“ไซล่า พาสแตนไปคฤหาสน์ดูหลังข้าง ๆ หน่อยสิลูก” เจเรมี่กล่าว“ค่ะ…” นี่ช่างเหมาะเจาะ เพราะเธออยากจะดึงไฟฟ์ แบตตันออกมาเพื่อหาข้ออ้างที่จะคุยกับเขาอยู่พอดีสแตนลีย์ลุกขึ้นอย่างเอื่อยเฉื่อยและก้มหัวให้เขาอย่างสุภาพ “คุณพ่อ ขอตัวนะครับ”เจเรมี่โบกมือให้พวกเขาไป “เอาเลย เอาเลย”ไซล่าควงแขนของเขาอย่างเสน่หา และเดินออกจากบ้านไป ด้านนอกประตู ไซล่าเดินนำเขาไปที่รถมาเซราติของเธอเมื่อปิดประตูรถ ไซล่าก็บีบสันจมูกของเธออย่างเหลืออด ท่าทีของเธอดูเคร่งขรึมเล็กน้อย “ทำไมนายบอกกับพ่อว่าจะอยู่ที่ประเทศนี้ตลอดเล่า? ดูสิว่าการที่นายพูดแบบนั้นไป มันทำให้เกิดเรื่องที่พวกเรายากจะควบคุมได้แล้วนะ”สแตนลีย์เฉยเมย “ฉันไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นนิ”ไซล่ายกมือขึ้นด้วยการยอมแพ้ “ช่างมันเถอะ...ฉันผิดเองแหละที่ไม่ได้เตี๊ยมกับนายให้ดี ๆ เอง” เมื่อไม่สามารถเก็บข้อสงสัยไว้ได้ เธอจึงมองและเอ่ยถามเขา “นายจงใจทำแบบนี้ใช่ไหม?”“จงใจงั้นเหรอ? ไม่ทราบว่ามันมีประโยชน์อะไรกับฉันงั้นเหรอ?” เขาถามกลับด้วยท่าทีเฉยเมย“ก็อย่างแบบ นายอยากอยู่กับฉันไง” ไซล่ากล่าวสแตนลีย์ยิ้มอย่างมีเลศนัย ดวงตาของเขาค่อย ๆ มืดมน ความฉลาดมากเกิ
“จงใจงั้นเหรอ?” สแตนลีย์สูบบุหรี่และค่อย ๆ พ่นควันออกมา จากนั้นก็หันมองเธออย่างสงบ มันลำบากจริง ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่ฉลาดเกินไป“นายหวังโอกาสที่จะขึ้นค่าตัว เพราะงั้นนายถึงจงใจไม่ปฏิเสธคุณพ่อของฉันใช่ไหม?” ไซล่าถามสแตนลีย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เปล่า”สมมติฐานนั่นมันอะไรกัน?“งั้น นั่นก็หมายความว่านายแค่อยากอยู่กับฉัน ใช่ไหม?” ไซล่าไม่ยอมทิ้งคำถามก่อนหน้านี้ไปจากความคิดสแตนลีย์ยังคงเงียบ หลังจากที่ดับบุหรี่ด้วยมือข้างหนึ่ง เขาก็โยนลงในถังขยะใกล้ ๆ การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็ว แม่นยำและน่าหลงใหลที่สุดเมื่อจ้องไปที่ท่าทีทีสงบของเขา ไซล่าก็ค่อย ๆ คลายความสงสัยภายในใจ เธอคงคิดมากเกินไปแน่ เมื่อตัดสินจากตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกันของพวกเขา มาจนถึงช่วงเวลานี้ ไซล่าก็รู้สึกว่าไฟฟ์ แบบตันไม่ใช่คนที่หิวเงิน มันเหมือนกับเขาคิดว่าเงินเป็นแค่ของไร้ค่าพวกเขาไม่ได้สนิทกันมานาน แม้ว่าพวกเขาเคยนอนด้วยกันคืนหนึ่ง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะตกหลุมรักเธออย่างรวดเร็วเช่นนี้ ดังนั้น การที่เขาอยากที่ให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันก็คงเป็นไปไม่ได้เช่นกันด้วยเหตุนี้ จิตใจของเธอเผลอนึกถึงภาพในคืนนั้น หน้าขอ
ไซล่ารีบเข้าไปด้านในพร้อมกับสแตนลีย์ตามเธออย่างใกล้ชิดเมื่อเข้าไปด้านใน เธอเปลี่ยนไปสวมรองเท้าแตะก่อนจะมองเขาและถามว่า “นายมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไหม?”“มี อยู่ในห้องนอน” เขาตอบกลับและชี้ไปยังห้องนอน“ฉันเข้าไปได้ไหม?”“ได้”ไซล่าเข้าไปในห้องนอนของเขาในทันที สแตนลีย์ที่ตามเธอเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้าและดึงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีดำออกมาจากด้านใต้ วางและเปิดกางออกบนพื้น ในตู้เสื้อแทบจะไม่มีเสื้อผ้าเลย มีแค่เสื้อผ้าสีพื้น ๆ ได้แก่ ดำ ขาว เทาและน้ำเงินเข้ม“นายจะเอาทั้งหมดนี่ไปด้วยไหม?” ไซล่าถาม“เธอตัดสินใจเลย”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไซล่านำเสื้อผ้าทั้งหมดของเขาออกจากตู้เสื้อผ้าและวางลงบนเตียง เธอเริ่มจดจ่อกับการพับเสื้อผ้าและใส่ลงไปในกระเป๋าเดินทางทีละตัว เมื่อจัดเรียงเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ในกระเป๋าก็แทบจะเต็มแล้วไซล่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างโล่งอกและลากกระเป๋าไปที่ผนัง “นายเก็บของใช้ส่วนตัวของนายเลยได้นะ”ของชิ้นเล็ก ๆ เหล่านี้สามารถย้ายได้ด้วยมือข้างเดียว แทบจะไม่ใช้แรงเลยด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้น มันคงจะเป็นเรื่องแปลกสำหรับเธอที่จะแตะของใช้ส่วนตัวมาก ๆ “ได้ เธออยากดื่มอะไรให
“ถ้างั้น อาหารที่ฉันทำในวันก่อนก็หวานด้วยน่ะสิ?” ไซล่าอุทานด้วยความไม่อยากเชื่อถ้านั่นคือเรื่องจริง นั่นจะหมายความว่าทุกอย่างที่เธอเป็นคนทำนั่นรับประทานไม่ได้เลย“ใช่” สแตนลีย์ตอบกลับเบา ๆ อาหารค่ำอันแสนหวานนั้นสร้างความประทับใจให้กับเขามาก“มันกินไม่ได้เลยใช่ไหม? ฉันขอโทษ”“อร่อยนะ” สแตนลีย์ตอบอย่างปกติ“มันจะอร่อยได้ไง? ฉันใช้น้ำตาลแทนเกลือนะ!”แม้ว่าไซล่าจะไม่ได้รับประทานอาหารที่มีแค่รสหวานเหล่านั้น เธอก็นึกภาพออกว่ารสชาติมันน่าขยะแขยงแค่ไหน“ฉันชอบของหวาน ๆ” เขากล่าวไซล่ารู้สึกอบอุ่นอยู่ภายใน ในขณะเดียวกันสแตนลีย์ดูเฉยเมยที่ภายนอก เขาค่อนข้างเป็นคนที่อบอุ่นอยู่ภายใน เขารู้วิธีที่จะทำให้คนอื่นสบายใจและห่วงใยพวกเขามาก“เอาละ ไม่ต้องมาปากหวานเลย พูดมาตรง ๆ เถอะ นายโยนอาหารทั้งหมดนั่นทิ้งไปในวันนั้นใช่ไหม?”“เปล่าซะหน่อย” เขาตอบไซล่าอึ้ง “นาย...นายกินมันจนหมดเลยงั้นเหรอ?” เธอถาม“ใช่”ไซล่ารีบชูนิ้วโป้งให้กับเขา “แจ๋ว”สแตนลีย์เปลี่ยนเรื่องในขณะที่ใช้คางชี้ไปยังน้ำมะนาวของเธอ “ลองดูสิว่าหวานพอรึยัง”เธอจิบเล็กน้อย ความหวานเหมาะเจาะ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมะนาวผสมกับรสหวานอ
ความคิดเห็นที่รุนแรงไม่เคยจบสิ้น ชาวเน็ตในตอนนี้ได้รวมตัวกันเป็นศัตรูและพุ่งเป้าหลักไปที่ซัลลิแวน กรุ๊ป ทอม ซัลลิแวน และเอมิลี่ เควสเมื่อหันสายตาไปยังช่องข่าวเศรษฐกิจเป็นทางการที่เธอกำลังติดตาม ไซล่าก็อ่านข่าวที่ช่องนั้นเพิ่งจะประกาศ‘เนื่องจากโรงงานที่ไม่มีชื่อภายใต้ซัลลิแวน กรุ๊ป ใช้ส่วนผสมที่หมดอายุและด้วยเรื่องอื้อฉาวของทอม ซัลลิแวนและเอมิลี่เควส ดราก้อน กรุ๊ปจึงตั้งใจจะถอดถอนการลงทุนของพวกเขาออกจากซัลลิแวน กรุ๊ป’‘ล่าสุด ราคาหุ้นของซัลลิแวนกำลังดิ่งลงและภายในช่วงเวลาสั้น ๆ ของสามวัน มูลค่าทางตลาดของซัลลิแวน กรุ๊ปลดลงไปกว่าสามแสนล้านดอลลาร์ ตามแหล่งข่าวของเรา นายน้อยคนโตของตระกูลซัลลิแวน จูเลี่ยน ซัลลิแวนจะกลับมาช่วยให้ตระกูลซัลลิแวนผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้’‘สำหรับตอนนี้ ซัลลิแวน กรุ๊ปกำลังให้ความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนสอบสวน”ข่าวนี้เผยให้เห็นสิ่งที่สำคัญสองอย่างอย่างแรกคือ ตระกูลซัลลิแวนเมื่อล้มลงก็โดนถีบส่งไม่เหลือชิ้นดี การถอนการลงทุนของดราก้อน กรุ๊ปมีแต่จะทำให้สถานการณ์หายนะของพวกเขาแย่ไปกว่าเดิม อย่างที่สองคือ สถานะในฐานะทายาทของตระกูลซัลลิแวนของทอม ซั
“แซ็คคงบอกสิ่งที่จำเป็นกับแกแล้วหมดแล้วใช่ไหม?” วิลสันถามด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง“ครับ” สแตนลีย์ตอบอย่างสงบ โดยใช้น้ำเสียงที่ไม่สะทกสะท้านใด ๆ“มีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ฉันลืมขอให้แซ็คบอกแก เพราะงั้นฉันจะพูดเลยแล้วกัน ถ้ามีบางอย่างที่แกไม่เข้าใจตอนที่อยู่กับลูกสะใภ้ของฉัน ให้มาถามฉันทันทีเลยนะ ไม่มีใครเก่งเรื่องความรักมากกว่าฉันอีกแล้ว”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ เหมือนกับท่านประธานขี้หลีสแตนลีย์ค่อย ๆ พ่นควันออก “...เข้าใจแล้วครับ”“เจ้าลูกเวร ไอ้ฉันก็คิดมาตลอดว่าแกเป็นเกย์ และเตรียมใจให้แกพาแซ็คกลับบ้านและประกาศความสัมพันธ์ของแกกับเจ้านั่นแล้วด้วยซ้ำ” วิลสันกล่าว เขาไม่อายที่จะพูดความคิดของตนออกมาสแตนลีย์กุมหน้าผากอย่างยอมจำนน เขาสงสัยว่าชายแท้อย่างเขาจะเป็นเกย์ได้อย่างไร?เมื่อแซ็คที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สแตนลีย์ได้ยินสิ่งที่วิลสันกล่าว ปากของเขาก็เริ่มยิ้มพลางพิจารณาทางเลือกชีวิตของเขาอีกครั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายน้อยห้าตอนไหนกันนะที่ทำให้ท่านประธานกับนายหญิงเห็นผิดเป็นเช่นนั้นได้?สแตนลีย์ไม่เต็มใจที่จะคุยเรื่องนี้ต่อ ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนเรื่อง “สุขภาพพ่อเป็นไงบ
“อ่า”“ที่ไหนครับ?”“ที่บ้านภรรยาของฉัน” สแตนลีย์กล่าว“บ้านของคุณผู้หญิงเหรอครับ? คฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลเควสใช่ไหม?”แววตาของแซ็คเต็มไปด้วยความสงสัย เขาแทบจะไม่อยากเชื่อหูตนเองเลย ทำไมจู่ ๆ พวกเขาถึงอยู่ด้วยกันล่ะ?“เรากำลังจะย้ายไปอยู่คฤหาสน์ข้าง ๆ คฤหาสน์ตระกูลเควส” สแตนลีย์กล่าวอย่างสงบพลางดับบุหรี่ในมือ“อ๋อ…” แซ็คพยักหน้า “จริงสิครับ วันนี้ จูเลี่ยน ซัลลิแวนมาที่บริษัทของเราเพื่อขอเข้าพบคุณ แต่ผมก็ปฏิเสธเขาไป”ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ดขณะที่เขาพูด โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก เขาก็ตอบรับในทันที“ไม่ทราบว่าใช่ผู้ช่วยแคสซิดี้รึเปล่าครับ? สวัสดีครับ ผมจูเลี่ยน ซัลลิแวนจากซัลลิแวน กรุ๊ปครับ” เสียงจากปลายสายกล่าว“พูดสายอยู่ครับ ว่าแต่ คุณมีเบอร์โทรของผมได้ยังไง?” แซ็คถาม แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยขณะที่เขาเปิดลำโพง“มีคนให้ผมมาน่ะครับ ผู้ช่วยแคสซิดี้ครับ มันจะสะดวกไหมถ้าเราจะนัดเจอและพูดคุยกัน?”“เอ่อ...ไม่สะดวกครับ”“ผมอยากพูดคุยกับท่านประธานของคุณ คุณช่วยผมได้ไหมครับ ผู้ช่วยแคสซิดี้? แน่นอนว่าผมตอบคุณอย่างสมน้ำสมเนื้อแน่นอน”“ขอโทษด้
เมื่อเข้าไปด้านใน ไซล่าก็เดินนำสแตนลีย์ไปยังชั้นบนและผลักเปิดประตูของห้องนอนห้องแรก ซึ่งดูโอ่อ่าเทียบเท่ากับชั้นแรกหน้าต่างบานใหญ่ทอดยาวทั้งผนังของห้อง และมีสิ่งของชิ้นที่ตระการตาอีกมากมาย ตัวอย่างเช่น ระเบียงเปิดขนาดใหญ่ เตียงคิงไซส์ที่สะดวกสบาย ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่กินพื้นที่ผนังอีกฝั่ง โต๊ะทำงานระดับไฮเอนด์และอื่น ๆ อีกมากมายผ้าปูที่นอนและปอกหมอนเป็นสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งความผสมผสานของสีทั้งสองทำให้ห้องให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่และมีระดับมากขึ้น“เป็นไงบ้าง? นายชอบไหม? ฉันเลือกผ้าปูที่นอนให้กับนายเมื่อคืนนี้ ของใหม่หมดเลยนะ ถ้านายไม่ชอบสี นายเปลี่ยนออกก็ได้นะ มีอีกหลายชุดในตู้เสื้อผ้า ฉันย้ายคอมพิวเตอร์เข้ามาจากห้องข้าง ๆ สเปกดีที่สุดเลยด้วยนะ ถ้านายชอบเล่นเกม บอกเลยว่านายจะได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมครั้งใหม่เลยแหละ” ไซล่ากล่าว“อ่า ฉันชอบเล่น” สแตนลีย์กล่าวอย่างเบา ๆ เขาบอกได้เลยว่าเธอทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการตกแต่งห้องนั้น“งั้นก็ดี สุขาเชื่อมกับห้องอาบน้ำเลยนะ” ไซล่าพูดเสริมพลางชี้ไปยังห้องอาบน้ำ“รับทราบ”ไซล่าทำท่าชี้นิ้วโป้งไปทางขวา “ห้องของฉันอยู่ข้าง ๆ นายนะ ถ้ามีอะไร
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ