หลังมื้อเย็นที่บ้านตระกูลจ้าน เจิ้งเหลียงฮวาก็ได้แต่นั่งคิดระหว่างทางกลับบ้านว่าเธอควรจะบอกเรื่องนี้กับเพื่อนรักดีหรือเปล่า จ้านเกายังบอกด้วยว่าเพื่อนเธอขอนัดทานอาหารเย็นกันสักวันหนึ่ง ซึ่งเธอก็ให้จ้านเกาเป็นคนบอกวันที่และเวลาทีหลัง อย่างไรช่วงนี้เธอก็ยังไม่คิดออกงานอะไรมากมาย หลังจากเพิ่งผ่านงานประมูลครั้งก่อน ตอนนี้ลูกค้าที่ยังไม่จ่ายค่าสินค้าก็มีอยู่สองสามราย ยิ่งหลิวอ้ายโหรวยิ่งแล้วใหญ่ คนของเธอไปสอบถามสองสามครั้งแล้วก็ยังไม่ยอมนำเงินมาจ่ายให้เสียที ครั้งหน้าเธอจะบอกให้คนของเธอไปติดต่อจ้าวไห่ถังแทน อย่างไรก็คงน่าจะได้เงินกลับมา คนของเธอก็จะได้ส่งสินค้าที่หลิวอ้ายโหรวประมูลเสียที
เจิ้งเหลียงฮวาคิดเรื่องลูกสาวเพื่อนจนถึงบ้านแล้วก็ยังตัดสินใจไม่ได้ เธอจึงเลือกที่จะปรึกษาสามีที่น่าจะมีความคิดดีกว่าเธอแทน
“ผมว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้จะดีกว่า เรายังไม่รู้เลยว่าเด็กสองคนจะชอบพอกันจริงไหม ผมกลัวว่าเพื่อนคุณจะคิดมากเกินไป และหาว่าเราให้ท้ายหลานชายอีก”
“อืม… ถ้าอ
ซูหนิงเซียวพอรู้ว่าแม่อยากทำสเต็ก เธอก็เลือกซอสสำหรับทำน้ำราดหน้าและผักต่าง ๆ เอาไว้วางประดับไว้บนจานสเต็ก ไหนจะส้อมกับมีดที่ต้องเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าอีก ซูหนิงจิงเห็นลูกเลือกของบ้างแล้ว ตัวเองจึงเดินแยกไปกับกู่ซิงเพื่อซื้อเนื้อมาหลายชิ้นเผื่อเอาไว้ รวมทั้งเตาย่างสเต็กอันใหม่ด้วย เพราะที่คอนโดมีเพียงเตาไฟฟ้าสองหัวอยู่เท่านั้น เธออยากให้เนื้อสเต็กออกมาสวย จึงต้องซื้อเตาย่างไฟฟ้าอันใหม่มาแทน อีกทั้งเตานี้ยังสามารถย่างได้ทีละหลายชิ้น ทำให้ลดเวลาการย่างได้มากอีกด้วยไม่นานนักทั้งสามคนก็มารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อดูว่าขาดเหลืออะไรอีก ซูหนิงจิงเห็นบ้านยังไม่มีชุดจานชามดี ๆ จึงชวนกู่ซิงกับซูหนิงเซียวไปเลือกไว้ใช้บ้างเผื่อมีแขกมาบ้านอีก ไหนจะแก้วน้ำและชุดน้ำชาที่เธอยังไม่มีแบบสวย ๆ ติดบ้านไว้ด้วย ซูหนิงเซียวช่วยแม่กับป้ากู่เลือกหนึ่งชุด ส่วนกู่ซิงกับซูหนิงจิงก็เลือกกันคนละชุด โดยไม่คิดว่าของพวกนี้จะมากเกินไป อย่างไรการสลับใช้บ้างก็ทำให้รู้สึกไม่จำเจ“แม่คะ หนูว่าเราทำซุปไก่แก้เลี่ยนกินกับสเต็กด้วยดีไหมคะ”
ซูหนิงจิงที่เห็นสายตาของจ้านเกาเอาแต่มองลูกสาวเธอตาหวานเยิ้มก็ได้แต่กระแอมไอเตือนเขาสักหน่อย ลูกสาวเธอตอนนี้ยังเข้าใจผิดอยู่ว่าเขาชอบเธอ ยิ่งเขาแสดงออกแบบนี้ หน้าลูกสาวเธอยิ่งงอเข้า ๆ จนเธอกลัวว่าลูกจะอาละวาดเอาเพราะความหวงแม่จ้านเกาได้แต่รีบจิบกาแฟแล้ววางถ้วยลงอย่างเสียดาย เขาไม่คิดว่าป้าซูจะรู้ทันจนกระแอมเตือนสติเขา จากนั้นจ้านเกาก็กลับเข้ามาสู่โหมดเป็นงานเป็นการอีกครั้ง แต่เขาก็แอบมองเธอด้วยหางตาอยู่ตลอด เขาเห็นว่าเธอทำหน้าไม่ค่อยพอใจนักก็นึกว่าเธอไม่ชอบที่เขามองเธอบ่อย ๆซูหนิงจิงได้แต่ต้องกลอกตามองบนอย่างไม่รู้จะบอกลูกว่าอย่างไร เธอจึงหันไปคุยกับแพทริกเรื่องภาพรวมโครงการที่เธอต้องการแทน ซูหนิงเซียวกดอัดเสียงตอนที่แม่กำลังคุยงานเอาไว้ด้วยเผื่อว่าแม่จะหลงลืมอะไรไปพอแพทริกนั่งฟังไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งอยากออกแบบงานให้กับคุณผู้หญิงตรงหน้า เขาไม่คิดว่าเธอจะมีความคิดดีเช่นนี้ เขายังไม่เคยเห็นใครสร้างคอนโดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายในโดยที่คนในคอนโดแทบไม่ต้องออกไปไหนแบบนี้มาก่อน ตอ
จ้านเกาที่เอาแต่มองซูหนิงเซียวก็ไม่เข้าใจว่าเธอไม่ชอบอะไรเขาหรือเปล่าทำไมเธอถึงได้ทำหน้าไม่พอใจแบบนี้ทุกครั้งที่เขามองดูเธอ ซูหนิงจิงที่เห็นจ้านเกาน่าจะเข้าใจลูกสาวเธอผิดก็ได้แต่แอบขอโทษเขาในใจ เรื่องนี้เอาไว้มีเวลาเธอค่อยบอกเขาก็แล้วกัน เธอต้องจัดการลูกสาวตัวดีของเธอก่อนที่หวงแม่ไม่เข้าท่าหลังทานอาหารกันเสร็จแล้ว คนอื่น ๆ ก็กลับไปนั่งคุยกันต่อเรื่องทั่วไปก่อนจะเริ่มคุยเรื่องงานกันทีหลัง เพราะพวกเขาอยากรอซูหนิงเซียวกับกู่ซิงที่ช่วยกันเก็บล้างทำความสะอาดในครัวอยู่ จ้านเกาที่กลัวว่าสาวจะไม่ชอบรีบถามซูหนิงจิงอย่างอดรนทนไม่ไหวทันทีที่นั่งลง“คุณป้าซูครับ น้องทำไมทำหน้าเหมือนไม่ค่อยชอบหน้าผมล่ะครับ นี่ผมทำอะไรให้น้องโกรธหรือเปล่าครับ”เขาใช้ภาษาถิ่นเพื่อไม่ให้ถูกเพื่อนล้อแทนการใช้ภาษาอังกฤษที่คุยกันก่อนหน้านี้ทันที“เฮ้อ หนิงเซียวเข้าใจผิดว่าคุณจ้านสนใจดิฉันน่ะค่ะ เธอหวงแม่มากเลยทำหน้าแบบนี้ คุณจ้านก็ไม่ต้องสนใจเธอมากหรอกนะคะ หนิงเซี
ช่วงสัปดาห์ต่อมา ซูหนิงเซียวเห็นแม่ยุ่งกับงานทุกวัน เธอเลยขอป้ากู่ไม่รับงานจนกว่าจะปิดเทอม เพื่อจะได้คอยดูแลทำอาหารให้แม่บ้าง ซูหนิงจิงพอรู้แบบนี้ก็ไม่อยากขัดใจลูก ในเมื่อลูกอยากดูแลเธอ เธอก็จะปล่อยให้ลูกดูแลไป ดีเสียอีกที่เธอไม่ต้องคอยตะลอนขับรถให้ลูกสาวไปถ่ายแบบทุกวันหยุดจ้านเกาหลังจากกลับบ้านแล้ว เขาเล่าให้ตากับยายฟังว่าซูหนิงเซียวเข้าใจเขาผิดอย่างไร ทำเอาสองเฒ่าชราต่างนึกเอ็นดูเด็กคนนี้ทั้งที่ยังไม่ได้เจอตัวจริง เพียงแค่เห็นในหน้านิตยสารเท่านั้นสองเดือนต่อมาซูหนิงเซียวที่สอบปลายภาคเสร็จก็ไม่ได้กังวลกับผลการสอบในครั้งนี้ เธอมั่นใจว่าตัวเองน่าจะได้คะแนนดีไม่น้อย ส่วนปิดเทอมหนึ่งเดือนครั้งนี้ เธอจะทำงานของตัวเองที่บอกป้ากู่ช่วยรับงานหลังทราบวันปิดเทอมแล้วช่วงสองเดือนที่ผ่านมา แพทริกนัดปรึกษาเรื่องออกแบบกับซูหนิงจิงบ่อย ๆ จนตอนนี้การออกแบบคอนโดแห่งที่สองใกล้เสร็จแล้ว เหลือเพียงคอนโดแห่งที่สามเท่านั้นที่ยังไม่เริ่มต้นการออกแบบ แต่แพท
จี้จุนได้แต่ปวดหัวกับความเรื่องมากของรั่วซีซี นี่ถ้าไม่ใช่เจ้าของนิตยสารอยากได้รั่วซีซีมาขึ้นปกด้วยล่ะก็ เธอมีหรือที่จะเรียกรั่วซีซีมาถ่ายแบบ ในวงการนี้ต่างรู้กันดีว่าเธอเป็นเมียน้อยของเจ้าของนิตยสารเล่มนี้ ทุกครั้งที่รั่วซีซีอยากขึ้นปกเธอก็จะไปอ้อนคู่นอนของเธอให้หางานให้แบบนี้จี้จุนเข้าไปคุยกับรั่วซีซีเกือบ 10 นาที จึงออกมาตามช่างแต่งหน้าให้เข้าไปทำงานของเธอได้เลย โดยไม่ต้องสนใจเสียงบ่นของรั่วซีซี ช่างแต่งหน้าได้แต่ต้องเข้าไปในห้องเพื่อแต่งหน้าให้กับนางแบบเรื่องมากที่ไม่ได้สวยเท่านางแบบอีกคนสักนิด แต่กลับมีนิสัยไม่ดีแบบนี้ คราวหน้าเธอคงต้องถามชื่อก่อนว่าต้องไปแต่งหน้าให้ใคร ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องเสียอารมณ์แบบนี้อีกแน่ซูหนิงจิงที่ได้ยินได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ขมวดคิ้วอย่างยุ่งยากใจ เธอไม่คิดว่าการให้ลูกถ่ายแบบคู่เป็นครั้งแรก จะต้องเจอกับนางแบบนิสัยเสียเช่นนี้ ซูหนิงจิงได้แต่ต้องถอนหายใจว่าเป็นเธอที่อยากให้ลูกมีประสบการณ์ถ่ายแบบกับคนอื่นบ้างจึงรับงาน ในอนาคตลูกสาวเธออาจจะต้องเจอคนที่เรื่องมากกว่านี้ก็เป็นได
โอวหยางหลงยิ่งถ่ายภาพของซูหนิงเซียวมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งชื่นชมความสามารถของเด็กคนนี้ไม่น้อย ทั้งที่เธอยังไม่ค่อยมีชื่อเสียงในวงการนางแบบสักเท่าไหร่ แต่กลับสามารถทำงานได้ไม่ต่างจากมืออาชีพเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเคยได้ยินเพื่อนคนหนึ่งชื่นชมเธอมาก่อน ครั้งนี้พอรู้ว่าจะได้มาถ่ายเธอ เขาจึงยอมรับงานนี้เท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นเขาจะยอมมาถ่ายให้หย่งกวงที่ขอร้องให้เขาช่วยถ่ายรั่วซีซีให้อีกคนหรืออย่างไร และเด็กคนนี้ก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริง ๆ ไม่ว่าเธอจะสวมชุดไหน เธอสามารถโพสท่าให้ชุดโดดเด่นขึ้นมาได้ไม่ยาก อีกอย่างความสวยของเธอก็นับว่าไม่ธรรมดา สมกับที่เพื่อนเขาชมเธอให้เขาฟังไม่น้อย เด็กแบบนี้พวกเขาชอบที่จะสนับสนุนมากกว่านางแบบเรื่องมากอย่างรั่วซีซีช่วงบ่ายสองโมง การถ่ายแบบทั้งหมดก็เสร็จสิ้น ชุดที่รั่วซีซีจะต้องถ่ายก็เป็นซูหนิงเซียวรับผิดชอบถ่ายให้ทั้งหมด ถึงแม้แบบจะดูเซ็กซี่ไปหน่อย แต่เธอก็ทำออกมาได้ดี ซึ่งตอนแรกซูหนิงจิงไม่ค่อยพอใจนักที่จี้จุนจะให้ลูกเธอแต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้แบบนี้ หากลูกสาวเธอไม่ข้อร้องให้ช่วยจี้จุนล่ะก็ เธอไม่มีวันให้ลูกแต่งตัว
ซูหนิงเซียวเห็นทุกคนต่างมองมาที่เธอก็ได้แต่ทำจิตใจให้สงบ เธอเดินเข้าไปสอบถามทีมงานว่าจะเริ่มต้นแสดงจากตรงไหนก่อน เพราะบทที่ให้เธอมาเริ่มแสดงตามบทเพลงตั้งแต่ท่อนแรก แต่เธอไม่แน่ใจว่าจะมีการสลับฉากก่อนหรือไม่จึงได้สอบถามออกมา นี่เป็นเรื่องที่รุ่นพี่ในชมรมการแสดงเคยเล่าให้เธอฟังว่าบางเรื่องก็ถ่ายทำไปตามใจผู้กำกับ บางเรื่องก็ถ่ายตามบท เราเป็นนักแสดง จึงต้องสอบถามให้ดีเพื่อจะได้เข้าถึงบทบาทได้ถูกต้อง“ผมจะเริ่มถ่ายฉากที่คุณกับพระเอกพบกันและรักกันก่อนครับ ตามเนื้อหาเพลงไปเลยนะครับ ส่วนคุณก็ร้องคลอไปด้วยนะครับ เราจะสลับถ่ายสองกล้องพร้อมกันแล้วค่อยตัดต่อกันทีหลัง ถ้ามีตรงไหนที่ต้องแก้ไข ผมจะสั่งคัทเอง”นักร้อง พระเอกและซูหนิงเซียวต่างรับคำของผู้กำกับอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้านพระเอกมิวสิคที่เห็นว่าซูหนิงเซียวสวยมากจริง ๆ ก็คิดที่จะเอาเปรียบเธอสักเล็กน้อยเวลาเล่นมิวสิค เขาส่งยิ้มให้ซูหนิงเซียวแล้วแนะนำตัวอย่างคิดว่าตัวเองหล่อมาก“สวัสดีครับน้อง พี่ชื่อหวงเต๋อนะครับ ยินดีที่ไ
ผู้กำกับกับทีมงานหลายคนปรบมือให้กับการแสดงของซูหนิงเซียว เธอที่ได้ยินเสียงคัทก็ปาดน้ำตาออกแล้วลุกขึ้นยืนคำนับให้กับคนที่ปรบมือให้เธอ หลังหมดฉากนี้ไปจะเป็นซีนอารมณ์ของเธอคนเดียวยาวไปจนจบเพลง“คุณซูแสดงได้ดีมากครับ รบกวนคุณไปปรับอารมณ์อีกครั้งก่อนที่ผมจะเซ็ตฉากใหม่นะครับ เพราะหลังจากนี้จะเป็นซีนอารมณ์ในห้องพักของคุณแล้ว”“ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณที่ชมนะคะผู้กำกับ”ซูหนิงเซียวไปยืนทบทวนบทบาทอีกครั้งอย่างสงบ ด้านซูหนิงจิงกับกู่ซิงก็ไม่ไปรบกวนซูหนิงเซียวที่กำลังทำสมาธิอยู่ พวกเธอสองคนไม่คิดว่าซูหนิงเซียวจะสามารถแสดงได้ดีถึงขนาดนี้ในครั้งแรกที่ถ่ายมิวสิควิดีโอ นับว่าการที่ซูหนิงเซียวไปเรียนที่เปี่ยวเซียนนั้นไม่เสียหลายจริง ๆด้านจ้านเกาที่ได้รับโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ก็คิดอยู่นาน กระทั่งเขาสั่งเค่อหานให้ตรวจสอบนักแสดงชื่อหวงเต๋อที่กล้ามายุ่งกับผู้หญิงที่เขาดูแลอยู่ และให้เค่อหานทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้ชายคนนี้หลุดออกจากวงการไปเสีย
[อืม ป้าว่างวันมะรืนนี้ค่ะ วันนี้กับพรุ่งนี้หนิงเซียวยังมีงานถ่ายแบบอีกสองงานน่ะ][ถ้าอย่างนั้นผมนัดวันมะรืนเลยนะครับ เอาเป็นที่ห้องอาหารโรงแรม J ของผมก็แล้วกันนะครับ ผมจะได้ให้คนเปิดห้องอาหารส่วนตัวเอาไว้ก่อน][ตกลงจ๊ะ กี่โมงดีล่ะ ป้าจะได้เตรียมตัวเผื่อรถติดด้วย][สักหกโมงเย็นก็แล้วกันครับ เดี๋ยววันมะรืนผมกับป้าเจิ้งจะรอที่ฟร้อนหน้าโรงแรม][โอเคจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นป้าขอตัวไปดูหนิงเซียวก่อนนะ เพราะกำลังจะออกไปทำงานกันแล้วน่ะจ๊ะ][ครับคุณป้า ไว้พบกันวันมะรืนนะครับ สวัสดีครับ]หลังวางสายแล้ว จ้านเกาก็โทรหาเจิ้งเหลียงฮวาเรื่องนัดทานข้าวทันที ซึ่งเธอเองก็รับปากหลานชายว่าจะไปตามเวลานัดพร้อมสามีแน่นอน ช่วงนี้เธอยังไม่ได้คุยกับเพื่อนรักอย่างซูหนิงจิงเรื่องโครงการใหม่เลย ถ้ามีโอกาสเธอก็อยากให้สามีได้งานนี้มากกว่า ถึงแม้สามีจะบอกไม่ให้เธอขอร้องเพื่อนก็เถอะ เธอแค่อยากช่วยงานเขาบ้างเท่านั้นเอง
ผู้กำกับกับทีมงานหลายคนปรบมือให้กับการแสดงของซูหนิงเซียว เธอที่ได้ยินเสียงคัทก็ปาดน้ำตาออกแล้วลุกขึ้นยืนคำนับให้กับคนที่ปรบมือให้เธอ หลังหมดฉากนี้ไปจะเป็นซีนอารมณ์ของเธอคนเดียวยาวไปจนจบเพลง“คุณซูแสดงได้ดีมากครับ รบกวนคุณไปปรับอารมณ์อีกครั้งก่อนที่ผมจะเซ็ตฉากใหม่นะครับ เพราะหลังจากนี้จะเป็นซีนอารมณ์ในห้องพักของคุณแล้ว”“ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณที่ชมนะคะผู้กำกับ”ซูหนิงเซียวไปยืนทบทวนบทบาทอีกครั้งอย่างสงบ ด้านซูหนิงจิงกับกู่ซิงก็ไม่ไปรบกวนซูหนิงเซียวที่กำลังทำสมาธิอยู่ พวกเธอสองคนไม่คิดว่าซูหนิงเซียวจะสามารถแสดงได้ดีถึงขนาดนี้ในครั้งแรกที่ถ่ายมิวสิควิดีโอ นับว่าการที่ซูหนิงเซียวไปเรียนที่เปี่ยวเซียนนั้นไม่เสียหลายจริง ๆด้านจ้านเกาที่ได้รับโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ก็คิดอยู่นาน กระทั่งเขาสั่งเค่อหานให้ตรวจสอบนักแสดงชื่อหวงเต๋อที่กล้ามายุ่งกับผู้หญิงที่เขาดูแลอยู่ และให้เค่อหานทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้ชายคนนี้หลุดออกจากวงการไปเสีย
ซูหนิงเซียวเห็นทุกคนต่างมองมาที่เธอก็ได้แต่ทำจิตใจให้สงบ เธอเดินเข้าไปสอบถามทีมงานว่าจะเริ่มต้นแสดงจากตรงไหนก่อน เพราะบทที่ให้เธอมาเริ่มแสดงตามบทเพลงตั้งแต่ท่อนแรก แต่เธอไม่แน่ใจว่าจะมีการสลับฉากก่อนหรือไม่จึงได้สอบถามออกมา นี่เป็นเรื่องที่รุ่นพี่ในชมรมการแสดงเคยเล่าให้เธอฟังว่าบางเรื่องก็ถ่ายทำไปตามใจผู้กำกับ บางเรื่องก็ถ่ายตามบท เราเป็นนักแสดง จึงต้องสอบถามให้ดีเพื่อจะได้เข้าถึงบทบาทได้ถูกต้อง“ผมจะเริ่มถ่ายฉากที่คุณกับพระเอกพบกันและรักกันก่อนครับ ตามเนื้อหาเพลงไปเลยนะครับ ส่วนคุณก็ร้องคลอไปด้วยนะครับ เราจะสลับถ่ายสองกล้องพร้อมกันแล้วค่อยตัดต่อกันทีหลัง ถ้ามีตรงไหนที่ต้องแก้ไข ผมจะสั่งคัทเอง”นักร้อง พระเอกและซูหนิงเซียวต่างรับคำของผู้กำกับอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้านพระเอกมิวสิคที่เห็นว่าซูหนิงเซียวสวยมากจริง ๆ ก็คิดที่จะเอาเปรียบเธอสักเล็กน้อยเวลาเล่นมิวสิค เขาส่งยิ้มให้ซูหนิงเซียวแล้วแนะนำตัวอย่างคิดว่าตัวเองหล่อมาก“สวัสดีครับน้อง พี่ชื่อหวงเต๋อนะครับ ยินดีที่ไ
โอวหยางหลงยิ่งถ่ายภาพของซูหนิงเซียวมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งชื่นชมความสามารถของเด็กคนนี้ไม่น้อย ทั้งที่เธอยังไม่ค่อยมีชื่อเสียงในวงการนางแบบสักเท่าไหร่ แต่กลับสามารถทำงานได้ไม่ต่างจากมืออาชีพเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเคยได้ยินเพื่อนคนหนึ่งชื่นชมเธอมาก่อน ครั้งนี้พอรู้ว่าจะได้มาถ่ายเธอ เขาจึงยอมรับงานนี้เท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นเขาจะยอมมาถ่ายให้หย่งกวงที่ขอร้องให้เขาช่วยถ่ายรั่วซีซีให้อีกคนหรืออย่างไร และเด็กคนนี้ก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริง ๆ ไม่ว่าเธอจะสวมชุดไหน เธอสามารถโพสท่าให้ชุดโดดเด่นขึ้นมาได้ไม่ยาก อีกอย่างความสวยของเธอก็นับว่าไม่ธรรมดา สมกับที่เพื่อนเขาชมเธอให้เขาฟังไม่น้อย เด็กแบบนี้พวกเขาชอบที่จะสนับสนุนมากกว่านางแบบเรื่องมากอย่างรั่วซีซีช่วงบ่ายสองโมง การถ่ายแบบทั้งหมดก็เสร็จสิ้น ชุดที่รั่วซีซีจะต้องถ่ายก็เป็นซูหนิงเซียวรับผิดชอบถ่ายให้ทั้งหมด ถึงแม้แบบจะดูเซ็กซี่ไปหน่อย แต่เธอก็ทำออกมาได้ดี ซึ่งตอนแรกซูหนิงจิงไม่ค่อยพอใจนักที่จี้จุนจะให้ลูกเธอแต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้แบบนี้ หากลูกสาวเธอไม่ข้อร้องให้ช่วยจี้จุนล่ะก็ เธอไม่มีวันให้ลูกแต่งตัว
จี้จุนได้แต่ปวดหัวกับความเรื่องมากของรั่วซีซี นี่ถ้าไม่ใช่เจ้าของนิตยสารอยากได้รั่วซีซีมาขึ้นปกด้วยล่ะก็ เธอมีหรือที่จะเรียกรั่วซีซีมาถ่ายแบบ ในวงการนี้ต่างรู้กันดีว่าเธอเป็นเมียน้อยของเจ้าของนิตยสารเล่มนี้ ทุกครั้งที่รั่วซีซีอยากขึ้นปกเธอก็จะไปอ้อนคู่นอนของเธอให้หางานให้แบบนี้จี้จุนเข้าไปคุยกับรั่วซีซีเกือบ 10 นาที จึงออกมาตามช่างแต่งหน้าให้เข้าไปทำงานของเธอได้เลย โดยไม่ต้องสนใจเสียงบ่นของรั่วซีซี ช่างแต่งหน้าได้แต่ต้องเข้าไปในห้องเพื่อแต่งหน้าให้กับนางแบบเรื่องมากที่ไม่ได้สวยเท่านางแบบอีกคนสักนิด แต่กลับมีนิสัยไม่ดีแบบนี้ คราวหน้าเธอคงต้องถามชื่อก่อนว่าต้องไปแต่งหน้าให้ใคร ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องเสียอารมณ์แบบนี้อีกแน่ซูหนิงจิงที่ได้ยินได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ขมวดคิ้วอย่างยุ่งยากใจ เธอไม่คิดว่าการให้ลูกถ่ายแบบคู่เป็นครั้งแรก จะต้องเจอกับนางแบบนิสัยเสียเช่นนี้ ซูหนิงจิงได้แต่ต้องถอนหายใจว่าเป็นเธอที่อยากให้ลูกมีประสบการณ์ถ่ายแบบกับคนอื่นบ้างจึงรับงาน ในอนาคตลูกสาวเธออาจจะต้องเจอคนที่เรื่องมากกว่านี้ก็เป็นได
ช่วงสัปดาห์ต่อมา ซูหนิงเซียวเห็นแม่ยุ่งกับงานทุกวัน เธอเลยขอป้ากู่ไม่รับงานจนกว่าจะปิดเทอม เพื่อจะได้คอยดูแลทำอาหารให้แม่บ้าง ซูหนิงจิงพอรู้แบบนี้ก็ไม่อยากขัดใจลูก ในเมื่อลูกอยากดูแลเธอ เธอก็จะปล่อยให้ลูกดูแลไป ดีเสียอีกที่เธอไม่ต้องคอยตะลอนขับรถให้ลูกสาวไปถ่ายแบบทุกวันหยุดจ้านเกาหลังจากกลับบ้านแล้ว เขาเล่าให้ตากับยายฟังว่าซูหนิงเซียวเข้าใจเขาผิดอย่างไร ทำเอาสองเฒ่าชราต่างนึกเอ็นดูเด็กคนนี้ทั้งที่ยังไม่ได้เจอตัวจริง เพียงแค่เห็นในหน้านิตยสารเท่านั้นสองเดือนต่อมาซูหนิงเซียวที่สอบปลายภาคเสร็จก็ไม่ได้กังวลกับผลการสอบในครั้งนี้ เธอมั่นใจว่าตัวเองน่าจะได้คะแนนดีไม่น้อย ส่วนปิดเทอมหนึ่งเดือนครั้งนี้ เธอจะทำงานของตัวเองที่บอกป้ากู่ช่วยรับงานหลังทราบวันปิดเทอมแล้วช่วงสองเดือนที่ผ่านมา แพทริกนัดปรึกษาเรื่องออกแบบกับซูหนิงจิงบ่อย ๆ จนตอนนี้การออกแบบคอนโดแห่งที่สองใกล้เสร็จแล้ว เหลือเพียงคอนโดแห่งที่สามเท่านั้นที่ยังไม่เริ่มต้นการออกแบบ แต่แพท
จ้านเกาที่เอาแต่มองซูหนิงเซียวก็ไม่เข้าใจว่าเธอไม่ชอบอะไรเขาหรือเปล่าทำไมเธอถึงได้ทำหน้าไม่พอใจแบบนี้ทุกครั้งที่เขามองดูเธอ ซูหนิงจิงที่เห็นจ้านเกาน่าจะเข้าใจลูกสาวเธอผิดก็ได้แต่แอบขอโทษเขาในใจ เรื่องนี้เอาไว้มีเวลาเธอค่อยบอกเขาก็แล้วกัน เธอต้องจัดการลูกสาวตัวดีของเธอก่อนที่หวงแม่ไม่เข้าท่าหลังทานอาหารกันเสร็จแล้ว คนอื่น ๆ ก็กลับไปนั่งคุยกันต่อเรื่องทั่วไปก่อนจะเริ่มคุยเรื่องงานกันทีหลัง เพราะพวกเขาอยากรอซูหนิงเซียวกับกู่ซิงที่ช่วยกันเก็บล้างทำความสะอาดในครัวอยู่ จ้านเกาที่กลัวว่าสาวจะไม่ชอบรีบถามซูหนิงจิงอย่างอดรนทนไม่ไหวทันทีที่นั่งลง“คุณป้าซูครับ น้องทำไมทำหน้าเหมือนไม่ค่อยชอบหน้าผมล่ะครับ นี่ผมทำอะไรให้น้องโกรธหรือเปล่าครับ”เขาใช้ภาษาถิ่นเพื่อไม่ให้ถูกเพื่อนล้อแทนการใช้ภาษาอังกฤษที่คุยกันก่อนหน้านี้ทันที“เฮ้อ หนิงเซียวเข้าใจผิดว่าคุณจ้านสนใจดิฉันน่ะค่ะ เธอหวงแม่มากเลยทำหน้าแบบนี้ คุณจ้านก็ไม่ต้องสนใจเธอมากหรอกนะคะ หนิงเซี
ซูหนิงจิงที่เห็นสายตาของจ้านเกาเอาแต่มองลูกสาวเธอตาหวานเยิ้มก็ได้แต่กระแอมไอเตือนเขาสักหน่อย ลูกสาวเธอตอนนี้ยังเข้าใจผิดอยู่ว่าเขาชอบเธอ ยิ่งเขาแสดงออกแบบนี้ หน้าลูกสาวเธอยิ่งงอเข้า ๆ จนเธอกลัวว่าลูกจะอาละวาดเอาเพราะความหวงแม่จ้านเกาได้แต่รีบจิบกาแฟแล้ววางถ้วยลงอย่างเสียดาย เขาไม่คิดว่าป้าซูจะรู้ทันจนกระแอมเตือนสติเขา จากนั้นจ้านเกาก็กลับเข้ามาสู่โหมดเป็นงานเป็นการอีกครั้ง แต่เขาก็แอบมองเธอด้วยหางตาอยู่ตลอด เขาเห็นว่าเธอทำหน้าไม่ค่อยพอใจนักก็นึกว่าเธอไม่ชอบที่เขามองเธอบ่อย ๆซูหนิงจิงได้แต่ต้องกลอกตามองบนอย่างไม่รู้จะบอกลูกว่าอย่างไร เธอจึงหันไปคุยกับแพทริกเรื่องภาพรวมโครงการที่เธอต้องการแทน ซูหนิงเซียวกดอัดเสียงตอนที่แม่กำลังคุยงานเอาไว้ด้วยเผื่อว่าแม่จะหลงลืมอะไรไปพอแพทริกนั่งฟังไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งอยากออกแบบงานให้กับคุณผู้หญิงตรงหน้า เขาไม่คิดว่าเธอจะมีความคิดดีเช่นนี้ เขายังไม่เคยเห็นใครสร้างคอนโดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายในโดยที่คนในคอนโดแทบไม่ต้องออกไปไหนแบบนี้มาก่อน ตอ
ซูหนิงเซียวพอรู้ว่าแม่อยากทำสเต็ก เธอก็เลือกซอสสำหรับทำน้ำราดหน้าและผักต่าง ๆ เอาไว้วางประดับไว้บนจานสเต็ก ไหนจะส้อมกับมีดที่ต้องเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าอีก ซูหนิงจิงเห็นลูกเลือกของบ้างแล้ว ตัวเองจึงเดินแยกไปกับกู่ซิงเพื่อซื้อเนื้อมาหลายชิ้นเผื่อเอาไว้ รวมทั้งเตาย่างสเต็กอันใหม่ด้วย เพราะที่คอนโดมีเพียงเตาไฟฟ้าสองหัวอยู่เท่านั้น เธออยากให้เนื้อสเต็กออกมาสวย จึงต้องซื้อเตาย่างไฟฟ้าอันใหม่มาแทน อีกทั้งเตานี้ยังสามารถย่างได้ทีละหลายชิ้น ทำให้ลดเวลาการย่างได้มากอีกด้วยไม่นานนักทั้งสามคนก็มารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อดูว่าขาดเหลืออะไรอีก ซูหนิงจิงเห็นบ้านยังไม่มีชุดจานชามดี ๆ จึงชวนกู่ซิงกับซูหนิงเซียวไปเลือกไว้ใช้บ้างเผื่อมีแขกมาบ้านอีก ไหนจะแก้วน้ำและชุดน้ำชาที่เธอยังไม่มีแบบสวย ๆ ติดบ้านไว้ด้วย ซูหนิงเซียวช่วยแม่กับป้ากู่เลือกหนึ่งชุด ส่วนกู่ซิงกับซูหนิงจิงก็เลือกกันคนละชุด โดยไม่คิดว่าของพวกนี้จะมากเกินไป อย่างไรการสลับใช้บ้างก็ทำให้รู้สึกไม่จำเจ“แม่คะ หนูว่าเราทำซุปไก่แก้เลี่ยนกินกับสเต็กด้วยดีไหมคะ”