เธอจึงเอื้อมมือออกไปดึงเสื้อของหลินเฟยเอาไว้ เพื่อหยุดไม่ให้หลินเฟยทุบตีจางซื่อเฉวียนอีกและเธอก็ใช้เล็บมือที่แหลมคมนั้นข่วนหลินเฟยราวกับผู้หญิงที่คลุ้มคลั่ง"ไอ้สัตว์เอ๊ย นี่แกกล้าทุบตีผู้ชายของฉันงั้นเหรอ?""ฉันจะทำให้แกตาย แกกับนังสารเลวพานเสี่ยวเหลียนก็ต้องตายไปพร้อมกัน พวกแกมันขยะของหมู่บ้าน ควรที่จะตายอยู่ในสถานที่อัปรีย์แบบนี้แหละ บอสจางใจดีให้โอกาสกับแก แต่พวกแกกลับไม่รักษามันเอาไว้ ไม่เจียมตัวเลยจริงๆ"ถึงเวลานี้แล้ว ฉินฟางก็ยังแสดงความรู้สึกที่เรียกว่าเหนือกว่าของเธออยู่สำหรับผู้หญิงที่ใจคอเหี้ยมโหดเหมือนอสรพิษแบบนี้ หลินเฟยจะไม่เกรงใจอย่างแน่นอนโดยเขาไม่สนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นญาติของพานเสี่ยวเหลียนหรือไม่เพราะญาติที่คอยผลักพานเสี่ยวเหลียนให้ลงไปในเพลิงไฟนั้น ไม่มีก็คงจะดีเสียกว่าและการโจมตีของฉินฟางแบบนั้น สำหรับหลินเฟยนั้นมันนับไม่ได้เลยแม้แต่อาการคันจู่ๆ หลินเฟยก็ยื่นมือใหญ่ของเขาออกมา พร้อมกับบีบไปที่ลำคอของฉินฟางทันทีและเมื่อถูกหลินเฟยบีบอยู่อย่างนั้น ฉินฟางก็ราวกับปลาที่ตายไปแล้วอย่างไงอย่างงั้นเธอกลอกตาขาวขึ้นบน ขาทั้งสองข้างสั่นระริก พยายามดิ้นรน ราว
ภายใต้การแก้แค้นที่บ้าคลั่งของหลินเฟย ในที่สุด ทั้งสองคนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปโดยที่จางซื่อเฉวียนแทบจะไม่เหลือฟันอยู่แล้วส่วนฉินฟางก็ร้องขอความเมตตาอย่างคลุ้มคลั่ง"ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ อย่าตีฉันอีกเลย ฉันแทบจะถูกนายตีตายอยู่แล้วนะ"และความเจ็บปวดที่รุนแรงทั่วตัวนี้ มันทำให้ฉินฟางแทบจะหมดสติไปเสียให้ได้"งั้นแกก็คุกเข่าลงและขอโทษซะ"ภายใต้สถานการณ์ที่เหลือไม่ได้ จางซื่อเฉวียนและฉินฟางก็ยอมรับเงื่อนไขด้วยความอับอายอย่างเสียไม่ได้จากนั้นก็คุกเข่าลง พร้อมกับพูดขอโทษพานเสี่ยวเหลียน"ขอโทษ มันเป็นความผิดของพวกเราเอง เราไม่ควรที่จะลงมือกับเธอเลย""ยกโทษให้เราด้วยนะ"พานเสี่ยวเหลียนขมวดคิ้ว แล้วมองดูฉากนองเลือดที่อยู่ตรงหน้าอย่างไรก็ตาม ความอับอายขายหน้าในครั้งนี้ของเธอถือว่าผ่านไปแล้วพานเสี่ยวเหลียนโบกมือพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"พอแล้วล่ะหลินเฟย ในเมื่อพวกเขาขอโทษแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าแล้วต่อกันเถอะนะ""ถ้าถึงแก่ชีวิตก็คงจะยุ่งยากนะ"หลินเฟยพยักหน้าจากนั้นเขาก็ฉีกเสื้อบนตัวของฉินฟางออกมา ทำให้เธอตกใจกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น"ว้าย…"ยังคงเสแสร้งทำเป็นว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง"อย่าท
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนอย่างจางซื่อเฉวียน หลินเฟยก็สามารถมีความมุ่งมั่นและแน่วแน่ด้วยความโกรธเกรี้ยว ซึ่งมันก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าเธอสำคัญต่อหลินเฟยมากแค่ไหนพานเสี่ยวเหลียนจับมือของหลินเฟยอย่างไม่ความสุข และเบาให้เขาเบาๆ"เมื่อกี้ต่อสู้นานขนาดนั้น มือเจ็บหรือเปล่า?"หลินเฟยพยักหน้า"ใช่ แน่นอนว่าเจ็บนะ ไอ้หมอนั่นหน้าหนาเกินไป ใช้พลังในการชกมากเลย"เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฟย จางซื่อเฉวียนที่นอนอยู่บนพื้นพร้อมกับกุมใบหน้าอย่างเจ็บปวดก็กระตุกมุมปากขึ้นมาเล็กน้อยซึ่งมันปะปนไปด้วยความปวดร้าวในหัวใจเห็นได้ชัดว่าคนที่ถูกชกเป็นเขาต่างหาก...กลุ่มบอสเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ซึ่งพวกเขาจะยอมแพ้ง่ายๆ ได้อย่างไรกันบอสซุนจับทิชชูปิดแผลของตัวเองอยู่ข้างๆ เจ็บปวดจนส่งเสียงครวญครางออกมา"บอสจาง พวกเราไม่เคยเป็นฝ่ายเสียเปรียบขนาดนี้มาก่อน แต่วันนี้กลับถูกไอ้เด็กเมื่อวานซืนคนหนึ่งขึ้นมาข่มถึงหัวแล้ว ความคับแค้นใจนี้ พวกเราคงจะไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ แบบนี้ใช่ไหม"โดยที่บอสคนอื่นๆ ก็พูดสมทบขึ้นมาว่า"ใช่ ใช่ บอสจาง ครั้งนี้พวกเราถูกทุบตีจนสะบักสะบอมขนาดนี้ การบาดเจ็บของบอสจางก็ยิ่งรุนแรง ค
"ทำไมล่ะพี่ลู่ลู่ คุณไม่สบายหรือเปล่า?"หลินเฟยมองไปยังจ้าวลู่ลู่ที่ดูแปลกๆ ด้วยความสงสัยเล็กน้อยใบหน้าของจ้าวลู่ลู่แดงระเรื่อ ดวงตาที่แสนมีเสน่ห์คู่นั้นฉายประกายความเสน่หาออกมา ราวกับสายน้ำที่ไหลริน เผยให้เห็นความยั่วยวนที่ยากจะพรรณนาออกมาได้"ให้ผมลองตรวจดูมั้ย"ในตอนแรกหลินเฟยยังคงไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นเพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาเพิ่งจะต่อสู้เสร็จ และอารมณ์ยังไม่สงบสักเท่าไหร่โดยสาวๆ คนอื่นไม่ได้สังเกตเห็นว่าจ้าวลู่ลู่และหลินเฟยไม่ได้ออกมาหรือบางทีพวกเธออาจจะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว และก็ไม่พอใจอยู่อีกด้วยใบหน้าของจ้าวลู่ลู่ร้อนผ่าว เธอดึงมือทั้งสองข้างของหลินเฟยมาทาบไว้ที่หน้าอกของตัวเองและสัมผัสที่นุ่มนวลและเรียบเนียนก็ส่งผ่านมือของเขาตอนนี้อากาศค่อนข้างจะร้อน และเสื้อยืดที่จ้าวลู่ลู่สวมใส่มันก็บางเบาระบายอากาศเป็นอย่างมากหลินเฟยวางมือทั้งสองข้างไว้บนนั้น จู่ๆ กลิ่นหอมจางๆ ก็โชยมาและมันน่าทึ่งเป็นอย่างมาก"เอ่อ...ฉันรู้สึกไม่สบายจริงๆ นั่นแหละ แต่มันเป็นตรงนี้ต่างหาก..."ขาเรียวยาวสีขาวราวกับหยกของจ้าวลู่ลู่บิดเข้าหากันอย่างไม่สบายตัวจากนั้นเธอก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย กระตุ
บรรยากาศในรถตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นฉุนของฮอร์โมนปลุกระดมความทรงจำที่ดั้งเดิมที่สุดขึ้นมาเสียงพึมพำและเสียงครวญครางเบาๆ ของจ้าวลู่ลู่ดังสะท้อนไปมาปะปนกับความสุขในขณะนี้ จู่ๆ หลินเฟยก็หยุดชะงักลงจ้าวลู่ลู่ดูงุนงงอยู่เล็กน้อยเมื่อเรื่องราวได้ดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว มันควรที่จะถึงจุดสำคัญถึงจะถูกนี่นามังกรของหลินเฟยตั้งตรงและพร้อมที่จะต่อสู้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ราวกับสัตว์ร้ายดึกดำบรรพ์ที่พร้อมจะกลืนกินทุกสิ่งไปและมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะดับลงกลางทางแบบนี้จ้าวลู่ลู่หรี่ตาที่พร่าเบลอของตัวเอง พร้อมกับบิดตัวอย่างไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก"หลินเฟย ตาบ้า นี่ต้องการที่จะรังแกใครเขาอีกแล้วงั้นเหรอ? มาถึงขนาดนี้แล้ว คุณรังเกียจ…"หลินเฟยนึกบางอย่างขึ้นมาได้ พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "ไม่ต้องร้อนใจไปนะ เรามาเล่นอะไรพิเศษๆ กันเถอะ"จากนั้นเขาก็ยกกางเกงขึ้นและวิ่งเข้าไปในคลินิก จากนั้นก็วิ่งกลับมาอย่างร้อนใจด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น!"มา ใส่มันซะ"ที่แท้มันก็คือชุดเซ็กซี่และน่ารักที่เขาเคยซื้อมาก่อนหน้านี้นั่นเอง!"หลินเฟยตาบ้า คุณจะลูกเล่นเยอะไปแล้วนะ"จ้าวลู่ลู่คิดไม่ถ
"อืม…"และหากฉนวนกันเสียงของรถคนนี้ไม่ค่อยจะดีนัก น่ากลัวว่าด้วยเสียงกรีดร้องที่ดังสนั่นของจ้าวลู่ลู่ คงจะทำให้ใครต่อใครคิดว่าเกิดอะไรขึ้นเป็นแน่ความถี่ของรถยนต์ยังคงสั่นอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็เร็วบางครั้งก็ช้าหลังจากผ่านไปสักพัก จ้าวลู่ลู่ก็ไม่อาจต้านทานการจู่โจมของหลินเฟยได้อีกต่อไปเนื้อตัวของเธออ่อนปวกเปียกไปหมด พร้อมกับทรุดตัวลงบนเบาะนั่งราวกับโคลนเละๆภายในรถยนต์ก็ระเกะระกะไปหมดร่างกายของจ้าวลู่ลู่ยังคงสั่นเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว พร้อมกับหรี่ตาลงมาหลังจากสูญเสียพลังกายและความแข็งแกร่งไปมาก จ้าวลู่ลู่ก็ไม่สามารถทนไหวอีกต่อไปและเธอก็ค่อยๆ ผล็อยหลับลงไปหลินเฟยคว้าตัวจ้าวลู่ลู่ที่แทบจะหมดสติไปเอาไว้"ผมใช้พลังไปไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์เองนะ คุณก็จะล้มลงไปแล้วงั้นเหรอ?"หลินเฟยนึกถึงความรู้สึกอิ่มเอมในเมื่อครู่นี้ ซึ่งมันทำให้หมกมุ่นเอาเสียมากๆในครั้งนี้ จ้าวลู่ลู่ร่วมมือและว่าง่ายอย่างแปลกๆ คงเป็นเพราะเด็กสาวคนนี้อดกลั้นความคิดนี้มาตลอดทางอย่างแน่นอนเพียงแต่ว่า หลินเฟยยังคงไม่ถึงขั้นจุดสุดยอดก็เท่านั้นเองเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้จ้าวลู่ลู่ และปล่อยให้เธอพักผ่อนให้เต็มที
พานเสี่ยวเหลียนคร่ำครวญออกมาว่า"เบาๆ หน่อย ไม่ใช่ผู้หญิงของตัวเอง คุณจะไม่ทะนุถนอมหรอกใช่ไหม? คนลามก"แม้ว่าพานเสี่ยวเหลียนจะต่อว่าหลินเฟยอยู่ แต่ตัวของเธอก็กลับโน้มเข้าไปที่หน้าอกของหลินเฟยพร้อมกับพิงอยู่อย่างจงใจความคาดหวังเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าของเธอ แม้ว่าพานเสี่ยวเหลียนจะไม่ได้พูดอะไร แต่ทุกอย่างก็ได้บ่งบอกอย่างชัดเจนในตัวแล้วหลังจากที่หลินเฟยทำเรื่องแบบนั้นกับจ้าวลู่ลู่แล้ว เดิมทีเขายังไม่อิ่ม เมื่อเห็นพานเสี่ยวเหลียนเข้ามาได้ทันเวลา ไหนเลยเขาจะเกรงอกเกรงใจและเขาก็ควักชุดต่อสู้ขึ้นมาทันที"การต่อสู้เมื่อครู่ยังไม่จบ งั้นเรามาต่อกันเลยไหม?"หลินเฟยได้คว้าชุดต่อสู้ที่จ้าวลู่ลู่ไม่ได้สวมมาไว้ด้วยความบังเอิญและมันก็สามารถใช้ได้ทันเวลาพานเสี่ยวเหลียนพูดอย่างเคอะเขินขึ้นมาเล็กน้อย"ต้องใส่ตัวนี้งั้นเหรอ? งั้นเรากลับไปในห้องเถอะ ฉันจะใส่ให้คุณดู..."ใบหน้าของพานเสี่ยวเหลียนแดงก่ำแทบจะหยดเป็นเลือดได้เมื่อสวมชุดต่อสู้แล้วนั้น พานเสี่ยวเหลียนรู้ดีว่ามันจะทำให้หลินเฟยตื่นเต้นขึ้นมามากแบบนั้นแล้ว...แทบจะขึ้นสวรรค์ได้เลยไม่ใช่เหรอหลินเฟยส่ายหน้า"ผมว่าที่นี่ก็ไม่เลวเลย งั
"แหะๆ อาเล็กไม่เป็นไรหรอก ไม่มีใครเขาเข้ามาหรอก คุณวางใจได้เลยนะ!"เมื่อเห็นถังรั่วเสวี่ยเดินเข้ามา หลินเฟยก็เผยรอยยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์ออกมา"พอดีเลยครับ พี่สะใภ้ดูเหมือนจะไม่ไหวแล้ว อาเล็ก เดี๋ยวต้องรบกวนคุณด้วยนะครับ!"ถังรั่วเสวี่ยรู้ดีว่า สิ่งที่หลินเฟยเรียกว่าการรบกวนนั้นมันคืออะไรจากนั้นเธอก็ถ่มน้ำลายด้วยความเขินอายขึ้นมาทันที"ถุย ฝันไปเถอะ"แม้ว่าเธอจะพูดแบบนี้ แต่ผู้หญิงสองคนนั้นกลับถูกหลินเฟยพาเข้าไปในคลินิกอย่างนุ่มนวลในที่สุดจากนั้นก็ปิดประตูเอาไว้อย่างแน่นหนาหลินเฟยปิดกั้นพานเสี่ยวเหลียนและถังรั่วเสวี่ยเอาไว้ด้านในและถังรั่วเสวี่ยก็ไม่รู้สึกละอายอีกต่อไป ตั้งแต่ได้ต่อสู้พร้อมกับพานเสี่ยวเหลียนและหลินเฟยในครั้งก่อนมาแล้วในทางตรงกันข้าม เธอก็กลับรู้สึกเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก"แหะๆ ไม่ว่าจะยังไงวันนี้พวกคุณสองคนก็ออกไปไม่ได้อยู่แล้ว"หลินเฟยนำชุดชั้นในเซ็กซี่ออกมาอย่างรวดเร็ว"อาเล็ก คุณก็เปลี่ยนด้วยสิ"ถังรั่วเสวี่ยฮึมฮัมออกมา ดูเหมือนจะไม่เต็มใจแต่ก็กลับยอมจำนนในชะตากรรม ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอของเพื่อนสนิทของเธอ เธอกับหลินเฟยก็คงไม่มีอะไรเกี่ยว
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได