Share

บทที่ 812

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
แคว้นตงซาน……

เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันคิดขึ้นมาได้ ก่อนวันอภิเษก ระหว่างทางนางได้รับบัวกลีบเปลวเพลิงหนึ่งดอก อาจารย์หญิงเคยพูดว่า บัวกลีบเปลวเพลิงนั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่แคว้นตงซาน

คนที่นำบัวกลีบเปลวเพลิงมาให้ จนถึงตอนนี้นางก็ไม่มีข้อมูล

ตอนนี้เบาะแสมนุษย์โอสถนี้ก็ชี้ไปยังแคว้นตงซาน เห็นที เบาะแสทางด้านแคว้นตงซานก็จำเป็นต้องสืบ

ขบวนเสด็จมายังตำหนักหย่งเหอ

เซียวอวี้เข้ามาข้างในตำหนักอย่างชำนาญทาง เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นมาทำความเคารพ

เขาขมวดคิ้วเข็ม

“เราเคยบอกแล้ว ตอนที่ไม่มีคนอื่น ไม่ต้องมากพิธี”

“เพคะ”

เซียวอวี้มองเห็นแผนที่บนโต๊ะ “เจ้ากำลังทำอะไร?”

เขาพลางพูดพลางหยิบแผ่นที่ขึ้นมา เห็นข้างบนนั้นขีดเส้นทางมาหลายเส้น สุดท้ายมุ่งไปยัง แคว้นตงซาน

“นี่คือ?”

แววตา เฟิ่งจิ่วเหยียนสงบ

“เส้นทางการค้า”

เซียวอวี้ขมวดคิ้วขึ้นมา ครุ่นคิดพลางพูด

“แคว้นตงซานมั่งคั่งร่ำรวย ปกครองให้ฝ่ายพลเรือนอยู่เหนือการควบคุมฝ่ายทหาร หนึ่งร้อยปีมานี้ เข้าร่วมการศึกเพียงไม่กี่ครั้ง ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับแคว้นอื่น นับจากอดีตฮ่องเต้ ทั้งสองแคว้นต่างไม่มีทูตไปมาหาสู่กัน”

“ดังนั้น เส้นทางการค้าระหว่างทั้งสองแคว้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 813

    วันรุ่งขึ้น เฟิ่งจิ่วเหยียนพาพวกองครักษ์ไปยังวิหารเต๋า ลงไปในช่องทางลับช่องทางลับแห่งนี้ เซียวอวี้ได้ส่งคนไปตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วก่อนหน้านี้ และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใดเฟิ่งจิ่วเหยียนชูตะบันไฟ เดินอยู่ในทางแคบที่ยาวนั้นกลไกที่นี่ถูกจัดตั้งอย่างชาญฉลาด คาดว่าช่องทางไปยังที่ต่าง ๆ ล้วนถูกซ่อนไว้แล้วในขณะที่นางกำลังจะคลำหา ทันใดนั้น องครักษ์หลายคนที่เดินอยู่ข้างหน้าตะโกนขึ้นมา“มีดินปืน คุ้มกันฮองเฮาออกไป!”ตูม! !มีเสียงดังในช่วงหนึ่งของอุโมงค์ใต้ดิน พังทลายทันทีก้อนหินหล่นกระจัดกระจาย ขวางทางไปของทุกคนเฟิ่งจิ่วเหยียนมองขึ้นมาท่ามกลางฝุ่น ดวงตาเยือกเย็นนางรักชีวิตของตนเองหากยังสืบไม่รู้ความจริงก็ตายแล้ว นางจะนอนตายตาไม่หลับยามนี้ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อย จึงออกคำสั่ง“ถอย”ในเวลานี้ วิหารเต๋าไม่ไกลออกไปร่มเงาใต้ต้นไม้ มีสองคนยืนอยู่คนที่อยู่ข้างหน้าคนนั้น ต่างจากยามที่อยู่สถาบันทางการทหาร สวมแหวนน้าวที่นิ้วโป้ง ใบหน้าสง่าเยือกเย็นเมื่อเห็นพวกเฟิ่งจิ่วเหยียนถอยออกมาจากวิหารเต๋า มุมปากของเขากระตุกขึ้นเล็กน้อย“ไปเถอะ”ลูกน้องที่อยู่ข้างหลั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 814

    ถึงแม้จะเป็นงานเลี้ยงบทกวี บุรุษทั้งหลายเพื่อแสดงออกถึงความสามารถของตนเอง จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้ดาบใช้ปืนหนิงเฟยมองดูพวกเขา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหลงไหลนางอายุขนาดนี้แล้วยังไม่เคยมีประสบการณ์อะไร ค่ำคืนอันยาวนาน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกเปล่าเปลี่ยวก็ไม่แปลก ที่มีสนมในวังหลังเหล่านั้นมักแอบเป็นชู้กับองครักษ์หลังจากนางเข้าวัง ก็ไม่ได้เจอบุรุษปกติมานานมากแล้วหลังจากการแสดงฝีมือจบลง หนิงเฟยมีคำสั่ง ให้พวกเขาจับคู่เพลิดเพลินชมดอกไม้ตามอัธยาศัยความหมายนั้นไม่สามารถชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้วหากมีคนที่ถูกใจ ก็สามารถไปชักชวนได้งานเลี้ยงบทกวีในวังนี้ จัดขึ้นมาอย่างครึกครื้น องค์หญิงใหญ่เข้าวังมาเยี่ยมไทเฮา ได้ยินเสียงหัวเราะทางนั้น ก็หยุดเท้ามองใต้ต้นไม้ไม่ไกลออกไป มีชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่พอดีคำพูดและการกระทำของหญิงสาวแลดูอ่อนโยน ยื่นผ้าเช็ดหน้าไปให้ ใบหน้าแดงระเรื่อ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่ม“คุณชายหลิว ท่านสามารถเข้าสถาบันทางการทหาร มีความสามารถที่โดดเด่น ข้า...ข้าคาดหวังให้อนาคตท่านจะได้เป็นแม่ทัพ”ชายหนุ่มรับผ้าเช็ดหน้ามา พร้อมขอบคุณหญิงสาวเห็นเช่นนี้แล้ว ใบห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 815

    ในเมื่อรู้จุดประสงค์ขององค์หญิงใหญ่ เฟิ่งจิ่วเหยียนปฏิเสธทันที“องค์หญิง ยังไม่พูดถึงว่าเรื่องที่ท่านเห็นในวันนี้ เป็นความจริงหรือไม่“ต่อให้เป็นความจริง ข้าก็คิดว่า การกระทำของหลิวเหยี่ยน ไม่มีอะไรต้องตำหนิ“หากไม่มีเล่ห์เหลี่ยม จะนำทัพทำศึกได้อย่างไร?“ไม่มีทักษะหน้าไหว้หลังหลอก จะหลอกลวงศัตรูได้อย่างไร?“ข้าไม่มีทางปฏิเสธความสามารถของหลิวเหยี่ยน ด้วยเหตุผลนี้”องค์หญิงใหญ่ค่อนข้างผิดหวังนางก็โกรธยังไม่สามารถต้านทานได้“ฮองเฮา เจ้าเชื่อข้า หลิวเหยี่ยนคนนั้นจิตใจไม่ดี”“ถึงแม้ข้านำหลักฐานอะไรออกมาไม่ได้ แต่ด้วยความรู้สึกของข้า เขาควบคุมไม่ได้”ที่องค์หญิงใหญ่พูดมา เฟิ่งจิ่วเหยียนพอใส่ใจบ้างแล้ว แต่นางไม่มีทางแสดงออกมาต่อหน้าองค์หญิงใหญ่อย่างไรเมื่อเทียบกับหลิวเหยี่ยน นางยิ่งไม่อยากยอมรับคนขององค์หญิงใหญ่ตอนนี้นางคือฮองเฮา ต้องแยกแยะลำดับความสำคัญรอจอหลังจากองค์หญิงใหญ่ไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งหว่านชิว“ส่งคนไปบ้านเกิดหลิวเหยี่ยน สืบดูว่าคนนี้มีนิสัยอย่างไร”คนที่จะเป็นแม่ทัพ ต้องมีเล่ห์เหลี่ยม แต่หลอกลวงไม่ได้……หลังจากงานเลี้ยงบทกวีจบลง ความร่วมมือฉันพี่น้องของ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 816

    ดวงตาตงฟางซื่อที่เดิมยิ้มแย้มหรี่ลง ชี้ไปยังช่วงที่ถล่มลงมา พร้อมคาดเดา“นี่เป็นการทำลายตนเอง ปกติมีไว้เพื่อปกปิดทางเดิน ใช้ในการตัดกำลังการไล่ตาม”ในระหว่างที่พูด เขาวาดภาพขึ้นมาเฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นเขาวาดรูปใยแมงมุม ก็จ้องมองอย่างพินิจพิเคราะห์“นี่คืออะไร?” ฝานจิ้นมองซ้าย มองขวา ดูไม่ออกว่าเป็นอะไรหลังจากตงฟางซื่อวาดเสร็จ ก็อธิบายให้ทุกคนฟัง“ข้าคาดเดาเบื้องต้น ช่องทางลับนี้ น่าจะเป็น ‘ใยแมงมุม’ ”“ใยแมงมุม?” หลายคนแสดงสีหน้าสงสัยตงฟางซื่อชี้ไปตรงภาพที่วาด พร้อมอธิบายขึ้นมา“ในวิชากลไก มีช่องทางลับอย่างหนึ่ง เป็นเหมือนใยแมงมุม มีศูนย์กลางอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่ง ล้อมรอบสี่ทิศ เชื่อมต่อเหนือ ใต้ ออก ตก“ยิ่งไปกว่านั้น เชื่อมต่อไปยังติงกุ่ย เว่ยโช่ว คุนเก่น เซินหยิน...ก่อตัวกลายเป็นใยแมงมุมขนาดใหญ่”ฝานจิ้นยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ“เจ้าหมายความว่า เป็นลำต้นแห่งสวรรค์ กิ่งก้านแห่งโลก?” ตงฟางซื่อพยักหน้ายืนยัน“ที่เจ้าพูดมาก็ไม่ผิด ดังนั้นมันจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าค่ายกล ‘เว่ยปากว้า’”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีความเข้าใจสูง ที่ตงฟางซื่อพูดมา นางฟังเข้าใจแล้วนางชี้ไปยังภาพที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 817

    เฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดอ่านจดหมาย อ่านโดยรวมก่อนมีเรื่องหนึ่ง ทำให้นางขมวดคิ้วหลิวเหยี่ยนเคยเป็นทหาร และเคยอยู่ในค่ายเป่ยต้าส่วนข้อมูลอย่างอื่น ดูอย่างไร คนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรหว่านชิวเสนอความคิดเห็น“ฮองเฮา สถาบันทางการทหารเลือกลูกศิษย์ ได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดตั้งแต่แรกแล้ว ในเมื่อหลิวเหยี่ยนสามารถเข้ามาเรียนได้ แสดงว่าสิ่งที่ขุนนางเก็บบันทึกไว้นั้นไม่มีผิดพลาด”“ทว่าตามที่บ่าวรู้มา หากมีความตั้งใจ สิ่งมากมายล้วนสามารถสร้างเป็นเท็จขึ้นมาได้”“หากท่านสงสัยคนนี้จริง ๆ ก็ส่งคนไปสืบอย่างละเอียดอีกครั้งจักเป็นการดีเพคะ”แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่ง“อืม”ในเมื่อเคยไปค่ายเป่ยต้า นางก็จะขอให้อาจารย์ช่วยตรวจสอบดูรอบคอบไว้ก่อน ยังไงก็ดีกว่าวันรุ่งขึ้นสถาบันทางการทหารมีการทดสอบการต่อสู้การทดสอบการต่อสู้นี้ไม่ใช่การทดสอบการต่อสู้อย่างง่ายทุกคนแบ่งออกเป็นสองทีม ทำการช่วยเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในมือศัตรูออกมาสนามทดสอบการต่อสู้ในครั้งนี้อยู่ตรงภูเขาเยี่ยนไหลของชานเมืองเฟิ่งจิ่วเหยียนอยากใช้การทดสอบการต่อสู้ในครั้งนี้ ทดสอบหลิวเหยี่ยน เริ่มการต่อสู้เฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ตรงเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 818

    เฟิ่งจิ่วเหยียนคาดเดาได้อย่างแม่นยำ ที่เกิดเรื่อง จะต้องเป็นเป่ยเยี่ยนอย่างแน่นอนเซียวอวี้พูดขึ้นมา“รัชทายาทเยี่ยนบุกวังยึดบัลลังก์ ตอนนี้ขึ้นครองราชย์แล้ว” เฟิ่งจิ่วเหยียนครุ่นคิดพร้อมพูดขึ้นมา“ขุนนางใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง มักต้องการสร้างผลงานบางอย่าง เพื่อแสดงความสามารถและอำนาจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกษัตริย์ใหม่ที่เพิ่งครองราชย์ ฝ่าบาท หม่อมฉันคิดว่า เป่ยเยี่ยนก็เหมือนกับระเบิดฟ้าคำรณ รู้ว่าจะระเบิดเมื่อใด ต้องระวังให้มาก”เซียวอวี้กดปลายคางเล็กน้อย“เรารู้ ก่อนหน้านี้ก็คาดเดาไว้แล้ว มีคนคอยยั่วยุอยู่เบื้องหลัง หวังอยากให้หนานฉีกับเป่ยเยี่ยนต่อสู้กัน ครั้งนี้รัชทายาทเยี่ยนบุกวังขึ้นครองราชย์ เป็นไปได้อย่างมากที่คนนั้นคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง”“เราได้เขียนพระราชโองการลับ ให้กับขุนพลที่ชายแดน หากพบความเคลื่อนไหวใด ต้องคอยรับมืออย่างระมัดระวัง”ยามนี้ดินแคว้นเป่ยเยี่ยนในวังหลวงรัชทายาทที่เคยถูกปลดหลายครั้ง ตอนนี้แปลงกาย กลายเป็นจักรพรรดิบนบัลลังก์มังกรส่วนฮ่องเต้เยี่ยนชรา ถูกจองจำอยู่ในตงฮวาไถเหล่าขุนนางถวายบังคมฮ่องเต้องค์ใหม่ บรรยากาศบนท้องพระโรงทำให้รู้สึกอกสั่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 819

    เผชิญความหยั่งเชิงของหนิงเฟย เฟิ่งจิ่วเหยียนสงบเยือกเย็น แววตาแฝงไปด้วยความเย็นชาและเหินห่าง“เรื่องภายในครอบครัวของข้า ไม่จำเป็นต้องบอกเจ้า”ต่อให้เรื่องฝาแฝดไม่ใช่ความลับแล้ว นางก็ไม่อยากให้ใครไปรบกวนชีวิตของเวยเฉียงหากเป็นคนอื่น หนิงเฟยโต้กลับตั้งแต่แรกแล้วทว่าฮองเฮาองค์ใหม่เคยทำศึก เคยฆ่าคน ไม่ง่ายเลยที่จะไปมีเรื่องหนิงเฟยรู้สึกเสียววาบในหัวใจ แสร้งทำเป็นเข้มแข็งพร้อมทูลลาในขณะเดียวกันก็ยิ่งแปลกใจ ฮองเฮาทั้งสองคน ใช่คนเดียวกันหรือไม่……เหล่านางสนมกลับไปแล้ว หัวหน้าเย็บปักมายังตำหนักหย่งเหอ“ถวายบังคมฮองเฮา“ฮองเฮา นี่คืออาภรณ์ชุดใหม่ที่ฝ่าบาทมีรับสั่งให้พวกบ่าวเย็บปัก จักเปลี่ยนยามนี้หรือไม่เพคะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมามอง “สีสะอาดดี” หัวหน้าเย็บปักกราบทูลทันที“เป็นสีกับเนื้อผ้าที่ฝ่าบาททรงเลือกด้วยพระองค์เองเพคะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนสะดุ้งเล็กน้อยสายตาเซียวอวี้ไม่เลว ถูกใจนางมากทว่านางยังคงไม่อาจลืมสีแดงเข้มที่เขาสวม...ผ่านไปครู่หนึ่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนสวมอาภรณ์ใหม่เมื่อสวมใส่แล้วจึงรู้ว่า รูปแบบอาภรณ์นี้ นางไม่เคยเห็นมาก่อน...นุ่มนวลและมีสีสันมา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 820

    เซียวอวี้ไม่ปฏิเสธ เขาอยากไปดูข้างนอกวังจริง ๆและเนื่องจากวันนี้เป็นวันชีซี สามารถได้ออกไปเที่ยวพร้อมกับฮองเฮาเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างตรงไปตรงมา“คราวหน้าท่านอยากได้อะไร พูดมาตามตรงก็ได้เพคะ”เซียวอวี้ยิ้มหัวเราะแห้ง ๆ“เราก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเหน็ดเหนื่อยขนาดนี้ ชีซีก็ไม่ออกไปไหน”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ความคิดที่แท้จริงของเขา “ท่านอยากพูดว่า หม่อมฉันไม่รู้ถึงอารมณ์รักของหนุ่มสาวใช่หรือไม่เพคะ”เซียวอวี้รีบโอบกอดนาง แนบชิดใบหน้าของนาง“ไม่เป็นไร เรามีอารมณ์รักก็พอ”“อารมณ์รักไม่เท่าไหร่ หม่อมฉันเห็นว่าท่านยังคงความละเมียดละไมเซี่ยวอวี้: ความละเมียดละไม? ยังคง?นางกำลังพูดอ้อมค้อมหาว่าเขาแก่?เขาบีบเอวของนาง พูดเน้นย้ำขึ้นมาอย่างไม่พอใจ“อายุเรายังไม่ถึงสามสิบ ยังหนุ่มยังแน่น”อีกอย่าง ความละเมียดละไมนั้นมีไว้ใช้กับสตรี เหตุใดมาใช้กับเขาเล่าเฟิ่งจิ่วเหยียนยกมือกอดคอเขาไว้ ยกคางขึ้นมา สัมผัสบนริมฝีปากของเขาราวกับแมลงปอแตะน้ำ“ฝ่าบาท วันนี้ท่านสวมอาภรณ์สีแดงเข้มชุดนั้น ดีหรือไม่”ถึงแม้จะเชยไปหน่อย ทว่าก็มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เซียวอวี้คิดว่านางเห็นว่าอาภรณ์ชุดนั้นหล่

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 838

    เฟิ่งจิ่วเหยียนหยุดชะงักเล็กน้อย สายตาเคลื่อนลงมา มองดูคมกระบี่ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมถึงแม้จะถูกเปิดโปงสถานะ แต่นางยังคงมีท่าทีสงบนิ่งเมื่อเงยหน้าขึ้นก็มองเห็น ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ในชุดบรรทมสีเหลือง พระชันษาราวสี่สิบกว่า พระเกศาสยายคลุมบ่า พระพักตร์มีริ้วรอย ทว่า กาลเวลามิอาจเอาชนะหญิงงามได้ ทั้งตัวนางยังคงมีความสง่าผ่าเผย มั่นคงราวกับเสาค้ำทะเลตงไห่แคว้นซีหนี่ว์มีประมุขแคว้นเช่นนี้ มิน่าแปลกใจที่ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ประมุขแคว้นซีหนี่ว์มองสำรวจเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างเย็นชา“ให้ฮองเฮาเยี่ยงเจ้ามาที่แคว้นซีหนี่ว์ ฮ่องเต้ฉีทรงตัดพระทัยได้จริงหรือ เหตุใด มิกลัวว่าเราจะฆ่าเจ้า?”เฟิ่งจิ่วเหยียนก็มิเสแสร้งแกล้งทำอีก พร้อมกับยอมรับตามตรง“คารวะประมุขแคว้น”“ครั้งนี้มาเยือนแคว้นท่าน คือมาในฐานะราชทูต หาใช่มาในฐานะฮองเฮาแห่งหนานฉี และยิ่งมิใช่ในฐานะแม่ทัพน้อยเมิ่งอะไรนั่น“ที่ปลอมตัวมาพบท่าน เป็นเพราะสถานการณ์กำลังวุ่นวาย หากมีสิ่งใดรบกวนพระทัย หวังว่าท่านจะให้อภัย“ทว่า ตัวหม่อมฉัน และแม้แต่ทั้งหนานฉี ก็ไม่มีเจตนาจะล่วงเกินต่อท่าน”ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ยังคงถือกระบี่จ่ออยู่ที่นาง พร้อมกับ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 837

    ช่วงกลางเดือนแปด ดวงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้าเฟิ่งจิ่วเหยียนพร้อมคณะเดินทางมาถึงแคว้นซีหนี่ว์อย่างราบรื่นแคว้นซีหนี่ว์นั้นผู้นำล้วนเป็นสตรี และที่พบเห็นตามถนนหนทาง ปรากฏตัวในที่สาธารณะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสตรีทหารรักษาเมืองที่ลาดตระเวน ก็เป็นสตรีทั้งหมดเช่นกันแคว้นซีหนี่ว์ในอดีต บุรุษก็เคยเป็นผู้นำสูงสุดทว่าจากสงครามหายนะครั้งใหญ่ เหล่าบุรุษทั้งหมดตายในสนามรบ เหล่าสตรีทำได้เพียงต้องแบกรับภาระอันหนักหน่วงนานวันเข้า ถึงแม้ภายหลังบุรุษจะเพิ่มขึ้น ทว่า เหล่าสตรีได้สัมผัสกับรสชาติของการมีอำนาจ จึงไม่เต็มใจจะวางมืออีกแล้วเพื่อปฏิบัติตามแนวทางแห่งสตรีของราชวงศ์ ประมุขแคว้นแต่ละคน จึงส่งต่อบัลลังก์ให้บุตรสาวมิส่งให้บุตรชายคนที่เข้ามาเป็นขุนนาง ส่วนใหญ่ก็เป็นสตรีที่ครองตำแหน่งมากกว่าบุรุษก็เป็นขุนนางได้ ทว่ามีจำนวนน้อย อีกทั้งมิอาจครอบครองอำนาจที่แท้จริงได้เหล่าสตรีของแคว้นซีหนี่ว์เชื่อว่า มีเพียงผู้นำเป็นสตรี ถึงจะรับประกันได้ว่าอำนาจของสตรีจะไม่หลุดมือไปหากเปลี่ยนเป็นบุรุษ จักต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่ดังนั้น ต่อให้ประมุขแคว้นซีหนี่ว์มีโอรส บัลลังก์ก็จะไม่มีทางส่งต่อให้องค์ชาย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 836

    เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยอย่าง “เห็นอกเห็นใจ”“ข้ารู้ว่าสิ่งนี้ไม่ยุติธรรมกับเจ้า หากเจ้าไม่เต็มใจ...”นางพูดไปได้ครึ่งทาง ถานไถเหยี่ยนก็เทยาออกมา และกลืนมันลงไปเสี้ยววินาทีนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงกับตาค้างเพื่อทำลายหนานฉี ถานไถเหยี่ยนสามารถเสียสละถึงเพียงนี้เชียวหรือ......หลังอาหาร ขณะทั้งสองกำลังจะแยกย้ายกันเฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยอย่างจนใจ“ฝ่าบาทกังวลพระทัยว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับบุตรของข้า ทรงต้องการให้ข้าพักผ่อนดูแลครรภ์ สถาบันทางการทหารข้าก็มิได้ไปอีกแล้ว หากเจ้ามีปัญหาอันใด ให้ทูลรายงานกับฮ่องเต้ได้โดยตรง”ถานไถเหยี่ยนเอ่ยออกมาตามตรง“หนานฉีมีแม่ทัพที่เก่งกาจและมีชื่อเสียงอยู่มากมาย ข้ามิใช่ราษฎรของหนานฉี ถึงแม้จะมียุทธวิธีดี ๆ ทูลเสนอ ฝ่าบาทก็อาจมิทรงเชื่อ“สิ่งที่ข้าทำเพื่อหนานฉีได้ ก็คือค้นหาเส้นทางลับของ ‘ใยแมงมุม’ ทั้งหมดให้ครบ เพราะมันจะสร้างประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ในขณะทำสงครามได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นด้วยกับความคิดของเขา“ข้าจะพูดโน้มน้าวฝ่าบาท ให้เขายอมตกลงให้เจ้าร่วมสืบหา ‘ใยแมงมุม’”หลังจากนั้น ถานไถเหยี่ยนก็มองตามจนนางขึ้นรถม้าไม่นาน เขาก็จากไปเช่นกันรอจนเขากลับม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 835

    ภายในห้องไม่มีคนอื่น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงมิลังเล และบีบนวดหน้าท้องของเซียวอวี้เซียวอวี้ตัวเกร็งขึ้นมาในทันที สูดลมหายใจเข้า และกลั้นเอาไว้ผ่านไปไม่กี่อึดใจ เฟิ่งจิ่วเหยียนดูเหมือนจะค้นพบสิ่งที่ชื่นชอบ นางพลันยกคิ้วขึ้น เหลือบตามองไปที่เซียวอวี้“ท่านยุ่งถึงเพียงนี้ ยังมีเวลาฝึกฝนพละกำลัง?”เซียวอวี้กลั้นลมหายใจนั้นมิอยู่แล้ว จึงคว้ามือของนางที่วางอยู่บนหน้าท้องของเขาขึ้นมา วางลงที่ริมฝีปากและจูบไปสองครั้ง“แผนการแต่ละวันต้องเริ่มทำตอนรุ่งสาง อีกอย่าง ศัตรูต่างแคว้นก็จดจ้องตาเป็นมัน เรายิ่งต้องทำให้ร่างกายแข็งแรงกำยำ เพื่อเตรียมพร้อมกับการนำทัพออกศึก ดังนั้น ช่วงหลายวันมานี้จึงขยันฝึกฝนมากขึ้น“เป็นอย่างไร? ฮองเฮาพอใจหรือไม่?”เขาตั้งตารอคอยคำตอบของนางเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่แสดงความเห็นใดนางเข้าไปใกล้หูเขา น้ำเสียงแผ่วเบา ลมหายใจราวกับขนนก พัดผ่านใบหูของเขา ใจที่สงบนิ่งของเขากระตุ้นให้เกิดระลอกคลื่นนับพันเขาเพียงแค่ฟังนางเอ่ยอย่างช้า ๆ“คืนนี้ จะเปิดประตูรอท่านพี่...”เซียวอวี้ถูกปลุกเร้า ตอนนี้คิดจะ “ประหัตประหาร” นางในที่นี้ทันทีฝ่ามือใหญ่ของเขาทาบลงที่หลังเอวของนาง แล้วออ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 834

    เฟิ่งจิ่วเหยียนตัดสินใจแน่วแน่ที่จะไปเป็นราชทูตยังแคว้นซีหนี่ว์ ก่อนหน้าที่จะไป นางมิลืมที่จะเตรียมการทุกอย่างในหนานฉีทางนี้ให้เรียบร้อย“ฝ่าบาท ถานไถเหยี่ยนมีคำพูดหนึ่งที่เอ่ยไว้ไม่ผิด ก่อนหน้านี้หม่อมฉันไปสำรวจที่ช่องทางลับ และถูกซุ่มโจมตีด้วยดินปืน แน่นอนว่าจักต้องมีคนที่รู้เรื่องนี้ล่วงหน้า“แท้จริงแล้วเป็นผู้ใดกันที่แอบลงมือ จุดประสงค์นั้นคือเพื่อทำลาย ‘ใยแมงมุม’ และยังตัดขาดเบาะแสของมนุษย์โอสถด้วย หรือไม่ก็ อาจจะต้องการชีวิตของหม่อมฉัน ทั้งหมดจึงควรสืบให้กระจ่าง”เซียวอวี้เริ่มครุ่นคิดอย่างจริงจังเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ“คนที่รู้ว่าเจ้าจะไปที่ช่องทางลับ ล้วนเป็นองครักษ์คู่ใจของเรา พวกเขาแต่ละคนผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด ไม่มีทางทรยศต่อเราเด็ดขาด ทว่า ไม่มีสิ่งใดที่แน่นอน หากพัวพันกับความปลอดภัยของเจ้า เราจักสืบสวนอย่างละเอียด...”เฟิ่งจิ่วเหยียนขัดจังหวะคำพูดของเขา และเอ่ยอย่างจริงจัง“คนที่หม่อมฉันสงสัยมิใช่พวกเขา“ท่านมิจำเป็นต้องเสียเวลาไปสืบสวนพวกเขา เพื่อมิให้พวกเขารู้สึกเสียกำลังใจ“สิ่งที่หม่อมฉันสงสัยคือ มีคนแอบเฝ้าสังเกตการณ์อยู่“คนผู้นี้อาจจะแอบซุ่มอยู

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 833

    ณ ห้องทรงพระอักษร เซียวอวี้กำลังอ่านรายงานการสู้รบชายแดนหลิวซื่อเหลียงก็เข้ามากราบทูลใกล้ ๆ “ฝ่าบาท ฮองเฮาทรงขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”ความเหนื่อยล้าของเซียวอวี้พลันมลายหาย ความเย็นชาดุดันคลายลง ปกคลุมด้วยความอ่อนโยนทีละน้อยทันทีที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเข้ามาด้านใน หลิวซื่อเหลียงก็ถอยออกไปด้วยหูตาที่ว่องไวภายในห้องทรงพระอักษร เหลือเพียงฮ่องเต้และฮองเฮาสองคนเท่านั้น จะพูดสิ่งใด จะทำสิ่งใด ก็มิต้องหลบเลี่ยง“มาได้อย่างไร? ทานสำรับเที่ยงแล้วหรือ?” ระยะนี้เซียวอวี้ยุ่งอยู่กับงานราชกิจ ที่จริงหลายวันแล้วมิได้ไปทานอาหารร่วมกับนางเฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าตอบ จากนั้นจึงเอ่ยถาม“ฝ่าบาท สงครามทางด้านใต้เป็นอย่างไรบ้างเพคะ?”เซียวอวี้จูงมือของนาง เข้าไปในห้องด้านในและนั่งลงบนตั่งตัวเล็กพร้อมกับนางเขาพูดไปเดินไป“เรารู้ว่าเจ้ากังวลเรื่องนี้ กำลังคิดจะบอกเจ้าพอดี“กองทัพชายแดนใต้มุ่งหน้าไปโจมตีตอบโต้เผ่าสุยเหอแล้ว ตอนนี้ข่าวที่ได้รับกลับมาล้วนเป็นข่าวดี“แนวหลังของเผ่าสุยเหอไม่มั่นคง จึงแทบมิได้สนใจหนานเจียง“คิดว่า ไม่นานก็สามารถถอนกำลังทหารกลับมาได้แล้ว“วิกฤตที่หนานเจียงคลี่คลายได้ไม่ยาก แ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 832

    ณ ห้องทรงพระอักษรแม่ทัพอาวุโสหลี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงนอบน้อม “ฝ่าบาท คำพูดของหลิวเหยี่ยน ก็ดูน่าเชื่อถือ หากเป็นตามที่เขาพูด การโจมตีกลับทางแนวเหนือตรงเผ่าสุยเหอที่มีการป้องกันอ่อนแอ จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์คับขันในหนานเจียงได้ นี่เป็นยุทธวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในเวลานี้”สถานการณ์คับขันในหนานเจียงตอนนี้ ดินแดนส่วนใหญ่ถูกกองกำลังพันธมิตรของเผ่าสุยเหอยึดครอง กองทัพใหญ่หนานฉีของพวกเขาคิดจะช่วยเหลือหนานเจียง จักต้องอาศัยหนานเจียงเป็นสนามรบ บุกเข้าหนานเจียง และต่อสู้กับเผ่าสุยเหอทว่ายามนี้เผ่าสุยเหอควบคุมถนนน้อยใหญ่ในหนานเจียง ทำให้กองทัพหนานฉียากจะบุกเข้าไปได้ดังนั้น หากสามารถเลี่ยงไปทางหนานเจียง และบุกโจมตีเผ่าสุยเหอโดยตรง ก็นับว่าเป็นแผนการที่ดีเมื่อคิดมาถึงตอนนี้ แววตาของเซียวอวี้ดูเคร่งขรึมแม้ว่าวิธีนี้อาจจะได้ผล แต่เขาก็ไม่ไว้ใจหลิวเหยี่ยน“ไปเชิญฮองเฮามา” เขาเอ่ยสั่งการชั่วครู่ต่อมา เฟิ่งจิ่วเหยียนก็มาถึงนางฟังแม่ทัพอาวุโสหลี่เอ่ยจบ แววตาพลันเยือกเย็นและเคร่งขรึม“การสู้รบโดยใช้ทางเลี่ยง ก็อาจจะได้ผลจริง”เซียวอวี้ถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยอย่างมาก “เจ้าเชื่อสิ่งที่หลิวเหยี่ย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 831

    พอเข้าสู่ช่วงค่ำ จวนรุ่ยอ๋องก็คลาคล่ำไปด้วยบรรดาแขกเหรื่อภายในเรือนหอหร่วนฝูอวี้เป็นคนเปิดผ้าคลุมหน้าเองขณะที่รุ่ยอ๋องเดินเข้ามา ก็เห็นนางกำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่ริมโต๊ะ ไม่มีความประหม่าเขินอายอย่างที่เจ้าสาวควรจะมีแม้แต่น้อยมิเพียงแต่นางที่กำลังกิน งู แมงป่อง ตะขาบของนาง...พวกมันก็กำลังกินด้วยเช่นกัน!บนพื้นก็ยังมีสาวใช้คนหนึ่งนอนอยู่ ดูท่าทาง คงจะตกใจจนหมดสติไปรุ่ยอ๋องรู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่ก้าวเข้ามาในเรือนหอนี้เขาพยายามควบคุมอารมณ์ และเอ่ยโดยใช้น้ำเสียงราบเรียบ“หร่วนฝูอวี้ ข้าแต่งกับเจ้า ก็เพื่อบุตรในท้องของเจ้า“ต่อไป ข้าจะไม่แตะต้องเจ้าอีกเด็ดขาด“เรือนนี้...นับตั้งแต่บัดนี้จะมอบให้กับเจ้า หลังจากนี้ไปเจ้ากับข้าจะไม่เกี่ยวข้องกันอีกในฐานะสามีภรรยา เจ้าก็อย่านำของพวกนี้เข้ามาในเรือนข้า!”พูดจบเขาก็เดินออกไปหร่วนฝูอวี้ได้ยินอย่างชัดเจนแล้ว ก็มิได้โต้แย้งแต่อย่างใดสิ่งที่นางสนใจมากที่สุดตอนนี้ ก็คือหนานเจียงด้วยสถานะของพระชายารุ่ยอ๋อง พรุ่งนี้นางก็สามารถเข้าวังไปขอบพระทัยฝ่าบาทได้ถึงเวลานั้น นางก็จะได้พบกับซูฮ่วนแล้วค่ำคืนล่วงไปจนฟ้าสางวันที่สองรุ่ยอ๋

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 830

    เมื่อรู้ว่าถานไถเหยี่ยนต้องการเข้าพบตัวเอง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็กล่าวเสียงเรียบนิ่ง“ส่งแม่ทัพอาวุโสหลี่ไปที่คุกหลวง”หากถานไถเหยี่ยนอยากช่วยหนานเจียง และแคว้นหนานฉีด้วยใจจริง เช่นนั้น เขาก็สามารถบอกกลยุทธ์ต้านศัตรูแก่ใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนางหว่านชิวเห็นด้วยตอนแรกนางกังวล ว่าพระนางจะไปพบหลิวเหยี่ยนด้วยตัวเอง เพราะเรื่องหนานเจียงดูจากตอนนี้ พระนางเหมือนจะรอบคอบกว่านางอีกอีกคนที่กังวลเหมือนหว่านชิว ก็คือเซียวอวี้หลังจากที่เขาได้ยินว่าหลิวเหยี่ยนขอเข้าพบ ก็รีบวางราชสารในมือ ตรงมาที่ตำหนักหย่งเหออย่างรีบร้อนเมื่อเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนยังนั่งอยู่ในตำหนัก เขาถึงได้ถอนหายใจโล่งอกอย่างสังเกตได้ยากจากนั้นก็เดินเข้าไปหาเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้น ขณะที่กำลังจะทำความเคารพ เขาก็ดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด โอบรัดไว้แน่น“ฮองเฮา รับปากเรา ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม ห้ามไปพบหลิวเหยี่ยนแบบส่วนตัวเด็ดขาด  คนผู้นี้มีความคิดที่คาดเดาได้ยาก เรากลัวว่าเขาจะใช้มันมาหลอกล่อ ทำไม่ดีกับเจ้า”เขาเองก็ได้ยินเรื่องพิษมนุษย์โอสถอะไรนั่นมาเหมือนกันแต่ลางสังหรณ์บอกเขาว่า หลิวเหยี่ยนไม่น่าเชื่อถือเขาคิดเอาเองว่า

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status