หลังจากนั้นท่านประธานก็เดินออกไปจากห้องประชุม นักศึกษาจึงได้แยกย้ายกันเพื่อที่จะกลับไปทำงานยังแผนกของตนเอง“หวัดดีนาย ชื่อไรเหรอ” อยู่ๆผู้หญิงคนนั้นคนที่เป็นลูกเจ้าของบริษัทก็เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าของผมพร้อมกับพูดขึ้นอีกครั้ง“...”“เราชื่อไอริสนะ อยู่แผนกการตลาด” แล้วเธอก็ยังคงพูดแนะนำตัวเองต่อไปโดยไม่สนใจว่าผมนั้นจะอยากรู้ไหม“ใครถามเธอ?” ผมเริ่มรำคาญเธอจึงพูดกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เริ่มหงุดหงิด พูดอยู่ได้“ก็อยากบอกอยากทำความรู้จักไง ไม่ได้เหรอ” แต่เธอก็ยังคงพูดต่อแล้วเอื้อมมือเข้ามาโอบรอบแขนของผม“ฉันไม่ชอบความวุ่นวาย!!!” พร้อมกับสลัดแขนของเธอที่เกาะกุมแขนผมออก แล้วรีบเดินออกไปทันทีแต่หญิงสาวคนนั้นก็ยังมิวายตะโกนตอบกลับมาอย่างเสียงดัง“ไว้ฉันแวะไปหาที่แผนกนะ” ยัยผู้หญิงคนนั้นตะโกนมาอีกหลังจากที่พวกผมนั้นเดินออกมาอย่างไม่ใยดีเธอ“มึงนี่นะเสน่ห์แรงล้นเหลือ” เป็นเสียงของออสตินพูดขึ้นจากทางด้านหลังแล้วมันก็เดินเร็วขึ้นเพื่อเดินมาล๊อคคอผม“ผู้หญิงแบบนี้กูไม่สนใจหรอก” ผมจึงตอบกลับไปด้วยสีหน้าราบเรียบไม่ได้แสดงอาการใดๆออกไปพร้อมกับแกะมือของออสตินออก“ก็ตอนนี้ในใจมันมีแต่น้องพราววว” เวหาก็พ
มหาวิทยาลัย CH“พวกมึงดูดิวะ เด็กปี1 รุ่นนี้แม่งน่ารักฉิบหาย” เวหาพูดพร้อมกับชี้ไปทางสาวๆรุ่นน้องปี1ที่นั่งกันเป็นแถวอยู่กับกิจกรรมรับน้องของทางมหาลัยวันนี้รวมเด็กหลายคณะไว้ด้วยกันหมดเลยจึงทำให้ได้เห็นสาวๆสวยๆน่ารักมาให้หนุ่มได้มองเป็นอาหารตา “งานดีจริงวะ ดูน้องนิเทศกลุ่มนั้นดิว่ะ“ ออสตินหนุ่มลูกครึ่งของกลุ่มนี้พูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปทางรุ่นน้องนักศึกษาปี1ที่นั่งเรียงรายกันอยู่ “พวกมึงนี่แม่งน่ารำคาญจริง เบาๆดิ๊กูจะนอน” ธาวินพูดบ่นออกไปพร้อมกับฟุบหน้าลงกับม้านั่งเขาเหนื่อยอยากจะนอนพักสายตาสักแปบแต่ไอ้พวกนี้ก็ดันพูดเสียงดังขึ้นมา“ก็กูบอกแล้วอย่าหักโหมเมื่อคืนโยกกันมันส์ยันเช้าเลยสินะ” สายฟ้าพูดพร้อมกับส่ายหัวในท่าทีง่วงนอนของเพื่อนสนิทก็เมื่อคืนพวกผมอยู่กันที่ผับของไอ้สายฟ้า ที่นี่เป็นกิจการครอบครัวของเพื่อนผมมีเปิดทั้งบ่อน โต๊ะพนัน ผมและเพื่อนๆนั่งดื่มกันเกือบตี1 ระหว่างที่นั่งดื่มกันอยู่ที่โต๊ะVIP ก็มีหญิงสาวหน้าตาสะสวย หน้าอกโต แต่งชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีแดงสุดเซ็กซี่เดินเข้ามาหาผมที่โต๊ะ เธอบอกอยากรู้จักผม ผมก็เลยพาเธอไปทำความรู้จักกันให้รู้ทุกซอกทุกมุมของกันและกันบนห้องชั้นบนของผับ
3ปีก่อนหน้านั้น....@ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งหลังเลิกเรียนผมและพวกเพื่อนได้ขับรถกันมากินข้าวที่ห้างแห่งนี้กันเป็นประจำ“พวกมึง~วันนี้กินชาบูกันดีกว่าอย่างหิวเลย” สายฟ้าพูดพร้อมเดินนำเข้าไปในร้านชาบูทันทีและผมที่กำลังก้มหน้าเล่นเกมส์อยู่พร้อมกับเดินตามหลังพวกเพื่อนเข้าไปนั้นก็ดันชนเข้ากับร่างเล็กบอบบางเข้าอย่างจังจนเธอนั้นล้มลงไปเลย“อ๊ะโอ๊ย” เธอล้มลงทันที พวกเราชนกันแรงอยู่พอสมควร ผมรีบเก็บโทรศัพท์เครื่องหรูแล้วรีบเข้าไปช่วงพยุงเธอขึ้นมาทันทีพร้อมกับพูดขอโทษและถามไถ่อาการไปยังเธอ“เป็นไรมั้ย? พี่ขอโทษด้วยนะพี่มัวแต่เล่นเกมส์ไม่มองทางเองอ่ะ”ผมพูดพร้อมกับขอโทษน้องคนนั้นทันที“พี่วิน! มะ..ไม่เป็นไรค่ะพี่ พราวก็มัวแต่คุยกับเพื่อนด้วยไม่ได้มองทางเลยค่ะถือว่าหายกันนะคะ”ร่างบอบบางเงยหน้าและพูดขึ้นด้วยสีหน้าอาการเคอะเขิน ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อจนทำให้พูดติดๆขัดๆ“รู้จักพี่ด้วยเหรอครับ?” ธาวินที่เห็นว่าผู้หญิงคนนี้พูดชื่อของตนจึงได้ถามด้วยความสงสัยออกไปทันที“พราวเป็นรุ่นน้องของพี่ค่ะ พวกเราเคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน” หญิงสาวจึงได้บอกกับรุ่นพี่ออกไปว่าเธอนั้นรู้จักเขาได้อย่างไรกัน“อ๋อ งั้นถ้าไม่ม
“โอเคครับ น้องปี1ทั้งห้าคนนี้คือผู้โชคดี และกิจกรรมพิเศษก็คือจะได้ออกเดทก็รุ่นพี่ปี 4สุดฮอตนะครับ” สิ้นเสียงของรุ่นพี่ เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นทันที เหล่าบรรดาสาวๆต่างพากันอิจฉาสาวน้อยทั้งห้าคนที่ได้เป็นผู้โชคดีได้ออกเดตกับรุ่นพี่สุดฮอต“งั้นขอเชิญ หนุ่มสุดฮอตออกมาเลยครับ พี่โชน พี่กาย พี่มาร์ค พี่แจ๊ค และคนสุดท้ายพี่วิน” หนุ่มสุดฮอตสามารถเรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าบรรดารุ่นน้องปี1 ได้อย่างกระหึ่มเมื่อเหล่าบรรดารุ่นพี่ปี4 สุดฮอตมายืนอยู่ใกล้ๆฉันแล้ว สายตาก็พลันเหลือบมองไปเห็นเข้ากับรุ่นพี่สุดฮอตคนนึงที่ฉันเคยรู้จักเขา และเขาก็มองมาที่ฉันอยู่พอดี นั่นมันรุ่นพี่ใจร้ายคนนั้นนี่ คนที่ฉันเคยแอบชอบและไปสารภาพรักกับเขา รักแรกของฉัน...“ในนี้มีไข่ใส่ตัวเลข1-5ไว้ ทั้งสองกระปุกนะครับ ปี1จับฉลากกระปุกนี้ ส่วนพวกนายจับที่กระปุกใบนี้ เริ่ม”ฉันเดินเอามือควานไปหยิบไข่ออกมาจากกระปุกแล้วภาวนาขอให้อย่าได้ตัวเลขตัวเดียวกันกับรุ่นพี่คนนั้นเลย ฉันไม่อยากอยู่ใกล้เขาอีก ไม่อยากเจอเขาเลยด้วยซ้ำ รู้อะไรไหมตอนนั้นที่ฉันไปสารภาพรักแล้วโดนรุ่นพี่ใจร้ายปฎิเสธกลับมา ฉันร้องไห้และเสียใจอยู่ตั้งนาน“งั้นให้รุ่นพี่สุดฮอตเปิ
ภายในรถต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมามีแค่เพียงเสียงเพลงที่รุ่นพี่ใจร้ายเปิดไว้ตั้งแต่ขึ้นรถและสุดท้ายก็เป็นฉันเองที่ทนไม่ไหวมันอึดอัดจนต้องถามออกไป“นี่เราจะไปกินข้าวกันที่ไหนคะ”“…” และเขาก็เงียบ“รุ่นพี่!! ได้ยินที่พูดไหมคะเนี่ย” ฉันเริ่มที่จะโมโหรุ่นพี่ใจร้ายและพอเขาไม่ตอบฉันก็เลือกที่จะหันหน้าออกไปมองที่นอกหน้าต่างแทน“ต่อไปให้เรียกแทนตัวเองว่า หนู” ฉันหันมองหน้ารุ่นพี่ใจร้ายทันที อยู่ดีๆก็มาออกคำสั่งให้แทนตัวเองว่าอย่างนู้นอย่างนี้ นี่เขามีสิทธิ์อะไร วุ่นวายจริงให้ตายเถอะ“ทำไมต้องเรียก...” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยคเขาก็พูดแทรกขึ้นมา“ฉันว่าน่ารักดี” เขาพูด“...”“เรามีภารกิจเดทกันอยู่ ตอนนี้เธอเป็นแฟนฉัน เพราะฉะนั้นฉันพูดอะไร เธอต้องฟัง” และรุ่นพี่ใจร้ายก็ใช้สายตาดุมองมาที่ฉัน“เฮ้อ ก็ได้ค่ะ” ฉันถอนหายใจออกมาเสียงดังพรางคิดในใจว่าอาทิตย์เดียวเท่านั้นก็จะได้อิสระจากกิจกรรมบ้าๆนี้แล้วร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้า“อยากกินอะไรสั่งได้เลยนะ” เมื่อเดินเข้ามานั่งภายในร้านอาหาร รุ่นพี่ปี4ก็เริ่มสั่งอาหารทันทีและไม่ลืมที่จะถามฉันว่าอยากได้อะไรเพิ่มอีกไหม“แค่นี้ก็เต็มโต๊ะแล้วค่
คอนโดพราวเวลา 9.30เสียงมือถือของฉันก็ดังขึ้น~ฉันที่กำลังนอนหลับสบาย ตากแอร์เย็นฉ่ำ ก็ต้องตื่นขึ้นมากดรับสายโดยที่ตายังไม่ลืม“ฮาโหลล”“ฉันอยู่หน้าห้องมาเปิดประตูเดี๋ยวนี้!!” เมื่อได้ยินรุ่นพี่ใจร้ายบอกว่าอยู่หน้าห้องพักของฉัน ฉันก็รีบลุกขึ้นไปเปิดทันทีโดยที่ลืมไปว่าตัวฉันเองนั้นอยู่ในสภาพที่ใส่ชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวเพียงอย่างเดียว โนบรา และเมื่อเปิดประตูรุ่นพี่ใจร้ายก็ตะลึงไปกับชุดนอนของฉัน และรีบดันตัวของเขาเองเขามาให้ห้องทันที“ทีหลังก่อนจะเปิดประตูให้คนอื่น ควรดูชุดตัวเองก่อน” รุ่นพี่พูดและมองมายังร่างกายของฉัน ฉันจึงก้มมองชุดของตัวเอง ก็ต้องร้องตกใจออกมา“กรี๊ดด ยัยบ้าพราวเอ๊ย ทำไมลืมดูชุดก่อนออกไปเปิดได้เนี้ย ฮือออ” ฉันรีบวิ่งเข้าห้องนอนของตัวเองทันทีและรีบก่อนล๊อคประตูทันที เอามือแนบที่อกด้านซ้ายใจฉันเต้นแรงมาก เกือบโป๊ต่อหน้าผู้ชายแล้วไหมล่ะภายในรถวันนี้ฉันเลือกที่จะใส่เสื้อยืดสีม่วงพาสเทลสีโปรดของฉันกับกางเกงยีนส์ที่ขาดช่วงเข่านิดๆพร้อมรองเท้าผ้าใบคู่ใจสีขาวสุดโปรดที่ชอบใส่บ่อยมาก“จ๊อกก จ๊อกก”เป็นเสียงท้องร้องของฉันที่ดังขึ้นสร้างความอับอายให้กับฉันอีกแล้ว“แวะกินข้าวก่อ
หลังจากนั้นพวกรุ่นพี่ก็นั่งกินลมชมวิวกันที่โต๊ะริมชายหาด กินอาหารทะเล จิบเบียร์ ชมวิวกันไปพรางๆและตรงที่กลุ่มของพวกฉันนั่งกันอยู่นั้นค่อนข้างเงียบไม่ค่อยมีกลุ่มผู้คนสักเท่าไหร่นัก อากาศยามสายแสงแดดยังไม่ร้อนแรงมากนัก มีผู้คนประปราย“งั้นพราวขอตัวออกไปเดินเล่นก่อนนะคะ” ฉันพับขากางเกงขึ้นมาไว้ประมาณเข่าเพื่อให้สะดวกเวลาไปเดินชิวๆริมทะเล เดินออกมาเรื่อยๆริมชายหาด ฟังเสียงคลื่นซัดชายฝั่ง รับลมเย็นๆ ริมทะเล และเดินไปได้สักพักใหญ่ก็เหมือนมีเสียงฝีเท้าคนเดินตามมาและเมื่อฉันหันไปดูก็พบกับ พี่วิน นี่เขากะจะตามฉันไปทุกๆทีเลยหรือไง กะจะไม่ปล่อยให้ฉันมีเวลาส่วนตัวเลยใช่ไหมเนี้ย เห้อมมหมับ!พี่วินเดินมาคว้าเข้าที่แขนของฉัน และหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาเปิดไปที่กล้อง เตรียมพร้อมที่จะกดถ่ายรูป“จะทำอะไรอีกคะพี่?”“ก็ถ่ายรูปคู่ไง มาทะเลทั้งทีถ่ายส่งกิจกรรมหน่อย” เขาโอบกอดฉันให้เข้าไปใกล้เขามากขึ้น“ยิ้ม!!”พอถ่ายรูปเสร็จพี่วินเดินจับมือพาฉันเดินกลับมาที่โต๊ะของกลุ่มเพื่อนพี่เขาทันที“นี่เราจะกลับกันเลยใช่ไหมคะ” ฉันพูดและยิ้มออกไป รู้สึกดีมากที่จะได้กลับกันสักทีเบื่อขี้หน้าคนแถวนี้เต็มทนแล้ว“หืม ไ
19.00น.เวลาผ่านเลยไปจนถึงเวลาพบค่ำภายในห้องบรรยากาศเย็นจากแอร์ทำให้หนาวจัดแต่ฉันก็ยังพอมีผ้าห่มคลุมกายให้คลายหนาว แต่ก็ไม่รู้ทำไมตรงช่วงหน้าท้องของฉันมันถึงเหมือนมีอะไรที่หนักๆทับอยู่ตรงช่วงขาของฉันก็ด้วย ฉันจึงลืมตาขึ้น“เฮ้ย อะไรกันเนี่ยพี่ ตื่นๆ” ฉันตกใจมากตื่นมาก็เห็นอิตาพี่วินนอนกอดรัดฉันอยู่“อืมม อะไรคนจะนอน” แล้วพี่เขาก็กอดร่างฉันแน่นเข้าไปอีกจนฉันจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว“ปล่อยนะ หายใจไม่ออกแล้วเนี่ย” เขากอดฉันมากเหมือนจะแกล้งกันก๊อกๆ เสียงประตูดังขึ้นแล้วก็มีคนเปิดเข้ามา“เฮ้ยไอ้สัสวิน มึงทำไรน้องเขาว่ะนั่น ตื่นได้แล้ว” เป็นพี่เวหาที่เป็นคนเปิดประตูเข้ามาแล้วเขาก็ทำสีหน้าตกใจแค่เพียงแปบเดียว จากนั้นก็เดินตรงมาเขย่าตัวเพื่อนสนิทของเขาให้ตื่นเพื่อที่จะได้ออกไปดื่มกันที่หน้าบ้าน“เออกูตื่นแล้ว” คนที่นอนกอดฉันอยู่พ่นเสียงหายใจออกมาดังลั่นเพราะถูกเพื่อนสนิทของเขาเองเข้ามาขัดจังหวะแล้วเขาก็คลายกอดฉันลงแล้วลุกขึ้นจากเตียงนอน“มึงออกไปก่อน เดี๋ยวตามไป” พี่วินคนเจ้าเล่ห์ออกปากไล่เพื่อนสนิทของเขาให้ออกไปจากห้องนอนก่อน“อะ