"เหอะๆ นายคือหลินเฟยใช่ไหม? อายุแค่นี้ คนธรรมดาๆ กล้าดียังไงถึงให้ฉันคลานเข้ามาพบกับนาย ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียแล้ว!"หลังจากเข้าไปในคลินิก คังจินผิงก็กวาดตามองไปที่หลินเฟยวางมาดเจ้าขุนมูลนาย ทอดสายตาไปอย่างไม่แยแส พร้อมพูดอย่างฉุนเฉียวออกมา"พ่อบุญธรรมครับ เขานี่แหละหลินเฟย พ่ออย่าปล่อยเขาไปง่ายๆ นะครับ!""หลินเฟย พ่อบุญธรรมของฉันมาถึงแล้ว แกจะได้พบจุดจบที่น่าอนาถอย่างแน่นอน วันนี้ในปีหน้าจะเป็นวันครบรอบการตายของแก!"จ้าวเทียนหลงที่ถูกคนหามเข้ามา เมื่อเห็นศัตรูอย่างหลินเฟย ก็สามารถพูดได้ว่าขวางหูขวางตาเอาเสียมากๆ!พอพูดกับคังจินผิงจบ เขาก็ตะคอกใส่หลินเฟยอย่างโกรธแค้นขึ้นมาทันที"คุณน่ะเหรอ พ่อบุญธรรมของจ้าวเทียนหลง? ฮึ่ม อายุปูนนี้แล้ว ขาข้างหนึ่งก็ก้าวเข้าไปในโลงเสียด้วยซ้ำ""คุณไม่มีตาเลยหรือไง คุณท่านหวางวีรบุรุษผู้ก่อตั้งประเทศได้อยู่ที่นี่แล้ว คุณกล้าดียังไงถึงได้อวดดีขนาดนี้?"หลินเฟยไม่ได้สนใจจ้าวเทียนหลงแต่อย่างใด แต่ทว่าคังจินผิงกลับหัวเราะเยาะ พร้อมพูดออกมาว่า"หวางเทียนผิง คุณท่านหวาง? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ทำไมนายไม่บอกว่าเขาเป็นพระเจ้าอยู่หัวเลยล่ะ?""คนบ้
"แม่งเอ๊ย มึงมันกล้ามาก แม้แต่เพื่อนของคุณท่านหวางมึงก็ยังกล้ารุกรานได้!""แม่งยังมาดึงกูให้พลอยติดร่างแหไปด้วยแบบนี้ กูต้องย่อยยับเพราะมึงจริงๆ!!"โจวเย่าหลงตื่นตระหนกแบบสุดๆ เขากระโจนใส่จ้าวเทียนหลงทั้งเตะทั้งต่อยมั่วซั่วไปหมดและแทบจะควักปืนออกมายิงจ้าวเทียนหลงให้ตายไปเลยเสียด้วยซ้ำ!"จ้าวเทียนหลง กูแม่งอยากจะฆ่ามึงเสียจริงๆ ฆ่ามึงให้ตายไปเลย!""มึงกล้าหลอกกูให้ทำร้ายเพื่อนของคุณท่านหวาง กูจะฆ่ามึงซะ!"คังจินผิงโกรธจัดจนควันออกหู จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่จ้าวเทียนหลงและกระหน่ำหมัดไปอย่างรุนแรง!"อ๊าก... อ๊าก... อย่าตีอีกเลยผู้อำนวยการโจว พ่อบุญธรรม อย่าตีอีกเลย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคือเพื่อนของคุณท่านหวาง!"จ้าวเทียนหลงกรีดร้องออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เดิมทีเนื้อตัวของเขาก็ได้รับบาดเจ็บเป็นทุนเดิมอยู่แล้วและเกือบจะถูกโจวเย่าหลงและคังจินผิงส่งไปพบยมทูตในตอนนี้เสียให้ได้"ดีมาก ตีได้ดีมาก" หลินเฟยมองดูอย่างเพลิดเพลิน พร้อมกับตบมือรัวๆ"แม่งเอ๊ย...ถ้าไม่มีคุณท่านหวางคอยเป็นแบล็กหลังให้แบบนี้ ในสายตาคนอย่างจ้าวเทียนหลง แกมันไม่ใช่อะไรทั้งนั้น!"จ้าวเทียนหลงกรีดร้องคร่ำครวญราวกับผ
เห็นได้ชัดว่า คุณท่านหวางที่มักจะใจดีมีเมตตาและเข้าถึงได้ง่ายคนนี้แต่สำหรับคังจินผิงและพรรคพวกที่ได้ทำเรื่องที่ร้ายแรงและผิดศีลธรรมแบบนี้ คุณท่านหวางก็ไม่ได้ผ่อนผันให้เลยแม้แต่น้อย!"ตูม!"หลังจากที่คุณท่านหวางได้พูดจบ คังจินผิง โจวเย่าหลงและคนอื่นๆ ก็รู้สึกราวกับว่าฟ้าได้ถล่มลงมาแล้ว!ไม่ว่าพวกเขาจะขอร้องอ้อนวอนให้คุณท่านหวางเมตตาสักเพียงไหนโจวจื่อหลงก็ไม่ได้สนใจ และยังคงพากำลังคนไปจับกุมตัวพวกเขาพร้อมกับส่งออกไปนอกคลินิกทันที"ฮึ่ม ช่างรนหาที่ตายโดยแท้!"หลินเฟยดูมีความสุขมาก จากนั้นก็มองคุณท่านหวางและถามต่อไปว่า"พี่หวางครับ ผมมีเรื่องอะไรบางอย่าง ไม่รู้ว่าควรจะถามดีหรือไม่?""น้องหลิน มีอะไรก็พูดมาเถอะ ไม่มีอะไรที่ถามไม่ได้"ท่าทีของคุณท่านหวางกลับมาเป็นปกติ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มออกมา"ก่อนหน้านี้ท่านเคยบอกว่าได้สละตำแหน่งแล้วไม่ใช่หรือครับ? และก็ไม่มีตำแหน่งทางราชการใดๆ แล้วอีกด้วย""แต่ทำไมจนถึงตอนนี้ ผมยังรู้สึกว่าท่านน่าเกรงขาม และไม่เหมือนคนที่ไม่มีตำแหน่งทางราชการใดๆ เลยนะครับ"หลินเฟยได้พูดความสงสัยในใจออกมา"ฮ่าฮ่าฮ่า น้องหลิน นี่ก็เพราะอาศัยบารมีของนายไงล่ะ เ
ก่อนที่โจวกั๋วเฟิงจะได้พูดอะไรออกมา"ดูเหมือนว่าแม้จะใกล้ตาย แต่แกไม่ได้สำนึกอะไรได้เลย เดิมทีฉันตั้งใจจะยิงแกทิ้งโดยตรง""แต่ในเมื่อแกคิดว่าตายไปก็ยังคุ้มค่า งั้นฉันจะให้แกติดคุกไปตลอดชีวิตเหมือนกับเขาก็แล้วกัน!"โจวจื่อหลงรู้สึกเคียดแค้น ชี้ไปที่จ้าวเทียนหลงพร้อมกับตะคอกด้วยความโกรธออกมาแม้ว่าการกระทำในครั้งนี้จะขัดคำสั่งของคุณท่านหวางแต่อย่างไรก็ตาม เมื่อลองคิดๆ ดู หากคุณท่านหวางรับรู้เรื่องนี้แล้วละก็ เขาคงจะไม่โทษโจวจื่อหลงแต่อย่างใดด้วยเช่นกันส่วนโจวเย่าหลง ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นบ้าไปแล้วตอนนี้เขาอายุเพียงสี่สิบเท่านั้น และการถูกจำคุกสี่สิบหรือห้าสิบปีก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะชดใช้ความผิดบาปเหล่านั้น"อะไรนะ? ไม่เอา ฉันไม่เอา ฉันไม่อยากจะเป็นเหมือนเขา นายฆ่าฉันเถอะ ขอร้องล่ะฆ่าฉันเถอะ!"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ใบหน้าของคังจินผิงก็น่าเกลียดเป็นอย่างมาก!หากเขารู้ว่าจุดจบจะอนาถกว่าการตายแบบนี้แล้ว เขาจะไม่พูดพล่ามมากมายขนาดนั้น!แต่ทว่า ทุกอย่างมันได้สายไปเสียแล้ว!เมื่อเห็นว่าคังจินผิง โจวเย่าหลง จ้าวเทียนหลงและพรรคพวกจะถูกโจวจื่อหลงจับกุมตัวไปจองจำในคุกมืดที่มีไว้ลง
เมื่อเห็นสีหน้าที่ตกใจแบบนี้ของโจวจื่อหลงเป็นครั้งแรก หวางเจิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา"พี่โจว""ดูท่าทางของพี่แบบนี้ หรือว่าพี่หลินจะแข็งแกร่งกว่าพี่มาก?""ไม่เพียงแต่ดีกว่าผมเท่านั้น แม้แต่อาจารย์ของผมก็ไม่สามารถฝึกฝนจนถึงขั้นน้องหลินได้เลยนะ"โจวจื่อหลงอดไม่ได้ที่จะถามอย่างสับสนว่า"น้องหลิน บอกฉันมาตามตรงเถอะ ก่อนหน้านี้นายเคยฝึกหมัดพยัคฆ์มาก่อนหรือเปล่า?""ฉันได้ให้ตำราเคล็ดลับเหล่านั้นกับนายเพิ่งไม่กี่วันเองนะ!""พี่โจว พี่คิดมากไปแล้วล่ะ""ก่อนหน้าที่พี่จะให้ตำราเคล็ดลับกับผม ผมก็ไม่เคยได้ฝึกทักษะการต่อสู้อะไรเลยนะ""ก่อนหน้านี้ก็แค่มองดูผ่านๆ เพียงแค่รอบเดียว ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะฝึกได้แบบนี้แล้ว""หรือว่าฉันจะเก่งกว่าอาจารย์ของพี่จริงๆ?"หลินเฟยถามด้วยความตื่นเต้นที่อยู่ในใจ"คือว่า…" โจวจื่อหลงแทบอยากจะอาเจียนเป็นเลือดออกมา พร้อมพูดอย่างเคอะเขินว่า"ดูเพียงครั้งเดียวอย่างนั้นเหรอ?""น้องหลิน ดูเหมือนว่านายจะมีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะการต่อสู้ที่หาได้ยากจริงๆ บอกตรงๆ นะ หมัดพยัคฆ์นี้แม้จะฟังดูธรรมดาๆ""แต่มันกลับเป็นหนึ่งในกระบวนท่าที่ยากที่สุดในตำราเคล
"ถ้าไม่ได้จริงๆ รอให้สวนผลไม้ใกล้จะเสร็จ ผมจะพาอาเล็กและคนอื่นๆ ไปเที่ยวรอบเมืองตี้ตูเสียสักหน่อย""โตขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยรู้เลยว่าเมืองตี้ตูเป็นอย่างไร"ในเวลานี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าแล้วถังรั่วเสวี่ยและคนอื่นๆ ที่ออกไปรดน้ำที่แปลงผักก็ยังไม่ได้กลับมา หลินเฟยจึงอดที่จะเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้และเขาก็โทรไปหาถังรั่วเสวี่ยทันที"อาเล็ก คุณและพี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน พี่ซินเยว่ ตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน?""เสี่ยวเฟย ลืมบอกนายไป ตอนที่ฉันพาพวกเธอมารดน้ำผักนั้น ได้เห็นว่าพื้นที่ที่นายเซ็นสัญญาเช่าซื้อมีแต่วัชพืชเต็มไปหมด""ไม่สามารถที่จะปลูกต้นกล้าลงได้เลย ฉันก็เลยพาพวกเธอมาจัดการวัชพืชพวกนี้สักหน่อยน่ะ""นายไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราหรอก วิ่งไปวิ่งมาหลายวันขนาดนั้นแล้ว นายก็ควรจะพักผ่อนเสียบ้างนะ"เสียงของถังรั่วเสวี่ยดังมาจากอีกปลายสายของโทรศัพท์"อาเล็ก พวกคุณจะทำงานแบบนั้นได้ยังไง?" เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว หลินเฟยก็อดที่จะร้อนใจขึ้นมาไม่ได้"มันทั้งสกปรกและเหนื่อยจะตายไป รีบกลับมาพักที่คลินิกเถอะนะ!""เดี๋ยวผมคิดหาวิธีก็โอเคแล้ว""แต่ว่า... ฉันได้ยินอิ๋งอิ๋งพูดว่า ตอนค่ำๆ ก็จะมีต้นกล้าล็อตห
"พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน พี่เสี่ยวโหรว พวกพี่อย่าทำเลยดีกว่านะ นอนก็พอแล้ว ผมทำเองได้""ผมไม่เหนื่อยอะไรหรอก""และยังจะพี่ซินเยว่ พี่อิ๋ง พวกคุณทั้งสองคนด้วย" หลินเฟยส่ายหน้าพร้อมกับพูดออกมาก่อนที่พานเสี่ยวเหลียนและซูเสี่ยวโหรวจะได้พูดอะไรออกมา ถังรั่วเสวี่ยก็พูดขึ้นมาก่อนว่า"เสี่ยวเหลียน เสี่ยวโหรว พวกเธออย่าพูดอีกเลย""เสี่ยวเฟยโตแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเอง พวกเราฟังเขาก็พอแล้วล่ะ""เขาคิดจะทำอย่างไรก็ให้เขาทำ""พวกเราไปอาบน้ำกันเถอะ ดูสิแต่ละคนมอมแมมกันไปหมดแล้ว"……อาศัยช่วงเวลาที่ถังรั่วเสวี่ยและคนอื่นๆ ไปอาบน้ำ หลินเฟยก็ได้เดินมาถึงวิลล่าเพื่อเตรียมบอกกล่าวเรื่องนั้นกับหลิ่วจือจินไว้ล่วงหน้า"น้องหลิน พี่หลิ่วกำลังไปตรวจสอบการเก็บเสียงที่ชั้นสามอยู่ จะให้พวกเราเรียกเธอลงมาหาคุณหรือเปล่า?"เมื่อรู้ว่าหลินเฟยมาที่นี่เพื่อต้องการพบหลิ่วจือจิน คนงานสามสี่คนจึงเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้ม"ไม่ล่ะ ผมขึ้นไปหาพี่หลิ่วเองดีกว่า และก็จะได้ดูว่าชั้นสามตกแต่งไปถึงไหนแล้วด้วย"หลินเฟยพูดด้วยรอยยิ้มจากนั้นเขาก็ขึ้นบันไดไปชั้นสาม เดิมทีหลิ่วจือจินยังคิดว่าจะติดลิฟต์ไว้ในวิลล่านี้สักต
"ดูก่อนว่าพวกเขาจะยอมทำหรือเปล่า" หลินเฟยพูดออกมา"ต้องยอมทำอยู่แล้วล่ะ เรื่องนี้ไว้เป็นหน้าที่ของพี่หลิ่วเอง เรื่องบ้าน อย่างมากก็พรุ่งนี้ตอนเที่ยงก็จะตกแต่งเสร็จแล้วล่ะ""ฉันกำลังกลุ้มอยู่เลยว่า หลังจากเสร็จงานนี้แล้วจะไม่มีงานอะไรให้พวกเขาทำ""การดูแลสวนเบาและสะอาดกว่างานก่อสร้างมาก พวกเขาจะต้องยอมทำอยู่แล้วล่ะ""ต่อไปพี่หลิ่วก็สามารถช่วยคุณดูแลสวนผลไม้ได้ เงินเดือนแล้วแต่คุณจะให้เลย"หลิ่วจือจินพูดขอบคุณหลินเฟยอย่างจริงใจ"ฮ่าๆ เงินเดือนของพี่หลิ่วจะต้องสูงกว่านี้แน่นอน วันละห้าพัน ถ้าผลผลิตของสวนผลไม้ดี ผมก็จะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้พี่หลิ่วด้วยนะ"หลิ่วจือจินรู้สึกโล่งใจและพูดกับหลินเฟยด้วยความซาบซึ้งใจ"งั้นพี่หลิ่ว ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมก็จะขอตัวกลับไปที่คลินิกก่อนนะครับ""ตอนที่ผมออกมาไม่ได้บอกอาเล็กและคนอื่นๆ เอาไว้ กลัวว่าถ้าพวกเธอไม่เห็นผมจะเป็นห่วงเอาได้นะครับ"พอพูดจบ หลินเฟยก็หันหลังกลับและต้องการจะลงไปชั้นล่าง แต่แล้วจู่ๆ หลิ่วจือจินก็ได้ตะโกนเรียกเขาเอาไว้"หลินเฟย คุณรอเดี๋ยว สไตล์ตกแต่งภายในห้อง พี่หลิ่วเป็นคนดูและด้วยตัวเอง""เตียงใหญ่ด้านใน พี่หลิ่วก็เข้าไ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได