"หลินเฟย คุณโทรหาใครเหรอ?"หูของจ้าวลู่ลู่นั้นดีมาก เมื่อได้ยินเสียปลายสายเป็นผู้หญิง เธอก็รีบขมวดคิ้วและถามหลินเฟยขึ้นมาทันที"คุณวางใจเถอะนะ ผมไม่สนิทกับใครเขาหรอก แค่ขอความช่วยเหลือเท่านั้นเอง!"หลินเฟยฟังออกว่าเด็กสาวมีความสงสัยและหึงหวงในน้ำเสียงนั้น และรีบที่จะพูดรับประกันออกไปทันที"จริงเหรอ?" เห็นได้ชัดว่าจ้าวลู่ลู่ไม่เชื่อในสายตาของเธอ ตอนนี้หลินเฟยโดดเด่นเอาเสียมากๆ เธอกลัวว่าจะมีผู้หญิงคนไหนโผล่ขึ้นมาและแย่งเขาไปได้!"เจ้านายครับ เงินของท่านมาถึงแล้วครับ!"ในเวลานี้ นักพนันก็ทยอยแยกตัวออกไป เมื่อคนของจงเหล่าซานถอนเงินออกมาแล้วผู้คนจำนวนนับสิบได้ทยอยพากันเข้ามา แบ่งออกเป็นกลุ่มละสองคน โดยต่างก็แบกกล่องหนังขนาดใหญ่เดินเข้ามา"วางมันลงเถอะ""กล่องหนังแต่ละใบบรรจุเงินจำนวนห้าสิบล้าน รวมทั้งหมดแล้วห้าร้อยล้านบาท""นี่เป็นเงินที่ฉันจงเหล่าซานได้สะสมมาทั้งชีวิต""วันนี้ฉันได้นำมันออกมาหมดแล้ว เรามาเล่นสนุกกันสักหน่อยดีกว่านะน้องชาย!"จงเหล่าซานพูดขัดจังหวะการสนทนาระหว่างจ้าวลู่ลู่และหลินเฟย ดวงตาหรี่ลง มองมาที่หลินเฟยอย่างเฉียบคม พร้อมกับพูดขึ้นมา"ห้าร้อยล้าน นี่บอ
"นายแน่ใจนะ?" จงเหล่าซานยังคงระมัดระวังคนแปลกหน้าอยู่"เจ้านายครับ คนคนนี้เป็นพี่สาวของซูไห่เทา ผมรู้ภูมิหลังของเธอดี เธอไม่เคยเล่นการพนันมาก่อนเลยครับ"จ้าวหู่พูดไปตามความจริง"ก็ได้ งั้นให้เธอมาแจกไพ่ก็แล้วกัน"จงเหล่าซานพยักหน้าเห็นด้วยกับหลินเฟยทันที"หลินเฟย... ฉันแจกไพ่ไม่เป็นนะ คุณให้ฉันมาแจกไพ่แบบนี้ หากคุณแพ้ขึ้นมาจะทำยังไง?"เมื่อได้ยินคำยืนยันว่าเธอจะต้องเป็นคนที่แจกไพ่ ซูเสี่ยวโหรวก็น้ำตาไหลพรากด้วยความร้อนใจ และพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียดเอาเสียมากๆเพราะนี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ถึงสองร้อยห้าสิบล้านเลยนะ!หากหลินเฟยต้องมาแพ้เพราะเธอ ต่อให้เธอจะมอบร่างกายเป็นการชดใช้ มันก็ไม่เพียงพอเลยแม้แต่น้อย!"ไม่เป็นไรหรอก แพ้ก็คือแพ้ ยังไงเสียเงินนี้ก็ได้มาแบบเปล่าๆ อยู่แล้ว"หลินเฟยพูดอย่างเฉยเมยมาก"หลินเฟย ฉัน...ฉันทำไม่ได้ งั้นให้จ้าวลู่ลู่แจกไพ่จะดีกว่าไหม?"ซูเสี่ยวโหรวยังคงต่อต้านอยู่เช่นเคย"ฉันก็ทำไม่ได้เหมือนกัน ฉันทำไม่ได้..."จ้าวลู่ลู่ลังเล และก็ไม่กล้าที่จะมาแจกไพ่ด้วยเช่นกัน"เธอทำไม่ได้หรอกนะ คุณมาแจกไพ่เถอะ!"จ้าวหู่รู้ว่าจ้าวลู่ลู่เป็นแฟนของหลินเฟย
"ไม่เป็นไรหรอกพี่ซู ผ่อนคลายนะ!"ในขณะที่ซูเสี่ยวโหรวกำลังตกตะลึงอยู่นั้น หลินเฟยก็เข้ามาตบไหล่ของเธอเพื่อเป็นการปลอบใจอีกครั้ง พร้อมกับพูดขึ้นมา"อืม ฉะ...ฉันจะ!"จู่ๆ ซูเสี่ยวโหรวก็มีความกล้าหาญเกิดขึ้นมาทันที!หลินเฟยกำลังสับไพ่ผ่านมือของเธอ!แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจหลักการ แต่ในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสอบถามอะไรทั้งนั้นเธอเพียงร่วมมือในการสับไพ่ก็เพียงพอแล้วและความร่วมมือแบบนี้มันไม่เคยมีมาก่อนจงเหล่าซานไม่สามารถสังเกตเห็นความผิดปกติอะไรได้หลังจากนั้นไม่นาน ทางด้านของหลินเฟยก็เหงื่อตก เพราะการใช้กระแสอาการมวลสีขาวเงินผ่านมือของคนอื่นนั้น มันต้องใช้แรงเป็นอย่างมาก!กลับไปจะต้องไถนาอีกสองสามครั้งเพื่อเป็นการชดเชยเสียแล้ว!"สับไพ่เสร็จแล้ว…โอเค แจกไพ่ได้เลยหรือเปล่า?"หลังจากที่รู้สึกว่ามือของตัวเองได้หยุดลงแล้ว ซูเสี่ยวโหรวก็ถามอย่างตื่นตระหนก"บอสจง คุณเลือกไพ่ก่อน ดีไหม?"หลินเฟยแสร้งทำเป็นกังวลมาก ปาดเหงื่อออกเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นมา"เหอะๆ เริ่มเปรียบเทียบใหญ่เล็กกันก่อนดีกว่า ใหญ่น่ะเริ่มก่อน"จงเหล่าซานหัวเราะเบาๆ และพูดอย่างเกรงอกเกรงใจออกมาจากมุมมองของเขา ทักษะ
เพียงพบว่าไพ่สองใบนั้น ใบหนึ่งเป็นดอกจิกสอง อีกใบคือข้าวหลามตัดA ซึ่งรวมแล้วมีเพียงสามแต้มเท่านั้น!ถึงแม้จะไม่ได้ใช้กลโกงจงเหล่าซานก็ไม่เคยจับไพ่ได้น้อยขนาดนี้มาก่อนในชีวิต!และหากพึ่งสามแต้มนี้ในการเอาชนะหลินเฟยได้ มันก็คงจะต้องอัศจรรย์เอาเสียมากๆ!"บอสจง ทำไมสีหน้าของคุณถึงไม่ค่อยดีเลยล่ะ?""หรือว่าไพ่ของคุณจะไม่ค่อยดี?"หลินเฟยรู้ดี แต่เขาจงใจถามต่อหน้าเสียมากกว่า"เหอะๆ น้องชาย นายคิดมากเกินไปแล้วล่ะ""ไพ่ของฉันดีจะตายไป!"เมื่อหลินเฟยได้ถามแบบนี้ขึ้นมา สีหน้าของจงเหล่าซานก็ฟื้นคืนมาสงบในทันทีแค่ทักษะการเปลี่ยนใบหน้านี้ มันก็เพียงพอแล้วที่หลินเฟยจะยกย่องเขาต่อมาจงเหล่าซานก็ทำเหมือนปิดไพ่ของตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ และนำไพ่สองใบที่อยู่ในตัวมาซ่อนเอาไว้ในมืออย่างแน่นหนาราวกับกลัวว่าใครจะแอบเอาไพ่ของเขาไปอย่างไงอย่างงั้นแต่ในที่ที่ผู้คนมองไม่เห็น เขาก็กลับแอบหยิบไพ่สำรับอื่นที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมาสับเปลี่ยนกับไพ่ที่อยู่ในมือของเขาทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วมาก แทบจะไม่ถึงหนึ่งวินาทีเลยทีเดียว"อ้อ ไพ่ของคุณดีงั้นเหรอ?""ไพ่ของผมแย่จริงๆ และผมก็ไม่เชื่อหรอกนะว่า ไพ่
ไพ่ของเขาเหมือนกับไพ่ของจงเหล่าซานทุกประการ และยังเป็นไพ่ที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย!และในตอนนี้ ทุกคนก็ถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน!รวมถึงจงเหล่าซานที่มั่นอกมั่นใจว่าจะชนะมาโดยตลอดด้วย!เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆ ของหลินเฟยก่อนหน้านี้ เขายังคิดว่าหลินเฟยจับได้ไพ่เล็กเสียอีก!แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ไพ่ในมือของหลินเฟยจะเป็นไพ่ที่ใหญ่ที่สุดจริงๆ!สถานการณ์ท่าจะไม่ค่อยดีแล้ว!"ไพ่สำรับนี้ จะมีไพ่ใหญ่ถึงสองชุดได้อย่างไรกัน?""เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เลย!""ต้องมีคนโกงแน่ๆ!"ผู้คนโดยรอบต่างก็คิดถึงความเป็นไปไม่ได้นี้อย่างรวดเร็ว!นอกเหนือจากสถานการณ์นี้แล้ว มันคงไม่มีเหตุผลอื่นแต่อย่างใด!"เจ้านายครับ นี่มัน... นี่มัน..."จ้าวหู่และต้าจวินต่างก็พูดไม่ออกแม้แต่พวกเขาก็ยังแยกไม่ออกว่า ใครกันแน่ที่กำลังโกงอยู่!"น้องชาย ทักษะกลโกงของนายแยบยลจริงๆ นับถือ นับถือ""แต่ทว่า ฉันเป็นคนโชว์ไพ่ก่อน เป็นเพราะนายโกง ดังนั้นนายก็แพ้อยู่ดี""ตามกฎของกาสิโนของเรา ไม่เพียงนายจะต้องคืนเงินทั้งหมดมาเท่านั้น แต่ยังต้องฝากนิ้วเอาไว้หนึ่งนิ้วอีกด้วย!"จงเหล่าซานเป็นมือฉมังที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนแล้วในชั่วพริบตา
"ได้สิ ฉันถอดเสื้อผ้าให้คุณตรวจสอบ คุณก็ถอดเสื้อผ้ามาให้ฉันตรวจสอบ"ดวงตาของหลินเฟยเฉียบคม เขาสามารถสังเกตเห็นความปกติของจงเหล่าซานได้ในทันที!เขาคิดว่า อีกฝ่ายคงไม่ยอมให้ตัวเขาตรวจสอบเสื้อผ้าได้ง่ายๆ เป็นแน่!และจงเหล่าซานนั้นจะต้องมีกลโกงอะไรอีกแน่นอน!หลังจากมองด้วยตาทิพย์แล้ว เขาก็พบว่าที่แท้จงเหล่าซานได้ซ่อนไพ่เอาไว้ในมือนั่นเอง!แล้วก็ยื่นแค่เสื้อผ้าของตัวเองมาให้เขา!นี่มันเป็นการใส่ร้ายป้ายสีอย่างเห็นได้ชัด!และหลินเฟยก็ใช้วิธีหนามยอกต้องเอาหนามบ่งทันที เขาแสร้งทำเป็นมอบเสื้อผ้าของเขาไปให้!"เหอะๆ ให้ฉันตรวจสอบสิว่า ใครกันแน่ที่ซ่อนไพ่เอาไว้!"เมื่อเห็นว่าหลินเฟยหลงกล เขาก็พูดกับตัวเองว่า : ไอ้หนุ่ม แค่ลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้ ยังคิดจะต่อสู้กับฉันงั้นเหรอ?ช่างอ่อนหัดเสียจริงๆ!แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ก่อนที่หลินเฟยจะได้สัมผัสไปโดนเสื้อผ้าของเขาทันใดนั้น หลินเฟยก็คว้าลูกเต๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ ดีดนิ้วออกไปราวกับกระสุนปืน โดยพุ่งไปโดนข้อมือของจงเหล่าซานเข้าอย่างจัง!"อ๊าก…"และในเวลานี้ มือของจงเหล่าซานก็คลายออกอย่างควบคุมไม่ได้ และมันก็ชาอย่างรุนแรงไปหมดและฝ่ามือที่ซ่อนไพ่เอ
"ผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกล่อเขามา ทำให้เจ้านายต้องอับอายขายหน้าจริงๆ นะครับ!""ไอ้สวะ!""มีแต่จะทำให้ฉันเดือดร้อน!"จงเหล่าซานโกรธจัด จนแทบอยากจะแตะจ้าวหู่ให้ตายไปเลย!จากนั้นก็ตะโกนสั่งลูกน้องอย่างโกรธเกรี้ยวออกมา!"กระทืบไอ้สวะนี้จนแขนขาหัก แล้วเอาไปโยนทิ้งซะ!""ถ้าฉันเห็นมันเข้ามาเหยียบประตูนี้อีก ฉันจะคิดบัญชีกับพวกแกแทน!""ครับเจ้านาย!"เมื่อลูกน้องเห็นว่าจงเหล่าซานเดือดดาลจนแทบจะคลุ้มคลั่งแบบนี้แล้ว ไหนเลยจะมีเวลามาสนใจคำขอร้องอ้อนวอนของจ้าวหู่ได้!หลังจากผ่านการกระทืบและศอกเข่า จ้าวหู่ก็ถูกลากออกจากกาสิโนไปราวกับหมาที่ตายแล้ว!"อา...ให้ตายเถอะ ไอ้เด็กน้อย!""มันเป็นเพราะแกทั้งหมด!""ไม่อย่างนั้น เจ้านายของฉันจะทำกับฉันแบบนี้ได้เหรอ!""ฉันจะตามจองล้างจองผลาญแก จะไม่ปล่อยแกไปง่ายอย่างแน่นอน!"จ้าวหู่ถูกลากออกไปท่ามกลางสายตาของทุกคน โดยตัวเสียดสีกับพื้นจนถลอกปอกเปิกไปหมด แต่สายตาที่มองมายังหลินเฟยนั้น มันเต็มไปด้วยความเคียดแค้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!"ฮึ่ม คิดอยากจะแก้แค้นฉัน นายคงไม่มีโอกาสนั้นแล้วล่ะ"หลินเฟยไม่ได้กลัวแต่อย่างใดจากนั้นเขาก็มองไปยังจงเหล่าซาน แล้วพูด
"โอ๊ย ช่างเสียงดังดีจริงๆ""แกคิดว่าแค่พวกลูกกระจ๊อกพวกนี้ จะมาเป็นคู่ต่อสู้ของฉันได้?"หลินเฟยไม่แปลกใจเลยที่จงเหล่าซานกลับคำแบบนี้ ตรงกันข้าม เขากลับพูดด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ยออกมาแทน"แกคิดว่าแค่เด็กตัวกะเปี๊ยกอย่างแก และก็ผู้หญิงสองคนนี้ ก็คิดที่จะพลิกสถานการณ์ภายใต้ฝ่ามือของฉันจงเหล่าซานได้?"มือของจงเหล่าซานค่อยๆ กลับมามีความรู้สึก เขาจ้องเขม็งมาที่หลินเฟยอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับพูดออกมา"เจ้านายครับ ให้ผมจัดการไอ้เด็กคนนี้ก่อนนะครับ!""หากผมจัดการมันไม่ได้ ไม่ต้องให้เจ้านายลงมือ ผมก็จะจัดการมือและเท้าของตัวเองซะเลย!"ไม่รู้ว่าต้าจวินได้หยิบมีดคมๆ ออกมาจากมือตอนไหน และเขาก็กระโดดเข้าไปร้องขอชีวิตกับจงเหล่าซานทันที"เหอะๆ ดี งั้นแกก็ไปสิ"จงเหล่าซานพยักหน้าเห็นด้วยต้าจวินไม่เพียงแต่เป็นลูกน้องที่มีทักษะกลโกงที่ดีเท่านั้น แต่เขายังเป็นนักเลงหัวรุนแรงอีกต่างหาก โดยคนที่ติดหนี้พนันและไม่ใช้คืนมาไม่ได้ หากต้าจวินออกหน้าก็จะทวงคืนมาได้อย่างแน่นอน"ขอบคุณครับเจ้านาย!"เมื่อเห็นว่าจงเหล่าซานเห็นด้วย ต้าจวินก็กระชับมีดในมือพร้อมกับหัวเราะอย่างเหี้ยมโหดออกมา และกระโจนเข้าใส่หลิน
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได