และเขาก็รีบกระซิบกับหลินเฟยอย่างรวดเร็วว่า"ท่านอาจารย์ครับ เรื่องนี้ผมได้ก่อขึ้นมาเอง ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบไหน ผมจะรับผิดชอบด้วยตัวเองครับ""ท่านผู้เฒ่ารีบพาท่านอาจารย์หญิงออกไปเถอะครับ!"เมื่อเห็นท่าทางที่ตื่นตระหนกของจ้าวอู่จี๋หลินเฟยก็ส่ายหน้า และพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า"จะพูดอย่างไรนายก็เป็นลูกศิษย์ของฉัน เรื่องนี้ฉันเป็นตัวต้นเหตุ แล้วฉันจะทิ้งนายไว้ที่นี่คนเดียวได้อย่างไร?""ถ้าฉันทำแบบนั้นจริงๆ แล้วฉันจะยังเป็นอาจารย์ของนายได้ยังไงกันล่ะ?""คือว่า...ขอบคุณมากนะครับท่านอาจารย์!"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว จ้าวอู่จี๋ก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้านและในเวลานี้ ร่างที่ไม่ถือว่ากำยำเท่าไหร่ของหลินเฟย ก็ดูยิ่งใหญ่ขึ้นมาทันทีในสายตาของจ้าวอู่จี๋"หลินเฟย แม้กระทั่งทายาทของคุณท่านหวางก็เข้ามาช่วยหลิวชาวรับหน้าแล้ว พวกเรายังจะสามารถไปจากที่นี่ได้โดยไม่เป็นอะไรอย่างนั้นเหรอ?"แต่ทว่าจ้าวลู่ลู่กลับกังวลใจเล็กน้อย และบีบมือของหลินเฟยเอาไว้แน่นโดยไม่ได้ตั้งใจดวงตากลมโตยังคงกะพริบอยู่แบบนั้น"ฮึ่ม ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วงั้นเหรอ?""เมื่อกี้พวกเธอยังโอ้อวด และเก่งกาจอยู่เลยไม่ใช่เห
และทุกคนก็เข้าข้างเจ้าของบ้านไว้เสียก่อน เดิมทีพวกเขาก็ไม่มีความประทับใจต่อหลินเฟยอยู่แล้วตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวเหวินเซวียนแบบนี้พวกเขาก็ยังเชื่ออย่างสนิทใจจากนั้นก็ชี้ไปที่หลินเฟย แล้วตะคอกออกมาว่า"ไอ้เด็กเมื่อวานซืนอย่างนาย อายุแค่นี้ยังพูดโกหกอยู่ได้ มันจะไม่น่าขยะแขยงไปหน่อยเหรอ!""นายคิดว่าทุกคนโง่หรือยังไง?""ไม่ว่านายจะพูดอะไร เราก็ไม่มีวันจะเชื่อนายหรอก!"แน่นอนว่าคนที่ตะโกนเสียงดังที่สุด จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชายหนุ่มที่ติดตามหลิวชาวมาด้วยพวกนั้น!แม้แต่แววตาของหญิงสาวที่มองหลินเฟย ก็เต็มไปด้วยความรังเกียจที่ปิดบังเอาไว้ไม่อยู่"วันนี้ช่างได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นคนที่น่ารังเกียจขนาดนี้!""ถุย!"หลังจากเห็นการตอบสนองของทุกคน หลิวชาวก็ถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัวเขาเองก็คิดไม่ถึงว่าคำโกหกของตัวเองจะเป็นผลขึ้นมาจริงๆหลิวชาวเผยรอยยิ้มเย้ยหยันมาที่หลินเฟยทันที!ความหมายก็คือว่า ต่อให้นายพูดความจริงแล้วจะยังไง? ทุกคนเชื่อฉัน ไม่เชื่อนาย?รอถูกจัดการได้เลย!"ทุกสิ่งที่หลินเฟยพูดเป็นความจริง ทำไมทุกคนไม่เชื่อหลินเฟยล่ะ?""หลิวชา
"พี่ลู่ลู่ รีบมาหลบข้างหลังผมเร็วเข้า""คุณดูแลตัวเองเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก!"เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว หลินเฟยก็พูดกับจ้าวลู่ลู่สองสามคำจากนั้นเขาก็กระโจนเข้าไปในฝูงชนอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าที่เกรี้ยวกราด!"ฮ่าฮ่าฮ่า แม่งโง่จริงๆ ยังคิดว่าตัวเองจะต่อสู้กับคนมากมายขนาดนี้ด้วยมือเปล่าได้อย่างนั้นเหรอ?""ตีเลย ตีเลย ตีให้ตายไปเลยก็ยิ่งดี!"เมื่อเห็นหลินเฟยกระโจนเข้าไปหลิวชาวก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมาเขามองข้ามฝูงชนไป และสายตาก็ตกมาที่ตัวของจ้าวลู่ลู่ที่กำลังทำอะไรไม่ถูกอยู่อีกมุมหนึ่งสายตานั้นเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย!แต่ทว่า ร่างกายของหลินเฟยในตอนนี้ มันแทบได้แม้กระทั่งเหล็กกล้าที่หลอมขึ้นมาต่อให้เขาจะไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกมดแมลงเหล่านี้สามารถต้านทานได้ราวกับเสือร้ายที่กระโจนเข้าไปในฝูงแกะ ทันทีที่สัมผัสจะเกิดบาดแผล และล้มไปตามๆ กัน!ลูกน้องที่เขามีอยู่ในมือ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเฟยเลยแม้แต่น้อย!จากนั้นไม่นาน ผู้คนหลายสิบคนก็ถูกหลินเฟยจัดการแทบปางตาย!ส่วนจ้าวอู่จี๋ก็เริ่มใช้หมัดและเริ่มใช้เทคนิคการฝังเข็มที่หลินเฟยสอนให้เขา ประกอบกับ
"นาย...นายกำลังพูดเพ้อเจ้ออะไรอยู่?""ทุกสิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริงทั้งหมด อย่าอาศัยความเป็นนักเลงของตัวเองมาบิดเบือนความจริงแบบนี้!"หลิวเหวินเซวียนก็ไม่คิดว่าหลินเฟยจะต่อสู้ได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับข้อซักถามของหลินเฟยเขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว และอดไม่ได้ที่จะถอยหลังออกมาสองสามก้าวสำหรับหลิวชาวและคนหนุ่มพวกนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดไปใหญ่เมื่อเห็นว่าหลินเฟยกำลังสาวเท้าก้าวเข้ามา พวกเขาก็แทบจะฉี่แตกแล้ว!"จริงเหรอ? ดูเหมือนว่าคุณไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตานะ""ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ให้หลานชาของคุณมาบอกความจริงกับทุกคนเถอะ!"หลินเฟยไม่ใช่คนที่จะถูกใครรังแกได้ง่ายๆหลังจากที่ถูกหลิวเหวินเซวียนและหลานชายใส่ร้ายและบีบบังคับแล้วนั้น เขาก็ตัดสินใจแล้วว่จะไม่ให้พวกเขาอยู่อย่างเป็นสุขเช่นกัน!และให้ทุกคนได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพวกเขาเสียทีซึ่งมันก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับพวกปู่หลานพวกนี้!ขณะที่หลินเฟยกำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อใช้เข็มสะกดจิตหลิวชาวเด็กสาวที่กล้าหาญคนนั้นก็กลับพุ่งเข้ามาก่อนเธอขวางหน้าหลินเฟยเอาไว้ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า"นายกล้
แต่ทว่าเสื้อผ้าของเขายังคงเต็มไปด้วยเลือดสดๆ ดูแล้วน่าอนาถเป็นอย่างมากและเห็นได้ชัดว่า เมื่อครู่ที่เธอพูดว่าหลินเฟยได้ทำร้ายคนอื่นโดยเจตนานั้น มันฟังไม่ขึ้นแล้วในตอนนี้!ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นปู่และหลานของตระกูลหลิวได้ทำร้ายคนอื่นโดยเจตนาเสียมากกว่า!เมื่อหวางเจิงถูกหลินเฟยซักถามแบบนี้ เธอก็รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันทีหลินเฟยยังคงจ้องมองเธอแล้วพูดว่า"คุณหวาง ผมขอถามอีกคำถามนะครับ""ต่อให้ผมและคุณจะคิดเหมือนกัน ต่างก็ต้องการบังคับให้ปู่และหลานชายยอมรับว่าพวกเขาใส่ร้ายผม แล้วทำไมคุณหวางไม่ก้าวเข้ามาหยุดพวกเขา ตอนที่พวกเขาเรียกคนมาทุบตีล่ะครับ?""ตอนที่ผมจะลงมือ คุณกลับเรียกคนมาจับผมเอาไว้?""คุณหวางครับ คุณช่วยอธิบายเหตุผลสักหน่อยจะได้ไหมครับ?"หวางเจิงคิดไม่ถึงเลยว่า หลินเฟยจะจับความคิดของเธอได้ชัดเจนได้ถึงขนาดนี้แต่สำหรับคำถามที่สองของหลินเฟยในที่สุดเธอก็หาเหตุผลได้ และอธิบายกับหลินเฟยว่า"เพราะสาเหตุของเรื่องนี้ คุณเป็นฝ่ายที่ผิดก่อน ดังนั้น ฉันจึงไม่ได้ห้ามคนของตระกูลหลิวอย่างไงล่ะ""หากเป็นปู่และหลานได้ทำผิดจริงๆ ฉันก็ไม่ห้ามนายที่จะมาสั่งสอนพวกเขาด้วยเช่นกัน""ในทำนอง
"อาจารย์หญิงครับ ท่านอาจารย์ของผมใช้วิธีการไหนกันแน่?""เข็มเงินนั่นมีไว้สำหรับรักษาอาการบาดเจ็บไม่ใช่เหรอ หรือว่ามันยังสามารถใช้ในการสอบสวนได้?"เมื่อเห็นท่าทางที่มีความสุขของจ้าวลู่ลู่จ้าวอู่จี๋ก็กลับถามอย่างกังวลขึ้นมา"อาจารย์จ้าว ในที่สุดคุณก็เดาถูกแล้วนะ เข็มเงินนี้หากอยู่ในมือของคนอื่น บางทีมันอาจจะรักษาได้แต่อาการบาดเจ็บเท่านั้น""แต่ในมือของหลินเฟย มันจะมีประโยชน์มาก!""คุณเปิดตาให้กว้างและมองดูดีๆ นะ อีกเดี๋ยวหลิวชาวก็จะบอกความจริงออกมาอย่างว่าง่ายแล้วล่ะ!"จ้าวลู่ลู่มองดูแผ่นหลังของหลินเฟยด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมกับหัวเราะเบาๆ ออกมา"ครับ อาจารย์หญิง""ผมจะตั้งใจดู"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว จ้าวอู่จี๋ก็ทำได้เพียงระงับความสงสัยเอาไว้ในใจและพุ่งสายตาไปที่หลินเฟยในทันที"จะสอบปากคำไม่ใช่เหรอ?""เด็กคนนี้ถือเข็มเงินมาทำไม หรือว่าจะรักษาอาการเจ็บป่วย?"เหล่าบรรดาแขกเหรื่อหลายสิบคน รวมทั้งหวางเจิงด้วยพวกเขาต่างก็ไม่รู้ว่าวิธีการของหลินเฟยจะเป็นอย่างไรกัน จึงดูสับสนเอาเสียมากๆและในเวลานี้คู่ปู่หลานก็มองไปยังหลินเฟยที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ แต่ใบหน้
"คุณหวาง คุณก็เห็นกับตาแล้วว่า เขาไม่ได้คิดจะสอบปากคำแต่อย่างใด แต่เขาคิดที่จะฉวยโอกาสทำร้ายหลานชายของฉันต่างหาก!""คุณหวาง หลานชายของฉันถูกทำร้ายถึงขนาดนี้แล้ว คุณจะไม่ทวงความยุติธรรมให้กับฉันสักหน่อยเหรอ!"เมื่อเห็นหลิวชาวถูกเซ่อไปอย่างนี้แล้วหวางเจิงก็ได้ยอมรับไปอย่างไม่รู้ตัวว่าหลินเฟยได้ทำร้ายคนอื่นจากนั้นเธอก็เลิกคิ้ว แล้วตะคอกอย่างโกรธเคืองว่า"มันมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ นายทำแบบนี้มันจะมากไปหรือเปล่า เมื่อกี้ฉันไม่ควรเชื่อในคำพูดของนายเลย!""รีบรักษาคุณชายหลิวให้หายเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ฉันจะจับนายนอนอยู่ในคุกไปตลอดชีวิตแน่นอน!"เธอคิดว่าหากไม่ใช่ตัวเองตอบตกลงหลินเฟยให้สอบปากคำหลิวชาวก็จะไม่ถูกหลินเฟยทำให้กลายเป็นคนบ้าแบบนี้ดังนั้น เธอจึงทั้งรู้สึกผิดและเดือดดาลเป็นอย่างมาก!ในขณะที่พูด เธอก็เงื้อฝ่ามือที่ขาวนวล และตบไปที่หลินเฟยอย่างเต็มแรง!เสียงเพี้ยะได้ดังขึ้นมาข้อมือที่เรียวขาวของหวางเจิงถูกหลินเฟยจับเอาไว้กลางอากาศ"คุณหวางครับ ผมไม่ได้ทำร้ายใครนะ เพียงแต่เป็นวิธีการที่จะสอบปากคำแค่นั้น""มันไม่ได้ทำให้เขากลายเป็นคนเซ่อไปหรอกนะครับ""หากคุณหวางไม่เ
ตามคาดหวางเจิงที่รู้ความจริงนั้น ทั้งอับอายและขุ่นเคืองใจ กระทั่งสีหน้าก็เขียวคล้ำขึ้นมาทันทีเธอเป็นใครน่ะเหรอ?หลานสาวสายตรงของคุณท่านหวาง หวางเทียนผิงมือขวาไหล่ซ้ายของกษัตริย์ในยุคก่อน หนึ่งในเจ็ดของผู้ก่อตั้งประเทศ!วงศาคณาญาติ พ่อแม่พี่น้องก็ล้วนแล้วแต่เป็นศูนย์กลาง ดำรงตำแหน่งสำคัญ และกุมอำนาจเอาไว้ในมือด้วยกันเสียทั้งนั้น!หากจะพูดถึงเพียงสถานะของหวางเจิงอาจมีไม่กี่คนในประเทศที่พอจะเทียบเคียงกับเธอได้!เมื่อคนธรรมดาสามัญมาพบกับเธอแล้วก็จะต้องเคารพเธอ เกรงกลัวเธอ และปีนป่ายเธอแทบไม่ทัน!แต่ทว่าเรื่องราวในวันนี้ ไปๆ มาๆ ที่แท้เธอก็ถูกปู่หลานคู่นี้นำออกมาเป็นโล่กันกระสุนตั้งแต่ต้นจนจบ!ยิ่งไปกว่านั้น มันยังอยู่ท่ามกลางสาธารณชนอีกต่างหาก!แล้วจะให้เธอทนได้อย่างไร?เธอจึงพุ่งเข้ามาหาหลิวเหวินเซวียน และซักถามว่า"ปรมาจารย์หลิว เสียแรงที่ฉันปกป้องคุณขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะคิดคดมาหลอกลวงฉันแบบนี้ได้!""คุณทำแบบนี้ มันคุ้มกับการที่ฉันเชื่อใจคุณหรือเปล่า?"เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามอย่างต่อเนื่องของหวางเจิง สีหน้าของหลิวเหวินเซวียนก็ซีดขาวราวกับกระดาษ และฝีเท้าก็ดูเบาไร้น
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได