แชร์

บทที่ 7

ผู้แต่ง: นครแสงจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ไซล่าเควสหันหลังไปอย่างสงบ “มีอะไร?”

นานมาแล้ว ชายคนนี้เคยเป็นเหมือนศาสดาสำหรับเธอ หัวใจของเธอเต้นระรัวทุกครั้งที่เธอเจอหน้าเขา

อย่างไรก็ตาม เมื่อไซล่าจ้องมองใบหน้าของทอมในตอนนี้ เธอไม่รู้สึกอะไรนอกจากขยะแขยงและเกลียดชัง

ทอมเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็วและพยายามที่จะเอื้อมจับมือของเธอ

อย่างไรก็ตาม ไซล่าหลบเขาและถอยหลังไปทันที “นายคุยกับฉันได้ แต่อย่ามาแตะตัวฉัน” เธอขมวดคิ้ว

“ไซล่า ฉันได้คิดอย่างจริงจังดูแล้ว ฉันไม่สนหรอกเธอทำทั้งหมดนั่นจริงรึเปล่า ฉันพร้อมจะยกโทษให้เธอ แม้ว่าเธอจะทำจริง ก็ถือว่ามันเป็นกระทำเพื่อแก้แค้นที่ฉันทำร้ายเธอในอดีต ไม่เป็นไรนะ ไซล่า เธอให้โอกาสฉันอีกสักครั้งจะได้ไหม?” ทอมแสดงท่าทีกระตือรือร้นมาก

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้น ‘ผู้ชายคนนี้ยังเลวได้มากกว่านี้อีกงั้นเหรอ?’

“นายเคยได้ยินเรื่องกุญแจลดราคาไหม? ซื้อนายไปยังได้ไม่คุ้มเสียเลย” ไซล่ามองเขาอย่าง

เย็นชาพลางดีดนิ้ว

ทอมไม่เคยชินกับการปฏิเสธที่เย็นชาและท่าทีภูมิอกภูมิใจของเธอ

“ไซล่า...เธอไม่เคยเป็นแบบนี้นิ” ในอดีต ไซล่าคงยกโทษให้ไม่ว่าเขาจะทำให้เธอจะเสียใจมากแค่ไหนตราบใดที่เขาหยอดคำหวานใส่เธอ

อย่างไรก็ตาม ยิ่งไซล่าทำตัวแบบนี้ ยิ่งทำให้ทอมชอบและอยากครอบครองเธอมากขึ้น

ในตอนนี้การที่ไซล่าได้กลายเป็นเป็นผู้ทรงอิทธิพลของคนหลายพันคน เธอแตกต่างจากผู้หญิงร่างอ้วนที่เคยเป็นอย่างสิ้นเชิง

มันคงเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่อยากได้อยากมีของที่ตนไม่ได้ครอบครอง

ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน พวกเขาก็ได้ยินเสียงเร่งรถ

รถหรูลิมิตเต็ทเอดิชั่นสิบคันจอดอยู่ตรงหน้าไซล่าซึ่งทำให้เธอรู้สึกงุนงง

เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?

ทอมดูงุนงงพอ ๆ กัน

ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งออกจากรถแต่ละคันพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือของพวกเขา

ทันทีที่ลงจากรถ พวกเขาเดินเข้ามายืนล้อมไซล่าและผลักทอมออกไป

“คุณเควสครับ นี่เป็นช่อดอกไม้จากทายาทของโลแกน ไวน์ กรุ๊ป เขาขอให้ผมบอกกับคุณว่าเขาชอบคุณมาก”

“นี่เป็นช่อดอกไม้จากทายาของกลอเรียส เซนจูรี่ จิวเวอรี่ เขาพูดว่าเขาชอบคุณมากครับ”

“นี่เป็นช่อดอกไม้จากทายาทของเมจิ กรุ๊ป เขาพูดว่าเขาอยากจะเป็นเพื่อนของคุณครับ”

ชายหนุ่มเหล่านั้นบอกกับไซล่าเรื่องคนที่ส่งช่อดอกไม้เหล่านั้นให้กับเธออย่างกระตือรือร้น

แต่ละชื่อเหล่านั้นเป็นของคนที่มีอิทธิพลในแอตแลนติส และทั่วทั้งประเทศเลยด้วยซ้ำ

ก่อนที่ไซล่าจะทันโต้ตอบได้ พวกเขาได้ซุกช่อดอกไม้พวกนั้นเข้ามาในอ้อมแขนของเธอเสียแล้ว

เมื่อมือเธอไม่มีที่จะให้ถือแล้ว ช่อดอกไม้ที่เหลือถูกทิ้งบนพื้นหินกรวดตรงหน้า

หลังจากนั้น พวกเขารีบออกไปด้วยความกลัวที่ว่าเธออาจจะปฏิเสธที่จะรับช่อดอกไม้เหล่านั้น

ทันใดนั้น ทอมอยู่ในภาวะตื่นตระหนกสุดขีด เหล่าทายาทส่วนใหญ่ที่ส่งช่อดอกไม้มามีอำนาจมากกว่าเขาเสียอีก ความจริงแล้ว พวกเขาบางส่วนคือคนที่ตระกูลซัลลิแวนทำได้แค่ฝันที่จะเข้าใกล้

หญิงสาวที่ทอมทิ้งไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้กลายเป็นดั่งดวงดาวอันเจิดจ้าที่สุดบนท้องฟ้า ผู้คนส่วนใหญ่คงทำได้แค่ชื่นชมเธอจากที่อันแสนไกล

หลังจากที่ก้มมองช่อดอกไม้ในมือของเธอและที่อยู่บนพื้นรอบตัว ในที่สุดไซล่าก็มองไปที่หน้าของทอม “คุณซัลลิแวนคะ ตอนนี้คุณต้องต่อแถวเพื่อจะขอฉันออกเดท อีกอย่าง ฉันไม่รับสินค้ามีตำหนิค่ะ”

เอมิลี่ เควสยืนหลบอยู่หลังประตู และเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น

เธอรู้สึกอิจฉาทั้งสิ่งที่ทอมพูดกับไซล่าและคนที่มาส่งดอกไม้ให้กับไซล่า

เอมิลี่รีบเดินเข้าไปหาทอมเพื่อที่จะหยุดเขาจากการสนทนากับไซล่าต่อ เธอฝืนยิ้มก่อนที่จะกุมมือของทอม “พี่ซัลลิแวน พี่พูดเรื่องอะไรกับไซล่างั้นเหรอ?”

“ไม่ใช่เรื่องของเธอ” ทอมดึงมือออกและกลับเข้าบ้าน

ท่าทีอันเย็นชาของเขาทำให้เอมิลี่รู้สึกไม่มีความสุขเป็นอย่างมาก ที่จริงแล้ว เธออยากจะถลกหนังของไซล่าออกมาทั้งเป็น

เอมิลี่หันมองที่ไซล่าพร้อมกับกำหมัด “ฉันขอเตือนให้เธออยู่ห่างจากพี่ซัลลิแวนของฉันไว้”

ไซล่ารำคาญใจเมื่อเห็นหน้าเอมิลี่ เธอหน้าไปหาคนสวนใกล้ ๆ เธอแทน “เอาดอกไม้พวกนี้เข้าไปข้างในหน่อยค่ะ…”

หลังจากที่พูดจบประโยค ไซล่าขึ้นรถมาเซราติและขับออกไป

...

ไซล่า เควสขับรถมาเซราติสีแดงตรงไปยังทรวงสวรรค์ของการช็อปปิ้ง โกลด์ฟิลด์ พลาซ่าแห่งเมืองแอตแลนติส เมื่อมาถึง เธอตรงดิ่งไปยังเคาท์เตอร์ของชาแนล ทันทีที่เดินเข้าไป ไซล่าจับจ้องไปยังเสื้อโค้ทฤดูหนาวสีขาว หลังจากที่ตรวจสอบว่ามันรู้สึกอย่างไร ขณะนั้น เธอกำลังจะขอให้พนักงานเอาให้เธอลองตัวหนึ่ง มีมืออื่นยื่นจับเสื้อโค้ท เล็บของเธอคนนั้นถูกแต่งแต้มด้วยชั้นสีแดงหนาเตอะ ไซล่าหันไปมองเธอคนนั้นทันที

เธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากน้องสาวคนเล็กของทอม ซัลลิแวนซึ่งเป็นเพื่อนรักของเอมิลี่ เควสด้วยเช่นกัน และเป็นบุตรสาวคนที่สามของตระกูลซัลลิแวน แมรี่ ซัลลิแวน แมรี่ยังเป็นเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมซึ่งน่ารำคาญที่สุดในหมู่พี่น้องอีกด้วย

ถ้าจะพูดในแง่ดีก็คือ เธอเป็นคนกล้า พูดอย่างตรงไปตรงมา บางคนอาจจะบอกว่าเธอเป็นพวกเซลล์สมองไม่ค่อยทำงาน

เนื่องด้วยความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเอมิลี่ตั้งแต่เด็ก ไซล่าไม่เคยชอบเธอเลย ดังนั้น ในตอนนี้เมื่อไซล่าเห็นแมรี่ เธอรู้สึกรำคาญใจทันใด

เมื่อแมรี่เห็นไซล่า สีหน้าของเธอเริ่มเย็นชาขึ้นทันที “เธอกล้าดียังไงถึงมาเสนอหน้าที่นี่ในตอนที่เธอทำให้พี่ชายของฉันกับเอมิลี่อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่แบบนี้?”

“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย ทำไมถึงมาไม่ได้ล่ะ?” ไซล่าเอ่ยถามอย่างใจเย็น

“ก็เห็นอยู่ว่าเธอทำอะไรที่ไม่ดีนิ และเธอก็ยังปฏิเสธ ฉันจะสั่งสอนเธอแทนพี่ชายและเอมิลี่เอง!”

“เธอมันนางอัปลักษณ์ พี่ชายฉันทิ้งเธอ แล้วไง? พี่เป็นคนที่ยอดเยี่ยม เอมิลี่เหมาะกับเขามากกว่าเธอเสียอีก” แมรี่กำลังพูดพลางกัดฟัน ท่าทีของเธอดูน่าหวาดหวั่น

ถึงกระนั้น ไซล่าไม่อยากจะมองแมรี่เลยแม้แต่น้อย ไซล่าเดินเลือกเสื้อโค้ทต่อไป “โทษนะคะ ช่วยหยิบชุดนี้ให้ฉันลองหน่อยได้ไหม?”

แมรี่รู้สึกโกรธกว่าเดิมหลังจากที่ถูกไซล่าเมินอย่างสิ้นเชิง “แกกล้าดียังไงถึงเมินฉัน นางตัวดี? คิดว่าแกเป็นใครกันหา?”

ทันทีที่แมรี่พูด เธอเงื้อมือไปที่หน้าของไซล่า

อย่างไรก็ตาม ไซล่าตอบโต้ทันท่วงทีเพื่อจะหลบลูกตบนั้น ท้ายที่สุด แมรี่สะดุดและล้มชนกับราวเสื้อผ้าใกล้ ๆ จากนั้น ราวจึงล้มลงมาและทำให้เสื้อผ้ากระจัดกระจายทั่วพื้น ทั้งแผนกของห้างสรรพสินค้าเงียบสนิท

คนที่กำลังเดินเอื่อยเฉื่อยด้านนอกได้ยินเสียงนั้นและเริ่มกรูกันล้อมพวกเขาไว้ ในขณะเดียวกัน พนักงานของร้านยื่นเสื้อโค้ทให้ไซล่าตามที่เธอขออย่างนอบน้อม

เมื่อไซล่ารับเสื้อโค้ทมาไว้ในมือ เธอลองสวมหน้ากระจกก่อนที่จะยื่นให้กับพนักงานในร้านพร้อมบัตรเครดิต “รูดบัตรนี้ได้เลยค่ะ”

ไซล่าทำเหมือนว่าเธอไม่เห็นหรือได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นด้านหลัง

เมื่อแมรี่สังเกตเห็นว่ามีคนมากมายกำลังจ้องเธออยู่ เธอรู้สึกขายหน้าเหลือเกิน

ถึงกระนั้น เมื่อเธอเห็นไซล่าใจเย็นขนาดนั้น ความโกรธของเธอก็ปะทุ เธอพุ่งเข้าหาไซล่าจากด้านหลัง “ไซล่า แกเป็นบ้ารึไง?”

อย่างไรก็ตาม ไซล่าแกล้งทำว่าเธอไม่ได้ยินแมรี่เลยแม้แต่น้อยขณะที่เธอเดินไปยังแคชเชียร์และดำเนินการชำระเงิน

“ไซล่า เควส! หูหนวกรึไง?” แมรี่ตะโกนอย่างเดือดดาล

ทันใดนั้น สแตนลีย์ แบตตันและกลุ่มผู้บริการของห้างสรรพสินค้ากำลังเดินลงบันไดเลื่อนและบังเอิญเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สีหน้าของสแตนลีย์เยือกเย็นลงมาก

ข้อมือของเขาข้างหนึ่งปรากฏออกมาเพราะแขนเสื้อสีขาวข้างนั้นถูกพับขึ้นครึ่งทาง ทำให้เขาดู

ค่อนข้างสบาย ๆ แต่ก็ยังสง่างามในเวลาเดียวกัน

ในขณะเดียวกัน กางเกงทักซิโด้สีดำของเขาไม่มีแม้แต่ร่องรอบยับ ซึ่งเน้นย้ำถึงความยาวของขาที่เกินปกติของเขา

ทันใดนั้น สแตนลีย์ดูเหมือนราวกับเขาเป็นเจ้าชายที่เพิ่งไปงานรื่นเริงพร้อมกับกษัตริย์และตอนนี้กำลังเดินลงมายังชั้นล่าง ไม่ว่าคนไหน ไม่ว่าเพศใดก็ตามคงจะจ้องไปที่เขาในขณะที่พวกเขาเดินผ่าน

เมื่อแซ็ค แคสซิดี้ ผู้ช่วยส่วนตัวของสแตนลีย์เห็นฉากนั้น เขาตกตะลึงไปพอควร

“ไม่ใช่ว่านี่…”

“ฉันไม่อยากเห็นผู้หญิงที่เหมือนกับผีคนนั้นอีก” สแตนลีย์กล่าวอย่างสงบขณะที่จ้องมองแมรี่อย่างเย็นชา

อย่างไรก็ตาม เขาไม่อยู่ดูต่อ เขาเดินลงบันไดเลื่อนไปพร้อมกับผู้ติดตามด้านหลังเขาแทน

แซ็ค แคสซิดี้โบกมือเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนที่อยู่ใกล้ ๆ ทันที “มากับผม…”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 8

    หลังจากนั้น แซ็ค แคสซิดี้พาพนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนมากับเขาและเข้าไปหาไซล่า เควสและแมรี่ ซัลลิแวนหลังจากที่แซ็คพยักหน้าให้กับไซล่าเล็กน้อย เขาดันแว่นกรอบทองของเขาขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะมองไปที่แมรี่ ซัลลิแวน “คุณครับ คุณชื่ออะไร?”แมรี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แมรี่ ซัลลิแวน มีอะไร? ถ้าอยากจะจีบฉันละก็ ได้โปรดหาเวลาที่ดีกว่านี้หน่อยนะ ฉันกำลังยุ่งอยู่ตอนนี้”แซ็คขมวดคิ้วกลับเล็กน้อย เมื่อดูใกล้ ๆ ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนผีอย่างที่นายน้อยห้ากล่าวไว้ ต่อให้ใบหน้าขอเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เธอก็ยังแต่งหน้าหนา มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองน่าดูผู้หญิงแบบเธอหลงตัวเองพอที่จะคิดว่าแซ็คกำลังจะจีบเธอได้อย่างไร?“คุณแมรี่ ซัลลิแวน ผมขออภัยที่ต้องบอกกับคุณว่าชื่อของคุณรวมอยู่ในบัญชีดำของห้างสรรพสินค้าของเราแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไป ทุกห้างสรรพสินค้าในโลกนี้ที่เป็นของนายน้อยห้าของเราจะไม่ให้บริการใด ๆ เพิ่มเติมแก่คุณอีกต่อไป…” แซ็ค แคสซิดี้กล่าวอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของแมรี่เริ่มขุ่นมัว “นายน้อยห้ามันเป็นใคร? มันกล้าดียังไงถึงทำกับฉันแบบนี้? พวกแกไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นวีวีไอพีของห้างนี้? นี่เป็

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 9

    ทันใดนั้น เจเรมี่ เควสก็เดินเข้ามาหลังจากที่เดินผ่านประตูเข้ามา เขาดึงเก้าอี้ออกมานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์หลังจากนั้น เจเรมี่ เควสถอนหายใจอย่างหดหู่ก่อนที่จะลูบผมของไซล่า เควสอย่างอ่อนโยน “เมื่อวานพ่อพูดกับลูกแรงเกินไป พ่ออยากจะขอโทษลูก”ไซล่าส่ายหน้าอย่างสงบ “พ่อคะ ไม่เป็นไรเลย หนูรู้ว่าเมื่อวานพ่อก็แค่อารมณ์เสีย”“พูดตามตรง พอใจลง พ่อก็กลับมาคิดถึงเรื่องนั้นอีกรอบ แม้ว่าลูกจะทำเรื่องพวกนั้นลงไปจริง พ่อคิดว่าลูกก็มีเหตุผล…”“สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ใจร้ายกับลูกมากเกินไป” เจเรมี่กัดฟันเมื่อเขานึกสิ่งที่คนพวกนั้นทำลงไปไซล่าซาบซึ้งกับสิ่งที่พ่อของเธอกล่าว จากนั้นเธอเอียงหัวลงบนไหล่ของเจเรมี่และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “พ่อคะ ขอบคุณที่อยู่ข้างหนูนะ”“เด็กโง่ พ่อเป็นพ่อของลูกนะ ถ้าพ่อไม่เข้าข้างลูก จะให้พ่อไปเข้าข้างใคร?” เจเรมี่ถามไซล่ายิ้มเหมือนกับเด็กไร้เดียงสา“ในบางครั้ง พ่อก็คิดว่าพ่อทำผิดพลาดที่ไปแต่งงานใหม่หลังจากที่แม่ของลูกจากไป”“ถ้าพ่อไม่แต่งงานใหม่ ลูกคงเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของพ่อ เรื่องขัดแย้งแบบนี้คงจะไม่เกิดขึ้น”“ลูกก็คงไม่ต้องรอนแรมอยู่ข้างนอกนั่นด้วยตัวคนเดียวถึงสาม

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 10

    “ใช่แล้วค่ะ...พ่อ นี่คือรายชื่อของผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดในชั้นเรียน นั่นหนูเองค่ะ” หลังจากนั้น ไซล่า เควสเลื่อนรูปภาพผลการเรียนของเธอที่ละภาพ แสดงให้กับเจเรมี่ เควสได้เห็น เธอมาเป็นอันดับแรกเกือบทุกรายการ!เจเรมี่ประหลาดใจปนความพอใจ แม้ไซล่าจะทำได้ไม่ค่อยดีตอนมัธยม เธอไม่มีพรสวรรค์เพียงพอที่จะเรียนมหาวิทยาลัยเช่นนี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ออกจากบ้าน เธอได้เข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ เธอยังเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดีที่สุดอีกด้วย“สาวน้อยลูกรักของพ่อ ลูกเก่งจริง ๆ!” เจเรมี่ไม่สามารถซ่อนความภูมิใจในรอยยิ้มของเขาได้ ตอนนี้ทุกอย่างที่เจเรมี่คิดถึงคือผลงานด้านวิชาการที่ยอดเยี่ยมของไซล่า เห็นได้ชัดว่า เขาลืมเรื่องของเอมิลี่ เควสที่ติดห้าสิบอันดับแรกในสายไปจนหมดความรู้สึกของการถูกเมินและถูกบดบังทำให้เอมิลี่รู้สึกทุกข์ใจมากแม้ว่ามหาวิทยาลัยแอตแลนติสเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศ ไม่ก็ไม่คู่ควรที่จะกล่าวถึงเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยซัมเมอร์แลนด์ เอมิลี่กัดฟัน “มันจะยอดเยี่ยมอะไรขนาดนั้น? มันก็แค่มหาวิทยาลัยซัมเมอร์แลนด์เอง” ทันทีที่เอมิลี่พูด เมย์ คอนเนอร์สะกิดเท้าของเ

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 11

    “เธอกำลังหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวน่ะสิ” ไซล่าหัวเราะก่อนที่จะตอบอีเมล“ฉันสนใจมาก” เธอพิมพ์ลงไปเอมิลี่โต้ตอบแทบจะในทันที “จริงเหรอ? คุณช่วยให้เบอร์ติดต่อกับฉันได้ไหม? โทรคุยกันน่าจะดีกว่านะคะ”ไซล่ายิ้มก่อนที่จะส่งเบอร์โทรศัพท์ของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์ให้กับเอมิลี่หลังจากนั้นสักครู่ สายของเอมิลี่ก็เข้ามาเมื่อเห็นแบบนี้ ไซล่ารีบสายทันทีและขอตัวออกจากห้องไป “สวัสดีค่ะ เป็นอย่างไรบ้าง…” เธอกล่าวขณะที่พิงผนังอย่างขี้เกียจไซล่าตั้งใจดัดเสียงดังนั้นเสียงของเธอดูต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง“สวัสดีค่ะ คุณใช่ผู้จัดการของจอช แบตตัน จอร์จจี้ เคลเมนไทน์ไหมคะ?”“ใช่ค่ะ ฉันสนใจเรื่องที่คุณส่งมาก่อนมากเลยค่ะ แต่ฉันคิดว่าสามสิบล้านดอลลาร์ยังไม่พอนะคะ…” ไซล่ากล่าวขณะที่นิ้วมือของเธอกำลังขดม้วนผมไปมา“สักสามสิบห้าล้านดอลลาร์เป็นอย่างไรคะ?”“แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ราคาที่เราตกลงมักจะอยู่ที่สี่สิบล้านดอลลาร์เป็นอย่างต่ำนะคะ” ไซล่าตอบกลับ“เอ่อ...ถ้างั้น สี่สิบล้านก็สี่สิบล้านค่ะ” เอมิลี่ตอบโดยไม่ลังเล“ตกลงค่ะ”“จริงเหรอคะ? ถ้างั้น พรุ่งนี้มาเซ็นสัญญาตอนแปดโมงเช้านะคะ แบบนั้นดีไหมคะ? ฉันจะส่งสถานที่น

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 12

    ถึงกระนั้น ไม่มีการตอบรับสายเรียกเข้าของเอมิลี่หลังจากความพยายามหลายครั้ง โทรศัพท์ก็ปิดไปแล้วจริง ๆ!เอมิลี่รู้สึกเหมือนเธอกำลังจะเป็นบ้าทำไมจอช แบตตันถึงเลือกสิบล้านแทนสี่สิบล้านดอลลาร์ล่ะ? ไม่พอใจอะไรกับเงินสี่สิบล้านเหรอ?หรือว่าเขาหลงรักไซล่า เควส? เมื่อเอมิลี่คิดได้เช่นนี้ เธอเริ่มอิจฉาขึ้นมาทันทีและความโกรธก็แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าอย่างไรก็ตาม เอมิลี่ปฏิเสธความคิดนั้นอย่างรวดเร็ว ผู้ชายแบบเขาตกหลุมรักไซล่า เควสไปทำไมกัน? มีผู้หญิงสวยคนอื่นตั้งมากมายในวงการบันเทิง“เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?!” เอมิลี่บ่นพึมพำกับตัวเองพร้อมกับกำหมัดในขณะเดียวกัน แฟนคลับของจอช แบตตันกำลังโจมตีเอมิลี่บนเว็บเว่ยโบ๋อย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เธอเลือดขึ้นหน้าไม่น้อย!ถ้าเธอรู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น เธอคงจะไม่อวดอ้างอย่างภาคภูมิใจมากไป เมื่อเธอนึกถึงสิ่งที่เธอได้สบประมาทไซล่าในคืนก่อน เธอรู้สึกอยากจะแทรกแผ่นดินหนีกริ๊ง กริ๊ง กริ๊งโทรศัพท์ข้างเตียงของเธอเริ่มดัง เอมิลี่รับสายในทันที“ลงมาเดี๋ยวนี้!” เจเรมี่ เควสตะโกนใส่โทรศัพท์เอมิลี่ เควสสะดุ้งเมื่อเธอได้ยินเสียงของเขาเอมิลี่กลัวแม้แต่จะตอบกลับ เธอ

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 13

    “อ๊ากก! ฉันโกรธจัดแล้วนะ!” เอมิลี่ เควสจับหมอนที่อยู่ข้างเธอและเหวี่ยงมันลงพื้น หลังจากที่ไซล่า เควสเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ชั้นบน เธอแต่งหน้าเบา ๆ ก่อนที่จะขึ้นรถตรงไปยังเอ็กซ์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์บริษัทของเอ็กซ์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ตั้งอยู่ที่ย่านที่พัฒนาแล้วมากที่สุดในใจกลางเมืองของแอตแลนติสจากภายนอก ตึกสูงนั้นดูทันสมัยและเป็นศิลปะเนื่องจากผนังถูกทำด้วยกระจกทั้งหมด ตัวตึกจึงแทบจะโปร่งใสจากภายในสู่ภายนอกมีทั้งหมดสิบหกชั้น มีสิบสองชั้นเหนือพื้นและสี่ชั้นใต้ดินศิลปินและเด็กฝึกงานของเอ็กซ์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ทั้งหมดต่างฝึกซ้อมและบันทึกเสียงในตึกแห่งนี้หลังจากที่ไซล่าลงจากรถ เธอรีบเข้าไปยังตึกสูงเธอสวมชุดสีฟ้าอ่อนแบบมืออาชีพ ควบคู่กับเสื้อยืดสีขาวและรองเท้าสีขาว ทำให้เธอดูพิถีพิถันและมากด้วยประสบการณ์ไซล่ากำลังใช้ลิฟต์ส่วนตัวเพื่อขึ้นตรงไปยังห้องทำงานของท่านประธานทันทีที่นั่งลง จอร์จจี้ เคลเมนไทน์ก็เคาะประตูห้องพร้อมกับเอกสารกองโตจอร์จจี้วางเอกสารลงบนโต๊ะ “สองวันมานี้ บริษัทของเราได้สัมภาษณ์ผู้สมัครเป็นเด็กฝึกงานทั้งหมดสองร้อยคน ในบรรดาผู้สมัครเหล่านี้ ฉันได้เลือกแล้วห้าสิบคน ช่ว

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 14

    ดูเหมือนว่าชายคนนั้นท่อประกายด้วยแสงสว่างจ้า ไม่ว่าเขาจะย่างก้าวไปทางไหน แสงนั่นก็จะตามเขาไปขณะที่แสงสว่างจ้าตามเขาไป ทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาก็กลืนไปกับฉากหลังเขาสวมเสื้อสีดำสบาย ๆ กางเกงขายาวสีดำและรองเท้าสีดำธรรมดา มากไปกว่านั้น ปกเสื้อของเขาม้วนขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับกระดุมสามเม็ดที่เปิดตรงหน้าอก เขาดูเหมือนกับทั้งเฉื่อยชาและเย้ายวนในเลาเดียวกันแม้ว่าจะถูกรายล้อมไปด้วยสาวสวย แต่กลับเรียกร้องความสนใจจากเขาไม่ได้แม้แต่น้อยเขาส่องสว่างและน่าหลงไหลเหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้าที่มนุษย์เดินดินไม่อาจเอื้อมได้ตอนแรก ไซล่าไม่คิดว่าจะได้เจอผู้ชายคนนี้อีก อย่างไรก็ตาม เธอก็บังเอิญเจอเขาในวันนี้อีกครั้งคนที่อยู่รอบตัวเขาเป็นพวกอันธพาลด้วยงั้นเหรอ?นี่เป็นการประชุมของพวกอันธพาลงั้นเหรอ?ทุกวันนี้ คนที่ทำงานในด้านนั้นแต่งตัวดีขนาดนี้เลยเหรอ?แม้ไซล่าคิดจะออกไป เธอรู้สึกว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเขาเลย ทำไมเธอจะต้องออกไปด้วย?ขณะที่ความคิดแล่นผ่านหัวเธอไป ไซล่าพลันหันหลังและกวักมือเรียกบริกรเพื่อที่จะสั่งเครื่องดื่มในตอนนั้น ชายผมสั้นคนหนึ่งก็ปรากฏตัวบนเวทีแม้ว่าเขาดูเหมือนแบดบอยที่หน้าตา

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 15

    ในตอนนั้น ไซล่าเควสดูไม่เหมือนกับนางฟ้าแสนอ่อนโยนอย่างที่เคยเป็นอีกแล้ว ความเยือกเย็นพลันปกคลุมร่างกายของเธอไปทั่ว“คิดว่าแกเป็นใคร?!” ไซล่าถามขณะที่เธอชี้ขวดที่แตกครึ่งไปยังผู้ชายคนนั้น“แกตายแน่! พวกเรา เล่นมันเลย!” กลุ่มอันธพาลกลุ่มนั้นหยิบมีดออกมาและกรูเข้าหาหญิงสาวหลังจากที่ไซล่าหันหลังมาส่งสายตากับจอร์จจี้ เคลเมนไทน์ เธอเริ่มโต้กลับด้วยทักษะการป้องกันตัวที่เรียนมาหลายปีสมัยอยู่ต่างประเทศหลังจากนั้นไม่นาน จอร์จจี้หยิบขวดเบียร์ขึ้นและร่วมสู้กับเพื่อนรักของตนหญิงสาวทั้งสองจัดการอันธพาลสองคนลงได้ภายในครึ่งนาทีด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและเชียบคมนอกจากสแตนลีย์ แบตตันแล้ว คนอื่น ๆ ที่โต๊ะต่างอ้าปากค้าง…เฮนรี่ขยี้ตาก่อนที่จะพูดติดอ่าง “ทำไมพี่สะใภ้ของเรากับเพื่อนของเธอบ้าดีเดือดขนาดนั้นวะ?”เซบาสเตียน เบรนานด์กลืนน้ำลาย “ดุดันจัง แต่ฉันชอบนะ!”สแตนลีย์เหลือบมองไปที่กลุ่มบอดี้การ์ดสวมชุดดำโดยไม่พูดสักคำและกวักมือเรียกพวกเขาในชั่วพริบตาต่อมา ชายชุดดำกลุ่มหนึ่งก็เข้าร่วมการปะทะ ฉากนั้นดึงความสนใจของผู้คนที่อยู่รอบตัวพวกเขาในทันทีเมื่อผู้จัดการบาร์สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดข

บทล่าสุด

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 240

    ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 239

    “ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 238

    ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 237

    “เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 236

    “เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 235

    “ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 234

    เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 233

    เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ

  • แรงรักสยบแรงแค้น   บทที่ 232

    หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ

DMCA.com Protection Status