Share

บทที่ 434

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
“ฝ่าบาท!” เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องการแก้ไขความคิดที่ผิดของเซียวอวี้ ทว่าเขากลับออกไปแล้ว

นางยืนอยู่ที่เดิม ทั้งตัวรู้สึกเย็นวาบ

เหตุผลที่นาง “กลัว” หร่วนฝูอวี้ ก็เพราะความสามารถในการรบเร้าของหร่วนฝูอวี้ผู้นั้น ไม่ว่านางจะปฏิเสธด้วยสีหน้าเมินเฉยอย่างไรก็ไล่เขาไม่ไป

ตอนนี้เซียวอวี้ก็กลายเป็นเช่นนั้นไปแล้ว

ทว่านางมั่นใจว่า จักรพรรดิที่มีชีวิตสุขสบาย คงจะทำอะไรไม่สำเร็จเป็นแน่

กลัวว่าแม้แต่เครื่องครัวเหล่านั้นก็อาจจะไม่รู้จักด้วยซ้ำ

เฟิ่งจิ่วเหยียนหันมาสนใจกับเทศกาลบูชาเทพธิดาบุปผาต่อ นี่ถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญ

อาศัยงานเทศกาลยิ่งใหญ่ครั้งนี้ เพื่อคลี่คลายผลกระทบทางลบ ที่เกิดจากการตายของเมิ่งเฉียวม่อ

หนึ่งชั่วยามต่อมา

เซียวอวี้กลับมาแล้ว

ด้านหลังเขามีองครักษ์หลายคนติดตามมา ในมือของแต่ละคนถือจานอาหารมาคนละหนึ่งใบ พร้อมกับวางเรียงลงบนโต๊ะอย่างพร้อมเพรียง

กับข้าวห้าอย่างและน้ำแกงหนึ่งอย่าง มีเนื้อมีผัก หน้าตาดูดีและมีกลิ่นหอม

เฟิ่งจิ่วเหยียนประหลาดใจ และมองไปทางเซียวอวี้

อาหารเหล่านี้คงไม่ใช่เขาทำทั้งหมดหรอกกระมัง?

บนตัวของเซียวอวี้ยังมีกลิ่นควันไฟติดอยู่ เขาสั่งให้เหล่าองครักษ์ถอยออก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (18)
goodnovel comment avatar
SuttiDa PorPla
ตอนนี้ถึงตอนไกนแล้วคะใครรู้บ้าง
goodnovel comment avatar
Naugh Ty Meaw
จากที่หมั่นไส้อยากหยุมหัวอิฮ่องเต้ ตอนนี้ทั้งสงสารทั้งเอ็นดูมาก มีความเป็นหนุ่มคลั่งรักทั้งยอมเปิดใจสารภาพความจริง จิ่วเหยียนคือหินที่แท้ทรู น้ำหยดลงหินๆ บอกอย่าเสียเวลา ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะเปิดใจให้อิพี่สักที
goodnovel comment avatar
tiko_decor
รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้วนะเพคะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 435

    “ด้านนอกประตูวังมีชาวบ้านจำนวนมาก รวมถึงทหารรวมตัวกันอยู่ พวกเขาตีกลองร้องทุกข์ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแม่ทัพน้อยเมิ่ง ทั้งยังขอร้องให้ฝ่าบาททรงถอดถอนฮองเฮา” เฉินจี๋บรรยายสถานการณ์ด้านนอกพระราชวัง ดูท่าทางสงบนิ่ง แววตาของเซียวอวี้เคร่งขรึมดุดัน และเยือกเย็นราวกับหิมะในฤดูเหมันต์อันเหน็บหนาว“คนที่แอบก่อความวุ่นวายเหล่านั้น มิใช่ถูกคุมตัวไปสอบสวนหมดแล้วหรือ” เฉินจี๋ตอบว่า “ใช่พ่ะย่ะค่ะ ทว่าช่วงสองวันที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะยังมีคนอื่น...”เซียวอวี้ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เปิดทางย่อมดีกว่าปิดกั้น เปิดทางก็ยังจำเป็นต้องสืบหาต้นตอ คนเหล่านั้นที่อยู่นอกวังก็แค่คนโง่เขลาที่ถูกหลอกใช้ประโยชน์ ปล่อยให้พวกเขาก่อความวุ่นวายไป ยิ่งก่อความวุ่นวายรุนแรงเท่าใด ก็ยิ่งมีช่องโหว่มากขึ้นเท่านั้น”“ท่านตรัสถูกต้อง กระหม่อมจะไปเตรียมการทันที!” เซียวอวี้ยืนเอามือไพล่หลังตรงชายคาระเบียง สายตามองไปทางระยะไกลภายในราชสำนักของหนานฉี มีมือมืดที่เขาไม่รู้ซ่อนตัวอยู่มากมายเริ่มจากใส่ร้ายเมิ่งสิงโจวว่ายึดกองกำลังทหาร ไปจนถึงการขโมยแผนที่ป้องกัน คนเหล่านั้นที่แสดงตัวออกมาก็เป็นแค่พวก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 436

    ณ พระราชวังเฟิ่งจิ่วเหยียนได้รับข่าวจากอู๋ไป๋ว่า ร้านขายผ้าไหมทางเมืองหลวงนี้สืบค้นจนหมดแล้ว ทั้งยังมีสมุดรายชื่อคนที่ซื้อผ้าไหมลายดอกในช่วงหกปีที่ผ่านมาด้วยสมุดรายชื่อนี้ผ่านการคัดกรองแล้วคนที่ยืนยันชัดเจนว่าไม่ใช่คนวางยาพิษ จะมีการทำเครื่องหมายไว้หมดแล้วพวกเขาส่วนใหญ่เป็นคนในเมืองหลวงที่เกิดและโตที่นี่ พร้อมกับมีประวัติที่ดีส่วนที่เหลือ ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าเร่ที่เดินทางผ่านไปมาไม่มีที่อยู่แน่ชัด จึงจำเป็นต้องสืบสวนเพิ่มเติมเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ในวังไม่อาจทำสิ่งใดได้มากนัก ดังนั้นจึงคิดว่าวันพรุ่งนี้จะออกไปนอกวังสักครั้งในขณะนั้นเอง ซุนหมัวมัวก็หอบดอกไม้เป็นกองเดินเข้ามา“ฮองเฮา ดอกไม้เหล่านี้จำเป็นต้องใช้ในเทศกาลบูชาเทพธิดาบุปผา ท่านลองดูสิเพคะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“เจ้าดูแล้วก็จัดการได้เลย”ซุนหมัวมัวรู้สึกแปลกใจที่ได้รับความโปรดปราน “เพคะ บ่าวจะทุ่มเทเต็มที่ จะช่วยฮองเฮาจัดเตรียมงานเทศกาลบูชาเทพธิดาบุปผาครั้งนี้ให้ออกมาดี!”ไม่นานนัก พระสนมเจียและนางสนมคนอื่น ๆ ก็มาถึง“ฮองเฮา หลายวันมานี้นอกวังมีข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับท่านมากมาย ทางราชสำนักถึ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 437

    เฟิ่งหมิงเซวียนคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง “ตึง”“ฝ่าบาทโปรดอภัยด้วย!”สีหน้าของเซียวอวี้ดูซีดเผือดคนโง่เขลาผู้นี้ นึกไม่ถึงว่าจะให้ของที่ขัดตาเช่นนี้กับเขา!หลิวซื่อเหลียงที่รับใช้อยู่ด้านข้างฮ่องเต้เกิดความสงสัยอย่างมาก นั่นคือสิ่งใดกันแน่ ถึงทำให้ฮ่องเต้ทรงกริ้วเช่นนี้?เฟิ่งหมิงเซวียนเหงื่อตกจบเห่!ดูเหมือนเขาจะทำเรื่องเสียหายอีกแล้วทว่าหากเป็นบุรุษทั่วไปก็ไม่น่าจะปฏิเสธสมุดเล่มนี้เฟิ่งหมิงเซวียนถูกอี๋เหนียงหลินเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ ตั้งแต่เล็กจึงรู้จักวิธีใช้เล่ห์เหลี่ยมและประจบประแจงเพื่อหลบเลี่ยงการถูกลงโทษเขายังสังเกตเห็นว่า ฮ่องเต้ทรงดูเหมือนชอบใจที่ได้ยินเขาเรียกว่าพี่เขยดังนั้นเขาจึงโขกหัวไปด้วย และเอ่ยด้วยท่าทางน่าเวทนาไปด้วย“เสด็จพี่เขย ท่านอย่าทรงโมโหเลย กระหม่อมผิดไปแล้ว กระหม่อมไม่กล้าทำอีกแล้ว...”เซียวอวี้ได้ยินคำว่าพี่เขยบ่อย ๆ ความโมโหก็เริ่มคลายลงยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็ใช่ว่าเป็นความผิดหนักหนาอะไรที่จะให้อภัยมิได้เพียงแต่ให้สิ่งที่เขาไม่สมควรให้เท่านั้น“เราควรควบคุมความประพฤติเจ้าแทนฮองเฮา ทว่า เห็นแก่เจ้าที่ทำผิดครั้งแรก เราก็จะยึดของสิ่งนี้ไว้!

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 438

    สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนชะงักงัน สันหลังเหยียดตรง และไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆมือข้างหนึ่งของนางถูกเซียวอวี้กุมเอาไว้เมื่อรู้ว่าเขาคิดจะทำสิ่งใด นางจึงรีบแกะมือของเขาออกทันทีเซียวอวี้พลันเปลี่ยนเป็นจับคางของนาง ทำท่าเหมือนต้องการจะจูบนางนางรีบถอยหลบทันที ทว่ากลับเห็นเขาหยุดนิ่ง และส่งยิ้มมาให้นางในรอยยิ้มนั้นแฝงทั้งการหยอกล้อและการเย้าแหย่“เราคิดว่าเจ้าไร้ยางอายถึงขั้นว่าไม่หวาดกลัวสิ่งใดเลย ทำไม ก็เข้าใจเป็นอย่างดีมิใช่หรือ? แม่ทัพน้อย...ไม่ใช่ประสบการณ์โชกโชนหรอกรึ”นิ้วเรียวยาวของเขาเกี่ยวคางของนางให้ยกขึ้นเบา ๆ เผยให้เห็นส่วนโค้งของลำคอ เขาจูบลงไปเบา ๆ บนคอของนางโดยไม่ทันตั้งตัวแผ่นหลังของเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกชาขึ้นมาทันที“ปล่อย...”เซียวอวี้คว้าเอวของนางไว้ ทันใดนั้นพลันก้มศีรษะลงไปที่ซอกคอของนาง“มันทรมานมาก ขอเราพักหน่อยเถอะ” ดูเหมือนคนที่เหนื่อยล้าอย่างเต็มที่ผู้นี้ พบเจอสถานที่ที่ได้พักผ่อนอย่างสงบ ทั้งตัวรู้สึกผ่อนคลายทั้งดูเหมือนสัตว์ป่าที่ก่อนหน้ายังดุร้าย ตอนนี้กลับเชื่องลง และขดตัวหมอบอยู่ข้าง ๆ ขาเจ้านาย ดูสงบนิ่งกระทั่งว่านอนสอนง่าย ผ่านไปไม่นา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 439

    ณ ตำหนักซินฮุ่ยจิ้งเฟยสีหน้าดูคร่ำเคร่ง ไม่อ่อนโยนและสุขุมเหมือนที่ผ่านมานางขยี้ดอกไม้ตูมในมือจนป่นปี้“ได้ยินข่าวแล้วหรือไม่”ชิวหงก้มหน้าก้มตา รับรู้ถึงความโกรธของพระสนม พร้อมเอ่ยอย่างระวังตัว“แม้ชาวบ้านจะตีกลองร้องทุกข์ เพื่อให้ถอดถอนฮองเฮา ทว่าฝ่าบาท...”นางแอบเงยหน้าขึ้น เหลือบมองดูสีหน้าของจิ้งเฟย “ฝ่าบาททรงคัดค้านความเห็นของฝูงชน ไม่ทำตามใจราษฎร”จู่ ๆ จิ้งเฟยก็ยิ้มขึ้นมาทันทีรอยยิ้มของนางดูอ่อนโยนเป็นที่สุด“ฝ่าบาททรงต้องการจะปกป้องฮองเฮาจริง ๆ”“พระนาง พวกเราควรทำอย่างไรดี?”จิ้งเฟยมองออกไปด้านนอก พระอาทิตย์ตกแล้ว ราตรีกำลังมาเยือน“ฝ่าบาททรงคิดจะปกป้องฮองเฮา ก็ต้องดูว่าชาวบ้านกับเหล่าทหารจำนวนมหาศาลจะเห็นด้วยหรือไม่”นางรอได้ การตายของแม่ทัพน้อยเมิ่ง ยังไม่กระจายเป็นวงกว้างอย่างเต็มที่อย่างน้อย ชายแดนเหนือและค่ายทหารเป่ยต้าทางนั้นก็ยังไม่ได้รับรู้ข่าวนั่นคือทหารทั้งหมดของเมิ่งเฉียวม่อทันทีที่พวกเขาก่อความวุ่นวาย ชายแดนเหนือจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมฮ่องเต้ทรงไม่มีทางนิ่งเฉยโดยไม่แยแส......ณ ตำหนักหย่งเหอประมาณยามจื่อ เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงได้กล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 440

    ในช่วงบ่ายขันทีได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ ให้ไปตำหนักซินฮุ่ยเพื่อประกาศราชโองการชิวหงตามจิ้งเฟยไปรับราชโองการด้วย โดยคิดว่าจะต้องมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นทว่าไม่นานนัก สีหน้าของทั้งสองคนก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึงและตื่นตระหนก “...จิ้งเฟยถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ยกเลิกอำนาจในการช่วยควบคุมวังหลังทั้งหกตำหนัก ลดลงมาเป็นกุ้ยเหริน นับแต่วันพรุ่งนี้ให้ย้ายออกจากตำหนัก!”“เป็นไปไม่ได้!” ชิวหงตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว “ฝ่าบาททรงไม่มีทางทำเช่นนี้กับพระนาง!”พระสนมไม่ได้ทำผิดอันใด เหตุใดจึงถูกถอดถอน!จิ้งเฟยยังคงวางตัวเหมาะสมตามชาติตระกูลสูงศักดิ์ ฝืนยิ้มพร้อมกับรับราชโองการ และขอบพระทัยฝ่าบาทอย่างนอบน้อมหลังจากขันทีที่มาประกาศราชโองการผู้นั้นกลับไป นางถึงได้นั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างโดยทันที ทั้งจ้องมองบนพื้นด้วยแววตาหม่นหมอง และในมือยังกุมราชโองการนั้นไว้แน่น ชิวหงจิตใจว้าวุ่น“พระนาง นี่เกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่?“เห็นชัดว่าฝ่าบาททรงโปรดปรานท่าน...เขาจะถอดถอนตำแหน่งเฟยของท่านได้อย่างไร!”เจ้านายรุ่งเรืองก็รุ่งเรืองกันหมด เจ้านายตกต่ำก็ตกต่ำกันหมด นางยิ่งร้อนใจกว่าจิ้งเฟยเสียอีกจิ้งเฟยยังคงนิ่ง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 441

    “ฮองเฮาเพคะ...” เหลียนซวงกลับมาแล้วภายในใจของเหลียนซวงรู้สึกซับซ้อนยิ่งนักนางที่มิอาจทำตามแผนการหลบหนีที่ฮองเฮาสั่งการไว้ได้ กลัวว่าตนเองจักเป็นตัวถ่วงให้กับฮองเฮาทว่า นางยังอยากรั้งอยู่คอยรับใช้ข้างกายฮองเฮา ทั้งยังอยากจะอยู่เผชิญหน้าปัญหามากมายกับฮองเฮาเช่นนี้“ฮองเฮาเพคะ ฝ่าบาทท่าน…” เหลียนซวงที่อยากจะพูดถึงเรื่องขององครักษ์เงาขึ้นมานั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า: “ข้ารู้แล้ว”เซียวอวี้ย่อมไม่มีทางนำความโกรธของตนเองไปลงที่เหลียนซวงเพียงเพราะเรื่องที่นางปกปิดสถานะตัวตนของตนเองอย่างแน่นอน ฉะนั้นแล้ว หากให้เหลียนซวงอยู่ในวังหลวงต่อไปก็คงจะมิเป็นปัญหาอันใดนักเหลียนซวงรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ยิ่งนักนางได้แต่ก้มหน้าก้มตาลง “หากว่าบ่าววิ่งไวกว่านี้...”“นี่หาใช่ความผิดของเจ้าไม่” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉนเมย ก่อนจะมองไปยังองครักษ์ที่อยู่ด้านนอกตำหนักนั่นคือคนของเซียวอวี้ และยังเป็นคนที่ส่งตัวเหลียนซวงกลับมาอีกด้วยหลังจากที่ซุนหมัวมัวรู้ว่าเหลียนซวงกลับมาที่วังแล้วนั้น ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนักหากแม่นางผู้นี้กลับมา เช่นนี้ฮองเฮาก็ม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 442

    คุกเทียนเหลาภายในห้องทรมาน พลันมีเสียงกรีดร้องดังออกมา“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมหาได้...หาได้ทรยศต่อแว่นแคว้นไม่! มิได้มีผู้ใดมาชี้นำกระหม่อม กระหม่อมทำทั้งหมดก็เพื่อยุทธภพของแคว้นหนานฉี...อ๊าก! กระหม่อมรู้สึกจากใจว่าท่านแม่ทัพน้อยเมิ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ในเรื่องนี้!”“ฝ่าบาท กระหม่อมก็เป็นผู้บริสุทธิ์เช่นกัน...”ผู้ที่ถูกมัดติดเก้าอี้ไม้นั้น ล้วนแต่เป็นผู้ที่คอยกระทำการปลุกปั่นผู้คนหลังจากที่เมิ่งเฉียวม่อตายไปบรรดาเหล่าขุนนางที่กระทำกล่าวหาว่าฮ่องเต้ทำร้ายขุนนางผู้ภักดีนั้น ล้วนแต่เป็นขุนนางที่โง่เง่าหูเบา ทว่า ผู้ที่ชักใยคอยปลุกปั่นอยู่เบื้องหลังที่แท้จริง ทั้งยังเป็นผู้ที่กระจ่ายข่าวลือออกไปนั้น คือผู้กระทำผิดที่แท้จริงต่างหากในเมื่อตามหาพวกมันพบแล้ว ย่อมไม่มีทางปล่อยคนเหล่านี้ไปง่าย ๆ อย่างแน่นอนทำให้ข้าราชบริพารราษฎรมากมายในหนานฉีต้องเกิดความโกลาหลเช่นนี้ มีความเป็นไปได้ว่าพวกมันจักต้องร่วมมือกับคนนอกแคว้นอย่างแน่นอนทว่า ถึงแม้จะทรมานเพื่อเค้นถามความจริงออกมาหลายวันแล้วก็ตาม พวกมันก็ยังคงปากแข็งอยู่วันนี้ เซียวอวี้จึงเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเองเฉินจี๋โค้งกายคำนับมือ พล

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 958

    เฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดตามองเหล่าทหารใหม่หลายร้อยนายนั้น แล้วหันไปสั่งการอู๋ไป๋“คะแนนสอบกลศึกของทหารเหล่านี้ ไม่ให้แต้มแม้แต่แต้มเดียว”อู๋ไป๋ยืดคอตั้งตรง เผยให้เห็นความหยิ่งยโสอยู่หลายส่วน“พ่ะย่ะค่ะ!”ทหารหลายร้อยนายเหล่านั้นเบิกตากว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมการสอบประเมินทหารใหม่ที่เพิ่งเข้าค่ายทหารนั้น ครอบคลุมไปถึงกลศึก การขี่ม้ายิงธนู และการวาดแผนที่เป็นต้นคะแนนสอบที่สูงหรือต่ำนั้น ใช้ตัดสินว่าพวกเขาจะได้เป็นทหารทัพไหนทัพกลางดีที่สุดทัพซ้ายและขวา สองทัพนี้รองลงมาที่แย่ที่สุดคือกองเสบียง กองดูแลอาวุธ ที่อนาคตไม่มีโอกาสได้เข้าสู่สนามรบยามนี้แค่คำพูดเดียวของฮองเฮา ก็ทำให้คะแนนกลศึกของพวกเขากลายเป็นศูนย์ ใช้อำนาจรังแกคนชัด ๆ!“ฮองเฮา เพราะเหตุใดพ่ะย่ะค่ะ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้อธิบายให้มากความ“ในเมื่อรู้ว่าสตรีเป็นทหารไม่ง่าย ก็ต้องเห็นคุณค่าของโอกาสในตอนนี้ของพวกเจ้าให้ดี“พอถูกสตรีนำหน้า ก็อับอายจนโมโห ทำไม อยากให้ข้าชมพวกเจ้าว่ามีอนาคตยาวไกล จะต้องเอาชนะกองทัพสตรีได้แน่อย่างนั้นรึ?“ทหารทุกนาย วิ่งรอบค่ายร้อยรอบ!”เหล่าทหารใหม่ที่ถูกกดขี่บีบบังคับได้แต่ทำ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 957

    ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว วันนี้เป็นวันหยุด เฟิ่งเหยียนเฉินจะพาโจวซื่อไปบ้านพ่อตาเพื่อส่งของขวัญเทศกาลไหว้พระจันทร์ล่วงหน้าระหว่างที่โจวซื่อกำลังช่วยเฟิ่งเหยียนเฉินสวมเข็มขัด สาวใช้ก็เข้ามาในห้อง แล้วรายงานอยู่ข้างฉากบังลม“ใต้เท้า ฮูหยิน แม่หญิงหลิวผู้นั้นมาอีกแล้วเจ้าค่ะ!”สองสามีภรรยามองตากันด้วยสีหน้าจนปัญญาเฟิ่งเหยียนเฉินขมวดคิ้วถาม“นางมาทำอะไร”“มาอยู่เป็นเพื่อนฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าค่ะ”โจวซื่อกดแขนของเฟิ่งเหยียนเฉิน เงยหน้ามองเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ท่านพี่ อย่าบุ่มบ่าม ถึงอย่างไรก็เป็นแขกของท่านแม่ พวกเราเป็นคนรุ่นหลัง จะไล่คนไปก็คงไม่ดี คอยสังเกตการณ์เงียบ ๆ จะดีกว่า”เฟิ่งเหยียนเฉินกดอารมณ์ร้อนของตนลงเมื่อนึกได้ว่าอีกซักครู่ยังต้องไปบ้านท่านพ่อตา เช่นนั้นก็ช่างเรื่องท่านน้า เขาเพียงสั่งข้ารับใช้ว่า “ปกป้องท่านแม่ให้ดี”“ขอรับ ใต้เท้า!”นายหญิงเฟิ่งพักอยู่ที่เรือนรองนางพาหลิวอิ๋งเดินชมด้านในจวนพลทหารรอบหนึ่งหลังจากคนทั้งสองเดินกลับถึงเรือนรอง หลิวอิ๋งก็จับมือนาง แล้วกล่าวด้วยความกระดากใจอย่างยิ่งว่า“พี่หญิง เรื่องเมื่อวานเป็นข้าที่เลอะเลือนเอง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 956

    จวนพลทหารเฟิ่งเหยียนเฉินเห็นแก่ท่านแม่ จึงฝืนใจยอมนั่งโต๊ะเดียวกับคนที่เรียกว่าเป็นน้าหญิงสกุลโจวก็เห็นแก่หน้าแม่สามีเหมือนกัน ไม่ถือสาเรื่องที่ผ่านมา มีไมตรีจิตรกับน้าหญิงคนนี้สีหน้าหลิวอิ๋งแสดงออกถึงท่าทีรู้สึกผิด ยกจอกสุราลุกขึ้นมา“เรื่องในวันนี้ เป็นเรื่องเข้าใจผิด“พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ควรทะเลาะกันเช่นนี้“พี่สาว อภัยให้ข้าด้วย ข้าคิดถึงเรื่องของท่านพ่อท่านแม่กับน้องชาย จึงล่วงเกินเจ้า ล่วงเกินหลานสะใภ้”นางยกจอกสุราคารวะนายหญิงเฟิ่งนายหญิงเฟิ่งใจอ่อน “อาอิ๋ง เจ้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของข้า ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้”นางไม่ได้เลี้ยงดูส่งทั้งสองท่านเป็นครั้งสุดท้าย เป็นสิ่งที่นางเสียใจที่สุดในชีวิต ไม่โทษที่หลิวอิ๋งต่อว่านาง ต่อหน้าทุกคน“พี่สาว เหยียนเฉิน ข้าดื่มหมดจอก!” หลิวอิ๋งดื่มสุราในจอกจนหมดเฟิ่งเหยียนเฉินไม่พูดอันใดตลอดมื้ออาหารครั้งนี้จนหลังทานอาหารค่ำแล้วเสร็จ หลังจากทุกคนส่งน้าหญิงกลับไปแล้ว เขาค่อยพูดกล่อมท่านแม่“ข้าคิดว่า น้าหญิงคนนี้ไม่ควรผูกมิตร ต่อไปท่านไปมาหาสู่นางน้อยหน่อย”นายหญิงเฟิ่งขมวดคิ้ว“เหยียนเฉิน อย่างไรนั่นก็เป็นน้องสาวของข้า เป็นญ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 955

    เฟิ่งหลินโกรธจนขำหัวเราะ“เก้ามิ่งก็คือเก้ามิ่ง ข้ายังจะโกหกเจ้าได้รึ?“หลิวอิ๋ง เจ้ายังไม่ได้แต่งงานเข้ามา ก็ก่อเรื่องวุ่นวายให้ข้าขนาดนี้ ต่อไปจะไม่ยิ่งกว่านี้รึ?“วันนี้ หากเจ้าไม่ไปขอโทษ งั้นการแต่งงานระหว่างเจ้ากับข้า ก็ยกเลิก!”หลิวอิ๋งมือสั่น หว่างหัวคิ้วมืดคล้ำ “ได้! ข้าไปขอโทษ! ทว่าไม่ใช่เพราะท่านข่มขู่ข้า เป็นเพราะข้าคำนึงถึงท่าน ไม่อยากให้จวนตระกูลเฟิ่งเสื่อมเสียชื่อเสียง”นายท่านเฟิ่งรู้จักนางดีตั้งแต่ต้นแล้วเขาส่งเสียงเมิน “หากเจ้าหวังดีกับข้าจริง ๆ ก็จะไม่บีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า !”คำพูดประโยคนี้ทิ่มแทงใจหลิวอิ๋งนางหัวเราะเย้ย“ซานหลาง ข้าบีบบังคับเจ้าจริง ๆ หรือ? เราแต่งงานกัน ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของกันและกันหรือ?”นางต้องการอำนาจกับทรัพย์สินเปิดเส้นทางการค้าระหว่างแต่ละแคว้น อาศัยเพียงสถานะป้าของฮองเฮา ยังไม่เพียงพอนางยังต้องส่งลูกสาวไปยังตำแหน่งสูงศักดิ์ส่วนเฟิ่งหลิน เขาต้องการลูกสาวที่เชื่อฟัง คลอดโอรสให้กับตระกูลเฟิ่งของพวกเขาทันใดนั้น เฟิ่งหลินพูดอะไรไม่ออก ไม่สนใจนาง สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไปข้างนอกห้องตรงระเบียงทางเดินสาวใช้พูดเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 954

    หลิวอิ๋งมาถึงจวนตระกูลเฟิ่ง วางมาดเป็นเหมือนนายหญิงกลับจวน นำรังนกยื่นให้สาวใช้“นำรังนกไปตุ๋น เดี๋ยวข้าจะดื่ม”สาวใช้ยื่นมือทั้งคู่รับมา ไม่กล้าที่จะละเลยพ่อบ้านเหลือบมองรังนก แล้วก็แอบส่ายหัวฮูหยินในอนาคตคนนี้หาเงินเก่งก็จริง ทว่าใช้จ่ายเงินก็ไม่ธรรมดาหากให้นางดูแลจัดการจวนตระกูลเฟิ่ง จะมีชีวิตที่ดีได้หรือ?หลิวอิ๋งอายุสี่สิบกว่า ปกติใช้เงินจำนวนมากในการบำรุงดูแล ใช้ผงแป้งไข่มุกทุกวัน แลดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงอย่างน้อยเจ็ดแปดปีวันนี้นางแต่งตัวสวมชุดกระโปรงเบาสบายทันสมัย กล่าวกันว่าเป็นแบบที่ฝ่าบาทออกแบบให้กับฮองเฮาด้วยพระองค์เอง เมื่อสวมใส่แล้วมีความสง่ากล้าหาญ นางคิดว่า คู่ควรกับสถานะของนางที่เป็นหญิงแกร่งทางการค้าเวลานี้ มุมหนึ่งตรงระเบียงทางเดิน อี๋เหนียงหลินกับสาวใช้ยืนอยู่ตรงนั้น แอบมองดูอยู่สาวใช้แสดงสีหน้าสมน้ำหน้า“อี๋เหนียง นายท่านโกรธขนาดนี้ แม่หญิงหลิวคนนั้นโชคร้ายแน่”สายตาอี๋เหนียงหลินแฝงไปด้วยความเกลียดแค้น ชิงชัง มือออกแรง แทบอยากฉีกผ้าเช็ดหน้าให้ขาด“สารเลว! อย่าให้นางเข้ามาอยู่ที่นี่ดีที่สุด!”……หลิวอิ๋งเข้าไปในห้องโถงหน้า ก็เห็นเฟิ่งหลินจับจ้องต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 953

    ในห้องโถงส่วนหน้า จวนตระกูลเฟิ่ง นายท่านเฟิ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ ความคับแค้นใจนั้นมิอาจจางหายได้ มันอัดแน่นอยู่ในทรวงอก รู้สึกอึดอัดใจยิ่งนัก พ่อบ้านรออยู่ด้านข้าง กลั้นเสียงมิกล้าหายใจแรง แผ่นหลังชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น ฮองเฮาพิโรธขนาดนั้นก็ไม่น่าแปลกใจ ว่าที่ฮูหยินทำเกินไปแล้วจริง ๆ กล้าไปสร้างปัญหาที่จวนพลทหาร ทั้งตบหน้าฮูหยินน้อยได้อย่างไร! บัดนี้นายท่านจึงตกที่นั่งลำบาก หันหน้าไปทางไหนก็ไม่ดี พ่อบ้านลอบถอนหายใจ หนึ่งเรื่องยังไม่ทันจบ เรื่องใหม่ก็เข้ามาอีก เด็กรับใช้รีบเร่งเดินเข้ามาข้างใน “นายท่าน! คุณชายใหญ่กลับมาแล้วขอรับ!” เพิ่งจะพูดจบ เฟิ่งเหยียนเฉินพลันเดินเข้ามาด้วยท่าทีน่าเกรงขาม เขาไม่รอให้คนไปรายงานก่อน เดินตรงมาหานายท่านเฟิ่งที่ห้องโถงส่วนหน้าโดยตรง ครั้นได้เห็นสีหน้าบึ้งตึงของบุตรชาย ก็คาดเดาได้ถึงเหตุผลที่เขามาเยือนทันที จู่ ๆ นายท่านเฟิ่งรู้สึกนั่งก็ไม่ใช่ ยืนก็ไม่ถูก เขานึกหงุดหงิดใจนัก วันนี้ช่าง “ครึกครื้น” เสียจริง! เฟิ่งเหยียนเฉินยังสวมเครื่องแบบราชการอยู่ ยืนนิ่ง พูดเข้าประเด็นทันที “ขอบังอาจถ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 952

    จวนตระกูลเฟิ่ง นายท่านเฟิ่งกำลังสั่งให้คนเขียนเทียบเชิญงานแต่ง พ่อบ้านพลันวิ่งเข้ามารายงาน “นายท่าน นายท่าน! ฮองเฮาเสด็จมาขอรับ!” สีหน้าของนายท่านเฟิ่งดูตกตะลึง เหตุใดฮองเฮาจึงมาเยือนอย่างกะทันหัน? หรือได้ยินข่าวว่าเขากำลังจะแต่งงานใหม่ จึงรีบมาขัดขวาง? อีกด้านหนึ่ง ในเรือนอี๋ชิง อี๋เหนียงหลินร้องไห้จนตาบวมไปหมดแล้ว “ไฉนนังแพศยานั่นมาทีหลังกลับได้สมหวัง! “ข้าปรนนิบัตินายท่านมานานหลายปีแล้ว นางเป็นแค่หญิงม่ายคนหนึ่ง คิดจะมาแข่งกับข้า...นายท่านจะชื่นชอบนางได้อย่างไร! “ข้าโมโหจะตายอยู่แล้ว! ให้ตายเถอะ! ข้ายอมตาย ดีกว่าทนอัดอั้นเช่นนี้!” ตั้งแต่รู้ว่าหลิวอิ๋งกำลังจะได้แต่งเข้าจวน อี๋เหนียงหลินก็ร้องไห้โวยวายอย่างหนัก ก่อนหน้านี้ได้วิ่งไปโวยวายต่อหน้านายท่านแล้ว กลับถูกตำหนิกลับมาเสียยกใหญ่ ยามนี้จึงได้แต่ระบายความอัดอั้นในเรือนของตนเอง เดิมเฟิ่งหมิงเซวียนยังมาปลอบโยนนางบ้าง ทว่านางร้องไห้บ่อยเกินไป จนเฟิ่งหมิงเซวียนรู้สึกรำคาญเช่นกัน จึงย้ายไปอยู่ที่โรงพักแรม ไม่ยอมกลับบ้านทั้งกลางวันกลางคืน อี๋เหนียงหลินยิ่งคิดก็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 951

    เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินเข้าไปในห้อง พลันเห็นมารดานั่งอยู่ข้างเตียง ใช้ผ้าเช็ดน้ำตาอยู่ แววตาของนางมืดลง ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปเร็วขึ้น ครั้นนายหญิงเฟิ่งได้ยินเสียงคนเข้ามา จึงเงยหน้ามอง เห็นว่าเป็นเฟิ่งจิ่วเหยียน ก็รีบปาดน้ำตาทิ้ง เปลี่ยนจากความเศร้าเป็นยินดี “ฮองเฮา...” ถึงแม้จะเป็นแม่ลูกกัน และอยู่ในสถานที่ส่วนตัว นายหญิงเฟิ่งยังเคร่งครัดในกฎระเบียบ นางไม่อยากให้บุตรสาวกังวล จึงหาข้ออ้างง่าย ๆ โดยไม่รอให้เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยถามก่อน “แม่แค่คิดถึงเวยเฉียง มิรู้ว่านางอยู่ที่จางโจวนั้นเป็นอย่างไรบ้าง” การร้องไห้เมื่อคิดถึงบุตรสาว เป็นธรรมดาของมนุษย์ หากเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น ก็คงจะเชื่อแล้วจริง ๆ นางเดินไปนั่งลงข้างกายของนายหญิงเฟิ่งอย่างเงียบ ๆ “พูดมาตามตรงเถิด เกิดอะไรขึ้น” นายหญิงเฟิ่งชะงักงันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกลับมาแย้มยิ้มทันที “ก็เป็นดั่งที่พูดเมื่อครู่นี้ ฮองเฮา ไฉนเจ้าถึงออกจากวัง? มีเรื่องอะไรนอกวังหรือไร?” นางยังต้องการจะเปลี่ยนเรื่องสนทนา ทว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนยังวกกลับมา “ข้าเห็นคนพวกนั้นแล้ว พวกนาง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 950

    ราชทูตจากเป่ยเยี่ยนที่รักตัวกลัวตายนั้น เขาย่อมรู้ดีว่านิสัยของอดีตฮ่องเต้เป็นคนเช่นไร จึงมิคิดหาเรื่องเดือดร้อนให้กับตนเองเขารีบพาทหารทั้งหลายที่ถูกถอดชุดเกราะปลดอาวุธกลับเป่ยเยี่ยนไปในทันที มิคิดรั้งอยู่หนานฉีเลยแม้แต่วินาทีเดียวเมื่ออดีตฮ่องเต้เห็นทุกคนออกไปกันหมดแล้วนั้น เขาถึงรู้สึกตัวขึ้นมาได้ว่า เขาถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่แล้วจริง ๆ วินาทีนั้น เขาโกรธโมโหยิ่งนัก พร้อมทั้งไอสังหารที่แผ่ไปทั่วทุกที่“อ๊าก! ตาเฒ่า! ข้าเป็นบุตรแท้ ๆ ของท่าน ท่านกล้าทำเช่นนี้กับข้าเลยหรือ!”เขาทั้งสองข้างพลันคุกลงบนพื้น ก่อนจะร้องคำรามไปมามิต่างอันใดกับสุนัขที่บ้าคลั่ง……แคว้นตงซานที่อยู่ห่างออกไปพันลี้นั้นหลังจากที่ราชทูตทั้งสองกลับมาแล้วนั้น พลางนำข่าวที่ตนเองถูกพวกหนานฉีบังคับให้ทำการค้าขายด้วยมารายงานในทันทีฮ่องเต้แคว้นตงซานที่ได้ยินเช่นนั้น พลันหัวเราะออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว“เรารู้ดีว่า หนานฉีจักไม่ยอมหยุดเพียงเท่านี้แน่!”ราชทูตหลี่หลิงที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นนั้น“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมิอาจช่วยราชครูกลับมาได้ ทว่า พวกกระหม่อมได้ทิ้งสายลับเพื่อติดตามหาเบาะแสของตงฟางซื่อเอาไว้แ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status