แชร์

บทที่ 475

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-13 17:00:00
เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจเซียวอวี้ นางไล่ตามคนผู้นั้นไปจนถึงนอกหุบเขามรณะ

นางไล่ตามเขาจนทัน แล้วออกแรงดึงเสื้อคลุมยาวสีดำหลวมของเขาออก

น่าเสียดายที่บุรุษผู้นั้นสวมหน้ากาก จึงมองเห็นไม่ชัดว่าเขาเป็นใคร

เขาทรงตัวไม่อยู่จึงก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว

ในการประมือกระบวนท่าต่อมา เฟิงจิ่วเหยียนก็รู้สึกได้ถึงหกนิ้วของเขา

เป็นเขา! เจ้าของพิษวารีสวรรค์!

รังสีสังหารอันเข้มข้นปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง กระบวนท่าก็พลันรุนแรงและรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

คนผู้นั้นพลันเอ่ยปาก

“ข้าควรเรียกเจ้าว่าฮองเฮา หรือแม่ทัพน้อยเมิ่งดีล่ะ? หากไม่ใช่เพราะต้วนไหวซวี่สละชีวิตตนเองเพื่อแลกกับชีวิตห้าปีของเจ้าล่ะก็ คืนนี้เจ้าต้องตาย!”

เมื่อได้ยินชื่อที่คุ้นเคย เฟิงจิ่วเหยียนพลันตกตะลึง

การที่เขารู้จักต้วนไหวซวี่นั้นไม่แปลก ทว่าเขาถึงกับจำนางได้...

บุรุษผู้นั้นฉวยโอกาสถอยแล้วโผขึ้นที่สูง

เขามองลงมาจากที่สูงแล้วยิ้มอย่างเย็นชา

“ดูเหมือนเจ้าจะไม่รู้ว่าต้วนไหวซวี่ตายอย่างไรสินะ”

ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนแดงเรื่อ

“พูดมาให้ชัดเจน...”

เพิ่งจะกล่าวไปไม่ทันไร จู่ ๆ เงาร่างหนึ่งพลันพุ่งเข้ามากอดแล้วพาหมุนเป็นวงรอบหนึ่ง

เมื่อนางหัน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
eclair_t
คนใส่หน้ากากยิงธนูจะใช่อดีตรัชทายาทรึเปล่า...
goodnovel comment avatar
Nipawan Kaosaam
ที่อ่านมาจะ500ตอนแล้วยังเหมือนวนไปมาอยู่เลยนางเอกไม่คิดจะรักพระเอกสักนิดเลยตอนจบหน้าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอ่านไปมาเริ่มเบื่อแล้วหมดไปเป็นพัน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 476   

    บาดแผลบริเวณแขนของเซียวอวี้ไม่ได้ลึก เพียงแต่ถากผิวเล็กน้อยเท่านั้นทว่าตอนนี้เขากลับแสดงท่าทีเจ็บปวดออกมา เจ็บจริงหรือแกล้งทำ เฟิ่งจิ่วเหยียนแยกออกได้ซึ่งตอนนี้เขาคืออย่างแรกเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบเรียกหมอทหารทันทีเซียวอวี้ยังปากแข็ง “เราสบายดี…”หมอทหารทั้งตรวจชีพจร ทั้งตรวจดูแผล กลับหาความผิดปกติใด ๆ ไม่เจอเฟิ่งจิ่วเหยียนกระชากคอเสื้อของหมอทหารขึ้นมา “ธนูลูกนั้น! เจ้าได้ดูหรือยัง”หมอทหารชะงักงัน“ลูก ลูกธนูก็ไม่มีปัญหาใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ…”เฟิ่งจิ้วเหยียนปล่อยเขาออก แล้วหันไปมองเซียวอวี้เขาก้มหน้าลง มือที่วางบนเข่ากำแน่นจนกลายเป็นกำปั้น บริเวณข้างขมับ และลำคอ ต่างมีเส้นเลือดผุดขึ้นมามองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเจ็บมาก แต่ก็ยังไม่อยากให้คนอื่นดูออก เพราะจะส่งผลเสียต่อความน่าเกรงขามของฮ่องเต้อย่างเขาหมอทหารอยู่ไปก็ไร้ประโยชน์ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงสั่งให้เขากลับไปทันทีหลังจากที่หมอทหารกลับไป เซียวอวี้ถึงได้เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาเผยสีแดงฉาน“เรา…เป็นอะไรไป”ตอนนี้คนที่เขาสามารถเชื่อใจได้ มีเพียงเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเฉินจี๋เท่านั้นชั่วขณะนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 477

    วินาทีนี้ หร่วนฝูอวี้เลือดสูบฉีดอย่างมากนางรู้ว่าซูฮ่วนไม่ชอบตัวเอง ยามปกติจึงดีแต่ปาก ไม่กล้าบังคับขืนใจครั้งนี้นางบังคับให้ตอบแทนบุญคุณ ให้ซูฮ่วนมาอยู่เคียงข้างนาง กลับไม่คิดเลยว่า อีกฝ่ายจะตกลงจริง ๆ“เจ้า…” หร่วนฝูอวี้กลืนน้ำลายลงคอทว่า หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนดึงสายรัดเอวและคลายสายเสื้อออก หร่วนฝูอวี้ก็เผยสีหน้าตกตะลึงออกมาผ้าพันหน้าอก!คนที่นางชอบ…ทำไม…ทำไมถึงกลายเป็นสตรีล่ะ!หร่วนฝูอวี้ไม่อยากจะเชื่อ“เจ้า เหตุใดเจ้า…”เฟิ่งจิ่วเหยียนดึงลูกกระเดือกปลอมออก แล้วยอมรับออกไปตรง ๆ “ข้าเป็นผู้หญิง”หร่วนฝูอวี้ยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ ราวกับถูกสายฟ้าพุ่งโจมตี“ผู้หญิง…เจ้าเป็นผู้หญิงงั้นหรือ!”มือของนางสั่นเทา ดวงตาเริ่มเออคลอไปด้วยหยาดน้ำเฟิ่งจิ่วเหยียนใส่เสื้อผ้าอาภรณ์ใหม่ คารวะนางตามธรรมเนียมของคนในยุทธภพด้วยท่าทางจริงจัง เพื่อขอขมาความผิดนางพูดความจริงกับหร่วนฝูอวี้ ไม่ใช่เพราะคำขอปลิ้นปล้อนที่หร่วนฝูอวี้เพิ่งกล่าวมาเมื่อครู่ แต่เป็นเพราะตระหนักได้ว่าหร่วนฝูอวี้ยึดมั่นด้วยใจจริง จึงไม่อยากทำให้อีกฝ่ายเสียเวลาแม้ว่าก่อนหน้านี้จะบอกไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง ว่านางไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 478

    ณ ค่ายหนานต้าหมอผีตาบอดผู้นั้นถูกพาเข้ามาในกระโจมไม่นาน เขาก็ทำการตรวจวินิจฉัย“เป็นพิษกู่จริงด้วย!”คิ้วคมของเซียวอวี้ขมวดแน่น  เจ็บปวดจนเกินจะทนไหว จึงจับมือของเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้ความสนใจของเฟิ่งจิ่วเหยียนพุ่งมาที่หมอผี“ในเมื่อเจ้าวินิจฉัยออกมาแล้ว มีวิธีรักษาหรือไม่?”หมอผีส่ายหน้าอย่างเคร่งครัด“แม้นจะเป็นพิษกู่ แต่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ช่วยท่านไม่ได้หรอก”ได้ยินเช่นนั้น เฉินจี๋ที่อยู่ข้าง ๆ พลันตะคอกอย่างโมโห“เป็นพิษกู่ ก็ไม่พ้นข้องเกี่ยวกับเมืองหนานเจียง!”เขาหันไปขอความเห็นกับเซียวอวี้ “กระหม่อมขอนำกำลังทหาร…”“เจ้าออกไปก่อน” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดตัดบทของเขาเฉินจี๋เป็นห่วงฝ่าบาท ถึงได้ทำอะไรเกินพอดี“กระหม่อมจะออกไปเฝ้าข้างนอก”หูของหมอผีผู้นั้นกระตุกไหว เหมือนกำลังพยายามฟังอะไรบางอย่างเขาไม่รู้ว่า ตอนนี้ตัวเองอยู่ในค่ายหนานต้าเฟิ่งจิ่วเหยียนถามเขาต่อ“เจ้ารักษาไม่ได้ แล้วหมอผีคนอื่นล่ะ?”หมอผีตอบกลับ “ฮูหยิน ข้ากล้าพูดได้เลยว่า ทั่วทั้งเมืองหนานเจียง หากแม้แต่ข้ายังถอนพิษกู่นี้ไม่ได้ คนอื่นก็ยิ่งถอนไม่ได้เหมือนกัน”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็น ไม่รู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 479

    แม้นร่างกายและหัวใจของเฉินจี๋จะรับเรื่องแบบนั้นไม่ได้ แต่เพื่อช่วยฝ่าบาท เขาก็คงไม่มีทางเลือกอื่นเขาชักดาบที่เหน็บไว้ข้างเอว ส่งให้เฟิ่งจิ่วเหยียน จากนั้นก็เข้าไปในกระโจมเฟิ่งจิ่วเหยียนยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกแทนเขาไม่นานหลังจากนั้น นางก็ได้ยินเสียงหนัก ๆ ดังขึ้นมา ตามมาด้วยเสียงพิฆาตกล่าวคำว่า “ไปให้พ้น”นางรีบเข้าไป กลับเห็นเฉินจี๋คุกเข่าอยู่ในบ่อน้ำ พยายามแกะสายรัดเอวของเซียวอวี้ออกเฟิ่งจิ่วเหยียน: !นางแทบทนดูไม่ได้!นางรีบตะโกนห้าม “หยุดนะ นั่นเจ้าจะทำอะไร!”ชายร่างใหญ่อย่างเฉินจี๋ มีท่าทางราวกับถูกย่ำยี ดวงตาแดงก่ำ กัดฟันพูดว่า “ฮองเฮา ท่านบอก…ให้กระหม่อมอยู่กับฝ่าบาท”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกปวดหัวแทบระเบิด“ข้าให้เจ้าเฝ้าเขาเงียบ ๆ ไม่ได้ให้เจ้าแตะเนื้อต้องตัวเขา!”เฉินจี๋ได้ยินเช่นนั้น พลันโล่งอกจากนั้นก็รีบถอยออกมาที่แท้ก็แค่ให้เฝ้าเฉย ๆ เมื่อครู่เขาเตรียมใจไว้แล้วว่าหลังจากเสร็จกิจจะปลิดชีพลงโทษตัวเองเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าเฉินจี๋กำลังคิดเพ้อเจ้ออะไรอยู่ แต่ก็ผิดที่นางพูดไม่ชัดเจนเองมิน่าล่ะตอนที่เฉินจี๋กำลังจะเข้ามา ถึงได้มีท่าทางเหมือนคนพร้อมที่จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 480

    เซียวอวี้พลันหยุดกะทันหัน หัวเราะอย่างขมขื่นข้างหูของนาง“ฮองเฮา เหตุใดไม่ผลักเราออกล่ะ เพราะกลัวว่าเรา…จะตายหรือ”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมา มองที่เขาอย่างไม่อยากจะเชื่อสีหน้าของเซียวอวี้ซีดขาวอย่างมาก แต่ริมฝีปากแดงระเรื่อเขาใช้มือข้างหนึ่งปิดตานางไว้ กล่าวเสียงแหบพร่า“เช่นนั้นก็อย่าผลักไสเราอีก เพราะเราจะตายจริง ๆ”เขาวางมือลงบนหลังเอวของนาง แล้วดึงนางเข้ามาอีกหลังจากสัมผัสอะไรบางอย่างได้ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ดิ้นอย่างรุนแรงผิวน้ำที่เคยเรียบนิ่งในตอนแรก พลันกระเพื่อมไหวเมื่อนางขยับ ลำคอของเซียวอวี้ก็ยิ่งแห้งผาก“เราถูกลูกธนูยิง ก็เพราะเข้าไปรับแทนเจ้า”สิ้นคำกล่าว คนที่อยู่ในอ้อมกอดพลันหยุดดิ้นตามคาด…เซียวอวี้ทนไม่ไหว จึงก้มลงไปจูบริมฝีปากของนาง“แม่ทัพน้อยของเรา เจ้าไม่ควรให้ความสำคัญกับบุญคุณมากเช่นนี้”……เฉินจี๋ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกกระโจมตลอดเวลา แอบได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาจากข้างใน——ลมหายใจอันหนักหน่วงของชายหนุ่ม เสียงอื้ออึงของหญิงสาวที่พยายามข่มกลั้นเอาไว้ในยามราตรีเงียบสงัด เขาเดินไปเดินมาอย่างกระสับกระส่ายหากไม่มีคำสั่งจากฝ่าบาทและพระนาง เขาก็ไม่กล้าเข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 481

    ณ ค่ายหนานต้า กองทัพใหญ่กำลังเดินทางกลับวังหลวงซุนเต๋อฟางพร่ำขอบคุณสวรรค์ ที่ไม่ปล่อยให้ฮ่องเต้ทรงสิ้นพระชนม์ในค่ายทหาร“กระหม่อมน้อมส่งฝ่าบาทและฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวอวี้ตอนมาขี่ม้า ตอนกลับเปลี่ยนเป็นนั่งรถม้าภายในห้องโดยสาร เขาปอกส้มให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยมือตนเอง เมื่อแกะออกก็ยื่นไปที่ปากนางเฟิ่งจิ่วเหยียนหลบหลีกด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“หม่อมฉันไม่กิน”เซียวอวี้เอ่ยเสริม “เราก็ไม่ชอบกินเช่นกัน มันเปรี้ยวมาก ดูเหมือนว่ารสชาติที่ถูกปากของฮองเฮากับเราจะคล้ายกัน...”เขายังเอ่ยไม่จบ จู่ ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็หยิบส้มบนโต๊ะนั้นขึ้นมา และยัดเข้าปากในทันทีเซียวอวี้ : ?เมื่อรู้ว่านางจงใจจะต่อต้านเขา นอกจากเขาจะไม่หงุดหงิด กลับรู้สึกสำราญใจเป็นพิเศษอย่างน้อยนางก็ไม่เย็นชาเหมือนคืนที่ผ่านมา“ฝ่าบาท มีจดหมายลับพ่ะย่ะค่ะ!” เฉินจี๋รายงานอยู่ด้านนอกเซียวอวี้ยื่นมือออกไป และหยิบจดหมายลับนั้นมาเฟิ่งจิ่วเหยียนมองไปทางเขา เขาก็เงยหน้าขึ้นมองนาง พร้อมกับยื่นจดหมายลับไปตรงหน้านางทันที“เจ้าอยากอ่านก่อนหรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเบือนหน้าหนี “งานราชกิจเป็นเรื่องสำคัญ ท่านอย่าทำเป็นล้อเล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 482

    ณ เมืองหลวงเฉินอ๋องส่งคนไปปล้นเสบียง มีหลักฐานความผิดอย่างแน่นหนารุ่ยอ๋องได้รับราชโองการลับจากฮ่องเต้ จึงนำเฉินอ๋องไปขังไว้ในคุกเทียนเหลาเฉินอ๋องตะโกนลั่นว่าถูกใส่ร้าย เป็นรุ่ยอ๋องที่ใส่ร้ายเขาเรื่องนี้กระทบถึงไทฮองไทเฮาทว่าถึงแม้ไทฮองไทเฮาจะทรงออกหน้า รุ่ยอ๋องก็ไม่ยอมประนีประนอมอีกด้านหนึ่ง เส้นทางขากลับของกองทัพใหญ่ออกมาจากเมืองซื่อสุ่ยแล้ว แต่โรงเตี๊ยมกลับหายาก จึงทำได้แค่ตั้งค่ายพักแรมตรงจุดนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนยอมนอนในรถม้าดีกว่าจะนอนร่วมเตียงกับเซียวอวี้หลายวันที่ผ่านมา เมื่อนางเห็นเขาก็จะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ทำให้รู้สึกอึดอัดใจยิ่งนักเซียวอวี้ไม่ได้บังคับนาง กลัวว่าหากเกินขีดความพอดีทุกอย่างจะพลิกผันในช่วงเวลาเป็นส่วนตัว เหล่าทหารต่างพูดคุยสนทนากัน“ฝ่าบาทกับฮองเฮาทรงดูเหมือนมีปัญหาระหองระแหงกันตลอดทาง นี่เป็นเพราะเรื่องใดกันแน่?” “ไม่รู้สิ หลายวันก่อนยังดี ๆ กันอยู่มิใช่หรือ?”ทหารคนหนึ่งหลังจากมองไปรอบ ๆ ก็เอ่ยกระซิบกระซาบ“ข้ารู้ เป็นเพราะฝ่าบาททรงทำเรื่องอะไรบางอย่างที่ผิดต่อฮองเฮา”คนอื่น ๆ ต่างมองมาทางเขา และเค้นถามว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 483

    ผัวะ!เฟิ่งจิ่วเหยียนต่อยออกไปหนึ่งหมัด เซียวอวี้ถึงกับขากรรไกรเคลื่อนเซียวอวี้ : !!!ถูกต่อยแล้วเขาก็ยังไม่รู้จักเข็ดหลาบคืนต่อมา เขาก็ทิ้งกระโจมไม่ยอมนอนอีก และหนีมานอนเบียดกับเฟิ่งจิ่วเหยียนทว่าคราวนี้เขาประพฤติตัวดี มือไม้ไม่เกะกะ ปากก็ไม่ขยับเขานอนนิ่ง ๆ อย่างสงบเฟิ่งจิ่วเหยียนถึงฝืนทนได้ทว่าผ่านไปไม่ถึงสองวัน ปัญหาเดิมของเขาก็กลับมาอีกแล้ววันนี้ พวกเขานอนค้างอยู่ที่สถานพักแรมต่อหน้าคนนอก พวกเขาเป็นสามีภรรยาที่รักกันดี นอนร่วมห้องเดียวกันหลังจากปิดประตู เฟิ่งจิ่วเหยียนก็นำที่นอนลงมาปูบนพื้นอย่างเงียบ ๆเซียวอวี้อุ้มนางขึ้นมาทันที“เราจะนอนบนพื้น เจ้านอนบนเตียง”เฟิ่งจิ่วเหยียนปฏิเสธทันทีทันใด “ท่านเป็นฮ่องเต้ สถานะสูงส่ง สมควรนอนบนเตียง...”เซียวอวี้เอ่ยหักล้าง“หากจะยึดตามสถานะ เราเป็นฮ่องเต้ เจ้าเป็นฮองเฮา พวกเราสมควรนอนเตียงเดียวกัน” เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงกับพูดไม่ออก “ในเมื่อท่านบอกว่าอยากนอนบนพื้น หม่อมฉันยกให้ท่านก็แล้วกัน”เซียวอวี้มองไปทางมุมกำแพง แววตาดูมืดมนหลังจากเข้านอน เซียวอวี้ก็นอนบนพื้นอย่างว่าง่าย ตราบใดที่เขานอนตะแคง ก็จะสามารถมองเห็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 684

    เจียงหลินจ้องมองอู๋เซียงตาเขม็ง--- บุรุษผู้นั้นที่มองดูแสนธรรมดา หากอยู่ท่ามกลางฝูงชนก็จะหาไม่พบทันที“ในเวลานั้น ครั้งแรกที่ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรอู่หลิน ในยุทธภพปรากฏหัวโจกโฉดชั่วอยู่สามคน อู๋เซียงก็คือลูกพี่ใหญ่ในกลุ่มของพวกเขา“พวกเขาเป็นศิษย์นอกของเส้าหลิน ทำความชั่วสารพัด ทั้งวางเพลิง ฆ่าคน ข่มขืน และปล้นสะดม เพื่อกำจัดทั้งสามคนนี้ กลุ่มพันธมิตรอู่หลินจึงตัดสินใจจะต่อสู้กันที่ภูเขาฉงหัว “ในการต่อสู้ครั้งนั้น ชาวพันธมิตรอู่หลินได้ร่วมมือกัน และสังหารคนโฉดชั่วได้สองคน ทว่าวิทยายุทธ์ของอู๋เซียงนั้นแข็งแกร่ง จึงหลบหนีไปได้“การต่อสู้ครั้งนั้นซูฮ่วนได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งไม่กี่วันต่อมา อู๋เซียงก็ลักพาตัวภรรยาที่เพิ่งแต่งงานของตงฟางซื่อไป...”แม้ผ่านมาหลายปี เมื่อเจียงหลินนึกถึงความทรงจำในช่วงนั้นอีก ก็ยังรู้สึกขนลุกเขาต่างจากคนเหลาะแหละในเวลาปกติ หลังจากกลั้นหายใจไม่กี่อึดใจ ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“เขาแยกร่างฮูหยินตงฟางออกเป็นหลายส่วน ในแต่ละวันจะส่งมาให้หนึ่งชิ้น จนทำให้ตงฟางซื่อแทบจะคลุ้มคลั่ง“ภายหลัง ซูฮ่วนหาอู๋เซียงจนพบ ไม่มีผู้ใดรู้รายละเอียดการต่อสู้ระหว่างซูฮ่วนก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 683

    คนกลุ่มหนึ่งตะโกนเสียงดัง“ให้เขาดู! ให้เขาดู!”“บ้าเอ๊ย พวกเราตั้งหลายคนเดิมพันให้เขาชนะ หากเขายอมแพ้ พวกเราก็ต้องเสียเงินย่อยยับ!”“พาติงหยวนเอ๋อร์ออกมา ข้าก็อยากดูเช่นกัน หญิงสาวผู้นั้นมีชีวิตอยู่หรือตายกันแน่!”คำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทำให้ผู้คนเริ่มกระวนกระวายผู้ประกาศจึงรีบเกลี้ยกล่อมพวกเขา“ทุกท่าน ทุกท่าน! อดทนหน่อยอย่าเพิ่งใจร้อน!“ข้าขอรับรองกับพวกท่าน คนจะต้องมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน...”เฟิ่งจิ่วเหยียนดูนิ่งเฉยและแน่วแน่“หากไม่เห็นติงหยวนเอ๋อร์ ข้าก็ล้มเลิกการประลอง”หลังจากนางประลองจบแล้วสองรอบ คนที่เดิมพันว่านางชนะก็ยิ่งมีมากขึ้น หากตอนนี้นางถอนตัวออกจากการประลอง จะทำให้ผลประโยชน์ของพวกเขาเสียหายพวกเขาจึงตะโกนพร้อมกัน“พาติงหยวนเอ๋อร์ออกมา!”“ใช่ มิเช่นนั้นพวกเราจะขอเงินคืน!!!”เสียงตะโกนของผู้คนเกือบพันคนในสนาม ทำให้สีหน้าท่าทางของผู้ประกาศดูลนลานเขาออกจากสนามอย่างเงียบ ๆ และเข้าไปทางประตูลับ เพื่อไปขอคำชี้แนะผ่านไปไม่นาน เขาก็ออกมา“ได้ นายท่านของเราบอกว่า ให้พาติงหยวนเอ๋อร์ออกมาก่อนได้ เพื่อให้ทุกท่านได้เห็นว่า นางมีชีวิตอยู่หรือตาย! ทว่าทุกท่านต้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 682

    เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เอาแต่หลบเพื่อป้องกันตัวอีกต่อไป และเปลี่ยนมาเป็นโจมตีแบบประชิดทันใดนั้นก็เห็นนางทำเหมือนกับ “ค้างคาวเลือด” ที่ชื่อเกาหยวนก่อนหน้านี้ ปีนขึ้นไปบนกรงเหล็กและพลิกกลับลงมาหมัดของคู่ต่อสู้โจมตีมา ทว่ากลับถูกนางคว้าข้อมือเอาไว้ได้ โดยใช้น้ำหนักของทั้งร่างกายกดลงไปเต็มแรง และทำลายวิชาหมัดมวยของคู่ต่อสู้ ในเวลาเดียวกัน ยังทำให้กระดูกข้อมือของเขาหลุดออก จากนั้นแค่บิดเบา ๆ ก็พลิกเส้นไหมสังหารกลับไปคล้องที่คอของเขา พร้อมกับออกแรงรัดเอาไว้...ในชั่วพริบตา สายตาของผู้ชมที่อยู่ข้างสนามต่างจับจ้องตาไม่กะพริบ รอว่าศีรษะคนจะหล่นลงพื้นไม่ว่าจะเป็นศีรษะของผู้ใดก็ได้ทั้งนั้น!ทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบมองผู้คนที่อยู่ข้างสนามแวบหนึ่ง นางแค่รัดคอคู่ต่อสู้ให้หมดสติชั่วคราวเท่านั้นข้างสนามมีเสียงแสดงความไม่พอใจดังขึ้นมา“ฆ่ามันเลย! ฆ่ามันเลย!”“บ้าเอ๊ย! ข้าพนันว่าเจ้าชนะ มิใช่ให้เจ้ามาทำตัวเป็นพระโพธิสัตว์!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สนใจคนพวกนั้น และมองไปทางผู้ประกาศบนสนามประลองยุทธ์อย่างเฉยชา“คนต่อไป”ผู้ประกาศมองดูนาง และเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งเขาประกาศว่า: “ผู้รั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 681

    หลังจากที่เหลิ่งเซียนเอ๋อร์ถูกคนรับตัวไว้ นางก็รีบหันกลับมาในทันทีภายใต้สถานการณ์ที่มิรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูหรือเป็นมิตร นางจึงเตรียมการป้องกันอย่างระแวดระวัง โดยจะใช้มือแทนมีดทว่า วินาทีที่หันกลับมา และเห็นผู้ที่มา มือของนางก็คลายลงทันที...ซูฮ่วน! เป็นเขาได้อย่างไร!เฟิ่งจิ่วเหยียนประคองหลังของนาง และช่วยให้นางลงมายืนบนพื้นอย่างมั่นคงขอบตาของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์พลันเปลี่ยนเป็นแดงก่ำนางนึกไม่ถึงว่า ซูฮ่วนจะทะยานลงมาจากฟ้าอย่าว่าแต่นางเลย เซียวอวี้กับเจียงหลินก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่า เดิมทีคนที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา จะหายไปในชั่วพริบตา!เซียวอวี้รีบกระโดดตามลงมา และเดินมาอยู่ด้านข้างของเฟิ่งจิ่วเหยียนธูปบนเวทีเพิ่งจะถูกเผาไหม้ไปเพียงครึ่งเดียวทว่าบรรดาคนที่ท้าประลองเหล่านั้นราวกับมวลน้ำมหาศาล ราวกับตั๊กแตนก็มิปานพวกเขามิอาจถอยหนีได้คนของสำนักเฉวียนเจินเหล่านี้ก็มิอาจขวางทางพวกเขาได้ และคนส่วนใหญ่ก็ได้รับบาดเจ็บแล้วจักต้องยับยั้งทั้งหมดนี้!เฟิ่งจิ่วเหยียนปล่อยเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ และทะยานขึ้นไปบนเวทีโดยมิสนใจการขัดขวางของเซียวอวี้ดวงตาคู่งามของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์เบิกกว้าง มิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 680

    เฟิ่งจิ่วดหยียนถลึงตาใส่เจียงหลินอย่างเย็นชา “พูดเหลวไหลอะไร?”เจียงหลินกลัวว่านางจะลงไม้ลงมือ จึงเดินอ้อมไปอยู่ข้าง ๆ เซียวอวี้ล่วงหน้า“มีอะไรให้ปฏิเสธ? เรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ ของชายหนึ่งหญิงสองอย่างเหลิ่งเซียนเอ๋อร์กับหร่วนฝูอวี้ มีใครไม่รู้บ้าง?“หากไม่ใช่เพราะหร่วนฝูอวี้เอาเรื่องที่อยู่ของเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ไปบอกเจ้าสำนักเฉวียนเจิน จนนางถูกเจ้าสำนักจับตัวกลับไป เจ้าก็คงได้สุขสำราญพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว!“คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ นางอายุน้อยขนาดนี้ ก็ได้เป็นรองเจ้าสำนักแล้ว!”เซียวอวี้หน้าอึมครึม มือกำหมัดแน่นชายหนึ่งหญิงสองงั้นหรือแม่ทัพน้อยของเขา ช่างเนื้อหอมจริง ๆหากนางเป็นบุรุษจริง คงเป็นของคนอื่นไปนานแล้วไม่สิ…หากนางเป็นผู้ชาย เขาก็คงไม่ใส่ใจแล้ว!เกือบจะเคลิ้มไปด้วย เซียวอวี้จึงตั้งสติเฟิ่งจิ่วเหยียนกระแอมไอแล้วเอ่ยเสียงต่ำ“เจียงหลิน ชื่อเสียงของคนอื่นเสียหายเพราะเจ้าหมดแล้ว ถ้าเจ้ายังปากมากอีก ข้าจะฉีกมันทิ้งซะ”เจียงหลินรีบหุบปากทันทีแต่ในใจก็ยังไม่ยอมเขาไม่ได้พูดอะไรผิดเสียหน่อยตอนนั้นเหลิ่งเซียนเอ๋อร์ คิดจะหนีออกมาจากสำนักเฉวียนเจินเพราะซูฮ่วนด้วยซ้ำ นางใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 679

    ขณะที่หนึ่งก้านธูปกำลังจะดับ ลูกศิษย์สำนักเฉวียนเจินคนหนึ่งชักกระบี่ที่เสียบอยู่ข้างเอวออก แล้วขึ้นไปบนเวทีนี่อยู่ในความคาดหมายของทุกคนเจียงหลินพอจะรู้จัก จึงพูดแนะนำว่า“นั่นคือหนึ่งในศิษย์ทั้งหกของสำนักเฉวียนเจิน ผู้มีวิชา ‘กระบี่ล่าชีวิต’——ฟางหมิ่น วิชากระบี่ของนางไร้เงาไร้รูปร่าง รวดเร็วดั่งสายลม”เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็เคยได้ยิน ‘วิชากระบี่ล่าชีวิต” นี้มาเหมือนกันจุดเด่นคือการโจมตีอย่างว่องไว รูปร่างและพรสวรรค์ของนักกระบี่ล้วนเป็นตัวกำหนดในการฝึกฝนวิชานี้เซียวอวี้ไม่เห็นด้วยกับฟางหมิ่น พูดเสียงเย็นชา“ไม่สามารถนำอาวุธขึ้นประลองได้อยู่ดี ต่อให้กระบี่เร็วแค่ไหนแล้วจะมีประโยชน์อะไร”เจียงหลินหมดหนทางจะช่วย“คงได้แต่หวังว่า เกาหยวนจะเป็นคนทะนุถนอมผู้หญิงล่ะนะ”ฟางหมิ่นก้าวเดินอย่างมั่นคงไม่เร่งรีบ ยามที่เข้ามาในกรง ศิษย์คนอื่นในสำนักเฉวียนเจินก็ข่มขวัญคู่ต่อสู้แทนนาง“ศิษย์พี่ ฆ่าไอ้โจรระยำนั่นซะ!”“ศิษย์น้อง ตั้งรับเป็นหลัก โจมตีเป็นรอง!”ฟางหมิ่นใส่ผ้าคลุมหน้า แม้นไม่มีกระบี่คู่ใจอยู่ในมือ ดวงตาทั้งสองข้างก็ยังทอแววเด็ดเดี่ยวมีพลังภายในกรงเหล็ก เกาหยวนมองประเมินนางด้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 678

    เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นกับตา ในกรงนั้น คนตัวผอมกัดหน้าของคู่ต่อสู้จนเนื้อหลุด ไม่ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นอย่างไร เขาก็ขี่อยู่บนตัวของอีกฝ่ายไม่รามือกัดหน้าไม่พอ ยังกัดหู จมูก รวมถึงควักลูกตาของอีกฝ่ายเป็น ๆ อย่างต่อเนื่อง…ภาพเหตุการณ์นองเลือด ดำเนินในเวลาสั้น ๆ เพียงสองถ้วยชาทว่า เสียงโห่ร้องข้างสนามกลับดังขึ้นมาไม่ขาดสาย เหมือนคลื่นทะเล  กลบพวกเฟิ่งจิ่วเหยียนจนมิดนางพลันหูชาในชั่ววินาทีนั้น ไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้างได้ยินเพียงเสียงปรบมือและโห่แซวอย่างบ้าคลั่งเซียวอวี้เคยเห็นความโหดร้ายนองเลือดของสนามรบ และเคยเห็นภัยอดยากขายลูกกิน ทั้งยังเคยเห็นเหล่าคนร้ายในเจดีย์เก้าชั้นกินศพซึ่งคนเหล่านั้นทำเพื่อความอยู่รอด สามารถพูดได้ว่า ถูกบีบจนไร้ทางเลือกแต่ในตอนนี้ คนตัวผอมกัดคู่ต่อสู้สด ๆ  เพียงเพื่ออยากชนะสิ่งที่ทำให้เขาทำตัวไม่ถูก คือผู้ชมเหล่านั้นพวกเขาหล่อหลอมให้คนชอบฆ่าแกงเป็นชีวิตจิตใจเซียวอวี้จับมือเฟิ่งจิ่วเหยียนแน่นกว่าเดิมไม่ว่าอย่างไร ก็ทนมองนางเข้าไปเสี่ยงในสถานการณ์อันตรายต่อหน้าต่อตาไม่ได้ติงหยวนเอ๋อร์ พวกเขาจะไม่ช่วยแล้ว!หยางเหลียนซั่ว อยากไปไหนก็ไปเถิด!เซียวอวี้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 677

    บนเวทีประลอง ชายหนุ่มรูปร่างเตี้ยตะโกนเสียงดัง“ทุกท่าน ก่อนที่การประลองในค่ำคืนนี้จะเริ่มขึ้น มีข้อกำหนดอยู่ไม่กี่ข้อ ข้อแรก เมื่อใดที่ขึ้นมาบนเวทีประลอง ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย เรารู้จักแค่แพ้กับชนะ กฎที่นี่ ไม่มีถอนตัวกลางคัน!“ข้อสอง การประลองเป็นแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ห้ามพกพาอาวุธลงสนาม อาศัยความสามารถจริง ๆ เท่านั้น“ส่วนข้อสาม…”เสียงพูดมาถึงตรงนี้ ชายหนุ่มก็ส่งสัญญาณไปทางข้างบนต่อมา ก็มีเสียงต่อสู้ดังขึ้นมาจากชั้นเจ็ดทว่าครู่ต่อมา บุรุษชุดดำก็ถูกผลักลงมาจากที่สูง หล่นลงบนพื้นเวทีประลองอย่างรุนแรง จนเลือดกระเด็น!ชายหนุ่มรูปร่างเตี้ยไม่สะทกสะท้าน พูดกับทุกคนต่อว่า“ส่วนข้อสาม  คนของทางการ ห้ามเข้ามาภายในเด็ดขาด หากถูกจับได้ ตายสถานเดียว! ผู้ใดแจ้งเบาะแส  จะได้รับรางวัลตอบแทน!“พวกเจ้า มาลากเจ้าหน้าที่ทางการผู้นี้ออกไปให้หมาจรจัดกิน!”เขาชี้ไปยัง บุรุษชุดดำที่ถูกโยนตกลงมาเมื่อครู่ผู้ชมต่างโห่ร้อง“ดี!”“ดี!”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันอึมครึม ทอดมองไปยังศพของเจ้าหน้าที่ทางการผู้นั้นแม้แต่เจ้าหน้าที่ทางการยังกล้าฆ่า! เซียวอวี้ขมวดคิ้วแน่น เมืองไท่ชางที่ขึ้นชื่อเรื่องความ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 676

    เจ็ดวันต่อมาณ เมืองไท่ชางกลุ่มของเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าพักในโรงพักแรมทันทีที่เข้ามาในโรงพักแรม นางก็เห็นคนคุ้นตาคนผู้นั้นอยู่ในชุดไหมสีแดง กำลังพูดคุยกับคนที่นั่งร่วมโต๊ะอย่างสนุกสนาน ขณะที่อีกฝ่ายบังเอิญเงยหน้าขึ้นมา ก็จำหน้ากากเงินของนางได้ เจียงหลินสวมใส่ชุดแดง ดูสะดุดตาท่ามกลางผู้คนอย่างมากเฟิ่งจิ่วเหยียนก้าวถอยหลังโดยพลันทำไมถึงมาเจอเจ้านี้อีกแล้ว นี่มันบุพเพอาละวาดชัด ๆ ให้ตายสิ…ชั่วขณะนั้น เหมือนเจียงหลินจะเห็นคนไร้หัวใจที่ทอดทิ้งตัวเอง พลันลุกขึ้นมา ตะโกนท่ามกลางผู้คนว่า “ซูฮ่วน! ข้าเห็นเจ้าแล้ว! เจ้าไม่ต้องหลบ!”เฟิ่งจิ่วเหยียน: นางไม่ได้หลบเสียหน่อยเจียงหลินเดินพรดพราดเข้ามา จับแขนของนางเอาไว้ “เจ้ากับซ่งหลีนี่แน่จริง ๆ ไปไหนก็ไม่คิดจะบอกกล่าว รู้ไหมว่าข้าตามหาพวกเจ้านานแค่ไหน!”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความน้อยใจ ความจริงแล้ว เขาเองก็ไม่ได้มุ่งมั่นตามหาพวกเขาเหมือนกันเขามีฐานะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเจียง จึงมีเรื่องให้จัดการมากมายในชีวิตประจำวัน ที่กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา ก็แค่อยากให้ซูฮ่วนรู้สึกผิด และช่วยเบิกทางค้าขายให้เขาขณะที่กำลังพูด เขาพลันรู้สึกได้ถึงไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status