แชร์

บทที่ 610

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
เซี่ยซิ่วซิ่วเอ่ยถาม “ไม่ต้องการให้ใครไปกับคุณเหรอ?”

เย่ซิวคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “งั้นให้เลขาของคุณที่ชื่อชูตงไปกับผมก็แล้วกัน”

เซี่ยซิ่วซิ่วไม่ได้คิดอะไรมาก จึงรีบโทรศัพท์หาชูตงทันทีโดยให้เธอรอเย่ซิว

หลังจากวางสายไป สีหน้าของชูตงก็ดูเหมือนคนที่กลืนแมลงวันลงไป

เธอกระทืบเท้าด้วยความโมโห “แย่จริง ทำไมต้องไปกับผู้ชายแย่ ๆ คนนั้นอีกแล้ว!”

ไม่นานเย่ซิวก็ลงมาจากชั้นบน

ชูตงจำต้องเก็บความคิดในใจเอาไว้ เธอเดินตามหลังเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ขับรถเป็นไหม?” เมื่อเดินออกจากบริษัท เย่ซิวก็ถามโดยไม่หันมามอง

ชูตงตอบเสียงเบา “เป็นค่ะ!”

ในฐานะเลขา ทักษะการขับรถถือเป็นสิ่งจำเป็น

เย่ซิวมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่เขาก็ยกมือใหญ่ ๆ ของเขาฟาดเธอทีหนึ่ง “อย่าทำหน้าบึ้งสิ เลขาที่ดีต้องมีรอยยิ้มเสมอ เข้าใจไหม”

ชูตงชะงักไป ดวงตาเบิกกว้างพร้อมน้ำตาคลอเบ้า เธอโกรธจนตัวสั่นก่อนจะยกมือชี้หน้าเขา “คุณคุณคุณ…คุณมันคนหน้าด้าน ไร้ยางอาย!!”

ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ

เย่ซิวเดินไปอย่างไม่สนใจสีหน้าที่เหมือนจะลุกเป็นไฟของเธอ เขาพูดขึ้นเบา ๆ “รีบไปได้แล้ว ถ้าช้าไปหนึ่งนาทีผมจะหักเงินคุณห้าพัน”

“แย่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 611

    “นวดให้ผมหนึ่งนาที ผมให้ห้าพันบาท”หนึ่งประโยคง่าย ๆ ก็ทำให้การป้องกันทั้งหมดของชูตงพังทลายลงในฐานะบุคคลที่มีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะซื้อบ้านในเมืองหลวง เธอไม่ต้องการที่จะพลาดโอกาสใด ๆ ในการสร้างรายได้เธอที่แต่เดิมดุร้ายและมุ่งมั่น สีหน้าก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลงและลังเลใจมากเย่ซิวรู้สึกขบขันมากเมื่อเห็นเธอที่เป็นแบบนี้ "ให้เพิ่มอีกสองพันห้าร้อยบาท ชักช้าก็ไม่ต้องเอาแล้ว"สายตาที่โกรธเคืองจับจ้องไปทางเย่ซิว "คุณพูดคำไหนคำนั้นหรือเปล่า?""แน่นอนว่าพูดคำไหนคำนั้น"ชูตงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปหาเย่ซิวมีโอาสให้ทำเงินแล้วไม่ทำก็คือคนโง่แล้ว ถือเสียว่านวดให้หมาแล้วกันในใจเธอคิดแบบนี้มือเรียวขาวและเรียบเนียนคู่หนึ่งวางลงบนไหล่ของเย่ซิว บีบพวกมันด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดวางโทรศัพท์ไว้ข้าง ๆ แล้วเปิดการจับเวลาชูตงมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ ปากก็พึมพำอะไรบางอย่างเสียงเบาเย่ซิวได้ยินอย่างชัดเจนว่าเธอกำลังพูดไม่ดีเกี่ยวกับตัวเองแต่เขาไม่ถือสา ผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางหนีไปจากเงื้อมมือของตัวเองได้“โอเคหรือยัง? ฉันเจ็บมือไปหมดแล้ว”ชูตงยู่ปาก ริมฝีปากสีชมพูนั้นดูน่าดึงดูดอย่างมากมองดูเวล

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 612

    แต่สำหรับเธอแล้วกลับเป็นเรื่องดีสองพ่อลูกเดินเข้าไปในห้อง ก็เห็นเย่ซิวนั่งอยู่ตรงนั้นไม่มีออร่าที่ทรงพลังใด ๆ เล็ดลอดออกมา แต่กลับทำให้คนไม่กล้าที่จะดูถูกเขาดวงตาของเด็กสาวเปล่งประกายมากยิ่งขึ้นแม้ว่าเธอจะเคยเห็นรูปถ่ายของเย่ซิวมาก่อน แต่พอได้มาเจอตัวจริงแล้ว เธอก็ยังอดไม่ได้รู้สึกทึ่งผู้ชายคนนี้ อาศัยแค่รูปลักษณ์ภายนอกก็ไร้เทียมทานแล้วไม่กล้าพูดเต็มปากว่าชนะใจคนทุกวัย อย่างน้อยกับเด็กสาวที่อายุยี่สิบห้าปีลงไป มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถต้านทานเสน่ห์ของใบหน้านี้ได้ดวงตาของเด็กสาวฉายแววลุ่มหลง เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อนจนกระทั่งพ่อของเธอถอยกลับมาอย่างเงียบ ๆ ถึงได้กลับมามีสติอีกครั้ง และรู้สึกเขินอายเล็กน้อย "สวัสดีค่ะคุณเย่ ฉันชื่อเหมยเสี่ยวหยวนจากตระกูลเหมยแห่งหวู่เฉิง นี่คือพ่อของฉันเหมยเอ๋า"เย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อย "เชิญนั่ง"สองพ่อลูกนั่งลงตรงข้ามเย่ซิว ชูตงก็มายืนอยู่ข้างหลังเย่ซิว จ้องไปที่ศีรษะของเขาเขม็ง อยากที่จะเคาะมันแรง ๆ สักหลาย ๆ ครั้งเมื่อสักครู่นี้เดิมตัวเองอยากที่จะแก้แค้น ใครจะคิดว่าสุดท้ายจะโดนผู้ชายคนนี้เอาเปรียบอีกหลายครั้งมากโชคด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 613

    เหมยเสี่ยวหยวนมองไปที่เย่ซิวอย่างคาดหวังเธอคิดว่าตัวเองเพียบพร้อมในทุกด้าน สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลก แถมยังเคยเข้าบริหารจัดการบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง และไม่เคยมีแฟนอีกด้วยไปเป็นนายหญิงของตระกูลใหญ่ ๆ เรียกได้ว่าเกินพอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแค่เป็นสาวใช้ข้างกายเย่ซิวแต่เย่ซิวกลับหัวเราะอย่างเจื่อน ๆ "ให้คุณใช้เงินหนึ่งแสนล้านบาทแลกกับสาวใช้หนึ่งคน คุณจะเอาไหมล่ะ? หรือตัวเธอฝังด้วยทองหรือหยกกันล่ะ?"เหมยเสี่ยวหยวนรู้สึกอึดอัดมากเมื่อได้ยินคำพูดนี้เหมยเอ๋ายิ้มอย่างขมขื่น รู้สึกว่ามันเกินไปนิดหน่อยจริง ๆน่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว เขาจำเป็นต้องมีอย่างน้อยเจ็ดแสนห้าหมื่นล้านบาททั้งสองฝ่ายไม่มีใครปริปากพูด ทั้งคู่ตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดหลังจากนั้นสักพัก เย่ซิวก็เป็นฝ่ายริเริ่มทำลายความเงียบก่อน "คุณเล่าให้ผมฟังได้ไหมว่าตอนนี้ตระกูลคุณประสบปัญหาอะไรอยู่?"เหมยเอ๋าถอนหายใจและพูดว่า "อันที่จริงเรากำลังถูกคู่ต่อสู้กับศัตรูตัวฉกาจของเราในตลาดหุ้นโจมตี ฝ่ายที่ปรึกษาของบริษัทได้คำนวณไว้ว่าจะต้องใช้เงินอย่างน้อยเจ็ดแสนห้าหมื่นล้านบาทถึงจะสามารถเอาชนะ"“ที่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 614

    เหมยเสี่ยวหยวนมองชูตงขึ้น ๆ ลง ๆ หลายครั้ง จากพูดอะไรบางอย่างที่น่าตกใจมากออกมา "คุณคงไม่ใช่ว่าไม่ถูกคุณเย่ชอบ ก็เลยบังเกิดความรู้สึกคับแค้นใจหรอกนะใช่ไหม?"ไม่รอให้ชูตงตอบ เธอพยักหน้า "ฉันเดาว่าเป็นแบบนี้แน่ ๆ ผู้หญิงที่น่าสงสาร"ชูตงโกรธจนแทบจะระเบิดแล้ว "ใคร...พูดไร้สาระอะไรไม่ทราบ ทั้งชาตินี้ต่อให้ฉันชอบหมาตัวหนึ่งก็ไม่มีวันชอบหมอนั่น"เหมยเสี่ยวหยวนยิ้มและไม่โต้เถียงกับเธออีกต่อไปชูตงเดินฟึดฟัดออกไปอย่างฉุนเฉียว วิ่งไปที่ห้องนอนเพื่อปูผ้าปูเตียง รู้สึกอึดอัดใจอย่างยิ่งเย่ซิวหยิบศิลาวิญญาณที่เหลือพลังวิญญาณไม่มากแล้วออกมา ดึงพลังวิญญาณข้างในออกมาทั้งหมด แล้วถ่ายเทมันเข้าไปในหลินจือปัชชุนอัคนีความผันผวนของพลังชีวิตที่เล็ดลอดออกมาจากมันแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยจากนั้นถึงเก็บหลินจือปัชชุนอัคนีเข้าไปในแหวนผนึกของชูตงเดินตึก ๆ ๆ มาในรองเท้าส้นสูง แล้วตีสีหน้าพูดว่า "เสร็จแล้ว ฉันไปได้แล้วใช่ไหม ใกล้เลิกงานแล้ว"เย่ซิวก้มมองดูเวลา "คืนนี้ทำงานล่วงเวลา"“คุณ!” อารมณ์ที่ไม่ง่ายเลยกว่าจะสงบลงของชูตงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง "เอาอะไรมาอ้าง ต่อจากนี้ก็ไม่มีอะไรให้ฉันต้องทำแล้ว ฉันจะอยู่ต่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 615

    รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ชูตงยินดีให้หักเงินเดือน ก็จะไม่อยู่ทำงานล่วงเวลาเด็ดขาดตอนนี้ทำงานล่วงเวลาไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว ถ้ายอมแพ้ ไม่เท่ากับว่าตัวเองทำงานเปล่า ๆ หรอกเหรอ?เธอหลับตา ถือแก้วน้ำไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือคลำผนังแล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปบางครั้งจะเหล่ตาขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองพื้น แล้วเดินหน้าต่อท่าทางนี้ทั้งดูตลกและน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อเธอเดินไปที่โต๊ะข้างเตียงด้วยความยากลำบากมาก วางแก้วน้ำลงบนนั้น หมุนตัวกลับแล้ววิ่งหนีไปเย่ซิวมองแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ ผู้หญิงคนนี้ในบางครั้งก็น่ารักมากปัง!โบกมือหนึ่งครั้ง ประตูก็ถูกปิด ใช้พลังวิญญาณผนึกมันไว้อีกชั้น ตราบเท่าที่เขาไม่ต้องการ ประตูบานนี้ก็จะไม่มีวันเปิดได้“กรี๊ด คุณทำอะไร!!”ชูตงกรีดร้อง บิดที่จับประตูอย่างแรง พยายามดึงมันอย่างสิ้นหวังแต่ไร้ประโยชน์ ประตูไม่ขยับเขยื้อนสักนิดเย่ซิวไม่สนใจเธออีก บำเพ็ญตนกับเหมยเสี่ยวหยวนต่อทางฝั่งเขา การบ่มเพาะค่อย ๆ เติบโตขึ้นทีละนิด แต่กลับลำบากชูตง เธอต้องอดทนต่อการทรมานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอนิจจา ออกก็ออกไปไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงหลบไปตัวสั่นอยู่ที่มุมห้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 616

    เย่ซิวยังถ่ายทอดวิทยายุทธอันทรงพลังชุดหนึ่งให้กับพวกเขา ให้พวกเขาสามารถใช้ความแข็งแกร่งของตนเองได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งสิบสามคนสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย พวกเขาตื่นเต้นมาก จนคุกเข่าลงเพื่อแสดงความภักดีเย่ซิวโบกมือ ส่งสัญญาณให้พวกเขาลุกขึ้น จากนั้นก็พูดกับหลางต้าว่า "อีกไม่นานพวกนายต้องไปออกรบกับฉัน ตอนนี้ถึงเวลาเตรียมตัวแล้วอย่างแรกคืออาวุธ ทุกคนจะต้องมีดาบอลูมิเนียมอัลลอยด์สองเล่ม และหน้าไม้กลสองคันอย่างที่สองคือชุดป้องกัน ชุดเกราะไหมทองคำจะดีที่สุดสุดท้ายคือเสบียงเสริมอื่น ๆ อาทิเช่น ยารักษาโรค ฯลฯ อีกเดี๋ยวฉันจะโอนเงินให้นายหนึ่งก้อน ไปซื้อของโดยอิงจำนวนคนหนึ่งร้อยคนของเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ในยุทธภพ เพียงแค่ว่าราคาอาจค่อนข้างแพงหลางต้าขานรับ และจากไปพร้อมกับคนอื่น ๆเย่ซิวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเรียกแฝดสี่มาความแข็งแกร่งในปัจจุบันของแฝดสี่คือจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับสี่เย่ซิวมอบโอสถฟื้นฟูให้กับพวกเธอคนละสามเม็ด ช่วยพวกเธอขัดเกลาและดูดซับด้วยตัวเอง จากนั้น...ก็บำเพ็ญตนกับพวกเธอไปพร้อม ๆ กันปัจจุบันเขาอยู่ห่างจากช่วงสร้างพื้นฐานขั้นสูงส

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 617

    ซ่า ๆ...เซี่ยชิงชิงกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ เธอหลับตาทั้งสองข้างลง บำเพ็ญวิชาพิษอย่างเงียบ ๆอุณหภูมิของน้ำสูงมากถึงเก้าสิบกว่าองศานี่เป็นวิธีการฝึกฝนพิเศษของเธอ เมื่อรวมกับพิษต่างๆ ที่โจมตีจากทั้งภายในและภายนอก จะสามารถเร่งความเร็วในการบำเพ็ญตนได้ขณะที่บำเพ็ญตนไปพลาง ในหัวของเธอก็หวนนึกถึงความอัปยศที่เธอได้รับจากเย่ซิวในช่วงเวลานี้ความอัปยศอดสูนี้เป็นแรงผลักดันให้เธอแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น"หึ่ง!"ทันใดนั้นก็มีเสียงหึ่งดังขึ้นที่ข้างหูแรงกดดันที่ทรงพลังและมองไม่เห็นกดทับลงมาอย่างกะทันหันเซี่ยชิงชิงถูกกดลงกับพื้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นด้วยแววตาที่น่าหวาดกลัวเห็นเพียงตอนนี้เย่ซิวกำลังยืนอยู่ต่อหน้าตัวเองเธอหายใจอย่างยากลำบาก อ้าปากและพยายามจะพูดออกมาแต่แรงกดดันนั้นน่ากลัวมากเกินไป ทำให้เธอพูดไม่ออกด้วยซ้ำเย่ซิวก้มมองเซี่ยชิงชิงอย่างเฉยเมย "พรุ่งนี้ฉันจะไปจากที่นี่สักระยะหนึ่ง เธอคงไม่อาศัยจังหวะที่ฉันไม่อยู่ก่อเรื่องอะไรหรอกใช่ไหม?"เซี่ยชิงชิงพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อต้านทานแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวนั้น "ฉัน...จะทำ...เรื่อง...แบบนั้นได้...ยั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 618

    หนึ่งวันต่อมา เย่ซิวและคนอื่น ๆ ก็มาถึงประเทศคาบูด้านหลังคือเวินหว่านเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ซึ่งการแต่งตัวของแต่ละคนก็แตกต่างกันไปเย่ซิวหยิบอาวุธจำนวนมากออกมาจากแหวนผนึกของ ให้พวกเขาจัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมทุกคนตกตะลึงกับความสามารถของเย่ซิวในการเสกของออกมาจากอากาศมากเย่ซิวไม่ได้อธิบายอะไร ยิ่งผู้ปกครองลึกลับมากเท่าไหร่ คนด้านล่างก็จะยิ่งเกรงขามมากขึ้นเท่านั้นหลังจากที่ทุกคนสวมอุปกรณ์แล้ว เย่ซิวก็หยิบแผนที่ออกมาและชี้ไปที่จุดที่ทำเครื่องหมายไว้สามจุด“ตาวหวัง คุณพาคนสิบคนไปเฝ้าสถานที่นี้หนานหวัง คุณพาคนสิบห้าคนไปเฝ้าสถานที่นี้หลางต้า นายนำกองกำลังหมาป่าราตรีไปเฝ้าที่นี่ไว้”นี่เป็นทางเข้าออกสำคัญสามจุดที่ประเทศคาบูใช้เพื่อออกสู่โลกภายนอก จำเป็นต้องปิดผนึกมันนอกจากนี้ยังมีสนามบินซึ่งมีกระบี่พยัคฆ์เฝ้าอยู่ เย่ซิวจะส่งคนอีกยี่สิบคนไปที่นั่นเพื่อสนับสนุนเขาเช่นนี้ข้างกายเย่ซิวก็จะเหลือคนเพียงห้าสิบคนเท่านั้นในบรรดาคนทั้งห้าสิบคนนี้ มีสามสิบคนที่รับผิดชอบในการเก็บรวบรวมข่าวกรองเย่ซิวร่ายอาคมเล็ก ๆ อย่างเงียบ ๆ ลดการมีอยู่ของตัวตนของผู้คนรอบตัวลงเย่ซิวทำความเข้าใจที่ตั้งท

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1034

    ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งที่เคยดูทรงพลังและน่าเกรงขาม ตอนนี้กลับดูซูบเซียวและอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัดมันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ดันไปหาเรื่องกับเย่ซิวซึ่งเป็นตัวอันตรายเข้าหากรู้แต่แรกว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ มันคงเลือกที่จะเงียบและทำตัวเป็นม้าโปร่งแสงไปเสียตั้งแต่ต้นวิชาแปรมังกรขั้นที่สามต้องบำเพ็ญให้เกิดกรงเล็บมังกร หางมังกร และเขามังกรขึ้นมาเย่ซิวไม่มีทางหยุดแน่นอน โอกาสแบบนี้ถ้าพลาดไปก็คงไม่มีวันหาได้อีกหนึ่งวันผ่านไป เขาก็ฝึกขั้นที่สามสำเร็จตอนนี้เขากลายเป็นมังกรทองในร่างมนุษย์ไปแล้วกรงเล็บมังกรสีทองแหลมคมราวกับสุดยอดศาสตราวุธ สามารถฉีกกระชากทุกสิ่งได้อย่างง่ายดายเขามังกรทั้งสองเส้นชี้ขึ้นฟ้า และมันไม่ได้มีไว้แค่ประดับเท่านั้นแต่มันช่วยเพิ่มการรับรู้และเร่งการดูดซับพลังจากฟ้าดินอีกด้วยส่วนหางมังกรก็มีประโยชน์ไม่น้อยมันเปรียบเสมือนแขนที่สามของเขา สามารถใช้เป็นอาวุธลับในสถานการณ์สำคัญได้และพอจะก้าวไปสู่ขั้นที่สี่ เขาก็ต้องใช้พลังงานมากกว่าขั้นที่สามถึงสิบเท่าเย่ซิวก้มลงมองม้าศึกเพลิงน้ำแข็งและพบว่าตอนนี้มันผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก คงใกล้จะหมดสภาพเต็มทีแ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1033

    เย่ซิวค้นพบว่าภายในเสาทั้งสิบสามต้นนี้ฝังอะไรบางอย่างที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ อาจเป็นค่ายกลหรืออย่างอื่นที่ซับซ้อนกว่านั้นพวกมันเชื่อมโยงกับสิ่งที่อยู่ใต้ดินและคอยดูดซับพลังจากร่างของมันจากนั้นก็ใช้พลังเหล่านั้นกดมันเอาไว้มันคล้ายกับเครื่องสูบน้ำที่ดูดน้ำจากบ่อขึ้นมาแล้วเทกลับลงไป วนเวียนเป็นวงจรซ้ำไปซ้ำมาจากนั้นเย่ซิวก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถแอบขโมยพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งได้หรือเปล่าหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจลองดูเจ้าแก่นี่เกือบทำให้เขาตกอยู่ใต้อำนาจมัน ถ้าไม่เอาคืนบ้างก็คงรู้สึกขัดใจไม่น้อยคิดได้ดังนั้น เย่ซิวก็วางมือลงบนเสาต้นหนึ่งก่อนจะเร่งพลังวิชาแปรมังกรทันทีศาสตร์นี้สามารถกลั่นพลังงานทุกประเภทในโลกให้เป็นของตนเองได้ทันทีที่เริ่มใช้งาน ฝ่ามือของเขาก็เกิดแรงดูดอันทรงพลังและดูดซับพลังวิญญาณบริสุทธิ์จำนวนมากจากเสาศิลาวิญญาณเสาเองก็ตอบสนองโดยการเร่งดูดพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งมากขึ้นดวงตาของเย่ซิวเปล่งประกายขึ้น พร้อมกับที่เขาพยายามรักษาสมดุลเอาไว้ในขณะที่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งถึงกับสบถออกมา พลังที่มันปลดปล่อยออกมานั้นเต

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1032

    แค่เสาทั้งสิบสามต้นนี้ก็มีมูลค่ามหาศาลแล้วเทียบได้กับทรัพย์สินทั้งหมดของเย่ซิวก่อนที่เขาจะเริ่มบำเพ็ญวิชาเก้าวัจนะลึกลับเลยทีเดียว“นั่นคืออะไรน่ะ? ฉันรู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าในร่างกายเลย” พรีเอลล์จ้องมองเสาศิลาวิญญาณเหล่านั้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสนจากนั้นเธอก็ก้าวเดินไปข้างหน้าแต่ถูกเย่ซิวขวางเอาไว้สีหน้าของสองพี่น้องดูแปลกไปเหมือนถูกอะไรบางอย่างครอบงำในขณะที่โซเฟียกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น“จงตื่น!”เสียงของเย่ซิวดังขึ้นเบา ๆ สองพี่น้องได้สติทันที พร้อมกับเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นเต็มตัว“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”“เมื่อกี้เหมือนฉันถูกควบคุมเลย”เย่ซิวใช้พลังเนตร มองทะลุผ่านพื้นลงไปสายตาของเขาค่อย ๆ เจาะลึกลงไปนับพันเมตร จนกระทั่งพบว่าที่ใต้ดินลึกลงไปมีค่ายกลขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ภายในค่ายกลนั้นขังบางสิ่งเอาไว้มันคือม้าศึกตัวหนึ่งที่สูงเกือบสองเมตร ทั้งร่างขาวโพลนราวหิมะบนหัวมีเขาเกลียวชี้ขึ้นด้านบนกีบเท้าทั้งสี่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีขาวดวงตาของมันลึกลับดุจห้วงเหวลึกทันใดนั้นเอง ม้าศึกตัวนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเย่ซิวเข้าเต็ม ๆโครม!เย่ซิวรู้สึกเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1031

    “ข้างในมีของสำคัญสำหรับฉันมาก ฉันเข้าไปด้วยได้ไหม?”เสียงของโซเฟียไพเราะจับใจเหมือนกับเสียงน้ำพุใสกระทบหิน มีความลึกซึ้งและก้องกังวานแค่เสียงของเธอก็ทำให้ผู้ชายมากมายหัวใจเต้นแรงได้แล้วเย่ซิวมองหญิงสาวที่สวยจนดูราวกับภาพลวงตาตรงหน้า “ถ้าปล่อยให้เธอเข้าไปแล้วฉันจะได้อะไร?”“บนตัวนายมีป้ายอันหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยร้าว เอามาให้ฉัน แล้วฉันจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิม”เย่ซิวมีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากแหวนผนึกของมันเป็นของที่ตกมาจากเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นตอนที่เขาช่วยเธอเอาไว้ตอนนั้นเขาไม่ได้สังเกตว่ามันมีค่าอะไรเลยเก็บมันไว้ก่อนจากนั้นเขาก็ยื่นมันให้โซเฟียเธอวางมันลงบนฝ่ามือ ก่อนจะกดมือทั้งสองข้างเข้าหากันแสงสีขาวสว่างออกมาจากรอยต่อของมือและคงอยู่เช่นนั้นต่อเนื่องเป็นสิบกว่าวินาทีพอเธอคลายมือออกก็มีแผ่นหยกเรืองแสงอ่อน ๆ ปรากฏอยู่ในฝ่ามือเย่ซิวรับแผ่นหยกนั้นมาแนบไว้ที่หว่างคิ้วจากนั้นก็มีข้อมูลมากมายก็ไหลทะลักเข้าสู่สมองของเขาก่อนจะปรากฏเป็นเคล็ดวิชาหนึ่งขึ้นมาในหัวเขาทันทีวิชาแปรมังกร!เป็นศาสตร์ฝึกฝนที่ลึกล้ำเป็นอย่างยิ่งตามเนื้อหาที่บันทึกไว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1030

    แค่กระบี่นี้ หากเล็งไปที่เมืองสักแห่ง เมืองนั้นคงถูกทำลายจนสิ้นในพริบตาหากฟันกระบี่นี้ออกไปอีกไม่กี่ครั้ง ประเทศจ้านฉงตี้คงได้รับความเสียหายอย่างหนักจนยากจะฟื้นตัวหรือไม่แน่ อาจถูกประเทศจ้านอิงตี้ฉวยโอกาสเข้ายึดครองไปเลยก็ได้อย่าดูแค่ภายนอกว่าทั้งสองประเทศเหมือนพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงจุดอ่อนขึ้นมา อีกฝ่ายจะต้องฉวยโอกาสกลืนกินอย่างแน่นอนเย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยซากโบราณสถานแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาจริง ๆเขาใช้วิชาอัดปราณกระบี่ไปถึงเก้าครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้เย่ซิวเก็บกระบี่หงส์โบยบิน โดยไม่สนใจคนรอบข้างที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเขาประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน แสงสีทองสว่างไสวเหมือนเปลวเพลิง ก่อนที่ร่างขนาดมหึมาจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นด้านหลังเขาตู้ม!ตู้ม!ตู้ม!เมื่อร่างที่ทรงพลังและครอบงำทุกสิ่งจนแทบไร้เทียมทานปรากฏขึ้นท้องฟ้าอันแจ่มใสพันลี้พลันถูกปกคลุมด้วยเมฆดำมืดในทันทีไม่ต้องพูดถึงคนรอบข้างที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้เลยแม้แต่จักรพรรดิหมีเหล็ก ที่อยู่ห่างออกไปกว่าหลายมันไมล์ และกำลังชมวิดีโออยู่ ยังสัมผัสได้ถึงพลังอันหนักอึ้งและกดดันมหาศ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1029

    ร่างกายของโซเฟียเย็นเล็กน้อยสัมผัสคล้ายกับการบีบเยลลี่เมื่อเผชิญกับสายตาแข็งกร้าวของเย่ซิว เธอกลับแสดงออกอย่างสงบนิ่ง“คุณเป็นคนของโลกนี้หรือเปล่า”โซเฟียไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงแค่มองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกเคย์ฟี่ที่เห็นฉากนี้ เกิดความอิจฉาขึ้นมาเป็นครั้งแรกทำไมตัวเธอพยายามสารพัด แต่เย่ซิวกลับไม่ยอมมองเธอแม้แต่แวบเดียวขณะที่โซเฟียเพียงแค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แต่กลับได้รับความสนใจจากทุกคน“ไม่พูดสินะ?” เย่ซิวเพิ่มแรงบีบที่ปลายคางของเธอเล็กน้อยผิวของเธอบอบบางเกินไป เพียงบีบเบา ๆ ก็เกิดรอยช้ำขึ้นมาแล้ว“ถ้าไม่พูดก็ถือว่ายอมรับ ผมจะฆ่าคุณ”เย่ซิวไม่ได้ขู่เธอในขณะนั้น ความกระหายสังหารพลันปะทุขึ้นในใจของเขาแต่ทันทีที่ความคิดฆ่าฟันเกิดขึ้น เขากลับสัมผัสได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวหญิงสาวภายในร่างกายของเธอ มีบางสิ่งที่น่ากลัวซ่อนอยู่หากเธอเผชิญกับอันตรายจริง ๆ สิ่งนั้นจะถูกกระตุ้นออกมาเองเย่ซิวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือจากเธอ ความตั้งใจจะฆ่าที่แผ่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ หายไปเขาไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเธอ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฆ่าเธอทันทีที่เจอหน้าเย่ซิวเดินผ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1028

    ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวสุดขีด พลังของอ็อคก็พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งแรงกดดันจากร่างกายของเขารุนแรงจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้สนับสนุนอ็อคหลายคนเผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ เมื่อเห็นว่าเขาสามารถทะลวงขีดจำกัดได้อีกครั้งภายใต้ความโกรธในตอนนี้ พลังที่แผ่ออกมาจากอ็อคเทียบเท่ากับระดับจินตานขั้นสมบูรณ์ ตัวเขาเองก็เต็มไปด้วยความดีใจสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง อ็อคเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลับมาอยู่เหนือทุกสิ่งอีกครั้งสองข้าวิ่งทะยาน ความเร็วพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนทะลุกำแพงเสียงในพริบตาร่างของเขาพุ่งเข้าหาเย่ซิวราวกับอุกกาบาตที่ลุกไหม้เต็มไปด้วยพลังแห่งความบ้าคลั่งและไร้เทียมทานแต่แม้จะต้องเผชิญกับการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เย่ซิวก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับจนกระทั่งอ็อคใกล้เข้ามา เขาถึงได้เอ่ยออกมาเพียงคำเดียว“หยุด!”วาจาศักดิ์สิทธิ์!อ็อคที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดก็พลันหยุดนิ่ง ถูกพลังบางอย่างตรึงร่างไว้โดยสมบูรณ์ เขาหยุดอยู่ห่างจากเย่ซิวเพียงครึ่งเมตรเท่านั้นในดวงตาของอ็อคเต็มไปด้วยความมึนงงและไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเย่ซิวยื่นมื

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1027

    พลังแห่งปฐพี!พลังแห่งปฐพีในรัศมีร้อยลี้ถูกอ็อคควบคุมและรวบรวมเข้าสู่ร่างกายของเขาทำให้หมัดที่ปล่อยออกมาทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุดผู้คนรอบข้างพากันยกมือขึ้นปิดหูโดยสัญชาตญาณบางคนที่พลังอ่อนแอกว่าถึงกับเลือดไหลออกจากเจ็ดทวาร ร่างกายสั่นสะท้านจนควบคุมตัวเองไม่ได้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!ให้ความรู้สึกราวกับมีระเบิดเอชระเบิดขึ้นข้าง ๆดวงตาของอ็อคเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นและความกระหายในเลือดเขาเชื่อมั่นว่าหมัดนี้ ต่อให้เย่ซิวแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงรับไว้ไม่ได้ และต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอนเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเย่ซิว หวังจะเห็นความหวาดกลัวแต่เขากลับต้องผิดหวังดวงตาของเย่ซิวลึกดั่งบ่อน้ำเย็นยะเยือกที่ไม่มีจุดสิ้นสุดไม่ว่าโลกภายนอกจะโหมกระหน่ำเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เกิดระลอกคลื่นใด ๆ ได้เย่ซิวขยับแล้วมือขวากำหมัดแน่นเผชิญหน้ากับหมัดที่สามารถทำลายท้องฟ้าของอ็อค เขาใช้พลังเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้นตู้ม!สองหมัดปะทะกัน ก่อให้เกิดเสียงดังกึกก้องสะเทือนฟ้าดินจากนั้นก็เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยแต่อ็อคกลับเริ่มแตกสลายจากหมัดของตัวเอง และรอยแตกนั้นลามขึ้นไปทั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1026

    เมื่ออ็อคเข้าใกล้ แรงกดดันอันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้พูท พรีเอลล์ และเคย์ฟี่ถึงกับสะดุ้ง หายใจติดขัดราวกับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูร้าย!"เย่ซิว! นายมาที่นี่ทำไม? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายควรมา!"เสียงของอ็อคดังกึกก้อง ราวกับฟ้าร้อง"หลีกไป อย่ามาขวางทางฉัน"เย่ซิวพูดอย่างไม่ไว้หน้า ขณะที่ยังคงจับจ้องไปที่โซเฟียเขากำลังคาดเดาว่าเธออาจจะมาจากโลกภายนอกนี่เป็นความเป็นไปได้ที่เขาคิดว่าน่าเชื่อถือที่สุด"อวดดีนัก! อยากตายรึไง!""เย่ซิว! ที่นี่ไม่ใช่สำนักโอสถ และไม่ใช่ประเทศหลงเถิงด้วย! นายมาคนเดียว อย่าทำตัวอวดดีให้มากนัก!""ใช่! ไม่งั้นนายอาจจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่!"……เหล่าผู้ติดตามของอ็อคต่างพากันล้อมเย่ซิว สีหน้าของแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรและความเย็นชาถ้าเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน พวกเขาคงไม่กล้าพูดจาแบบนี้กับเย่ซิวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วการปรากฏตัวของอ็อคทำให้พวกเขามั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้นเพราะพวกเขาเคยเห็นฝีมือของอ็อคมาก่อน จึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขามั่นใจ แม้แต่เย่ซิวมาเอง อย่างมากก็คงทำได้เพียงเสมอกันยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status