"นังสารเลว..."พานเสี่ยวเหลียนกุมศีรษะที่งุนงงของตัวเอง ร้องไห้ฟูมฟายกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวเมื่อมองเห็นพานเสี่ยวเหลียนร้องไห้น้ำตานองหน้า โดยยังมีร่องรอยห้านิ้วอยู่บนใบหน้าอย่างชัดเจนอีกต่างหากเขาจึงรีบถามขึ้นมาว่า"พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน เกิดอะไรขึ้น? ใครตีคุณ?"โดยที่ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เหลือก็ตามมาด้วยเช่นกันหลังจากใช้ก้อนน้ำแข็งประคบบรรเทาอาการเจ็บปวดแล้วนั้นพานเสี่ยวเหลียนก็ร้องไห้กระซิกๆ พร้อมกับพูดตะกุกตะกักด้วยความคับข้องใจขึ้นมาปัง…หลินเฟยโกรธจัด และชกผนังที่อยู่ใกล้ๆและรอยแตกนั้นก็ได้แผ่กระจายออกไปตามผนังเรียบๆ"แม่งเอ๊ย นี่กล้าลงไม้ลงมือกันเลยเหรอ?""ไป พวกเขาอยู่ที่ไหน? ผมจะไปคิดบัญชีกับพวกเขาเอง!"พานเสี่ยวเหลียนดึงหลินเฟยเอาไว้"หลินเฟย ช่างมันเถอะ พวกนั้นน่าจะมาไม่น้อยเลย หากเข้าไปจะเสียเปรียบเอาได้นะ""อีกอย่าง มันก็แค่ตบฉาดเดียวเอง อย่าเอาน้ำมันไปราดบนไฟเลยนะ"แต่สายตาของหลินเฟยกลับเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ"จะช่างมันเถอะไม่ได้เด็ดขาด ในเมื่อพวกเขากล้าลงมือกับคุณแล้ว พวกมันจะต้องชดใช้อย่างสาสมแน่นอน"น้ำเสียงของหลินเฟยเย็นยะเยือกอย่าหาที่เปรียบไม
เมื่อครู่นี้ที่จางซื่อเฉวียนออกหน้ารับแทนฉินฟางนั้น เขาไม่ได้มองรูปลักษณ์ของพานเสี่ยวเหลียนอย่างละเอียดแม้ว่าใบหน้าของพานเสี่ยวเหลียนจะบวมอยู่เล็กน้อย แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่สามารถหยุดยั้งความมีเสน่ห์ของผู้หญิงในตัวของพานเสี่ยวเหลียนได้แต่อย่างใดหุบเหวลึกบนเนินอกสูงตรงหน้า ราวกับผลลูกพีชที่กำลังสุกได้ที่ กระทั่งจางซื่อเฉวียนยังรู้สึกได้ว่า ลูกพีชที่สุกใสของพานเสี่ยวเหลียนนั้นยังมีน้ำค้างรสหวานอยู่อีกด้วยและเมื่อเปรียบเทียบกับความอ่อนเยาว์ของเด็กสาวผมสีทองพวกนั้นแล้ว ผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่อย่างพานเสี่ยวเหลียนสามารถรวบรวมแรงดึงดูดของเพศหญิงที่หนักหน่วงได้มากกว่าแม้ว่าพานเสี่ยวเหลียนจะไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยและเซ็กซี่เหมือนเช่นฉินฟาง แต่เรื่องเล็กๆ แบบนี้มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ใจแต่อย่างใดเพราะยังไงเสีย สำหรับผู้หญิงแล้ว ถอดเปลือยออกหมดมันก็เหมือนๆ กันสิ่งสำคัญคือร่างกายเป็นหลัก ส่วนด้านอื่นๆ นั้นสามารถเรียนรู้ได้ในภายหลังดวงตาเจ้าเล่ห์ของจางซื่อเฉวียนได้ฉายแววแห่งความชั่วร้ายออกมา สแกนไปบนร่างกายของพานเสี่ยวเหลียนอย่างไม่หยุดหย่อน ราวกับว่าต้องการจะกลืนกินพานเสี่ยวเ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงชั้นยอดอย่างพานเสี่ยวเหลียน คาดไม่ถึงว่าเธอจะสามารถรักษาพรหมจรรย์ในโลกที่วุ่นวายในปัจจุบันได้จางซื่อเฉวียนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น"ได้ได้ได้ มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ""ผู้หญิงคนนี้ ฉันต้องการแล้ว"ไม่ว่าจะเป็นจางซื่อเฉวียนหรือผู้ชายคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นในด้านของความมีเสน่ห์ รูปร่างและหน้าตา พานเสี่ยวเหลียนก็ดีกว่าฉินฟางเป็นอย่างมากแม้ว่าฉินฟางจะมีความเป็นอยู่ที่ดี เข้าใจการเอาอกเอาใจผู้ชายเป็นอย่างดี แต่ด้านของความสวยนั้น เธอก็ยังมีจุดบกพร่องอยู่จริงๆหากเพื่อความสนุกสนาน ฉินฟางสามารถใช้ได้ แต่หากจะพูดถึงการกระตุ้นความปรารถนาของผู้ชาย พานเสี่ยวเหลียนต่างหากที่เป็นตัวเลือกแรกๆและเมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของจางซื่อเฉวียน ฉินฟางที่อยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักความหึงหวงที่อยู่ในใจ ทำให้ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นตอนไหน พานเสี่ยวเหลียนแม่ม่ายหน้าด้านหน้าทนนี้ก็ยังอยู่เหนือกว่าเธออยู่ดีฉินฟางไม่เคยชนะเธอในเรื่องนี้ มันจึงทำให้ฉินฟางยิ่งโกรธพานเสี่ยวเหลียนอย่างที่สุดแต่หากพูดจริงๆ แล้ว จางซื่อเฉวียนก็ไม่ใช่คนดีอะไรเมื่อถูกจางซื่อ
แต่ทว่าคำพูดของหลินเฟยกลับทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงวีไอพีถึงกับชะงักไปเลยทีเดียวจากนั้นเสียงหัวเราะก็ได้ระเบิดออกมาในทันที"ฮ่าฮ่าฮ่า..."คนกลุ่มนั้นหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งบอสเฉียนจับโต๊ะน้ำชาที่อยู่ข้างๆ เอาไว้ หัวเราะแทบจะหายใจไม่ทัน"ฮ่าฮ่า...ฮ่าฮ่า...ฉันไม่ไหวแล้ว ไอ้เด็กนี้มันประสาทหรือเปล่า นี่กล้าข่มขู่พวกเรางั้นเหรอ?""ฮ่าฮ่าฮ่า...แกไม่ชะโงกมองเงาตัวเองบ้างหรือไง ยังกล้ามาข่มขู่พวกเราอีก?""ฉันไปได้ยินอะไรมาเนี่ย? มันเป็นเรื่องตลกระดับโลกเลยนะ ไอ้โง่นี่ทำให้ฉันจะหัวเราะตายอยู่แล้ว?"ดูเหมือนว่าในสายตาของพวกเขา การข่มขู่ของหลินเฟยจะไม่มีผลแต่อย่างใด และกลายเป็นเรื่องที่ตลกที่สุดไปเสียนี่ชายร่างสูงผม ดวงตาลึก สีหน้าซีดเซียว ราวกับคนที่ติดสุรานารีมานานก็ได้หัวเราะหลินเฟย พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"ไอ้เด็กบ้า แกนี่ช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริงๆ!""คนที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นใคร แกไม่รู้อย่างนั้นใช่ไหม ฉันขอเตือนแกด้วยความหวังดีนะ คนหนุ่มเลือดมันร้อน มุทะลุไปบ้างก็เข้าใจ แต่ในโลกนี้ มีคนบางคนที่แกไม่สามารถรุกรานได้""ไม่อย่างนั้น ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่สิ่งที่แกรับผิดชอบได้
พานเสี่ยวเหลียนขมวดคิ้ว และดึงเสื้อของหลินเฟย"หลินเฟย ช่างไม่เถอะ แค่ตบหนึ่งฉาดเอง ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องให้มันบานปลายแบบนี้ ตอนนี้ฉันไม่เจ็บแล้วล่ะ พวกเราไปกันดีกว่า"พานเสี่ยวเหลียนพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้หลินเฟยออกไปแต่อย่างไรก็ตาม เมื่อหลินเฟยต้องเผชิญหน้ากับการเยาะเย้ยของพวกจางซื่อเฉวียน และคำพูดเกลี้ยกล่อมของเจ้าของร้าน เขากลับไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อยเขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าที่มืดมน โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้เลยว่า ก่อนที่พายุจะโหมกระหน่ำ มันจะเงียบสงบเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าตัวเองไม่สามารถพูดเกลี้ยกล่อมหลินเฟยได้ พานเสี่ยวเหลียนก็รู้สึกหมดหนทางเอาเสียมากๆและเมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของหลินเฟยและพานเสี่ยวเหลียน ฉินฟางก็อดไม่ได้ที่จะยิ่งผยองและวางอำนาจมากกว่าเดิมจึงโพล่งเสียงหัวเราะที่แสบแก้วหูออกมาทันที"ฮ่าฮ่าฮ่า...พานเสี่ยวเหลียน ในเมื่อออกมาเร่ขายแล้ว ก็ต้องขายได้ราคาดีถึงจะถูกนะ ยิ่งไปกว่านั้นบอสจางยังดีต่อผู้หญิงมาก ไม่เพียงแต่สามารถชื่นชมการเป็นผู้หญิงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถมีทุกอย่างให้เธอได้อีกต่างหาก อยากได้อะไรก็ได้ทั้งนั้น"
"เหอะๆ คุณก็ช่วยเขาเหมือนกันใช่ไหม?"หลินเฟยเงยหน้าขึ้น และมองเจ้าของร้านที่อยู่ข้างๆ อย่างเย็นชาโดยที่แววตานั้นเต็มไปด้วยความอาฆาตและความเกลียดชังอย่างท่วมท้น ราวกับถูกสัตว์ร้ายจับจ้องอย่างไงอย่างงั้น"อ๊ะ!"แม้ว่าเจ้าของร้านจะพบเจอโลกภายนอกมาไม่น้อยตั้งแต่ยังสาว แต่การถูกจับจ้องจากหลินเฟยนั้น มันก็ทำให้เธอขนพองสยองเกล้าขึ้นมาได้เลยทีเดียวร่างกายของเธอสั่นโคลงเคลง ถอยหลังไปสองสามก้าว จู่ๆ ขาก็อ่อนแรง และทรุดตัวลงไปบนพื้นในทันทีต่อให้ขาคู่นั้นของเธอจะกางออกและเปลือยเปล่า เธอก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใดเพื่อเอาผลงาน บอสเฉียนก็ได้คว้าขวดไวน์แล้วพุ่งจู่โจมเข้าไปหาหลินเฟยอย่างว่องไวด้วยเช่นกัน"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน กล้ารุกรานคนที่ไม่ควรไปรุกราน ชาติหน้าระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน"เพล้ง…มีเสียงขวดไวน์แตกละเอียดระเบิดขึ้นมาแต่คนที่ล้มลงไปบนพื้นกลับไม่ใช่หลินเฟยแต่บอสเฉียนเสียต่างหากหยดเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกสารทิศ พร้อมกับเศษแก้วที่ปลิวกระจายไปทั่วราวกับกลีบกุหลาบบอบบางที่บานสะพรั่งอยู่ในอากาศบอสเฉียนล้มลงกับพื้น เลือดสดๆ ไหลเจิ่งนองทั้งใบหน้าและเนื้อตัวของเขาต่างก็เต็มไปด้วย
เธอจึงเอื้อมมือออกไปดึงเสื้อของหลินเฟยเอาไว้ เพื่อหยุดไม่ให้หลินเฟยทุบตีจางซื่อเฉวียนอีกและเธอก็ใช้เล็บมือที่แหลมคมนั้นข่วนหลินเฟยราวกับผู้หญิงที่คลุ้มคลั่ง"ไอ้สัตว์เอ๊ย นี่แกกล้าทุบตีผู้ชายของฉันงั้นเหรอ?""ฉันจะทำให้แกตาย แกกับนังสารเลวพานเสี่ยวเหลียนก็ต้องตายไปพร้อมกัน พวกแกมันขยะของหมู่บ้าน ควรที่จะตายอยู่ในสถานที่อัปรีย์แบบนี้แหละ บอสจางใจดีให้โอกาสกับแก แต่พวกแกกลับไม่รักษามันเอาไว้ ไม่เจียมตัวเลยจริงๆ"ถึงเวลานี้แล้ว ฉินฟางก็ยังแสดงความรู้สึกที่เรียกว่าเหนือกว่าของเธออยู่สำหรับผู้หญิงที่ใจคอเหี้ยมโหดเหมือนอสรพิษแบบนี้ หลินเฟยจะไม่เกรงใจอย่างแน่นอนโดยเขาไม่สนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นญาติของพานเสี่ยวเหลียนหรือไม่เพราะญาติที่คอยผลักพานเสี่ยวเหลียนให้ลงไปในเพลิงไฟนั้น ไม่มีก็คงจะดีเสียกว่าและการโจมตีของฉินฟางแบบนั้น สำหรับหลินเฟยนั้นมันนับไม่ได้เลยแม้แต่อาการคันจู่ๆ หลินเฟยก็ยื่นมือใหญ่ของเขาออกมา พร้อมกับบีบไปที่ลำคอของฉินฟางทันทีและเมื่อถูกหลินเฟยบีบอยู่อย่างนั้น ฉินฟางก็ราวกับปลาที่ตายไปแล้วอย่างไงอย่างงั้นเธอกลอกตาขาวขึ้นบน ขาทั้งสองข้างสั่นระริก พยายามดิ้นรน ราว
ภายใต้การแก้แค้นที่บ้าคลั่งของหลินเฟย ในที่สุด ทั้งสองคนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปโดยที่จางซื่อเฉวียนแทบจะไม่เหลือฟันอยู่แล้วส่วนฉินฟางก็ร้องขอความเมตตาอย่างคลุ้มคลั่ง"ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ อย่าตีฉันอีกเลย ฉันแทบจะถูกนายตีตายอยู่แล้วนะ"และความเจ็บปวดที่รุนแรงทั่วตัวนี้ มันทำให้ฉินฟางแทบจะหมดสติไปเสียให้ได้"งั้นแกก็คุกเข่าลงและขอโทษซะ"ภายใต้สถานการณ์ที่เหลือไม่ได้ จางซื่อเฉวียนและฉินฟางก็ยอมรับเงื่อนไขด้วยความอับอายอย่างเสียไม่ได้จากนั้นก็คุกเข่าลง พร้อมกับพูดขอโทษพานเสี่ยวเหลียน"ขอโทษ มันเป็นความผิดของพวกเราเอง เราไม่ควรที่จะลงมือกับเธอเลย""ยกโทษให้เราด้วยนะ"พานเสี่ยวเหลียนขมวดคิ้ว แล้วมองดูฉากนองเลือดที่อยู่ตรงหน้าอย่างไรก็ตาม ความอับอายขายหน้าในครั้งนี้ของเธอถือว่าผ่านไปแล้วพานเสี่ยวเหลียนโบกมือพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"พอแล้วล่ะหลินเฟย ในเมื่อพวกเขาขอโทษแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าแล้วต่อกันเถอะนะ""ถ้าถึงแก่ชีวิตก็คงจะยุ่งยากนะ"หลินเฟยพยักหน้าจากนั้นเขาก็ฉีกเสื้อบนตัวของฉินฟางออกมา ทำให้เธอตกใจกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น"ว้าย…"ยังคงเสแสร้งทำเป็นว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง"อย่าท
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได