แชร์

บทที่ 683

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
เนื่องจากพลังของเฉินหลานเติบโตอย่างรวดเร็วเกินไป เธอจึงไม่อาจควบคุมมันได้

ผลที่ตามมาก็คือพลังอันป่าเถื่อนนั้นได้ทำลายเสื้อผ้าบนร่างกายของเธอทั้งหมด

หวังซวงหันหน้าหนีด้วยใบหน้าแดงก่ำ ฉากนี้ช่างน่ากระอักกระอ่วนจริง ๆ

เฉินหลานกรีดร้องลั่น แล้วขดตัวเป็นลูกบอลด้วยความอับอาย

ต่อหน้าคนนอกแบบนี้ อยากให้กระดากอายแค่ไหนก็กระดากอายแค่นั้น

เย่ซิวมีสีหน้าที่สงบมาก เขาพูดกับเฉินหลานว่า "ไปหาเสื้อผ้าใส่ที่ห้องก่อน"

เฉินหลานจากไปราวกับกำลังหลบหนี

เย่ซิวมองไปที่หวังซวงซึ่งหันหน้าหนีไป เผยเพียงแผ่นหลังที่สวยงามต่อหน้าเขาแล้วพูดกลั้วหัวเราะ “หันกลับมาเถอะ ถึงตาเธอแล้ว"

หวังซวงหันกลับมาด้วยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย ถามไปอย่างระมัดระวังว่า "ท่านอาจารย์ อีกเดี๋ยวฉันจะไม่เป็นแบบนั้นใช่ไหมคะ?"

“พูดยาก” เย่ซิวไม่ได้ยืนยันชัดเจน "ขึ้นอยู่กับว่าความสามารถในการควบคุมพลังของเธอเป็นยังไง"

หวังซวงยิ้มอย่างขมขื่น พูดอีกอย่างก็คือถ้าตัวเองควบคุมพลังได้ไม่ดีเสื้อผ้าของเธอก็จะระเบิดเหมือนเฉินหลาน

แต่ท้ายที่สุดเธอไม่ใช่คนธรรมดา จึงปลอบใจตัวเองอย่างรวดเร็ว

อย่างไรเสียนี่ก็เป็นอาจารย์ของตัวเอง คำโบราณพูดไว้ได้ดี อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 684

    พรสวรรค์ของผู้หญิงทั้งสองคนนี้ถือว่าอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น หากปราศจากการช่วยเหลือจากเย่ซิว ไม่มีทางที่พวกเธอจะประสบความสำเร็จในการทะลวงระดับได้เร็วขนาดนี้หลังจากใช้เวลาหลายชั่วโมง ก็ทำได้เพียงควบคุมคาถาในเบื้องต้น คิดที่จะเชี่ยวชาญมันและใช้มันอย่างชำนาญในสนามรบ ยังต้องฝึกฝนกันอีกมาก“เอาล่ะ ทั้งสองคนกลับไปบำเพ็ญตนเถอะ พยายามเชี่ยวชาญมันโดยเร็วที่สุด”ใครจะไปคิดเล่าว่าในสำนักโอสถเล็ก ๆ แบบนี้ นอกจากเย่ซิวแล้ว จริง ๆ ยังมีตัวตนระดับช่วงสร้างพื้นฐานอยู่อีกถึงสามคน ถ้าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มันจะทำให้เกิดความโกลาหลอย่างแน่นอนไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะพูดว่าแค่ความแข็งแกร่งของผู้หญิงทั้งสามคนนี้รวมกัน อย่างน้อยก็เทียบเท่ากองทัพหนึ่งหมื่นคนแล้วแถมยังเป็นกองทัพของประเทศใหญ่พวกนั้นที่ติดอาวุธครบครันอีกด้วยดวงตาของเฉินหลานเปล่งแสงที่ทำให้ผู้คนหวั่นไหว เธอถามเลียบ ๆ เคียง ๆ ไปว่า “นายท่าน คืนนี้ต้องการให้ฉันบำเพ็ญตนเป็นเพื่อนคุณที่นี่ไหมคะ?"เฉินหลานรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของตัวเองเพิ่มขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแล้ว ไม่แน่ระหว่างการบำเพ็ญตนกับเย่ซิว ตัวเองจะสามารถรุกได้มากกว่าแต่ก่อน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 685

    “มาแล้ว!”สองพี่น้องตะโกนขึ้นในใจพร้อมกัน ที่เดาไว้ก่อนหน้านี้ไม่ผิดเลย เย่ซิวมีความคิดกับพวกเธอจริง ๆแต่พวกเธอกลับไม่รู้สึกต่อต้านมันมากนักเดิมทีพวกเธอเข้าใจว่าตัวเองยืนอยู่บนจุดสูงสุดของวิทยายุทธ์แล้ว โดดเดี่ยวดุจหิมะ ในโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถเข้าตาพวกเธอได้อีกแม้แต่กษัตริย์ของประเทศปิงจือก็มีเพียงความเคารพต่อเขาเท่านั้นแต่เย่ซิวนั้นแตกต่างออกไป เขาดูเด็กมาก แต่ความสำเร็จที่เขาครอบครองนั้นกลับทำให้พวกเธอสองพี่น้องได้แต่แหงนหน้ามองอีกอย่างเขาก็หล่อมากด้วย มีบรรยากาศรอบตัวที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งผู้ชายคนไหนก็ไม่มีบวกกับทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ศัตรูกันภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ รวมกัน พวกเธอจึงไม่รู้สึกต่อต้านหากจะมีอะไรกับเย่ซิว กระทั่งยังตั้งตารอเล็กน้อยด้วยแต่ก่อนหน้านั้น ยังมีบางเรื่องที่ต้องเจรจาให้ชัดท้ายที่สุดสองสาวคือคนของประเทศปิงจือ จำเป็นต้องสู้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศของตนหนานกงเสวี่ยพูดด้วยรอยยิ้ม "ถ้าอย่างนั้นขอถามท่าน พวกเราต้องจ่ายด้วยอะไรคะ?"เย่ซิวพูดตรง ๆ "ผมต้องการโอสถสีชาดของพวกคุณ"สองพี่น้องชะงักกึก ในใจก็คิดว่า ‘แม่เจ้า ตรงขนาดนี้เลย?’แต่ที่น่าแปลกก็

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 686

    หลังจากบินมาได้เพียงไม่กี่นาที เย่ซิวก็ชี้ลงไปที่พื้นเบื้องล่าง“มองดูให้ดี ๆ ตอนนี้สำนักโอสถไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว”หญิงสาวทั้งสองเพ่งมองลงไปยังพื้นด้านล่างและต้องตกตะลึงอีกครั้งเบื้องล่างของพวกเธอเต็มไปด้วยทุ่งนาเรียงรายอย่างเป็นระเบียบด้วยการลงทุนมหาศาลของเย่ซิว พื้นที่ส่วนใหญ่ของสำนักโอสถเริ่มปลูกพืชได้แล้วในเวลาไม่ถึงสองเดือน แม้จะเป็นเวลากลางคืน แต่สำหรับผู้ที่มีพลังระดับปรมาจารย์แล้ว การมองเห็นย่อมไม่ใช่อุปสรรคพวกเธอจึงสามารถมองเห็นทุ่งนาเขียวขจีที่ทอดยาวออกไปได้อย่างชัดเจนเย่ซิวร่ายอาคมอีกครั้ง ก่อนที่กระบี่หงส์โบยบินจะลอยเคลื่อนตัวไปมันพาบินต่ำลงและเผยให้เห็นทุ่งนาที่เรียงรายเป็นแถบ ๆ อย่างชัดเจนขึ้นเย่ซิวยังสั่งซื้ออุปกรณ์ขนาดใหญ่มากมายจากต่างประเทศ รวมถึงเครื่องปลูกพืชแบบไร้คนขับและเทคโนโลยีล้ำสมัยอีกนับไม่ถ้วนเขาทุ่มเทลงทุนโดยไม่ลังเล เนื่องจากไม่ใช่คนที่มัวแต่ใช้เงินไปกับความสนุกสนาน แต่กลับมุ่งมั่นพัฒนาอย่างจริงจัง ผลลัพธ์จึงปรากฏให้เห็นได้อย่างรวดเร็วหลังจากพาสองสาวชมทั่วทั้งดินแดนแล้ว เย่ซิวก็เปิดเผยข้อมูลสำคัญที่ทำให้พวกเธอถึงกับตกตะลึง“เรื่องของผ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 687

    สองพี่น้องใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการอาบน้ำปกติแล้วพวกเธอจะอาบน้ำอย่างน้อยชั่วโมงหนึ่ง แต่ครั้งนี้พวกเธอไม่กล้าปล่อยให้เย่ซิวรอนานอีกอย่าง ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้พวกเธอก็เพิ่งแช่น้ำกันมาแล้วเมื่อทั้งสองเดินออกมาจากห้องน้ำ เย่ซิวก็ถึงกับตะลึงหญิงสาวสองคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ดูแล้วช่างสะกดสายตาเหลือเกินพวกเธอใช้ผ้าขนหนูพันกายไว้ แม้แต่ผ้าขนหนูผืนใหญ่ก็ยังไม่สามารถปกปิดรูปร่างที่สมบูรณ์แบบเกินไปของพวกเธอได้หมดยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าพวกเธอจะไม่ได้สวมอะไรไว้ข้างในเลย…ทั้งคู่เดินตรงมายังเย่ซิวอย่างมั่นใจโดยไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิดกลิ่นหอมเฉพาะตัวของทั้งสองคนลอยเข้ามาแตะจมูกถ้าจะเปรียบเทียบ พี่สาวมีกลิ่นหอมที่คล้ายเหล้าเก่า แค่ได้กลิ่นก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มส่วนน้องสาวคล้ายกับสุราที่ร้อนแรง ทั้งนิสัยและรูปร่างของเธอก็เร่าร้อนดั่งเปลวไฟแน่นอนว่าภาพนี้เกิดขึ้นเฉพาะตรงหน้าเย่ซิวเท่านั้นหากอยู่ข้างนอก พวกเธอคือเทพธิดาที่ใครก็ไม่กล้าล่วงเกินหนานกงเสวี่ยเม้มริมฝีปากอวบอิ่มเล็กน้อยก่อนเอ่ยขึ้น “คุณต้องการทำที่ห้องรับแขก หรือว่า…”“ไปที่ห้องผมดีกว่า”สองพี่น้องพยักหน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 688

    แต่ไม่นานพวกเธอก็เริ่มเสียใจครั้งนี้การฝึกฝนของเย่ซิวหนักหน่วงกว่าเดิมจนในตอนท้ายทั้งสองแทบจะรับไม่ไหวหนึ่งชั่วโมงต่อมา สองพี่น้องก็เดินออกมาจากห้องของเย่ซิวพร้อมสีหน้าที่ดูแปลก ๆ และท่าทางที่…เหล่าทูตจากประเทศปิงจือที่อยู่ใกล้ ๆ ต่างก็พอจะเดาได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น พวกเขาต่างอิจฉาเย่ซิวจนแทบระเบิดกุหลาบทองคำที่ผู้ชายมากมายใฝ่ฝัน ตอนนี้กลับถูกชายคนเดียวเก็บเกี่ยวไปพร้อมกันเสียนี่หลังจากสองสาวกลับไปแล้ว เย่ซิวก็เรียกหวังซวง เฉินหลาน และฉีฉูฉู่มาพบเพื่อบอกความตั้งใจที่จะเดินทางกลับฉีฉูฉู่ลอบยิ้มด้วยความโล่งใจ ในที่สุดผู้ชายคนนี้ก็จะไปเสียที เธอจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเขาทุกวันอีกส่วนหวังซวงกับเฉินหลานกลับแสดงความอาลัยและพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาเปลี่ยนใจอยู่ต่อเย่ซิวยิ้มพลางเอ่ย “ผมไม่ได้จะไปแล้วไปเลยเสียหน่อย โดยเฉพาะเธอ”เขาหันไปทางหวังซวง “เธอเป็นศิษย์คนเดียวของฉัน เธอต้องตั้งใจบำเพ็ญตนให้ดีถ้าครั้งหน้าที่เจอกันแล้วพลังเธอยังไม่พัฒนาไปไหนฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่”หวังซวงพยักหน้าอย่างหนักแน่น “อาจารย์ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันจะพยายามบำเพ็ญตนอย่างเต็มที่ และจะไม่ทำให้อาจารย์ผิดห

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 689

    ไป๋อวี้เจี๋ยไม่สนใจว่าจะมีคนรอบตัวมากแค่ไหน เธอกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของเย่ซิวทันที“คุณไปนานมากขนาดนี้ฉันคิดถึงคุณจะแย่แล้วเนี่ย”เสียงนุ่มนวลของไป๋อวี้เจี๋ยที่แฝงความออดอ้อนผสมกับสัมผัสอ่อนนุ่มของเธอทำให้เย่ซิวรู้สึกอบอุ่นในหัวใจเขาลูบศีรษะเธอเบา ๆ พลางสูดกลิ่นหอมของแชมพูจากเส้นผมของเธอก่อนจะยิ้ม “เดี๋ยวคืนนี้ไปหานะ”“ค่ะ” ไป๋อวี้เจี๋ยยิ้มหวาน ก่อนจะคลายอ้อมกอดออกผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจหญิงผู้แข็งแกร่งในเมืองหลวงกลับแสดงท่าทีเหมือนลูกแมวเชื่อง ๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่ซิว“ไม่เจอกันนานนะคะคุณเย่” เสวี่ยเหมยเอ่ยพร้อมกับโค้งตัวเล็กน้อย น้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความนอบน้อมจากเรื่องราวที่เธอได้ฟังจากปากเพื่อนสนิทว่าเดือนที่แล้วเย่ซิวได้ทำอะไรไปบ้างทำให้เธอยิ่งเคารพเขามากขึ้นและเพราะการกลับมาของเขาครั้งนี้ นั่นหมายความว่า…เธอลังเลเล็กน้อย ก่อนที่เสวี่ยเหมยจะเอ่ยถามแทน “คุณเย่คะ ตอนนี้หกตระกูลใหญ่ก็…”เย่ซิวตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “พวกเขาไม่อยู่แล้ว”คำพูดธรรมดาของเขากลับทำให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงทำให้เสวี่ยเหมยถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอมองเย่ซิวด้วยสายตาที่ผสมผ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 690

    เสวี่ยเหมยอยากจะเถียงกลับแต่เธอก็ไม่รู้จะพูดยังไงดีเธอกับหลิวคุนเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กจริงในอดีตเธอยอมรับว่าพวกเธอเคยสนิทกันเหมือนพี่น้อง และเธอก็เคยมีความรู้สึกดี ๆ ต่อรุ่นพี่คนนี้ด้วยแต่หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้นเธอค้นพบว่าแม้ภายนอกเขาจะดูเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ข้างในกลับเต็มไปด้วยความสกปรก และเขายังเคยทำเรื่องน่ารังเกียจหลายอย่างนี่คือเหตุผลที่เธอเลือกที่จะตีตัวออกห่างจากเขาแต่ใครจะคิดว่าหลิวคุนจะกลับมาหาเธออีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อนแม้เขาจะไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ แต่เสวี่ยเหมยก็รู้ทันทีว่าเขาคิดอะไรอยู่ เขาต้องการตามจีบเธอนั่นเองเย่ซิวมองผู้ชายที่ดูดีแค่ภายนอก แต่ภายในกลับไม่เป็นเช่นนั้น ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณคิดว่าตัวเองคู่ควรจะจับมือกับผมเหรอ?”เย่ซิวไม่ใช่คนที่จะเสแสร้งต่อหน้าคนที่เขาไม่ชอบอยู่แล้วเมื่อเขารับรู้ถึงความเป็นศัตรูจากชายคนนี้ เย่ซิวจึงไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทอีกต่อไปและด้วยพลังที่เขามีในตอนนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ความรู้สึกของใครแววตาของหลิวคุนฉายความไม่พอใจออกมา ก่อนที่เขาจะคิดในใจว่าหมอนี่ช่างอวดดีจริง ๆ ไม่รู้จักกลัวตาย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 691

    “ตอนนี้ท่านสุขภาพไม่ค่อยดีนัก การที่ท่านส่งพี่มาหาน้องครั้งนี้มีจุดประสงค์เดียวคือหวังว่าน้องจะยอมแต่งงานกับพี่เพื่อเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของท่าน”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของเสวี่ยเหมยก็ซีดเผือดทันที เธอถอยหลังไปครึ่งก้าวพร้อมส่ายหน้าสุดแรง “เป็นไปไม่ได้ ท่านอาจารย์ไม่มีทางพูดแบบนี้แน่!”หลิวคุนทำหน้าเศร้า ก่อนจะหยิบซองจดหมายจากกระเป๋าเสื้อส่งให้เธอ “นี่คือจดหมายที่ท่านอาจารย์เขียนด้วยลายมือตัวเอง น้องลองอ่านดูเองเถอะ”เสวี่ยเหมยคว้าจดหมายมาเปิดอ่านอย่างรีบร้อนเมื่ออ่านจบ ร่างกายของเธอก็เย็นเฉียบไปทั้งตัวนี่คือลายมือของท่านอาจารย์จริง ๆ และยังมีตราประทับของท่านกำกับไว้อีกด้วยเนื้อหาในจดหมายบอกว่าท่านอาจารย์เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว และปรารถนาที่จะได้เห็นศิษย์รักแต่งงานก่อนสิ้นลมในใจของหลิวคุนเต็มไปด้วยความยินดี แต่เขายังคงแสร้งทำหน้าเศร้าและเอ่ยต่อ “ท่านอาจารย์รักน้องมาตั้งแต่ยังเด็กมีอะไรดี ๆ ท่านอาจารย์ก็นึกถึงน้องก่อนเสมอตอนนี้น้องก็ประสบความสำเร็จแล้ว แต่น้องก็ยังต้องฟังท่านอาจารย์อยู่ เพราะนี่คือความปรารถนาสุดท้ายของท่าน เราจะฝ่าฝืนไม่ได้”เสวี่ยเหมยกัดฟันแน่

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1034

    ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งที่เคยดูทรงพลังและน่าเกรงขาม ตอนนี้กลับดูซูบเซียวและอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัดมันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ดันไปหาเรื่องกับเย่ซิวซึ่งเป็นตัวอันตรายเข้าหากรู้แต่แรกว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ มันคงเลือกที่จะเงียบและทำตัวเป็นม้าโปร่งแสงไปเสียตั้งแต่ต้นวิชาแปรมังกรขั้นที่สามต้องบำเพ็ญให้เกิดกรงเล็บมังกร หางมังกร และเขามังกรขึ้นมาเย่ซิวไม่มีทางหยุดแน่นอน โอกาสแบบนี้ถ้าพลาดไปก็คงไม่มีวันหาได้อีกหนึ่งวันผ่านไป เขาก็ฝึกขั้นที่สามสำเร็จตอนนี้เขากลายเป็นมังกรทองในร่างมนุษย์ไปแล้วกรงเล็บมังกรสีทองแหลมคมราวกับสุดยอดศาสตราวุธ สามารถฉีกกระชากทุกสิ่งได้อย่างง่ายดายเขามังกรทั้งสองเส้นชี้ขึ้นฟ้า และมันไม่ได้มีไว้แค่ประดับเท่านั้นแต่มันช่วยเพิ่มการรับรู้และเร่งการดูดซับพลังจากฟ้าดินอีกด้วยส่วนหางมังกรก็มีประโยชน์ไม่น้อยมันเปรียบเสมือนแขนที่สามของเขา สามารถใช้เป็นอาวุธลับในสถานการณ์สำคัญได้และพอจะก้าวไปสู่ขั้นที่สี่ เขาก็ต้องใช้พลังงานมากกว่าขั้นที่สามถึงสิบเท่าเย่ซิวก้มลงมองม้าศึกเพลิงน้ำแข็งและพบว่าตอนนี้มันผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก คงใกล้จะหมดสภาพเต็มทีแ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1033

    เย่ซิวค้นพบว่าภายในเสาทั้งสิบสามต้นนี้ฝังอะไรบางอย่างที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ อาจเป็นค่ายกลหรืออย่างอื่นที่ซับซ้อนกว่านั้นพวกมันเชื่อมโยงกับสิ่งที่อยู่ใต้ดินและคอยดูดซับพลังจากร่างของมันจากนั้นก็ใช้พลังเหล่านั้นกดมันเอาไว้มันคล้ายกับเครื่องสูบน้ำที่ดูดน้ำจากบ่อขึ้นมาแล้วเทกลับลงไป วนเวียนเป็นวงจรซ้ำไปซ้ำมาจากนั้นเย่ซิวก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถแอบขโมยพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งได้หรือเปล่าหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจลองดูเจ้าแก่นี่เกือบทำให้เขาตกอยู่ใต้อำนาจมัน ถ้าไม่เอาคืนบ้างก็คงรู้สึกขัดใจไม่น้อยคิดได้ดังนั้น เย่ซิวก็วางมือลงบนเสาต้นหนึ่งก่อนจะเร่งพลังวิชาแปรมังกรทันทีศาสตร์นี้สามารถกลั่นพลังงานทุกประเภทในโลกให้เป็นของตนเองได้ทันทีที่เริ่มใช้งาน ฝ่ามือของเขาก็เกิดแรงดูดอันทรงพลังและดูดซับพลังวิญญาณบริสุทธิ์จำนวนมากจากเสาศิลาวิญญาณเสาเองก็ตอบสนองโดยการเร่งดูดพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งมากขึ้นดวงตาของเย่ซิวเปล่งประกายขึ้น พร้อมกับที่เขาพยายามรักษาสมดุลเอาไว้ในขณะที่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งถึงกับสบถออกมา พลังที่มันปลดปล่อยออกมานั้นเต

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1032

    แค่เสาทั้งสิบสามต้นนี้ก็มีมูลค่ามหาศาลแล้วเทียบได้กับทรัพย์สินทั้งหมดของเย่ซิวก่อนที่เขาจะเริ่มบำเพ็ญวิชาเก้าวัจนะลึกลับเลยทีเดียว“นั่นคืออะไรน่ะ? ฉันรู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าในร่างกายเลย” พรีเอลล์จ้องมองเสาศิลาวิญญาณเหล่านั้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสนจากนั้นเธอก็ก้าวเดินไปข้างหน้าแต่ถูกเย่ซิวขวางเอาไว้สีหน้าของสองพี่น้องดูแปลกไปเหมือนถูกอะไรบางอย่างครอบงำในขณะที่โซเฟียกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น“จงตื่น!”เสียงของเย่ซิวดังขึ้นเบา ๆ สองพี่น้องได้สติทันที พร้อมกับเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นเต็มตัว“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”“เมื่อกี้เหมือนฉันถูกควบคุมเลย”เย่ซิวใช้พลังเนตร มองทะลุผ่านพื้นลงไปสายตาของเขาค่อย ๆ เจาะลึกลงไปนับพันเมตร จนกระทั่งพบว่าที่ใต้ดินลึกลงไปมีค่ายกลขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ภายในค่ายกลนั้นขังบางสิ่งเอาไว้มันคือม้าศึกตัวหนึ่งที่สูงเกือบสองเมตร ทั้งร่างขาวโพลนราวหิมะบนหัวมีเขาเกลียวชี้ขึ้นด้านบนกีบเท้าทั้งสี่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีขาวดวงตาของมันลึกลับดุจห้วงเหวลึกทันใดนั้นเอง ม้าศึกตัวนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเย่ซิวเข้าเต็ม ๆโครม!เย่ซิวรู้สึกเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1031

    “ข้างในมีของสำคัญสำหรับฉันมาก ฉันเข้าไปด้วยได้ไหม?”เสียงของโซเฟียไพเราะจับใจเหมือนกับเสียงน้ำพุใสกระทบหิน มีความลึกซึ้งและก้องกังวานแค่เสียงของเธอก็ทำให้ผู้ชายมากมายหัวใจเต้นแรงได้แล้วเย่ซิวมองหญิงสาวที่สวยจนดูราวกับภาพลวงตาตรงหน้า “ถ้าปล่อยให้เธอเข้าไปแล้วฉันจะได้อะไร?”“บนตัวนายมีป้ายอันหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยร้าว เอามาให้ฉัน แล้วฉันจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิม”เย่ซิวมีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากแหวนผนึกของมันเป็นของที่ตกมาจากเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นตอนที่เขาช่วยเธอเอาไว้ตอนนั้นเขาไม่ได้สังเกตว่ามันมีค่าอะไรเลยเก็บมันไว้ก่อนจากนั้นเขาก็ยื่นมันให้โซเฟียเธอวางมันลงบนฝ่ามือ ก่อนจะกดมือทั้งสองข้างเข้าหากันแสงสีขาวสว่างออกมาจากรอยต่อของมือและคงอยู่เช่นนั้นต่อเนื่องเป็นสิบกว่าวินาทีพอเธอคลายมือออกก็มีแผ่นหยกเรืองแสงอ่อน ๆ ปรากฏอยู่ในฝ่ามือเย่ซิวรับแผ่นหยกนั้นมาแนบไว้ที่หว่างคิ้วจากนั้นก็มีข้อมูลมากมายก็ไหลทะลักเข้าสู่สมองของเขาก่อนจะปรากฏเป็นเคล็ดวิชาหนึ่งขึ้นมาในหัวเขาทันทีวิชาแปรมังกร!เป็นศาสตร์ฝึกฝนที่ลึกล้ำเป็นอย่างยิ่งตามเนื้อหาที่บันทึกไว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1030

    แค่กระบี่นี้ หากเล็งไปที่เมืองสักแห่ง เมืองนั้นคงถูกทำลายจนสิ้นในพริบตาหากฟันกระบี่นี้ออกไปอีกไม่กี่ครั้ง ประเทศจ้านฉงตี้คงได้รับความเสียหายอย่างหนักจนยากจะฟื้นตัวหรือไม่แน่ อาจถูกประเทศจ้านอิงตี้ฉวยโอกาสเข้ายึดครองไปเลยก็ได้อย่าดูแค่ภายนอกว่าทั้งสองประเทศเหมือนพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงจุดอ่อนขึ้นมา อีกฝ่ายจะต้องฉวยโอกาสกลืนกินอย่างแน่นอนเย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยซากโบราณสถานแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาจริง ๆเขาใช้วิชาอัดปราณกระบี่ไปถึงเก้าครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้เย่ซิวเก็บกระบี่หงส์โบยบิน โดยไม่สนใจคนรอบข้างที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเขาประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน แสงสีทองสว่างไสวเหมือนเปลวเพลิง ก่อนที่ร่างขนาดมหึมาจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นด้านหลังเขาตู้ม!ตู้ม!ตู้ม!เมื่อร่างที่ทรงพลังและครอบงำทุกสิ่งจนแทบไร้เทียมทานปรากฏขึ้นท้องฟ้าอันแจ่มใสพันลี้พลันถูกปกคลุมด้วยเมฆดำมืดในทันทีไม่ต้องพูดถึงคนรอบข้างที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้เลยแม้แต่จักรพรรดิหมีเหล็ก ที่อยู่ห่างออกไปกว่าหลายมันไมล์ และกำลังชมวิดีโออยู่ ยังสัมผัสได้ถึงพลังอันหนักอึ้งและกดดันมหาศ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1029

    ร่างกายของโซเฟียเย็นเล็กน้อยสัมผัสคล้ายกับการบีบเยลลี่เมื่อเผชิญกับสายตาแข็งกร้าวของเย่ซิว เธอกลับแสดงออกอย่างสงบนิ่ง“คุณเป็นคนของโลกนี้หรือเปล่า”โซเฟียไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงแค่มองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกเคย์ฟี่ที่เห็นฉากนี้ เกิดความอิจฉาขึ้นมาเป็นครั้งแรกทำไมตัวเธอพยายามสารพัด แต่เย่ซิวกลับไม่ยอมมองเธอแม้แต่แวบเดียวขณะที่โซเฟียเพียงแค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แต่กลับได้รับความสนใจจากทุกคน“ไม่พูดสินะ?” เย่ซิวเพิ่มแรงบีบที่ปลายคางของเธอเล็กน้อยผิวของเธอบอบบางเกินไป เพียงบีบเบา ๆ ก็เกิดรอยช้ำขึ้นมาแล้ว“ถ้าไม่พูดก็ถือว่ายอมรับ ผมจะฆ่าคุณ”เย่ซิวไม่ได้ขู่เธอในขณะนั้น ความกระหายสังหารพลันปะทุขึ้นในใจของเขาแต่ทันทีที่ความคิดฆ่าฟันเกิดขึ้น เขากลับสัมผัสได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวหญิงสาวภายในร่างกายของเธอ มีบางสิ่งที่น่ากลัวซ่อนอยู่หากเธอเผชิญกับอันตรายจริง ๆ สิ่งนั้นจะถูกกระตุ้นออกมาเองเย่ซิวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือจากเธอ ความตั้งใจจะฆ่าที่แผ่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ หายไปเขาไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเธอ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฆ่าเธอทันทีที่เจอหน้าเย่ซิวเดินผ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1028

    ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวสุดขีด พลังของอ็อคก็พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งแรงกดดันจากร่างกายของเขารุนแรงจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้สนับสนุนอ็อคหลายคนเผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ เมื่อเห็นว่าเขาสามารถทะลวงขีดจำกัดได้อีกครั้งภายใต้ความโกรธในตอนนี้ พลังที่แผ่ออกมาจากอ็อคเทียบเท่ากับระดับจินตานขั้นสมบูรณ์ ตัวเขาเองก็เต็มไปด้วยความดีใจสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง อ็อคเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลับมาอยู่เหนือทุกสิ่งอีกครั้งสองข้าวิ่งทะยาน ความเร็วพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนทะลุกำแพงเสียงในพริบตาร่างของเขาพุ่งเข้าหาเย่ซิวราวกับอุกกาบาตที่ลุกไหม้เต็มไปด้วยพลังแห่งความบ้าคลั่งและไร้เทียมทานแต่แม้จะต้องเผชิญกับการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เย่ซิวก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับจนกระทั่งอ็อคใกล้เข้ามา เขาถึงได้เอ่ยออกมาเพียงคำเดียว“หยุด!”วาจาศักดิ์สิทธิ์!อ็อคที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดก็พลันหยุดนิ่ง ถูกพลังบางอย่างตรึงร่างไว้โดยสมบูรณ์ เขาหยุดอยู่ห่างจากเย่ซิวเพียงครึ่งเมตรเท่านั้นในดวงตาของอ็อคเต็มไปด้วยความมึนงงและไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเย่ซิวยื่นมื

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1027

    พลังแห่งปฐพี!พลังแห่งปฐพีในรัศมีร้อยลี้ถูกอ็อคควบคุมและรวบรวมเข้าสู่ร่างกายของเขาทำให้หมัดที่ปล่อยออกมาทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุดผู้คนรอบข้างพากันยกมือขึ้นปิดหูโดยสัญชาตญาณบางคนที่พลังอ่อนแอกว่าถึงกับเลือดไหลออกจากเจ็ดทวาร ร่างกายสั่นสะท้านจนควบคุมตัวเองไม่ได้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!ให้ความรู้สึกราวกับมีระเบิดเอชระเบิดขึ้นข้าง ๆดวงตาของอ็อคเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นและความกระหายในเลือดเขาเชื่อมั่นว่าหมัดนี้ ต่อให้เย่ซิวแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงรับไว้ไม่ได้ และต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอนเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเย่ซิว หวังจะเห็นความหวาดกลัวแต่เขากลับต้องผิดหวังดวงตาของเย่ซิวลึกดั่งบ่อน้ำเย็นยะเยือกที่ไม่มีจุดสิ้นสุดไม่ว่าโลกภายนอกจะโหมกระหน่ำเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เกิดระลอกคลื่นใด ๆ ได้เย่ซิวขยับแล้วมือขวากำหมัดแน่นเผชิญหน้ากับหมัดที่สามารถทำลายท้องฟ้าของอ็อค เขาใช้พลังเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้นตู้ม!สองหมัดปะทะกัน ก่อให้เกิดเสียงดังกึกก้องสะเทือนฟ้าดินจากนั้นก็เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยแต่อ็อคกลับเริ่มแตกสลายจากหมัดของตัวเอง และรอยแตกนั้นลามขึ้นไปทั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1026

    เมื่ออ็อคเข้าใกล้ แรงกดดันอันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้พูท พรีเอลล์ และเคย์ฟี่ถึงกับสะดุ้ง หายใจติดขัดราวกับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูร้าย!"เย่ซิว! นายมาที่นี่ทำไม? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายควรมา!"เสียงของอ็อคดังกึกก้อง ราวกับฟ้าร้อง"หลีกไป อย่ามาขวางทางฉัน"เย่ซิวพูดอย่างไม่ไว้หน้า ขณะที่ยังคงจับจ้องไปที่โซเฟียเขากำลังคาดเดาว่าเธออาจจะมาจากโลกภายนอกนี่เป็นความเป็นไปได้ที่เขาคิดว่าน่าเชื่อถือที่สุด"อวดดีนัก! อยากตายรึไง!""เย่ซิว! ที่นี่ไม่ใช่สำนักโอสถ และไม่ใช่ประเทศหลงเถิงด้วย! นายมาคนเดียว อย่าทำตัวอวดดีให้มากนัก!""ใช่! ไม่งั้นนายอาจจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่!"……เหล่าผู้ติดตามของอ็อคต่างพากันล้อมเย่ซิว สีหน้าของแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรและความเย็นชาถ้าเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน พวกเขาคงไม่กล้าพูดจาแบบนี้กับเย่ซิวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วการปรากฏตัวของอ็อคทำให้พวกเขามั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้นเพราะพวกเขาเคยเห็นฝีมือของอ็อคมาก่อน จึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขามั่นใจ แม้แต่เย่ซิวมาเอง อย่างมากก็คงทำได้เพียงเสมอกันยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status