Home / รักโบราณ / แม่ทัพร้ายโหยหารัก / จางเพ่ยอันผู้สาบสูญ 1.1

Share

จางเพ่ยอันผู้สาบสูญ 1.1

last update Last Updated: 2025-01-24 09:09:05

“อี้เอ๋อร์! อี้เอ๋อร์ลูกพ่อ!!!” จางฟงพร่ำเรียกชื่อของบุตรสาวที่เพิ่งจากไป 

ในขณะที่บุตรชายคนโตจางฮั่น ซึ่งเป็นขุนนางใหญ่เช่นกันอยู่ในตำแหน่งเจ้ากรมอาญาเดินตามหลังมาติดๆ 

“ท่านพ่อมีอะไรอย่างนั้นเหรอ... กำลังเรียกผู้ใดกันขอรับ” จางฮั่นกล่าวออกมาด้วยความสงสัย พลางก้มหน้ามองเด็กหนุ่มในชุดขันทีขั้นห้าที่กำลังนั่งอยู่กับพื้นในขณะนี้

“อี้เอ๋อร์! ท่านพ่อนะ... นี่... นี่!!!” จางฮั่นได้แต่พูดติดอ่างอยู่เช่นนั้น ครั้นได้เห็นใบหน้าสวยซึ่งถอดพิมพ์เดียวกับน้องสาวของตนมาอย่างไม่ผิดเพี้ยน

 ท่ามกลางสายพระเนตรขององค์ชายปีศาจ ทรงทอดพระเนตรเหตุการณ์ตรงพระพักตร์ทุกอย่างด้วยความสงสัยระคนแปลกใจอย่างยิ่งยวด เมื่ออัครเสนาบดีใหญ่จางฟงพร้อมบุตรชายคนโต ต่างเรียกชื่อน้องชายหน้าสวยของพระองค์ออกมาเช่นนั้น พร้อมรีบรุดวิ่งเข้าไปประคองร่างน้องน้อยให้ลุกขึ้นจากพื้นทันที

“ต้องขออภัยท่านอัครเสนาบดีด้วยขอรับ ที่น้องชายของข้าแสดงกิริยาที่ไม่สมควรเดินชนท่านเช่นนั้น อันอัน! รีบขอโทษท่านเร็วๆ เข้า!” พระองค์แสร้งรับสั่งเฉไฉไปทางอื่น 

ในขณะที่จางเพ่ยอัน ที่ยังคงอยู่ในอาการตกตะ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   จางเพ่ยอันผู้สาบสูญ 1.2

    ห้องพระประสูติกาล เพียงครู่ฉินเหรินกงเสด็จวิ่งมาถึงห้องมีพระประสูติกาล ก่อนจะหยุดชะงักทันใดครั้นทรงทอดพระเนตรภายในห้องดังกล่าวพบข้าราชบริพารกว่าสิบชีวิต มีทั้งหัวหน้าหมอหลวงและผู้ช่วย รวมไปถึงนางกำนัลคนสนิทอีกหลายชีวิตต่างแข็งเป็นหินด้วยกันทั้งหมด ร่างที่กลายเป็นหินล้วนสิ้นชีพไปแล้วทั้งสิ้น ท่ามกลางเสียงร้องของทารกน้อยที่กำลังแผดเสียงกึกก้องไปทั่วบริเวณ อุแว้! อุแว้! อุแว้! พระโอรสน้อยแผดเสียงร้องอยู่ตลอดเวลา พระวรกายน้อยๆ ดิ้นขลุกขลักจนผ้าที่ห่อเอาไว้อย่างมิดชิดเริ่มคลายออกพร้อมผ้าที่ใช้ปิดพระพักตร์กำลังเลื่อนตกลงบนฟูกพระบรรทม “ลูกพ่อ! ลูกของพ่อ!” รับสั่งเพรียกหาพระโอรสน้อยพร้อมพระดำเนินก้าวเข้าไปหา ฉับพลัน ผ้าที่ปิดบังพระพักตร์ของพระโอรสเลื่อนตกลงบนฟูกพระบรรทมทันใด พร้อมเสียงของขันทีที่วิ่งไปรายงานดังขึ้นติดตามด้วยร่างสันทัดขวางเจ้าผู้ครองแคว้นมิให้เสด็จเข้าไปหาโอรสปีศาจของพระองค์ได้ พรึบ!!! ร่างขันทีผู้นั้นที่เข้ามาขวางทางมิให้ฉินเหรินกงเข้าไปหาพระโอรสค่อยๆ กลายเป็นหินปรากฏอยู่ตรงพระพักตร์เต็มสองพระเนตร ท่ามกลางพระอาการตกตะลึ

    Last Updated : 2025-01-24
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   บุรุษหน้ากากสีเงิน 1.1

    ดวงพิฆาตในรอบสามพันปีจะปรากฏเพียงหนึ่งและจะเกิดขึ้นเฉพาะบุรุษพิฆาตทุกชีวิตทันทีที่พานพบหน้าพิฆาตดวงเมืองล่มแคว้นจนถึงกาลล่มสลายอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อสามพันปีต่อมาดวงพิฆาตกำหนดให้เป็นอิสตรีคราใดเมื่อดวงพิฆาตทั้งสองได้โคจรมาพานพบกันจากดวงพิฆาตจบทุกชีวิตรอบข้างให้สูญสิ้นกลับแปรเปลี่ยนกลายเป็นดวงจักรพรรดิและรักนี้ไม่มีวันตายเกิดขึ้นกับคนทั้งคู่คริสต์ศักราช 2018มณฑลส่านซี ณ นครซีอานเมืองซีอาน ตั้งอยู่ในมณฑลส่านซีเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เรียกได้ว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์โลกอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีชื่อเสียงระดับโลก ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศที่ต้องการอยากจะสัมผัสอารยธรรมในอดีตของจีน ต่างเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองซีอานด้วยกันทั้งสิ้น อีกทั้งยังเป็นเมืองซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดในตะวันตกเฉียงเหนือของจีนอีกด้วย และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เมืองซีอานเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกท่ามกลางตึกสูงระฟ้าในเขตนครซีอาน ยังปรากฏกำแพงเมืองโบราณซึ่งถือได้ว่าสมบูรณ์ที่สุดของจีน มีความยาวโดยรวมถึง 13.7 กิโลเมตร และมีทางเด

    Last Updated : 2025-01-01
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   บุรุษหน้ากากสีเงิน 1.2

    ในขณะเดียวกันยุคอดีต ยุคชุนชิวหรือยุควสันตสารท เป็นยุคสมัยหนึ่งในประวัติศาสตร์ของจีน โดยอยู่ในช่วง 770 จนถึงราว 400 ปีก่อนคริสตกาล ยุคชุนชิว คือช่วงเวลาที่แผ่นดินจีนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ละแคว้นและหัวเมืองต่าง ๆ ต่างเปิดศึกและแย่งชิงอำนาจกันเพื่อหมายที่จะเป็นใหญ่ในแผ่นดินโดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสงครามในยุคชุนชิวนั้น เกิดขึ้นจากการปกครองแผ่นดินภายใต้กษัตริย์ของราชวงศ์โจว ซึ่งปกครองในระหว่าง 1,046 จนถึง 256 ปีก่อนคริสตกาล ที่มีความอ่อนแอและไร้อำนาจ ทำให้ไม่สามารถควบคุมบรรดาหัวเมืองและแคว้นต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้การนำของราชวงศ์โจวได้ ท้ายที่สุด บรรดาหัวเมืองและแว่นแคว้นต่าง ๆ ก็ประกาศแยกตัวจากราชวงศ์โจว และเปิดศึกต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจกัน โดยที่ไม่เกรงกลัวต่อราชวงศ์โจวอีกต่อไป แผ่นดินจีนในขณะนั้น จึงแตกแยกออกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย 200กว่าแคว้น ถึงขั้นที่ว่าผู้นำของบางแคว้น ประกาศตั้งตัวเองเป็น "อ๋อง" หรือกษัตริย์ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับกษัตริย์ของราชวงศ์โจว กันเลยทีเดียวบริเวณเขตชายแดนแคว้นต้าเหลียงภายในเทือกเขาสูงเสียดฟ้า เต็มไปด้วยซากศพของชายฉกรรจ์นอนตายกลาดเกลื่อนไปทั่วพื้นที่ราบส

    Last Updated : 2025-01-01
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ปิ่นหยกโบราณ 1.1

    คริสต์ศักราช 2018พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลส่านซีพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเจดีย์ห่าน Giant Wild ในเมืองโบราณซีอานในมณฑลส่านซีประเทศจีนเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ของรัฐขนาดใหญ่ ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด ภายในพิพิธภัณฑ์มีสิ่งของกว่าสามแสนเจ็ดหมื่นชิ้น รวมทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนังภาพวาดเครื่องปั้นดินเผาเหรียญตลอดจนวัตถุที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ทองคำและเงิน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1983 ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2001 และมีลักษณะของการสร้างรูปแบบสถาปัตยกรรมของราชวงศ์ถังพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ส่านซีแห่งนี้มีพื้นที่หกหมื่นห้าพันตารางเมตร มีพื้นที่อาคารห้าหมื่นห้าพันหกร้อยตารางเมตร ห้องเก็บพระธาตุทางวัฒนธรรมแปดพันตารางเมตร ห้องโถงนิทรรศการของหนึ่งหมื่นหนึ่งพันตารางเมตร และคอลเลกชันสามแสนเจ็ดหมื่นวัตถุ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ Tang โดยมี “ห้องโถงอยู่ตรงกลางอาคารที่มีชั้นในหลายมุม” มีความสง่างามและใหญ่โต โออ่าด้วยการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ซึ่งแสดงถึงประเพณีพื้นบ้านและลักษณะเฉพาะของท

    Last Updated : 2025-01-01
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   ปิ่นหยกโบราณ 1.2

    ร่างระหงของหญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะล่าถอยออกจากห้องทำงานส่วนตัวของหัวหน้างาน โดยมีสายตาของผู้สูงวัยกว่ามองตามหลังด้วยความเอ็นดูนาง ครั้นถึงโต๊ะทำงานส่วนตัว จางเพ่ยอันวางถาดที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะ ดวงตาคู่สวยหันกลับไปมองภาพถ่ายของพ่อและแม่ที่จากไปเพราะอุบัติเหตุรถคว่ำตั้งแต่หญิงสาวมีอายุเพียงแค่หกเดือนเท่านั้น พ่อและแม่ของเธอต่างเป็นลูกโทนด้วยกันทั้งคู่ ญาติมิตรล้วนล้มหายตายจากไปหมด ที่มีอยู่ก็เพียงแค่ญาติห่างไกลลิบลิ่ว ไม่มีความสามารถที่จะอุปการะเลี้ยงดูได้ด้วยมีฐานะยากจนและอยู่ในชนบท หญิงสาวจึงถูกเลี้ยงดูจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาโดยตลอด บ่อยครั้งที่มีผู้อุปการะนำไปเลี้ยง ทว่าแต่ละรายเลี้ยงจางเพ่ยอันได้ไม่ถึงปี ถ้าไม่ตายยกครัวก็ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว จนต้องนำกลับมาคืนสถานรับเลี้ยงเด็กตามเดิม ซึ่งต่างพากันพูดปากต่อปากว่า วันเดือนปีเกิดของสาวน้อยคนงามเป็นดวงพิฆาตหากแม้นอยู่ร่วมกับผู้ใด คนใกล้ตัวจะต้องมีอันเป็นไปและเป็นเช่นนี้ทุกครอบครัว และนี่เป็นสาเหตุทำให้หญิงสาวเติบโตในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามาโดยตลอด จนกระทั่งอายุสิบแปดปี พ้นวัยเยาวชนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ตามกฎหมาย จางเพ่ย

    Last Updated : 2025-01-01
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   คนในอดีต 1.1

    “อันอันเข้ามาในห้องหน่อย!” เสียงหัวหน้างานดังขึ้นอยู่ห้องทำงานส่วนตัว ร่างบุรุษในชุดเกราะแม่ทัพหันกลับมามองหัวหน้างานของหญิงสาวเพียงครู่ ก่อนจะหันกลับมามองเธอดั่งเดิม พรึบ! ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ เลือนหายไปชั่วพริบตา “เฮ้อ!” หญิงสาวถอนหายใจออกมาทันใด มือน้อยๆ ยกขึ้นจับหน้าอกของตัวเองพร้อมตบลงเบาๆ เป็นการเรียกขวัญของเธอให้กลับคืนมาโดยพลันพลางกลืนน้ำลายลงคอ “มาให้เห็นกลางวันแสกๆ เลยหรือนี่ ผีหวงของชัดๆ” จางเพ่ยอันบ่นพึมพำพร้อมยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดใบหน้าหวานสวยของเธอพลางสูดลมหายใจเข้าปอด “มาแล้วค่ะหัวหน้า” หญิงสาวรีบขานรับตอบกลับไป ร่างระหงรีบลุกจากเก้าอี้ทำงานหากแต่ก่อนไปก็ไม่วายที่จะหันกลับมามองปิ่นหยกโบราณที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพิศวงอย่างยิ่งยวด เมื่อเพิ่งได้พานพบกับเจ้าของปิ่นหยกดังกล่าวอย่างไม่คาดฝัน ทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้องทำงานส่วนตัวของหัวหน้างาน “เดี๋ยวอาทิตย์หน้าเตรียมตัวออกพื้นที่ไปร่วมตรวจสอบกับทีมงานที่เพิ่งขุดค้นสุสานใหม่ด้วยนะอันอัน ข้อมูลของวัตถุโบราณที่เพิ่งให้ไปนำส่งก่อนจะออกเดินทางด้วยนะ” หัวหน้าสาวรุ่นใหญ่บอกกับเธอก่อนจะหยุดชะงักเม

    Last Updated : 2025-01-02
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   คนในอดีต 1.2

    หมอหลวงและผู้ช่วยยังไม่ตายอย่างนั้นหรอกรึ!” รับสั่งด้วยความแปลกพระทัยเป็นยิ่งนัก ก่อนจะทอดพระเนตรองครักษ์คนสนิทที่ยังคงนั่งมองพระองค์ตาไม่กะพริบด้วยความแปลกใจมิรู้วาย “จริงสิ! แม้แต่ตัวเจ้าเองก็ยังไม่ตาย กลับยังมีชีวิตอยู่ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้าข้าในขณะนี้ ทั้งๆ ที่ควรจะตายทันทีที่ได้เห็นใบหน้าของข้า” และถ้อยรับสั่งของพระองค์ทำให้องครักษ์คนดังกล่าวถึงกับเงยหน้ามององค์ชายของตนทันใดครั้นได้ยินเช่นนั้น “เหตุใดจึงทรงรับสั่งเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่เข้าใจ” เสียงนั้นกราบทูลถามกลับไปด้วยความสงสัยอย่างยิ่งยวด พระโอษฐ์แสยะยิ้มเหยียดก่อนจะเค้นเสียงพระสรวลออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงชะตากรรมที่ทรงได้รับนับตั้งแต่แรกประสูติออกจากพระครรภ์มารดา “เมื่อแรกประสูติ ทุกคนที่อยู่ในห้องพระประสูติกาลจบชีวิตลงอย่างมิรู้สาเหตุ ทันทีที่เห็นหน้าข้า ส่วนคนที่มิได้เห็นล้วนแล้วแต่รอดชีวิต ดังนั้นทุกคนจึงมิให้เสด็จพ่อและเสด็จแม่ได้พานพบข้าเลยสักครา ด้วยเกรงว่าทั้งสองพระองค์จะทรงมีอันเป็นไป แต่ถึงกระนั้นเสด็จแม่ของข้าก็ไม่ทรงเชื่อคำเล่าลือเช่นนั้น” รับสั่งพร้อมเงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรองครักษ์คนสนิทอีกครา “พร

    Last Updated : 2025-01-02
  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   หมอจำเป็น 1.1

    เคฟคอร์ทยาร์ด โฮมสเตย์ โฮมสเตย์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตหลินถง ใกล้สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ มีอาคารย้อนยุคก่อสร้างตามอาคารบ้านเรือนในยุคสมัยราชวงศ์ถัง ทุกอาคารมีชั้นเดียวและถ่ายเทอากาศได้ดี ท่ามกลางสวนหย่อมจัดวางตามลักษณะฮวงจุ้ยได้อย่างลงตัวและสวยงาม “องค์ชาย! องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ!!!” เสียงเรียกขานเอ็ดอึงเต็มไปด้วยความโกลาหลขึ้นมาอีกครา ขนตางามงอนยาวเป็นแพสวยเริ่มกระเพื่อมขึ้นลงติดต่อกัน เมื่อหูของเธอได้ยินเสียงเรียกขานดังกล่าวอย่างชัดเจน ในยามนี้จางเพ่ยอัน กำลังนอนพักผ่อนในโฮมสเตย์ดังกล่าวซึ่งใกล้สถานที่ขุดพบสุสานแห่งใหม่เป็นการชั่วคราว ก่อนจะเดินทางเข้าไปในพื้นที่ เธอและทีมงานจากศูนย์วิจัยเดินทางมาถึงบริเวณที่ขุดพบสุสานก็ปาเข้าไปเย็นย่ำแล้ว จึงต้องแวะพักผ่อนเอาแรงในเขตเมืองของซีอานเพื่อเตรียมตัวเดินทางออกนอกเมืองลุยงานในวันรุ่งขึ้น ใบหน้าส่ายไปมาเมื่อเสียงเอ็ดอึงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าอยู่ใกล้เพียงแค่ห้องพักติดกันนี่เอง พรึบ! เปลือกตาที่ปิดสนิทเปิดขึ้นมาทันใด ดวงตาจ้องเพดานด้านบนเขม็งอยู่เพียงครู่ พร้อมกับร่างอรชรค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งพลางเงี่ยหูฟังเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เธอได้ย

    Last Updated : 2025-01-02

Latest chapter

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   จางเพ่ยอันผู้สาบสูญ 1.2

    ห้องพระประสูติกาล เพียงครู่ฉินเหรินกงเสด็จวิ่งมาถึงห้องมีพระประสูติกาล ก่อนจะหยุดชะงักทันใดครั้นทรงทอดพระเนตรภายในห้องดังกล่าวพบข้าราชบริพารกว่าสิบชีวิต มีทั้งหัวหน้าหมอหลวงและผู้ช่วย รวมไปถึงนางกำนัลคนสนิทอีกหลายชีวิตต่างแข็งเป็นหินด้วยกันทั้งหมด ร่างที่กลายเป็นหินล้วนสิ้นชีพไปแล้วทั้งสิ้น ท่ามกลางเสียงร้องของทารกน้อยที่กำลังแผดเสียงกึกก้องไปทั่วบริเวณ อุแว้! อุแว้! อุแว้! พระโอรสน้อยแผดเสียงร้องอยู่ตลอดเวลา พระวรกายน้อยๆ ดิ้นขลุกขลักจนผ้าที่ห่อเอาไว้อย่างมิดชิดเริ่มคลายออกพร้อมผ้าที่ใช้ปิดพระพักตร์กำลังเลื่อนตกลงบนฟูกพระบรรทม “ลูกพ่อ! ลูกของพ่อ!” รับสั่งเพรียกหาพระโอรสน้อยพร้อมพระดำเนินก้าวเข้าไปหา ฉับพลัน ผ้าที่ปิดบังพระพักตร์ของพระโอรสเลื่อนตกลงบนฟูกพระบรรทมทันใด พร้อมเสียงของขันทีที่วิ่งไปรายงานดังขึ้นติดตามด้วยร่างสันทัดขวางเจ้าผู้ครองแคว้นมิให้เสด็จเข้าไปหาโอรสปีศาจของพระองค์ได้ พรึบ!!! ร่างขันทีผู้นั้นที่เข้ามาขวางทางมิให้ฉินเหรินกงเข้าไปหาพระโอรสค่อยๆ กลายเป็นหินปรากฏอยู่ตรงพระพักตร์เต็มสองพระเนตร ท่ามกลางพระอาการตกตะลึ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   จางเพ่ยอันผู้สาบสูญ 1.1

    “อี้เอ๋อร์! อี้เอ๋อร์ลูกพ่อ!!!” จางฟงพร่ำเรียกชื่อของบุตรสาวที่เพิ่งจากไป ในขณะที่บุตรชายคนโตจางฮั่น ซึ่งเป็นขุนนางใหญ่เช่นกันอยู่ในตำแหน่งเจ้ากรมอาญาเดินตามหลังมาติดๆ “ท่านพ่อมีอะไรอย่างนั้นเหรอ... กำลังเรียกผู้ใดกันขอรับ” จางฮั่นกล่าวออกมาด้วยความสงสัย พลางก้มหน้ามองเด็กหนุ่มในชุดขันทีขั้นห้าที่กำลังนั่งอยู่กับพื้นในขณะนี้ “อี้เอ๋อร์! ท่านพ่อนะ... นี่... นี่!!!” จางฮั่นได้แต่พูดติดอ่างอยู่เช่นนั้น ครั้นได้เห็นใบหน้าสวยซึ่งถอดพิมพ์เดียวกับน้องสาวของตนมาอย่างไม่ผิดเพี้ยน ท่ามกลางสายพระเนตรขององค์ชายปีศาจ ทรงทอดพระเนตรเหตุการณ์ตรงพระพักตร์ทุกอย่างด้วยความสงสัยระคนแปลกใจอย่างยิ่งยวด เมื่ออัครเสนาบดีใหญ่จางฟงพร้อมบุตรชายคนโต ต่างเรียกชื่อน้องชายหน้าสวยของพระองค์ออกมาเช่นนั้น พร้อมรีบรุดวิ่งเข้าไปประคองร่างน้องน้อยให้ลุกขึ้นจากพื้นทันที “ต้องขออภัยท่านอัครเสนาบดีด้วยขอรับ ที่น้องชายของข้าแสดงกิริยาที่ไม่สมควรเดินชนท่านเช่นนั้น อันอัน! รีบขอโทษท่านเร็วๆ เข้า!” พระองค์แสร้งรับสั่งเฉไฉไปทางอื่น ในขณะที่จางเพ่ยอัน ที่ยังคงอยู่ในอาการตกตะ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องครักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.6

    พระราชวังหลวงภายในพระตำหนักบูรพา “พัง! พังหมด! วอดวายย่อยยิบมิมีชิ้นดี! หอเฟิ่งอี้ที่ข้ากับเสด็จแม่อุตส่าห์สร้างขึ้นมา ถูกอิ๋งหยางสั่งปิดอย่างถาวร เช่นนี้เงินมหาศาลที่เคยได้รับสูญสลายหายไปเพียงชั่วพริบตา!” สุรเสียงขององค์ชายอิ๋งเฟิ่งดังกึกก้องภายในพระตำหนักบูรพาของรัชทายาทแห่งแคว้นฉิน พร้อมพระดำเนินกลับไปกลับมาอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่องค์ชายอิ๋งเหว่ยได้แต่นั่งกุมขมับอยู่เช่นนั้น เมื่อได้ล่วงรู้ข่าวการปรากฏพระวรกายของพระเชษฐาพระองค์ใหญ่มาพร้อมกับพระบัญชาอันเฉียบขาดดั่งเช่นทุกครั้งที่ทรงลงมือทำอะไรแล้ว รวดเร็วฉับไวมิทันได้ให้ตั้งตัวแม้แต่น้อย พระบัญชาที่แฝงเร้นความโหดเหี้ยมในคราเดียวกัน ด้วยหากขัดขืนพระบัญชามีคำสั่งลากไปบั่นคอจนริบเรือนพร้อมเสียบหัวประจานกลางเมืองหลวงเลยทีเดียว เป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงเป็นยิ่งนัก ในขณะเดียวกันทรงได้รับการยกย่องและเทิดทูนในคราเดียวกัน “เจ้าจะโวยวายออกมาก็เปล่าประโยชน์อิ๋งเฟิ่ง ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเจ้าไร้ฝีมือที่จะจัดการอิ๋งหยางให้สิ้นซาก นักฆ่าแต่ละคนล้วนไร้น้ำยา

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องครักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.5

    จวนสกุลไป๋ จวนขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กของพ่อค้าขายข้าวสาร ทว่า ใหญ่ที่สุดในแคว้นฉิน ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเฟิ่งที่ไหลทอดยาวไปสมทบกับแม่น้ำฮวงโหว พื้นที่ภายในมีขนาดเล็กกว่าจวนสกุลฮัวไม่มากนัก แต่ถ้าหากนับพื้นที่ซึ่งติดกับริมแม่น้ำแล้วไซร้กว้างใหญ่กว่าจวนสกุลฮัวหลายเท่าเลยทีเดียว บริเวณริมแม่น้ำปรากฏเรือขนาดใหญ่สามารถเดินทางล่องแม่น้ำ และบรรจุข้าวของหนักได้เป็นอย่างดีไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์ขนาดใหญ่เช่นม้าหรือวัว เรือลำดังกล่าวมีผู้คนเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าเตรียมความพร้อมอยู่ทุกเมื่อหากมีภัยมาถึงตัว ปัง!!! เสียงดังกระหึ่มบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างยิ่งยวดได้เป็นอย่างดี พระวรกายสูงใหญ่ของรัชทายาทหนุ่มจากแคว้นต้าหลู่ ทรงยืนสูงตระหง่านอยู่กลางห้องโถงของจวนสกุลไป๋ ถูกสร้างขึ้นให้เป็นสถานที่ประทับแห่งที่สองซึ่งเป็นความลับสุดยอด ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงออกมาอีกและมีทางหนีได้หลายเส้นทางเตรียมพร้อมตลอดเวลา พระพักตร์หล่อเหลาบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด ครั้นทรงได้ยินรายงานจากเหล่าองครักษ์กลับมารายงานผลการค้นหาสมบัติที่พระองค์เสียเงินซื้อมาถึงหนึ่งพันเตาปี้

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องครักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.4

    ในเวลาเดียวกันในขณะที่จางเพ่ยอันกำลังยืนครุ่นคิดถึงอัครเสนาบดีใหญ่จางฟง ผู้เป็นบิดาของตนในภพชาตินี้ โดยมิทันสังเกตพี่หยางหยางของเธอ กำลังเดินตรงมาหาก่อนจะหยุดยืนลงตรงหน้าพร้อมยกมือจับศีรษะน้องน้อยพลางโยกไปมาเบาๆ“คิดอะไรอยู่เจ้าตัวเล็ก!” รับสั่งถามกลับไปด้วยความอยากรู้ในท่าทีที่เหม่อลอยของน้องน้อยในขณะนั้น จางเพ่ยอันรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติดั่งเดิมพร้อมถามกลับไปทันที “พี่หยางจำเรื่องราวของท่านได้จนหมดสิ้นแล้วใช่ไหม จึงสามารถวางแผนการต่างๆ อะไรตั้งมากมายถึงเพียงนี้มิหนำซ้ำยังวางออกมาเป็นขั้นเป็นตอนเลยทีเดียว” พระพักตร์หล่อเหลาพยักขึ้นลงติดต่อกัน พระโอษฐ์คลี่ยิ้มออกมาบางๆ “ความทรงจำของข้าที่หายไปจดจำได้จนหมดสิ้น จำได้แม้กระทั่งเจ้านั่นแหละเป็นคนทำให้ข้าหัวฟาดพื้นจนความจำเลือนหายไป” “หา!... จำได้ด้วยเหรอ” จางเพ่ยอันพึมพำเสียงอ่อยๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะเบาๆ อยู่ในลำคอจากพี่ชายแสนดี “แต่ถึงแม้ความทรงจำเดิมจะหวนกลับคืนมา ความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าและความรักที่ได้รับจากท่านตาท่านยาย กับการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางหุบเขาในบ้

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องค์รักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.3

    “หา!... ให้ข้าเป็นขันที!” เสียงน้องชายหน้าสวยโวยวายขึ้นมาโดยพลัน ครั้นได้ยินพี่หยางหยางกล่าวออกมาเช่นนั้น พระเนตรคู่สวยขององค์ชายปีศาจเหลือบไปทอดพระเนตรน้องชายหน้าสวยอยู่เพียงครู่ ครั้นทรงได้ยินเสียงโวยวายของคนเป็นน้องดังแทรกขึ้นมา “เจ้าอยู่เฉยอันอัน!” รับสั่งเพียงสั้นๆ กลับไป พลางหันกลับไปทอดพระเนตรทหารคนสนิท “ข้าจะปลอมตัวเป็นองครักษ์และอันอันจะเป็นขันทีแอบแฝงอยู่ในราชสำนักสักระยะ เพื่อสืบข่าวบางอย่างที่อยากล่วงรู้มาโดยตลอด อีกทั้งเพื่อตัดไฟตั้งแต้ต้นลมมิให้บรรดาน้องชายต่างแม่ของข้าเหล่านั้นริอ่านแข็งข้อกับข้าขึ้นมาได้อีก! มีหลายสิ่งที่คิดเอาไว้นานแล้วและอยากลงมือเสียที ในที่สุดโอกาสก็มาถึง” ตุ้บ!!! พู่กันอยู่ในมือที่กำลังจดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ขององค์ชายอิ๋งหยางรวมไปถึงเหตุการณ์โดยรวมของแคว้นฉิน ซึ่งจางเพ่ยอันคอยบันทึกอยู่เป็นประจำทุกวันร่วงหล่นจากมือของตัวเองทันใดเมื่อได้ยินว่าจะต้องกลายเป็นขันที ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะรู้สึกตัว “โอ๊ย! ไม่เอานะ! ไม่เอานะ! ทำไมต้องให้ข้าไปเป็นขันทีด้วย ตำแหน่งนี้ข้าต้องโดนตอนนะ... พี่หยาง ใจคอท่านจะส่งข้าให้ไปตอนอย่างนั้นเหรอ... แ

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องครักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.2

    ห้าวันผ่านไปจวนแม่ทัพ พระวรกายใหญ่ขององค์ชายอิ๋งหยางนั่งอยู่บนตั่งที่ประทับ ทรงอ่านรายงานสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมาซึ่งพระองค์หายสาบสูญไปอยู่บ้านน้อยริมลำธาร ใช้ชีวิตชาวป่ากับสองผู้เฒ่าและน้องชายหน้าหวานมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในยามนี้ความเคลือบแคลงสงสัยในตัวของน้องน้อยยังมิเสื่อมคลายลงไปแม้แต่น้อย หากแต่พระองค์เลือกที่จะแอบสังเกตการณ์เอาไว้อย่างเงียบๆ หลังจากที่ทรงหมดพระสติบรรทมไปเสียดื้อๆ ทำให้น้องชายหน้าหวานรอดพ้นจากการถูกพระองค์จับแก้ผ้าเพื่อสำรวจร่างกาย จึงทำให้ล่วงรู้ว่าทรงถูกน้องน้อยจัดการให้มีสภาพเช่นนั้น อีกทั้งองค์ชายปีศาจทอดพระเนตรน้องชายกระตือรือร้นจัดการต้มยาด้วยตัวเองอ้างว่าเพื่อช่วยรักษาพิษที่อยู่ภายในพระวรกายให้หายเป็นปกติในเร็ววัน พระองค์จึงต้องแสร้งเล่นตามน้ำไปด้วยเพื่อจับให้ได้คาหนังคาเขาด้วยอย่างใจเย็นกว่าครั้งที่แล้วมา ในขณะที่จางเพ่ยอันหาวิธีการที่จะทำให้พี่หยางหยางคลายความสงสัยในตัวเธอว่าแท้จริงแล้วเป็นบุรุษหรือสตรีกันแน่ หญิงสาวพลิกตำราสูตรยาลับพร้อมสมุนไพรสุดวิเศษที่ผู้เฒ่าหยงอู่จัดไว้ในห่อผ้าและได้อธิบายให้หลานสาวคนสวยถึงวิธี

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   องครักษ์หน้าสวย ขันทีหน้าหวาน 1.1

    พี่หยาง!!!” จางเพ่ยอันร้องเรียกชื่อพี่ชายปีศาจจนสุดเสียง สองมือพยามยามผลักมือหนาที่กำลังง่วนอยู่กับการแก้เชือกผูกสาบเสื้อของเธออยู่ตลอดเวลา “ทะ... ท่านไม่ต้องแก้เสื้อให้ข้าหรอก! ข้าบอกว่าไม่เป็นอะไร... พี่หยางเชื่อข้าเถอะ!” เธอพยายามอธิบายกลับไป “ข้าไม่เชื่อ! เจ้ามีพิรุธยิ่งนักโดยเฉพาะตรงหน้าอก! จะต้องถูกคนโฉดผู้นั้นทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ มาเถิดอันอันพี่หยางขอดูหน่อย… จะได้ช่วยรักษาเจ้าให้เป็นปกติดั่งเดิม... มา... มา” จู่ๆ ถ้อยรับสั่งขององค์ชายปีศาจพลันเชื่องช้าลง เปลือกพระเนตรเริ่มปรือและค่อยๆ พร่ามัวขึ้นมา พระองค์ทอดพระ เนตรใบหน้าแสนสวยของน้องชายเริ่มพร่าเลือนพร้อมพระวรกายเริ่มโงนเงน “นี่ข้าเป็นอะไรไป! อันอัน! อันอัน!” รับสั่งเพรียกหาน้องชายหน้าสวยพร้อมสะบัดพระเศียรไปมาอย่างแรงติดต่อกันเพื่อขับไล่ความมึนงงและอาการพร่าเลือนที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทันทีที่หญิงสาวเห็นอาการพี่หยางหยางแสดงออกมาเช่นนั้น เธอล่วงรู้ได้ทันทีว่าฤทธิ์ของยาสลบที่เพิ่งฉีดเข้าไปนั้นเริ่มออกฤทธิ์แล้ว และมิเสียเวลารอช้าจางเพ่ยอันสวมบทบาทตีเนียนทันใด “พี่หยางท่านเป็นอะไรอย่างนั้นรึ! เห็นไหมข้าเตือนแล้วว่าอาการข

  • แม่ทัพร้ายโหยหารัก   เจ้าเป็นหญิงหรือเป็นชาย 1.3

    ท่อนแขนเรียวสวยของหญิงสาวถูกพี่หยางหยางดึงรั้งให้ร่างงามหันกลับมาเผชิญหน้าตามเดิม ท่ามกลางความตกใจของอีกฝ่าย “เฮ้ย! เฮ้ย!พี่หยางจะทำอะไร!”หญิงสาวร้องโวยวายพร้อมร่างเล็กๆ ถูกจับให้หันกลับมายืนอยู่ตรงหน้าคนตัวโตที่กำลังจ้องเขม็งอยู่ในขณะนี้ “เจ้าเป็นอะไรรึ! เหตุใดวันนี้แลดูชอบกลนัก แสดงท่าทีประหลาดก็หลายครา ตกใจก็ง่ายดาย แล้วนี่กระไรหน้าแดงก่ำถึงเพียงนี้เชียว... หรือว่าเจ้าเป็นไข้รึ!” รับสั่งพร้อมพยายามจะลุกจากฟูกบรรทมเพื่อสำรวจร่างกายน้องชายหน้าสวย ทั้งๆ ที่พระวรกายยังคงเปลือยเปล่าอยู่เช่นนั้น มีเพียงผ้าห่มของหญิงสาวปิดเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ ดวงตากลมโตเบิกกว้างครั้นเห็นร่างเปลือยจะหลุดพ้นจากผ้าห่มผืนน้อย มือเรียวสวยรีบตรงเข้าไปตะครุบผืนผ้าก่อนจะพันรอบพระวรกาย “ว้าย! ไม่ต้อง! ไม่ต้อง! ไม่ต้องยืน!!!” จางเพ่ยอันหวีดร้องออกมาด้วยความลืมตัว แปะ! หยดเลือดสีแดงก่ำไหลออกมาจากรูจมูกของเธอโดยพลัน เมื่อใบหน้าแสนสวยเกือบแนบชิดกับแผงอกกว้างที่อัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวอย่างสวยงาม “อือหือ แข็งปั้ก! แข็งไปหมด!” หญิงสาวพูดพลางยกปลายนิ้วขึ้นสัมผัสตรงปลายจมูกของเธอทันใด “โอ้โฮ!ความดันขึ้นถึงขี

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status