หลังจากนั้นไม่นาน สมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลซัลลิแวนอีกสามคนก็เดินขึ้นรถไปรถเบนซ์เอส 600 คันสีดำพุ่งออกไป หลงเหลือเพียควันดำจากท่อไอเสียเพียงเท่านั้นเมื่อเห็นเช่นนั้น เมย์ คอนเนอร์ยิ้มอย่างพอใจพลางถอนหายออกมาอย่างโล่งอกอีกด้านหนึ่ง ไซล่า เควสจ้องมองสแตยลีย์โดยไม่เอ่ยคำใดออกมาเนื่องจากไซล่าบอกไปแล้วว่าพ่อจะทำอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ เธอไม่มีทางเลือกที่จะรออย่างอดทนเพื่อให้เขาตั้งสติเจเรมี่ เควสถอนหายใจพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างเหนื่อยล้า จากนั้น เขาเดินไปหาไซล่าพร้อมตบไหล่ลูกสาวอย่างอ่อนโยน “พ่อขอโทษนะ ในเมื่อน้องสาวลูกท้องแบบนี้ พ่อคงทำโทษเธอไม่ได้แล้วล่ะ ครั้งนี้ เรายกโทษให้เธอนะ?”ไซล่าพยักหน้า อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกบางอย่างบอกว่าเอมิลี่กำลังโกหก ถ้าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง ทำไมถึงไม่พูดออกมาตั้งแต่ที่สมาชิกตระกูลซัลลิแวนเดินทางมาเพื่อขอยกเลิกการแตงงานแล้วเล่า?แม้ว่าเธอจะสงสัย แต่ใบหน้าของเธอยังคงสงบนิ่งอยู่เช่นเดิม“พ่อจะโอนหุ้น 5% ของเอมิลี่ให้นะ ถือว่าเป็นการปลอบใจลูก” เจเรมี่กล่าวเมย์อ้าปากค้าง ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “ที่รักคะ ไม่ยุติธรรมเกินไปหน่อยไหมคะ
“ก็รอดูสิ ว่าฉันจะทำได้ดีรึเปล่า” ไซล่า เควสกล่าวอย่างสงบแม้ไซล่าไม่ได้พูดเสียงดัง แต่เธอดูแน่วแน่และมั่นใจไม่น้อยแววตาอันมั่นใจของไซล่าทำให้เมย์รู้สึกหงุดหงิดเป็นที่สุด“ฉันก็หวังว่าเธอจะไม่โดนงานเครียด ๆ พวกนั้นทับตายก่อนนะ บางที ทำอะไรที่มันเกินตัวไปมากอาจกลายเป็นปัญหาให้เธอก็ได้นะ” เมย์เยาะเย้ย“ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ คุณป้า” ไซล่ายิ้มและหันไปอีกทาง“ฉันจะรอดูตอนที่เธอล้มหน้าคะมำแล้วกันนะ” เมย์กลอกตาไปที่ไซล่าก่อนที่จะหันหลังเดินจากไปทันใดนั้น ไซล่าอารมณ์ดีมากจนเธอไม่สนใจเมย์ หลังจากที่หันหลัง ไซล่าหันไปมองที่สแตนลีย์ แบตตันกำลังยืนนิ่งไม่ไหวติ่งตรงนั้น “ขอบคุณที่ช่วยฉันในวันนี้นะ”จนถึงตอนนี้ ไซล่ายังคงประทับใจกับการกระทำอันกล้าหาญของสแตนลีย์ที่ขับรถของเธอพุ่งชนกับรถซีดาน“ไม่เป็นไร” เขาจ้องมองไซล่าอย่างสงบนิ่ง “การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั่นคืออะไรเหรอ?”“อ๋อ อิมพีเรียล ไพรม์ในใจกลางเมืองน่ะ” ไซล่าหัวเราะ“ข้อเท้าเป็นไงบ้าง?” เขาถามด้วยท่าทีนิ่งเฉยเช่นเดิม“ก็ไม่ดีเท่าไหร่…” เธอตอบกลับพร้อมกับความเจ็บปวดก่อนที่ไซล่าจะพูดจบประโยค สแตนลีย์กางแขนและอุ้มเธอขึ้นไซล่ารู้สึ
ชายร่างสูงโปร่งกำลังเดินจากไป เขามีรัศมีทีทรงอำนาจและสูงศักดิ์ซึ่งติดตัวมาตั้งแต่เกิดไซล่าอดคิดไม่ได้ว่าพวกคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่คงจะมองว่าเขาเป็นชายผู้สูงศักดิ์จากตระกูลมหาเศรษฐีเนื่องจากมีรูปร่างที่เตะตาและคุณสมบัติอันสูงศักดิ์ เขาคงจะเปล่งประกายเหนือชนชั้นสูงส่วนใหญ่ไปมากหลังจากที่จ้องมองมองแผ่นหัลงหายลับไปในไม่กี่วินาที ไซล่าจึงขับรถกลับบ้าน…เมื่อสแตนลีย์มายืนอยู่ริมถนน เขาจึงโทรหาแซ็ค แคสซิดี้ “แซ็ค แคสซิดี้...ช่วยซื้อรถเหมือนกับที่ฉันขับกลับบ้านเมื่อคืนนี้ให้คันหนึ่งสิ”“แล้วก็ ฉันคิดว่าอสังหาริมทรัพย์อิมพีเรียล ไพรม์ดูเข้าท่าดีนะ”“อิมพีเรียล ไพรม์งั้นเหรอครับ? เป็นโครงการของตระกูลเควสใช่รึเปล่าครับ? รู้สึกว่าจะเป็นย่านขนาดเล็กแต่กลับหรูหราน่าดู ผมก็คิดว่ามันดูดีพอสมควรเลยครับ อยากให้ผมซื้อสักยูนิตไหมครับ?” แซ็ค แคสซิดี้ถาม“เอาทั้งตึก” สแตนลีย์กล่าว“รับทราบครับ”“เดี๋ยวค่อยซื้อหลังจากนี้หนึ่งอาทิตย์นะ”“ครับ”“ตอนนี้ฉันอยู่หน้าบ้านของตระกูลเควส ส่งคนมารับฉันหน่อย” ก่อนที่แซ็คจะได้ตอบกลับ สแตนลีย์ก็วางสายหลังจากนั้นไม่นาน เขาเปิดกลุ่มวีแชทชื่อ ‘ชมรมสุภาพบุรุษ
โทนี่ ซัลลิแวนจ้องมองทอม ซัลลิแวนอย่างเคร่งขรึม “ฉันไม่สนว่าแกจะรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง ในเมื่อตอนนี้แกมีลูกแล้ว แกจะต้องอยู่กับเอมิลี่ต่อไป กลับบ้านและเตรียมพร้อมเรื่องงานแต่งงานเสียเถอะ”เมื่อเอมิลี่ เควสได้ยินสิ่งที่โทนี่กล่าว รอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอทันตา เมื่อมองจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานก่อนหน้า ตอนนี้เธอรู้สึกอิ่มเอมใจเป็นที่สุดเอมิลี่ลูบท้องของเธอตามจิตใต้สำนึก เธอต้องขอบคุณตัวเองที่ฉุกคิดแผนการณ์เช่นนี้ออกมาได้ มิฉะนั้น ทอมคงจะหายไปเป็นแน่ความจริงแล้ว เธอได้ส่งข้อความหาผู้อำนวยการของแผนกสูติและนารีเวชวิทยานานแล้วก่อนที่พวกเขาจะมาถึงและขอให้เขาทำรายงานทางการแพทย์ปลอมให้กับเธอ เพื่อเป็นการตอบแทน เธอจะร่วมเตียงกับเขาอีกครั้ง ชายคนนั้นจึงตกลงอย่างไม่ลังเลโดยส่วนตัวแล้ว เอมิลี่ชื่นชอบการมีเพศสัมพันธ์ไม่น้อย เป็นเพราะว่าทอมไม่สามารถสนองความต้องการของเธอได้ เธอจึงจำเป็นที่จะต้องออกไปหลับนอนกับผู้ชายมากหน้าหลายตาในทุกคืนดังนั้น การนอนกับผู้ชายคนอื่นเพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่เธอต้องการก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย“จริงด้วย ทอม ถ้าอย่างงั้น ติดต่อคนในเว็บเว่ยโบ๋และขอใ
“อ๋อ ตอนนี้เข้าใจแล้ว เรื่องการลงทุนเป็นแค่ตัวล่อ แล้วเรื่องชวนพวกเราออกมาหาความสุขข้างนอกก็เป็นตัวล่อด้วยเหมือนกัน ความจริงคือนายอยากให้เราซื้ออสังหาริมทรัพย์จากพี่สะใภ้ แบบนั้นใช่ไหม?” เฮนรี่มีสีหน้าที่รู้ตัว“อาทิตย์หน้าก็เปิดตัวแล้ว...พวกแกแต่ละคนจะต้องซื้อคนละหนึ่งบล็อค” สแตนลีย์กล่าวอย่างหนักแน่นเพื่อบอกกับพวกเพื่อนตนว่าอย่าคิดที่จะต่อรองเด็ดขาด“โหย! ทั้งบล็อคเลยเนี้ยนะ? ขอมากไปมั้ง” เฮนรี่คร่ำครวญ“จะปล้นกันซึ่ง ๆ หน้าเลยรึไงเพื่อน!” เซบาสเตียนตำหนิแกรี่ เลคไม่พูดอะไร กลับกัน เขาแตะหน้าผากของตนอย่างช่วยไม่ได้แทน นอกจากสแตนลีย์แล้ว แกรี่ก็เป็นคนหนึ่งที่พูดน้อย“แล้ว?” สแตนลีย์มองกลับไปยังพวกเพื่อนทีละคน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกถึงสิ่งที่เขากำลังคิดหรือรู้สึกอยู่ตอนนี้“ซึ้อก็ได้” เฮนรี่พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้สึกว่าเขากำลังถูกบังคับให้ซื้ออยู่“ฉันก็จะซื้อด้วย เราจะไม่ซื้ออสังหาริมทรัพย์จากธุรกิจของตระกูลของพี่สะใภ้ของพวกเราได้ยังไงกัน?” เซบาสเตียนกลอกตาไปยังสแตนลีย์ ‘โธ่เว๊ย! เงินที่หามาอย่างยากลำบากของฉัน!’ เซบาสเตียนคิด“แหงอยู่แล้ว ในเมื่อพวกนายก็พูดไปแล้ว ฉัน
“ฉันเสนอเงินสิบล้านดอลลาร์ต่อปีเชียวนะ แต่คน ๆ นี้กลับเมินฉันอย่างสิ้นเชิง แล้วพอฉันเสนอให้สิบห้าล้านดอลลาร์ เขาก็ยังเมินฉันอีก สุดท้าย ฉันลดมาตรฐานลงจนเสนอให้ถึงสามสิบล้านดอลลาร์”“ฉันพนันว่าดารายอดนิยมที่สุดในวงการก็หาเงินขนาดนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ นายรู้ไหมว่าสุดท้าย เจ้านั้นตอบกลับว่าไง?” เฮนรี่ยิ่งดูหดหู่“ยังไง?” เซบาสเตียน เบรนานด์ดุสนใจไม่น้อย“สามคำ ลืมไปซะ” เฮนรี่กล่าว“บางที คน ๆ นั้นอาจจะไม่สนใจการเป็นผู้เล่นมืออาชีพก็ได้” แกรี่ เลคตบที่ไหล่ของเฮนรี่“สามสิบล้านดอลลาร์สำหรับการเล่นเกมในโปรหนึ่งปี ใครจะปฏิเสธได้?” เฮนรี่ดูงุนงง“แล้วถ้าสามสิบล้านดอลลาร์ไม่ใช่จำนวนที่มากพอสำหรับคน ๆ นี้ล่ะ?” เซบาสเตียนเอ่ยถามก่อนที่จะดื่มไวน์จนหมดแก้ว หลังจากนั้น เขาส่งซิกก้าให้แต่ละคนก่อนที่จะยืนขึ้นและจุดไฟให้กับสแตนลีย์“เป็นไปได้ไหมว่าเจ้านั้นมาจากตระกูลที่ร่ำรวย?” แกรี่พูดเสริม“จะไปรู้ได้ไง ถ้าเจ้านั้นไม่ได้มาจากตระกูลที่ร่ำรวย เขาก็อาจจะมีปัญหาเรื่องสมองแล้วล่ะ” จากนั้น เฮนรี่หันไปหาแกรี่ “แล้วนายล่ะ? ล่าสุด นายเพิ่งจะวางแผนที่จะขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมการออกอากาศด้วยคลาวด์ ไนน์ เอ็นเต
ชารอน ลินด์ไม่วิ่งตามเขาไป กลับกัน เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและเริ่มชักชวนเพื่อนของตนให้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ของอิมพีเรียล ไพรม์ทางวีแชทเนื่องด้วยความเร็วที่เธอกำลังพิมพ์อยู่ หลังจากชารอนจบการเกริ่นนำ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับกลุ่มวีแชทที่จะตามทัน เพื่อน ๆ ของเธอในกลุ่มก็ระบุว่าพวกเธอต่างสนใจไม่น้อย จากนั้นชารอนจึงวางโทรศัพท์ลงและนั่งลงบนโซฟาหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอเริ่มบ่นพึมพำกับตัวเอง “วันอังคารหน้า ฉันต้องไปเยี่ยมลูกสะใภ้ของฉันเป็นการส่วนตัวเสียหน่อยล่ะ…”ชารอนดำเนินการโทรหาหัวหน้านักออกแบบของดิออร์ “ฉันกำลังจะไปพบคนที่สำคัญมาก ๆ คนหนึ่ง ออกแบบชุดให้ฉันที ฉันอยากให้มันดูมีสไตล์แต่ไม่เวอร์จนเกินไป ควรจะทำให้ฉันดูสาวมาก ๆ ด้วย เท่าไหร่ว่ามาเลย ไม่เกี่ยง”นี่เป็นครั้งแรกที่ชารอนกำลังจะพบกับลูกสะใภ้ ดังนั้น เธอจำเป็นต้องทำให้เป็นความประทับใจที่ดี...หลังจากที่ใช้เวลาทั้งวันกับตระกูลซัลลิแวน ในที่สุด เอมิลี่ เควสก็กลับบ้านอย่างเบิกบานใจในตอนค่ำตั้งแต่ที่พวกเขายืนยันว่าเธอตั้งครรภ์ ตระกูลซัลลิแวนก็ไม่หยุดที่จะหารือกันเรื่องการแต่งงานของเธอ อันที่จริง พ่อของทอม ซัลลิแวนพูดด้วยตัวเอง
เอมิลี่ เควสขวางทางไซล่าราวกับเธอเป็นนักล่าพร้อมที่จะกระโจนเข้าใส่อย่างไม่รู้ตัว สีหน้าของเธอมีแต่เกลียดชังที่ปกคลุมเครื่องสำองค์บนหน้าอยู่“ต้องการอะไร?” ไซล่าเลิกคิ้วย่างเยือกเย็น“ไม่มีอะไรมาก ฉันก็แค่อยากจะบอกเธอว่าพี่ซัลลิแวนกับฉันกำลังจะแต่งงานกัน ที่จริงแล้ว เรากำลังจะแต่งงานกันในอีกสองสัปดาห์”“ฉันรู้ว่าแกกลับมาแก้แค้นฉันโดยทำให้ฉันกับพี่ซัลลิแวนแตกคอกัน แล้วฉันก็จะสูญเสียทุกอย่างไป”“แต่ก็นะ ไซล่า เควส ฉันกำลังจะบอกให้แกรู้ว่าแผนของแกจะไม่มีวันสำเร็จ”“ตอนนี้ฉันตั้งท้องเด็กของตระกูลซัลลิแวนอยู่ ฉันมีสถานะที่มั่นคงแล้ว แม้ว่าเธอพยายามจะทำอะไรสกปรก ๆ เธอก็จะไม่สามารถลากฉันลงไปได้อีก”“เธอก็เป็นศัตรูผู้พ่ายแพ้ของฉันเสมอนั่นแหละ มันคือชะตากรรมของแกที่ต้องอิจฉาฉัน” เอมิลี่ยังคงยืดแขนขวางทางไซล่าขณะที่เธอพูดด้วยสีหน้าที่พอใจเมื่อเอมิลี่กลายเป็นภรรยาของทอม ซัลลิแวน เธอจะได้เปรียบในการต่อสู้เพื่อมรดกของตระกูลเควสด้วยการสนับสนุนของสามีของตน เธอจะมีอำนาจเหนือกว่าไซล่า เควสมากถึงตอนนั้น เอมิลี่คงจะทำให้พ่อของเธอมีความสุขและทุก ๆ อย่างก็จะเป็นไปตามแผนของเธอ“อ่า” ไซล่าตอบอย่า
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ