"ในประเทศนี้มีปรมาจารย์ในการคัดเลือกหินไม่มากนักที่มีทักษะเฉกเช่นปรมาจารย์หลิน ในฐานะผู้นำทางด้านการค้าอัญมณีในประเทศ ไม่สมควรอย่างยิ่งที่นำบุคคลที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ไว้ข้างนอก"หลินเฟยไม่ได้คำนึงถึงคำเตือนของซูไห่เทา"นี่เป็นเพียงงานอดิเรกของผมท่านั้น หากครอบครัวเจียงทำใจที่จะยอมรับไม่ได้ ปล่อยให้พวกเขามาตามที่ใจต้องการ เตรียมพร้อมรับเสมอ ภายภาคหน้าไม่มีใครตอบได้ว่าจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องพรรค์นี้อีกหรือไม่ ปล่อยให้พวกเขาทำทุกอย่างที่พวกเขาต้องการเถอะ""ได้"ซูไห่เทาหยุดการโน้มน้าวเมื่อนึกถึงรายรับของเมื่อสักครู่นี้ เขาก็ได้หยิบบัตรธนาคารออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทและตั้งใจที่จะนำไปใส่ไว้ในมือของหลินเฟย"นี่คือเงินสองพันล้านหยวนจากการขายหินของจางซื่อเฉวียน ผมรู้ว่ามันคงไม่พอเมื่อเทียบกับความช่วยเหลือของปรมาจารย์หลินที่มีต่อครอบครัวซูเรา ครอบครัวซูของเราจะจดจำความกรุณานี้ตลอดไป นี้คือน้ำใจเล็กน้อย ได้โปรดรับมันไปเถอะปรมาจารย์หลิน"การกระทำของซูไห่เทานี้จริงใจมากหลินเฟยไม่รับสิ่งที่เขาให้ ได้แต่กล่าวว่า"ฝากมันไว้กับพี่เสี่ยวเสวี่ยดีกว่า เราทุกคนต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ผมไม
ซูไห่เทาเข้าใจว่าหลินเฟยขี้เกียจจะจัดการกับคนกลุ่มนี้ ดังนั้นเขาจึงแสดงความคิดเห็นว่า"เสี่ยวเสวี่ยคนนั้น ปรมาจารย์หลินทำงานหนักอย่างมาก ได้พาปรมาจารย์หลินกลับบ้านพักผ่อน จะต้องรับใช้เขาอย่างดีและจะต้องไม่มีข้อผิดพลาด"เขาจึงจัดการกับผู้คนที่อยู่ที่นี่ โดยปล่อยให้ซูเฉี่ยนเสวี่ยและหลินเฟยมีพื้นที่ส่วนตัว"ฮ่าฮ่า ประธานซูพวกเราไปก่อนนะ"หลินเฟยแสดงรอยยิ้มอันอบอุ่น และเห็นใบหน้าของซูเฉี่ยนเสวี่ยแดงก่ำขึ้นมา"ผมเข้าใจแล้วครับพ่อ"ซูเฉี่ยนเสวี่ยขับรถสีขาวของเธอ ในขณะที่หลินเฟยขับรถของตัวเอง ติดตามเธอไปตลอดทาง......หลังจากนั้นไม่นาน.รถยนต์จอดอยู่ในคฤหาสน์หรูหราทีละคันภายในคฤหาสน์ซูขนาดใหญ่และหรูหราเงียบสงัดราวกับว่ามันถูกเตรียมไว้สำหรับพวกเขาสองคนเพียงลำพังหลินเฟยนั่งลงบนโซฟานุ่มๆพร้อมกับถอนหายใจยาวๆ"เอ่อ... การประชุมแบบนี้ลำบากใจจริงๆ ผมร้อนจนเหงื่อออกไปทั้งตัว ที่สำคัญคือหัวกำลังจะระเบิดแล้ว"ซูเฉี่ยนเสวี่ยถอดรองเท้าส้นสูงของเธอออกแล้วโยนมันไปคนละทิศคนละทาง จากนั้นนั่งคร่อมหลินเฟยโดยที่ไม่เกรงกลัวอะไรเลย"เหนื่อยแล้วใช่ไหม ผมจะนวดให้คุณเอง ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น"
ซูเฉี่ยนเสวี่ยเตรียมพร้อมที่จะถูกหลินเฟยประหารแล้วแต่ในเวลานี้จ๊อก จ๊อก...ท้องของหลินเฟยร้องขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะสมสิ่งนี้ทำให้หลินเฟยรู้สึกเขินอายเล็กน้อย“แม้ว่าฉันอยากจะกลืนคุณเข้าไปรวดเดียวก็ตาม แต่ตอนนี้ฉันหิวมาก”ซูเฉี่ยนเสวี่ยยิ้มอย่างมีเสน่ห์“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะคะที่รัก ฉันจะทำอาหารให้คุณ เมื่อคุณอิ่มแล้ว แล้วเรา...”หลินเฟยกล่าวต่อสิ่งที่ซูเฉี่ยนเสวี่ยพูด“แล้วผมจะทำให้ท้องคุณอิ่มเอง...”หลินเฟยลูบท้องแบนราบของซูเฉี่ยนเสวี่ยซูเฉี่ยนเสวี่ยกลอกตาไปที่หลินเฟยด้วยอารมณ์ไม่สมดังใจ“เกลียดจัง... รอก่อน อีกไม่นานก็จะเสร็จแล้ว”ซูเฉี่ยนเสวี่ยลุกขึ้นมาทำอาหารให้หลินเฟยต้องยอมรับว่าผู้หญิงที่ทำอาหารให้ผู้ชายที่เธอรักนั้นมีเสน่ห์มากจริงๆแม้ว่าภายนอกซูเฉี่ยนเสวี่ยจะดูเย็นชาและเยือกเย็น แต่ดูเหมือนผู้หญิงที่แข็งแกร่งและทะเยอทะยานเธอก็ยังสามารถทำอาหารได้เธอเป็นผู้หญิงประเภทที่สามารถเป็นคนรับแขกอยู่ในห้องโถงได้และเข้าครัวได้ ทั้งสวยและทั้งยังมีเสน่ห์ปลายจวักและซูเฉี่ยนเสวี่ยก็มีกลอุบายของเธอเองเช่นกันเนื่องจากไม่มีคนนอก เธอทำตามใจอย่างคาดไม่ถึงแม้แต่ตอนท
อาหารมื้อนี้ ซูเฉี่ยนเสวี่ยใช้เวลาทำกว่าสองชั่วโมงหลินเฟยยังไม่อิ่ม แต่ซูเฉี่ยนเสวี่ยที่ทำอาหารนั้นกลับอิ่มไปก่อนแล้วหลังจากพักไปครู่ใหญ่อาหารที่เลิศรสและหลากหลายก็ได้มาเสิร์ฟถึงที่โต๊ะหลินเฟยนั่งลงบนโต๊ะ โบกมือให้กับซูเฉี่ยนเสวี่ยพร้อมพูดด้วยเสียงหัวเราะออกมาว่า"พี่ซู คุณน่าจะมาบริการผมกินข้าวด้วยไม่ใช่เหรอ?"ซูเฉี่ยนเสวี่ยหน้าแดงก่ำ จากนั้นก็เข้ามานั่งบนตักของหลินเฟยอย่างยั่วยวน"นั่นมันแน่นอนอยู่แล้วล่ะ ป้อนให้คุณอิ่ม มันเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของฉันอยู่แล้วนะ""มา อ้าปาก อ้ำ..."ซูเฉี่ยนเสวี่ยยื่นมือที่ขาวนวลออกไปคีบอาหาร แล้วป้อนให้หลินเฟยถึงที่ปากและดูเหมือนว่าหลินเฟยจะเพลิดเพลินไปกับการป้อนอาหารเลิศรสของซูเฉี่ยนเสวี่ยเป็นการส่วนตัวแบบนี้มาก"อร่อยมั้ย?" ซูเฉี่ยนเสวี่ยถามเบาๆ"ต้องอร่อยอยู่แล้วล่ะ พี่ซูทำอาหารได้อร่อยที่สุด แต่มันไม่อร่อยเท่าตัวของคุณเท่านั้นเอง"หลินเฟยยิ้มอย่างมีเลศนัย"งั้นฉันก็จะให้คุณกินให้หนำใจไปเลย" ซูเฉี่ยนเสวี่ยกลอกตามองบนให้กับหลินเฟยด้วยท่าทางที่ยั่วยวนหลินเฟยยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมาทันที"กินอย่างไรก็กินไม่อิ่มหรอกนะ เพราะกระเ
ผ่านหน้าต่างบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานที่แสงแดดได้สาดส่องเข้ามา สามารถมองเห็นระเบียงขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทิศทัศน์ที่เขียวชอุ่มของคฤหาสน์ตระกูลซูได้อย่างชัดเจนและแม้กระทั่งไวน์แดงที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศก็ได้จัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วที่แท้เด็กน้อยซูเฉี่ยนเสวี่ยก็ได้ตระเตรียมฉากสนุกสนานในห้องอาบน้ำไว้ก่อนหน้านี้เป็นดิบดีแล้วทันทีที่หลินเฟยได้ลงไปในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่เขาก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวที่ประตูห้องน้ำในทันทีและเมื่อหลินเฟยเงยหน้าขึ้นมามองก็ได้พบกับซูเฉี่ยนเสวี่ยที่สวมชุดนอนเซ็กซี่สีดำกึ่งโปร่งอยู่พร้อมกับเดินเข้ามาอย่างราชินี โดยยังลากชุดนอนสีดำแบบยาวเข้ามาอีกต่างหากซึ่งชั้นที่บางเบาของชุดสีดำโปร่งนี้ ได้เปิดเผยรูปร่างที่เร่าร้อนของซูเฉี่ยนเสวี่ยออกมาอย่างหมดสิ้นหลินเฟยยื่นมือออกไปทางซูเฉี่ยนเสวี่ยซูเฉี่ยนเสวี่ยหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็ค่อยๆ เดินไปหาหลินเฟยด้วยใบหน้าที่เย้ายวน พร้อมกับวางมือขาวนวลไปที่มือของหลินเฟยครู่ต่อมา หลินเฟยก็ได้กอดซูเฉี่ยนเสวี่ย และดึงเธอลงไปในน้ำโดยตรงซึ่งก็ทำให้ซูเฉี่ยนเสวี่ยส่งเสียงวี้ดว้ายอย่างตกใจออกมา"อีตาผีทะเล นี่ใครเขา
"ฉันจะไปส่งคุณนะ"ซูเฉี่ยนเสวี่ยยังอยากที่จะลุกขึ้นไปส่งหลินเฟยแต่เธอไม่มีเรี่ยวแรงกระทั่งที่จะลุกขึ้นนั่ง และทำได้เพียงมองหลินเฟยเดินออกจากห้องไปด้วยความไม่เต็มใจเพียงเท่านั้น"พี่ซู คุณพักผ่อนเถอะ ผมกลับไปเองได้"หลินเฟยยิ้มๆ และโบกมือซูเฉี่ยนเสวี่ยพูดเบาๆ ว่า"ถ้าอย่างนั้นก็กลับดีๆ ล่ะ แล้วรีบมาหาใครเขาเร็วๆ ด้วยนะ…"เมื่อมองไปยังแววตาที่ตัดใจไม่ได้ของซูเฉี่ยนเสวี่ย หลินเฟยก็มีความสุข โดยมันเป็นความหอมหวานและความพึงพอใจที่บรรยายออกมาไม่ได้แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังเดินลงไปชั้นล่างและมุดตัวเข้าไปในรถ…………เมื่อหลินเฟยกลับไปถึงหมู่บ้านเถาฮวา มันก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้วหลังจากกวาดตามองไปรอบๆ หลินเฟยก็ไม่พบจ้าวลู่ลู่แต่อย่างใดเธอไม่ได้อยู่ที่คลินิกและในเวลานี้ บังเอิญซูเสี่ยวโหรวได้เดินผ่านมาพอดี หลินเฟยจึงดึงตัวเธอเอาไว้"พี่เสี่ยวโหรว ลู่ลู่ล่ะ?"ซูเสี่ยวโหรวได้อธิบายว่า"อ้อ กลางวันเธอไม่อยู่ หลังจากลู่ลู่ตื่นแล้วก็ได้รับสายสายหนึ่งน่ะ บอกว่าญาติของลู่ลู่กำลังจะแต่งงาน ต้องไปช่วย ตอนกลางวันเธอก็เลยไปบ้านญาติกับพ่อแม่ของเธอแล้วล่ะ""ได้ยินมาว่าค่อนข้างจะไกลอยู่นะ อย่
จู่ๆ หลินเฟยก็ได้ยินเสียงที่คลุมเครือเสียงหนึ่งดังแว่วมาจากด้านในห้อง มันเป็นเสียงที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมากเมื่อตั้งใจฟัง ดูเหมือนว่าเสียงนั้นจะดังออกมาจากห้องของซูเสี่ยวโหรวนั่นเอง"อืม...อืม..."ซึ่งเสียงนี้ราวกับมีเวทมนตร์ และสามารถดึงดูดความสนใจของหลินเฟยได้ในทันทีด้วยความอยากรู้อยากเห็น หลินเฟยจึงใช้สายตาที่มีญาณทิพย์มองไปยังห้องของซูเสี่ยวโหรวในทันทีและเขาก็ได้ว่าซูเสี่ยวโหรวกำลังนอนอยู่บนเตียง โดยห่มผ้าห่มครึ่งตัวภายใต้ผ้าห่มนั้นมีความเคลื่อนไหวบางอย่างหลินเฟยยังคงใช้ตาทิพย์ดูต่อไป และฉากนั้นก็ทำให้หลินเฟยประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อยเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ในยามค่ำคืนแบบนี้ ซูเสี่ยวโหรวกำลังนอนห่มผ้าและให้รางวัลกำลังตัวเองอยู่อย่างนี้ซูเสี่ยวโหรวบิดตัวไปมาเล็กน้อย ราวกับกลัวว่าจะรบกวนคนที่กำลังนอนหลับอยู่ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง และยังคงเรียกชื่อของหลินเฟยต่อไป"หลินเฟย...หลินเฟย...""อืม อืม... ฉันทนไม่ไหวแล้ว หลินเฟย ช่วยฉันที…""ฉัน...ทรมานเหลือเกิน..."ซูเสี่ยวโหรวยังคงร้องเรียกชื่อของหลินเฟยอย่างไม่ขาดสาย และเสียงที่ดังออกมาจากห้องนั้นก็ไพเ
หลินเฟยได้พูดกำชับไปสองสามประโยค และก็วางสายไปซึ่งก็เท่ากับว่าปล่อยให้เธอจัดการก็เพียงพอแล้วหลังมื้ออาหารเช้า พานเสี่ยวเหลียนก็ได้พูดเสนอขึ้นมาว่า"ถึงเวลาที่ต้องรดน้ำผักแล้ว เดี๋ยวเราไปรดน้ำผักกันเถอะนะ"หลินเฟยพยักหน้า"แปลงผักค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ฉันก็จะไปด้วยนะ"ถังรั่วเสวี่ยพูดสมทบขึ้นมาว่า "ฉันก็จะช่วยเหมือนกัน"หลินเฟยกังวลเล็กน้อยและพูดว่า "อาเล็กครับ แล้วตาของอา...""ไม่เป็นอะไรหรอก"ถังรั่วเสวี่ยวางมือไว้บนมือของหลินเฟย ยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดขึ้นมาบริเวณแปลงผักหลินเฟยร่างกายกำยำ และงานหาบน้ำก็ตกเป็นของเขาไปโดยปริยายหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้หาบน้ำมาหลายถังแล้วถังรั่วเสวี่ย พานเสี่ยวเหลียน พร้อมทั้งซูเสี่ยวโหรวก็มาช่วยกันอย่างขะมักเขม้นเพียงแต่ว่าผักในแปลงนั้นเจริญงอกงามเป็นอย่างดี โดยถังรั่วเสวี่ยไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่ขณะรดน้ำ เธอก็ได้สะดุดกิ่งไม้ที่ยื่นมาขวางเอาไว้ และล้มลงไปที่พื้นเสียงดังสนั่นและน้ำที่ถือเอาไว้ในมือก็สาดกระเซ็นออกมาจนหมดซึ่งมันก็ทำให้โคลนกระเซ็นติดตามมือและใบหน้าของเธอไปหมด"ว้าย…"เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ หลินเ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได