“พี่เชนทร์ เจ้าถามว่าโกรธเจ้าเหรอ” เธอรบเร้าทว่าเขาไม่ตอบ เธอจึงต้องขยับไปนั่งข้างๆ เอามือเกาะแขนเขาไว้ทำท่าทางออดอ้อน มองเสี้ยวหน้า ทว่าเขาก็ยังทำเป็นไม่สนใจอีก
“พี่เชนทร์ เจ้าขอโทษ จะไม่ทำอะไรห่ามๆ แบบนี้อีกแล้วสัญญา” เธอบอกเสียงออดอ้อนก่อนจะยกนิ้วก้อยขึ้นมาทำท่าสัญญา “อย่าเงียบสิ พี่เชนทร์” เรียกไปพลางก็เขย่าแขนเขาไปพลาง และยิ่งเห็นเขาวางเฉย แล้วยกน้ำขึ้นมาดื่มแบบไม่พูดไม่จา ก็ยิ่งใจคอไม่ค่อยดี จะโกรธจะงอนเธอจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย เธอคิด ก่อนจะตัดสินใจปล่อยมือจากแขนของเขา แล้วเอามือประคองใบหน้าของเขาแทน พร้อมกับบังคับให้หันกลับมาแล้วยื่นหน้าเข้าไปจูบแนบแน่นที่ปากของเขาเสียเลยเขาก็ตกใจแต่ไม่ได้ทำอะไรนอกเสียยอม แล้วเธอก็ถอนออกอย่างรวดเร็วพลางมองหน้า พอเห็นว่าเขาเฉยอีกเธอก็จูบอีก ทำแบบนี้ซ้ำๆ จนเขาดันเธอออกเล็กน้อย และสบตากันในระยะปลายจมูกชนกัน “ทำอะไรเนี่ย” “ก็ง้อไง เห็นโกรธเจ้า” “ไม่ต้องง้อ เพราะพี่ลงโทษเจ้าแน่ๆ” สิ้นคำเขาก็ขยับอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตักเสียเลย แล“พี่... พี่เชนทร์... อ๊ะ อ๊ะ อื้อ เร็วค่ะ โอ้ว แรงๆ เจ้าจะ...” เธอครางอย่างสุดจะกลั้นเมื่อความปรารถนากำลังจะพุ่งทะยานไปสู่จุดหมาย เขาก็ระรัวเร่งจนเนินกายเปลือยเปล่าเบียดแน่นจนได้ยินเสียง“เจ้า... เจ้าจ๋า พี่รักเจ้า อ่า พี่รักเจ้า” เป็นเหมือนเช่นทุกครั้งที่อารมณ์พุ่งทะยานถึงขีดสุดเขาจะบอกรักเธอ“เจ้าก็... อ่า รัก... พี่เชนทร์ อื้อ” สิ้นเสียงร้องครางร่างน้อยก็กระตุกเกร็งและกอดเขาเอาไว้แน่น พร้อมกับแอ่นเนินกายขึ้นและจิบเล็บลงไปบนแผ่นหลังของเขาแรงๆ เม็ดเสียวตอดตูบๆ จนเขาสัมผัสได้ ขณะที่เขากดสะโพกเอาไว้แล้วปลดปล่อยลาวาอันร้อนระอุพุ่งพ่นเข้าไปในร่างกายของเธอ หลวมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันและในที่สุด ความสุขก็ถึงจุดหมายปลายทางตรงสวรรค์ชั้น 7ขณะที่ร่างกายกำลังปลดปล่อยความปรารถนาอยู่นั้น สองกายยังคงกอดรัดแนบแน่น และบดขยี้จูบอย่างดูดดื่มราวกับไม่อิ่มเอม“อืม” เสียงครางของเขาดังออกมาอย่างพอใจ และเมื่อร่างกายกลับสู่สภาวะปกติ จึงได้ถอนจูบออกจากกันทว่าแทบจะไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกจากปาก มีเพียงเสียงหายใจหอบของคนที่เพิ่ง
“ถ้าเป็นแขกด่าผมตะเพิ้ดแล้ว ที่ผมถือไม้หน้าสามมาขวางเอาไว้ แต่นี่อะไรมีพิรุธ อึกอักดูกลัว ดูไปแอบทำผิด”“งั้นเราคงต้องระวังตัว พี่น่ะไม่กลัวหรอก แต่พี่ห่วงเจ้าขามากกว่า ก้าวออกไปจากรีสอร์ทเนี่ยก็อันตราย กลัวมันจะโกรธจนปองร้ายเจ้าขาน่ะ”“ผมก็คิดอย่างนั้น”“แล้วรู้จักชื่อไหม”“นิรุธกับณัฐพลครับ ชื่อที่มันใช้จองที่พัก”“เรามียามอยู่ บอกยามมาสอดส่องดูแลแถวบ้านเราทุกหลังด้วย ตอนนี้เราทุกคนน่าเป็นห่วงหมดนั่นแหละ”“โอเคครับ”“ขอบใจ แล้วเดี๋ยวพี่จะบอกพ่อเลี้ยงพรุ่งนี้ก็แล้วกัน แต่ฝากพนักงานตามไอ้สองคนนั้นด้วยนะ ว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”“ได้ครับพี่ งั้นผมขอตัวนะครับมาบอกเท่านี้”“โอเค” เมื่อคุยกันเสร็จ เขตแดนก็ปลีกตัวจากไป ทว่ายังไม่ได้เข้าบ้านหรอก ยังคงตรวจตราอะไรไปเรื่อยๆ เมื่อก่อน หน้าที่นี้เป็นของคเชนทร์ แต่เมื่อคเชนทร์มาอยู่ในจุดที่สูงขึ้นไปอีก พ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ก็ยกตำแหน่งนี้ให้เขตแดน แต่ก็อีกนั่นแหละเพราะความ
“ปล่อยมันไปจะดีเหรอครับ”“ไม่ดีหรอก แต่อยากให้ไอ้ตุลย์มันรู้ คิดอยากจะสืบเรื่องฉันเหรอ ก็รู้ๆ กันไป และถ้าคิดที่จะทำอะไร นั่นแปลว่ามันเองนั่นแหละที่ต้องเตรียมโลง พวกนายเพิ่มเวรยาม ตั้งรับให้ดี มีอะไรโทรเรียก อย่าให้คนแปลกหน้าเดินเพ่นพ่านแถวบ้านเราและพ่อเลี้ยงอีก เพราะถ้าพ่อรู้อาจจะไม่ใจดีแบบนี้ก็ได้ และพวกนายนั่นแหละจะโดนมิใช่น้อย ข้อหาหละหลวมต่อหน้าที่”“ครับนาย”“เอาล่ะ แยกย้าย” สิ้นคำ ลูกน้องทั้งหมดก็แยกย้าย จากนั้นคเชนทร์จึงเอี้ยวตัวหันกลับไปทางรีสอร์ต ซึ่งมีพนักงานด้านในและแขกออกมายืนดู แต่พอเห็นคเชนทร์มองกลับทุกคนก็หลบหายเข้าไปทันที เห็นดังนั้นแล้วคเชนทร์ก็เดินดุ่มๆ ขึ้นไปหาพนักงานอีกรอบ“ปิดปากเรื่องวันนี้ให้ได้”“ครับนาย จะรูดซิบให้หมดทุกคน”“ก็ดี เห็นใครแปลกหน้าโทรหาฉันโดยตรง อย่าวางเฉย”“ครับ” พนักงานรับคำ จากนั้นคเชนทร์จึงได้เดินกลับไปยังบ้าน เพื่อจะได้พักเสียที เอาไว้เรื่องนี้ค่อยบอกพ่อเลี้ยงจะดีกว่า เนื่องจากมัน
“มันคนเดียว ซ้อมผมด้วยกระบองแล้วส่งต่อให้ลูกน้องยำต่อ โดยไม่สนใจว่าใครจะเห็น ผมว่ามันไม่ธรรมดานะครับนาย”“แล้วทำไมพวกเอ็งไม่รู้จัก”“ก็ พวกเราไม่ได้อยู่ในถิ่นนี้นี่ครับ แล้วรีสอร์ตหลังที่ไปน่ะ ไม่เคยมีโอกาสได้เข้าไปเลย นี่เป็นครั้งแรก”“ไปทำตัวจิ๊กโก๋ให้มันจับได้ล่ะสิไม่ว่า” เสียงของน้ำอิงแทรกขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหา“ครับ มันบอกว่าผมเป็นจิ๊กโก๋ฟรีแลนด์”“แล้วเป็นไหมล่ะ ลบคำสบประมาทให้ได้ อั้วะจ้างพวกลื้อมา ก็ทำให้สมกับค่าจ้าง พวกลื้อและเพื่อนอีกสามคนทำยังไงก็ได้ ไปลากตัวเมียฉันกลับมา คราวนี้ฉันจะเอาทั้งเงินและเมีย”“ครับ ผมจะไปวางแผนกับ เด็กๆ มันอีกต่อหนึ่งว่าแล้ว ลากตัวไปไว้ที่ไหนครับ”“ในตัวเมืองและที่ๆ แกไป ไม่ใช่ถิ่นของแกเหรอ หาโกดังเก่าๆ สักที่เอามันไปไว้ที่นั่น ฉันจะจัดหนักให้ดู”“ได้ครบนาย” ว่าแล้วลูกน้องก็ขอตัวกลับเข้าห้องก่อน เพื่อจะได้ดูสภาพของตัวเอง และจะได้เรียกรวมกำลังอีกสามคน ก่อนจะระดมส
“ไม่เป็นไรจ๊ะ เราตื่นสายด้วยกันทั้งคู่ พี่จะพาไปบ้านพ่อเลี้ยง มีอะไรคุยกับพ่อเลี้ยงก่อนไปโรงแรมน่ะ อยากให้เจ้าอยู่ด้วย”“ก็ได้ค่ะ” เธอรับคำ จากนั้นเขาจึงจูงมือออกไป พร้อมกับปิดประตูตรงระเบียงให้เรียบร้อย แล้วพาออกไปจากบ้าน และปิดเอาไว้ให้เรียบร้อยเช่นกัน จากนั้นจึงได้พาเธอนั่งรถไป เพราะเขาจะได้เลยไปทำงานด้วย เพียงแปบเดียวก็ถึงบ้านพ่อเลี้ยงซึ่งช่วงเวลาเดียวกันนี้ รถของผู้ติดตามรวมถึงคนสนิทก็มาจอดเต็มหน้าบ้านไปหมด ราวกับรู้เป็นนัยๆ เหมือนที่คเชนทร์จะมานั่นแหละ“ทำไมวันนี้รถเยอะกว่าปกติคะเนี่ย”“เวลางานด่วน งานสำคัญ รถจะเยอะแบบนี้แหละ” คเชนทร์บอก ก่อนจะพาเธอเดินเข้าบ้าน ทว่าเขตแดนเดินออกมารับ“มาพอดีเลยครับ พ่อจะคุยด้วยเรื่องเมื่อคืน”“พี่ก็มาเรื่องนี้แหละ นายบอกพ่อเหรอ”“ไม่บอกพ่อก็รู้ไหม เมื่อคืนพี่เชนทร์ทำอะไรไป รู้กันไปทั่วนั่นแหละ”“เอ่อน่า ห้องทำงานใช่ไหม”“ใช่ครับ”“งั้
“หึๆ” เขาหัวเราะ ก่อนจะเดินไปที่รถ แล้วเปิดเอาอะไรบางอย่างออกมาพร้อมกับมือเธอเอาไว้ นำอาวุธประจำตัวของเขาวางไว้บนมือเธอ“เอ่อ พี่เชนทร์ ทำไมคะ” เธอถามด้วยความแปลกใจ“พี่ห่วง เอาไว้ป้องกันตัว เวลาที่ไม่มีใครอยู่ด้วย ใช้เป็นนี่ อย่าคิดว่าไม่รู้ว่า...” แหม เขานี่ก็รู้ดีเหลือเกิน เธอคิดอย่างขัดเขิน“คือ ก็ เป็นนิดหน่อย”“จ้ะ เป็นนิดหน่อย บีบีกันอ่ะนะ อยากเห็นตอนใช้จริงจะอึ้งแค่ไหนนะ”“หึๆ แหมพี่เชนทร์ละก็... ขอบคุณนะคะ” เธอรับเอาไว้“แล้วพี่เชนทร์ล่ะ ใช้อะไรคะ”“ระดับนี้ไม่ต้องพึ่งของพวกนี้หรอก มือเปล่าก็ไหวน่า”“ขี้โม้จริงๆ เจอกันตอนเย็นนะคะ”“จ้ะ เอ่อ อยากจูบแต่... เกรงใจพ่อนั่งรอตาเขียวปั๊ดแล้ว” เขาว่าก่อนจะเหลือบมองพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ที่นั่งอยู่บนรถ และรอเคลื่อนออกไปพร้อมกัน“ค่ะ ไปเถอะ” สิ้นคำของเธอ เขาก็เอามือแตะที่แก้มนุ่มเบาๆ ก่อนจะขึ้นรถ เรียกว่าอ้อยอิ่งเหลือเกินจนพ่อเลี
ด้วยความขัดเขิน ก็ทำให้จันทรภาเดินเล่นมาเรื่อยเปื่อย ชมสวนดอกไม้มาจนถึงหน้ารีสอร์ต ความสวยงามทำให้เธอ ลืมเรื่องเครียดๆ ไปได้บ้าง อย่างน้อยชั่วขณะก็ยังดี ซึ่งการเดินเล่นนั้นลูกน้องของคเชนทร์ไม่ได้ตามทุกฝีก้าวเป็นเงาตามตัวอยู่แล้วปล่อยให้เธอเป็นอิสระในบางช่วง เพราะทั้งรีสอร์ต รวมไปจนถึงด้านหน้านั้น คนงานพลุกพล่านอยู่แล้ว ว่าแล้วก็เผลอเดินมาจนถึงนอกรั้ว ซึ่งคนงานกำลังถางหญ้าเป็นปกติ เพราะทางเข้าเว้นไปสามสี่วันก็มีหญ้าขึ้นรกแล้ว พอตัดก็ต้องเผาเป็นเรื่องปกติ คนงานก็ไม่ได้หันมาสนใจหรอก ว่ามีใครเดินผ่านไปมาหรือไม่ เพราะเอาแต่ก้มหน้าทำงาน คิดแต่เพียงว่าเป็นแขกของรีสอร์ต หรือนักท่องเที่ยวเท่านั้น“ไม่เคยออกมาด้านหน้าเลย” เธอเอ่ยลอยๆ พร้อมกับมองไปรอบๆ ช่างสวยงาม“รีสอร์ตอาแสนเนี่ย เหมาะกับคนที่อยากจะหนีจากความเมือง แล้วเข้าสู่ธรรมชาติจริงๆ ถึงว่า ไม่ยอมมีบ้านในตัวเมือง แต่กลับมีบ้านที่นี่ทั้งอาแสนแล้วก็พี่เชนทร์”“แล้วคุณล่ะ อยากอยู่ที่นี่ไหม” เสียงชายคนหนึ่ง ดังขึ้นจา
“เก่งนะเนี่ย ได้ใครหนุนหลังอ่ะเรา ถึงได้กล้าปากดีขนาดนี้” ตุลยเทพถามเสียงดุเข้ม“แล้วพี่ตุลย์ล่ะได้ใครหนุนหลังคะ ได้ข่าวว่าคุณอาตุลาเป็นผักไปแล้วนี่” จันทรภาเยาะเย้ยกลับไป เท่านั้นแหละน้ำอิงที่รอระเบิดอารมณ์ก็เหวี่ยงมือฟาดที่แก้มของจันทรภาทันทีเพียะ! แรงปะทะทำให้จันทรภาหน้าสะบัด ทว่าเธอก็ทนกัดและหันไปกลับพร้อมกับเลือดไหลซิบตรงมุมปาก“ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว ยัยคุณหนูไฮโซ ฉันเกลียดแกรู้ไหม” น้ำอิงว่าด้วยน้ำเสียงเดือดดาล“เหรอเพื่อน ฉันนี่โง่เนอะ นึกว่าจะมีเพื่อนจริงๆ กับเขา สุดท้ายไม่มี นี่ตอแหลอยากเป็นเพื่อนกันมานานเหรอเนี่ยเพิ่งรู้ อ่อ ไม่ใช่สิ ตอแหลอยากได้พี่ตุลย์ก็ไม่บอก แต่พี่ตุลย์ไม่เอาเธอเป็นเมียแต่ง เพราะมีแต่ตัวใช่ไหม”จันทรภาด่าด้วยน้ำเสียงเรียบ เยาะหยัน ทั้งที่ในใจเจ็บแค้น อยากจะระเบิดออกมาเหมือนกัน แต่คเชนทร์และพ่อเลี้ยงสอนให้มีสติ“อีนังเจ้า” สิ้นคำน้ำอิงก็ตบไปที่หน้าของจันทรภาอีกทีเพียะ! จันทรภาหน้าสะบัด เจ็บและปากแตก ก่อนจะหันกลับมามองหน้าน้ำอิงอีกครั้ง
“หายแล้วค่ะ หายเหมือนพ่อเชนทร์เลย ไปกินข้าวต่อนะคะจะได้ไปโรงเรียน”“ครับ/ค่ะ” สองแฝดรับคำแบบประสานเสียง ก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในห้องอาหาร สองพ่อก็มองตามและยิ้ม ก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วปรับสีหน้าให้เรียบ“พี่รักเอาคำว่าพ่องมาจากไหน” แสนลักษณ์หันมาดุคเชนทร์ซะงั้น“หืม ก็พูดเอง เด็กพูดไม่ชัด”“พูดไม่ชัด แต่ชัดมาก แกสอนหลานไม่ดีใช่ไหม”“ป่าว ใครจะสอนหลานพูดหยาบ”“แต่สอนให้หลานกวนตีน”“ป่าว สอนเมื่อไหร่ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยเลย”“โตขึ้นมาได้นิสัยแกนี่ฉันจะเบิ้ดกะโหลกให้”“ไม่เกี่ยวกะเค้าเลย”“เอ้าๆๆ มาแล้ว เป็นงานเป็นการ สองพ่อลูกเถียงอะไรกันเนี่ย” เกตุวดีแทรกขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหา และนั่งลงข้างๆ คเชนทร์เรียกว่าข้างๆ จนชิดๆ และเบียดโดนขา“โอ๊ย! ป้า! นั่นสะโพกหรือกะละมังเนี่ย กระแทกขาแรงมาก”“ว๊าย! อีเชนทร์”“เ
“ขู่อะไรแบบนี้ แม่เจ้าไม่น่ากลัว แต่พ่อเจ้าน่ะดุ”“ดุไม่สู้พ่อแสนของพี่หรอก”“นี่จะเอาพ่อมาสู้กันเหรอคะ”“หึๆ สักตั้งหนึ่งน่า”“ระหว่างตามหานายตุลย์กับสมุนมาเข้าคุก เจ้าก็เคลียร์กับพ่อตาพี่ละกัน”“ไม่ง่ายเลยค่ะ กลัวพ่อจ้ะ...”“พูดเองว่าไม่ให้พี่กลัว ตัวเองกลัวซะงั้น”“กลัวพ่อไม่ชอบพี่เชนทร์”“ยังไม่เคยเผชิญหน้ากันจะรู้เหรอ อย่าเพิ่งกลัว พี่จะไม่กลัว นอนซะคนเก่งของพี่” สิ้นคำเขาก็กอดเธอเอาไว้และจูบเบาๆ ที่เรือนผม จากนั้นก็ไม่ได้เอ่ยอะไรกันอีก นอกเสียจากฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรง ต่างคนต่างบอกไม่ให้กลัว ทว่าเริ่มกลัวแล้วสิน่าพอรุ่งเช้าคเชนทร์ลุกจากที่นอนตั้งแต่เช้าตรู่ ใส่แต่เพียงกางเกงดังเดิม มือหนึ่งคีบบุหรี่พ่นออกมา ส่วนมืออีกข้างถือโทรศัพท์มีการพูดคุยแบบเครียดๆ และพยายามไม่ให้เสียงดัง เพราะเปิดหน้าต่างระเบียงตรงห้องนอน“เรื่องเมื่อคืนเรียบร้อยทุกอย่างครับคุณเชนทร์&rdqu
“ซี๊ดดดด อ่า เจ้าจ๋า พี่จะแตกแล้ว”“เจ้าก็... โอ้ว พี่เชนทร์ แรงๆ อื้อ!” เธอร้องครางออกคล้ายกับใกล้จะถึงจุดหมาย จนเขาเร่งเร้าจังหวะกระแทกสะโพกอย่างหนักหน่วง และจูบแนบแน่นที่ปากอิ่ม“อื้อ” เขาครางในลำคอเมื่อถึงจุดที่เสียวซ่านที่สุด“โอ้ว เมียจ๋า ผัวจะไม่ไหวแล้ว”“เมียก็ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อ๊ะ อืม” สิ้นคำของเธอเท่านั้นแหละ ร่างกายก็กระตุกเกร็งและยกสะโพกขึ้นพร้อมกับกอดเขาเอาไว้ ปลดปล่อยความปรารถให้พรั่งพรูออกมา เขาจึงไม่รั้งรอรีบเร่งระรัวอีกเพียงไม่กี่ครั้งก็คว้าเส้นชัยตามไปติดๆ“อื้อ อ่า อ่า เมียจ๋า เมียพี่... เสียวที่สุดเลย” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่หอบกระเส่า ขณะที่แท่งกายกดจมเข้าไป และพ่นน้ำรักใส่ในร่างกายของเธอจนเอ่อล้นเป็นหนึ่งเดียวกัน ทว่ามันยังดีดดิ้นอยู่ภายในราวกับพ่นพิษไม่หมด อารมณ์สุขสมล่องลอยอยู่บนสวรรค์ชั้นเจ็ด แต่เมื่อร่างกายยังไม่เข้าที เขาก็ประทับจูบแนบแน่นดูดดื่มพร้อมกับร่างกายที่ค่อยๆ กลับสู่สภาวะปกติ แล้วจึงได้ถอนจูบออก“ดอกฟ้าของไอ้เชนทร์”
“มันทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำต่างหากล่ะ”“จะเอาอะไรคะ” เธอถามอย่างขัดเขิน เขาจึงยื่นหน้าเข้าไปกระซิบ“เป่ามนต์ให้พี่หนึ่งทีแล้วจะนอน” คำพูดดูเหมือนไม่มีอะไร หากเธอไม่คิดมาก ทว่าเธอโน้มหน้าลงไปเป่าที่ต้นแขนให้“โอมเพี้ยง!” ปากก็เป่าไป สายตาก็ตวัดขึ้นมองเขาและยิ้ม แต่วินาที่เขาจะคลั่งก็ตรงที่แม่คุณค่อยๆ ย่อตัวลงช้าๆ กดจูบที่แผงอกเล็กน้อยกระทั่งเข่าชิดติดพื้น เขาก็ได้ยิ้มและหลับตา เมื่อมือนุ่มดึงกางเกงเขาลงช้าๆ จมูกโด่งก็ไต่ลงมาตามหน้าท้องจนถึงขอบบ็อกเซอร์ และชั่วอึดใจมันถูกมือน้อยดึงลงไปพร้อมกับกางเกงเสียเลย แต่เธอไม่ได้สนใจสิ่งที่มันดีดผึ่งผงาดออกมาล่อสายตาหรอก เธอก้มลงไปเป่าตรงบาดแผลที่ปิดด้วยผ้าก็อตเอาไว้“โอมเพี้ยง!” เธอเอ่ยอีกครั้งก่อนจะยิ้มมุมปาก“เป่าแผลให้เค้าเฉยๆ แล้วจะถอดกางเกงเขาทำไม” เขาถามเสียงนุ่ม ว่ากลับก้มหน้าลงมองเธอราวกับจะกลืนกิน เธอก็สบตาคมกริบก่อนจะเอามือลูบไล้น่องของเขา ขึ้นมาจนถึงกลางลำตัว ใบหน้าเสมอแท่งไอศรี
“เรียกคุณอาขาแล้วจะแตก เซ็กซี่จัง” สิ้นคำเขาก็จูบปิดปากนิ่มเอาไว้แล้วกระแทกสะโพกแรงๆ ระรัวจนเมียเด็กทานทนไม่ไหว ได้แต่ครางในลำคอพลางแอ่นกายเหยียดเกร็งลำตัว พลางกอดเขาเอาไว้แน่น“อืม” มีแต่เพียงเสียงอื้ออึงที่เปล่งออกมาเพราะถูกปิดปาก พร้อมกับความปรารถนาถูกเปล่งออกมาจนกระทั่งเม็ดสวาทกระตุกตอด“ซี๊ดดดด อาจะแตกแล้วเมียจ๋า” สิ้นคำเขาก็กดสะโพกแนบแน่น กับกลีบนุ่มและปล่อยลาวาอุ่นๆ ทะลักเข้าสู่กายเธอ หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขณะที่ท่อนเนื้อยังคงเคลื่อนไหวอยู่ภายใน เพื่อปล่อยทุกอย่างให้ออกมาจนสุด ตามด้วยเสียงหายใจหอบทว่ายังคงบดขยี้จูบอย่างดูดดื่มสิ้นสุดอารมณ์ปรารถนาเหลือไว้แต่เพียงเสียงหายใจหอบ ทว่าร่างกายยังคงสอดประสานไม่ยอมขยับออก จวบจนกระทั่งอารมณ์ล่องลอยและปลดปล่อยจนหมด แล้วร่างกายกลับมาเป็นปกติถึงได้ถอนจูบออก ทว่าทั้งสองดูเหนื่อยหอบราวกับวิ่งทางไกลมาก“เมียจ๋า อายังเสียวอยู่เลย” เขากระซิบเสียงหวานออดอ้อน“อื้อ ให้วีกลับมาเป็นปกติก่อนนะคะ
“อย่าพูดอ้อมค้อม บอกว่าต้องการซิ” เขากระซิบเสียงนุ่มและยิ้ม เธอก็ได้แต่เม้มปากขัดเขินก่อนจะพยักหน้า“ต้องการค่ะ ต้องการผัวแก่ตลอดแหละ”“รู้ไหมว่า... ไอ้คนที่มันตายน่ะมันเรียกอาว่าไอ้แก่ แล้วเมียเรียกแบบนี้”“จะทำอะไรวีเหรอคะ”“จะทำให้ตายคาอกเลย เดี๋ยวเจอฤทธิ์คนแก่” สิ้นคำเขาก็กดจูบที่ปากนุ่มอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ก่อนจะพรมจูบซับพวงแก้ม ซอกคอ และลากไล้เรียวลิ้นอุ่นลงมาตามเนินอก ก่อนจะอ้าปากครอบครองเม็ดถัน และโลมเลียอย่างรวดเร็ว ทำเอาร่างน้อยสั่นสะท้านเสียวซ่านและบิดเกร็ง ได้แต่หายใจหอบพร่า ทั้งเนินอกและหน้าท้องขยับไหว มือน้อยๆ ก็กดศีรษะเขาเบาๆ พลางแอ่นโค้งแผ่นหลังขณะเดียวกันมือหนาก็เอื้อมลงไปสัมผัสกลีบอวบนุ่มผ่านกางเกงชั้นในสีขาวบางจิ๋ว ซึ่งเวลานี้เปียกแฉะไปด้วยน้ำกุหลาบหวาน และกลีบนุ่มนั้นเริ่มบวมเบ่งเพราะความปรารถนา“ซี๊ด อืม” เธอครางอย่างสุดจะกลั้น เมื่อเขาบดขยี้ปลายนิ้วกับเกสรน้อย และเพียงชั่
แสนลักษณ์มองตามสองคน ที่เดินจากไปและยังคงยิ้มอยู่ เคยจินตนาการเอาไว้ ว่าสักวันการเดินกลับบ้านในแต่ละครั้งของคเชนทร์ จะมีใครสักคนได้เดินไปด้วย แต่ละวันที่ผ่านไปคเชนทร์เดินคนเดียวเสมอ ทว่าวันนี้เห็นเขาจูงมือไปกับผู้หญิงที่เขารัก มันช่างเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบ แต่ยัง อุปสรรคยังไม่หมดตราบใดที่ยังขึ้นชื่อว่าเด็ดดอกฟ้ามาไว้ริมถนนอยู่“เข้าบ้านเถอะค่ะ อาแสนจะได้ไปอาบน้ำ วีจะไปดูเด็กๆ ด้วย”“จ้ะ” แสนลักษณ์ตอบก่อนจะจูงมือมนัสวีเข้าบ้าน จากนั้นก็ปิดบ้านให้เรียบร้อย เพื่อแสนลักษณ์อาบน้ำก่อน ขณะที่มนัสวีเข้าไปดูสองแฝดในอีกห้องที่อยู่ติดกันทว่ามีพี่เลี้ยงมานอนเป็นเพื่อน“คุณวี กลับมาเมื่อไหร่คะ”“เมื่อกี้นี้เอง เดี๋ยววีดูเด็กๆ ต่อ กลับบ้านพักเถอะค่ะ”“ค่ะ” ว่าแล้วพี่เลี้ยงก็งัวเงียตื่น แล้วเก็บของกลับบ้านพัก ดีหน่อยที่มันไม่ได้ดึกดื่นอะไรมากนัก บ้านพักคนงานก็อยู่ไม่ไกลจึงไม่ได้ห่วง เพราะอยู่ในบริเวณรีสอร์ตนี่แหละ ส่วนมนัสวีก็เพ่งมองลูกน้องฝาแฝดที่หลับปุ๋ยคนละเตียง ยังดีที่เด็กๆ เลี้ยงง่ายไม่งอแง ม
จากนั้นจึงได้กลับบ้าน เจ้านายทั้งหมดนั่งรถตู้ไปด้วยกัน แสนลักษณ์มนัสวีนั่งคู่หน้า คเชนทร์กับจันทรภานั่งข้างหลังมืดๆ พลางจับมือกันเอาไว้ แล้วก้มหน้าลงมองที่มือของเธอซึ่งจับประสานกันชนิดที่ไม่อยากปล่อย“กลับบ้านกัน เขต” แสนลักษณ์เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ“ครับ” เขตแดนรับคำ จากนั้นจึงได้ออกจากลานจอดรถหน้าโรงพยาบาลเพื่อพาทั้งหมดกลับบ้าน คเชนทร์ได้แต่ถอนใจและมองหน้าคนรัก ก่อนจะยกมือขึ้นพรมจูบเบาๆ พลางเอามือเสยให้เธออย่างอ่อนโยน อีกทั้งสำรวจไปตามใบหน้า“พี่ปล่อยให้คุณหนูเป็นแบบนี้ไปได้ เจ็บไหม หืม” คเชนทร์กระซิบถามเสียงหม่น“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เจ็บแล้ว” เธอตอบเบาๆ“เข้มแข้งนะเนี่ย แต่หัวใจพี่น่ะ” เขากระซิบพลางเอาหน้าผากแนบกับเธอเอาไว้ เรียกว่าไม่อยากให้ใครได้ยิน แต่พ่อเลี้ยงนั่งฟังอยู่ด้านหน้าน่ะได้ยินอยู่แล้ว ยิ่งรถเงียบด้วย“หัวใจอยู่ตรงนี้แล้ว” เธอกระซิบตอบกลับพลางประคองใบหน้าเขาเอาไว้“อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมกวนๆ ดังขึ้น ทำเอาคเชนทร์ถึงกับเหลือบมองด้วยความหมั่นไส้ งอนอ
“ไม่เป็นไร มันมีหน่วยกล้าตายแทนมาเป็นกำแพง เพื่อมาแลกให้มันรอดไปได้ แต่ฉันไม่ให้ใครมาเป็นหน่วยกล้าตาย ฉันไม่ให้แลก” แสนลักษณ์ตอบเสียงเรียบ“แล้วมีใครได้รับบาดเจ็บไหม” แสนลักษณ์เอ่ยถามขึ้นอีก เท่านั้นแหละคเชนทร์ก็มองหน้าแสนลักษณ์ทันที“ก็เค้าไง! กระสุนเฉี่ยวยังไม่พอ ยังโดนมีดบินอีก” คเชนทร์บ่นพลางตวัดหางตาใส่แสนลักษณ์อย่างงอนเง้า“เอ่อ ป๋าตั้งใจเล็งไปหน่อย นิดเดียวน่าไกลหัวใจมาก” แสนลักษณ์เอ่ยแซว เพราะรู้ว่าคเชนทร์ทนได้ไม่เป็นไรมากหรอก“แต่เสียบขา” คเชนทร์ขึ้นเสียงใส่“เล่มเล็กๆ” แสนลักษณ์ตอบและยิ้ม“เล็กแต่ยาวนะพ่อนะ” คเชนทร์ยังเถียงอยู่“ช่วยด้วย พี่ตุลย์ช่วยด้วย” ขณะที่สองพ่อลูกกำลังเถียงกันอยู่นั้น เสียงของน้ำอิงก็ดังขึ้น จันทรภาจึงเดินเข้าไปก่อน และทุกคนก็ได้ตามเข้าไป เห็นแต่ท่าทางอ่อนเพลียศีรษะมีเลือดไหลนอง และมองมาที่จันทรภา“อีเจ้า” น้ำอิงเรียกจิกด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย จะตายอยู่แล้วแต่เรียกเพื่อนได้จิกมาก จันทรภาไ