เหลิ่งหนิงซวงเป็นคนพูดออกมาก่อนว่า"เฮ้ นี่พี่สาว หลินเฟยรับปากโอนเงินให้พี่แล้วใช่หรือเปล่า?""ตอนนี้บริษัทพ่อกับแม่ของพี่เป็นไงบ้าง?""อืม หลินเฟยรวบรวมเงินมากมายมาให้บริษัทพ่อกับแม่ของฉันยืม ตอนนี้ทางบริษัทไม่ต้องเป็นกังวลอะไรแล้วล่ะ"มู่ชิงชิงพยายามอดทนต่อความรู้สึกไม่สบายในลำคอ พร้อมกับพูดออกมา"ตอนนี้หลินเฟยกำลังพาฉันกลับมาในเมือง เราจะถึงแล้วล่ะ เธอมีบ้านว่างอีกหลังไม่ใช่เหรอ?""ขอฉันพักก่อนจะได้หรือเปล่า""อะไรนะ? นี่พี่กลับมากับหลินเฟยอย่างนั้นเหรอ"น้ำเสียงของเหลิ่งหนิงซวงดูแปลกๆ ไปเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังนึกถึงฉากที่ถูกหลินเฟยแอบมองภูเขาหยกโดยบังเอิญนั้นอยู่จากนั้นโดยทันที เธอก็ได้ข่มอารมณ์แปลกๆ นั้นลง พร้อมตกลงไปว่า"งั้นก็ได้ ฉันจะหากุญแจให้เดี๋ยวนี้ แล้วไปรอพวกเธออยู่ที่บ้านว่างหลังนั้นนะ""ว่าแต่พี่เถอะ ทำไมเสียงถึงดูแหบๆ ไปล่ะ เป็นหวัดหรือเปล่า?"แม้ว่ามู่ชิงชิงจะพยายามปกปิดอย่างสุดความสามารถ แต่มันก็ยังถูกเหลิ่งหนิงซวงจำพิรุธได้อยู่ดีใบหน้าของมู่ชิงชิงเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที พร้อมกับปฏิเสธออกมาว่า"ไม่ได้เป็นหวัดหรอก แค่สำลักของที่กินไปเมื่อสักครู่
"อะไรนะ? หลินเฟยไปหานังจิ้งจอกในเมืองแล้วอย่างงั้นเหรอ!"จู่ๆ ลู่หลีก็รู้สึกขมขื่นในหัวใจขึ้นมาทันทีหลินเฟยได้ไปที่นั่นกลางดึก และจนรุ่งสางก็ยังไม่กลับมา!และค่ำคืนที่ผ่านมา หลินเฟยและนั่งจิ้งจอกนั้นได้ทำอะไร ไม่บอกก็รู้ได้อยู่แล้ว!"มิน่ะล่ะเมื่อวานเขาถึงไม่ให้ฉันมาหาเขาเร็วเกินไป ที่แท้ก็กลัวว่าฉันจะรู้ว่าเขาแอบไปหานังจิ้งจอกตัวนั้นนี่เอง!""หรือว่า เมื่อวานที่ให้เธอเป็นนายหญิงใหญ่ มันเป็นการเสแสร้งมาหลอกเธอเสียเท่านั้น?"ยิ่งลู่หลีคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เธอก็ยิ่งไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น และน้ำตาก็ไหลอาบหน้าลงมาทันที"ป้าถังคะ ป้าบอกกับหลินเฟยทีนะคะ ต่อไปฉันจะไม่มาหาเขาอีกแล้ว!""ฉันขอตัวก่อนนะคะ ป้าถัง!"หลังจากที่เธอพูดกับถังรั่วเสวี่ยในขณะที่ร่ำไห้ไปด้วยแล้วนั้นลู่หลีก็ปาดน้ำตา ขึ้นรถตำรวจและเหยียบคันเร่งออกไปทันที!"สารวัตรลู่ ทำ...ทำไมคุณถึงออกไปแบบนี้ล่ะ?""คุณไม่รอให้เสี่ยวเฟยกลับมาแล้วจัดการกับเขาก่อนหรือคะ?"พานเสี่ยวเหลียนคิดไม่ถึงเลยว่าลู่หลีจะมีการตอบสนองแบบนี้ขึ้นมาและเธอก็อดไม่ได้ที่จะประหม่าขึ้นมาแล้ว"เสี่ยวเหลียน! เธอไปบอกเรื่องนี้กับสารวัตรลู่ทำไ
"หลินเฟย คุณจะอยู่งีบด้วยกันสักหน่อยไหม?""หลังจากที่เธอตื่น ฉันจะเลี้ยงข้าวพวกคุณเอง"ไฟแห่งการซุบซิบนินทาได้ปะทุขึ้นมาในใจ และเหลิ่งหนิงซวงก็ได้ถามอย่างหยั่งเชิงออกมาขณะที่พูดคุยประตูวิลล่าก็ถูกเปิดออกและแทบจะประคองมู่ชิงชิงให้เดินเข้าไปแล้ว"ผม...ผมอยู่ต่อไม่ได้แล้วครับ ผมคงต้องกลับไปเพราะยังมีธุระรออยู่ มีเวลาว่างค่อยมาเยี่ยมพวกคุณนะ"เมื่อได้ยินแบบนี้ หลินเฟยก็กลอกตาพร้อมกับพูดออกมาเพราะหากเหลิ่งหนิงซวงอยู่ที่นี่ด้วย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะมีอะไรกับมู่ชิงชิงอีกอย่าง มู่ชิงชิงยังเหนื่อยมากในเวลานี้จะเปลี่ยนเป็นวันอื่นๆ มันก็ไม่เป็นไร"หนิงซวง ความจริงฉันอยู่คนเดียวก็ไม่ได้กลัวอะไร เธอไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนฉันหรอก รอให้ฉันตื่นแล้วจะไปหาเธอที่บ้าน โอเคหรือเปล่า?"เมื่อได้ยินว่าหลินเฟยกำลังจะจากไป มู่ชิงชิงก็รีบดึงสติแล้วพูดขึ้นมา"พี่สาว ทำไมพี่ต้องไล่ฉันออกไปแบบนี้ด้วย?""ไม่ใช่ว่าไล่ฉันออกไปแล้ว พี่จะทำอะไรไม่ดีกับหลินเฟยในบ้านหลังนี้หรอกใช่ไหม?"เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหลินเฟยและมู่ชิงชิงเหลิ่งหนิงซวงก็สามารถคาดเดาอะไรขึ้นมาได้บ้างแล้วจากนั้นเธอก็โน้มตัวเข้
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง หลินเฟยก็กลับมาถึงคลินิกแต่ทว่า สิ่งที่ทำให้หลินเฟยต้องแปลกใจก็คือ ตอนที่เขากลับมาถึงดูเหมือนจะไม่เห็นรถตำรวจของลู่หลีจอดอยู่แต่อย่างใดหรือว่าลู่หลีรู้ว่าเขาไม่อยู่ เธอเลยไปตรวจสอบโรงพยาบาลในเมืองด้วยตัวเองก่อน?หลินเฟยระงับความสงสัยและเดินเข้าไปในคลินิก"อาเล็ก พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน พวกคุณมารออยู่ที่หน้าคลินิกทำไม?""คงไม่ใช่เพราะไม่ได้เห็นหน้าผมตลอดทั้งคืน แล้วคิดถึงผมหรอกนะ?"เมื่อเห็นท่าทางที่ไม่ค่อยสู้ดีนักของพวกเธอหลินเฟยยังคิดว่าเพราะการหยุดชะงักของการต่อสู้เมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเธอจะโกรธเขาขึ้นมาเสียอีกดังนั้นเขาก็เลยพูดล้อเล่นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่แบบนั้น"เสี่ยวเฟย พี่สะใภ้ขอโทษด้วย พี่สะใภ้ทำให้สารวัตรลู่โกรธจนออกไปแล้ว เธอพูดว่า เธอพูดว่า ต่อไปจะไม่มาหานายอีกแล้วนะ…"พานเสี่ยวเหลียนสะอื้นเบาๆจากนั้นเธอก็พูดตะกุกตะกักออกมาโดยที่ไม่กล้ามองหน้าหลินเฟยเสียด้วยซ้ำ"พี่สะใภ้ทำให้ลู่หลีโกรธจนออกไปแล้ว?"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว หลินเฟยก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาเขาโอบไหล่ของพานเสี่ยวเหลียนแล้วพูดปลอบโยนขึ้นมาว่า"พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน
"น้องหลิน คนในสำนักงานสายตรวจบอกว่าสารวัตรลู่เพิ่งจะกลับเข้ามา และอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธอหยิบสิ่งของอะไรบางอย่าง แล้วออกจากสำนักงานไปแล้วล่ะ""คนในสำนักงานก็ไม่รู้ว่าเธอไปไหนเหมือนกัน"โม่หลินพูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่"แบบนี้นี่เอง แล้วผู้อำนวยการโม่รู้ที่อยู่ของลู่หลีหรือเปล่าครับ?"เพราะบริเวณใกล้ๆ หมู่บ้านเถาฮวา หลินเฟยไม่ได้พบแม้แต่เงาของลู่หลีหลินเฟยจึงคิดว่า ลู่หลีอาจจะกลับไปบ้านของตัวเองก็ได้"เรื่องนี้ฉันรู้นะ น้องหลิน เดี๋ยวฉันจะส่งข้อความไปที่มือถือของนายโดยตรง แล้วฉันก็จะติดต่อสารวัตรลู่ให้อีกทาง""เดี๋ยวก็น่าจะได้รับข้อความแล้วล่ะ"โม่หลินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พูดออกมา"โอเค งั้นรบกวนผู้อำนวยการโม่ด้วยนะครับ มีเวลาเราค่อยมาสังสรรค์กันนะ"หลินเฟยตอบรับและวางสายไปโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน โม่หลินก็ได้ส่งที่อยู่ของลู่หลีมาให้กับเขาซึ่งอยู่ตรงชานเมือง บนถนนสายหนึ่งหลินเฟยจึงรีบไปตามที่อยู่นั้น โดยใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงหลินเฟยก็ได้มาถึงจากระยะไกล เขาก็ได้เห็นรถตำรวจของลู่หลีจอดอยู่หน้าร้านอาหารซึ่งไม่ไกลจากบ้านของเธอนักยิ่งไปกว่านั้น ลู่หลีเ
"แคกๆ...ความจริงแล้ว เมื่อคืนผม..."หลินเฟยขมวดคิ้วแน่น ถอนหายใจออกมาเต็มแรงพร้อมกับลุกขึ้นยืน"เฮ้อ ช่างมันเถอะ พูดไปคุณก็ไม่เชื่ออยู่ดี ผมออกไปเสียดีกว่า""เดี๋ยวก่อน... บอกฉันเถอะ…ฉันเชื่อ พูดจบแล้วค่อยไป…"จู่ๆ ลู่หลีก็จับมือหลินเฟยเอาไว้ แล้วก็พูดออกมาโดยไม่ยอมให้หลินเฟยจากไปท้ายที่สุดแล้ว ลู่หลีเองก็ยังตัดใจจากหลินเฟยไม่ได้ไม่อย่างนั้นแล้ว เธอก็คงไม่ดื่มหนักขนาดนี้เพื่อผ่อนคลายความหงุดหงิด และยังให้หลินเฟยมาส่งเธออีกต่างหาก"งั้น...งั้นผมจะพูดความจริงแล้วนะ"หลินเฟยนั่งลงอีกครั้งและเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ซึ่งเขาก็ได้บอกเล่าเรื่องราวไปตามตรงทั้งหมดแน่นอนว่า เรื่องที่มู่ชิงชิงกินอะไรไปนั้นหลินเฟยก็ยังคงเก็บซ่อนมันเอาไว้"จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณมู่เลยนะ""เธอเข้าใจผิดคิดว่าผมชอบเธอ และผมก็ปฏิเสธคนไม่เก่งด้วย ดังนั้น...เฮ้อ""ลู่หลี ผมรู้ว่าข้างกายของผมมีผู้หญิงมากมาย แต่ผมชอบคุณด้วยใจจริงนะ ไม่อย่างนั้นแล้วผมก็จะไม่ดั้นด้นมาสารภาพกับคุณแบบนี้หรอก""ถ้าคุณยังยินยอมที่จะอยู่กับผม ผมรับปากว่าต่อไปผมจะทำดีกับคุณให้มาก"หลังจากพูดจบ หลินเฟยก็รอคำ
จากนั้นเขาก็ถอดเกราะปลดขีปนาวุธ และสอดเข้าไปโดยตรง!โดยที่ปิดปากของเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา!ต่อจากนั้น กระบวนท่าของหลินเฟยก็ไม่มีที่สิ้นสุด ลู่หลีไม่สามารถต่อต้านได้แต่อย่างใด และยิ่งไม่มีโอกาสที่จะเปิดปากพูดอะไรออกมาด้วย!และมันก็ค่อยๆ เข้าสู่สภาวะไร้ตัวตนขึ้นมาเรื่อยๆ!ลืมแม้กระทั่งคำพูดที่อยากจะพูดออกไป!เหมือนเช่นที่หลินเฟยได้คิดเอาไว้ หลังจากที่สื่อสารเชิงลึกแล้ว เธอก็ไม่ได้โกรธหลินเฟยอีกต่อไป ตรงกันข้ามกลับรู้สึกชอบหลินเฟยมากขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ!หลังจากชิมรสหวานแล้ว เธอก็เริ่มที่จะโต้ตอบหลินเฟยมากยิ่งขึ้น!…………"อุ๊ย! ที่รัก คุณได้ยินอะไรหรือเปล่า?"ประมาณสิบนาทีต่อมา คู่รักวัยกลางคนที่มีใบหน้าคล้ายกับของลู่หลีก็เดินมาที่ประตูหลังจากได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวแผ่วเบาภายในห้องจ้าวหยวนหยวน หญิงวัยกลางคนที่หน้าตาสะสวยซึ่งเป็นแม่ของลู่หลี จู่ๆ ก็พูดกับชายที่อยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนซึ่งเขาก็คือลู่เหวินปิน พ่อของลู่หลีนั่นเอง"ผมก็ได้ยินเหมือนกัน ดูเหมือนว่าหลีหลีจะ...""เด็กคนนี้ เด็กคนนี้แอบมีแฟนก็ช่างมันเถอะ แต่นี่อะไร ยังกล้าพามาทำเรื่องแบบนั้นที่บ้านอีก..."
"อะไรนะ พ่อแม่ของคุณรออยู่ที่ประตูงั้นเหรอ?"จู่ๆ หลินเฟยก็ไม่มีกะจิตกะใจทำเรื่องแบบนั้นอีกต่อไปแล้วเขาสงบสติอารมณ์ แล้วพูดว่า"ลู่หลีคุณอย่าได้ตกใจไป ในเมื่อผมกล้าทำ ผมก็กล้าที่จะยอมรับอยู่แล้ว""หลบซ่อนมันน่าอายจะตายไป ผมจะช่วยคุณใส่เสื้อผ้า คุณนอนพักอยู่บนเตียงเถอะ""เดี๋ยวผมจะไปพบพ่อแม่ของคุณ แล้วอธิบายให้พวกท่านฟัง""ต่อให้พวกท่านจะตีผม ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่รู้ ผมหนังเหนียวจะตายไป ไม่รู้สึกเจ็บอะไรหรอก"ขณะที่พูด หลินเฟยก็ได้สวมเสื้อผ้าให้ลู่หลีอย่างนุ่มนวลจากนั้นก็รีบสวมเสื้อให้กับตัวเองลู่หลีลังเลอยู่พักใหญ่ แล้วพูดด้วยใบหน้าที่ซับซ้อนขึ้นมาว่า"มันก็จริงอยู่ แต่คุณจะอธิบายอย่างไรล่ะ ฉันออกไปพบพวกท่านจะดีกว่านะ""ถ้าพ่อแม่ของฉันพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง คุณก็อย่าโกรธไปเลยนะ..."ทันทีที่พูดจบ เธอก็ทำท่าจะลงจากเตียงเสียให้ได้อย่างไรก็ตาม เธอได้ถูกหลินเฟยทรมานมานานกว่าสี่ชั่วโมงแล้วร่างกายของเธอจึงแทบจะพัง ไหนเลยจะมีเรี่ยวแรงลงมาจากเตียงได้?"ผมนอนกับลูกสาวของพวกท่านแล้ว ผมจะมีอะไรให้ต้องโกรธอีกล่ะ? คุณวางใจเถอะ ไม่ว่าพวกท่านจะพูดอะไร ผมก็ไม่โกรธทั้งนั้น""ผมจะอุ้มคุณไปพ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได