“นวดให้ผมหนึ่งนาที ผมให้ห้าพันบาท”หนึ่งประโยคง่าย ๆ ก็ทำให้การป้องกันทั้งหมดของชูตงพังทลายลงในฐานะบุคคลที่มีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะซื้อบ้านในเมืองหลวง เธอไม่ต้องการที่จะพลาดโอกาสใด ๆ ในการสร้างรายได้เธอที่แต่เดิมดุร้ายและมุ่งมั่น สีหน้าก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลงและลังเลใจมากเย่ซิวรู้สึกขบขันมากเมื่อเห็นเธอที่เป็นแบบนี้ "ให้เพิ่มอีกสองพันห้าร้อยบาท ชักช้าก็ไม่ต้องเอาแล้ว"สายตาที่โกรธเคืองจับจ้องไปทางเย่ซิว "คุณพูดคำไหนคำนั้นหรือเปล่า?""แน่นอนว่าพูดคำไหนคำนั้น"ชูตงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปหาเย่ซิวมีโอาสให้ทำเงินแล้วไม่ทำก็คือคนโง่แล้ว ถือเสียว่านวดให้หมาแล้วกันในใจเธอคิดแบบนี้มือเรียวขาวและเรียบเนียนคู่หนึ่งวางลงบนไหล่ของเย่ซิว บีบพวกมันด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดวางโทรศัพท์ไว้ข้าง ๆ แล้วเปิดการจับเวลาชูตงมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ ปากก็พึมพำอะไรบางอย่างเสียงเบาเย่ซิวได้ยินอย่างชัดเจนว่าเธอกำลังพูดไม่ดีเกี่ยวกับตัวเองแต่เขาไม่ถือสา ผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางหนีไปจากเงื้อมมือของตัวเองได้“โอเคหรือยัง? ฉันเจ็บมือไปหมดแล้ว”ชูตงยู่ปาก ริมฝีปากสีชมพูนั้นดูน่าดึงดูดอย่างมากมองดูเวล
แต่สำหรับเธอแล้วกลับเป็นเรื่องดีสองพ่อลูกเดินเข้าไปในห้อง ก็เห็นเย่ซิวนั่งอยู่ตรงนั้นไม่มีออร่าที่ทรงพลังใด ๆ เล็ดลอดออกมา แต่กลับทำให้คนไม่กล้าที่จะดูถูกเขาดวงตาของเด็กสาวเปล่งประกายมากยิ่งขึ้นแม้ว่าเธอจะเคยเห็นรูปถ่ายของเย่ซิวมาก่อน แต่พอได้มาเจอตัวจริงแล้ว เธอก็ยังอดไม่ได้รู้สึกทึ่งผู้ชายคนนี้ อาศัยแค่รูปลักษณ์ภายนอกก็ไร้เทียมทานแล้วไม่กล้าพูดเต็มปากว่าชนะใจคนทุกวัย อย่างน้อยกับเด็กสาวที่อายุยี่สิบห้าปีลงไป มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถต้านทานเสน่ห์ของใบหน้านี้ได้ดวงตาของเด็กสาวฉายแววลุ่มหลง เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อนจนกระทั่งพ่อของเธอถอยกลับมาอย่างเงียบ ๆ ถึงได้กลับมามีสติอีกครั้ง และรู้สึกเขินอายเล็กน้อย "สวัสดีค่ะคุณเย่ ฉันชื่อเหมยเสี่ยวหยวนจากตระกูลเหมยแห่งหวู่เฉิง นี่คือพ่อของฉันเหมยเอ๋า"เย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อย "เชิญนั่ง"สองพ่อลูกนั่งลงตรงข้ามเย่ซิว ชูตงก็มายืนอยู่ข้างหลังเย่ซิว จ้องไปที่ศีรษะของเขาเขม็ง อยากที่จะเคาะมันแรง ๆ สักหลาย ๆ ครั้งเมื่อสักครู่นี้เดิมตัวเองอยากที่จะแก้แค้น ใครจะคิดว่าสุดท้ายจะโดนผู้ชายคนนี้เอาเปรียบอีกหลายครั้งมากโชคด
เหมยเสี่ยวหยวนมองไปที่เย่ซิวอย่างคาดหวังเธอคิดว่าตัวเองเพียบพร้อมในทุกด้าน สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลก แถมยังเคยเข้าบริหารจัดการบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง และไม่เคยมีแฟนอีกด้วยไปเป็นนายหญิงของตระกูลใหญ่ ๆ เรียกได้ว่าเกินพอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแค่เป็นสาวใช้ข้างกายเย่ซิวแต่เย่ซิวกลับหัวเราะอย่างเจื่อน ๆ "ให้คุณใช้เงินหนึ่งแสนล้านบาทแลกกับสาวใช้หนึ่งคน คุณจะเอาไหมล่ะ? หรือตัวเธอฝังด้วยทองหรือหยกกันล่ะ?"เหมยเสี่ยวหยวนรู้สึกอึดอัดมากเมื่อได้ยินคำพูดนี้เหมยเอ๋ายิ้มอย่างขมขื่น รู้สึกว่ามันเกินไปนิดหน่อยจริง ๆน่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว เขาจำเป็นต้องมีอย่างน้อยเจ็ดแสนห้าหมื่นล้านบาททั้งสองฝ่ายไม่มีใครปริปากพูด ทั้งคู่ตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดหลังจากนั้นสักพัก เย่ซิวก็เป็นฝ่ายริเริ่มทำลายความเงียบก่อน "คุณเล่าให้ผมฟังได้ไหมว่าตอนนี้ตระกูลคุณประสบปัญหาอะไรอยู่?"เหมยเอ๋าถอนหายใจและพูดว่า "อันที่จริงเรากำลังถูกคู่ต่อสู้กับศัตรูตัวฉกาจของเราในตลาดหุ้นโจมตี ฝ่ายที่ปรึกษาของบริษัทได้คำนวณไว้ว่าจะต้องใช้เงินอย่างน้อยเจ็ดแสนห้าหมื่นล้านบาทถึงจะสามารถเอาชนะ"“ที่
เหมยเสี่ยวหยวนมองชูตงขึ้น ๆ ลง ๆ หลายครั้ง จากพูดอะไรบางอย่างที่น่าตกใจมากออกมา "คุณคงไม่ใช่ว่าไม่ถูกคุณเย่ชอบ ก็เลยบังเกิดความรู้สึกคับแค้นใจหรอกนะใช่ไหม?"ไม่รอให้ชูตงตอบ เธอพยักหน้า "ฉันเดาว่าเป็นแบบนี้แน่ ๆ ผู้หญิงที่น่าสงสาร"ชูตงโกรธจนแทบจะระเบิดแล้ว "ใคร...พูดไร้สาระอะไรไม่ทราบ ทั้งชาตินี้ต่อให้ฉันชอบหมาตัวหนึ่งก็ไม่มีวันชอบหมอนั่น"เหมยเสี่ยวหยวนยิ้มและไม่โต้เถียงกับเธออีกต่อไปชูตงเดินฟึดฟัดออกไปอย่างฉุนเฉียว วิ่งไปที่ห้องนอนเพื่อปูผ้าปูเตียง รู้สึกอึดอัดใจอย่างยิ่งเย่ซิวหยิบศิลาวิญญาณที่เหลือพลังวิญญาณไม่มากแล้วออกมา ดึงพลังวิญญาณข้างในออกมาทั้งหมด แล้วถ่ายเทมันเข้าไปในหลินจือปัชชุนอัคนีความผันผวนของพลังชีวิตที่เล็ดลอดออกมาจากมันแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยจากนั้นถึงเก็บหลินจือปัชชุนอัคนีเข้าไปในแหวนผนึกของชูตงเดินตึก ๆ ๆ มาในรองเท้าส้นสูง แล้วตีสีหน้าพูดว่า "เสร็จแล้ว ฉันไปได้แล้วใช่ไหม ใกล้เลิกงานแล้ว"เย่ซิวก้มมองดูเวลา "คืนนี้ทำงานล่วงเวลา"“คุณ!” อารมณ์ที่ไม่ง่ายเลยกว่าจะสงบลงของชูตงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง "เอาอะไรมาอ้าง ต่อจากนี้ก็ไม่มีอะไรให้ฉันต้องทำแล้ว ฉันจะอยู่ต่
รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ชูตงยินดีให้หักเงินเดือน ก็จะไม่อยู่ทำงานล่วงเวลาเด็ดขาดตอนนี้ทำงานล่วงเวลาไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว ถ้ายอมแพ้ ไม่เท่ากับว่าตัวเองทำงานเปล่า ๆ หรอกเหรอ?เธอหลับตา ถือแก้วน้ำไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือคลำผนังแล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปบางครั้งจะเหล่ตาขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองพื้น แล้วเดินหน้าต่อท่าทางนี้ทั้งดูตลกและน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อเธอเดินไปที่โต๊ะข้างเตียงด้วยความยากลำบากมาก วางแก้วน้ำลงบนนั้น หมุนตัวกลับแล้ววิ่งหนีไปเย่ซิวมองแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ ผู้หญิงคนนี้ในบางครั้งก็น่ารักมากปัง!โบกมือหนึ่งครั้ง ประตูก็ถูกปิด ใช้พลังวิญญาณผนึกมันไว้อีกชั้น ตราบเท่าที่เขาไม่ต้องการ ประตูบานนี้ก็จะไม่มีวันเปิดได้“กรี๊ด คุณทำอะไร!!”ชูตงกรีดร้อง บิดที่จับประตูอย่างแรง พยายามดึงมันอย่างสิ้นหวังแต่ไร้ประโยชน์ ประตูไม่ขยับเขยื้อนสักนิดเย่ซิวไม่สนใจเธออีก บำเพ็ญตนกับเหมยเสี่ยวหยวนต่อทางฝั่งเขา การบ่มเพาะค่อย ๆ เติบโตขึ้นทีละนิด แต่กลับลำบากชูตง เธอต้องอดทนต่อการทรมานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอนิจจา ออกก็ออกไปไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงหลบไปตัวสั่นอยู่ที่มุมห้อง
เย่ซิวยังถ่ายทอดวิทยายุทธอันทรงพลังชุดหนึ่งให้กับพวกเขา ให้พวกเขาสามารถใช้ความแข็งแกร่งของตนเองได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งสิบสามคนสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย พวกเขาตื่นเต้นมาก จนคุกเข่าลงเพื่อแสดงความภักดีเย่ซิวโบกมือ ส่งสัญญาณให้พวกเขาลุกขึ้น จากนั้นก็พูดกับหลางต้าว่า "อีกไม่นานพวกนายต้องไปออกรบกับฉัน ตอนนี้ถึงเวลาเตรียมตัวแล้วอย่างแรกคืออาวุธ ทุกคนจะต้องมีดาบอลูมิเนียมอัลลอยด์สองเล่ม และหน้าไม้กลสองคันอย่างที่สองคือชุดป้องกัน ชุดเกราะไหมทองคำจะดีที่สุดสุดท้ายคือเสบียงเสริมอื่น ๆ อาทิเช่น ยารักษาโรค ฯลฯ อีกเดี๋ยวฉันจะโอนเงินให้นายหนึ่งก้อน ไปซื้อของโดยอิงจำนวนคนหนึ่งร้อยคนของเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ในยุทธภพ เพียงแค่ว่าราคาอาจค่อนข้างแพงหลางต้าขานรับ และจากไปพร้อมกับคนอื่น ๆเย่ซิวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเรียกแฝดสี่มาความแข็งแกร่งในปัจจุบันของแฝดสี่คือจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับสี่เย่ซิวมอบโอสถฟื้นฟูให้กับพวกเธอคนละสามเม็ด ช่วยพวกเธอขัดเกลาและดูดซับด้วยตัวเอง จากนั้น...ก็บำเพ็ญตนกับพวกเธอไปพร้อม ๆ กันปัจจุบันเขาอยู่ห่างจากช่วงสร้างพื้นฐานขั้นสูงส
ซ่า ๆ...เซี่ยชิงชิงกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ เธอหลับตาทั้งสองข้างลง บำเพ็ญวิชาพิษอย่างเงียบ ๆอุณหภูมิของน้ำสูงมากถึงเก้าสิบกว่าองศานี่เป็นวิธีการฝึกฝนพิเศษของเธอ เมื่อรวมกับพิษต่างๆ ที่โจมตีจากทั้งภายในและภายนอก จะสามารถเร่งความเร็วในการบำเพ็ญตนได้ขณะที่บำเพ็ญตนไปพลาง ในหัวของเธอก็หวนนึกถึงความอัปยศที่เธอได้รับจากเย่ซิวในช่วงเวลานี้ความอัปยศอดสูนี้เป็นแรงผลักดันให้เธอแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น"หึ่ง!"ทันใดนั้นก็มีเสียงหึ่งดังขึ้นที่ข้างหูแรงกดดันที่ทรงพลังและมองไม่เห็นกดทับลงมาอย่างกะทันหันเซี่ยชิงชิงถูกกดลงกับพื้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นด้วยแววตาที่น่าหวาดกลัวเห็นเพียงตอนนี้เย่ซิวกำลังยืนอยู่ต่อหน้าตัวเองเธอหายใจอย่างยากลำบาก อ้าปากและพยายามจะพูดออกมาแต่แรงกดดันนั้นน่ากลัวมากเกินไป ทำให้เธอพูดไม่ออกด้วยซ้ำเย่ซิวก้มมองเซี่ยชิงชิงอย่างเฉยเมย "พรุ่งนี้ฉันจะไปจากที่นี่สักระยะหนึ่ง เธอคงไม่อาศัยจังหวะที่ฉันไม่อยู่ก่อเรื่องอะไรหรอกใช่ไหม?"เซี่ยชิงชิงพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อต้านทานแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวนั้น "ฉัน...จะทำ...เรื่อง...แบบนั้นได้...ยั
หนึ่งวันต่อมา เย่ซิวและคนอื่น ๆ ก็มาถึงประเทศคาบูด้านหลังคือเวินหว่านเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ซึ่งการแต่งตัวของแต่ละคนก็แตกต่างกันไปเย่ซิวหยิบอาวุธจำนวนมากออกมาจากแหวนผนึกของ ให้พวกเขาจัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมทุกคนตกตะลึงกับความสามารถของเย่ซิวในการเสกของออกมาจากอากาศมากเย่ซิวไม่ได้อธิบายอะไร ยิ่งผู้ปกครองลึกลับมากเท่าไหร่ คนด้านล่างก็จะยิ่งเกรงขามมากขึ้นเท่านั้นหลังจากที่ทุกคนสวมอุปกรณ์แล้ว เย่ซิวก็หยิบแผนที่ออกมาและชี้ไปที่จุดที่ทำเครื่องหมายไว้สามจุด“ตาวหวัง คุณพาคนสิบคนไปเฝ้าสถานที่นี้หนานหวัง คุณพาคนสิบห้าคนไปเฝ้าสถานที่นี้หลางต้า นายนำกองกำลังหมาป่าราตรีไปเฝ้าที่นี่ไว้”นี่เป็นทางเข้าออกสำคัญสามจุดที่ประเทศคาบูใช้เพื่อออกสู่โลกภายนอก จำเป็นต้องปิดผนึกมันนอกจากนี้ยังมีสนามบินซึ่งมีกระบี่พยัคฆ์เฝ้าอยู่ เย่ซิวจะส่งคนอีกยี่สิบคนไปที่นั่นเพื่อสนับสนุนเขาเช่นนี้ข้างกายเย่ซิวก็จะเหลือคนเพียงห้าสิบคนเท่านั้นในบรรดาคนทั้งห้าสิบคนนี้ มีสามสิบคนที่รับผิดชอบในการเก็บรวบรวมข่าวกรองเย่ซิวร่ายอาคมเล็ก ๆ อย่างเงียบ ๆ ลดการมีอยู่ของตัวตนของผู้คนรอบตัวลงเย่ซิวทำความเข้าใจที่ตั้งท
หญิงสาวเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที “นายคิดจะไปทำธุระส่วนตัวงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน นายต้องพาฉันไปด้วยสิ!”“ผมจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย คุณก็ค่อย ๆ รักษาแผลตัวเองไปแล้วกันนะ ลาก่อน”พูดจบ เย่ซิวก็พังหน้าต่างออกไปพรีเอลล์วิ่งตามไปที่หน้าต่างแต่ก็มองไม่เห็นเงาของเย่ซิวแล้วสีหน้าของเธอขรึมลง จิตสังหารในตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายสิบองศา “คอยดูเถอะไอ้สารเลว ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งฉันจะทำให้แกคายทุกสิ่งที่เคยกินไปออกมา!”เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงบ้านของอลิส เธอก็ตื่นแล้วหลังจากที่อลิสตื่นขึ้นมาและพบว่าเย่ซิวหายไป เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรู้สึกจิตตกทันทีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…ตึง! ตนเองก็รู้สึกแปลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเย่ซิวแท้ ๆแต่เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมา เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที “นายไปไหนมา? ฉันนึกว่านายจะไปโดยไม่บอกลากันซะแล้ว”เย่ซิวยิ้มและกล่าวว่า “ผมไปทานข้าวมาน่ะ”อลิสไม่สงสัยแม้แต่น้อยพลางทำท่าทางกระอักระอ่วน “เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดีเอง นายมีเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหม หรือพวกเราควรไปซื้อตอนนี้เลยดี?”เย่ซ
พรีเอลล์เบิกตากว้าง “ฉันลืมอะไรไปเหรอ? อ้อ หรือว่านายอยากให้ฉันนอนกับนายอีกครั้ง? อย่างนั้นก็ได้ มาสิ”พูดจบเธอก็แสดงท่าทียินยอมพร้อมใจเย่ซิวยิ้มหยัน “ยังจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าผมอีกเหรอ? เอาสร้อยคอที่คุณเก็บไว้ออกมาให้ผมตรวจดูมูลค่าของมันเถอะ”สีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อันนั้น...ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของนายในตอนนี้คงจะสมเหตุสมผล เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”เย่ซิวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเธออย่างเงียบ ๆ และบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆเหงื่อเย็นหยดหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของพรีเอลล์เธอลอบกลืนน้ำลาย ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ เสียงกลืนน้ำลายนั้นจึงฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ“ก็ได้”ในที่สุด พรีเอลล์ก็ยอมแพ้และวางของลงตรงหน้าอย่างว่าง่ายเย่ซิวหยิบจี้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวังลองใช้พลังจิตแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยจากนั้นเขาได้ส่งผ่านพลังวิญญาณเข้าไป และจี้นั้นก็ปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาเย่ซิวรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือ ราวกับกำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่ก็ไม่ปานจินตานห้าสีสั่นสะเทือนขึ้นมา เย่ซิวระดมพลังธาตุไฟและส่งผ่านมันเข้าไปตัว
รอจนเย่ซิวได้ลิ้มรสความหวานและติดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้วค่อยบอกวิชาลับอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วให้เย่ซิวถึงเวลานั้น จอมมารโลหิตก็จะสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมเย่ซิวไว้ได้อย่างมั่นคงทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้นพวกอันธพาลที่เห็นเย่ซิวนิ่งเฉยก็โกรธจัด ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่เขาในมือแต่ละคนมีท่อเหล็กพร้อมแววตาที่ฉายแววอำมหิตเย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้า ๆ และใช้วิชาคัมภีร์มารโลหิตทันที!ตูม! ตูม! ตูม!เกิดแรงดูดมหาศาลจากฝ่ามือของเย่ซิว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของชายหนุ่มสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยองเลือดสด ๆ ไหลทะลักเข้าสู่ฝ่ามือของเย่ซิวหลังจากผ่านกระบวนการของวิชาคัมภีร์มารโลหิต มันก็แปลงสภาพกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์เย่ซิวเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในยุคโบราณจำนวนมากถึงเลือกเดินบนเส้นทางมาร เพราะมันทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เองเพียงแค่ไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่เขาได้รับมาก็เทียบเท่ากับการบำเพ็ญอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนหากเขาฆ่าคนในเมืองนี้ทั้งหมด…บางท
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้? เมื่อกี้ฉันเกือบจะโดนจับได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…บ้าจริง”พรีเอลล์ที่อ่อนแรงในอ้อมแขนของเย่ซิวยกสองนิ้วขึ้นมาบิดที่เอวของเขาอย่างแรงถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัส แต่แรงบิดของเธอก็ยังเจ็บเอาเรื่องไม่น้อยเย่ซิวยิ้มบาง ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร? หรือไปเจอคนใจบุญช่วยไว้ล่ะ”พรีเอลล์เบือนหน้าไปอีกทาง เธอไม่มีทางยอมบอกหรอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกจับได้ แต่ในจังหวะคับขันกลับถูกเลสเบี้ยนคนหนึ่งลากเข้าห้องน้ำไปและโดนผู้หญิงคนนั้นลวนลามไปไม่น้อยเลยถ้าพูดออกไปคงถูกเย่ซิวล้อไม่หยุดแน่“ช่างมัน รีบไปกันเถอะ”เย่ซิวพยุงตัวพรีเอลล์ขึ้นและพาเธอเดินออกจากบาร์ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องจัดการคือการแบ่งสมบัติจากการต่อสู้ครั้งนี้อีกในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรีเอลล์หนีจากหน่วยรบเขี้ยวพิษจำนวนมากได้อย่างไรทั้งที่เธอบาดเจ็บจากระเบิดและพลังที่เหลืออยู่ก็ลดลงเกือบครึ่ง การหนีรอดออกมาน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งไปกว่านั้น จากสภาพของเธอดูเหมือนจะไม่มีใครจับได้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำให้เย่ซิวยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกทั้งสองเดินออกจากบาร์ก่อนจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังมา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ