“อย่ากังวลไปค่ะ ดิฉันมีความคิดดี ๆ อยู่!” สไตล์ลิสคนหนึ่งรีบหยิบเข็มกลัดจำนวนหนึ่งออกมาจากล่องเครื่องมือแต่งหน้าและติดไว้ด้านหลังของบริเวณเอวของชุดแต่งงานของเอมิลี่ชุดก็พอดีในทันทีหลังจากนั้น เธอหยิบผ้าคลุมหน้าบนโต๊ะแต่งหน้าและพาดไว้เหนือหัวของเอมิลี่อย่างรวดเร็วผ้าคลุมหน้าปรกหน้าเธอในขณะที่ชายผ้าด้านหลังทั้งหมดตกลงบนพื้นเข็มกลัดเป็นสีขาว และเนื่องจากมีผ้าคลุมเอาไว้ มันจึงไม่เห็นได้อย่างชัดเจนเอมิลี่จ้องมองภาพสะท้อนของเธอในกระจกด้วยความประหลาดใจ “ดูดีขึ้นมากในตอนนี้”จากนั้น เธอก็หันหลังกลับและมองไปที่หลังของเธอ “ใช่...มองเห็นเข็มหมุดไม่ชัดเหมือนกัน”อย่างไรก็ตาม เมื่อจ้องมองไปที่ใบหน้าที่หมองคล้ำของเธอ รอยยิ้มของเอมิลี่ก็หยุดนิ่งอีกครั้ง“ขอบใจ เธอชื่ออะไร?” เอมิลี่เหลือบมองไปที่สไตล์ลิสอย่างเยือกเย็นขณะที่ถาม“แฟนนี่ มิทเชลค่ะ” หญิงสาวคนนั้นยิ้มขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ ทันใดนั้น ใบหน้าที่เต็มด้วยการแต่งหน้าอย่างหนาเป็นพิเศษก็ปรากฏขึ้นในกระจก เธอมองหน้าของเอมิลี่ในกระจกจากนั้นก็กลับมามองของตัวเอง แฟนนี่รู้สึกว่าโลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเห็นได้ชัดว่าหน้าตาของเธอก็ไม
ในขณะเดียวกัน ณ โรงแรมระดับห้าดาววิคตอเรีย ทั่วทั้งสถานที่ถูกตกแต่งไปด้วยแบนเนอร์สีแดงที่คำว่า ‘ความสุข’ โคมไฟเล็ก ๆ สีแดงแขวนอยู่บนต้นไม้และสถานที่นั้นเต็มไปด้วยความเริงร่าพื้นที่จอดรถทั้งหมดเต็มไปด้วยรถหรูและเฮลิคอปเตอร์ มันเหมือนกับงานนิทรรศการของยานพาหนะเหล่านี้เนื่องด้วยตระกูลซัลลิแวนได้จองไว้ทั้งโรงแรม ด้านนอกจึงเต็มไปด้วยพนักงานรักษาความปลอดภัย และพวกเขาจะไม่ปล่อยให้แมลงวันแม้แต่ตัวเดียวบินเข้าไปได้ภายในห้องสกายบอลรูมที่ใหญ่และโอ่อ่าที่สุดของชั้นบนสุด ทางเดินของงานแต่งงานถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ทางเดินทำมาจากกระจกเทมเปอร์ที่มีกุหลาบสีขาวถูกหุ้มอยู่ภายในแก้วมีโคมไฟดอกกุหลาบสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนสูงประมาณหนึ่งเมตร และมีเมฆสายไหมสีขาวอยู่ทั้งสองฝั่งของทางเดินใต้ก้อนเมฆ มีหลอดไฟติดอยู่ เมื่อหลอดไฟสว่างขึ้น เวทีทั้งหมดดูเหมือนกับก้อนเมฆขนาดใหญ่ที่แสนโรแมนติกโคมระย้าคริสตัลขนาดใหญ่จำนวนมากห้อยลงมาจากเพดาน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับพื้นที่ทั้งหมดราวกับว่าสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้งหมดมารวมกันอยู่ที่นี่มีโต๊ะทั้งหมดแปดร้อยโต๊ะทั้งสองฝั่งของทางเดิน ขณะที่ใกล้จะถึงเวลาแล้ว แขกทุกคนก
ข้อความเพิ่งจะถูกส่งไป เวลาเดียวกัน ประตูห้องบอลรูมผลักเปิดออกโดยบริกรชายสวมสูทสองคนตามหลังบริกรนั้น จะเห็นได้ว่าไซล่ากำลังยกชุดเดรสขณะที่เดินเข้ามาอย่างเฉิดฉายผมยาวหยักศกประลงบนไหล่อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการแต่งหน้าเพียงเบา ๆ และริมฝีปากสีชมพู เธองดงามเกินจะหาที่เปรียบได้ชุดเดรสผ้าชีฟองสีชมพูอ่อนได้เน้นผิวสวยที่เป็นประกายของเธอ กระดูกไหปลาร้ามีประกายไฮไลต์ที่แวววับทาเอาไว้ และทำให้หน้าตาของเธอที่มีเสน่ห์อยู่แล้วดูเย้ายวนใจมากยิ่งขึ้นควบคู่กับสร้อยคอเพชรทรงหยดน้ำตาที่ราคาหกหลัก เธอดูสง่างามเกินกว่าจะเข้าใกล้ สูงส่งเกินกว่าที่จะอาจเอื้อมได้ ราวกับว่าเมื่อสามัญชนมองเธออีกครั้งจะเรียกได้ว่าเป็นการดูหมิ่นเธอก็มิปานเธอไม่ได้ทำอะไรเลย แต่การปรากฏตัวของเธอกลับดึงดูดสายตาของทุกคนในห้องได้อย่างง่ายดายทันใดนั้น ความสุกสกาวของเธอกลับทำให้สายตาทุกคู่มืดบอดไปบรรดาชายหนุ่มที่จ้องมองไปยังโต๊ะของแมรี่ในตอนนี้ต่างหันไปจับจ้องไซล่าตาไม่กะพริบเหตุการณ์นี้ทำให้แมรี่และคนอื่น ๆ คับแค้นใจอยู่ข้างในเป็นอย่างมาก!ไซล่ามองไปรอบกายอย่างใจเย็นก่อนที่จะเดินนวยนาดต่อไปด้านหน้าพร้อมกับจับชายกระโปรงเ
แน่นอน ไซล่าบอกได้ว่าภายใต้เปลือกนอกของเธอ ความคิดของผู้หญิงคนนั้นสกปรกมากแค่ไหนในตอนนั้น เธอเป็นคนโง่อย่างเต็มตัวที่บริจาคไตให้กับคนเช่นนี้ทันใดนั้น เนลสัน โคล พิธีกรโทรทัศน์ชื่อดังก็ขึ้นไปบนทางเดินและกล่าวเปิดงานอย่างอลังการหลังจากนั้น ฉับพลัน เพลงมาร์ชงานแต่งงานก็ถูกบรรเลงเนลสันรีบถอยหลัง และปล่อยให้กลางเวทีว่างเปล่าจากสายตาของเธอทุกคน ทอม ซัลลิแวนเดินออกมาจากหลังเวทีพร้อมกับชุดทักซิโด้สีขาววินาทีต่อมา เอมิลี่ก็เดินขึ้นเวทีพร้อมกับเจเรมี่ในชุดสูท ทั้งสองควงเดินควงแขนกันไป ทันใดนั้นเอง แสงไฟดวงอื่น ๆ ก็ดับลง เหลือเพียงทางเดินที่สว่างไสวราวกับจินตนาการอันวิจิตรตระการตาหน้าจอแอลอีดีที่อยู่ในมุมต่าง ๆ มากมายแสดงให้เห็นสายตาทุกคู่และท่าทางของคู่บ่าวสาวในขณะที่ไฟยังคงสลัว เมย์ก้มหน้าและรีบวิ่งเข้าไปนั่งข้างไซล่าหลังจากจิกตาใส่ไซล่า เธอก็หันไปมองเอมิลี่อย่างปีติยินดีในตอนนี้ เอมิลี่คือศูนย์กลางของความสนใจเหมือนกับเธอเป็นไข่มุกที่ส่องสว่างที่สุดเนื่องจากการแต่งงานครั้งนี้เพิ่มความสนใจขึ้นเป็นอย่างมาก เอมิลี่รู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยในขณะที่เธอย่างก้าวไปด้านหน้ารอยยิ้
ความเคียดแค้นที่เธอมีต่อไซล่ามาถึงจุดแตกหักอีกครั้งอย่างไรก็ตาม เธอยังคงแสร้งทำเป็นไม่สนใจในขณะที่มองไปที่พิธีกรอย่างกระตือรือร้นแม้ว่าเธอถูกเฉือนเปิดปากแผลและเลือดไหล เธอต้องคงความนิ่งเอาไว้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสเช่นนี้ที่คนมากมายอาจจะรอเธอเพลี่ยงพล้ำ เอมิลี่ เควสจะแพ้ไม่ได้!ต่อมา พิธีกรกล่าวด้วยถ้อยคำยินดีเพิ่มอีกเล็กน้อยหลังจากนั้น คู่บ่าวสาวก็แลกแหวนกันพิธีจึงเป็นอันเสร็จสิ้นมันถึงเวลาสำหรับการจูบฝนสีเงินที่งดงามร่วงลงบนทางเดินกว้าง มันมีเสน่ห์อย่างน่าทึ่งและโรแมนติกอย่างงดงามสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่สิ่งนี้ทอมจูบเอมิลี่เพื่อเป็นมารยาทเท่านั้น ในตอนที่เอมิลี่กำลังจะจูบเข้าไปอีก เขาก็ปล่อยเธอไปเอมิลี่ที่ยังจูบไม่เสร็จรู้สึกไม่พอใจในตอนที่เธอถูกคุมขัง ใครจะรู้ว่าเธอต้องข่มความรู้สึกแย่กับตัวเองมากแค่ไหน เธอเสพติดกับเรื่องแบบนี้อยู่เสมอ และเธอต้องการมันในทุก ๆ วันในตอนนี้ เธอกำลังพยายามตอบรับความสบายใจเพียงเล็กน้อยจากทอม ชายคนนั้นก็ไม่ให้ความร่วมมือเลย!นับตั้งแต่ที่ไซล่ากลับมา ทอมก็ไม่เต็มใจที่จะสัมผัสเธออีกต่อไปบางครั้ง เขาจะทำกับเธอเหมือนเธอเป็นอสูรร้
แขกด้านล่างเวทีเริ่มคุยกันด้วยน้ำเสียงเงียบ ๆ มีการแสดงความคิดเห็นค่อนข้างมาก ดังนั้น คนที่อยู่บนเวทีเหล่านั้นก็ได้ยินอย่างชัดเจนสาว ๆ กลุ่มนั้นพร้อมกับการนำของเอมิลี่ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดขณะที่ความอิจฉาของพวกเธอมาถึงขีดสุดทอมรู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน เสียใจงั้นเหรอ? เขาจะไม่เสียใจได้อย่างไร? ประโยคนั้นได้เผยความภายในของเขาอย่างโจ่งแจ้งอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็ไม่แยแสอยู่ตลอดเวลา เหมือนว่าเธอไม่เคยมีส่วนร่วมใด ๆ กับเรื่องนี้เธอเคยชินกับการได้รับคำถามจากสาธารณชนแล้วหลังจากการถ่ายรูปหมู่ ทุกคนก็เริ่มทยอยลงจากเวทีไซล่ายกชุดเดรสของเธออย่างระมัดระวังและก้มหัวตามทุกคนลงไปจากเวทีเอมิลี่ยกชุดเดรสของเธอในทันที มีแผนที่จะไล่ตามไซล่าเมื่อเห็นเช่นนี้ ทอมจึงรีบคว้าข้อมือของเธอ ลากเธอไปในห้องแต่งตัวและปิดประตูเขาดันเธอติดประตูโดยง่าย“พี่กำลังทำอะไร?” เอมิลี่ดูฉุนเฉียว“มีสายตาหลายคู่กำลังดูอยู่ในวันนี้ อย่าทำให้ฉันขายหน้า! ไม่งั้น ฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่! รีบเปลี่ยนชุดซะ! ไปดื่มเฉลิมฉลองข้างนอก!” ทอมตอบอย่างเย็นชา เขาไม่แสดงความสง่างามเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปไม่มีความอบอุ่นในสายตาของเขาเ
หลังจากนั้น ทั้งกลุ่มก็ยืนขึ้นพร้อมกันและฉลองให้กับคู่บ่าวสาว เอมิลี่ยกแก้วขึ้นชนกับเจเรมี่เป็นครั้งแรกแต่ก่อนที่แก้วของเธอจะได้สัมผัสกับของเขา เจเรมี่ก็ดึงแก้วกลับในทันทีและดื่มไวน์จนหมดด้วยท่าทีที่มืดมนหลังจากนั้น ทุกคนก็เงยหน้าขึ้นและดื่มไวน์จนหมดเอมิลี่ไม่แปลกใจกับการตอบสนองของพ่อของเธอ มันก็ดีพอแล้วที่เขาเต็มใจที่จะร่วมมือและเข้าร่วมงานแต่งงานในวันนี้เพื่อที่จะรักษาภาพลักษณ์ของตระกูลเควสและตระกูลซัลลิแวนเอาไว้ดังนั้น เธอจึงไม่คาดหวังให้เขาญาติดีกับเธออยู่แล้วเธอรู้ดีอยู่เต็มอกว่าเธอและแม่ของเธอยังคงมีศึกใหญ่ที่จะต่อสู้หลังจากนี้เอมิลี่ว่าแก้วลงไม่ไม่ตั้งใจที่จะออกไปในทันที เธอหันไปหาไซล่าและถามว่า “พี่คะ พี่เขยอยู่ที่ไหนเหรอคะ? พี่บอกว่าเขาจะเข้าร่วมงานแต่งงานกับพี่ไม่ใช่เหรอ?”“ไซล่า พ่อก็อยากจะถามลูกเหมือนกัน ทำไมสามีของลูกถึงไม่มาที่นี่?” เจเรมี่ถาม แม้ว่าเขาดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ ที่จริงแล้ว เขาหงุดหงิดที่ชายคนนั้นไม่ปรากฏตัวเขารู้สึกว่าชายคนนั้นไม่เหมาะสม! ที่เขาไม่แสดงมารยาทใด ๆ เลย!“ในฐานะพี่เขยของฉัน มันจะไม่เหมาะสมไปหน่อยเหรอที่เขาจะไม่เข้าร่วมงานแต่งงานของฉั
ทันใดนั้น ทุกคนก็ตัดสินว่าสามีของไซล่า เควสเป็นผู้ชายหน้าตาอัปลักษณ์“น่าอนาถจริง ๆ เลยนะ อย่างกับดอกฟ้ากับหมาวัดเลยแหละ”“ฉันเคยคิดมาตลอดว่าคนอย่างไซล่า เควสคงจะแต่งงานกับชายชนชั้นสูง มั่งคั่งและหล่อเหลาแน่ ๆ เลย”“จุ๊ จุ๊ จุ๊ ฉันได้ยินมาว่าสามีของเธอน่าเกลียดมากจนไม่กล้าโผล่มาเลยน่ะสิ ได้ยินมาอีกว่าเป็นพวกรากหญ้าด้วยซ้ำไปนะเธอ! จุ๊ จุ๊ จุ๊… หัวเธอไม่ได้ไปกระแทกกับอะไรมานะ ไซล่า? ทำไมถึงได้เอาตัวเองลงไปเกลือกกลั้วกับคนพรรค์นั้นด้วยล่ะ?”“การมีหน้าตาที่ดีกว่าเอมิลี่มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ? สามีเธอเทียบชั้นอะไรกับเอมิลี่ไม่ได้เลย ช่างน่าสมเพชจริง ๆ”ผู้คนมากมายเริ่มชี้นิ้วมายังไซล่าแม้ว่าพวกเขาจะพูดเสียงเบา แต่ไซล่าก็ยังคงได้ยินทุกคำนินทาอย่างชัดเจนทันใดนั้น เธอรู้สึกเหมือนเป็นตัวตลกที่สละชีวิตท่ามกลางสายตาของฝูงชนอย่างไรก็ตาม เธอยังคงไม่สะทกสะท้าน เธอก้มมองเวลาอย่างเงียบ ๆ ราวกับว่าผู้คนที่อยู่รอบ ๆ เธอนั้นไร้ตัวตนแม้จะล่วงเลยไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่เธอก็เชื่อมั่นว่าเขาจะต้องปรากฏตัวแน่นอนเพราะเขามักเป็นคนที่รักษาคำสัญญาเสมอไม่แน่ว่างานของเขายังคงไม่เสร็จเธอไม่ตอบโต้ห
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ