"พี่หลิ่วไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องแบบนี้ ต่อให้คุณจะไม่เตือน ผมก็ไม่ป่าวประกาศออกไปอยู่แล้ว""แต่ว่าพี่หลิ่ว พี่เป็นแบบนี้แล้ว ไม่ให้ผมรับผิดชอบจริงๆ เหรอ?"หลินเฟยถามด้วยความไม่สบายใจ"เด็กโง่ พี่หลิ่วบอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้อง""อย่าพูดว่าเป็นแบบนี้เลย ถึงจะเป็นก็ไม่เป็นอะไรหรอก"หลิ่วจือจินหน้าแดงก่ำ พร้อมกับขยับแว่นตา"หือ? พี่หลิ่ว ทำไมไม่ให้ผมรับผิดชอบล่ะ?"หลินเฟยถามด้วยความสับสนพูดตามเหตุผลแล้ว พี่หลิ่วก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ใจง่ายอะไรสักหน่อยนี่นาแต่ทำไมเธอถึงไม่ได้สนใจพรหมจรรย์ของตัวเองเลยล่ะ?"เพราะพี่หลิ่ว...ไม่มีอะไรหรอก พี่หลิ่วแค่ไม่อยากให้คุณมารับผิดชอบก็เท่านั้น""อย่าถามอะไรอีกเลยนะ รีบเอากางเกงไปโยนทิ้งเถอะ!"หลิ่วจือจินพูดตะกุกตะกัก ในที่สุดก็ถอนหายใจออกมา"อ้อ งั้นก็ได้พี่หลิ่ว หากพี่เปลี่ยนใจเมื่อไหร่ ผมก็สามารถจะรับผิดชอบได้ทุกเมื่อเลยนะ"ทันทีที่หลินเฟยพูดจบก่อนที่เขาจะลงไปชั้นล่างเพื่อโยนกางเกงทิ้งกึก กึก กึกเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบก็ได้ดังขึ้นมาและก็เป็นถังรั่วเสวี่ยที่วิ่งตามมาจัดการกับหลินเฟยนั่นเองและคำพูดเมื่อครู่ที่ผ่านมา แน่นอนว่าเธอได้ยินมันท
หลินเฟยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโล่งใจขึ้นมา"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เข้าใจผิดแก้ไขให้เข้าใจก็โอเคแล้ว คุณกับหลินเฟยกลับไปก่อนเถอะนะ""ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย คงไม่ส่งพวกคุณล่ะนะ"หลิ่วจือจินฝืนยิ้มและพูดออกมา"อืม เสี่ยวเฟย พวกเรา...พวกเรากลับไปคลินิกกันก่อนเถอะ"ถังรั่วเสวี่ยพูดด้วยเสียงที่เบามาก"ไปกันเถอะครับอาเล็ก"หลินเฟยพยักหน้า ก่อนที่จะออกไปก็พูดกับหลิ่วจือจินว่า"พี่หลิ่วครับ อย่าลืมเรื่องที่ผมพูดกับคุณเอาไว้นะ""หลังจากสร้างวิลล่าเสร็จแล้ว ก็ให้คนงานของคุณมาช่วยดูแลสวนผลไม้ให้ผมหน่อยนะครับ""พรุ่งนี้คุณช่วยคำนวณเงินเดือนทั้งหมดที่สร้างวิลล่ามา ผมจะหาเวลาไปถอนเงินในเมือง และก็จ่ายเงินเดือนให้ทุกคนนะครับ"หลิ่วจือจินพยักหน้า และไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้นจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้องแล้วก็พึมพำกับตัวเองอย่างไม่สบายใจขึ้นมาว่า"หลินเฟย คุณสนใจฉันบ้างหรือเปล่า?""หากไม่สนใจ ทำไมต้องดันอะไรแบบนั้นด้วย?""ถ้าฉันอยากจะให้คุณรับผิดชอบจริงๆ...คุณจะทำได้ไหม?"……หลังจากกลับมาที่คลินิก จางซินเยว่ก็ได้สวมกางเกงของถังรั่วเสวี่ยแล้วและหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เธอจะวิ่งตามไปถามหลินเฟยว่า ก
"หลินเฟย ถนนที่นี่แย่มาก รถบรรทุกขนาดใหญ่ไม่สามารถขับผ่านมาได้เลย..."เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว สวีอิ๋งอิ๋งก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันทีและก็รีบบอกเรื่องราวทั้งหมดให้หลินเฟยฟังความจริงแล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่หลินเฟยขับรถผ่านมานั้นเขาก็รู้สึกว่าถนนของหมู่บ้านค่อนข้างจะแย่เช่นกันแต่ในตอนนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจ และด้วยทักษะการขับรถที่ดีของตัวเองอีกทั้งรถเก๋งที่ค่อนข้างจะเล็กจึงสามารถผ่านถนนเส้นนั้นมาได้อย่างง่ายดายแต่ทว่ารถบรรทุกขนาดใหญ่นั้นแตกต่างจากรถเก๋งของหลินเฟยอย่างสิ้นเชิงด้วยสภาพถนนที่แย่แบบนี้ สามารถขับมาได้ก็ถือว่าเสี่ยงขนาดไหนแล้ว"ไม่เป็นไรพี่อิ๋ง พวกคุณรออยู่ตรงนี้เถอะ ผมจะเข้าไปดูว่าจะสามารถช่วยรถบรรทุกให้ออกมาได้หรือเปล่า"หลินเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจ"เสี่ยวเฟย ให้เราตามไปช่วยนายอีกแรงหรือเปล่า?""ให้เรียกคนไปเพิ่มไหม?"ถังรั่วเสวี่ยขมวดคิ้วและเดินเข้ามาถาม"ไม่ต้องหรอกครับอาเล็ก ถนนในหมู่บ้านของเราอาก็รู้ดีอยู่""มันแคบเกินไป การที่รถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งมาได้ก็เสี่ยงมากแล้ว ต่อให้จะไปเรียกคนทั้งหมู่บ้านมาช่วยมันก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะครับ"หลินเฟยส่ายหน้าพร้อมก
"ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็จอดรถเอาไว้ที่นี่เถอะ""พรุ่งนี้ฉันจะเรียกคนให้มาช่วยคิดหาวิธี ดีหรือเปล่า?""เถ้าแก่เนี้ย คุณคิดว่าผมเป็นคนชอบพูดเล่นอย่างนั้นเหรอ?"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว หลินเฟยก็ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นมาทันที"คือว่า..." เจ้าของร้านอดไม่ได้ที่จะหยุดชะงักแม้ว่าเธอและหลินเฟยจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่หลินเฟยก็สามารถจบการขายสิบล้านได้ภายในคำพูดเดียวแบบนั้นและเขาก็ดูไม่เหมือนคนที่ชอบคุยโวโอ้อวดแต่อย่างใด"งั้นก็ได้ น้องสาว เธอช่วยฉันอุ้มโยวโยวหน่อยนะ""พี่คนขับ พวกคุณใครก็ได้มาขับรถที""แล้วคนที่เหลือก็ลองมาช่วยน้องชายคนนี้ดันรถหน่อยนะ"เจ้าของร้านมองไปยังคนขับหลายๆ คนอย่างปรึกษา พร้อมกับพูดขึ้นมา"นี่เถ้าแก่เนี้ย คุณยังจะเชื่อไอ้เด็กคนนี้ แล้วมาเพ้อเจ้อกับเขาเนี่ยนะ?""ดันรถบรรทุกขนาดใหญ่กว่าสิบตัน มันจะดันได้อย่างไงกัน""ถ้าจะดันคุณก็มาดันกับเขาเองเถอะ""พวกเราไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นหรอก เห็นได้ชัดว่ามันเสียทั้งแรง เสียทั้งเวลา ถ้าพูดออกไปเพื่อนร่วมอาชีพของเราจะไม่หัวเราะเยาะเราจนตายเลยเหรอ?"คนขับรถบรรทุกหลายๆ คนส่ายหน้า พร้อมพูดปฏิเสธออกไปทันทีแม้แต่น้องสาวของเจ้าของร
พวกเขาตกตะลึงในความแข็งแกร่งของหลินเฟยในเวลาเดียวกันก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวในภายหลังขึ้นมารถบรรทุกขนาดใหญ่สิบกว่าตัน หลินเฟยสามารถดันให้เคลื่อนที่ได้ลำพังแค่คำพูดเหล่านั้นที่พวกเขาได้เยาะเย้ยหลินเฟยเอาไว้ก่อนหน้านี้หากหลินเฟยคิดที่จะจัดการกับพวกเขาจริงๆมันก็คงง่ายเหมือนกับการสับแตงสับผักเลยไม่ใช่เหรอ?และหากหลินเฟยให้เขาไลฟ์สดหกสูงกินขี้แบบนั้นจริงๆ พวกเขาก็ต้องกลืนมันลงไปอย่างนั้นเหรอ?ขณะที่พวกเขากำลังหวาดกลัวอยู่นั้น หลินเฟยก็ปัดฝุ่นที่มือเบาๆแล้วเดินออกมาจากท้ายรถบรรทุกขนาดใหญ่สีหน้าของเขาเป็นปกติ ไม่ได้แดงเลยแม้แต่น้อย จากนั้นก็พูดกับเจ้าของร้านอย่างไม่ได้หอบแต่อย่างใดว่า"เถ้าแก่เนี้ย คุณช่วยไปหาพลั่วมาให้ผมหน่อยจะได้ไหม?""ผมต้องถมถนนสักหน่อย รถบรรทุกคันอื่นที่ขับผ่านไปจะได้ไม่ติดหลุมโคลนแบบนี้อีก"ในเวลานี้ หลินเฟยก็ขี้เกียจเกินกว่าจะไปสนใจคนขับรถบรรทุกที่หน้าดำหน้าแดงอยู่แบบนั้น"มี มีพลั่วอยู่ในรถ""พี่คนขับ รบกวนพี่ขึ้นไปเอาพลั่วบนรถลงมาให้น้องชายยืมใช้หน่อยสิ"เจ้าของร้านมองสำรวจหลินเฟยด้วยความประหลาดใจจากนั้นก็ระงับความตื่นเต้นเอาไว้ และพูดกับ
จ้าวเชี่ยนเชี่ยนรีบเดินเข้าไปหาเขา และถามอย่างไม่น่าเชื่อขึ้นมาทันที"จะเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไรล่ะครับ?"เมื่อเห็นว่าเธอไม่เชื่อ หลินเฟยก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วยื่นให้เธอตรวจสอบ"โอ๊ยตาย! หลินเฟย นี่คุณไม่เล่นไลน์จริงๆ เหรอเนี่ย?""ให้ฉันช่วยสมัครให้คุณสักแอ็คเคาน์หนึ่งไหม?""ไลน์สามารถเปิดวิดีโอคอล ส่งรูปภาพ ส่งข้อความเสียง มีฟังก์ชันเยอะมากเลยนะ"จ้าวเชี่ยนเชี่ยนพูดอย่างไม่ลดละ"ไม่ต้องหรอกนะ ผมไม่ชอบเล่นมือถือ ใช้แค่โทรเท่านั้น ทิ้งเบอร์เอาไว้ดีกว่านะ"หลินเฟยรับโทรศัพท์มือถือของเขากลับมาและทิ้งหมายเลขโทรศัพท์ไว้ให้เจ้าของร้านจ้าวเชี่ยนเชี่ยนบุ้ยๆ ปากและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก และก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ด้วยเช่นกันในเวลานี้ คนขับรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายๆ คนก็ถมถนนกันเสร็จเรียบร้อยแล้วจากนั้นเขาก็โค้งคำนับต่อหลินเฟย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ ว่า"น้องชาย ทำถนนเสร็จแล้ว ตอนนี้เราเข้าไปในหมู่บ้านกันเลยไหม?""เข้าไปในหมู่บ้าน ผมจะขับนำทางให้""พวกคุณตามหลังไปก็โอเคแล้ว"หลินเฟยพยักหน้าพร้อมกับพูดออกมาส่วนเขาก็เดินไปที่รถของตัวเองเพียงไม่กี่ก้าว พร้อมมุดตัว
"อะไรนะ? ยังจะให้ขับต่อไปอีก? แล้วก็ช่วยนายขนต้นกล้าลงไปแช่ในแม่น้ำด้วย?""คนขับรถบรรทุกอย่างพวกเราแค่ขนสินค้าเท่านั้น!""ไม่ได้จะมาเป็นวัวเป็นควานให้นายหรอกนะ!""ถ้าจะทำนายก็ทำเองเถอะ!""ยังไงเงินพวกเราก็ได้รับแล้ว เราไม่ทำหรอก!"คนขับรถบรรทุกที่ลงมาจากรถเป็นคนสุดท้ายได้พูดออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดกระทั่งเขายังตะโกนบอกเงื่อนไขที่หลินเฟยร้องขอกับคนขับรถบรรทุกด้านหลังทุกคนอีกต่างหากเดิมทีตอนที่พวกเขาขับรถมาก็ไม่พอใจเพราะรถติดหลุมดินโคลนแบบนั้นแล้วและแน่นอนว่าคงไม่ตอบรับคำขอนี้ของหลินเฟยอยู่แล้วบางคนถึงขั้นกับตำหนิหลินเฟยว่าใจดำอีกต่างหาก"ผมไม่ได้พูดสักหน่อยว่าจะไม่ให้เงินกับพวกคุณ ทำไมจะต้องมาว่าผมเสียๆ หายๆ แบบนี้ด้วย?"หลินเฟยพูดอย่างเสียไม่ได้ออกมาเล็กน้อย"ให้เงินก็ไม่ได้ พวกเราเหนื่อยแล้ว ไม่อยากจะทำก็คือไม่อยากทำ!""อย่าคิดว่ามีเงินมากหน่อย ก็จะยิ่งใหญ่กว่าใครเขาได้!"คนขับรถบรรทุกขนาดใหญ่คนนั้นได้ตะโกนเอะอะโวยวายขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ถังรั่วเสวี่ย เจ้าของร้านและคนอื่นๆ ก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นอย่างเรื่อยๆแต่ทว่า ก่อนที่พวกเธอจะได้พู
และมันก็ทำให้คนงานของหลิ่วจือจินดูสนใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าหลินเฟยต้องการจะขนย้ายต้นกล้าพวกเขาก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแบ่งคนงานบางส่วนมาช่วยแต่ทว่า การขนย้ายต้นกล้าในครั้งนี้มันเยอะเกินไปรวมแล้วกว่าสามหมื่นต้นเลยทีเดียวรวมกับคนขับรถบรรทุกอีกสิบกว่าคนและหลินเฟยก็ยังต้องใช้เวลากว่าสองชั่วโมงถึงจะเสร็จสิ้นพอถึงตอนท้ายสุด หลินเฟยก็เดินเข้าไปหาหัวหน้าคนขับรถบรรทุก และเตรียมที่จะถามหมายเลขบัญชีกับเขาเพื่อให้จางซินเยว่ดำเนินการโอนเงินไปให้แต่จนแล้วจนรอด คนขับรถบรรทุกเหล่านั้นก็ปฏิเสธที่จะรับเงินจากหลินเฟยหลินเฟยจึงทำได้เพียงยอมแพ้ และตัดสินใจว่าต่อไปจะนำเงินไปให้เจ้าของร้านต้นกล้าเพื่อขอให้เจ้าของร้านส่งมอบให้พวกเขาในภายหลังหลังจากที่คนขับรถบรรทุกออกไปแล้ว หลินเฟยก็ขอบคุณคนงานของหลิ่วจือจินที่มาช่วย"น้องหลิน พวกเราจะต้องขอบคุณคุณเสียมากกว่า!""เราได้ยินพี่หลิ่วพูดว่า คุณยอมให้เงินเดือนเราวันละห้าร้อยเพื่อให้เราอยู่ดูแลสวนผลไม้!""นี่เป็นงานที่ดีมาก เราไม่กล้าคิดเสียด้วยซ้ำ!""ต่อไปหากมีอะไรก็เรียกเราได้เลย เราจะมาทันที!"……หลังจากกลับมาถึงคลินิกแล้วเจ้าของ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได