เย่ซิวเผาผลาญเลือดสดของตนเองไปหนึ่งเปอร์เซ็นต์ชั่วพริบตา พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นหนึ่งส่วนหากคำนวณเช่นนี้ ถ้าเขาเผาผลาญเลือดสดไปห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ก็จะสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ได้ถึงห้าเท่าในทันทีนี่เป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นยิ่งนักทว่าทักษะลึกลับนี้ก็มีข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงนั่นคือหลังจากเผาผลาญเลือดสดแล้วจะต้องตกอยู่ในสภาวะอ่อนแอเป็นเวลานานแต่เย่ซิวสามารถลดอันตรายจากข้อเสียนี้ให้เหลือน้อยที่สุดเพราะร่างกายของเขาตอนนี้แข็งแกร่งเกินกว่าผู้ใดความสามารถในการสร้างเลือดของหัวใจนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งคนทั่วไปหากใช้วิชานี้ไปแล้วจะต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อฟื้นตัวแต่เย่ซิวไม่เหมือนคนทั่วไปเขาสามารถฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้ภายในสิบกว่านาทีหากมีพลังงานเสริมเพียงพอ เขาสามารถใช้วิชาผลาญโลหิตได้สิบกว่าครั้งรุ่งเช้าของวันถัดมาเย่ซิวเดินทางมาถึงตระกูลของพรีเอลล์ทันทีที่ลงจากรถ เขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นพ่อแม่ของพรีเอลล์ คู่สามีภรรยาที่ดูยังหนุ่มสาวมาปรากฏตัวฝ่ายหญิงงดงามสง่า ฝ่ายชายมีกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาเบื้องหลังพวกเขายังมีเหล่าชายหญิงวัยหนุ่มสาวติดตามมาด้วย แต่ละคน
จากสีหน้าของสามีผู้หญิงคนนี้เมื่อครู่ ดูเหมือนว่าเขาน่าจะเดาออก หรือไม่ก็รู้และปล่อยผ่านไปแล้วเรื่องแบบนี้คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในตระกูลใหญ่ มักจะมีเรื่องสกปรกแบบนี้อยู่เสมอบางครั้งเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือเป้าหมายอื่น ๆการยอมสละภรรยาหรือแม้แต่ลูกสาวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเย่ซิวเองก็เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนเคย์ฟี่เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากเธอเป็นผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งวัยที่สุกงอมผู้หญิงแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นนักล่าผู้ชายโดยแท้แต่เย่ซิวกลับไม่รู้สึกสนใจเธอสักเท่าไรไม่ใช่เพราะว่าเขาสูงส่งอะไรนักหรอก แต่เพราะเขารู้สึกว่าเธอดูสกปรกเกินไปผู้หญิงที่ถูกนับไม่ถ้วนลิ้มรสแบบนี้ ต่อให้สวยแค่ไหน เย่ซิวก็ไม่มีทางสนใจดังนั้นไม่ว่าเคย์ฟี่จะพยายามยั่วยวนยังไง เย่ซิวก็ยังคงนิ่งเฉยทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยขณะที่พรีเอลล์ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เห็นฉากนี้ สีหน้ากลับดูผ่อนคลายขึ้นมาในใจคิดว่าแม่ยังสู้ตัวเองไม่ได้ อย่างน้อยตัวเองก็เคยทำสำเร็จมาก่อนผ่านไปห้าสิบกว่านาที พวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทางทันทีที่ลงจากรถ ก็สามารถมองเห็นกำแพงขนาดมหึมา ล้อมรอบซากโบราณสถานท
เมื่ออ็อคเข้าใกล้ แรงกดดันอันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้พูท พรีเอลล์ และเคย์ฟี่ถึงกับสะดุ้ง หายใจติดขัดราวกับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูร้าย!"เย่ซิว! นายมาที่นี่ทำไม? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายควรมา!"เสียงของอ็อคดังกึกก้อง ราวกับฟ้าร้อง"หลีกไป อย่ามาขวางทางฉัน"เย่ซิวพูดอย่างไม่ไว้หน้า ขณะที่ยังคงจับจ้องไปที่โซเฟียเขากำลังคาดเดาว่าเธออาจจะมาจากโลกภายนอกนี่เป็นความเป็นไปได้ที่เขาคิดว่าน่าเชื่อถือที่สุด"อวดดีนัก! อยากตายรึไง!""เย่ซิว! ที่นี่ไม่ใช่สำนักโอสถ และไม่ใช่ประเทศหลงเถิงด้วย! นายมาคนเดียว อย่าทำตัวอวดดีให้มากนัก!""ใช่! ไม่งั้นนายอาจจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่!"……เหล่าผู้ติดตามของอ็อคต่างพากันล้อมเย่ซิว สีหน้าของแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรและความเย็นชาถ้าเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน พวกเขาคงไม่กล้าพูดจาแบบนี้กับเย่ซิวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วการปรากฏตัวของอ็อคทำให้พวกเขามั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้นเพราะพวกเขาเคยเห็นฝีมือของอ็อคมาก่อน จึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขามั่นใจ แม้แต่เย่ซิวมาเอง อย่างมากก็คงทำได้เพียงเสมอกันยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่
ประเทศหลงเถิง ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าโบราณทางตอนเหนือ“อาจารย์ ผมกลับมาแล้ว มื้อเย็นวันนี้เป็นเนื้อกระต่ายแหละ”ณ ส่วนลึกของป่าโบราณมีบ้านไม้หลายหลังตั้งอยู่เห็นเพียงเด็กหนุ่มอายุราวสิบหกหรือสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง ในมือหิ้วกระต่ายตัวอวบอ้วนมาด้วยหลายตัว เขากระโดดขึ้นไปบนโขดหินตะปุ่มตะป่ำขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ดีดตัวเพียงไม่กี่ครั้งก็มาถึงหน้าบ้านไม้เขาชื่อเย่ซิว อาศัยอยู่ที่นี่กับอาจารย์ของเขามาตั้งแต่ยังเด็กแล้วติดตามอาจารย์เพื่อฝึกฝนวรยุทธ เก็บสมุนไพร เรียนการแพทย์ และเรียนรู้ด้านการอ่านเขียนเอี๊ยดเย่ซิวผลักประตูแล้วเดินเข้าไป วินาทีต่อมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือกระต่ายในมือถูกทิ้งลงกับพื้นเห็นเพียงชายชราคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนฟูก ศีรษะตกลงมา ไม่มีลมหายใจเหลืออยู่แล้ว“อาจารย์ อาจารย์ครับ เป็นยังไงบ้าง?!”เย่ซิวตกใจมากรีบรุดขึ้นไปแล้วตรวจชีพจรของเขาก่อน จึงได้พบว่าไม่มีการเต้นของชีพจรแล้วจากนั้นเขาก็รีบหยิบเข็มเงินออกมาแล้วฝังเข็มลงไปไม่มีประโยชน์!เขาถ่ายทอดพลังปราณอันทรงพลังของตัวเองไปให้ แต่ก็ยังคงไร้ผลใด ๆความโศกเศร้าครั้งใหญ่เข้
“ไปให้พ้น แกไอ้คนเถื่อนตัวเหม็น อย่าเข้ามาในรถของฉันนะ และห้ามแตะต้องคุณปู่ของฉันด้วย!”เซี่ยชิงชิงแยกเขี้ยวยิงฟัน กางกรงเล็บของเธอเหมือนกับลูกแมวขี้โมโหเย่ซิวโกรธแล้ว ‘หญิงคนนี้คงไม่ปกติสินะ?!’เขาคว้าข้อมือของเซี่ยชิงชิง ออกแรงแล้วลากเธอออกมาเซี่ยชิงชิงพยายามดิ้นอย่างหนัก "กรี๊ดดด ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้นักเลงตัวเหม็น!"เพียะ เพียะ!เย่ซิวไม่ตามใจเธออยู่แล้ว จับเอวเธอขึ้นมาโดยตรงแล้วตีแรง ๆ สองทีร่างอ้อนแอ้นของเซี่ยชิงชิงชะงักกึก เธอหันไปมองเย่ซิวด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ "นาย...นายถึงกับ…!"เย่ซิวโยนเซี่ยชิงชิงลงกับพื้น ขู่เธออย่างดุร้ายว่า "หุบปากไปเลย ไม่งั้นฉันจะจัดการเธอตรงนี้แหละ! ในที่รกร้างห่างไกลแบบนี้ เธอหนีไม่รอดหรอก แม้แต่สัตว์ร้ายก็ยังเอาชนะฉันไม่ได้ ลองคิดดูเอาเองก็แล้วกัน!"เซี่ยชิงชิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันทีเย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเธออีก เขาหันหลังแล้วกลับเข้าไปในรถเขาตรวจชีพจรของชายชราก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย หยิบเข็มเงินออกมา หลังฆ่าเชื้อแล้ว จึงฝังเข็มลงไปบนจุดชีพจรของชายชราอย่างรวดเร็วแต่เดิมชายชรามีอาการหายใจติดขัดแต่หลังจา
เพียะ!หนึ่งฝ่ามือหนัก ๆ ฟาดไปที่หน้าของเซี่ยชิงชิงใบหน้าที่ขาวผ่องและเนียนละเอียดของเธอบวมขึ้นในทันทีนั้นเสียงตบที่คมชัด ดังก้องอยู่ในหูของทุกคน ทำให้เซี่ยเจี๋ยเบิกตากว้าง บอดี้การ์ดทั้งสองคนเองก็ตกตะลึงเช่นกันเซี่ยชิงชิงยกมือขึ้นกุมหน้า ความรู้สึกเจ็บและร้อนผ่าว รวมถึงความอัปยศอดสูอย่างถึงที่สุดทำเอาเธอแทบบ้าคลั่งเสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้นทันที "กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด แกกล้าตบหน้าฉันเหรอ?!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเธอ มองไปที่เซี่ยเจี๋ยแล้วพูด “หลานสาวของคุณกำเริบเสิบสาน ไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส ผมก็เลยช่วยสั่งสอนเธอแทนให้ มีปัญหาอะไรไหมครับ?"เซี่ยเจี๋ยยิ้มอย่างขมขื่น "ฉันไม่กล้ามีปัญหาหรอก หลานสาวฉันคนนี้ หยิ่งผยองมากเกินไปแล้วจริง ๆ"“คุณปู่ ฆ่าเขา รีบฆ่าเขาเดี๋ยวนี้เลย!” เซี่ยชิงชิงตีโพยตีพาย คนทั้งคนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกตบหน้า“หุบปาก!”เซี่ยเจี๋ยตะคอก เขาปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธออกมานิดหน่อย “ดูเหมือนว่าปกติปู่จะตามใจหลานจนเสียคนแล้วจริง ๆ รีบขอโทษผู้มีพระคุณเย่เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจนกระทั่งหลานเรียนจบ อย่าคิดว่าจะได้
จ้าวเฉียนเดินเข้ามาพร้อมกับเลขาฯ เมื่อเห็นฉากนี้เขาก็ตะโกนทันที "หยุดเดี๋ยวนี้!"ชายฉกรรจ์หลายสิบคนยั้งมือ“พ่อ?” จ้าวเฟิงตกตะลึง “พ่อมาทำอะไรที่นี่?”จ้าวเฉียนถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"จ้าวเฟิงอธิบายเหตุการณ์ให้จ้าวเฉียนฟังด้วยเสียงทุ้มต่ำดวงตาของจ้าวเฉียนเป็นประกาย ความคิดของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็วเขาเข้าใจสถานการณ์อย่างคร่าว ๆ แล้ว น่าจะเป็นเย่ซิวคนนี้ที่บังเอิญช่วยเซี่ยเจี๋ย แต่ขณะเดียวกันก็ดันไปทำให้เซี่ยชิงชิงขุ่นเคืองใจ จึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นต้องบอกว่าจ้าวเฉียนสมกับที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าจริง ๆเขาโบกมือ "อย่างนั้นก็ลงมือเถอะ"แต่ในตอนนี้เอง จู่ ๆ เย่ซิวก็โพล่งขึ้น "คุณคือจ้าวเฉียนงั้นเหรอ?"ที่นี่คืออาคารของบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป และในพินัยกรรมที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้นั้น ยังได้ทิ้งข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับจ้าวเฉียนเอาไว้ด้วยจ้าวเฟิงโกรธมาก "ชื่อของพ่อฉัน แกอยากจะเรียกก็เรียกได้หรือไง? ไอ้คนเถื่อน!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเขา "เป็นคุณจริง ๆ เยี่ยมเลย ผมมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ"“โอ้?” จ้าวเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "คนเถื่อนที่เพิ่งลงมาจากเขาอย่างนาย มีธุระอะไรกับฉ
ที่หน้าร้าน หญิงวัยกลางคนชี้ไปที่เย่ซิวแล้วตะโกนเสียงดังลั่น "ไสหัวไปให้ไกล ๆ เลย อย่ามาขัดขวางธุรกิจของฉัน!"ในความเห็นของเธอ เย่ซิวซึ่งสวมชุดผ้าขี้ริ้วและสะพายถุงผ้าเก่า ๆ ไม่ต่างอะไรจากขอทานเย่ซิวพูดว่า "ผมไม่ใช่ขอทาน ผมมาซื้อเสื้อผ้า ผมมีเงิน"หญิงวัยกลางคนกอดอกและเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่า "ขอทานอย่างแกจะมีเงินสักเท่าไหร่เชียว สิบหยวนหรือว่ายี่สิบหยวนล่ะ? แกไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้หรอกนะ ห้ามเข้ามาในร้านของฉัน อย่าทำให้ร้านของฉันสกปรก"เย่ซิวระงับความโกรธ "ผมบอกคุณไปแล้วนี่ว่าผมมีเงิน ถ้าคุณเปิดร้านทำธุรกิจ ทำไมถึงไม่ให้ผมเข้าไปล่ะ?"หญิงวัยกลางคนโกรธมาก "แกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? ถ้าไม่ไป ฉันจะไม่ยั้งมือแล้วนะ"หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบไม้กวาดข้างประตูขึ้นมาและจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าดุร้าย“พี่ชายคนนี้ อยากจะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ? มาที่ร้านฉันก็ได้นะ”ทันใดนั้นเอง เสียงอ่อนหวานเสียงหนึ่งก็ดังมาจากร้านข้าง ๆ เย่ซิวหันกลับไปมอง เห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณสิบแปดหรือสิบเก้าปีกำลังพูดกับเขาอย่างเขินอายเธอดูไร้เดียงสามาก สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีขาวผมถูกถักเป็นเปียสอง
เมื่ออ็อคเข้าใกล้ แรงกดดันอันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้พูท พรีเอลล์ และเคย์ฟี่ถึงกับสะดุ้ง หายใจติดขัดราวกับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูร้าย!"เย่ซิว! นายมาที่นี่ทำไม? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายควรมา!"เสียงของอ็อคดังกึกก้อง ราวกับฟ้าร้อง"หลีกไป อย่ามาขวางทางฉัน"เย่ซิวพูดอย่างไม่ไว้หน้า ขณะที่ยังคงจับจ้องไปที่โซเฟียเขากำลังคาดเดาว่าเธออาจจะมาจากโลกภายนอกนี่เป็นความเป็นไปได้ที่เขาคิดว่าน่าเชื่อถือที่สุด"อวดดีนัก! อยากตายรึไง!""เย่ซิว! ที่นี่ไม่ใช่สำนักโอสถ และไม่ใช่ประเทศหลงเถิงด้วย! นายมาคนเดียว อย่าทำตัวอวดดีให้มากนัก!""ใช่! ไม่งั้นนายอาจจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่!"……เหล่าผู้ติดตามของอ็อคต่างพากันล้อมเย่ซิว สีหน้าของแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรและความเย็นชาถ้าเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน พวกเขาคงไม่กล้าพูดจาแบบนี้กับเย่ซิวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วการปรากฏตัวของอ็อคทำให้พวกเขามั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้นเพราะพวกเขาเคยเห็นฝีมือของอ็อคมาก่อน จึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขามั่นใจ แม้แต่เย่ซิวมาเอง อย่างมากก็คงทำได้เพียงเสมอกันยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่
จากสีหน้าของสามีผู้หญิงคนนี้เมื่อครู่ ดูเหมือนว่าเขาน่าจะเดาออก หรือไม่ก็รู้และปล่อยผ่านไปแล้วเรื่องแบบนี้คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในตระกูลใหญ่ มักจะมีเรื่องสกปรกแบบนี้อยู่เสมอบางครั้งเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือเป้าหมายอื่น ๆการยอมสละภรรยาหรือแม้แต่ลูกสาวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเย่ซิวเองก็เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนเคย์ฟี่เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากเธอเป็นผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งวัยที่สุกงอมผู้หญิงแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นนักล่าผู้ชายโดยแท้แต่เย่ซิวกลับไม่รู้สึกสนใจเธอสักเท่าไรไม่ใช่เพราะว่าเขาสูงส่งอะไรนักหรอก แต่เพราะเขารู้สึกว่าเธอดูสกปรกเกินไปผู้หญิงที่ถูกนับไม่ถ้วนลิ้มรสแบบนี้ ต่อให้สวยแค่ไหน เย่ซิวก็ไม่มีทางสนใจดังนั้นไม่ว่าเคย์ฟี่จะพยายามยั่วยวนยังไง เย่ซิวก็ยังคงนิ่งเฉยทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยขณะที่พรีเอลล์ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เห็นฉากนี้ สีหน้ากลับดูผ่อนคลายขึ้นมาในใจคิดว่าแม่ยังสู้ตัวเองไม่ได้ อย่างน้อยตัวเองก็เคยทำสำเร็จมาก่อนผ่านไปห้าสิบกว่านาที พวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทางทันทีที่ลงจากรถ ก็สามารถมองเห็นกำแพงขนาดมหึมา ล้อมรอบซากโบราณสถานท
เย่ซิวเผาผลาญเลือดสดของตนเองไปหนึ่งเปอร์เซ็นต์ชั่วพริบตา พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นหนึ่งส่วนหากคำนวณเช่นนี้ ถ้าเขาเผาผลาญเลือดสดไปห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ก็จะสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ได้ถึงห้าเท่าในทันทีนี่เป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นยิ่งนักทว่าทักษะลึกลับนี้ก็มีข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงนั่นคือหลังจากเผาผลาญเลือดสดแล้วจะต้องตกอยู่ในสภาวะอ่อนแอเป็นเวลานานแต่เย่ซิวสามารถลดอันตรายจากข้อเสียนี้ให้เหลือน้อยที่สุดเพราะร่างกายของเขาตอนนี้แข็งแกร่งเกินกว่าผู้ใดความสามารถในการสร้างเลือดของหัวใจนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งคนทั่วไปหากใช้วิชานี้ไปแล้วจะต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อฟื้นตัวแต่เย่ซิวไม่เหมือนคนทั่วไปเขาสามารถฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้ภายในสิบกว่านาทีหากมีพลังงานเสริมเพียงพอ เขาสามารถใช้วิชาผลาญโลหิตได้สิบกว่าครั้งรุ่งเช้าของวันถัดมาเย่ซิวเดินทางมาถึงตระกูลของพรีเอลล์ทันทีที่ลงจากรถ เขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นพ่อแม่ของพรีเอลล์ คู่สามีภรรยาที่ดูยังหนุ่มสาวมาปรากฏตัวฝ่ายหญิงงดงามสง่า ฝ่ายชายมีกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาเบื้องหลังพวกเขายังมีเหล่าชายหญิงวัยหนุ่มสาวติดตามมาด้วย แต่ละคน
เย่ซิวคว้าคอของพรีเอลล์ไว้แน่น ก่อนจะปลดปล่อยวิชามารโลหิตออกมาอย่างไม่ลังเลสีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก เธอพยายามดิ้นรนสุดกำลังแต่ตอนนี้ พลังของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าเธอจะขัดขืนแค่ไหน ก็ไร้ประโยชน์พลังอันแข็งแกร่งที่แฝงอยู่ในเลือดของเธอถูกเย่ซิวดูดกลืนอย่างต่อเนื่องหลังจากดิ้นรนไปได้สักพัก ร่างกายของพรีเอลล์ก็ไร้เรี่ยวแรง ไม่สามารถขยับได้อีกต่อไปดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและวิงวอน ขณะที่จ้องมองไปที่เย่ซิวผิวพรรณของเธอซีดหมองราวกับแก่ลงไปสิบกว่าปีในพริบตาเมื่อดูดกลืนพลังในเลือดของเธอไปเกือบครึ่ง เย่ซิวจึงยอมปล่อยมือจากพรีเอลล์พรีเอลล์รีบถอยห่างออกจากเย่ซิวในทันที พลางหอบหายใจอย่างหนักเย่ซิวกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ผมไม่อยากเห็นคุณใช้วิธีสกปรกแบบนี้จัดการผมอีก ถ้ามีครั้งหน้า ผมไม่รับประกันว่าคุณจะรอดไปได้”เมื่อครู่ กลิ่นที่พรีเอลล์ปล่อยออกมาจากร่างกายคือยาชนิดซีและดูเหมือนว่าจะเป็นสูตรใหม่ที่เขาไม่เคยพบมาก่อน มีฤทธิ์รุนแรงมากถ้าหากเป็นช่วงที่เย่ซิวเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับจินตาน มีโอกาสสูงที่เขาจะต้านทานมันไม่ไหวหากเป็นเช่นนั้น
เย่ซิวยอมไปกับพวกเขาโดยลำพัง แสดงว่าเขาต้องมีบางอย่างที่ทำให้สามารถเมินเฉยต่อพวกเธอได้ ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหลืออยู่ก็ถูกเก็บกลับไปที่จริงแล้ว จุดประสงค์ที่พวกเขามาหาเย่ซิวในครั้งนี้ ก็มีความคิดที่จะล่อเขาไปแล้วร่วมกันรุมโจมตีแต่จากสถานการณ์ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความคิดนั้นจะเป็นไปไม่ได้แล้วเมื่อเก็บงำความคิดที่วุ่นวายในใจลงไป พูทก็หัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยื่นมือออกไปวางบนไหล่ของเย่ซิวแต่เพียงแค่โดนสายตาของเย่ซิวจ้องกลับมา เขาก็รีบหดมือกลับไปอย่างขัดเขิน“เอ่อ งั้นพวกเรารีบไปกันเถอะ น้องเขยสุดที่รัก ขึ้นรถของฉันสิ นี่เป็นรถยนต์ลอยตัวรุ่นใหม่ล่าสุดที่ประเทศจ้านฉงตี้วิจัยขึ้นมา”“โอ้ งั้นเหรอ งั้นผมต้องลองดูหน่อยแล้ว” เย่ซิวเผยสีหน้าสนใจขึ้นมาไม่ไกลจากจุดที่พวกเขายืนอยู่ มีรถคันหนึ่งจอดอยู่ ลักษณะภายนอกดูไม่ต่างจากรถสปอร์ตมากนักแต่เส้นสายของตัวรถดูโฉบเฉี่ยวกว่า ใหญ่กว่า และเต็มไปด้วยความล้ำสมัยทางเทคโนโลยีพูทเป็นคนเปิดประตูรถก่อน แล้วทำท่าเชื้อเชิญให้เย่ซิวขึ้นไปเย่ซิวกับพรีเอลล์นั่งที่เบาะหลังส่วนพูทเป็นคนขับพูทกดปุ่มสตาร์ทรถ ทันใดนั้นล้อทั้งสี่ของรถก็ถูกพับเก็บเข้าไ
“น้องเขยที่รัก ไม่ได้เจอกันตั้งนาน คิดถึงพี่เขยบ้างไหม?”พูทเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นเย่ซิว ก่อนจะกางแขนออกแล้วพุ่งเข้าหาเขาด้วยความเร็วแต่กลับโดนเย่ซิวเตะออกไปเต็มแรงจนร่างทั้งร่างลอยหวือไปนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นพูทดีดตัวขึ้นมาทันทีแบบไม่เสียฟอร์ม กระโดดลุกขึ้นยืนได้อย่างคล่องแคล่วเขาเกาหลังหัวพลางหัวเราะแห้ง ๆ โดยไม่รู้สึกกระดากอายแม้แต่นิดเดียวถ้าใครคิดว่าพูทเป็นแค่ผู้ชายซื่อ ๆ ตรงไปตรงมา ก็คงถูกเขาหลอกจนไม่เหลือกระดูกสักชิ้นพรีเอลล์ที่เห็นเย่ซิวอีกครั้ง สีหน้าของเธอดูซับซ้อนอย่างบอกไม่ถูกผู้ชายคนนี้เคยทำให้เธอเหมือนลอยอยู่บนฟ้า แต่ก็เคยทำให้เธอโมโหจนแทบอยากจะฆ่าเขาให้ตายเหมือนกัน“พวกนายมาทำอะไรที่นี่?” เย่ซิวถามเสียงเรียบ“แน่นอนว่ามาเพราะคิดถึงน้องเขยอย่างนายสิ” พูททำท่าจะพูดจากวน ๆ แต่พอเห็นสีหน้าของเย่ซิวที่ดูไม่เป็นมิตร ก็รีบเปลี่ยนคำพูดแทบไม่ทัน “เอ่อ คือ พรีเอลล์คิดถึงนายน่ะ ฉันก็เลยมาด้วย”พรีเอลล์กลอกตา “พี่ชาย เลิกพูดอะไรไร้สาระเถอะ ทุกคนไม่ได้โง่นะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า”พูทเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง “เย่ซิว นายไม่ได้อยากไปที่นั่นหรอกเหรอ? ถ้าจะไปก็ต้องรีบแล้วนะ ถ
"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณไม่ต้องซ่อมถนนอีกแล้ว""ได้ เข้าใจแล้ว"หยางถิงถิงแสดงท่าทางสงบนิ่ง ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วหากเป็นเมื่อก่อน เมื่อได้ยินข่าวนี้ เธอคงจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ"แล้วฉันล่ะ" น่าอีชี้มาที่ตัวเอง ถามด้วยสายตาเว้าวอน"ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถสร้างคุณค่าให้ฉันได้มากแค่ไหน" เย่ซิวมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า "บอกเวทมนตร์ฉันมาอย่างหนึ่ง แล้วเธอจะได้รับอิสระสามวัน""ได้! ฉันบอกคุณสิบอย่างเลยตอนนี้"เธอก็ยอมรับชะตากรรมแล้ว ในเมื่อทรยศไปแล้ว ก็ขอให้มันสุดทางมีเพียงการมีชีวิตอยู่เท่านั้น จึงจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้เย่ซิวใช้พลังจิตตรวจสอบเธอ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เธอพูดเกี่ยวกับเวทมนตร์ไม่มีอะไรผิดพลาดผู้หญิงคนนี้ก็ฉลาดดี ไม่กล้าใช้เล่ห์เหลี่ยมใด ๆ ว่าง่ายและบอกเวทมนตร์สิบชนิดออกมาอย่างไม่ปิดบังเย่ซิวจึงได้เพิ่มศาสตร์ที่รู้จักเข้าไปอีกสิบวิธีจากนั้น เขาก็ปล่อยให้เธอไปตามใจผู้หญิงคนนี้ยังมีมารยาท กล่าวขอบคุณเย่ซิวก่อนจากไป"พี่ชายเย่ สอนวิชาเวทย์ให้ฉันหน่อยสิ"เมื่อน่าอีจากไป หยางถิงถิงก็จับแขนของเย่ซิวแล้วออดอ้อนก่อนหน้านี้ที่เธอทำตัวสงบนิ่งนั้น มีส
ภายในห้องทดลองชีวภาพหมายเลขเก้าซึ่งเป็นห้องทดลองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจ้านฉงตี้จากข้างใน มีเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวดังออกมาเป็นระลอกราวกับสิ่งมีชีวิตโบราณที่ตื่นขึ้นจากการหลับใหล สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลกหมีสงครามทองคำตัวหนึ่ง สูงกว่าสิบเมตร ขนทั่วร่างเป็นสีทองอร่าม แม้แต่ดวงตาก็เป็นสีทองมันเงยหน้าคำราม เสียงกึกก้องแผ่กระจายออกไปจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าภายในห้องทดลอง นักวิทยาศาสตร์ในเสื้อกาวน์สีขาวต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีจนแทบแสบแก้วหู“ฮ่าฮ่าฮ่า! ในที่สุดก็สำเร็จ!”“หมีสงครามทองคำ นี่คือสายเลือดที่สมบูรณ์แบบที่สุด”“พลังของมันตอนนี้ มากกว่าพูทถึงหนึ่งร้อยเท่า!”“หมีสงครามทองคำตัวนี้สามารถฉีกกระชากจักรกลมังกรดำได้อย่างง่ายดาย”“แล้วมันจะสู้กับเย่ซิวได้ไหม?”“คงยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก… แต่ตอนนี้พลังของมันยังไม่ได้ถูกปลดปล่อยออกมาทั้งหมด มันยังต้องการสารอาหารอีกมหาศาล”“รีบรายงานองค์จักรพรรดิ ขออนุมัติสารอาหารเพิ่ม! ตามการคำนวณของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เมื่อมันดูดซับพลังงานได้มากพอ มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และจะแข็งแกร่งกว่าเย่ซิวอย่างแน่นอน”……เย่ซิวพาน่าอี
เขานึกถึงสถานที่ที่พรีเอลล์เคยพูดถึง สถานที่ที่แม้แต่การระเบิดของระเบิดเอชก็ไม่อาจทำลายได้คงต้องไปดูสักหน่อย ว่าจะมีอะไรให้เก็บเกี่ยวได้บ้างเย่ซิวละสายตากลับมา แล้วหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมาจากแหวนผนึก ก่อนจะโยนให้น่าอีใส่เสื้อผ้าแล้วตามฉันกลับไปหญิงคนนี้พลังไม่นับว่าอ่อนแอ จะปล่อยไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่ได้อีกทั้งบนตัวเธอยังมีสิ่งที่มีค่าอีกมากมายที่สามารถค่อย ๆ รีดเค้นออกมาได้น่าอีเม้มริมฝีปากแน่นอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะสวมเสื้อผ้าเธอกะเผลกเดินกะเผลกมาหยุดอยู่ข้างเย่ซิว โดยไม่เอ่ยคำใดเย่ซิวยกแขนโอบรัดเอวเธอ ก่อนจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มุ่งหน้ากลับไปยังสำนักโอสถ......ภายในประเทศจ้านอิงตี้ เมื่อจักรพรรดิอินทรีครามได้รับรายงานจากผู้ช่วย ความโกรธก็ปะทุขึ้นจนเขาขว้างถ้วยในมือจนแตกกระจาย"เย่ซิว! เป็นเย่ซิวอีกแล้ว! ดาวเทียมลาดตระเวนที่ส่งขึ้นไปอย่างยากลำบาก กลับถูกเขาทำลายลงอีกครั้ง! พลังของมันพัฒนาไปถึงระดับไหนกันแน่!"ในฐานะบุคคลที่ครอบงำทั่วโลกมานานหลายสิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกจนปัญญาและอัดอั้นขนาดนี้ แถมยังเต็มไปด้วยโทสะอย่างลึกล้ำผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่กล้าแ