"หลินเฟย...ที่นี่ไม่มีเครื่องมือ นายจะเอากระสุนออกได้ยังไง?""ให้ฉันไปเอามีดตำรวจที่รถไหม?"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ลู่หลีก็รวบรวมความกล้าขยับเข้าไปใกล้ แล้วถามหลินเฟยขึ้นมา"ไม่ต้องหรอก รอให้คุณลงภูเขาแล้วกลับมา อย่างน้อยก็สองสามชั่วโมงแล้ว""คุณไม่ต้องทำอะไรหรอกนะ ผมจัดการเองได้"หลินเฟยส่ายหน้าแล้วพูดออกมาพอพูดจบ เขาก็ค่อยๆ วางมือไปบนบาดแผลของเสือใหญ่ตัวนั้นเมื่อครุ่นคิด มวลอากาศสีขาวในร่างกายของเขาก็แทรกซึมลึกเข้าไปในบาดแผลของเสือตัวใหญ่จากนั้นมันก็ได้ห่อหุ้มลูกเหล็ก และดึงออกจากร่างกายของเสือตัวใหญ่โดยตรงความเจ็บปวดระยะยาวนั้นแย่กว่าความเจ็บปวดระยะสั้นหลินเฟยไม่ได้เสียเวลา เขาได้ดึงลูกเหล็กออกจากขาของเสือใหญ่ในรูปแบบเดียวกันจากนั้นก็โยนลงพื้นไปอย่างลวกๆกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีกระทั่งเสือตัวใหญ่เพียงขมวดคิ้วเล็กน้อยและไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ออกมา"นี่มัน...เรียบร้อยแล้วเหรอ?" ลู่หลีรู้สึกเหลือเชื่อมาก!"อืม เรียบร้อยแล้ว""เดี๋ยวผมจะไปสมุนไพรมาประคบสักหน่อย อีกไม่กี่วันบาดแผลก็จะหายแล้วล่ะ"หลินเฟยพยักหน้า"อะไรนะ…กระสุนถูกเอาออกมาแล้ว?""แต่..
หลินเฟยหัวเราะเสียงดังออกมา อุ้มลูกเสือทั้งสามตัวเอาไว้ และเดินออกจากปากถ้ำไปทันทีโดยมีเสือใหญ่และแม่เสือเดินตามมาติดๆ "เอ่อ...ไม่น่าเชื่อจริงๆ หรือว่าความจริงแล้วหลินเฟยคือเสือใหญ่ที่กลายร่างมา?""ไม่อย่างนั้นแล้ว ทำไมเสือป่าถึงได้เชื่อฟังเขาแบบนี้?"นอกเหนือจากนี้ ลู่หลีก็ไม่สามารถที่จะหาข้ออธิบายได้แล้วแต่ทว่าความคิดนี้มีเพียงชั่วครู่เท่านั้น และมันก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อการที่หลินเฟยจะให้เธอเป็นภรรยาแต่อย่างใดต่อให้หลินเฟยจะเป็นเสือที่กลายร่างมา เธอก็ชอบเหมือนกัน!ส่วนสวีจื่อเฉียงและหลี่ต้าเหนิงที่ซ่อนตัวอยู่นอกถ้ำเมื่อเห็นหลินเฟยได้นำเสือทั้งรังออกมา และยังจะพาพวกมันไปเฝ้าประตูแบบนี้ พวกเขาก็รู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมากมันเหมือนกับการได้พบกับเทพเจ้าที่มีชีวิตอย่างไงอย่างงั้น!แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้หลินเฟยเกินไป เพราะกลัวว่าเสือใหญ่ตัวนั่นจะกัดเอาได้!……หลังจากที่หลินเฟยได้พบกับสมุนไพรแล้ว เขาก็ฉีกเสื้อมาพันบาดแผลให้เสือใหญ่ และพาพวกมันกลับไปที่หมู่บ้านตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองบ่ายสามแล้วในเวลานี้ ถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
โชคดีที่คำพูดนี้ไม่ได้ดังมากนอกจากนี้ถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนต่างก็ตกใจกับเสือใหญ่ที่ตามหลังหลินเฟยมาแบบนี้จึงไม่ได้ยินคำพูดของเขาแต่อย่างใดไม่อย่างนั้นแล้วพวกเธอคงร่วมมือกันมาจัดการหลินเฟยอย่างหนักหน่วงสักยกแน่นอน"น้าถัง พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน พี่เสี่ยวโหรว""จริงๆ แล้ว เสือพวกนี้หลินเฟยตั้งใจที่จะพามาเฝ้าบ้านให้พวกคุณนะคะ""พวกมันเชื่องมาก ไม่กัดคนหรอกค่ะ""พวกคุณอย่ากลัวไปเลยนะ"หลังจากที่คลุกคลีกันได้ไม่นานลู่หลีก็ไม่ได้กลัวเสือพวกนี้เท่าไหร่แล้วและเธอก็ได้พูดปลอบถังรั่วเสวี่ยและคนอื่นๆ แทน"อะไรนะ? เสี่ยวเฟยจะพาเสือพวกนี้มาเฝ้าบ้าน?""สารวัตรลู่ คุณล้อเล่นหรือเปล่า?"เมื่อได้ยินแบบนั้น ถังรั่วเสวี่ยก็ตกใจเป็นอย่างมากแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองเสียด้วยซ้ำ"เสือเป็นสัตว์ดุร้าย...พวกมันจะมาเฝ้าบ้านได้อย่างไรกัน? ไม่กินพวกเราก็ถือว่าโชคดีแค่ไหนแล้ว...""หลินเฟย นายรีบปล่อยพวกมันกลับไปเถอะ…"ซูเสี่ยวโหรวตกใจจนหน้าซีด และน้ำเสียงที่พูดออกมาก็สั่นเครือแล้วในตอนนี้มีเพียงพานเสี่ยวเหลียนเท่านั้นที่ยังคงจ้องมองเสือใหญ่ตัวนั้นอย่างพินิจพิเคราะห์จู่ๆ ก็เหมือนจะคิดอะ
"ตอนนี้ดูเหมือนว่า มันจะไม่ใช่เรื่องจริงอะไรแล้วนะ!"พานเสี่ยวเหลียนยิ่งกล้าหาญ และเธอก็กล้าแม้กระทั่งวิ่งเข้าไปหาแม่เสือจากนั้นก็เข้าไปลูบก้นของเสือ!ถึงกระนั้น แม่เสือตัวนั้นก็ยังไม่ได้มีท่าทีที่จะต่อต้านแต่อย่างใดเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ถังรั่วเสวี่ยและซูเสี่ยวโหรวก็ไม่ได้กลัวขนาดนั้นอีกต่อไปตรงกันข้าม พวกเธอกลับมีท่าทีที่กระตือรือร้นเป็นอย่างมากแต่อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้ว พวกเธอก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไปลูบเสือใหญ่ตัวนั้น"อาเล็ก พี่เสี่ยวโหรวครับ ลูกเสือพวกนี้ยิ่งนุ่มมือมาก พวกคุณลองลูบดูสิครับ"หลินเฟยเดินเข้ามาใกล้ และวางลูกเสือสามตัวที่อยู่ในอ้อมแขนลง"ฮึ..."เมื่อลูกเสือน้อยทั้งสามตัวถูกวางลงบนพื้น พวกมันก็ส่งเสียงร้องออกมาและไม่ได้วิ่งหนี แต่กลับเดินวนไปมาข้างๆ หลินเฟยแทนพวกมันส่ายหัวไปมาอยู่เป็นระยะๆ ดูน่ารักเอาเสียมากๆ!"ว้าว...นี่ฉันลูบเสือแล้วหรือนี่ และมันก็ยังเป็นเสือตัวเป็นๆ อีก!"ซูเสี่ยวโหรวไม่สามารถต้านทานสิ่งล่อใจนี้ได้เธอรวบรวมความกล้าและเดินเข้าไปอุ้มลูกเสือตัวหนึ่งเอาไว้ พร้อมกับลูบไปมาอย่างเมามัน"ฉันก็อยากจะลองลูบดูเหมือนกัน..."เ
"ได้เลย น้องหลิน ผมจะโทรหาฉู่เหวินชิงให้เธอมาหาผมที่บ้านเดี๋ยวนี้!"หลี่ต้าเหนิงสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์จากนั้นก็กดหมายเลขไปหาฉู่เหวินชิง"คุณฉู่ครับ ผมได้จับลูกเสือทั้งสามตัวได้แล้ว พวกมันแข็งแรงและไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยครับ""ผมนำพวกมันมาไว้ที่บ้าน คุณว่า...ตอนนี้คุณมีเวลามาที่นี่สักหน่อยไหมครับ?""ทำได้ดีมากหลี่ต้าเหนิง ดูไม่ออกเลยจริงๆ ว่านายจะมีความสามารถขนาดนี้!"เสียงที่อยู่ปลายสายดูวุ่นวายเอาเสียมากๆท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังจนน่าหนวกหู ยังมีเสียงที่ประหลาดใจของหญิงสาวดังออกมา"แต่ว่าตอนนี้ฉันยังออกไปไหนไม่ได้ ฉันกำลังเที่ยวกับเพื่อนอยู่ในเมืองน่ะ""กว่าจะไปถึงที่นั่นก็ชั่วโมงกว่าๆ ไปแล้ว""นายรอฉันอยู่ที่บ้านเถอะ!""ครับ ครับ คุณฉู่" ทันทีที่หลี่ต้าเหนิงพูดจบโทรศัพท์ก็ถูกวางสายไปทันที"น้องหลิน สารวัตรลู่ ฉู่เหวินชิงบอกว่าเธอกำลังเที่ยวเล่นอยู่ในเมืองกับเพื่อนๆ อีกหนึ่งชั่วโมงน่าจะเดินทางมาที่บ้านของผมครับ"หลี่ต้าเหนิงพูดย้ำตามความเป็นจริง"หนึ่งชั่วโมงก็ไม่นาน เราไปที่นั่นกันดีกว่า""แล้วก็ใช้เวลานี้ในการตรวจรักษาแม่ของนายด้วย"หลินเฟยคิดอยู่ครู่ห
เขาก็รู้สึกหงุดหงิดมาโดยตลอดเมื่อเขารู้สึกเบื่อๆ เขาก็ได้นัดเด็กสาวคนใหม่ที่เพิ่งจะคบกันได้ไม่นานออกมาเที่ยว ซึ่งนั่นก็คือฉู่เหวินชิงนั่นเองพร้อมกับเตรียมที่จะผ่อนคลายสักพักเมื่อได้ยินว่าฉู่เหวินชิงได้ไปหาลูกเสือทั้งสามตัวมาได้แบบนี้จู่ๆ ความคิดที่จะประจบเอาใจหลินเฟยก็ได้เกิดขึ้นมาอีกครั้ง!"เหวินชิง ลูกเสือพวกนั้นมีประโยชน์กับผมมากจริงๆ!""เอาพวกมันมาให้ผมเถอะ ผมตั้งใจจะมอบพวกมันเป็นของขวัญให้กับคนใหญ่คนโตน่ะ!"หลิวชาวคิดว่า มีเพียงการมอบลูกเสือพวกนี้ให้กับหลินเฟยเท่านั้นเขาถึงจะสามารถผูกมิตรของหลินเฟยได้!จากนี้ต่อไป เขาก็จะสามารถเดินเชิดหน้าชูตา และไม่มีใครกล้ารุกรานเข้าได้อีกแล้ว!"เอ่อ...พี่ชาว นี่พี่คงไม่คิดที่จะมอบพวกมันให้กับลูกสาวของเทศมนตรีหรอกนะ?"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ฉู่เหวินชิงก็คิดถึงคนคนหนึ่งขึ้นมาทันทีเธอจึงบุ้ยๆ ปาก และพูดอย่างไม่พอใจเล็กน้อยในความคิดของเธอ สำหรับเหลิ่งหนิงซวงนั้นถือว่าเป็นคนใหญ่คนโตแล้ว!ส่วนเหลิ่งชิงซง เธอไม่สามารถจะพบหน้าได้เสียด้วยซ้ำ!"มอบให้ลูกสาวเทศมนตรี มันก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย""ไม่แน่ว่าบางทีเราอาจจะได้รับความเมตต
"เหอะๆ ไม่ต้องห่วงหรอกเหวินชิง ถึงเวลานั้นผมจะพาคุณไปด้วยกันนะ!"ความเยาะเย้ยได้แวบเข้ามาในดวงตาของหลิวชาวพร้อมกับตอบตกลงออกไป"ถ้าคุณไม่ได้หาลูกเสือพวกนั้นมา ผมก็คงจะไม่มีโอกาสได้พบกับหลินเฟยหรอกนะ!""ว้าว พี่ชาว พี่ช่างดีกับฉันจริงๆ!""ขอบคุณนะคะ!"ฉู่เหวินชิงรีบทำท่าทางประจบเอาใจขึ้นมาทันทีแต่ในใจกลับกำลังคิดว่าหลังจากที่เธอได้พบกับหลินเฟยแล้ว เธอจะใช้วิธีการไหนดีในการปีนป่ายความสัมพันธ์นี้?"พี่ชาว รอพวกเราด้วย…"สาวผมสั้น สาวผมยาวสีชมพู และคนอื่นๆ ต่างก็รีบออกจากห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวเพื่อจะตามไปด้วยทันทีพวกเขาคิดว่า ในเมื่อไม่มีโอกาสได้ประจบเอาใจคนใหญ่คนโตอย่างหลินเฟยงั้นเขาก็พยายามทุกวิถีทางที่จะประจบเอาใจหลิวลาวก็แล้วกัน……ในเวลาเดียวกันนั้นถนนซีเมนต์เส้นตรงของหมู่บ้านตระกูลหลี่ที่อยู่ริมชานเมืองรถตำรวจได้ขับเข้ามาอย่างช้าๆโดยมีหลี่ต้าเหนิงนั่งอยู่แถวหลังชี้ไปยังบ้านหลังเล็กๆ สองชั้นที่สร้างขึ้นเอง พร้อมกับถามอย่างหยั่งเชิงออกมาว่า"น้องหลิน สารวัตรลู่ ข้างหน้าเป็นบ้านของผมเอง…""เราจอดรถไกลๆ หน่อยจะดีหรือเปล่า?""ฉู่เหวินชิงจะได้ไม่กลัวเมื่อมาถึงแล
"ลูกไร้ความสามารถ...ถ้าลูกมีเงิน แม่ก็ไม่ต้องมาฆ่าตัวตายแบบนี้…"หลี่ต้าเหนิงคุกเข่าอยู่ที่พื้น จับมือของหญิงชราเอาไว้แน่น พร้อมกับร้องไห้คร่ำครวญอย่างปวดใจ"คนตายไปแล้วฟื้นคืนกลับมาไม่ได้หรอกนะ อย่าร้องไห้ไปเลยต้าเหนิง""ทางที่ดีนายคิดถึงเรื่องงานศพของแม่นายดีกว่านะ จะได้ให้ท่านจากไปอย่างสง่างามสักหน่อย"หลี่เยี่ยนเหมย ผู้ใหญ่บ้านหญิงในวัยสามสิบได้ตบไหล่หลี่ต้าเหนิงเพื่อเป็นการปลอบใจเนื้อตัวของเธอเต็มไปด้วยน้ำ และเส้นผมก็พันกันเป็นเกรียวเมื่อเห็นลู่หลีที่เดินเข้ามาในชุดสายตรวจหลี่เยี่ยนเหมยก็ยังคิดว่า ลู่หลีรับทราบเรื่องที่แม่ของหลี่ต้าเหนิงกระโดดน้ำตาและเข้ามาสอบสวนเรื่องราวเสียอีกเธอจึงก้าวไปข้างหน้าและอธิบายเรื่องราว"ไม่จำเป็นต้องรีบจัดงานศพหรอก หลี่ต้าเหนิง แม่ของนายยังมีทางรอด นายรีบถอยออกไปก่อน!""ขืนยังล่าช้า มันจะสายเกินไปนะ!"หลินเฟยขมวดคิ้วจากนั้นเขาก็เดินไปหาแม่ของหลี่ต้าเหนิงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพูดอย่างแน่วแน่ออกมา"อา...แม่ของผม แม่ของผมยังมีทางรอด?""เยี่ยมไปเลยน้องหลิน คุณรีบมาช่วยแม่ของผมเร็วเข้า""รีบมาช่วยแม่ของผมเร็วเข้า!"เมื่อได้ยินดังนั้น ห
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได