หยางถิงถิงนอนอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น เพราะท่านี้ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้เมื่อเห็นเย่ซิวเดินออกมาพร้อมกับถังอวิ้น เธอก็เตรียมตัวจะลุกขึ้นแต่ทันใดนั้นก็ชะงักไปเพราะเธอเห็นเย่ซิวเดินเข้าไปในห้องของถังอวิ้นหยางถิงถิงถึงกับกระโดดลุกขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรงเกินไป ทำให้แผลเจ็บจนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่ในตอนนี้เธอไม่สนใจความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว แม้แต่รองเท้าก็ไม่ทันใส่ รีบวิ่งตรงไปที่ห้องของถังอวิ้นหยางถิงถิงถือว่าถังอวิ้นเป็นเหมือนพี่สาวของตัวเอง แล้วเธอจะปล่อยให้ถังอวิ้น ‘เป็นเนื้อเข้าปากเสือ’ ไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร?ขณะที่ถังอวิ้นกำลังจะปิดประตู หยางถิงถิงก็พุ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว “พี่คะ พี่กำลังจะทำอะไร? ทำไมถึงปล่อยให้เจ้าหมาป่าลามกตัวนี้เข้ามาได้!”ถังอวิ้นหัวเราะและตอบว่า “ฉันกับคุณคนนี้มีเรื่องต้องพูดคุยกันนิดหน่อย ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอก”หยางถิงถิงยังคงไม่เชื่อ “จะคุยเรื่องอะไรถึงคุยกันข้างนอกไม่ได้ จำเป็นต้องเข้ามาในห้องพี่ ฉันบอกเลยว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไรเขาคงเห็นว่าพี่ทั้งสวยทั้งหุ่นดีเหมือนฉัน เลยใช้วิธีการบางอย่างหลอกล
ประเทศหลงเถิง ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าโบราณทางตอนเหนือ“อาจารย์ ผมกลับมาแล้ว มื้อเย็นวันนี้เป็นเนื้อกระต่ายแหละ”ณ ส่วนลึกของป่าโบราณมีบ้านไม้หลายหลังตั้งอยู่เห็นเพียงเด็กหนุ่มอายุราวสิบหกหรือสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง ในมือหิ้วกระต่ายตัวอวบอ้วนมาด้วยหลายตัว เขากระโดดขึ้นไปบนโขดหินตะปุ่มตะป่ำขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ดีดตัวเพียงไม่กี่ครั้งก็มาถึงหน้าบ้านไม้เขาชื่อเย่ซิว อาศัยอยู่ที่นี่กับอาจารย์ของเขามาตั้งแต่ยังเด็กแล้วติดตามอาจารย์เพื่อฝึกฝนวรยุทธ เก็บสมุนไพร เรียนการแพทย์ และเรียนรู้ด้านการอ่านเขียนเอี๊ยดเย่ซิวผลักประตูแล้วเดินเข้าไป วินาทีต่อมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือกระต่ายในมือถูกทิ้งลงกับพื้นเห็นเพียงชายชราคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนฟูก ศีรษะตกลงมา ไม่มีลมหายใจเหลืออยู่แล้ว“อาจารย์ อาจารย์ครับ เป็นยังไงบ้าง?!”เย่ซิวตกใจมากรีบรุดขึ้นไปแล้วตรวจชีพจรของเขาก่อน จึงได้พบว่าไม่มีการเต้นของชีพจรแล้วจากนั้นเขาก็รีบหยิบเข็มเงินออกมาแล้วฝังเข็มลงไปไม่มีประโยชน์!เขาถ่ายทอดพลังปราณอันทรงพลังของตัวเองไปให้ แต่ก็ยังคงไร้ผลใด ๆความโศกเศร้าครั้งใหญ่เข้
“ไปให้พ้น แกไอ้คนเถื่อนตัวเหม็น อย่าเข้ามาในรถของฉันนะ และห้ามแตะต้องคุณปู่ของฉันด้วย!”เซี่ยชิงชิงแยกเขี้ยวยิงฟัน กางกรงเล็บของเธอเหมือนกับลูกแมวขี้โมโหเย่ซิวโกรธแล้ว ‘หญิงคนนี้คงไม่ปกติสินะ?!’เขาคว้าข้อมือของเซี่ยชิงชิง ออกแรงแล้วลากเธอออกมาเซี่ยชิงชิงพยายามดิ้นอย่างหนัก "กรี๊ดดด ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้นักเลงตัวเหม็น!"เพียะ เพียะ!เย่ซิวไม่ตามใจเธออยู่แล้ว จับเอวเธอขึ้นมาโดยตรงแล้วตีแรง ๆ สองทีร่างอ้อนแอ้นของเซี่ยชิงชิงชะงักกึก เธอหันไปมองเย่ซิวด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ "นาย...นายถึงกับ…!"เย่ซิวโยนเซี่ยชิงชิงลงกับพื้น ขู่เธออย่างดุร้ายว่า "หุบปากไปเลย ไม่งั้นฉันจะจัดการเธอตรงนี้แหละ! ในที่รกร้างห่างไกลแบบนี้ เธอหนีไม่รอดหรอก แม้แต่สัตว์ร้ายก็ยังเอาชนะฉันไม่ได้ ลองคิดดูเอาเองก็แล้วกัน!"เซี่ยชิงชิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันทีเย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเธออีก เขาหันหลังแล้วกลับเข้าไปในรถเขาตรวจชีพจรของชายชราก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย หยิบเข็มเงินออกมา หลังฆ่าเชื้อแล้ว จึงฝังเข็มลงไปบนจุดชีพจรของชายชราอย่างรวดเร็วแต่เดิมชายชรามีอาการหายใจติดขัดแต่หลังจา
เพียะ!หนึ่งฝ่ามือหนัก ๆ ฟาดไปที่หน้าของเซี่ยชิงชิงใบหน้าที่ขาวผ่องและเนียนละเอียดของเธอบวมขึ้นในทันทีนั้นเสียงตบที่คมชัด ดังก้องอยู่ในหูของทุกคน ทำให้เซี่ยเจี๋ยเบิกตากว้าง บอดี้การ์ดทั้งสองคนเองก็ตกตะลึงเช่นกันเซี่ยชิงชิงยกมือขึ้นกุมหน้า ความรู้สึกเจ็บและร้อนผ่าว รวมถึงความอัปยศอดสูอย่างถึงที่สุดทำเอาเธอแทบบ้าคลั่งเสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้นทันที "กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด แกกล้าตบหน้าฉันเหรอ?!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเธอ มองไปที่เซี่ยเจี๋ยแล้วพูด “หลานสาวของคุณกำเริบเสิบสาน ไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส ผมก็เลยช่วยสั่งสอนเธอแทนให้ มีปัญหาอะไรไหมครับ?"เซี่ยเจี๋ยยิ้มอย่างขมขื่น "ฉันไม่กล้ามีปัญหาหรอก หลานสาวฉันคนนี้ หยิ่งผยองมากเกินไปแล้วจริง ๆ"“คุณปู่ ฆ่าเขา รีบฆ่าเขาเดี๋ยวนี้เลย!” เซี่ยชิงชิงตีโพยตีพาย คนทั้งคนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกตบหน้า“หุบปาก!”เซี่ยเจี๋ยตะคอก เขาปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธออกมานิดหน่อย “ดูเหมือนว่าปกติปู่จะตามใจหลานจนเสียคนแล้วจริง ๆ รีบขอโทษผู้มีพระคุณเย่เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจนกระทั่งหลานเรียนจบ อย่าคิดว่าจะได้
จ้าวเฉียนเดินเข้ามาพร้อมกับเลขาฯ เมื่อเห็นฉากนี้เขาก็ตะโกนทันที "หยุดเดี๋ยวนี้!"ชายฉกรรจ์หลายสิบคนยั้งมือ“พ่อ?” จ้าวเฟิงตกตะลึง “พ่อมาทำอะไรที่นี่?”จ้าวเฉียนถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"จ้าวเฟิงอธิบายเหตุการณ์ให้จ้าวเฉียนฟังด้วยเสียงทุ้มต่ำดวงตาของจ้าวเฉียนเป็นประกาย ความคิดของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็วเขาเข้าใจสถานการณ์อย่างคร่าว ๆ แล้ว น่าจะเป็นเย่ซิวคนนี้ที่บังเอิญช่วยเซี่ยเจี๋ย แต่ขณะเดียวกันก็ดันไปทำให้เซี่ยชิงชิงขุ่นเคืองใจ จึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นต้องบอกว่าจ้าวเฉียนสมกับที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าจริง ๆเขาโบกมือ "อย่างนั้นก็ลงมือเถอะ"แต่ในตอนนี้เอง จู่ ๆ เย่ซิวก็โพล่งขึ้น "คุณคือจ้าวเฉียนงั้นเหรอ?"ที่นี่คืออาคารของบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป และในพินัยกรรมที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้นั้น ยังได้ทิ้งข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับจ้าวเฉียนเอาไว้ด้วยจ้าวเฟิงโกรธมาก "ชื่อของพ่อฉัน แกอยากจะเรียกก็เรียกได้หรือไง? ไอ้คนเถื่อน!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเขา "เป็นคุณจริง ๆ เยี่ยมเลย ผมมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ"“โอ้?” จ้าวเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "คนเถื่อนที่เพิ่งลงมาจากเขาอย่างนาย มีธุระอะไรกับฉ
ที่หน้าร้าน หญิงวัยกลางคนชี้ไปที่เย่ซิวแล้วตะโกนเสียงดังลั่น "ไสหัวไปให้ไกล ๆ เลย อย่ามาขัดขวางธุรกิจของฉัน!"ในความเห็นของเธอ เย่ซิวซึ่งสวมชุดผ้าขี้ริ้วและสะพายถุงผ้าเก่า ๆ ไม่ต่างอะไรจากขอทานเย่ซิวพูดว่า "ผมไม่ใช่ขอทาน ผมมาซื้อเสื้อผ้า ผมมีเงิน"หญิงวัยกลางคนกอดอกและเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่า "ขอทานอย่างแกจะมีเงินสักเท่าไหร่เชียว สิบหยวนหรือว่ายี่สิบหยวนล่ะ? แกไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้หรอกนะ ห้ามเข้ามาในร้านของฉัน อย่าทำให้ร้านของฉันสกปรก"เย่ซิวระงับความโกรธ "ผมบอกคุณไปแล้วนี่ว่าผมมีเงิน ถ้าคุณเปิดร้านทำธุรกิจ ทำไมถึงไม่ให้ผมเข้าไปล่ะ?"หญิงวัยกลางคนโกรธมาก "แกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? ถ้าไม่ไป ฉันจะไม่ยั้งมือแล้วนะ"หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบไม้กวาดข้างประตูขึ้นมาและจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าดุร้าย“พี่ชายคนนี้ อยากจะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ? มาที่ร้านฉันก็ได้นะ”ทันใดนั้นเอง เสียงอ่อนหวานเสียงหนึ่งก็ดังมาจากร้านข้าง ๆ เย่ซิวหันกลับไปมอง เห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณสิบแปดหรือสิบเก้าปีกำลังพูดกับเขาอย่างเขินอายเธอดูไร้เดียงสามาก สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีขาวผมถูกถักเป็นเปียสอง
“โรงพยาบาลโทรมา พ่อของฉันเขา..ฮึก.ฮือ..”หญิงสาวร้องไห้ปานจะขาดใจ พยายามก้าวเท้าออกไปทันที "ไม่ได้การ ตอนนี้ฉันต้องไปโรงพยาบาล"เย่ซิวตามมาทันในที่สุด "ให้ฉันไปกับเธอเอง"หญิงสาวไม่อาจประคองสติได้ดังเดิม เธอต้องการไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เย่ซิวช่วยเธอปิดประตูร้านทั้งหมดจากนั้น แท็กซี่คันหนึ่งก็เข้ามาจอดที่ข้างทางทั้งสองคนรีบเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว เย่ซิวตะโกนบอกคนขับว่า "ไปโรงพยาบาล ด่วนเลยครับ!""ได้!"คนขับเหยียบคันเร่งอย่างแรง จนรถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วหญิงสาวส่งเสียงร้องตกใจอย่างไม่ทันระวัง ร่างกายของเธอโน้มไปข้างหน้ากะทันหัน เกือบจะชนเข้ากับเบาะด้านหน้าเย่ซิวเอื้อมมือไปคว้าเธออย่างรวดเร็วแต่การยื่นมือไปคว้าตัวเธอ กลับเป็นสร้างปัญหาขึ้นแทนเย่ซิวรีบหยุดการกระทำดังกล่าวทันที "ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ"หญิงสาวส่ายหน้าอย่างไม่ถือสา ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติเธอคงจะเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก แต่ตอนนี้จิตใจของเธอจดจ่อเพียงเรื่องของผู้เป็นพ่อเท่านั้นทันใดนั้น คนขับก็สบถขึ้น "ให้ตายเถอะ! ข้างหน้ารถติดเป็นบ้า ดูเหมือนจะมีอุบัติเหตุ""ฉันจะทำยังไงดี?" เธอกังวลมา
"หยุดนะ! คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเรื่องบ้า ๆ กับคนไข้ของฉัน!" หมอคนสวยโกรธมากจนหน้าขึ้นสีแดง แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจหมอชายหลายคนเมื่อเห็นการกระทำของเย่ซิว ก็พากันมาล้อมตัวเขาเอาไว้เย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจคนเหล่านี้และมองไปที่หญิงสาว "นี่คือพ่อของเธอ ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะตัดสินใจให้ช่วยหรือไม่"ในการรักษาผู้ป่วย ขั้นตอนแรกคือต้องได้รับความยินยอมจากครอบครัวเสียก่อน"ฉัน... พี่ได้โปรดช่วยพ่อด้วยเถอะ อย่างไรเสียผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่มีทางแย่ไปกว่านี้แล้ว หมออย่าทำให้พี่เขาต้องลำบากใจเลย"หมอคนสวยพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า "น้องสาว อย่าไปหลงกลเขานะ เด็กคนนี้มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนดี!""หุบปาก!"ทันใดนั้น เย่ซิวก็ตะโกนขึ้นเสียงดังเสียงของเขาดังราวกับเสือคำรามอย่างดุร้ายทำให้ทุกคนในหอผู้ป่วยต่างตกใจ แววตาของพวกเขาก็เผยให้เห็นความกลัว มีเพียงผู้ป่วยที่ไร้สติและหญิงสาว เย่ซิวตะคอกอย่างเย็นชา "แม้แต่คนในครอบครัวเขาก็เห็นด้วย พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้กล้าพูดอะไรแบบนี้?"หลังจากพูดแล้ว เย่ซิวจึงเพิกเฉยต่อคนที่หว่าดกลัว และเขาเริ่มดำเนินการทันทีขั้นแรก เขาฆ่าเชื้อเข็ม
หยางถิงถิงนอนอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น เพราะท่านี้ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้เมื่อเห็นเย่ซิวเดินออกมาพร้อมกับถังอวิ้น เธอก็เตรียมตัวจะลุกขึ้นแต่ทันใดนั้นก็ชะงักไปเพราะเธอเห็นเย่ซิวเดินเข้าไปในห้องของถังอวิ้นหยางถิงถิงถึงกับกระโดดลุกขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรงเกินไป ทำให้แผลเจ็บจนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่ในตอนนี้เธอไม่สนใจความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว แม้แต่รองเท้าก็ไม่ทันใส่ รีบวิ่งตรงไปที่ห้องของถังอวิ้นหยางถิงถิงถือว่าถังอวิ้นเป็นเหมือนพี่สาวของตัวเอง แล้วเธอจะปล่อยให้ถังอวิ้น ‘เป็นเนื้อเข้าปากเสือ’ ไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร?ขณะที่ถังอวิ้นกำลังจะปิดประตู หยางถิงถิงก็พุ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว “พี่คะ พี่กำลังจะทำอะไร? ทำไมถึงปล่อยให้เจ้าหมาป่าลามกตัวนี้เข้ามาได้!”ถังอวิ้นหัวเราะและตอบว่า “ฉันกับคุณคนนี้มีเรื่องต้องพูดคุยกันนิดหน่อย ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอก”หยางถิงถิงยังคงไม่เชื่อ “จะคุยเรื่องอะไรถึงคุยกันข้างนอกไม่ได้ จำเป็นต้องเข้ามาในห้องพี่ ฉันบอกเลยว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไรเขาคงเห็นว่าพี่ทั้งสวยทั้งหุ่นดีเหมือนฉัน เลยใช้วิธีการบางอย่างหลอกล
เมื่อถังอวิ้นได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเย่ซิว เธอถึงกับรู้สึกสับสนขึ้นมาเล็กน้อยเธอไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาที่ไม่เคยเจออะไรเลยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เธอได้พบเห็นชายหนุ่มรูปงามมากมาย รวมถึงเจ้าชายจากต่างประเทศด้วยแต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปลักษณ์หรือออร่าของพวกเขา ก็ไม่มีใครเทียบกับเย่ซิวได้เลยที่สำคัญเธอรู้สึกว่าเย่ซิวดูคุ้นหน้าคุ้นตา แต่ในตอนนั้นกลับคิดไม่ออกว่าเคยเห็นเขาที่ไหนถึงแม้ถังอวิ้นจะเป็นเพียงหัวหน้าแม่บ้าน แต่เพราะความสามารถที่โดดเด่น ทำให้หยางเฟิงเปิดเผยความลับหลายอย่างให้เธอรับรู้แม้กระทั่งภาพการต่อสู้ในตอนนั้น เธอก็เคยได้ดูหลังจากได้ดูภาพการต่อสู้นั้น ถังอวิ้นก็ถึงกับตื่นเต้นจนใจเต้นแรง แม้ว่าตั้งแต่เล็กจนโต เธอจะเติบโตในประเทศจ้านอิงตี้แต่เธอก็ยังคงคิดว่าตัวเองเป็นคนของประเทศหลงเถิง และฝันว่าวันหนึ่งเธอจะได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิด“คุณผู้ชาย คุณดูคุ้นหน้ามากเลยนะคะ”หยางเฟิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นว่า “แน่นอนว่าต้องคุ้นอยู่แล้ว ไม่นานมานี้ฉันไม่ได้เอาภาพการต่อสู้นั้นให้เธอดูหรอกหรือ?”ร่างของถังอวิ้นถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย ดวงตาเบิกกว้าง ในที่สุดเธอก็นึกอ
เย่ซิวลูบคาง พลางพินิจมองหยางถิงถิงถึงแม้ว่านิสัยจะเอาแต่ใจและมีนิสัยคุณหนูหนักอยู่สักหน่อย แต่พรสวรรค์ของเธอก็ถือว่าโดดเด่นไม่น้อยแม้ว่าจะเทียบกับเย่ซิวไม่ได้เลย แต่ถ้าเปรียบเทียบกับคนธรรมดา เธอก็จัดว่าเป็นอัจฉริยะหากได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสม เธออาจจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง"นาย... นายมองอะไร" ภายใต้สายตาของเย่ซิว หยางถิงถิงรู้สึกไม่สบายใจ เธอบิดตัวด้วยความกระสับกระส่าย เย่ซิวยิ้มเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร และยังไม่คิดจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้เธอรู้ในตอนนี้รอให้มีเวลา เขาค่อยหาวิธีฝึกฝนเธอให้ดีเสียก่อนไม่นานถังอวิ้นก็กลับมา และหยางเฟิงก็กลับมาด้วยเช่นกันเย่ซิวพูดขึ้นก่อนที่หยางเฟิงจะทันได้เอ่ยปากว่า "ไปคุยกันที่ห้องทำงานของคุณเถอะ"หยางเฟิงพยักหน้า "เชิญตามฉันมา"ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องทำงาน หยางเฟิงล็อกประตู แล้วหยิบแฟ้มเอกสารหนาเตอะออกมาจากตู้เซฟ ยื่นให้เย่ซิว"นี่คือทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ในชื่อฉัน ตอนนี้มีมูลค่ารวมประมาณสองล้านหกแสนล้านบาท ผมจะขายทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เร็วที่สุดและจะเปลี่ยนมันเป็นทองคำ"เย่ซิวเปิดอ่านเอกสารเมื่ออ่านจบ เ
เย่ซิวเดิมทีก็แค่พูดคุยกับผู้หญิงคนนี้เล่น ๆ เท่านั้นแต่เมื่อได้รู้ว่าเธอเรียนสาขาอะไร และไม่มีคนในครอบครัวอีก เขาจึงคิดจะดึงตัวเธอไปทำงานด้วยถังอวิ้นนั้นเหมาะสมกับตำแหน่งผู้จัดการที่เขาต้องการในทุก ๆ ด้านเธอเองก็เป็นคนจากประเทศหลงเถิงเหมือนกัน ซึ่งสถานะที่ไร้พันธะใด ๆ ของเธอนั้นดูสะอาดสะอ้านในระดับหนึ่ง เย่ซิวจึงคิดจะพาเธอกลับไปที่สำนักโอสถตอนนี้ที่นั่นกำลังขาดบุคลากรที่มีความสามารถในการบริหารจัดการอย่างมาก เนื่องจากธุรกิจขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ จึงขาดแคลนทรัพยากรบุคคลระดับสูงเมื่อพูดออกไปเช่นนี้ ทั้งอลิสและถังอวิ้นต่างก็หันมามองเย่ซิวเป็นตาเดียวถังอวิ้นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยังคงตอบกลับอย่างสุภาพว่า “ขอโทษค่ะคุณผู้ชาย ฉันทำงานที่นี่มีความสุขมากแล้วท่านประธานและครอบครัวของพวกเขาก็ดีกับฉันมาก ตอนนี้ยังไม่มีความคิดที่จะย้ายออกไปค่ะ”“ผมให้เงินเดือนปีละห้าสิบล้านบาท” เย่ซิวพูดอย่างตรงไปตรงมา “และยังจะมอบบางสิ่งที่คุณคาดไม่ถึงให้อีกด้วย”ถังอวิ้นเป็นเพียงคนธรรมดา แต่ดูจากรูปลักษณ์ของเธอแล้ว เธอน่าจะออกกำลังกายเป็นประจำเย่ซิวสามารถช่วยเธอปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย ให้เปลี่
“นี่จะเป็นไปได้ยังไง?” หยางถิงถิงรู้สึกไม่เชื่อในตอนแรกแต่ในวินาทีต่อมา เธอก็เห็นฉากตรงหน้าและตกตะลึงจนแทบอาเจียน พลางปิดปากตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า “คุณปู่ นี่มันเรื่องอะไรกันคะ?!” หยางเฟิงส่ายศีรษะ พร้อมสั่งกำชับด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ตอนนี้...หลานพาเขากลับบ้านเราไปก่อน รอให้ปู่จัดการเรื่องตรงนี้เสร็จแล้วค่อยว่ากัน”“อะไรนะ?!” หยางถิงถิงถึงไม่พอใจในทันที “คุณปู่ล้อเล่นหรือเปล่าคะ? ให้หนูพาเขากลับบ้านเนี่ยนะ! นี่มันเหมือนเอาหมาป่าเข้าบ้านเลยนะคะ! คุณปู่ไม่กลัวเหรอว่าหลานสาวของคุณจะโดนไอ้หมอนี่รังแกหรือทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง?” หยางเฟิงหัวเราะเบา ๆ “ถ้ามีเรื่องแบบนั้นจริง ก็ดีสิ” หยางถิงถิง “???” สุดท้ายหยางถิงถิงก็ถูกบังคับให้พาเย่ซิวกลับบ้าน หยางเฟิงให้เธอเลือกสองทาง คือจะพาเย่ซิวกลับบ้าน หรือจะอยู่ช่วยกันยกศพอยู่ที่นี่ หยางถิงถิงตัดสินใจเลือกทางแรกทันที เธอขับรถเอสยูวีสุดหรู โดยมีเย่ซิวกับอลิสนั่งอยู่ด้านหลัง หยางถิงถิงเงียบไปตลอดทาง ไม่หยิ่งยโสเหมือนตอนที่อยู่กับหยางเฟิงก่อนหน้านี้เลย แถมเธอยังขับรถเร็วมากด้วยเหตุผลก็มีเพียงข้อเดียว เพราะจุดที่โด
ในขณะที่รู้สึกถึงพลังอันมหาศาลที่หลั่งไหลจากทุกอณูของร่างกายตนเองหลังจากการปลดปล่อยพลังออกมา หยางถิงถิงรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที เธอรู้สึกมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง สิ่งแรกที่เธอทำคือพุ่งเข้าไปหาเย่ซิว โดยหวังจะสั่งสอนเขาให้เข็ดหลาบที่ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจมานานหยางเฟิงที่เห็นแบบนั้นถึงกับหน้าซีด รีบตะโกนห้ามปรามทันที “ถิงถิง หยุดนะ!”แต่หยางถิงถิงนอกจากจะไม่สนใจคำห้ามปรามแล้ว เธอยังเร่งความเร็วขึ้นอีก “คุณปู่ไม่ต้องห่วงค่ะ หนูก็แค่จะสั่งสอนเขานิดหน่อย จะไม่ทำให้ถึงตายหรอก!”หยางเฟิงได้แต่ยกมือขึ้นกุมหน้า เขาไม่อยากมองเห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหยางถิงถิงยกมือขึ้นหมายจะตบใบหน้าเย่ซิวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมแต่ก่อนที่มือของเธอจะฟาดถึงใบหน้าเขา อยู่ดี ๆ เธอก็รู้สึกว่าเอวของเธอถูกเย่ซิวจับไว้แน่นแล้วร่างของเธอก็หมุนเคว้ง ก่อนตัวเธอจะถูกเย่ซิวหนีบไว้ใต้แขน“เพียะ!”เสียงฝ่ามือกระทบชัดเจนดังขึ้นในห้องหยางถิงถิงตัวสั่นเทิ้ม ใบหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำราวกับสีตับหมูทันที พลันกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น พร้อมดิ้นรนสุดชีวิต “ไอ้บ้า! นายกล้าตีฉันเหรอ! ฉันจะสับนายเป็นพัน ๆ ชิ้น!”หยางถิง
ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะสู้ชนะ แต่ก่อนหน้านั้นที่ถูกลอบโจมตี เขาก็สูญเสียคนไปถึงเกือบหนึ่งในสามเดิมทีในห้องโถงมีผู้มีพลังวิเศษมากกว่าหนึ่งพันคน แต่ตอนนี้เหลือเพียงสองร้อยกว่าคนเท่านั้น และแต่ละคนก็ล้วนบาดเจ็บทั้งสิ้นเย่ซิวปรบมือเบา ๆ ดึงดูดสายตาของทุกคน จากนั้นจึงกล่าวว่า “ต่อไปนี้ ผมหวังว่าทุกคนจะพูดตามผม ใครที่ไม่พูด ก็จะลงเอยเหมือนกับศพที่กองอยู่บนพื้นตรงนี้”ทุกคนรู้สึกหนาวสั่นไปถึงหัวใจ หลังจากได้เห็นความแข็งแกร่งของเย่ซิว ก็ไม่กล้าขัดขืนแม้แต่น้อย พากันพูดตามอย่างว่าง่ายหยางถิงถิงในตอนนี้ยังคงอยู่ในสภาพปิดกั้นตัวเอง ไม่มีสติรับรู้ จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเย่ซิวตั้งใจให้พวกเขาสาบานด้วยพันธสัญญาที่ร้ายแรงที่สุดตราบเท่าที่พวกเขาคิดจะเปิดเผยสิ่งใดเกี่ยวกับวันนี้ พวกเขาจะถูกกลืนกินทันทีและเสียชีวิต ณ ที่ตรงนั้นแม้แต่หยางเฟิงก็รวมอยู่ในนั้นด้วย เย่ซิวไม่เชื่อใจพวกเขา หากไม่สาบาน เขายอมฆ่าทิ้งทั้งหมดเสียดีกว่าหลังจากที่พวกเขากล่าวคำสาบานกันครบแล้ว ใบหน้าของเย่ซิวจึงปรากฏรอยยิ้มอีกครั้ง พร้อมกับสลายจิตสังหารที่แผ่ออกมาก่อนหน้าหยางเฟิงถอนหายใจโล่งอกทันที และรีบสั่งคนให้เริ่มเก
สีหน้าของแคสซี่ย์เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอย่างยิ่ง เธอพบว่าตัวเองไม่อาจประเมินความแข็งแกร่งของเย่ซิวได้เลยเมื่อนึกถึงตอนก่อนหน้านี้ที่เย่ซิวแทบไม่ต้องขยับตัว แต่กลับทำลายการโจมตีของเธอได้อย่างง่ายดาย ความคิดหนึ่งพลันก็ผุดขึ้นมาในหัว"หรือว่าคนที่ถูกทั่วทั้งเมืองตามล่าเมื่อไม่กี่วันก่อนก็คือนาย!"เย่ซิวไม่ได้ตอบคำถามของเธอ แต่กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ปล่อยหยางเฟิงไป แล้วผมจะให้คุณได้ตายอย่างมีศักดิ์ศรี"แคสซี่ย์หัวเราะเย้ยหยัน "ถึงนายจะเป็นคนคนนั้น แต่แล้วจะยังไงล่ะ? ที่นี่คือสมาคมผู้มีพลังวิเศษ!อีกอย่างหยางเฟิงยังอยู่ในมือฉัน ถ้านายไม่อยากให้เขาตาย ก็ยืนอยู่ตรงนั้นเฉย ๆ แล้วอย่าขยับตัว!"เย่ซิวหยุดอยู่ห่างจากเธอสามเมตร พร้อมเผยรอยยิ้มเย้ยหยันตรงมุมปาก "คุณลองเดาดูสิว่าทำไมผมถึงพล่ามเรื่องไร้สาระกับคุณมากมายขนาดนี้?""แย่แล้ว..."แคสซี่ย์เกิดความระแวดระวังขึ้นทันที โดยไม่ต้องหยุดคิดอีก เธอก็ชักมีดที่เสียบอยู่ในท้องของหยางเฟิงออกมา จากนั้นกระหน่ำแทงไปที่หัวใจของเขาอย่างแรง"พรวด!"เลือดพุ่งกระฉูดออกมาร่างของแคสซี่ย์ก็แข็งค้างอยู่ตรงนั้น เธอก้มลงมองช้า ๆ ก็พบว่าร่างกายของเธอถู
แคสซี่ย์ยกมือขวาขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนจะกดลงอย่างแรงพร้อมพูดว่า “ลงมือซะ! ฆ่าทุกคนที่เป็นคนของหยางเฟิง อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”"ฉึก ฉึก ฉึก!"เลือดพลันก็สาดกระเซ็น บางคนถูกโจมตีจากคนที่อยู่ข้าง ๆ อย่างไม่ทันตั้งตัวและเสียชีวิตในทันทีหยางเฟิงตกตะลึงและโกรธจัด เขาอยากจะต่อต้าน แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้เพียงมองดูพี่น้องร่วมชาติของเขาถูกฆ่าไปทีละคนด้วยสายตาเจ็บปวดเขาหลั่งน้ำตาเลือด เสียใจภายหลังเหลือจะกล่าวไม่เคยคาดคิดเลยว่าแคสซี่ย์จะโหดเหี้ยมและไร้ความปรานีถึงเพียงนี้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความโกลาหลในพริบตา“ไปเถอะ ถึงเวลาที่เราต้องแสดงบ้างขึ้นเวทีแล้ว”เย่ซิวจับมือของอลิส เดินไปข้างหน้าอย่างใจเย็นและมั่นคง พลังไร้รูปปกคลุมรอบตัวเขาในระยะสองเมตร ทำให้ทุกสิ่งที่เข้าใกล้ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือพลังวิเศษต่างๆ ล้วนถูกสะท้อนออกไปดวงตาของอลิสเปล่งประกายเจิดจ้า เธอหลงรักชายตรงหน้าอย่างหัวปักหัวปำเย่ซิวเดินไปถึงหน้าเวทีสำคัญ จับเชือกเส้นหนึ่งไว้ และส่งพลังวิญญาณอันทรงพลังและดุดันของเขาเข้าไปอย่างรุนแรงพลังนั้นเหมือนแม่น้ำที่เชี่ยวกราก ไหลทะลักอย่างไม่หยุดยั้ง สร