอย่างทำตัวไม่ถูกแต่ในขณะเดียวกันเขากลับลุกขึ้นนั่งสมาธิและเริ่มฝึกพระสูตรราชาแห่งยาเมื่อหกเดือนที่แล้วเขาฝึกฝนจนถึงจุดสูงสุดของศิลปะการต่อสู้ระดับเก้าและเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ที่หาได้ยากในรอบพันปี ตามที่อาจารย์ของเขาเคยกล่าวไว้ ระดับที่สูงกว่าจอมยุทธ์ระดับเก้า ถือเป็นคนละโลกกันอย่างสิ้นเชิงในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาไม่ว่าเย่ซิวจะฝึกฝนมากเพียงใด เขาก็ไม่สามารถทะลวงผ่านไปอีกขั้้นได้……หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลิ่วเมิ่งอิ๋นก็กลับมาและเริ่มทำอาหารไม่นานนัก กลิ่นหอมก็โชยออกมาเย่ซิวหยุดฝึกฝนและเดินไปที่ห้องครัวจึงได้เห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋นทำอาหารอย่างจริงจังภาพตรงหน้าให้ความรู้สึกที่อบอุ่นมากหลิ่วเมิ่งอิ๋นเป็นหญิงสาวที่มีความเป็นกุลสตรีและน่ารักอย่างไม่ต้องสงสัยปกติเด็กผู้หญิงทั่วไปในวัยนี้ยังเรียนหนังสืออยู่ แต่เธอกลับต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งของชีวิต"พี่เย่ ทำไมพี่มาที่นี่ได้ล่ะ ห้องครัวมีเต็มควันเต็มไปหมด พี่ไปรอข้างนอกเถอะ"เย่ซิวส่ายหน้า

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 986

    จากนั้นก็เห็นเย่ซิวถือกระบี่วิเศษที่เปล่งแสง ยืนอยู่กลางอากาศเสื้อผ้าของเขาปลิวไสวไปตามสายลมแรง ดวงตาคมกริบดั่งสายฟ้าจ้องไปที่กระสุนประเภทดีที่อยู่ตรงหน้าเขาฟันกระบี่ออกไปหนึ่งครั้งในการฟันครั้งนี้ เขาได้บีบอัดปราณกระบี่ถึงเก้าครั้ง ทำให้พลังของมันรุนแรงจนไม่อาจคาดเดาได้ปราณกระบี่อันเจิดจรัส แปรเปลี่ยนเป็นมังกรกระบี่ห้าสิบตัว ความยาวแต่ละตัวถึงร้อยเมตร พุ่งเข้าใส่เหล่าขีปนาวุธตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เมื่อทั้งสองพลังปะทะกัน เสียงระเบิดกึกก้องสะท้านฟ้าทั่วทั้งเมืองสั่นสะเทือน ราวกับอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรอันเกรี้ยวกราดและบ้าคลั่ง จนไม่อาจควบคุมตัวเองได้กระจกของอาคารทุกแห่งแตกกระจายอาคารเก่าแก่หลายหลังเกิดรอยร้าวเป็นจำนวนมากผู้คนทั้งเมือง ณ วินาทีนั้น แทบไม่ได้ยินอะไรอีกต่อไปความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจเป็นผลกระทบถาวรแต่อย่างน้อยเย่ซิวก็ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ช่างเป็นเรื่องประชดประชันเสียจริงผู้บุกรุกกลับกลายเป็นผู้ช่วยชีวิตประชาชนของศัตรูขณะนั้นผู้นำตระกูลเฒ่าและผู้กำลังยืนอยู่ในห้องควบคุม สวมแว่นกันแดด มองภาพตรงหน้าด้วยความนิ่งสงบตาไม่กะพริบพวกเขาเห็นแสงสว่างขนาดมหึมาครอบ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 985

    “แย่แล้ว เมืองสองแห่งถูกพวกมันตีแตกไปแล้ว”“เมืองที่สามก็แตกแล้ว”“บ้าเอ๊ย เมืองที่ห้าก็โดนตีแตกแล้วเหมือนกัน”……เมื่อข่าวร้ายทยอยส่งถึงผู้นำตระกูลเฒ่าและผู้นำประเทศจ้าน ใบหน้าของทั้งสองคนก็ซีดเผือด ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความโกรธปัง!ผู้นำประเทศทุบโต๊ะเสียงดังลั่น ความโกรธพุ่งขึ้นสุดขีด “สำนักโอสถมันชักจะโอหังเกินไปแล้ว”พวกเขาไม่เคยได้รับความอัปยศและพ่ายแพ้ยับเยินขนาดนี้มาก่อนในเวลาแค่วันเดียวพวกเขาเสียเมืองไปถึงห้าแห่ง นี่เป็นความอัปยศที่ไม่อาจยอมรับได้แต่แม้จะโกรธแค่ไหน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหวาดหวั่นไปด้วยตอนนี้กำลังรบของสำนักโอสถมันแข็งแกร่งเกินไปแล้วราวกับพายุที่กวาดทุกสิ่งให้พังพินาศแค่วันเดียว เมืองของพวกเขาก็ถูกตีแตกไปถึงห้าแห่งถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ พวกเขาคงได้ตกเป็นเชลยของสำนักโอสถแน่สีหน้าผู้นำตระกูลเฒ่าเปลี่ยนไปมาหลายรอบ ก่อนจะกัดฟันแน่น “เราปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ใช้ขีปนาวุธซะ!”ผู้นำประเทศไม่ขัดข้องอะไร เขาควบคุมสติให้เย็นลงแล้วครุ่นคิดอย่างละเอียดจากนั้นก็หันไปมองแผนที่ที่แขวนอยู่บนผนังเขาใช้นิ้วชี้ไปยังจุดหนึ่ง “ต

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 984

    ฝั่งประเทศจ้านอิงตี้และประเทศจ้านฉงตี้ต่างก็ดีใจอย่างมากพวกเขากำลังมองหาโอกาสเล่นงานสำนักโอสถอยู่พอดีเมื่อได้รับข่าวนี้ พวกเขาก็รีบออกแถลงการณ์ในทันที โดยประกาศว่าจะสนับสนุนประเทศจ้านในการโจมตีสำนักโอสถแต่หลังจากพวกเขาออกแถลงการณ์ได้เพียงสองนาที ฝั่งประเทศหลงเถิงก็มีปฏิกิริยาตอบกลับงพวกเขาปล่อยวิดีโอสั้น ๆ ออกมาในแนวชายแดนของประเทศหลงเถิง ปรากฏกองทัพจักรกลมังกรดำจำนวนมหาศาลพวกมันเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ ด้านหลังติดตั้งอาวุธปืนถึงหกชนิดมือซ้ายถือโล่ มือขวาถือง้าวมังกรเขียวเมื่อมองไปทั่วทั้งแนวราวกับท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยสีดำสนิทและมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งพันเครื่องภาพที่เห็นสร้างความประหวั่นพรั่นพรึงเป็นอย่างมากที่แนวหน้าของกองทัพจักรกลมังกรดำมีชายชราผมขาวสวมชุดคลุมยาวสีขาวยืนอยู่ เขาดูสูงวัยแต่สภาพร่างกายยังแข็งแรงดีมากในมือของเขาถือดาบและกำลังร่ายรำดาบอย่างสง่างามกองทัพจักรกลมังกรดำด้านหลังขยับตามเขาเป็นจังหวะบรรยากาศเต็มไปด้วยความฮึกเหิม!ง้าวมังกรเขียวถูกสะบัดออกไป สร้างคลื่นเสียงราวกับจะทำให้ท้องฟ้าสะเทือนฝั่งประเทศหลงเถิงไม่ได้พูดอะไรเลยแต่แค่ปล่อยวิดีโ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 983

    “มีเรื่องอะไรถึงได้ร้อนรนขนาดนี้?” เฉินซิ่วน่าถามเสียงเรียบ“ตามรายงานที่ได้รับมา เราพบแหล่งแร่ทองแดงขนาดมหึมาในเมืองหลิวซา ส่วนที่เมืองมู่เฉิงเราพบทองคำปริมาณมหาศาล รวมถึงแร่ธาตุหายากอีกกว่าสิบชนิดค่ะ”ดวงตาของเฉินซิ่วน่าทอประกายขึ้นมาทันที “แน่ใจนะ?”“แน่ใจค่ะ”เฉินซิ่วน่าดีใจอย่างมากเมืองเหล่านี้ทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของเธอการค้นพบทรัพยากรเหล่านี้ทำให้เธอมีไพ่ตายเพิ่มขึ้นอีกใบในการแข่งขันชิงตำแหน่งผู้นำประเทศ“ไป ไปดูด้วยตาตัวเองกัน”……สำนักโอสถเย่ซิวจ้องมองเหล่าทหารตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“ฉันบอกแผนการรบพวกนายไปแล้ว ยังมีคำถามอะไรอีกไหม!”“ไม่มีครับ”ทุกคนตะโกนขึ้นพร้อมกันการนั่งรอให้ถูกเล่นงานไม่ใช่วิถีของเย่ซิวดังนั้นเมื่อจำนวนจักรกลมังกรดำมีถึงสามสิบเครื่องแล้ว เขาก็ตัดสินใจเอาคืนประเทศจ้านทันทีถึงครั้งก่อนเขาจะรอดมาได้เพราะโชคช่วย แต่การกระทำไร้ศีลธรรมของประเทศจ้านก็ทำให้เขาโกรธแค้นจนไม่อาจปล่อยผ่านได้แผนของเขาคือใช้จักรกลมังกรดำทั้งสามสิบเครื่องเป็นแนวหน้า เปิดฉากโจมตีชายแดนของประเทศจ้านนอกจากนี้ยังมีหน่วยจู่โจมพิเศษอีกสองทีมทีมแรกนำโดยกระ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 982

    ด้วยเวลาที่ยาวนานขนาดนี้คงจะทำให้ประเทศหลงเถิงสามารถใช้โอกาสนี้เพิ่มการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรได้หากทำเช่นนั้น พวกเขาก็จะสามารถยืนหยัดอยู่ต่อไปได้อีกนานยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไร สถานการณ์ก็จะยิ่งไม่เป็นผลดีต่อพวกเขามากขึ้นเท่านั้นหากธัญพืชที่พวกเขากักตุนไว้ขายไม่ออก แค่ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาก็เป็นภาระมหาศาลแล้วยิ่งไปกว่านั้น หากเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกไม่มีรายได้ก็จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อครัวเรือนอีกนับไม่ถ้วนจักรพรรดิทั้งสองสบตากันและต่างมองเห็นความวิตกกังวลในสายตาของอีกฝ่ายอารมณ์ดีเมื่อครู่พลันหายไปจนหมดสิ้น……ทางฝั่งประเทศหลงเถิง ผู้นำประเทศและนายกรัฐมนตรีต่างยิ้มแย้มกันถ้วนหน้าปัญหาใหญ่สองเรื่องที่กดดันพวกเขามานานตอนนี้สามารถขจัดออกไปได้ชั่วคราวแล้วยิ่งไปกว่านั้น จำนวนของจักรกลมังกรดำที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พวกเขามั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมตอนนี้ก็เหลือแค่รอดูว่าใครจะอดทนได้นานกว่ากันส่วนเรื่องที่บางประเทศประกาศห้ามขายวัตถุดิบสำคัญหรือเทคโนโลยีบางอย่างให้ประเทศหลงเถิงแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นภัยร้ายแรงนายกรัฐมนตรีถอนหายใจพลางเอ่ย “เย่ซิวนี่เป็น

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 981

    ภายในห้องทำงานของจักรพรรดิอินทรีครามเขาถือแก้วไวน์แดงในมือพร้อมยิ้มบางขณะวิดีโอคอลกับจักรพรรดิหมีเหล็ก“เราสั่งห้ามส่งออกถ่านหิน น้ำมัน และพลังงานให้กับหลงเถิงแล้ว ตอนนี้พวกมันต้องปวดหัวหนักแน่”จักรพรรดิหมีเหล็กยิ้มออกมาเช่นกัน “แน่นอน ตอนนี้วิกฤติใหญ่ที่สุดของพวกนั้นก็คือพลังงานและอาหารอย่างมากพวกเขาก็คงทนได้อีกแค่สามถึงสี่เดือน จากนั้นก็ต้องมาซื้ออาหารจากพวกเราอยู่ดี”จักรพรรดิอินทรีครามหัวเราะเยาะ “แค่พวกเขาคิดจะต่อกรกับพวกเราก็ถือว่าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแล้ว ครั้งนี้ต้องรีดเนื้อจากหลงเถิงก้อนใหญ่ ๆ สักก้อน”เรื่องแบบนี้พวกเขาทำกันจนชินแล้ว เรียกได้ว่าง่ายดายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากจักรพรรดิทั้งสองพากันจินตนาการถึงวันที่หลงเถิงต้องก้มหัวอ้อนวอนพวกเขาอย่างน่าสมเพช“ฝ่าบาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ”ผู้ช่วยของจักรพรรดิทั้งสองรีบวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าร้อนรนแทบจะพร้อมกันผู้ช่วยของจักรพรรดิอินทรีครามรายงานว่า “เพิ่งได้รับข่าวล่าสุดมาว่าบริษัทสตาร์รี่สกายของประเทศหลงเถิงได้เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีระยะทางวิ่งเกินหนึ่งพันสามร้อยกิโลเมตรครับ”“ว่าไงนะ?!” จักรพรรดิอินท

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 980

    ทุกคนพยักหน้าโดยไม่รู้ตัวจริงอย่างที่ว่า รถรุ่นนี้แทบไม่มีจุดบกพร่องใด ๆ เลยถ้าราคาไม่เวอร์เกินไปและเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ภายนอกที่ตึงเครียดขนาดนี้ รับรองได้ว่าจะต้องขายดีถล่มทลายแน่นอนจากนั้นเซี่ยซิ่วซิ่วก็เริ่มแนะนำรถรุ่นเอสยูวีอีกสองรุ่นรุ่นหนึ่งเป็นเอสยูวีขนาดกลาง ส่วนอีกรุ่นเป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ด้วยวัสดุและคุณสมบัติที่ครบครัน พอแนะนำจบก็ทำให้ผู้คนจำนวนมากเกิดความสนใจและอยากเป็นเจ้าของทันทีตอนนี้สิ่งที่ทุกคนรอคอยก็คือเรื่องราคาว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่?เซี่ยซิ่วซิ่วไม่ปล่อยให้ทุกคนต้องรอนาน หลังจากแนะนำรถเสร็จเธอก็ประกาศราคาออกมาทันที“รถซีดานรุ่นธรรมดาราคาแปดแสนสี่หมื่นเก้าพันบาท ส่วนรุ่นที่มีระยะทางขับเคลื่อนสูงพิเศษราคาเก้าแสนเก้าหมื่นเก้าพันบาทถ้วนสำหรับเอสยูวีขนาดกลางราคาแปดแสนแปดหมื่นสี่พันบาท และเอสยูวีขนาดใหญ่ราคาหนึ่งล้านหนึ่งแสนสี่หมื่นเก้าพันบาทตอนนี้เรามีโชว์รูมกว่าสี่ร้อยแห่งทั่วประเทศ และภายในสองถึงห้าวัน รถจะเริ่มทยอยถึงโชว์รูมทั้งหมดค่ะ”ทันทีที่ประกาศราคาออกมา ทุกคนก็อุทานด้วยความประหลาดใจไม่ใช่เพราะราคาสูงเกินไป แต่เพราะราคาถูกเกินไปต่างหาก!

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 979

    เซี่ยซิ่วซิ่วมองชายคนนั้นด้วยรอยยิ้มที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “มีคำถามอะไรเชิญถามมาได้เลยค่ะ”“รถยนต์ไฟฟ้าที่มีระยะทางขับเคลื่อนได้ยาวนานขนาดนี้แล้วเรื่องความปลอดภัยของแบตเตอรี่เป็นอย่างไรบ้างครับ?เพราะทุกคนก็รู้กันดีว่ายิ่งแบตเตอรี่มีความหนาแน่นพลังงานสูงมากเท่าไหร่ หากเกิดอุบัติเหตุ ความเสียหายก็จะรุนแรงขึ้นตามไปด้วย อาจถึงขั้นทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตได้ในทันที”เมื่อคำถามนี้ถูกถามขึ้น ผู้สื่อข่าวหลายคนก็พยักหน้าเห็นด้วยเป็นความจริงที่ว่าหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่ทำให้รถไฟฟ้ายังไม่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายนั้นไม่ได้มีแค่เรื่องระยะทาง แต่รวมถึงเรื่องความปลอดภัยของแบตเตอรี่ด้วยที่ผ่านมาเกิดกรณีรถไฟฟ้าเกิดไฟลุกไหม้เองหลายครั้งส่งผลให้ผู้โดยสารเสียชีวิตนอกจากนี้ยังมีหลายเหตุการณ์ที่แบตเตอรี่เกิดไฟลุกหรือระเบิดขณะชาร์จไฟสิ่งเหล่านี้ทำให้เจ้าของรถที่ค่อนข้างขี้กลัวไม่กล้าตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้า“เป็นคำถามที่ดีมากค่ะ” เซี่ยซิ่วซิ่วพยักหน้า “ต่อให้ฉันพูดมากแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนเชื่อได้ดังนั้นเรามาดูวิดีโออีกคลิปหนึ่งกันเลยค่ะ”พูดจบ เธอก็กดรีโมตเพื่อเปิดคลิปวิดีโอใหม่ในวิดีโอปรา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 978

    เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ความกังวลในใจของพวกเขาก็คลายลงไปไม่น้อยท่ามกลางคำถามและความสงสัยจากผู้คน เซี่ยซิ่วซิ่วกลับเผยรอยยิ้มบาง ๆ “ทุกคนไม่ได้ฟังผิดหรอกค่ะ ระยะทางขับเคลื่อนที่หนึ่งพันสามร้อยกิโลเมตรนี้เป็นของจริงนี่เป็นแค่รุ่นธรรมดาเท่านั้น เรายังมีอีกรุ่นที่เป็นรุ่นพิเศษซึ่งสามารถขับเคลื่อนได้ถึงหนึ่งพันแปดร้อยกิโลเมตร ส่วนจะจริงหรือไม่ ขอให้ทุกคนชมที่หน้าจอใหญ่ได้เลยค่ะ”ไม่นานก็ปรากฏภาพบนจอขึ้นเป็นภาพของทีมงานชุดหนึ่งทีมงานทั้งห้าคนล้วนเป็นชายร่างใหญ่ โดยประมาณน้ำหนักตัวแต่ละคนล้วนเกินหนึ่งร้อยกิโลกรัมในวิดีโอ พวกเขาเริ่มต้นด้วยการถ่ายให้เห็นระดับพลังงานแบตเตอรี่ของรถที่เหลือเพียงสิบเปอร์เซ็นต์จากนั้นพวกเขาเสียบปลั๊กชาร์จและจับเวลาจากนั้นวิดีโอก็ถูกเร่งความเร็วและใช้เวลาชาร์จเพียงหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ แบตเตอรี่ก็เต็มหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์หลังจากนั้นพวกเขานำสัมภาระหนักหลากหลายชนิดใส่ในช่องเก็บของด้านหลังจนเต็มในวิดีโอนี้มีมุมกล้องสองมุม มุมแรกจับภาพหน้าจอของรถที่แสดงระดับพลังงานแบบเรียลไทม์อีกมุมกล้องหนึ่งจับภาพถนนข้างหน้าและโทรศัพท์ที่วางอยู่บนแผงควบคุมรถซึ่งแสดงแผ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status