การที่นักธุรกิจระดับซูไห่เทาจะสุภาพกับหลินเฟยได้ขนาดนี้ มันก็เป็นเรื่องยากด้วยเช่นกันเกรงว่าคงไม่ใช่เพียงเพราะกู้เหวินปี้รู้วิธีการและความแข็งแกร่งของหลินเฟยเท่านั้น แต่เบื้องหลังนั้น น่ากลัวว่าคงเป็นผลมาจากคำยกยอปอปั้นเขาของซูเฉี่ยนเสวี่ยที่มีต่อพ่อของเธออย่างแน่นอนไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ซูเฉี่ยนเสวี่ยก็ถือได้ว่าเคยนอนกับหลินเฟยมาแล้วสำหรับมารยาทที่ซูไห่เทามีให้ เขาก็ต้องตอบสนองกลับไปด้วยเช่นกันใบหน้าของหลินเฟยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับพูดอย่างถ่อมตัวขึ้นมาว่า"ฮ่าฮ่า พี่ซูกับคุณกู้ก็พูดเกินไปครับ ท่านประธานซูอย่าได้ใส่ใจเลยนะครับ"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ซูไห่เทาก็ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้สึกตัวและดูเหมือนว่า เขาจะเชื่อใจคำพูดของหลินเฟยจริงๆซึ่งซูเฉี่ยนเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ ก็ลุกขึ้นมาทันที พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"ไม่ได้พูดเกินไปเลยนะ เห็นได้ชัดว่าคุณมีพลังมาก!"ซูเฉี่ยนเสวี่ยยังคงเชื่อใจหลินเฟยเป็นอย่างมาก และดวงตาของเธอก็มีความอบอุ่นเล็กน้อยเมื่อมองมาที่เขา"หลินเฟย หากเราทำกำไรได้มากในครั้งนี้ คุณวางใจได้ เราจะตอบแทนคุณงามๆ อย่างแน่นอน ไม่ให้คุณกลับบ้านไปมือเปล่าหรอกนะ"หลินเฟย
ด้วยการยืนกรานของซูไห่เทา หลินเฟยก็ไม่ได้ปฏิเสธอีกต่อไป พร้อมกับตอบตกลงในที่สุดหลินเฟยกำลังจะเข้าร่วมในการประชุมซื้อขายหินหยกหยาบนี้แทนซูไห่เทา ซึ่งมันทำให้กู้เหวินปี้ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเขากำหมัดเอาไว้แน่น พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ คุณหลินสามารถออกมารับมือได้แบบนี้ ผมยังสามารถเรียนรู้ทักษะได้อีกด้วย มันช่างเป็นโอกาสการเรียนรู้ที่หาได้ยากเสียจริงๆ"โดยซูไห่เทาก็มีความตั้งใจเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน"วางใจได้ ฉันจะให้โอกาสพวกนายแน่นอน หลังจากเริ่มการซื้อขายแล้ว เสี่ยวเสวี่ยและเหวินปี้ก็เข้าไปเป็นเพื่อนคุณหลินด้วยสิ"ซึ่งกู้เหวินปี้และซูเฉี่ยนเสวี่ยจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน ทั้งสองพยักหน้าตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกันภายใต้การนำพาของซูไห่เทาหลินเฟยก็ได้เข้าไปในสถานที่ประชุมซื้อขายหินหยกหยาบพื้นที่จัดงานมีขนาดใหญ่มากตั้งอยู่บนจัตุรัสอันกว้างใหญ่ภายในงานปูพรมแดง และจัดให้มีที่นั่งสบายๆ จำนวนมากและเหล่าบรรดาแขกเหรื่อที่มาซื้อขายหินหยกหยาบนั้นต่างก็มาจากทั่วทุกสารทิศภายในนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่คับคั่ง ดูมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมากการประชุมซื้อขายในครั้งนี้มีขนาดใหญ่มาก
คนกลุ่มนี้อยู่ในสภาพที่น่าอนาถเป็นอย่างมาก หากไม่ได้สวมเสื้อผ้าสีสันสดใส ไม่อย่างนั้นแล้ว ใครเขาคงคิดว่าพวกนั้นบาดเจ็บสาหัสและเพิ่งออกมาจากสนามรบอย่างแน่นอนโดยมีเพียงชายวัยกลางคนที่ใบหน้าเย็นชาที่หลินเฟยไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความสงบซึ่งจมูกจะงอยนกอินทรีและดวงตาที่แหลมคมนั้น ราวกับดวงตาสามเหลี่ยมที่สามารถมองทะลุทุกสิ่งได้ พร้อมกับฉายแววออกมาเป็นครั้งเป็นคราวและเขาก็กวาดสายตามาที่หลินเฟยอย่างไม่รู้ตัวโดยสายตานั้นได้แสดงความเมินเฉยออกมาอย่างเห็นได้ชัดและเขาก็คือหลี่เฉวียนเฟิงผู้ประเมินราคาหินหยกที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการเชื้อเชิญมาจากจางเฉวียนเซิ่งนั่นเองซึ่งนั่นก็คือไพ่เด็ดและที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่ของเขาไปโดยปริยายหลังจากที่หลี่เฉวียนเฟิงได้ชำเลืองไปเห็นหลินเฟยแล้วนั้น เขาก็หันกลับและไม่มองอีกต่อไป เพียงแต่ส่งเสียงเหยียดหยาม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มอย่างหลินเฟยจะเทียบความสามารถกับเขาได้ฉินฟางใส่อุปกรณ์ดามคอเอาไว้ และทำได้เพียงหันไปข้างๆ เล็กน้อยเท่านั้นแต่เธอก็สามารถจำหลินเฟยได้ในทันทีและเธอก็พูดอย่างตื่นตระหนกขึ้นมาว่า "ให้ตายเถอะ นั่นเด็ก
"มันเนี่ยนะ? ไอ้เด็กเมื่อวานซืนนั่น มีปัญหาดูหินด้วย? นี่มันจะตลกกันไปใหญ่ละ"จางซื่อเฉวียนพูดด้วยสีหน้าที่เมินเฉย"ฉันไม่สนใจหรอกนะว่า แกพาไอ้เด็กนี่มาที่นี่ทำไม ต่อให้นายจะพามันมารับใช้นาย ฉันก็จะไม่ห้าม แต่เรื่องระหว่างฉันกับมัน ถ้าวันนี้มันไม่มาคุกเข่าขอโทษฉัน เรื่องวันนี้จะไม่จบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน"จางซื่อเฉวียนก้าวร้าวเป็นอย่างมาก แต่ให้จะเป็นซูไห่เทามาห้ามเอาไว้ มันก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นหลินเฟยตะคอกอย่างเย็นชาออกมาพร้อมกับกำหมัดเอาไว้แน่น"เมื่อวานถูกกระทืบยังไม่พอใช่ไหม? เมื่อวานยังขอโทษอยู่เลย วันนี้จะมาหาเรื่องกันอีกแล้ว หรือว่าพวกแกเริ่มที่จะคันอีกแล้ว?"ดวงตาของหลินเฟยมีประกายของความอันตรายแวบเข้ามาคนพวกนี้ยังกล้ามาสร้างปัญหาที่นี่อีกเหรอ? ดูเหมือนว่าบทเรียนที่เขาสั่งสอนเมื่อวานยังไม่สาแก่ใจงั้นสิ!เมื่อต้องเผชิญกับการคุกคามของหลินเฟย มุมปากของจางซื่อเฉวียนและฉินฟางก็กระตุกขึ้นมาเล็กน้อยโดยที่ตอนนี้บาดแผลของพวกเขายังคงเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยแต่วันนี้พวกเขากลับได้เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วขณะที่ทั้งฝ่ายกำลังปะทะฝีปากกันอยู่ และดูเหมือนว่าจะลงไม้ลง
ด้วยเงื่อนไขที่ไม่เท่าเทียมกันขนาดนี้ แต่ซูเฉี่ยนเสวี่ยกลับตอบตกลงได้ สิ่งนี้ทำให้ซูไห่เทารู้สึกประหลาดใจ จึงมองไปที่หลินเฟย พร้อมกับถามขึ้นมาว่า "น้องหลิน คุณว่ายังไงล่ะ?"หลินเฟยพยักหน้า"ผมไม่มีข้อคิดเห็นอะไรหรอก เพราะถึงอย่างไรเราก็ไม่แพ้อยู่แล้ว ผมก็อยากให้กบในกะลาพวกนี้ได้เปิดตาดูเหมือนกัน"การที่สามารถเอาชนะเงินสองพันห้าร้อยล้านบาทเพิ่มเติมจากจางซื่อเฉวียนได้นั้น ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ หลินเฟยก็ต้องตอบรับเป็นธรรมดาอยู่แล้วในเมื่อทั้งสองฝ่ายมีความเห็นที่ตรงกันการเดิมพันจึงมีผลไปโดยปริยาย"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…"จางซื่อเฉวียนและฉินฟางมีความสุขมาก พร้อมกับหัวเราะเสียงดังออกมา"โอเค ซูไห่เทา ครั้งนี้นายต้องแพ้แน่ๆ เพราะนายเลือกไอ้ขยะนี้มา แม้แต่จะเลียรองเท้าของคุณหลี่ก็ยังไม่คู่ควร รอให้ฉันได้ดูแลลูกสาวสุดที่รักของนาย ฉันจะส่งวิดีโอให้ดูนะ ฮ่าฮ่าฮ่า…"จางซื่อเฉวียนทำแบบนี้อย่างเปิดเผยต่อหน้าทุกคน โดยไม่ละอายใจเลยแม้แต่น้อยเมื่อมองดูท่าทางที่สูงส่งและเย็นชา รวมถึงรูปร่างที่เพรียวบางของซูเฉี่ยนเสวี่ยแบบนั้นแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าสวยหยาดฟ้าได้เลยทีเดียว แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่
สำหรับหลี่เฉวียนเฟิง หลินเฟยก็ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยเช่นกันซูไห่เทาและกู้เหวินปี้ที่อยู่ข้างๆ ก็พูดสมทบขึ้นมาว่า"นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ด้วยความสามารถของน้องหลิน ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นหลี่เฉวียนเฟิงก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย"กู้เหวินปี้พูดด้วยรอยยิ้มว่า"แม้ว่าหลี่เฉวียนเฟิงจะมีชื่อเสียงอยู่ในแวดวง แต่กลับทำตัวเหนือชั้น เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากกว่าความสามารถ ด้วยวิธีการของคุณหลินแล้ว ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องการเดิมพันหรอก แค่ทำตามปกติก็เหลือเฟือแล้วล่ะ"เห็นได้ชัดว่าทั้งสองมีความมั่นใจในตัวของหลินเฟยมากซูเฉี่ยนเสวี่ยมองไปที่หลินเฟยและเมื่อหลินเฟยสังเกตเห็นการจ้องมองของซูเฉี่ยนเสวี่ย เขาก็ยิ้มปลอบโยนอีกฝ่ายไปด้วยเช่นกันซูเฉี่ยนเสวี่ยส่งยิ้มจางๆ โดยสนับสนุนหลินเฟยอยู่ในใจอย่างหนักแน่นเมื่อได้ยินหลินเฟยคุยโวโอ้อวดอย่างเปิดเผยเช่นนั้น จู่ๆ จางซื่อเฉวียนก็หัวเราะออกมาทันที"ฮ่าฮ่าฮ่า ถึงเวลานั้นพวกคุณจะต้องร้องไห้อย่างแน่นอน คอยดูเถอะ"……รอประมาณครึ่งชั่วโมงผู้จัดการจ้าวก็หยิบไมโครโฟนแล้วประกาศอยู่บนเวทีว่า"การประชุมซื้อขายหินหยกหยาบในครั้งนี้ ได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว"ห
"ไอ้แก่ช่างปากดีจริงๆ พอแพ้เดี๋ยวจะมาร้องไห้ทีหลัง!"หลินเฟยเลิกคิ้วแล้วตอกกลับไปแต่หลี่เฉวียนเฟิงทำเป็นเมินเฉย ราวกับคนหูหนวก โดยไม่ให้ความสำคัญต่อหลินเฟยเลยแม้แต่น้อย!"บอสจาง ตามผมมา!"หลี่เฉวียนเฟิงยึดถือในสถานะของตัวเอง ไม่แม้แต่จะสนใจที่จะมองหินหยกหยาบในโซนเกรดต่ำและกลางเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเขาได้พาจางซื่อเฉวียน ฉินฟางและคนอื่นๆ เดินไปยังโซนเกรดสูงในทันทีราคาเริ่มต้นในโซนเกรดสูงจะอยู่ที่หกร้อยห้าสิบล้าน ด้วยกำลังทางการเงินของจางซื่อเฉวียน เขาก็สามารถจ่ายได้ง่ายๆ ด้วยเช่นกันส่วนกู้เหวินปี้ที่เดินตามหลินเฟยไปก็อดไม่ได้ที่จะแนะนำขึ้นมาว่า"คุณหลินครับ แม้ว่าหลี่เฉวียนเฟิงจะไม่ใช่คนที่ดีอะไร แต่ทักษะการเลือกหินหยกของเขาเชี่ยวชาญมากเลยนะครับ และชื่อเสียงนั่นมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ปลอมด้วย ปกติแล้วการเลือกจะแม่นยำมาก แทบจะไม่พลาดเลยนะครับ""จริงๆ แล้ว มีหินหยกหยาบไม่มากนักในโซนเกรดสูง ด้วยสายตาของหลี่เฉวียนเฟิง เขาสามารถเลือกหินหยกหยาบที่มีค่าที่สุดได้อย่างรวดเร็วและบังคับซื้อมันในราคาประมูลที่สูงขึ้นได้อย่างง่ายดายเลยนะครับ""เรารีบไปเลือกหินหยกหยาบในโซนเกรดสูงก่อนจะดีไหมครับ เพื่อป
"ฮ่าฮ่าฮ่า..."จางซื่อเฉวียนเย้ยหยันการเลือกของซูไห่เทาอย่างเปิดเผยและฉินฟางก็ไม่พลาดโอกาสที่จะสามารถเยาะเย้ยหลินเฟยด้วยเช่นกันพร้อมกับพูดแดกดันขึ้นมาว่า "แกอยากตายก็พูดมาตรงๆ นี่ยังจะลากคนมาร่วมชะตากรรมด้วยอีก แกมันคนดีอะไรอย่างนี้"และคนอื่นๆ ที่กำลังเลือกหินอยู่ข้างๆ ก็สามารถมองเห็นท่าทางที่งี่เง่าของหลินเฟยได้จากนั้นก็พูดเหน็บแนมขึ้นมาได้เช่นกัน"ดูไม่เป็นก็ไม่ต้องดู เลือกหินหยกหยาบก็ต้องไปเลือกในโซนเกรดสูงเป็นธรรมดา ต่อให้จะไม่มีเงินหนาอะไร ก็จะเลือกโซนเกรดต่ำไม่ได้นะ เพราะแบบนั้นมีแต่คนจนๆ เท่านั้นแหละที่เลือกกัน""จริงด้วย ฉันว่าซูไห่เทาเลือกเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยมาแบบนี้ จะต้องย่ำแย่แน่ๆ เสียเงินไม่พอ ยังจะต้องเสียลูกสาวตามไปอีก ถุยๆ…""แต่น่าเสียดายเหลือเกินนะ ซูเฉี่ยนเสวี่ยสวยขนาดนี้ แต่กลับต้องตกไปเป็นของเล่นของคนอย่างจางซื่อเฉวียนแบบนั้นได้""ก็นั่นน่ะสิ ช่างมันเถอะ พ่อของใครเขายังไม่สงสารเลย แล้วเราจะเป็นห่วงอะไรล่ะ""ฮ่าฮ่าฮ่า..."ผู้คนที่ผ่านไปมาไม่เพียงแต่ล้อเลียนหลินเฟย แต่ยังล้อเลียนซูไห่เทาอีกต่างหากสำหรับการเยาะเย้ยของคนที่เดินผ่านไปมาและจางซื่อเ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได