หานลู่หรงทนไม่ไหวไปอีกคน ซูหนิงเซียวได้แต่ถอนหายใจกับเรื่องทะเลาะที่ไร้สาระแบบนี้ ทั้งที่พวกเธอก็ต่างคนต่างอยู่มาตลอดเทอมแล้ว แต่พอเทอมใหม่นี้ ฟ่านเหลียนกลับคอยพูดจายั่วยุให้หานลู่หรงกับโจวเสี่ยวเซียนต้องอารมณ์ขึ้น ถ้ารุ่นพี่เห็นเข้าคงคิดว่าพวกเราปีหนึ่งแตกแยกกันแน่ ๆ แต่ขณะที่ซูหนิงเซียวกำลังจะห้ามเพื่อนไม่ให้ทะเลาะกันไปมากกว่านี้ บอดี้การ์ดทั้งสี่เห็นว่าคุณหนูซูถูกกลุ่มหญิงสาวกำลังพูดจาอะไรสักอย่างอยู่นานจึงเดินเข้าไปใกล้ ๆ และได้ยินเสียงของหานลู่หรงเข้าพอดี พวกเขาจึงรู้ว่ากลุ่มสี่สาวตรงหน้านั้นกำลังหาเรื่องคุณหนูซูอยู่ ทั้งสี่คนจึงรีบเดินเข้าไปกั้นระหว่างทั้งสองกลุ่มทันที
“คุณหนูซูรีบไปขึ้นรถกับเพื่อนเถอะครับ ปล่อยเรื่องที่นี่ให้พวกเราจัดการเองครับ”
“เฮ้อ ขอบคุณพวกพี่ ๆ มากนะคะ หนูก็ไม่ได้อยากทะเลาะกับใครเหมือนกัน ฝากเรื่องตรงนี้ด้วยก็แล้วกันค่ะ พวกพี่ค่อยตามหนูไปที่ห้างก่อนถึงคอนโดนะคะ หนูจะไปกินไอศกรีมกับเพื่อนที่นั่นค่ะ”
“ได้รับคุณหนู เดี๋ยวพวกผ
ซูหนิงจิงที่ดูแบบกับแพทริกซึ่งกำลังนำเสนอให้เธออยู่กับกู่ซิงก็พอใจมากสำหรับแบบโครงการใหม่ของเธอในครั้งนี้ แต่ละอาคารจะมีจุดเด่นแตกต่างกัน ซึ่งน่าจะเป็นที่พอใจของผู้ซื้อที่กลุ่มเป้าหมายครั้งนี้คือกลุ่มคนวัยทำงานในบริเวณใกล้ ๆ กับโครงการที่กำลังจะก่อสร้างของเธอ“แบบไม่มีอะไรต้องแก้ไขแล้วค่ะ ขอบคุณคุณแพทริกมากนะคะที่ช่วยออกแบบงานให้ เดี๋ยวดิฉันจะโอนเงินค่าแบบงวดสุดท้ายให้คุณเลยนะคะ”“ขอบคุณที่ชอบการออกแบบของผมนะครับ ไม่ทราบว่าคุณซูมีสถาปนิกที่จะคอยคุมงานก่อสร้างของโครงการนี้หรือยัง?”“ยังเลยค่ะ ถ้าได้คุณแพทริกที่เป็นคนออกแบบมาคุมเอง ดิฉันก็จะได้เบาใจ เพียงแต่เกรงใจคุณมากกว่าค่ะ”“ไม่ต้องเกรงใจนะครับ ผมเองก็อยากเห็นสิ่งที่ผมออกแบบไว้ สร้างออกมาได้ตามแบบเหมือนกัน ราคาผมลดให้คุณซู 30% เหมือนตอนเขียนแบบเลยครับ”“ขอบพระคุณมากนะคะ เดี๋ยวดิฉันขอไปปริ้นใบเสร็จหลังโอนค่าแบบให้ก่อนก็แล
“ใช่แล้ว มันเป็นชุดเครื่องประดับเพชรสีชมพูน่ะ ตั้งสามล้านแน่ะ ฉันซื้อไหวที่ไหนกันเล่า”“โอ้โห แม่เธอนี่รักเธอมากเลยนะหนิงเซียว แถมยังกล้าให้เธอใส่มาเรียนโดยไม่กลัวหายอีกต่างหาก”“แน่นอนสิ ก็ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่นี่นา ฮิ ฮิ”“ชิ เดี๋ยวฉันจะให้แม่พาไปหาซื้อบ้าง วันนี้เราก็ซื้อแค่เท่าที่เราซื้อมาใส่เล่นกันก็พอ”“ตกลง ๆ งั้นเราหาแบบที่เหมือนกันดีมั้ย จะได้ใส่เหมือนกันไง”“ก็ดีนะ เรามีชุดธีมเดียวกันแล้ว ถ้ามีเครื่องประดับเหมือนกันอีกก็คงน่ารักดีนะ”“ถ้าอย่างนั้นก็ไปชั้นบนกันเลย”หานลู่หรง โจวเสี่ยวเซียนและซูหนิงเซียวเดินอย่างร่าเริงขึ้นไปชั้นบนซึ่งเต็มไปด้วยร้านจิวเวลรี่ พวกเธอเลือกเข้าร้านที่ใหญ่หน่อยเผื่อจะมีแบบสวย ๆ ให้พวกเธอซื้อใส่เหมือนกันพนักงานร้านเห็นส
“เด็กโง่ ยังไงแม่ก็ห่วงลูกทุกอย่างอยู่แล้ว ดีที่พวกบอดี้การ์ดช่วยทัน ไม่อย่างนั้นเรื่องคงไปถึงอาจารย์ลูกแน่”“นี่ขนาดหนิงเซียวยังไม่เข้าวงการแสดงเต็มตัวนะคะ เธอยังถูกเพื่อนหาเรื่องเลย หากในอนาคตต้องไปแคสติ้งงานที่ต้องสู้กันทั้งความสามารถและหน้าตา พี่ไม่อยากคิดเลยว่าจะมีคนมาหาเรื่องหนิงเซียวมากขนาดไหน”“เฮ้อ ถ้าเป็นอย่างที่พี่กู่ว่า น้องก็ไม่อยากให้หนิงเซียวไปร่วมเล่นละครสักเท่าไหร่แล้วล่ะค่ะ การเป็นนักร้องก็สามารถอยู่ในวงการบันเทิงได้เหมือนกัน ลูกคิดยังไง”“หนูเห็นด้วยนะคะ เอาเป็นว่าหนูจะตั้งใจเรียนร้องเพลงและแต่งเพลงให้ได้ภายในเวลาก่อนเรียนจบก็แล้วกันค่ะ ถ้ามันออกมาดี หนูก็จะเอาดีทางนี้ ดีกว่าที่จะต้องไปมีปัญหาเวลาทำงาน แม่กับป้ากู่ก็รู้ว่าหนูไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย”“อืม ถ้าอย่างนั้นแม่จะสนับสนุนลูกในทุกทางที่ลูกเลือกก็แล้วกัน ส่วนเรื่องชมรมการแสดง ยังไงลูกก็เข้าไปแล้ว ก็แค่ทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุดก็
ซูหนิงจิงกับกู่ซิงเดินนำหน้าแพทริกไปที่รถของเธอ หลังจากเก็บของใส่รถเสร็จแล้ว ทั้งสามจึงเดินทางไปยังใจกลางเมืองใกล้กับตึกบริษัท D คอนสตรัคชั่น เพื่อหาอะไรกินกันก่อนถึงเวลานัดในช่วงบ่ายโมงซูหนิงจิงจอดรถเอาไว้ที่อาคารจอดรถในตึก D คอนสตรัคชั่น ก่อนจะพากันเดินออกไปยังร้านอาหารที่พวกเขาเห็นก่อนถึงตึก โชคดีที่ซูหนิงจิงออกมากันเร็วไม่อย่างนั้นคงมาถึงเลยเวลานัดเป็นแน่ เพราะรถติดมากที่ถนนเส้นนี้เมื่อเดินถึงร้านอาหารแล้ว ทั้งสามคนก็รีบสั่งและทานอาหารกันอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงครึ่งแล้ว พวกเขามีเวลากินอาหารและพักผ่อนกันไม่นานนัก หลังจากทานอาหารกันเสร็จ ซูหนิงจิงก็ชวนกู่ซิงกับแพทริกไปซื้อกาแฟที่อีกร้านหนึ่งไม่ไกลกันนักกับร้านอาหาร จากนั้นจึงพากันเดินไปรอที่ฟร้อนในอาคาร D คอนสตรัคชั่นเพื่อรอเวลานัดกระทั่งถึงเวลาบ่ายโมง ซูหนิงจิงเดินไปติดต่อที่ประชาสัมพันธ์ว่าเธอมีนัดกับกวานจื้อจิวเวลาบ่ายโมง พนักงานเห็นซูหนิงจิงแจ้งแบบนี้ก็รีบโทรขึ้นไปที่ห้องท่านประธานเพื่อแจ้งให้ทราบว
ส่วนซูหนิงจิงก็พากู่ซิงกับแพทริกกลับไปที่คอนโด แพทริกนั่งพักทานน้ำและพูดคุยกับซูหนิงจิงไม่นานก็ขอตัวกลับก่อน เขานัดกับเธออีกครั้งในวันพรุ่งนี้เพื่อไปพบจ้านเกาเพื่อนรัก หลังจากแพทริกกลับไปแล้ว กู่ซิงก็สอบถามซูหนิงจิงเรื่องโครงการนี้อย่างจริงจัง เพราะเท่าที่เธอเข้าร่วมประชุมในวันนี้ดูเหมือนว่าซูหนิงจิงจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการก่อสร้างอาคารแต่ละหลัง“น้องซูคิดว่าค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างที่น้องซูมีอยู่จะพอเหรอคะ พี่เห็นด้วยนะที่หากคุณกวานอยากร่วมหุ้นกับน้องซู”“เรื่องนี้พี่กู่ไม่ต้องกังวลค่ะ เท่าที่น้องประเมินราคาเบื้องต้น อาคาร 30 ชั้น ที่ใช้วัสดุตามแบบของแพทริกน่าจะใช้เงินในการก่อสร้างไม่เกินอาคารละ 150 ล้านหยวนค่ะ”“โอ้โห มากขนาดนั้นเลยเหรอคะน้องซู นี่ยังไม่รวมค่าตกแต่งต่าง ๆ เลยนะคะ”“เป็นธรรมดานะคะพี่กู่สำหรับราคานี้น้องถือว่ารับได้ ส่วนค่าตกแต่งเราจะได้จากตอนที่ผู้ซื้อมาวางมัดจำยังไงล่ะคะ เราไม่ได้จ่ายเลยเ
ซูหนิงเซียวหลังจากเลิกคุยกับจ้านเกาแล้วก็ได้แต่ยิ้มกลิ้งไปกลิ้งมาคนเดียว เธอไม่คิดว่าจ้านเกาจะรู้ว่าเธออยากให้เขาช่วยลดราคาให้แม่ของเธอ พอได้ยินเขาพูดออกมาด้วยตัวเอง เธอเลยมีความสุขและอบอุ่นใจไม่น้อยที่มีจ้านเกาคอยช่วยเหลือแม่ของเธอเอง คืนนี้ซูหนิงเซียวนอนหลับฝันดีกับเรื่องของแม่ที่เธอพอจะช่วยได้เล็กน้อยหลังจากพูดคุยกับพี่จ้านหลังอาหารเช้าวันต่อมา ต่างคนต่างออกจากบ้านเพื่อไปทำเรื่องของตัวเองในวันนี้ แน่นอนว่าซูหนิงเซียวไม่ได้บอกแม่ของเธอว่าเธอขอร้องให้จ้านเกาช่วยแม่ ไม่อย่างนั้นแม่คงต่อว่าเธอเป็นแน่ แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอเป็นห่วงธุรกิจใหญ่ของแม่ไม่น้อยเช่นเดียวกันหนิงเซียวยังคงไปรอเพื่อนที่เดิมเพื่อเข้าเรียนในช่วงสัปดาห์แรกที่ใต้ตึกคณะ เพราะยังเป็นแค่ช่วงแรกที่อาจารย์จะแนะนำหนังสือและบทเรียนของแต่ละวิชาที่จะต้องเรียนเท่านั้นซูหนิงจิงที่เตรียมเอกสารและสิ่งของจำเป็นสำหรับการคุยงานในวันนี้ไปด้วยก็พากู่ซิงออกจากคอนโดหลังซูหนิงเซียวไม่นาน ด้วยเธอรู้ดีว่าเป็นวันทำงานและรถน่าจะติดท
หลังมื้ออาหารเที่ยง ซูหนิงเซียวโทรหาแม่ว่าการประชุมเป็นอย่างไรบ้างด้วยความเป็นห่วง จ้านเกาที่ได้ยินว่าซูหนิงเซียวโทรมาก็อยากคุยกับเธอเช่นเดียวกันแต่ก็กลัวว่าจะเสียมารยาท เขารอให้เสร็จงานเสียก่อนค่อยส่งข้อความหาเธอจะดีกว่าซูหนิงจิงคุยโทรศัพท์กับลูกสาวไม่นานนักก็วางสายไป เธอเข้าใจดีว่าลูกคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจของเธอในครั้งนี้ ซูหนิงจิงจึงไม่คิดต่อว่าที่ลูกสาวจะเป็นห่วงเธอเกินเหตุ“ขอโทษด้วยนะคะที่หนิงเซียวโทรมาป่วนแบบนี้”“ไม่เป็นไรครับคุณป้า น้องน่าจะเป็นห่วงคุณป้ามากกว่าครับ ผมคิดว่าน่ารักดี”“ขอบคุณที่เอ็นดูน้องนะจ้านเกา ตอนนี้ใกล้บ่ายโมงแล้ว ป้าว่าเราไปห้องประชุมกันดีกว่า ยังเหลืออีกอาคารที่แพทริกยังไม่ได้อธิบายคอนเซ็ปเลย”“ตกลงครับ”จ้านเกาเดินนำทุกคนออกจากห้องอาหารส่วนตัวเพื่อกลับไปยังห้องประชุม ก่อนที่จะถึงเวลาเข้าประชุม ซูหนิงจิงกับกู่ซิ
กว่าที่ซูหนิงจิงกับกู่ซิงจะกลับถึงบ้านก็เกือบหกโมงเย็นแล้ว เธอไม่คิดว่าขนาดออกมาเร็วแล้วยังไม่พ้นรถติดขากลับแบบนี้ ส่วนซูหนิงเซียวนั้นกลับถึงบ้านก่อนหน้าทั้งสองคนนานแล้ว เธอจึงเป็นคนทำอาหารเย็นมื้อนี้แทนแม่ของตัวเองระหว่างทานอาหาร ซูหนิงเซียวยังสอบถามเรื่องงานของแม่เธอในวันนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถึงแม้เธอจะไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เลยก็เถอะ“งานวันนี้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องหนักใจนะลูก แม่แค่รอราคาจากทั้งสองบริษัทเท่านั้นก็จะลงนามสัญญาเพื่อเริ่มก่อสร้างเลย ไม่อย่างนั้นอีกนานกว่าที่โครงการจะเสร็จ แม่อยากให้โครงการนี้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งปี แต่ถ้าบริษัททั้งสองมีความสามารถมากพอที่จะสร้างเสร็จภายในไม่เกินหนึ่งปี แม่ก็สามารถเปิดขายโครงการได้เร็วขึ้น”“อืม แม่ไม่คิดจะต่อรองราคาหน่อยเหรอคะ ถ้าเกิดว่าราคาที่พวกเขาเสนอมาสูงเกินไป หนูเสียดายตังนะคะแม่”“ฮ่า ฮ่า แม่คำนวณราคาต้นทุนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ลูกไม่ต้องห่วงเรื่องพวกนี้หรอก รับรองว่าลูกสาวแ
วันต่อมา ซูหนิงเซียวที่นั่งรอเพื่อนอยู่ก็ทบทวนเนื้อเพลงที่เธอแต่งได้เมื่อวานเพิ่มมาอีกหนึ่งท่อนโดยร้องคลอเบา ๆ พอเห็นว่าเนื้อเพลงเริ่มจะเข้าที่เข้าทางแล้ว เธอก็อัพเดทเว่ยป๋อเล่าเรื่องที่เธอกำลังแต่งเพลงให้กับผู้ติดตามของเธอฟังก่อนเข้าเรียนเหล่าผู้ติดตามที่เห็นข้อความของซูหนิงเซียวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าอยากฟังเพลงที่เธอแต่งกันเสียแล้ว ทำให้ซูหนิงเซียวได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่อย่างน้อยยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่อยากฟังเพลงของเธอ เธอรับปากพวกเขาว่าถ้าเธอแต่งเสร็จแล้วจะบันทึกเสียงและอัพเดทให้พวกเขาฟังเป็นกลุ่มแรก ก่อนจะลาทุกคนในเว่ยป๋อเพื่อรอเข้าเรียนพร้อมเพื่อนที่เพิ่งมาถึงไม่นาน“นี่ ๆ เมื่อวานฉันแต่งได้ท่อนนึงแล้วนะเพลงเปียโน แต่ฉันคิดว่าชอบแนวป็อปร็อกมากกว่าอ่ะ” โจวเสี่ยวเซียนรีบนั่งเล่าให้เพื่อนฟัง“ส่วนฉันชอบป็อปสบาย ๆ เหมือนหนิงเซียวมากกว่า ฉันก็แต่งได้ท่อนนึงเหมือนกัน วันนี้กลับไปฉันจะไปนั่งแต่งต่อให้ได้มากที่สุด ยังไงพรุ่งนี้กับมะรืนนี้ก็วันหยุด ฉันว่าน่าจะแ
“ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้เราค่อยคิดกันหลังจากดูหนิงเซียวอีกสักปีสองปีก็ได้ค่ะ อย่างไรถ้าเราต้องใช้โปรดิวเซอร์จริง ๆ ก็ไม่น่าจะหายากนัก”ซูหนิงจิงพยักหน้าเห็นด้วยกับกู่ซิง ไม่นานนักพวกเธอก็ทานอาหารเสร็จและจ่ายเงินก่อนจะออกจากร้านเพื่อไปซื้อหนังสือกันต่อ หลังจากซื้อหนังสือกันเกือบหนึ่งชั่วโมง กู่ซิงกับซูหนิงจิงก็ได้หนังสือหลายเล่มมาอ่านเพื่อเพิ่มความรู้ในเรื่องธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบันที่เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นรวมทั้งหนังสือเกี่ยวกับการเล่นหุ้นที่กู่ซิงสนใจอีกด้วย ทั้งสองคนจ่ายค่าหนังสือต่าง ๆ แยกกันเพราะกู่ซิงไม่อยากให้ซูหนิงจิงต้องมาจ่ายเงินสำหรับหนังสือและสมุดโน้ตส่วนตัวของเธอ ซึ่งซูหนิงจิงก็ไม่ได้ขัดกู่ซิง เธอเข้าใจดีว่ากู่ซิงคงเกรงใจเหมือนเคย“น้องซูคิดว่าเรื่องธุรกิจออนไลน์น่าสนใจเหรอคะ พี่เห็นน้องซื้อมาอ่านหลายเล่มเลย”“ใช่ค่ะ ตอนนี้น้องยังไม่ค่อยมีความรู้มากนักว่าจะต้องใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์ยังไง น้องเลยอยากศึกษาเอาไว้เผื่อว่าเราจะสามารถนำความรู
ซูหนิงเซียวออกจากบ้านหลังทานอาหารเช้าเพื่อไปเรียนตามปกติ ซูหนิงจิง กับกู่ซิงก็นั่งคุยกันเรื่องสัญญาการจ้างงานที่ซูหนิงจิงส่งให้กู่ซิงอ่านดูก่อน“ขอบคุณมากนะคะน้องซูที่ไว้ใจพี่ พี่ลงชื่อเลยนะคะ”“ไม่มีปัญหาค่ะพี่กู่ ขอบคุณพี่กู่ด้วยนะคะที่ยอมทำงานกับน้อง หวังว่าหลังจากนี้เราจะช่วยกันดูแลงานและหนิงเซียวไปพร้อม ๆ กันได้อย่างดีด้วยค่ะ”กู่ซิงลงชื่อในเอกสารทั้งสองฉบับ โดยส่งฉบับหนึ่งให้ซูหนิงจิงเก็บเอาไว้ ส่วนเธอก็เก็บสัญญาเอาไว้กับตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน“เรื่องนั้นเป็นหน้าที่ของพี่อยู่แล้วค่ะ น้องซูไม่ต้องกังวลไป ตอนนี้แค่รอให้หนิงเซียวทำงานเพลงออกมาได้เสียก่อน พี่จะค่อย ๆ ประชาสัมพันธ์ผ่านทางเว่ยป๋อไปก่อนสำหรับซิงเกิ้ลแรก ส่วนเรื่องการวางแผนงานระยะยาว พี่อยากรอให้หนิงเซียวเรียนจบก่อน เพื่อที่จะได้มีเวลาเดินสายแสดงคอนเสิร์ตของตัวเองถ้าเพลงของหนิงเซียวติดตลาดและมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นนะคะ”“ควา
“น้องซูแน่ใจนะคะว่าจะไม่กู้เงินธนาคารสำหรับการลงทุนครั้งนี้”“แน่ใจค่ะพี่กู่ น้องคำนวณดูแล้วยังพอเหลือเงินสำหรับทำอย่างอื่นได้อีกสองร้อยกว่าล้านหยวน อย่าลืมว่าถ้าเราเริ่มโครงการได้สักครึ่งทางแล้วน้องจะให้บริษัทภายนอกมาขายโครงการของเรา เราสามารถนำเงินมัดจำของลูกค้าที่ต้องการซื้อห้องของเรากลับมาได้ในเวลานั้นด้วยนะคะ”“ถ้าน้องซูมั่นใจ พี่เองก็จะช่วยดูแลเรื่องการขายโครงการอีกแรงหนึ่งค่ะ”“ขอบคุณพี่กู่มากนะคะที่คอยช่วยเหลือน้องมาตลอด อย่างน้อยน้องก็ยังมีพี่กู่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ น้องก็สบายใจมากแล้วค่ะ ส่วนเรื่องสัญญาเงินเดือนของพี่กู่ เราจะเริ่มทำกันเมื่อไหร่ดีคะ ตอนนี้พี่กู่ก็เข้าใจโครงการของน้องมากพอแล้ว หลังจากนี้เรายังต้องไปทำสัญญากับบริษัทของกวานจื้อจิว จ้านเกาและเจิ้งจุนอีกนะคะ น้องอยากเคลียร์เรื่องเงินเดือนของพี่ให้เสร็จด้วยเลยค่ะ”“พี่แล้วแต่น้องจะเสนอให้เลยค่ะ อย่างไรตอนนี้พี่ก็กินอยู่ฟรีกับน้องซ
“ไม่เห็นจะยากเลยหนิงเซียว เธอก็เข้าไปดูในยูทูปหรือถามแฟนคลับในเว่ยป๋อของเธอก็ได้ว่าชอบฟังเพลงแนวไหน แล้วเธอค่อยหาตัวอย่างมาฟังแล้วทดลองแต่งเพลงในสไตล์ของตัวเองออกมา เดี๋ยวนี้หาข้อมูลง่ายจะตายไป”“นั่นสิ ๆ อย่างฉันนะชอบเพลงแนวน่ารัก ๆ สดใสเหมือนพวกไอดอลมากกว่า ฉันก็จะเลือกฟังแต่เพลงพวกนี้เวลาว่างนั่นแหละ แต่เวลาเล่นเปียโนฉันดันชอบเพลงแจ๊ส ก็เลยชอบเล่นเปียโนและแต่งเพลงแจ๊สมากกว่าเพราะมันสนุกดี”“อย่างนั้นเหรอ อืม ขอบใจพวกเธอนะที่คอยเป็นที่ปรึกษาให้ฉัน ฉันจะลองหาข้อมูลและฟังเพลงหลาย ๆ แบบดูก่อนว่าตัวฉันเองชอบสไตล์ไหน แล้วค่อยแต่งออกมาน่าจะดีกว่า”สามสาวนั่งกินไปคุยไปจนเกือบจะห้าโมงเย็นแล้วจึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน ซูหนิงเซียวส่งข้อความไปบอกแม่ของเธอก่อนแล้วว่าจะมานั่งกินไอศกรีมกับเพื่อนจึงไม่ได้กังวลว่าแม่จะเป็นห่วง เธอขับรถกลับคอนโดโดยใช้เวลาเพียง 15 นาทีถึงแม้รถจะติดมากก็ตาม เพราะห้างอยู่ฝั่งเดียวกับคอนโดของเธอที่อยู่ไม่ไกลจึงขับรถได้อย่างสบาย ๆ
หัวหน้าช่างหลังจากอธิบายการใช้งานหลายรูปแบบให้กับซูหนิงเซียวจบก็ชมเธอไม่น้อยกับคำถามต่าง ๆ ที่เธอสงสัย น้อยคนนักที่เขาไปติดตั้งให้จะกล้าถามคำถามเหล่านี้เพราะกลัวเสียหน้า แต่เด็กคนนี้ดูมีความพยายามทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการใช้งานเครื่องมิกซ์และอุปกรณ์ทั้งหมด ทำให้เขาประทับใจไม่น้อยและยิ่งอยากเห็นผลงานการแต่งเพลงของเด็กคนนี้ในอนาคตอีกด้วย“ขอบคุณพี่มากนะคะที่ช่วยสอนจนหนูเข้าใจวิธีการใช้งานและเทคนิคต่าง ๆ”“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ หวังว่าพวกผมจะได้ฟังผลงานเพลงดี ๆ จากคุณหนูหลังจากนี้นะครับ”ซูหนิงเซียวยิ้มรับคำของหัวหน้าช่างและชวนเขาออกไปด้านนอกเพื่อบอกแม่ของเธอว่าเรียนรู้กันเสร็จแล้ว จากนั้นซูหนิงจิง กู่ซิงและซูหนิงเซียวรอให้หัวหน้าช่างได้นั่งพักดื่มน้ำทานของว่างก่อนจะส่งพวกเขากลับพร้อมกันตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็นแล้ว ซูหนิงจิงจึงให้ลูกสาวเก็บของว่างและน้ำดื่มทั้งหมดบนโต๊ะรับแขกเข้าไปล้างทำความสะอาด ส่วนเธอจะเตรียมอาหา
หลังวางสายจากผู้จัดการโครงการ ซูหนิงจิงก็บอกเรื่องการติดตั้งแอร์ให้กับช่างทั้งสามคนทราบด้วย เพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่รอก่อน เนื่องจากตอนนี้อุปกรณ์ที่เหลืออีกไม่มากกำลังจะติดตั้งเสร็จแล้ว หากพวกเขาทดสอบระบบเสียงก็จำเป็นจะต้องปิดห้องเพื่อเก็บเสียงด้วย เธอจึงกลัวว่าพวกเขาจะขาดอากาศหายใจกันเสียก่อน“ตกลงครับคุณผู้หญิง อีกไม่ถึง 20 นาทีก็น่าจะติดตั้งระบบไฟเรียบร้อยทั้งหมดครับ”“ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะเตรียมของว่างเอาไว้ให้ระหว่างนั่งรอช่างแอร์มาติดตั้งหลังจากนี้ค่ะ”พนักงานทั้งสามต่างขอบคุณซูหนิงจิงแล้วเร่งต่อระบบไฟและเก็บสายให้ดีเพื่อที่เวลามีคนเข้ามาในห้องอัดจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุซูหนิงจิงชวนซูหนิงเซียวเข้าไปเตรียมของว่างเอาไว้ให้ช่างทั้งสามคนก่อนที่พวกเขาจะทำงานเสร็จ กู่ซิงเห็นว่าตัวเองไม่มีอะไรทำก็ขอไปช่วยยกด้วยเช่นกัน“อีกสักพักช่างแอร์จะเข้ามาติดแอร์ห้องอัดเสียงของลูกนะหนิงเซียว แม่แจ้งผู้จัด
“น้องซูอย่าพูดเรื่องผลประโยชน์กับพี่มากเลยค่ะ พี่เห็นหนิงเซียวเหมือนหลานสาวคนหนึ่งจริง ๆ และพี่ก็อยากเห็นว่าหนิงเซียวจะสามารถขึ้นไปสูงได้ถึงขั้นไหนในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะการเป็นนักร้องนักแต่งเพลงก็ดี หรือจะเป็นนางแบบและนักแสดงก็ดี พี่อยากสนับสนุนหนิงเซียวเหมือนน้องซูนั่นแหละค่ะ เพียงแต่พี่ไม่มีต้นทุนมากนักเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ในเมื่อน้องซูวางใจให้พี่ดูแลเบื้องหลังให้หนิงเซียว พี่เองก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ พี่ต้องขอบคุณน้องซูที่เชื่อใจพี่ด้วยนะคะ”“พี่กู่ไม่ต้องขอบคุณน้องหรอกนะคะ เรื่องในวงการบันเทิง ยังไงน้องก็ต้องพึ่งพาพี่กู่ให้แนะนำหนิงเซียวอยู่แล้วค่ะ”“แม่คะ ป้ากู่ คุยอะไรกันคะดูเครียดเชียว” ซูหนิงเซียวเดินมานั่งข้างแม่ก่อนจะถาม“แม่แค่อยากให้ป้ากู่ช่วยเหลือเรื่องดูแลลูกด้านงานเพลงน่ะ ลูกคิดยังไงถ้าจะโปรโมตงานเพลงด้วยตัวเองแทนที่จะเซ็นสัญญากับค่ายเพลง”“หนูคิดว่าก็ไม่เลวนะคะแม่ ถ้ามีการเซ็นส
วันจันทร์ต่อมา ซูหนิงเซียวไปขอลาอาจารย์ในรายวิชาที่เธอจะต้องเรียนในวันอังคารโดยแจ้งเหตุผลให้ทราบเรื่องการติดตั้งห้องแต่งเพลงของเธอที่บ้าน อาจารย์หลายคนเห็นว่าซูหนิงเซียวตั้งใจเรียนมาตลอดจึงเพียงแค่ให้เธอฝากเพื่อนจดเรื่องที่ต้องเรียนในวันพรุ่งนี้แล้วเอาไปทบทวนแทนระหว่างพักเบรกช่วงเที่ยง หานลู่หรงกับโจวเสี่ยวเซียนถามซูหนิงเซียวเรื่องที่เธอขอหยุดในวันพรุ่งนี้ด้วยความสงสัย“นี่หนิงเซียว พรุ่งนี้เธอมีธุระอะไรถึงต้องลาเรียนทั้งวันอ่ะ”โจวเสี่ยวเซียนรีบถามเพื่อนสาวหลังจากรับอาหารมานั่งทานกันที่โต๊ะแล้ว หานลู่หรงเองก็พยักหน้าตามเพื่อนที่ถามซูหนิงเซียวเช่นเดียวกัน“พรุ่งนี้จะมีช่างมาเทสระบบเครื่องมิกซ์เสียงกับอุปกรณ์ในห้องอัดเสียงที่บ้านฉันน่ะ ฉันเลยอยากอยู่ดูและสอบถามวิธีการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ฉันอยากแต่งเพลงเองเลยให้แม่พาไปดูอุปกรณ์พวกนั้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง”“โอ้โห แม่เธอยอมลงทุน