เขาได้เจอผู้หญิงดาวยั่วชอบอ่อยชายหนุ่มที่ขับรถหรูตั้งมากมายรอยยิ้มที่ยั่วยวนบนใบหน้าของสาวสวยคนนั้นแข็งทื่อด้วยความรู้สึกตกตะลึงในออร่าของเขากระนั้น เธอไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ ผู้ชายที่ร่ำรวยและสง่างามเช่นนี้คือความฝันของผู้หญิงทุกคน!ถ้าสามารถคว้าใจของเขาได้ เธอคงจะสบายไปตลอดชีวิต“อย่าทำแบบนั้นสิ สุดหล่อ ช่วยฉันหน่อยนะ” สาวสวยคนนั้นกล่าวอย่างยั่วยวนเขายังคงเฉยชา เขาค่อย ๆ หยิบถุงมือการแพทย์สีขาวออกมาจากที่เก็บของหน้ารถโดยไม่พูดอะไร และเดินลงจากรถอย่างรวดเร็วไปดึงประตูฝั่งผู้โดยสารเปิดออกและลากผู้หญิงคนนั้นออกมาหลังจากนั้น เขาถอดถุงมือและโยนลงถังขยะพร้อมกันกับกระดาษทิชชูต้านเชื้อแบคทีเรียทุกอย่างจบลงอย่างรวดเร็วต่อมา เขาก็หันหลังจากไป สาวงามก็โกรธเคืองพลางกระทืบเท้าต่อไป “เกิดอะไรขึ้นเนี้ย? คนอย่างแฟนนี่ มิทเชลมีพิษงั้นเหรอ? ทำไมถึงต้องสวมถุงมือก่อนจะจับตัวฉันด้วย? ประหลาดคนจริง ๆ!”เมื่อกล่าวเช่นนั้น เธอก็กลอกตาใส่สแตนลีย์เดินเข้าไปในร้านอาหารณ ทางเข้า เขาดึงดูดสายตาของลูกค้าจำนวนนับไม่ถ้วนภายในนั้น บรรดาผู้หญิงทั้งหลายรู้สึกตื่นเต้นและเริ่มปรึกษากันว่าเขาเป็นคนดังและ
โต๊ะอาหารถูกคลุมไปด้วยผ้าไหมสีขาวหิมะ ดอกกุหลาบสีขาวหลายช่อถูกจัดวางอยู่บริเวณกลางโต๊ะภู่สีขาวบริสุทธิ์ห้อยอยู่ตรงปลายของผ้าปูโต๊ะ แสดงให้เห็นถึงความหรูหราแต่เรียบง่ายภายใต้แสงสว่างของโคมระย้าอันงดงาม ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ กลิ่นหอมของกุหลาบที่ฟุ้งกระจายบนอากาศทำให้จิตใจสงบหลังจากที่สั่งอาหารเรียบร้อย ทั้งคู่ก็ถอดเสื้อคลุมของตนออกและแขวนไว้หลังเก้าอี้ เหลือไว้แต่เสื้อของตัวเองทั้งคู่แต่งตัวในโทนสีขาว ให้ความรู้สึกราวกับคู่รักในตอนนี้“นายจำสิ่งที่ฉันสอนเมื่อวานนี้ได้รึยัง? หรือว่าลืมไปแล้ว?” ไซล่าเริ่มบทสนทนา“จำได้” เขาตอบกลับเบา ๆ กำลังเล่นกับไฟแช็กที่มีกระจกสีดำทั้งหมดด้วยมือเดียวนิ้วของเขาคล่องแคล่วมาก ไม่ว่าเขาจะเล่นมันอย่างไร ไฟแช็กก็ไม่เคยหล่นเนื่องจากเขามีนิ้วที่เรียวยาวและมีเสน่ห์เป็นพิเศษ การเล่นกับไฟแช็กของเขาจึงดึงดูดความสนใจมากขึ้น มันดูเหมือนเป็นไฟแช็กธรรมดา แต่ดูเหมือนจะแพงกว่าราคาของมันเองเมื่อกลายเป็นของเล่นในมือเขาช่วงเวลาครู่หนึ่ง ไซล่าตกตะลึงขณะที่มองดูเขามองเธออย่างสงบก่อนที่จะดีดนิ้วใส่เธอ “กำลังคิดอะไรอยู่?”จากนั้นไซล่าก็ได้สติ เธอมองใบหน้าที่มี
‘อ้าว งั้นก็อย่ามานะ อยู่ดี ๆ แม่ก็หายเบื่อล่ะ และก็ไม่ต้องให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ด้วยนะ’หลังจากนั้น อีกฝ่ายก็ส่งอิโมจิของผู้หญิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งมา…เวลาสามทุ่มไซล่าเดินนำสแตนลีย์เข้าไปในศูนย์การค้าของเมืองแอตแลนติส โกลด์ฟิลด์ พลาซ่าตรงเวลาแม้ในช่วงโมงนี้ ห้างก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คน สิ่งนี้ทำให้ดูมีชีวิตชีวาอย่างมากกระนั้น ไม่ว่าฝูงชนจะกลุ่มใหญ่สักแค่ไหน พวกเขาทั้งสองก็ยังเป็นตัวตนที่น่าทึ่งที่สุดท่ามกลางคนอื่น ๆ ทั้งสองดึงดูดสายตาทุกคู่ราวกับเพชรสองเม็ดงามที่เป็นประกายระยิบระยับเมื่อทั้งสองมาถึงทางเข้า ชายวัยกลางคนที่สวมสูทและมีป้ายชื่อที่อ่านว่า ‘ผู้จัดการทั่วไป’ รีบเข้ามาหาพวกเขาบนมุมซ้ายของคำว่า ‘ผู้จัดการทั่วไป’ คือโลโก้ของโกลด์ฟิลด์ พลาซ่าเมื่อชายคนนั้นเห็นสแตนลีย์ เขากำลังจะโค้งคำนับทักทายกลับกัน สแตนลีย์ส่ายหน้าของเขาเบา ๆ ชายคนนั้นก็เข้าใจและหยุดในทันที เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ และจากนั้นก็เดินผ่านสแตนลีย์ไปไซล่าไม่ทันสังเกต สายตาของเธอมุ่งไปยังแบรนด์เครื่องสำอางที่หลากหลายและแบรนด์อัญมณีที่อยู่ชั้นแรกทันทีที่เดินเข้ามาในตัวพลาซ่าทว่า พวกเขาทั้งสองมาท
ต่อมา สแตนลีย์ได้ลองเสื้อผ้าอีกสองเซต แต่ละเซตทำให้เขาดูเหมือนกับนายแบบในโปสเตอร์พนักงานขายชมชายหนุ่มไม่ขาดปาก ณ ขณะเดียวกัน ลูกค้าชายต่างเลือกซื้อแบบเดียวกับที่สแตนลีย์กำลังลองอยู่ทุกชุดทันใดนั้น ทุกอย่างก็ดำเนินมาถึงชุดสุดท้ายสแตนลีย์เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วและออกมาจากห้องลองชุดเซตสุดท้ายเป็นสูทสีน้ำเงินเข้มคู่กับเสื้อเชิ้ตด้านในสีขาวและกางเกงรัดรูปที่แอบโชว์ข้อเท้าเล็กน้อยรูปทรงที่พอดีตัวแสดงให้เห็นสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบพร้อมกับขาที่เรียวยาวของเขา“เซตนี้ก็ดีนิ!” ไซล่าอึ้งเซตนี้อาจจะเป็นเซตที่ดีที่สุดที่เขาได้ลองก็เป็นได้“แล้วเซตนี้? เธอชอบไหม?” เขาเดินเข้ามาและเอ่ยถามกับเธอ“เซตนี้...อันที่จริงฉันชอบชุดอื่นด้วยเหมือนกันน่ะ” ไซล่าเลือกไม่ถูก หลังจากที่ครุ่นคิดชั่วครู่ เธอกวักมือเรียกพนักงานขาย “เอาทุกชุดค่ะ”หลังจากนั้น เธอก็หันไปหาเขาและพูดว่า “ใส่ชุดนี้ในวันงานแต่งงานนะ อีกสามชุดนายก็ใส่วันธรรมดาก็ได้ ไปเปลี่ยนชุดเถอะ”เขาไม่พูดอะไรนอกจากกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุดผ้าอย่างเงียบ ๆ เมื่อผู้จัดการห้างเดินผ่านหน้าร้านและได้เห็นฉากนี้ เขาก็งุนงงเป็นอย่างยิ่งหลังจากที
“ฉันสงสัยเรื่องคนที่ทำแบบนั้นโดยไม่ทิ้งชื่อของเขาไว้เหมือนกัน เพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือจากผู้จัดการทั่วไปเป็นการส่วนตัว เขาต้องเป็นบุคคลสำคัญแน่!” “ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร ฉันล่ะอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจัง”…ขณะเดียวกัน ในห้องนั่งเล่นของตระกูลซัลลิแวน“ที่รักคะ ทอมด้วย เอมิลี่ยังตั้งท้องหลานของพวกเราอยู่นะ เราจะเมินเฉยกับเธอจริง ๆ เหรอ? ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีกับเด็กน้อยขึ้นมาล่ะ?”ขณะที่พูดเช่นนี้ เบลีย์หันไปมองทอมที่นั่งข้างเธอและโทนี่ที่นั่งบนโซฟาเดี่ยวอย่างกังวล“ผมถามให้เรียบร้อยแล้วครับ เธออยู่ที่นั่นก็สบายดี และเธอจะได้รับการปล่อยตัวออกมาก่อนวันงานแต่งงาน ไม่ใช่เหรอ? มันก็แค่อีกไม่กี่วันเอง เพราะงั้น ไม่จำเป็นต้องสนเรื่องเธอเป็นพิเศษหรอกครับ เธอได้เรียนรู้บทเรียนแบบนี้บ้างก็ดีเหมือนกัน”“และแม่ไม่เห็นในสิ่งที่เธอทำลงไปเหรอครับ? เพื่อที่จะให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำให้ธุรกิจของตระกูลเธอตกอยู่ในอันตราย แล้วอนาคตล่ะครับ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอทำให้ตระกูลของเราตกอยู่ในอันตรายบ้างล่ะครับ?” ทอมหงุดหงิด“ทอมพูดถูก ให้เธอได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานบ้างมันก็ดี ไม่อย่างนั้น เธอคงจะทำในสิ
เอมิลี่อึ้ง “หมายความว่าไง? ก็คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าวันนี้เป็นวันที่พวกฉันจะได้รับการปล่อยตัวออกไป?”“ไม่ใช่วันนี้ มีบางอย่างผิดปกติกับอินเทอร์เน็ตของเรา เพราะงั้นเราจึงไม่สามารถแจ้งกระบวนการปล่อยตัวได้ ต้องเป็นวันพรุ่งนี้แล้วแหละ อย่างน้อยก็ตอนสิบเอ็ดโมงน่ะ” เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์กล่าวคำพูดของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เป็นเหมือนกับน้ำเย็นที่สาดบนตัวของเอมิลี่ มันดับความคาดหวังที่น่าอัศจรรย์ของพวกเธอทั้งหมดพรุ่งนี้คือวันแต่งงานของเธอ ถ้าทำได้แค่การดำเนินการปล่อยตัวเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ เรื่องงานแต่งงานของเธอล่ะ?มันจะต้องถูกเลื่อนไปใช่ไหม? ตระกูลซัลลิแวนคาดหวังว่าเธอจะถูกปล่อยตัวในวันนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เปลี่ยนวันแต่งงาน คำเชิญถูกส่งไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเลื่อนกระนั้น ถ้างานแต่งงานตอนเที่ยงไม่สามารถเลื่อนออกไปได้ล่ะ คงจะไม่มีเวลาพอที่จะทำอะไรถ้าเธอออกจากเรือนจำตอนสิบเอ็ดโมงคงจะไม่มีเวลาให้แต่งหน้าดี ๆ ไม่มีเวลาทำผมดี ๆ เธอจะต้องรีบไปที่สถานที่จัดงานโดยไม่ทำอะไรมากเลยมันสมควรที่จะเป็นเช่นนี้แล้วเหรอ?“นี่ ฉันเป็นเจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานในวันพรุ่งนี้ตอนเท
อืดด อืดด อืดดโทรศัพท์ของไซล่า เควสสั่น ไซล่าเหลือบมองที่หน้าจออย่างไม่ตั้งใจโดยเห็นว่าไฟฟ์ แบตตันได้ส่งข้อความทางวีแชตหาเธอเธอเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาทัน“ฉันอาจจะไม่สามารถไปถึงได้ตรงเวลา ฉันจะไปสายหนึ่งชั่วโมง”คงจะไม่มีปัญหาถ้าเขาสายไปแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น พิธีคงจะจบในตอนนั้นและเขาจะมาทันเวลามื้อเที่ยงตราบใดที่เขาปรากฏตัว มันจะไม่มีปัญหา มีเพียงเอมิลี่ตัวปัญหาเท่านั้นที่พยายามสร้างเรื่องสร้างราวขึ้นมาแน่นอน แต่ไม่ต้องห่วง ไซล่าสามารถจัดการได้“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ไซล่าตอบกลับ ในความคิดของเธอ เขาเป็นคนตรงต่อเวลา ดังนั้น คงจะเกิดบางอย่างที่หนักหนาเป็นแน่“เรื่องด่วนน่ะ”“งั้นก็ได้” ไซล่าตอบกลับก่อนที่จะวางโทรศัพท์ลงและเข้าไปในห้องน้ำเขาไม่บอกเธอว่าเรื่องด่วนคืออะไรและเธอก็มีสำนึกพอที่จะไม่เอ่ยถามหลังจากอาบน้ำเสร็จ ไซล่าก็สังเกตเห็นว่ายังพอมีเวลา ดังนั้นเธอจึงนอนลงบนเตียงพร้อมกับมาสก์หน้าก่อนที่จะนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้งและแต่งหน้าสายตาของเธอเหลือบไปมองที่นาฬิกาข้างกายเธออย่างไม่ตั้งใจ ตอนนี้เป็นเวลา 11.20 เธอทำปากเป็นรอยยิ้มอันน่ารักตอนนี้ ที่นั่นคงจะวุ่นวายน่าดู…ณ ท
“อย่ากังวลไปค่ะ ดิฉันมีความคิดดี ๆ อยู่!” สไตล์ลิสคนหนึ่งรีบหยิบเข็มกลัดจำนวนหนึ่งออกมาจากล่องเครื่องมือแต่งหน้าและติดไว้ด้านหลังของบริเวณเอวของชุดแต่งงานของเอมิลี่ชุดก็พอดีในทันทีหลังจากนั้น เธอหยิบผ้าคลุมหน้าบนโต๊ะแต่งหน้าและพาดไว้เหนือหัวของเอมิลี่อย่างรวดเร็วผ้าคลุมหน้าปรกหน้าเธอในขณะที่ชายผ้าด้านหลังทั้งหมดตกลงบนพื้นเข็มกลัดเป็นสีขาว และเนื่องจากมีผ้าคลุมเอาไว้ มันจึงไม่เห็นได้อย่างชัดเจนเอมิลี่จ้องมองภาพสะท้อนของเธอในกระจกด้วยความประหลาดใจ “ดูดีขึ้นมากในตอนนี้”จากนั้น เธอก็หันหลังกลับและมองไปที่หลังของเธอ “ใช่...มองเห็นเข็มหมุดไม่ชัดเหมือนกัน”อย่างไรก็ตาม เมื่อจ้องมองไปที่ใบหน้าที่หมองคล้ำของเธอ รอยยิ้มของเอมิลี่ก็หยุดนิ่งอีกครั้ง“ขอบใจ เธอชื่ออะไร?” เอมิลี่เหลือบมองไปที่สไตล์ลิสอย่างเยือกเย็นขณะที่ถาม“แฟนนี่ มิทเชลค่ะ” หญิงสาวคนนั้นยิ้มขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ ทันใดนั้น ใบหน้าที่เต็มด้วยการแต่งหน้าอย่างหนาเป็นพิเศษก็ปรากฏขึ้นในกระจก เธอมองหน้าของเอมิลี่ในกระจกจากนั้นก็กลับมามองของตัวเอง แฟนนี่รู้สึกว่าโลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเห็นได้ชัดว่าหน้าตาของเธอก็ไม