"หือ? เธอคือ...รองผู้อำนวยการสำนักสายตรวจอย่างนั้นเหรอ?""ดูยังเด็กอยู่เลยนะ"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว หลี่เยี่ยนเหมยก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ลู่หลีอีกสองสามครั้งยิ่งมองก็ยิ่งคุ้นเคยจู่ๆ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที"นี่..นี่ไม่ใช่สารวัตรหญิงคนที่อยู่กับไอ้เด็กบ้านั่นเมื่อวานหรอกเหรอ?""แม่งเอ๊ย...นี่ฉันลืมลู่หลีไปได้ยังไง!"ในห้อง หลินเฟยที่แอบมองดูอยู่ตลอด จู่ๆ ก็เกิดประหม่าขึ้นมาทันที"ไอ้เด็กบ้านั่น? ผู้ใหญ่หลี่คงไม่ได้หมายถึงหลินเฟยหรอกใช่ไหม?"เมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นแบบนั้นของหลี่เยี่ยนเหมยจู่ๆ ซูเสี่ยวโหรวก็พูดขึ้นมาทันทีเพราะเมื่อวานตลอดทั้งวัน หลินเฟยแทบจะอยู่กับลู่หลีตลอดเวลา"หลินเฟย...ใช่ เขาชื่อหลินเฟย เสี่ยวโหรวเธอรู้สึกเขาด้วยเหรอ?"ทันใดนั้นดวงตาของหลี่เยี่ยนเหมยก็เบิกกว้าง และการหายใจก็เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและหน้าอกหน้าใจที่อวบอั๋นก็กระเพื่อม แล้วพูดถามออกมา!"รู้จักสิ ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ ก็เขานั่นแหละที่เปิดคลินิก ฉันลืมแนะนำไปเลย คนนี้คืออาเล็กของเขา""นี่คือพี่สะใภ้ของเขา และสารวัตรสาวคนนี้ก็คือแฟนของเขานะ""สำหรับฉัน ฉันเป็นแม่ครัวประจำตัวของหลินเ
"คือว่า...ผม เฮ้อ ความจริงแล้วจะโทษผมก็ไม่ได้ ก็วันนั้นพี่เสี่ยวโหรวคะยั้นคะยอให้ผมกินซุปปลาหนีชิวจนหมดชามใหญ่นี่นา"เมื่อเห็นว่าผู้หญิงทั้งสามคนถามอย่างไม่ลดราวาศอกหลินเฟยก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะบอกความจริงออกมาเท่านั้น"จากนั้นผมก็ไปทำคดีที่บ้านของหลี่ต้าเหนิง ผมกลั้นเอาไว้อย่างทรมาน และก็ยืมใช้ห้องน้ำบ้านเขาสักหน่อย""แต่ผลลัพธ์...ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นว่า ผมไม่ได้มองถนัดว่าผู้ใหญ่หลี่ก็อยู่ในนั้นด้วย ก็เลยเผลอไป...ฉี่รดผู้ใหญ่หลี่เอาได้นะครับ""แต่ว่า อาเล็กครับเรื่องนี้ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ!""นี่มัน...มิน่าล่ะ พอผู้ใหญ่หลี่ได้ยินชื่อของนาย เธอก็หันหลังวิ่งไปทันที"จากนั้นถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนก็ตระหนักได้ในทันทีเมื่อนึกถึงภาพสถานการณ์แบบนั้น ทั้งสองคนก็หน้าแดงก่ำด้วยความเคอะเขินในทันที"ไอ้เด็กบ้านี่ ปกติสายตาก็ดีขนาดนั้น ทำไมถึงทำเรื่องที่น่าละอายแบบนี้ได้!""เรื่องนี้เรารู้กันก็พอแล้ว อย่าไปเที่ยวโพนทะนาออกไป ไม่อย่างนั้นผู้ใหญ่หลี่จะมีหน้าไปพบคนได้อย่างไรกัน!"แน่นอนว่าพวกเธอไม่เชื่อว่าหลินเฟยจะเลวร้ายได้ขนาดนั้นหลังจากเทศนาไปเสียยกใหญ่ เธอก็ยังได้
จากนั้นเธอก็พูดกับถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนว่า"แคกๆ...คือว่า ป้าถัง พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน ฉันก็ขอตัวไปอาบน้ำและนอนพักก่อนนะคะ""ไปเถอะ เสี่ยวโหรว""ต้องรบกวนเธอนอนเบียดกับสารวัตรลู่ไปก่อนนะ รอให้วิลล่าสร้างเสร็จ แล้วฉันจะทำห้องที่หรูหราให้กับเธอ"ถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนตอบรับกลับไปจากนั้นพวกเธอก็กลับเข้าไปพักผ่อนในห้องทันทีสำหรับเรื่องที่หลินเฟยไปฉี่รดหลี่เยี่ยนเหมยนั้น พวกเธอสองคนได้ปรึกษากันแล้วว่าพวกเธอสองคนอย่าได้ไปขอโทษแทนหลินเฟยเลยแค่ทำเป็นว่าไม่รู้ไม่เห็น ผู้ใหญ่หลี่จะได้ไม่ต้องอับอายในตอนที่มาพบกับพวกเธอ……หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซูเสี่ยวโหรวก็นุ่งผ้าขนหนูและเช็ดตัวให้แห้งจากนั้นก็ค่อยๆ นอนลงข้างๆ ลู่หลีวันนี้เธอได้ติดตามหลี่เยี่ยนเหมยตลอดช่วงบ่าย และก็เหนื่อยเป็นอย่างมากหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ผล็อยหลับลึกลงไปแล้วแต่ทว่า ประมาณตอนดึกๆ ซูเสี่ยวโหรวก็กลับพลิกตัวไปมาอยู่บนที่นอนและขาข้างหนึ่งก็ไปทับตัวของลู่หลีโดยตรงและมันก็เป็นตรงนั้นของเธออีกด้วย"โอ๊ย...เจ็บ!"ลู่หลีขมวดคิ้วและอุทานด้วยความเจ็บปวดทันใดนั้นทั้งคู่ก็ตื่นขึ้น
"งั้น...งั้นทำไมสารวัตรลู่ต้องเจ็บตอนแรก แล้วค่อยรู้สึกสบายในตอนหลังด้วยล่ะ?"ซูเสี่ยวโหรวรู้สึกใจลอยไปสักพัก จากนั้นก็กัดริมฝีปากแน่นและถามออกมาในความเป็นจริงซูเสี่ยวโหรวกระทั่งคิดอยู่ในใจว่าหรือว่า ทำแบบนั้น มันจะสบายกว่าตอนที่หลินเฟยให้นวดให้เธอเสียอีก?"ฉัน... ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องแบบนี้ มีเพียงได้สัมผัสกับตัวเท่านั้นถึงจะเข้าใจได้""ฉันไม่พูดกับพี่เสี่ยวโหรวแล้วนะ พรุ่งนี้จะต้องไปทำคดีอีก ฉันนอนก่อนล่ะ คุณก็นอนไวๆ ด้วยนะ"ลู่หลีพ่ายแพ้ต่อความอยากรู้อยากเห็นของซูเสี่ยวโหรวอย่างสิ้นเชิงพอพูดจบ ไม่ว่าซูเสี่ยวโหรวจะถามอะไร เธอก็ไม่ยอมตอบทั้งนั้น"ปุ่มใหม่ถูกเปิดขึ้น...ทั้งเนื้อทั้งตัว...หลินเฟยมีทักษะมาก...อยู่บนท้องฟ้าตลอด...อยากถูกหลินเฟยทำแบบนั้นไปตลอด...""มีเพียงได้สัมผัสกับตัวเท่านั้นถึงจะเข้าใจได้..."แต่ทว่า ซูเสี่ยวโหรวได้พลิกตัวไปมาและนอนไม่หลับ เพราะคำพูดเหล่านั้นได้วนเวียนอยู่ในหัวของเธออยู่ตลอดเวลายิ่งคิด เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเนื้อตัวของเธอรุ่มร้อนขึ้นมาเรื่อยๆดูเหมือนจะมีเปลวไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง!เผาผลาญทั้งวิญญาณและร่างกายของเธอจนมอดไหม้!และจำเป
ด้วยความรักในทุกสิ่งที่เป็นของหลินเฟย ดังนั้นพวกเธอจึงอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงลู่หลีขึ้นมา"วางใจเถอะป้าถัง พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน มีหลินเฟยอยู่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้หรอก""เขาจะปกป้องฉันเป็นอย่างดี"หลังจากได้ยินคำพูดของทั้งสองคน ไหนเลยลู่หลีจะไม่รู้ว่าพวกเธอมองออกแล้วว่าเธอกับหลินเฟยมีอะไรกันแล้วเธอจึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ"มันก็จริงนะ หลังทำคดีเสร็จ พวกเธอสองคนก็กลับมาพักผ่อนไวๆ เถอะ""สองวันมานี้พวกเธอทั้งสองคนวิ่งไปวิ่งมา คงจะเหนื่อยน่าดูเลย"ถังรั่วเสวี่ยพยักหน้าแล้วพูดออกมา"ได้ครับอาเล็ก ทำธุระเสร็จพวกเราก็จะกลับมาทันที"พอพูดจบ หลินเฟยก็ขึ้นรถตำรวจไปกับลู่หลีทันทีเนื่องจากลู่หลีไม่ค่อยจะสบายเท่าไหร่ ดังนั้นหลินเฟยจึงอาสาเป็นคนขับรถให้……ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงหลินเฟยก็ได้ขับรถพาลู่หลีมาถึงประตูของโรงพยาบาลในอำเภอแม้ว่าจะดูทรุดโทรมไปนิด แต่นี่คือโรงพยาบาลรัฐแห่งเดียวในเมืองนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่คลินิกขนาดเล็กที่ไม่มีใบรับรองได้ล้มละลายไปแล้วนั้นชาวบ้านจากหมู่บ้านใกล้เคียงหลายสิบแห่งก็ไม่กล้าไปโรงพยาบาลใหญ่ในเมืองเพราะกลัวเรื่องค่าร
น้ำเสียงนั้นดูก้าวร้าวและบีบบังคับเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว หลินเฟยก็รู้สึกอึดอัดแบบสุดๆคนจนไม่ใช่คนหรือไง?คนจนป่วยก็ต้องรอความตายอย่างนั้นเหรอ?อีกอย่าง มันก็เป็นแค่หมายเลขคิวมันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะมาเรียกร้องเงินหนึ่งพันห้าร้อยหยวนแบบนี้เห็นได้ชัดเจนว่า โรงพยาบาลประจำอำเภอนี้ จิตใจสกปรกยากที่จะแก้ไขตั้งแต่ด้านบนลงมาด้านล่าง!จำเป็นที่จะต้องแก้ไขให้ดีๆ สักยกแล้ว!"ไม่รักษาคนจน?""นี่เจ๊ ตาข้างไหนของเจ๊ที่เห็นว่าผมเป็นคนจน?""บอกเจ๊ตามตรงนะ บ้านฉันเลี้ยงวัวหลายร้อยตัว ผมมีเงิน!""เพียงแต่ว่า ผมไม่ไว้ใจทักษะทางการแพทย์ของโรงพยาบาลประจำอำเภอเท่านั้น""ถ้าหากตรวจไม่เจออะไรแล้วละก็ ผมก็จะเสียเงินไปเปล่าๆ ไม่ใช่เหรอ?"ก่อนที่จะเดินทางมาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอหลินเฟยก็ได้ตั้งใจเดินทางไปที่ธนาคารในตัวอำเภอโดยเฉพาะเพื่อถอนเงินหลายแสนบาทมาไว้กับตัวเตรียมที่จะจับปลาตัวใหญ่ในขณะนี้ เขาได้ฟาดเงินหลายแสนบาทนี้ไปที่เคาน์เตอร์โดยตรงทำท่าทางเหมือนกับคนบ้านนอกโง่ๆ คนหนึ่ง พร้อมกับพูดอย่างไม่ยอมแพ้ขึ้นมา"อะไรนะ? ครอบครัวของนายเลี้ยงวัวหลายร้อยตัว?""ไอ้โยว่ พ่อหนุ่
เธอกำผลการตรวจเอาไว้ และถามผู้อำนวยการหลิวอย่างประหลาดใจขึ้นมาว่า"ผู้อำนวยการหลิว ฉันแค่เจ็บหน้าอกนิดหน่อย หายใจลำบากและไม่ค่อยจะราบรื่นเท่านั้น""นอกนั้นก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจอะไรเลย แล้วจะเป็นมะเร็งเต้านมไปได้ยังไง?""โรงพยาบาลของพวกคุณตรวจผิดพลาดหรือเปล่า?"อาจจะเป็นเพราะตื่นตระหนกกับผลการตรวจในมือมากจนเกินไปผู้หญิงคนที่สวมกระโปรงยาวคนนี้จึงไม่ได้สังเกตเห็นแม้ว่าหลินเฟยจะเดินเข้ามาในห้อง"คุณสวีอิ๋งอิ๋ง คนสามารถพูดโกหกได้ แต่นี่เป็นข้อมูลที่ตรวจพบโดยอุปกรณ์ทางการแพทย์ ไม่มีบุคคลใดๆ ไปยุ่มย่ามด้วย แล้วจะเป็นเท็จไปได้อย่างไร?"และแน่นอนว่าผู้อำนวยการหลิวสามารถสังเกตเห็นหลินเฟยที่เดินเข้ามาได้หลังจากที่รู้ว่าหลินเฟยเป็นแกะอ้วนที่โง่ตัวนั้นแล้วความคิดของเขาก็ได้ตกไปที่ตัวของหลินเฟยเสียทั้งหมด จากนั้นเขาก็ถอนหายใจยาวๆ ออกมา พร้อมพูดกับผู้หญิงสวมกระโปรงยาวคนนั้นอย่างฉาบฉวยว่า"คุณเป็นมะเร็งเต้านมจริงๆ เพียงแต่ว่ามันเพิ่งจะระยะแรก อาการจึงไม่ชัดเจน รอให้คุณไม่สบายขึ้นมา มันก็สายเกินไปแล้วล่ะ!""ผมแนะนำให้คุณรีบไปโรงพยาบาลเซียเฟยที่อยู่ในเมืองเพื่อทำการผ่าตัดมะเร็งเต้านมโดยเ
"เอ่อ ผมไม่ได้เป็นหมอใหม่หรอก ผมก็มาหาหมอเหมือนกัน แต่ว่าผมเข้าใจทักษะทางการแพทย์เล็กน้อย ก็เลยมองปัญหาของคุณออกน่ะ""อีกอย่าง อาการเจ็บป่วยของคุณก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นเอง ไม่ต้องใช้เงินอะไรหรอก ไปตามที่อยู่นี้นะ ตอนเย็นคุณไปหาผมที่หมู่บ้านเถาฮวาได้เลย""ผมยังมีธุระอยู่ตอนนี้ ยังฝังเข็มให้กับคุณไม่ได้"หลินเฟยมีความที่ตั้งใจที่จะช่วยผู้อื่นอยู่แล้ว เขาจึงยิ้มๆ แล้วก็พูดออกมาจากนั้นเขาก็ได้ให้ที่อยู่คลินิกกับสวีอิ๋งอิ๋งทันที"ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ เย็นนี้ฉันจะไปพบคุณ!"สวีอิ๋งอิ๋งรู้สึกตื้นตันเป็นอย่างมาก พร้อมกับมองดูหลินเฟยอย่างลึกซึ้งไปสองสามครั้งจากนั้นก็โยนผลการตรวจไปที่ใบหน้าของผู้อำนวยการหลิวทันที"ไอ้หมอต้มตุ๋นไร้ยางอาย!""ถ้าฉันไม่ได้พบคุณหมอท่านนี้ ฉันก็เกือบจะถูกแกหลอกไปแล้ว!""ต่อไปฉันจะไม่มาหาหมอที่โรงพยาบาลนี้อีกแล้ว!""ขืนโรงพยาบาลของพวกแกยังทำแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วก็คงจะล้มละลาย!"สวีอิ๋งอิ๋งเพิ่งจะเรียนจบแม้แต่คำสบถด่าทอคนก็ยังพูดไม่เป็นหลังจากระบายความโกรธออกมาสักพัก เธอก็พูดขอบคุณหลินเฟยจากนั้นก็หันหลังกลับ และเดินออกจากแผนกไปทันที"พ่อหนุ่ม นายมา
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได