ศิษย์พี่น้องทั้งสองเดินเข้าไปข้างในอย่างระมัดระวังยิ่งเข้าไปลึกเท่าไร อากาศเย็นจากภายในที่ปล่อยออกมาก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้นเท่านั้น บังคับให้พวกเขาต้องถือเกราะวิญญาณหลังจากเคลื่อนตัวไปได้ระยะหนึ่ง ทันใดนั้นพวกเขาก็หยุดนิ่งอยู่กับที่แล้วก็เห็นเตียงน้ำแข็งแผ่นหนึ่ง บนนั้นมีสตรีผู้หนึ่งที่งดงามถึงขั้นทำให้สวรรค์และโลกสูญเสียสีสัน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์สูญเสียความสว่างแม้ว่าจะเกิดเป็นผู้หญิงเหมือนกันก็ยังมีความต้องการที่จะรับใช้ และอยู่เคียงข้างเธอตลอดไปหลังจากเห็นผู้หญิงคนนี้เซี่ยชิงชิงนิ่งอึ้งแบบเดียวกัน จนไม่ได้สังเกตว่าเย่ซิวหายไป กระทั่งถูกคุณลี่ปลุกให้ตื่นจากภวังค์“เย่ซิวล่ะ หายไปไหน?”ทันใดนั้นเซี่ยชิงชิงก็รู้สึกตัว มองไปรอบ ๆ สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป "จริงสิ เย่ซิวไปไหนแล้ว?"“พวกนายกำลังหาฉันอยู่งั้นเหรอ?”เสียงสบาย ๆ ดังมาจากด้านหลังเมื่อสักครู่นี้เย่ซิวฉวยโอกาสตอนที่เซี่ยชิงชิงถูกดึงดูดจากผู้หญิงบนเตียงน้ำแข็ง ใช้วิชาดําดินหลบหนีไปอย่างกะทันหัน วิ่งไปที่ทางเข้าถ้ำแล้วปิดถ้ำไว้ในขณะนี้ พวกเขาทั้งสามเห็นเย่ซิวปรากฏตัวจากด้านหลัง ทั้งหมดรู้สึกราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับศ
ทั้งสามยืนเรียงเป็นแถว จับตามองไปข้างหน้าอย่างจดจ่อเซี่ยชิงชิงพึมพำกับตัวเอง "ด้วยพลังทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ถึงเขาไม่ตายก็ต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน"อย่างไรก็ตามในวินาทีต่อมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปหลายก้าวจากนั้นก็เห็นเย่ซิวเดินออกมาจากการระเบิดโดยไม่ได้รับบาดเจ็บเย่ซิวตบฝุ่นบนร่างกายและพูดด้วยรอยยิ้ม "ยังมีความสามารถอะไรก็จงแสดงออกมา พวกนายคงไม่ได้มีวรยุทธ์เพียงแค่นี้มั้ง พลังแค่นี้ไม่ทำให้ฉันระคายผิวด้วยซ้ำ"“ทำไมนายถึงแข็งแกร่งขนาดนี้!” เซี่ยชิงชิงส่ายหัวอย่างแรงราวกับว่าตัวเองกำลังฝันไปจู่ ๆ คุณลี่ก็กัดปลายลิ้น บีบเลือดออกมาหนึ่งหยด และแสดงเคล็ดวิชาลับบางอย่างลมปราณที่ปล่อยออกมานั้นทรงพลังเป็นสองเท่าจากเมื่อก่อน บุกเข้าไปอีกครั้ง พร้อมกับแสงอันดุเดือดที่วาววับในดวงตา "ฉันไม่เชื่อหรอก ว่านายจะมีความสามารถท้าทายสวรรค์ได้จริง ๆ ระวังผ่าแสงโลหิต!"จับดาบด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วฟาดฟันไปข้างหน้าอย่างดุเดือดปราณดาบขนาดใหญ่ระเบิดออกมา ทำให้เกิดความผันผวนอันน่าสะพรึงกลัวเซี่ยชิงชิงก็เขย่าระฆังในมืออย่างบ้าคลั่ง คลื่นเสียงที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็แผ่กระจายออกไป
“อั่ก อั่ก อั่ก!”คุณลี่กระอักเลือด เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ห้าหกชิ้นไม่สามารถทำร้ายเย่ซิวได้เลย แต่กลับกลายเป็นว่าเขาได้ทุกอย่างไปหมดจากนั้นก็ใช้พลังวิญญาณที่ทรงพลังอย่างยิ่งเพื่อลบเครื่องหมายที่เขาทำไว้ จากนั้นก็เก็บมันไว้นี่คือการได้รับบาดเจ็บสาหัสสำหรับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย คนทั้งคนดูอิดโรย ยากที่จะยืนได้เขาหันไปมองผู้หญิงคนนั้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าว "ศิษย์น้องหญิงหนีไปเร็ว เขาก้าวข้ามระดับจินตานไปแล้วครึ่งหนึ่ง พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา"ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้วิ่งหนีไป แต่ถือกระบี่เล่มยาวเข้าโจมตีใส่เย่ซิวแม้ว่าเธอจะไม่ชอบศิษย์พี่ชายคนนี้ของตัวเอง แต่อย่างไรก็เป็นศิษย์ร่วมสำนัก ไม่สามารถหลบหนีไปเพียงลำพังได้ในเวลานี้เซี่ยชิงชิงไม่มีความปรารถนาที่จะเผชิญหน้ากับเย่ซิวอีกต่อไปโคจรพลังทั้งหมดไว้ที่เท้าทั้งสองข้าง หันหลังกลับและวิ่งหนีจนสุดชีวิตในตอนนี้มีเพียงความคิดเดียวในใจเท่านั้น นั่นคือวิ่งให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ชาตินี้จะไม่มีวันเจอหน้าเย่ซิวอีก และจะไม่แก้แค้นอีกแล้วอย่างไรก็ตามความคิดนั้นดี แต่ความจริงนั้นโหดร้ายอย่างยิ่งเสียงกระบี่ดังก้องในหู และในวินา
ฉับ ฉับ ฉับ!!ทันใดนั้นเย่ซิวก็ขยับมือควบคุมกระบี่ กระบี่หงส์โบยบินที่อยู่ห่างออกไปก็กลายเป็นลำแสงยิงเข้ามาวิชาคุมกระบี่ตึง ตึง ตึง!!!กระบี่หงส์โบยบินกลายเป็นลำแสงที่ไม่สามารถจับได้ด้วยตาเปล่า ปะทะกับหมาป่ายักษ์อยู่ตลอดเวลา กระแสเลือดสด ๆ พุ่งออกมาสำหรับร่างกายของผู้หญิงคนนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกันหลังของเธอมีปีกคู่หนึ่งที่กำลังลุกไหม้งอกออกมามือทั้งสองข้างเคลื่อนไหวคุมพลัง ควบแน่นกระแสพลังปราณกระบี่เพลิงโจมตีใส่เย่ซิวจากทุกทิศทางพรวด!ทันใดนั้น กระบี่หงส์โบยบินก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ตัดร่างหมาป่ายักษ์แยกออกเป็นสองท่อนทันทีจากนั้นร่างของเย่ซิวก็ปรากฏวับแวมอย่างต่อเนื่อง หลบการโจมตีของผู้หญิงคนนั้น ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเธอ และเตะเธอจนล้มลงร่างของผู้หญิงคนนั้นพุ่งออกไปราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ ชนต้นไม้ใหญ่หลายสิบต้นตลอดทางร่างนั้นยังไม่ทันหยุดนิ่งก็ถูกเย่ซิวที่ตามจากด้านหลังคว้าปีกข้างหนึ่งของเธอ แล้วโยนลงกระแทกพื้นอย่างแรงตูม!มีหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้นดินเสื้อผ้าของผู้หญิงคนนี้ขาดเป็นริ้ว เย่ซิวเหยียบหน้าอกของเธอ แล้วทรุดกายลงนั่ง“ยังมีความสามารถอะไรอี
“ฉันมาจากสำนักหุ่นเชิด ปัจจุบันนอกจากฉันและศิษย์พี่แล้ว ในสำนักยังมีอาจารย์หนึ่งท่านที่ปิดด่านบำเพ็ญเพียรมาหลายปีแล้วเขาบอกว่าเขาจะไม่ออกมาจนกว่าจะทะลวงระดับจินตานได้ แต่เวลาผ่านมานานหลายปี เป็นไปได้ว่าอาจจะตายในห้องลับแล้ว”เย่ซิวถามว่า "งั้นอาจารย์ของเธอก็เป็นปีศาจเหมือนกันเหรอ?"“หมายความว่ายังไงที่เหมือนกัน” หญิงสาวโกรธเล็กน้อย “เราไม่ใช่ปีศาจ แค่หลอมรวมกับสัตว์วิญญาณ ได้รับความสามารถบางอย่างของปีศาจมาก็เท่านั้น แก่นแท้แล้วยังคงเป็นมนุษย์”“โอ้?” เย่ซิวเริ่มสนใจ “อธิบายให้ละเอียดหน่อยสิ”ผู้หญิงคนนั้นถูบริเวณที่ถูกเย่ซิวเหยียบ ตอนนี้ยังคงรู้สึกเจ็บอยู่เล็กน้อย "ในอดีตยุคที่พลังวิญญาณฟ้าดินยังคงเข้มข้นอยู่ สำนักหุ่นเชิดจะจับปีศาจบางตัวที่มีวรยุทธ์แข็งแกร่งมาหลังจากฆ่าพวกมันแล้ว จะใช้วิธีการลับปรับแต่งร่างกายและวิญญาณให้เป็นสัตว์วิญญาณ แล้วหลอมรวมเข้ากับศิษย์ในสำนักเมื่อใดที่ทำสำเร็จก็จะได้รับความสามารถบางอย่างที่ปีศาจตัวนั้นมีตอนที่มันมีชีวิตตัวอย่างเช่น ความสามารถของศิษย์พี่ที่หลอมรวมเข้ากับหมาป่าเหล็กสีดำคือ ร่างกายแข็งแกร่ง บวกกับมีพละกำลังมหาศาลถ้าไม่ใช่เพราะกระบี่
หลังจากหญิงสาวสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เดินไปยังร่างของศิษย์พี่ซึ่งถูกผ่าครึ่งก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้กลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้งแววตาเธอเต็มไปด้วยความเศร้า ก่อนจะใช้มือขุดหลุมเล็ก ๆ ที่ด้านข้างและฝังเขาลงไปอย่างแผ่วเบาแม้ร่างกายของเซี่ยชิงชิงจะถูกแทงทะลุ แต่เย่ซิวก็เลี่ยงจุดสำคัญได้บวกกับพลังที่แข็งแกร่งของเธอทำให้บาดแผลเริ่มตกสะเก็ดทันที แต่เธอยังขยับตัวไม่ได้เท่านั้นเมื่อเห็นเย่ซิวเดินเข้ามา เซี่ยชิงชิงก็หลับตาลงอย่างยอมจำนน เธอนอนกางแขนขาอย่างไร้ซึ่งการต่อต้าน “ถ้าเห็นแก่หน้าพี่สาวฉันก็ช่วยฆ่าฉันให้ตายเร็ว ๆ เถอะ”เย่ซิวส่ายหัวพลางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะก้มลงอุ้มเธอขึ้นและพาไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปเขาฉีกเสื้อผ้าบริเวณหน้าท้องของเธอออกก่อนจะวางมือบนบาดแผลและใช้วิชาสมานบาดแผลเกิดแสงสีขาวสว่างวาบ บาดแผลเริ่มสมานตัวอย่างรวดเร็วจนไม่มีร่องรอยใด ๆ หลงเหลือเซี่ยชิงชิงลืมตาขึ้นพลางมองเขา “นายจะทำอะไรอีก? คิดจะจับฉันไปขังไว้เป็นทาสรึไง!”เย่ซิวมองออกไปไกลพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ที่จริงตอนแรกพวกเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลยนะ”เซี่ยชิงชิงเพียงแค่นเสียงหึแต่ไม่ตอบอะไรเย่ซ
เซี่ยชิงชิงกอดเย่ซิวแน่น พลางร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหัวใจแทบสลายราวกับต้องการระบายความแค้น ความน้อยเนื้อต่ำใจ และอารมณ์ด้านลบทั้งหมดที่สะสมมาหลายปีออกมาให้หมดสิ้นเย่ซิวลูบหลังเธออย่างแผ่วเบาในที่สุดก็จัดการผู้หญิงคนนี้ได้เสียทีพลังจิตของเขาจดจ่ออยู่ที่เซี่ยชิงชิงตลอดเวลาตั้งแต่เมื่อครู่จนถึงตอนนี้ พลังจิตของเซี่ยชิงชิงไม่มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติเลย ซึ่งหมายความว่าคำพูดของเธอมาจากใจจริงยิ่งไปกว่านั้น ในโลกนี้ไม่มีใครสามารถหลอกลวงเย่ซิวได้ ดังนั้นจึงเป็นที่แน่ชัดว่าเธอกลับตัวกลับใจอย่างแท้จริงแล้วหลังจากร้องไห้ไปราวห้าหกนาที เซี่ยชิงชิงก็หยุดลง ก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของตัวเองอย่างเขินอาย “ขอโทษที่ทำเสื้อนายเปื้อนนะ เดี๋ยวไว้ฉันจะชดใช้ให้”น้ำเสียงของเธอในตอนนี้นุ่มนวลขึ้น ไม่มีความดุร้ายเหมือนที่ผ่านมาแล้วเย่ซิวยิ้มพลางลูบหัวเธอเบา ๆ “ทุกอย่างผ่านไปแล้ว ต่อไปเราก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกันจริง ๆ แล้วนะ”“ครอบครัวเดียวกันงั้นเหรอ?” เซี่ยชิงชิงทวนคำนี้พลางเงยหน้ามองเย่ซิว “แล้วต่อไปเราควรอยู่กันแบบไหนล่ะ ยังไงนายก็…”“ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเธอ” เย่ซิวเชย
ไม่รู้ว่าเธอสบถด่าเย่ซิวในใจไปกี่รอบแล้วช่วงเย็น ทั้งสามคนก็ลงจากภูเขาก่อนจากไป เย่ซิวหยิบน้ำพลังวิญญาณผสมกับน้ำแร่บนภูเขารดลงบนพื้นดินที่เคยเป็นสนามรบอีกไม่นาน พืชพรรณเขียวชอุ่มจะงอกขึ้นมาและปกปิดร่องรอยการต่อสู้ทั้งหมดเซี่ยชิงชิงคล้องแขนเย่ซิวด้วยใบหน้าสดใสร่าเริงผิวพรรณเธอดูชุ่มชื้นเปล่งปลั่งเหมือนเป็นคนละคนเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ หลังจากที่เย่ซิวช่วยคลายปมในใจลงแล้ว เสน่ห์ของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดส่วนหญิงสาวจากสำนักหุ่นเชิดเดินตามอยู่เงียบ ๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะสิ่งที่เธอได้ยินก่อนหน้านั้นทำให้รู้สึกอึดอัดไม่น้อยจนตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกเหมือนเสียงนั้นยังก้องอยู่ในหูอยู่เลย…เมื่อมาถึงที่จอดรถ เย่ซิวก็เข้าไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ และให้เซี่ยชิงชิงเป็นคนขับรถแทนส่วนหญิงสาวจากสำนักหุ่นเชิดนั่งเบาะหลังอย่างไม่เต็มใจนักหลังจากรถเคลื่อนตัวแล้ว เย่ซิวก็เอ่ยถามโดยไม่หันกลับไปมอง “เธอชื่ออะไร?”“อวิ๋นเหยา”“เล่าเกี่ยวกับวิชาหุ่นเชิดของสำนักเธอให้ฟังหน่อยสิ ฉันค่อนข้างสนใจน่ะ”ก่อนหน้านี้ที่เห็นศิษย์พี่ของอวิ๋นเหยาใช้วิชาหุ่นเชิดนั้นช่างเหมือนจริงจนน่าท
หญิงสาวเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที “นายคิดจะไปทำธุระส่วนตัวงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน นายต้องพาฉันไปด้วยสิ!”“ผมจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย คุณก็ค่อย ๆ รักษาแผลตัวเองไปแล้วกันนะ ลาก่อน”พูดจบ เย่ซิวก็พังหน้าต่างออกไปพรีเอลล์วิ่งตามไปที่หน้าต่างแต่ก็มองไม่เห็นเงาของเย่ซิวแล้วสีหน้าของเธอขรึมลง จิตสังหารในตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายสิบองศา “คอยดูเถอะไอ้สารเลว ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งฉันจะทำให้แกคายทุกสิ่งที่เคยกินไปออกมา!”เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงบ้านของอลิส เธอก็ตื่นแล้วหลังจากที่อลิสตื่นขึ้นมาและพบว่าเย่ซิวหายไป เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรู้สึกจิตตกทันทีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…ตึง! ตนเองก็รู้สึกแปลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเย่ซิวแท้ ๆแต่เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมา เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที “นายไปไหนมา? ฉันนึกว่านายจะไปโดยไม่บอกลากันซะแล้ว”เย่ซิวยิ้มและกล่าวว่า “ผมไปทานข้าวมาน่ะ”อลิสไม่สงสัยแม้แต่น้อยพลางทำท่าทางกระอักระอ่วน “เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดีเอง นายมีเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหม หรือพวกเราควรไปซื้อตอนนี้เลยดี?”เย่ซ
พรีเอลล์เบิกตากว้าง “ฉันลืมอะไรไปเหรอ? อ้อ หรือว่านายอยากให้ฉันนอนกับนายอีกครั้ง? อย่างนั้นก็ได้ มาสิ”พูดจบเธอก็แสดงท่าทียินยอมพร้อมใจเย่ซิวยิ้มหยัน “ยังจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าผมอีกเหรอ? เอาสร้อยคอที่คุณเก็บไว้ออกมาให้ผมตรวจดูมูลค่าของมันเถอะ”สีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อันนั้น...ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของนายในตอนนี้คงจะสมเหตุสมผล เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”เย่ซิวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเธออย่างเงียบ ๆ และบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆเหงื่อเย็นหยดหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของพรีเอลล์เธอลอบกลืนน้ำลาย ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ เสียงกลืนน้ำลายนั้นจึงฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ“ก็ได้”ในที่สุด พรีเอลล์ก็ยอมแพ้และวางของลงตรงหน้าอย่างว่าง่ายเย่ซิวหยิบจี้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวังลองใช้พลังจิตแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยจากนั้นเขาได้ส่งผ่านพลังวิญญาณเข้าไป และจี้นั้นก็ปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาเย่ซิวรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือ ราวกับกำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่ก็ไม่ปานจินตานห้าสีสั่นสะเทือนขึ้นมา เย่ซิวระดมพลังธาตุไฟและส่งผ่านมันเข้าไปตัว
รอจนเย่ซิวได้ลิ้มรสความหวานและติดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้วค่อยบอกวิชาลับอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วให้เย่ซิวถึงเวลานั้น จอมมารโลหิตก็จะสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมเย่ซิวไว้ได้อย่างมั่นคงทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้นพวกอันธพาลที่เห็นเย่ซิวนิ่งเฉยก็โกรธจัด ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่เขาในมือแต่ละคนมีท่อเหล็กพร้อมแววตาที่ฉายแววอำมหิตเย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้า ๆ และใช้วิชาคัมภีร์มารโลหิตทันที!ตูม! ตูม! ตูม!เกิดแรงดูดมหาศาลจากฝ่ามือของเย่ซิว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของชายหนุ่มสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยองเลือดสด ๆ ไหลทะลักเข้าสู่ฝ่ามือของเย่ซิวหลังจากผ่านกระบวนการของวิชาคัมภีร์มารโลหิต มันก็แปลงสภาพกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์เย่ซิวเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในยุคโบราณจำนวนมากถึงเลือกเดินบนเส้นทางมาร เพราะมันทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เองเพียงแค่ไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่เขาได้รับมาก็เทียบเท่ากับการบำเพ็ญอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนหากเขาฆ่าคนในเมืองนี้ทั้งหมด…บางท
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้? เมื่อกี้ฉันเกือบจะโดนจับได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…บ้าจริง”พรีเอลล์ที่อ่อนแรงในอ้อมแขนของเย่ซิวยกสองนิ้วขึ้นมาบิดที่เอวของเขาอย่างแรงถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัส แต่แรงบิดของเธอก็ยังเจ็บเอาเรื่องไม่น้อยเย่ซิวยิ้มบาง ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร? หรือไปเจอคนใจบุญช่วยไว้ล่ะ”พรีเอลล์เบือนหน้าไปอีกทาง เธอไม่มีทางยอมบอกหรอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกจับได้ แต่ในจังหวะคับขันกลับถูกเลสเบี้ยนคนหนึ่งลากเข้าห้องน้ำไปและโดนผู้หญิงคนนั้นลวนลามไปไม่น้อยเลยถ้าพูดออกไปคงถูกเย่ซิวล้อไม่หยุดแน่“ช่างมัน รีบไปกันเถอะ”เย่ซิวพยุงตัวพรีเอลล์ขึ้นและพาเธอเดินออกจากบาร์ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องจัดการคือการแบ่งสมบัติจากการต่อสู้ครั้งนี้อีกในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรีเอลล์หนีจากหน่วยรบเขี้ยวพิษจำนวนมากได้อย่างไรทั้งที่เธอบาดเจ็บจากระเบิดและพลังที่เหลืออยู่ก็ลดลงเกือบครึ่ง การหนีรอดออกมาน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งไปกว่านั้น จากสภาพของเธอดูเหมือนจะไม่มีใครจับได้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำให้เย่ซิวยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกทั้งสองเดินออกจากบาร์ก่อนจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังมา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ