แชร์

บทที่ 661

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
ภายในเรือนหลัก

คืนนี้แม่ทัพเมิ่งต้องออกไปลาดตระเวน หากไม่ใช่เพราะฝ่าบาทอยู่ในจวน เขาก็คงหาอะไรทานอยู่ในค่ายทหารแล้ว

เวลานี้เขาจึงกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อกลับไปยังค่ายทหาร

เฟิ่งจิ่วเหยียนกับอาจารย์หญิงมาด้วยกัน เห็นไฟในห้องสว่างอยู่ “อาจารย์อยู่ข้างใน ข้าไม่เข้าไปแล้ว”

ฮูหยินเมิ่งอมยิ้มแย้ม “รออยู่ที่นี่ ข้าไปเอามาให้เจ้า"

เมื่อนางเข้าไปในห้อง ก็เห็นสามีนั่งอยู่ข้างโต๊ะ สีหน้าประหลาด บอกไม่ถูกว่าดีใจ และก็ไม่ถือว่าโกรธ ทว่าดูเหมือนคับข้องใจ

เมิ่งฉวีลุกขึ้นยืน ถามขึ้นมาอย่างหยั่งเชิง

“ฮูหยิน ช่วงนี้ข้ายุ่งกับงานในค่ายทหาร เพิกเฉยต่อเจ้า เจ้าโกรธข้าหรือไม่?”

ฮูหยินเมิ่งตอบตามความจริง

“ท่านต้องทำตามหน้าที่ ข้าไม่มีทางโกรธเพราะสาเหตุนี้”

ทันใดนั้น สีหน้าเมิ่งฉวีบูดบึ้งลง

เขายกมือขึ้นมาอย่างสั่นเทา ชี้ไปยังกล่องไม้บนหัวเตียง

“นั่น...ข้างในนั้นคืออะไร?”

สีหน้าฮูหยินเมิ่งเคร่งขรึมขึ้นมา

“ท่านได้เปิดดูหรือ? ! ”

เมิ่งฉวีเห็นนางตื่นเต้นขนาดนี้ ก็โกรธขึ้นมาทันที

“ฮูหยิน ! ต่อให้เจ้าโกรธ ก็ไม่ควรทำกับข้าเช่นนี้ ! บอกมา ! คนนั้นคือใคร ! ”

ของสิ่งนั้นทำไม่ง่าย ฮูหยินไม่ได้ทำมา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Prig Pannasa
ของขวัญมั้ยละ55555 คุณพี่ดีใจมั้ย5555
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 662

    สีหน้าเซียวอวี้จากดำกลายเป็นขาวสิ่งของที่อยู่ในกล่อง...เขาเคยเห็นในตำรานี่คือถุงยาง ใช้สำหรับผู้ชายทว่า จักรพรรดิไม่จำเป็นต้องสวมสิ่งนี้ หากไม่อยากให้นางสนมตั้งครรภ์ ประทานน้ำแกงป้องกันการมีบุตรก็พอดังนั้น ในวังไม่เคยมีสิ่งนี้ เขาก็ไม่เคยเห็นของจริงมาก่อนยิ่งคิดไม่ถึง เฟิ่งจิ่วเหยียนจะมอบสิ่งนี้ให้กับเขาจนเขาไม่รู้จะพูดนางว่าอะไรดีพัฟ !เขาปิดกล่องไม้ ท่าทีราวกับตาไม่เห็นไม่กวนใจ“สิ่งนี้ เราไม่ชอบ”เขาปฏิเสธทันทีเขาอยากที่จะมีลูกกับนางมากมาย จะใช้สิ่งนี้ได้อย่างไรเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง“ข้าเห็นว่า มีบุตรก่อนแต่งงาน ไร้ชื่อไร้สถานะ ไม่แตกต่างอะไรกับบุตรนอกสมรส”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเข้มนางหมายความว่า ก่อนแต่งงานสามารถ...บอกตั้งแต่แรกสิ ! เวลาต่อมา เซียวอวี้ไม่พูดอะไร ลุกขึ้นมาอุ้มนางทันที“เจ้าพูดถูก คืนนี้ลองใช้สิ่งนี้เลย” เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว “แขนของท่าน...”“ไม่เป็นไร” ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม อารมณ์ดี ยังจะสนใจบาดแผลที่ไหนกันยิ่งไปกว่านั้น ก็แค่บาดแผลภายนอกในมุ้งบนเตียงเสื้อผ้าหลุดออกส่งเสียงกรอบแกรบ ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ราวกับสองค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 663

    ในมุ้งบนเตียง บนผ้าห่ม มือสองข้างใหญ่ข้างหนึ่งเล็กข้างหนึ่ง นิ้วทั้งสิบนิ้วประสานกัน พัวพันแนบแน่นเซียวอวี้ยิ่งจูบยิ่งร้อนแรงเฟิ่งจิ่วเหยียนแทบทนไม่ไหว พยายามดิ้นรนหาช่องว่างเพื่อหายใจเวลาต่อมา เขาล้มทับบนตัวนาง หายใจอย่างหนัก ลมหายใจร้อนผ่าวรดข้างหู แก้มด้านข้างของนางนางถูก “ย่าง” จนเหงื่อไหลชุ่ม เอียงศีรษะไปฝ่ายชายยกตัวขึ้นมาเล็กน้อย จับปลายคางของนาง ดวงตาแดงสลัว จ้องริมฝีปากแดงระเรื่อสดใสของนางอย่างลึกซึ้งริมฝีปากแดง ทำให้สีหน้าขาวใสมากขึ้นสายตาของเขามองเลื่อนขึ้น มองความเร่าร้อนในดวงตาของนางที่กำลังจะจางหายไป อยากจดจำภาพนี้ไว้ตลอดกาลจดจำภาพที่นางหวั่นไหวเพื่อเขาจดจำภาพที่ในสายตานางมีเพียงเขา ในกระแสเลือด ในร่างกายก็มีเพียงเขาเจิดจ้ายิ่งกว่าดอกไม้ไฟ สว่างไสวยิ่งกว่าดวงดาว ลานตายิ่งกว่าแสงอาทิตย์...งดงามจริงๆ !ทุกครั้งในเวลานี้ แม้นางต้องการชีวิตเขา เขาก็จะให้เขาคิดว่า เขารักนางอย่างที่สุดจริง ๆหากชั่วชีวิตที่เหลือนี้ไม่สามารถได้ครอบครองนาง เขาจะเสียใจขนาดไหนมือของเขาเลื่อนมาถึงด้านหน้าลำตัวของนาง ลูบไล้รอยสักรูปเปลวเพลิงสีแดง“รอยสักของเจ้านี้ เพื่อปกปิด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 664

    “พี่สาว...”เฟิ่งเวยเฉียงเพิ่งวิ่งมาหา ก็เห็นบุรุษด้านข้างพี่สาวคนผู้นั้นสวมชุดผ้าแพรสีม่วง ดูออกว่าเขาพยายามที่จะไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ ทว่าก็ยังคงไม่สามารถปกปิด ความสูงศักดิ์อย่างไม่ธรรมดารอบตัวเขาโดยเฉพาะใบหน้าเผด็จการน่าเกรงขาม ดูก็รู้ว่ามีสถานะสูงส่ง ไม่ให้มีการฝ่าฝืน“ข้าน้อยถวายบังคมฝ่าบาท” เฟิ่งเวยเฉียงก้มศีรษะลงทันที ไม่กล้ามองอีกฝ่ายสาวใช้ไฉ่เยว่ ก็รีบถวายความเคารพตามได้เห็นพระพักตร์จักรพรรดิ พูดว่าไม่ตื่นเต้นนั้นเป็นความเท็จ ฝ่ามือของนางเหงื่อไหลชุ่มฝ่าบาทแตกต่างจากที่นางคิดไว้ไม่มาก...สูงส่งเย็นชา ยากที่จะคาดเดาว่ารู้สึกอย่างไรไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า คุณหนูจิ่วเหยียนเคยชินกับการอยู่ข้างกายเขาได้อย่างไรเมื่อเซียวอวี้เห็นเฟิ่งเวยเฉียง ก็รู้ว่านางกับเฟิ่งจิ่วเหยียน สมกับที่เป็นฝาแฝดกัน ใบหน้าเหมือนกันเลยทว่าลักษณะนิสัย ดูก็รู้ว่าไม่เหมือนกันนางเพียงยืนอยู่ไม่พูดอะไร เขาก็สามารถมองทะลุถึงใจนาง เป็นคนไร้เดียงสา เป็นสตรีที่ไม่หวั่นไหวกับเรื่องทางโลกคนหนึ่ง“ครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องมากพิธี” เซียวอวี้พยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทว่า เฟิ่งเวยเฉียงยังคงรู้สึกว่าเขาเยือ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 665

    เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนอึ้ง เซียวอวี้ถามขึ้นมาด้วยเสียงเบา“ทำไมหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้สติกลับมา สายตาจ้องบนใบหน้าของเขา “ไม่เป็นไร"เซียวอวี้นึกว่านางยังเข้าใจผิดอยู่ จึงพูดขึ้นมาอีก“ไม่ได้โกหกเจ้า เป็นยัยเด็กคนนั้นจริง ๆ “ตัวผอม ๆ บนใบหน้าเปื้อนไปด้วยฝุ่น ไม่รู้ว่าลี้ภัยมาจากไหน...”“ตลกมากใช่ไหม” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขัดจังหวะเขา พร้อมถามขึ้นมาด้วยเสียงต่ำเซียวอวี้ผงกหัว“อืม”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปมองข้างนอกรถม้า ไม่พูดอะไรอีกทว่า แอบกำหมัดแน่นไม่นาน เฉินจี๋ซื้อขนมเกาลัดกลับมาแล้วเซียวอวี้ยื่นมาให้เฟิ่งจิ่วเหยียนหนึ่งชิ้น นางส่ายหัวพร้อมพูดขึ้นมา “ขอบพระทัย ทว่าข้าไม่ชอบทานสิ่งนี้”ตอนที่พูดประโยคนี้ นางไม่ได้มองดูเขาแต่ละคนชอบทานไม่เหมือนกัน เซียวอวี้ไม่สงสัยว่ามีอะไรระหว่างทาง เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป จึงสั่งให้หยุดรถม้าอาจารย์หญิงพูดไม่ผิด จะแต่งตัวเป็นชายอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ ควรที่จะซื้อชุดสตรีบ้างแล้ว“ข้าขอทำธุระส่วนตัว ท่านกลับไปก่อน”พูดเสร็จ นางก็กระโดดลงจากรถม้าเซียวอวี้เปิดม่าน มองเงาแผ่นหลังของนาง แล้วก็ย้อนครุ่นคิดเขาทำอะไรผิด พ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 666

    เมื่อครู่เซียวอวี้วู่ว่ามไปหน่อย เวลานี้สงบสติลง ก็รู้ตัวว่าตนเองตื่นตระหนกตื่นตูมไปแล้วพวกนางปรึกษาเรื่องตั้งกองกำลังหญิง คำนึงถึงแผ่นดินราษฎรเขากลับใจแคบ ยอมรับไม่ได้ ช่างเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเอาเสียเลยเมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาดับความขุ่นเคืองในใจด้วยตนเองหลังจากนั้นก็ล้วงเอาขนมเกาลัดออกมาหลายชิ้น พวกมันถูกกระดาษมันห่อเป็นชั้น ๆ ยังร้อนอยู่เลย“ขนมเกาลัดที่ฮูหยินเมิ่งเพิ่งทำวันนี้ ข้าเอามาให้เจ้ากิน”สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยังยืนยันคำพูดเดิม “ข้าไม่ชอบกิน”เซียวอวี้ดึงมือของนางมา วางขนมเกาลัดไว้บนฝ่ามือของนาง“ยังคิดจะโกหกข้า?“อาจารย์กับอาจารย์หญิงของเจ้าก็พูดแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าชอบทานขนมเกาลัดที่สุด“เรารู้ ทำไมเจ้าถึงโกหกเรา”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมาเขารู้?หลังจากนั้น เซียวอวี้ก็พูดขึ้นมาอย่างมั่นใจในตนเอง“เจ้าถือสาเรื่องที่เราพูดถึง รู้สึกไม่พอใจ ใช่หรือไม่”เฟิ่งจิ่วเหยียน : ...เซียวอวี้อธิบายให้นางฟังอย่างจริงจัง“เราจำได้จนถึงตอนนี้ แค่ขนมเกาลัดชิ้นเดียว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ให้ขนมเกาลัดเลย“เจ้าไม่รู้ ยัยเด็กคนนั้นป่าเถื่อนมาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 667

    เซียวอวี้จำได้ดี ตอนนั้น ขนมเกาลัดที่ยัยเด็กคนนั้นให้เขา ก็ละเอียดแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ กระทั่งละเอียดเป็นเศษกลับอร่อยมากเขารู้สึกหัวใจเต้นราวกับตีกลอง พร้อมลองถามฮูหยินเมิ่ง“มีเพียงนางที่กินแบบนี้?”ฮูหยินเมิ่งผงกหัวอย่างยิ้มแย้ม“ก็ใช่นะสิ มีแค่นางคนเดียว เพราะตอนอายุห้าขวบเคยสำลัก ทั้งรักทั้งเกลียดขนมเกาลัด คิดว่าทุบแล้วค่อยกิน เหมือนอย่างกับมันจะเชื่อฟังขึ้น ภายหลังจึงเคยชิน กินแบบนี้มาตลอด”คิดถึงจิ่วเหยียนตอนเด็กที่น่ารักดื้อรั้น และยังมีท่าทีดุร้าย บนใบหน้าฮูหยินเมิ่งปรากฏความอ่อนโยนของความเป็นแม่ “เด็กคนนั้น พริบตาเดียวก็โตขนาดนี้แล้ว...”เมื่อพูดเสร็จ แววตาฮูหยินเมิ่งก็กลายเป็นเฉียบคมขึ้นมาทันที ทุบฝ่ามือลงไป ผ่านบนไม้กระดาน ขนมเกาลัดชิ้นหนึ่งถูกทุบจนแบนเฉินจี๋ : ! ! !ฝ่ามือของฮูหยินเมิ่ง ดุเดือดมากเวลานี้ สีหน้าเซียวอวี้แข็งทื่อใช่ !อยู่ดี ๆ ใครจะทุบขนมเกาลัดที่เป็นชิ้นสมบูรณ์ให้แหลก !และปีนั้น ยัยเด็กคนนั้นอายุเพียงสิบขวบ เมื่อนับดูแล้ว ก็อายุไม่ต่างอะไรกับเฟิ่งจิ่วเหยียนบังเอิญบวกกับบังเอิญ นั่นก็จะไม่ใช่ความบังเอิญแล้ว !แล้วก็คิดถึงความผิดปกติของนาง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 668

    เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ปิดบังแล้วนางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา“ท่านดูไม่ออกหรือ ข้าไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนั้น?”ตลก ผู้ลี้ภัย ลิงผอมตัวดำ! ตอนกลางวันเขาพูดว่านางเช่นนี้ !นางอยากยอมรับสิแปลก!เวลานี้ เซียวอวี้ก็คิดขึ้นมาได้ นางกำลังไม่พอใจอะไรที่แท้ก็อยากรักษาภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากยอมรับว่านางคือลิงน้อยคนนั้นเขาเสียใจอย่างมาก รีบพูดขอโทษขึ้นมา“เราผิดไปแล้ว ตอนนั้น...เรากลัวว่าเจ้าจะเข้าใจผิด จึงตั้งใจพูดแบบนั้น ความจริงแล้ว เราจดจำเจ้ามาตลอด วีรชนน้อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงศีรษะเล็กน้อย มองดูเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเซียวอวี้จูบบนหน้าผากของนาง จากนั้นก็หยิบผ้าแห้งผืนนั้นมา เช็ดผมที่เปียกให้กับนางด้วยตนเอง กระทำอยู่อย่างอ่อนโยน ราวกับในมือถือสิ่งของล้ำค่าเอาไว้“ปีนั้นเมืองซีซิ่นเกิดทุพภิกขภัย เราเพิ่งเข้าเมืองมาก็ถูกปล้นแล้ว ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายประชาชน โชคดีที่เจ้ามาปรากฏ เวลานี้เราพูดความจริง เจ้าในตอนนั้นถึงแม้ยังเด็ก ทว่าท่าทีขี่ม้า ดูสง่างามยิ่งกว่าบุรุษจริงๆ”“ไม่ใช่ตลกหรอกหรือ?” นางยังคงไม่ยิ้มแย้ม คำพูดแฝงไปด้วยความเหน็บแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 669

    ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ตงฟางซื่อยิ่งอยู่ยิ่งดำเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นมาต้อนรับ“เจ้ามาได้อย่างไร?”ตงฟางซื่อหรี่ตายิ้มแย้ม “ข้าได้เจอกับอู๋ไป๋ จึงถามเขาว่าเจ้าอยู่ที่ใด ไม่ใช่ว่าไม่ต้อนรับข้ากระมัง?”สหายเก่ามาพานพบ มิใช่เรื่องน่ายินดีหรือเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างจริงใจ “เป็นไปได้อย่างไร เชิญนั่ง”สายตาของตงฟางซื่อหันไปมองเฟิ่งเวยเฉียง เห็นนางหน้าตาเหมือนกับซูฮ่วน ก็เดารู้ว่าพวกนางเป็นพี่น้องกันเฟิ่งจิ่วเหยียนแนะนำให้เขารู้จัก“คนนี้คือน้องสาวข้า เวยเฉียง”“เวยเฉียง คนนี้คือคุณชายตงฟาง”ทั้งสองคนต่างผงกศีรษะเป็นการทักทายตงฟางซื่อพูดเข้าเรื่องทันที“เรื่องของหยางเหลียนซั่ว ข้าได้บอกพวกเหล่าฝานแล้ว ทุกคนกำลังตามสืบร่องรอยของเขา ข้ามาหาเจ้าในวันนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งจะปรึกษา”เฟิ่งจิ่วเหยียนให้เวยเฉียงกับต้วนเจิ้งกลับห้องไปก่อนเวยเฉียงพูดขึ้นมาด้วยเสียงเบา “ท่านพี่ คุณชายตงฟาง พวกเจ้าคุยกันตามสบาย”ต้วนเจิ้งกลับไม่ยอม“ข้าไม่ไป หยางเหลียนซั่วทำให้พี่ชายข้าตาย เป็นศัตรูของข้า ข้าจะไปตามหาเขาพร้อมกับพวกเจ้า แล้วก็ฆ่าเขา!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจ เพียงเร่งเร้าตงฟางซื่

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 876

    เซียวอวี้ครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็ตัดสินใจ“ได้ เอาตามที่เจ้าพูด! แต่ว่า เจ้าต้องรับปากเรา ไม่ว่าอย่างไร ต้องปกป้องตัวเองให้ดี!”เฟิ่งจิ่วเหยียนดูแผนการวางกลยุทธ์“ท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย”เซียวอวี้ยกมือขึ้นลูบใบหน้าของนาง นัยน์ตาทอแววอาลัยอาวรณ์“พวกเราเพิ่งได้อยู่ด้วยกันไม่นาน ก็ต้องแยกจากกันอีกแล้ว”อยู่ในตำแหน่งสูง ทุกเรื่องย่อมไม่สามารถทำอะไรตามใจได้ จึงเกิดความรู้สึกหดหู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เฟิ่งจิ่วเหยียนมองมาที่เขาอย่างอบอุ่นอ่อนโยน กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง“ยิ่งห่างไกลยิ่งทำให้รักกันมากกว่าตอนแต่งงานหมาด ๆ  ซึ่งพวกเรารักกันเหมือนเพิ่ง ‘แต่งงานใหม่หมาด ๆ ’ ยิ่งกว่าคู่สามีภรรยาทั่วไปอีกหลังจากนั้น นางก็เข้าไปใกล้หูแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ายวน “รอหม่อมฉันกลับมา จะชดเชยคืนแห่งการเข้าเรือนหอใหม่แก่ท่าน”ด้วยเหตุนี้ เซียวอวี้จึงคัดราชโองการ ภายใต้คำพูดกึ่งเอาใจกึ่งหลอกล่อของนาง มีคำสั่งให้ฮองเฮาใช้อำนาจแม่ทัพใหญ่ เคลื่อนกองทัพไปต้านศัตรูที่ชายแดนตะวันออกนี่เป็นราชโองการลับจนกระทั่งเฟิ่งจิ่วเหยียนเดินทางออกจากเมืองหลวงในวันถัดมา มีเพียงไม่กี่คนที

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 875

    กวนไหลอิ้งตายแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนจำเขาได้ เขาเป็นชายชาตรีที่ทุ่มเทเสียสละเพื่อแคว้นสิ่งที่ยามนี้นางคิดถึง ไม่ใช่การตายของกวนไหลอิ้ง แต่เป็น...“กองทัพชายแดนตะวันออกล่ะ?”การตายของแม่ทัพ ย่อมส่งผลต่อเหล่าทหารเซียวอวี้ตอบนาง“กองทัพชายแดนตะวันออกป้องกันอยู่ในด่านเฉาอวี๋ ด้านนอกด่านเฉาอวี๋มีกำลังทหารของแคว้นต้าเซี่ยและแคว้นอื่นรวมตัวอยู่”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เข้าใจ“ในเมื่อป้องกันอยู่ในด่านเฉาอวี๋ กวนไหลอิ้งตายได้อย่างไร?”เซียวอวี้ตอบอย่างละเอียดว่า“กองทัพศัตรูกราดด่ายั่วยุ ใช้คำสกปรกมากระตุ้น กวนไหลอิ้งทนไม่ไหว จึงออกไปสู้นอกด่าน แล้วตายภายใต้มือของแม่ทัพอายุน้อยแคว้นต้าเซี่ยคนหนึ่ง”การทำสงครามโดยสู้ตัวต่อตัว เรียกอีกอย่างว่า “ขุนพล”ปกติระหว่างที่สองกองทัพกำลังจัดกระบวนทัพ แต่ละฝ่ายจะส่งแม่ทัพนายกองคนหนึ่งออกมาสู้ตัวต่อตัวเพื่อตัดสินแพ้ชนะฝั่งที่ชนะ จะได้ขวัญกำลังใจฮึกเหิมอย่างยิ่ง มากพอที่จะทำให้เหล่าทหารรู้สึกพลุ่งพล่านไปด้วยพลังในทางกลับกัน ฝั่งที่แพ้จะมีทหารที่ถูกทำลายขวัญกำลังใจแต่ด้วยเหตุที่รูปแบบการสู้ตัวต่อตัวนี้อันตรายเกินไป จึงถูกยกเลิกไปนานแล้ว เพราะถึงอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 874

    ภายในห้อง หร่วนฝูอวี้กำลังหลับตา นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง ด้านหน้าวางกระถางทองสัมฤทธิ์ที่ใช้หลอมกู่ ข้างกระถางมีงูตัวหนึ่งขดตัวอยู่งูตัวนั้นได้ยินเสียงเปิดประตูก็ชูคอขึ้นมาอย่างชาญฉลาด หลังจากหันดูรอบหนึ่ง สายตาก็จ้องอยู่ที่ร่างของรุ่ยอ๋อง จากนั้นมันแลบลิ้นส่งสัญญาณขู่ “ฝ่อ ฝ่อ” อย่างดุร้ายทว่าหลังจากบุรุษผู้นั้นเดินเข้ามาใกล้ขึ้นจนมองเห็นชัดว่าเป็นใคร ก็ตัวแข็งทื่อทันที จากนั้นมันก็เก็บลิ้นเข้าไปอย่างกระดาก แล้วเริ่มขดตัวซ่อนส่วนหัวของมันเอาไว้ ราวกับว่าทำแบบนี้แล้วจะไม่มีใครเห็นมันรุ่ยอ๋องยืนห่างจากเตียงสามฉื่อ จ้องมองไปยังท้องของหร่วนฝูอวี้นางตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ตามหลักควรจะมองเห็นท้องได้ชัดเจนนานแล้วทว่าเขากลับมองไม่เห็นท้องอันใหญ่โตนั่นเลยเป็นเพราะชุดคลุมใหญ่จนบังงั้นหรือ?ทันใดนั้นหร่วนฝูอวี้ก็ลืมตา สบตาเข้ากับสายตาที่มองอย่างสืบเสาะของรุ่ยอ๋องน้ำเสียงของนางไพเราะมาก ทว่าสิ่งที่พูดกลับไม่ได้มีเจตนาดี“แหม...เข้าวังทีสวมชุดหล่อเหลาขนาดนี้เชียว”รุ่ยอ๋องถามอย่างไม่ช้าไม่เร็วด้วยสีหน้าสุภาพอ่อนโยน “เป็นข้าที่ละเลยเจ้า ไม่ได้ซื้อเสื้อผ้างาม ๆ ให้เจ้า ทว่าสภาพเจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 873

    เมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนตัดสินใจว่าจะปรับแก้ ‘ใยแมงมุม’ ก็ลงมือทันทีภารกิจสำคัญเช่นนี้ จะเป็นใครไปได้อีก ถ้าไม่ใช่ตงฟางซื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนออกคำสั่งให้คนไปรื้อกลไกสังหารที่มีอยู่ออกก่อน ไม่เช่นนั้นหากเก็บเอาไว้อาจเกิดเรื่องประเภทให้ทุกข์แก่ทุกท่านรวมถึงตัวเองได้เมื่อรู้เรื่องที่นางจะทำ ตงฟางซื่อรู้สึกเลื่อมใสและเห็นด้วยอย่างยิ่งเขารับประกันอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า“ขอเพียงให้กำลังคนข้ามากพอ จะต้องปรับแก้ให้ ‘ใยแมงมุม’ เป็นอย่างที่เจ้าต้องการได้แน่! เพียงแต่เวลากระชั้นชิดนัก”ยามนี้ใยแมงมุมได้ขยายไปทั่วทั้งแคว้นหนานฉี หากคิดจะปรับแก้ทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ภายในวันเดียวอีกทั้งยามนี้หลายแคว้นกำลังจะล้อมโจมตีแคว้นหนานฉี กระชั้นชิดนักเฟิ่งจิ่วเหยียนคิดถึงปัญหานี้ได้แต่แรกแล้ว นางวงบางจุดในแผนภาพใยแมงมุม“แก้จุดเหล่านี้ก่อน”จุดที่นางวงไว้คือเส้นทางลับสองเส้นทางของใยแมงมุมไปทางทิศเหนือและทางทิศตะวันออก โดยมีเมืองเซวียนเป็นจุดศูนย์กลางตงฟางซื่อมองดูอย่างละเอียดหากแค่สองเส้นทางนี้ ตามหลักย่อมไม่มีปัญหาอะไร“ได้! มอบให้ข้าทำเถอะ!”เขายิ้มตาหยีตามความเคยชิน ในใจวางแผนเอาไว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 872

    ด้วยฐานะเป็นฮ่องเต้ เซียวอวี้ให้ความสำคัญกับภาพรวมตรงหน้าเป็นหลักแคว้นหนานฉีจะต้องชนะ และต้องรับประกันว่าจะขับไล่ศัตรูออกไปได้ในเมื่อ ‘ใยแมงมุม’ นั่นเป็นอาวุธขับไล่ศัตรู ก็ใช้มันฆ่าศัตรูไม่มีอะไรไม่เหมาะสมกันเฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบาย“ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ใช้เลย“กลไกเส้นทางลับของ‘ใยแมงมุม’นั้นยอดเยี่ยมมาก สามารถใช้ในการขนส่งเสบียงได้ แม้กระทั่งใช้กับการเคลื่อนพลทหารเพื่อดักซุ่มก็ยังได้ ลดความยุ่งยากไปได้มาก“ทว่ากลไกสังหารคนจำนวนมากข้างในนั่น ถึงจะเป็นหัวใจหลักของวิชากลไกตระกูลถานไถ“ใช้มันสังหารศัตรู ย่อมเป็นชัยชนะที่น่าละอาย”เซียวอวี้ไม่เห็นด้วย“เพื่อที่จะชนะแล้ว ถึงจะเป็นชัยชนะที่น่าละอายแล้วอย่างไร? จิ่วเหยียน ภายใต้สถานการณ์ที่ทุกทิศมีกองทัพเข้าใกล้เมืองเช่นนี้ เจ้าไม่อาจทำตัวเป็นคนดีได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ลังเลแม้แต่น้อยนางเน้นย้ำอย่างจริงจัง“ฝ่าบาท ท่านยังไม่เข้าใจสิ่งที่ข้าบอก“ที่ข้าอยากบอกก็คือ ‘ใยแมงมุม’ สามารถเป็น ‘ใยแมงมุม’ ได้ ทว่าไม่อาจเป็น ‘ใยแมงมุม’ ของตระกูลถานไถได้”เซียวอวี้เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ยังไม่เข้าใจดีนักเพียงครู่หนึ่งเขาก็เข้าใจโดยพลัน“เจ้าค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 871

    ถานไถเหยี่ยนโมโหนี่เป็นเพราะเมื่อครู่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดว่า จะถือว่า ‘ใยแมงมุม’ เป็นของตระกูลตงฟางเขาสูญเสียการควบคุมอารมณ์ไปชั่วครู่ แล้วกลับมามีสติอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่อึดใจ ดวงตาของเขาแดงก่ำราวกับได้รับความอัปยศอดสู“ท่านไม่เชื่อข้าก็ช่างเถิด ทว่าเหตุใดต้องทำให้ข้าอับอาย ทำให้ตระกูลถานไถอับอายขายหน้าเช่นนี้ด้วย!“ตอนนั้นเพื่อที่จะสืบเรื่องมนุษย์โอสถ ข้าจึงถูกทรมาน“จากนั้นก็พเนจรไปอยู่ที่แคว้นตงซาน ถูกคนควบคุม...ข้าใช้ชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานทุกวัน ไม่ง่ายเลยกว่าจะกลับมาแคว้นหนานฉีได้ ข้าเพียงอยากทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อชดใช้ความผิด และได้รับความเชื่อใจจากเจ้าอีกครั้ง”“ข้าแค่อยากย้อนกลับไปในอดีตที่พวกเรายังเป็นสหายที่ดีต่อกัน รู้ใจกัน“ทว่าดูจากยามนี้แล้ว นี่คงเป็นข้าคิดไปเองผู้เดียว“ด้วยฐานะคนรุ่นหลังของตระกูลถานไถจะทนได้อย่างไร? ไม่เช่นนั้นเจ้าก็ฆ่าข้าเสียเถิด!”เฟิ่งจิ่วเหยียนฟังเขาตัดพ้อด้วยสีหน้านิ่งเฉยตั้งแต่ตอนแรกที่เขาแทงนางดาบหนึ่ง นางก็ยากที่จะเชื่อใจเขาอีกครั้งแล้วไม่ว่าเขาจะอธิบายอย่างไร อธิบายได้สมบูรณ์แบบแค่ไหน นางก็ไม่เชื่อเขาแล้ว“ถานไถเหยี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 870

    เที่ยงคืนสถานที่พักแรมของถานไถเหยี่ยน เหล่าทหารปิดล้อมข้างนอกข้างในสามชั้น หนาแน่นจนแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ผ่านไปไม่ได้ภายในห้องอักษรเทียนข้ารับใช้เร่งเร้าถานไถเหยี่ยน“นายท่าน รีบไปเถอะขอรับ!”ข้างในห้องไม่มีไฟ ถานไถเหยี่ยนนั่งอยู่ในความมืด แต่งกายเรียบร้อย ราวกับรอวันนี้มาตั้งแต่แรกแล้วเขายืดหลังตรง นิ้วเรียวยาวขาวเย็นเปิดสมุดภาพบนโต๊ะแผ่นแล้วแผ่นเล่า เคลื่อนไหวอยู่อย่างเชื่องช้า“นายท่าน!” ข้ารับใช้ได้ยินเสียงทหารกำลังขึ้นบันไดมา ก็ยิ่งร้อนใจน้ำเสียงถานไถเหยี่ยนเยือกเย็น ไม่สะทกสะท้าน“หนีไม่พ้นหรอก”เขาได้ยิน คนที่มาคืนนี้ มีจำนวนมากมายถึงแม้ว่าสามารถหนีออกจากสถานที่พักแรมนี้ได้ ข้างนอกก็ยังมียอดฝีมืออีกมากมายปัง!บานประตูห้องถูกคนพังอย่างป่าเถื่อนแสงสว่างข้างนอกส่องเข้ามา สาดสายตาถานไถเหยี่ยนอย่างแหลมคมเขากับเฟิ่งจิ่วเหยียน ถือได้ว่ารู้ใจกันความจริง วันนี้ตอนที่เจอนางในเมืองอาน เขาก็เดารู้แล้วว่านางคิดจะทำอะไรทหารผู้นำตะโกนขึ้นมา “จับกุมตัวถานไถเหยี่ยน!”ถานไถเหยี่ยนไม่มีการต่อต้านแต่อย่างใดเขาลุกขึ้นมาด้วยตนเอง“ไม่ทราบว่าข้ากระทำผิดโทษฐานใด?”เหล่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 869

    สงครามชายแดนเริ่มแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนไปทำราชกิจที่เมืองอานเพิ่งออกจากเมือง ก็ถูกนายท่านเฟิ่งไล่ตามมาทันสีหน้านายท่านเฟิ่งราวกับไว้ทุกข์ให้กับลูก คว้าจับแขนของนาง ไม่ยอมให้นางไป“ฮองเฮา! ตอนนี้เจ้าเป็นถึงฮองเฮา เจ้าจะไปที่ใด!”เขาเน้นย้ำสถานะของนาง ให้นางมีสติ...นางไม่ใช่แม่ทัพน้อยเมิ่งของค่ายเป่ยต้าอีกต่อไปแล้วต่อให้ทำศึก ก็ไม่จำเป็นต้องให้นางไปสนามรบต่อสู้ศัตรูยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์ และข้างในท้องอาจจะเป็นโอรส เป็นรัชทายาทในอนาคต!สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนางในตอนนี้ คือปกป้องเด็กคนนี้ไว้นอกเมืองไม่มีใครอื่น เฟิ่งจิ่วเหยียนยังมีราชกิจที่จะต้องไปทำ น้ำเสียงแข็งกร้าวเย็นชา“ข้ารู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ ทหาร ส่งใต้เท้าเฟิ่งกลับจวน”“ขอรับ!”ข้างกายนางมีองครักษ์ติดตามนับสิบคน ล้วนเป็นกองทัพอินทรีเหินคิดอยากพาตัวคนไม่มีวรยุทธอย่างนายท่านเฟิ่งไป ไม่ใช่เรื่องยากเลยนายท่านเฟิ่งตะโกนอย่างร้อนใจ“เจ้าจักเอาแต่ใจเช่นนี้ไม่ได้แล้ว! เด็กคนนี้เป็นความหวังตระกูลเฟิ่ง!”กองทัพอินทรีเหินรีบปิดปากของเขา พร้อมหิ้วตัวเขาไปเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่หันกลับมามอง กลับขึ้นไปบนรถม้า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 868

    คนสนิทของแคว้นประมุขซีหนี่ว์แบ่งออกเป็นสองพรรค พรรคแรกคือแม่ทัพป้องกันเมืองหูย่วนเอ๋อร์เป็นผู้นำ คอยปกป้องประมุขแคว้น ให้การสนับสนุนทุกการตัดสินใจของประมุขแคว้นรวมถึงครั้งนี้ที่ต่อหน้าโจมตีแคว้นหนานฉี ความจริงนั้นเป็นพันธมิตรกับแคว้นหนานฉีขุนพลอื่นหลายคนกลับมีความคิดอื่นพวกนางคิดว่า แคว้นซีหนี่ว์ไม่ควรให้การสนับสนุนแคว้นหนานฉี“ประมุขแคว้น ทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรกันถือเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ท่านควรปรึกษาพวกกระหม่อมตั้งแต่แรก! ค่อยทำการตัดสินใจ! เห็นได้ชัดว่าแคว้นหนานฉียากที่จะเอาตัวรอด แคว้นซีหนี่ว์ไม่มีความจำเป็นที่จะถูกลากลงน้ำไปด้วย!”“ท่านประมุขแคว้น ขอท่านทรงเปลี่ยนกลยุทธ์แสร้งโจมตี กลับมาร่วมมือกับแต่ละแคว้นโจมตีแคว้นหนานฉีเถอะ!”“ท่านประมุขแคว้น สถานการณ์ตอนนี้เห็นได้อย่างชัดเจน โอกาสที่แคว้นหนานฉีจะชนะนั้นมีน้อยมาก อาศัยเพียงกำลังแคว้นเดียว ไม่มีทางเอาชนะกองกำลังทหารสิบกว่าแคว้นได้ เป็นพันธมิตรกับเป่ยเยี่ยนจะดีกว่า!”ไม่ว่าพวกนางจะโน้มน้าวยังไง ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ยังคงยืนหยัดความคิดตนเองนางนั่งบนเก้าอี้สูงศักดิ์ สีหน้าเยือกเย็น น้ำเสียงไม่ให้ได้ขัดขืน“เราจะคอยดู แ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status