เมย์เดือดดาล เธอหันไปมองนักโทษหญิงหัวล้านคนนั้นที่ตีเธอ “แกกำลังทำอะไร?”“ฉันจะตี แล้วไงล่ะ? แกถูกขังที่นี่ แต่ก็ยังคิดเรื่องการรังแกคนอื่นตอนที่ออกไปได้อีกนะ เห็นได้ชัดว่าแกมันชั่วตัวแม่เลยนิ”เมย์อยากจะตอบกลับไปว่า ‘แกดีกว่ากันนักรึไง?’อย่างไรก็ตาม เธอสามารถอดทนได้ขณะที่เธอหันหน้าไปอย่างเงียบ ๆ และทำงานของเธอต่อ“ฉันเคยได้ยินเรื่องของพวกแกสองคนมาแล้ว คนหนึ่งคือแม่เลี้ยงแสนร้ายกาจของไซล่า เควส อีกคนคือน้องสาวต่างแม่ตัวร้าย”“ข่าวเกี่ยวกับปัญหาของตระกูลของแกมาถึงหูเราด้วยซ้ำ ทุกคนต่างก็พูดว่าพวกแกสองคนคือคนบงการเบื้องหลังข่าวลือเรื่องอิมพีเรียล ไพรม์มีปัญหานั้น”“พวกหมาหมู่ ไม่ใช่แค่พวกแกจะไม่ยอมสำนึกผิดแล้ว แต่แกยังพยายามที่จะทำร้ายคนอื่นด้วยซ้ำ!”นักโทษหัวล้านคนนั้นม้วนแขนเสื้อขึ้นและยืนขึ้นขณะที่พูดพร้อมกับจ้องมองคู่แม่ลูกอย่างเดือดดาลราวกับว่าเธอต้องการจะฆ่าสองแม่ลูกนั่น“ทำไมแกต้องสนใจเรื่องปัญหาของตระกูลของฉันด้วย? แกสนิทกับไซล่า เควสรึไง?” เอมิลี่รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นสมอง เธอเบือนหน้าหนีโดยไม่รู้ตัวและเอ่ยถามอย่างตะกุกตะกัก“ฉันไม่รู้จักหล่อนหรอกนะ แต่ฉันเห็นใบหน้าที่เปรา
เอมิลี่พยักหน้า “หนูคิดว่างั้นนะคะ หนูขยับไม่ได้!”“กลับไปทำงาน! ถึงกระดูกของแกจะหัก ก็ต้องทำงาน!” นักโทษหัวล้านคนนั้นพูดอย่างเย็นชาอีกครั้งเธอรังเกียจคนที่รังแกคนที่อ่อนแอ ครั้งหนึ่ง เธอถูกผู้จัดการโรงงานบังคับจับตัวไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะเธออ่อนแอเพื่อที่จะได้ทำงานต่อ เธอจึงอยู่เงียบ ๆ มาโดยตลอดและเพราะว่าเธอโดนรังแกได้ง่าย ชายคนนั้นเริ่มหนักข้อขึ้นและถึงกับใช้กำลังรุนแรงกับเธอต่อหน้าลูกสาวของเธอเองลูกสาวของเธอตามไปและชกชายคนนั้น แต่เขาผลักเด็กกระเด็นออกไป หัวของเด็กกระแทกเข้ากับกลอนประตู และท้ายที่สุด เธอก็เสียชีวิตคาที่ตรงนั้นเพราะเหตุนี้ เธออดไม่ได้ที่จะฆ่าคนสารเลวนั่นเธอเกลียดพวกคนที่ชอบรังแกคนอื่นที่สุด!“เร็วเข้า!!!” นักโทษหัวล้านคนนั้นคำรามอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งจะทรมานกับความเจ็บปวด เอมิลี่ไม่กล้าสู้กลับ เธอกลับไปที่ที่นั่งของเธออย่างว่าง่าย เธอรู้สึกถึงบางอย่างแทงลึกเข้าไปในแก้มก้นขวาของเธอในตอนที่เพิ่งจะนั่งลงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้เธอหน้าซีดในทันที“อ๊ากก!!” เธอกรีดร้องและเด้งตัวขึ้นในทันที และหันไปมองยังบริเวณที่เธอถูกทิ่มมีเข็มสีเงินแทงลึกอยู่ด้านใ
ในยามเย็น อาทิตย์อัสดงได้ย้อมเมืองแอตแลนติสเป็นสีทองพระอาทิตย์ตกดินและทั้งโลกก็หนาวเย็นขึ้นอีกครั้งตึกของเอ็กซ์เอ็นเตอร์เทนเมนต์กำลังสว่างไสวในยามพระอาทิตย์ตกดินภายในห้องทำงานที่แสนอบอุ่น หลังจากที่ไซล่าทำงานเสร็จในวันนี้ เธอจ้องห้องส่วนตัวที่ร้านอาหารตะวันตก วิธยู อีกครั้งและบอกกับไฟฟ์ แบตตันทางวีแชทต่อมา เธอแต่งหน้าอย่างสบาย ๆ และปล่อยผมลอนผมสีดำขนาดใหญ่ที่นุ่มสลวยคู่กับการแต่งหน้าอย่างเป็นธรรมชาติทำให้เธอดูราวกับเทพธิดาเสื้อสีขาวสะอาดของเธอเข้าคู่กับกางเกงครอปสีฟ้าอ่อนและเสื้อขนสัตว์สีฟ้าอ่อนตอกย้ำถึงความรู้สึกราวกับสานุศิษย์พระเจ้ารองเท้ารัดส้นสีเงินเน้นย้ำเรียวขาและข้อเท้าอันเรียวยาวสวยของเธอ….อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องเก็บไวน์สามชั้นของการ์เด้น แมนชั่น สแตนลีย์ แฮรี่ เซบาสเตียนและแกรี่หันหน้าเข้าไปที่เคาน์เตอร์ไม้โรสวูด แต่ละคนมีแก้วไวน์แดงอยู่ตรงหน้าแสงไฟสลัวภายในห้องเก็บไวน์ได้เน้นย้ำถึงอารมณ์อันเยือกเย็นของสแตนลีย์เฮนรี่ เซบาสเตียน และแกรี่กำลังดื่มอยู่ แต่มีแค่แก้วไวน์ของสแตนลีย์เท่านั้นที่ยังไม่ถูกแตะขณะที่เขาจดจ่ออยู่กับการอ่านข้อความวีแชทที่ไซล่าส่งมาหา
เขาได้เจอผู้หญิงดาวยั่วชอบอ่อยชายหนุ่มที่ขับรถหรูตั้งมากมายรอยยิ้มที่ยั่วยวนบนใบหน้าของสาวสวยคนนั้นแข็งทื่อด้วยความรู้สึกตกตะลึงในออร่าของเขากระนั้น เธอไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ ผู้ชายที่ร่ำรวยและสง่างามเช่นนี้คือความฝันของผู้หญิงทุกคน!ถ้าสามารถคว้าใจของเขาได้ เธอคงจะสบายไปตลอดชีวิต“อย่าทำแบบนั้นสิ สุดหล่อ ช่วยฉันหน่อยนะ” สาวสวยคนนั้นกล่าวอย่างยั่วยวนเขายังคงเฉยชา เขาค่อย ๆ หยิบถุงมือการแพทย์สีขาวออกมาจากที่เก็บของหน้ารถโดยไม่พูดอะไร และเดินลงจากรถอย่างรวดเร็วไปดึงประตูฝั่งผู้โดยสารเปิดออกและลากผู้หญิงคนนั้นออกมาหลังจากนั้น เขาถอดถุงมือและโยนลงถังขยะพร้อมกันกับกระดาษทิชชูต้านเชื้อแบคทีเรียทุกอย่างจบลงอย่างรวดเร็วต่อมา เขาก็หันหลังจากไป สาวงามก็โกรธเคืองพลางกระทืบเท้าต่อไป “เกิดอะไรขึ้นเนี้ย? คนอย่างแฟนนี่ มิทเชลมีพิษงั้นเหรอ? ทำไมถึงต้องสวมถุงมือก่อนจะจับตัวฉันด้วย? ประหลาดคนจริง ๆ!”เมื่อกล่าวเช่นนั้น เธอก็กลอกตาใส่สแตนลีย์เดินเข้าไปในร้านอาหารณ ทางเข้า เขาดึงดูดสายตาของลูกค้าจำนวนนับไม่ถ้วนภายในนั้น บรรดาผู้หญิงทั้งหลายรู้สึกตื่นเต้นและเริ่มปรึกษากันว่าเขาเป็นคนดังและ
โต๊ะอาหารถูกคลุมไปด้วยผ้าไหมสีขาวหิมะ ดอกกุหลาบสีขาวหลายช่อถูกจัดวางอยู่บริเวณกลางโต๊ะภู่สีขาวบริสุทธิ์ห้อยอยู่ตรงปลายของผ้าปูโต๊ะ แสดงให้เห็นถึงความหรูหราแต่เรียบง่ายภายใต้แสงสว่างของโคมระย้าอันงดงาม ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ กลิ่นหอมของกุหลาบที่ฟุ้งกระจายบนอากาศทำให้จิตใจสงบหลังจากที่สั่งอาหารเรียบร้อย ทั้งคู่ก็ถอดเสื้อคลุมของตนออกและแขวนไว้หลังเก้าอี้ เหลือไว้แต่เสื้อของตัวเองทั้งคู่แต่งตัวในโทนสีขาว ให้ความรู้สึกราวกับคู่รักในตอนนี้“นายจำสิ่งที่ฉันสอนเมื่อวานนี้ได้รึยัง? หรือว่าลืมไปแล้ว?” ไซล่าเริ่มบทสนทนา“จำได้” เขาตอบกลับเบา ๆ กำลังเล่นกับไฟแช็กที่มีกระจกสีดำทั้งหมดด้วยมือเดียวนิ้วของเขาคล่องแคล่วมาก ไม่ว่าเขาจะเล่นมันอย่างไร ไฟแช็กก็ไม่เคยหล่นเนื่องจากเขามีนิ้วที่เรียวยาวและมีเสน่ห์เป็นพิเศษ การเล่นกับไฟแช็กของเขาจึงดึงดูดความสนใจมากขึ้น มันดูเหมือนเป็นไฟแช็กธรรมดา แต่ดูเหมือนจะแพงกว่าราคาของมันเองเมื่อกลายเป็นของเล่นในมือเขาช่วงเวลาครู่หนึ่ง ไซล่าตกตะลึงขณะที่มองดูเขามองเธออย่างสงบก่อนที่จะดีดนิ้วใส่เธอ “กำลังคิดอะไรอยู่?”จากนั้นไซล่าก็ได้สติ เธอมองใบหน้าที่มี
‘อ้าว งั้นก็อย่ามานะ อยู่ดี ๆ แม่ก็หายเบื่อล่ะ และก็ไม่ต้องให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ด้วยนะ’หลังจากนั้น อีกฝ่ายก็ส่งอิโมจิของผู้หญิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งมา…เวลาสามทุ่มไซล่าเดินนำสแตนลีย์เข้าไปในศูนย์การค้าของเมืองแอตแลนติส โกลด์ฟิลด์ พลาซ่าตรงเวลาแม้ในช่วงโมงนี้ ห้างก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คน สิ่งนี้ทำให้ดูมีชีวิตชีวาอย่างมากกระนั้น ไม่ว่าฝูงชนจะกลุ่มใหญ่สักแค่ไหน พวกเขาทั้งสองก็ยังเป็นตัวตนที่น่าทึ่งที่สุดท่ามกลางคนอื่น ๆ ทั้งสองดึงดูดสายตาทุกคู่ราวกับเพชรสองเม็ดงามที่เป็นประกายระยิบระยับเมื่อทั้งสองมาถึงทางเข้า ชายวัยกลางคนที่สวมสูทและมีป้ายชื่อที่อ่านว่า ‘ผู้จัดการทั่วไป’ รีบเข้ามาหาพวกเขาบนมุมซ้ายของคำว่า ‘ผู้จัดการทั่วไป’ คือโลโก้ของโกลด์ฟิลด์ พลาซ่าเมื่อชายคนนั้นเห็นสแตนลีย์ เขากำลังจะโค้งคำนับทักทายกลับกัน สแตนลีย์ส่ายหน้าของเขาเบา ๆ ชายคนนั้นก็เข้าใจและหยุดในทันที เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ และจากนั้นก็เดินผ่านสแตนลีย์ไปไซล่าไม่ทันสังเกต สายตาของเธอมุ่งไปยังแบรนด์เครื่องสำอางที่หลากหลายและแบรนด์อัญมณีที่อยู่ชั้นแรกทันทีที่เดินเข้ามาในตัวพลาซ่าทว่า พวกเขาทั้งสองมาท
ต่อมา สแตนลีย์ได้ลองเสื้อผ้าอีกสองเซต แต่ละเซตทำให้เขาดูเหมือนกับนายแบบในโปสเตอร์พนักงานขายชมชายหนุ่มไม่ขาดปาก ณ ขณะเดียวกัน ลูกค้าชายต่างเลือกซื้อแบบเดียวกับที่สแตนลีย์กำลังลองอยู่ทุกชุดทันใดนั้น ทุกอย่างก็ดำเนินมาถึงชุดสุดท้ายสแตนลีย์เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วและออกมาจากห้องลองชุดเซตสุดท้ายเป็นสูทสีน้ำเงินเข้มคู่กับเสื้อเชิ้ตด้านในสีขาวและกางเกงรัดรูปที่แอบโชว์ข้อเท้าเล็กน้อยรูปทรงที่พอดีตัวแสดงให้เห็นสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบพร้อมกับขาที่เรียวยาวของเขา“เซตนี้ก็ดีนิ!” ไซล่าอึ้งเซตนี้อาจจะเป็นเซตที่ดีที่สุดที่เขาได้ลองก็เป็นได้“แล้วเซตนี้? เธอชอบไหม?” เขาเดินเข้ามาและเอ่ยถามกับเธอ“เซตนี้...อันที่จริงฉันชอบชุดอื่นด้วยเหมือนกันน่ะ” ไซล่าเลือกไม่ถูก หลังจากที่ครุ่นคิดชั่วครู่ เธอกวักมือเรียกพนักงานขาย “เอาทุกชุดค่ะ”หลังจากนั้น เธอก็หันไปหาเขาและพูดว่า “ใส่ชุดนี้ในวันงานแต่งงานนะ อีกสามชุดนายก็ใส่วันธรรมดาก็ได้ ไปเปลี่ยนชุดเถอะ”เขาไม่พูดอะไรนอกจากกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุดผ้าอย่างเงียบ ๆ เมื่อผู้จัดการห้างเดินผ่านหน้าร้านและได้เห็นฉากนี้ เขาก็งุนงงเป็นอย่างยิ่งหลังจากที
“ฉันสงสัยเรื่องคนที่ทำแบบนั้นโดยไม่ทิ้งชื่อของเขาไว้เหมือนกัน เพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือจากผู้จัดการทั่วไปเป็นการส่วนตัว เขาต้องเป็นบุคคลสำคัญแน่!” “ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร ฉันล่ะอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจัง”…ขณะเดียวกัน ในห้องนั่งเล่นของตระกูลซัลลิแวน“ที่รักคะ ทอมด้วย เอมิลี่ยังตั้งท้องหลานของพวกเราอยู่นะ เราจะเมินเฉยกับเธอจริง ๆ เหรอ? ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีกับเด็กน้อยขึ้นมาล่ะ?”ขณะที่พูดเช่นนี้ เบลีย์หันไปมองทอมที่นั่งข้างเธอและโทนี่ที่นั่งบนโซฟาเดี่ยวอย่างกังวล“ผมถามให้เรียบร้อยแล้วครับ เธออยู่ที่นั่นก็สบายดี และเธอจะได้รับการปล่อยตัวออกมาก่อนวันงานแต่งงาน ไม่ใช่เหรอ? มันก็แค่อีกไม่กี่วันเอง เพราะงั้น ไม่จำเป็นต้องสนเรื่องเธอเป็นพิเศษหรอกครับ เธอได้เรียนรู้บทเรียนแบบนี้บ้างก็ดีเหมือนกัน”“และแม่ไม่เห็นในสิ่งที่เธอทำลงไปเหรอครับ? เพื่อที่จะให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำให้ธุรกิจของตระกูลเธอตกอยู่ในอันตราย แล้วอนาคตล่ะครับ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอทำให้ตระกูลของเราตกอยู่ในอันตรายบ้างล่ะครับ?” ทอมหงุดหงิด“ทอมพูดถูก ให้เธอได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานบ้างมันก็ดี ไม่อย่างนั้น เธอคงจะทำในสิ