"เมื่อกี้ผมได้โทรติดต่อคุณท่านหวางแล้ว เขารับปากว่าจะมาช่วยผมจัดการกับเรื่องนี้"เมื่อได้ยินหลินเฟยยอมรับกับตัวเองว่า เขามีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่งจริงๆท่าทางของฉีฉงเหยาก็ดูแคลนอย่างเห็นได้ชัดแต่เมื่อจะพูดเหน็บแนมหลินเฟยและเจียงเฉินหยู่ขึ้นมาอีกครั้งทันใดนั้น เซียวจ้านขวางที่อยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีจากนั้นก็บ่นพึมพำกับตัวเองอย่างกระสับกระส่ายอยู่แบบนั้น"คุณท่านหวาง...คุณท่านหวาง!""หรือว่าจะเป็นคุณปู่หวาง? ไม่ เป็นไปไม่ได้ คุณปู่หวางที่แม้แต่ฉันก็ยังไม่เคยพบหน้า แล้วจะมาคลุกคลีกับพวกมดไรแบบนี้ได้อย่างไร""ฉันคงคิดมากไปแล้วล่ะ""คุณชายเซียว คุณพูดอะไรอยู่น่ะ?" เมื่อเห็นสีหน้าของจ้านขวางผิดปกติ ฉีฉงเหยาก็ถามขึ้นมาทันที"ไม่มีอะไรหรอก ผมได้ยินมาว่าสหายของคุณปู่ท่านหนึ่ง คุณปู่หวางได้กลับมาที่ตี้ตูแล้ว และยังกลับมานั่งตำแหน่งเดิมด้วยนะ""ผมคิดว่า รอให้มีเวลา แล้วผมจะพาคุณไปพบคุณปู่หวางนะ"เซียวจ้านขวางข่มความไม่สบายใจเอาไว้ และยิ้มบางๆ ให้กับฉีฉงเหยา"คุณปู่หวาง หรือว่าจะเป็นคุณปู่หวางเทียนผิง หนึ่งในวีรบุรุษผู้ร่วมก่อตั้งประเทศที่มีชื่อเสียงที่สุด""ว้าว คุณชายเซีย
"แนะนำให้หยุดแค่นี้งั้นเหรอ? งั้นก็ต้องดูสถานะของพวกคุณว่าจะคู่ควรหรือเปล่า!""มีคุณสมบัติพอที่จะมาพูดแบบนี้กับฉันหรือเปล่า!"เซียวจ้านขวางหัวเราะเยาะอย่างดูแคลนแบบสุดๆพอพูดจบ จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นมาทันที"หือ? คุณปู่โทรมา หรือว่าคุณปู่ได้ให้คนปลดรัฐมนตรีอู๋ออกแล้ว?"เมื่อคิดได้ดังนั้นเซียวจ้านขวางก็รีบกดปุ่มรับสายอย่างมีความสุขแต่ฉีฉงเหยาที่อยู่ข้างๆ กลับมีความคิดที่มากกว่านั้นเพราะอยากจะโอ้อวดสถานะของแฟนหนุ่ม เธอจึงกระซิบข้างหูเซียวจ้านขวางว่า"คุณชายเซียวคะ ในเมื่อคุณปู่เซียวได้โทรมาแล้ว""ทำไมคุณไม่เปิดสปีกเกอร์โฟน ให้ไอ้บ้านนอกและคนพวกนั้นได้ฟังให้ชัดเจนล่ะคะ?""เพื่อพวกเขาจะได้ยอมแพ้ด้วย!""จริงด้วยครับคุณชายเซียว ไอ้บ้านนอกนั้นยังป่าวประกาศว่าจะมีคนมาช่วยรัฐมนตรีอู๋""คุณชายให้พวกเขาฟังเถอะ จะได้ให้เขารู้ว่าความรู้สึกอับอายขายหน้าเป็นยังไง!"หลังจากนั้นเหวินเหรินอวี่ก็โน้มตัวเข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยถากถางทันที"เหอะๆ" เดิมทีเซียวจ้านขวางไม่สนใจที่จะทำแบบนี้แต่เขาไม่สามารถต่อต้านการร้องขอของฉีฉงเหยาได้ จึงกดปุ่มสปีกเกอร์โฟนห
"ทำไมพ่อของแกถึงได้มีลูกชายที่ตาบอดอย่างแน่ด้วย!""แกรู้หรือเปล่า คุณปู่หวางได้พาคนไปจัดการแกแล้วนะ…"เดิมทีเซียวอวิ๋นอิงยังหวังที่จะรอดแต่หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เซียวจ้านขวางพูดออกมา เขาก็โกรธจัด พร้อมสาปแช่งเซียวจ้านขวางโดยไม่หยุดพัก!แม้ว่าเซียวจ้านขวางจะปิดสปีกเกอร์โฟนไปแล้วก็ตามแต่มีบางคนที่อยู่ใกล้ๆ กับเซียวจ้านขวางยังคงได้ยินคำพูดสาปแช่งอยู่ตลอดเวลา"อุ๊บ...คุณท่านเซียวไม่น่าจะพูดเล่นใช่ไหม?""ไอ้บ้านนอก…ถุยถุยถุย สหายหลินเฟยจะเป็นน้องร่วมสาบานของคุณท่านหวางจริงๆ!""หรือว่าเมื่อครู่ฉันจะได้ยินผิดไป?"ภายในอื้ออึงขึ้นมาทันที ทุกคนต่างก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันเสียยกใหญ่แม้แต่คำเรียกหลินเฟย ก็เปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว"เมื่อกี้ฉันได้ยินมาแล้ว น่าจะเป็นความจริงนะ!""ไม่อย่างนั้น สีหน้าของคุณชายเซียวจะแย่ขนาดนั้นได้อย่างไร!""มิน่าล่ะสหายหลินจึงดูไม่กลัวคุณชายเซียวเลย ที่แท้สิ่งที่รัฐมนตรีพูดก็เป็นความจริง สหายหลินนั้นมีภูมิหลังที่ดีกว่าคุณชายเซียวเสียอีก!""เขาเป็นสหายร่วมสาบานกับคุณท่านหวางเชียวนะ!""งั้นก็หมายความว่า หลินเฟยทัดเทียมกับคุณท่านหวางนะสิ!"หลังจากนั้
ฉีฉงเหยาไม่เคยเห็นเซียวจ้านขวางโกรธขนาดนี้มาก่อนกระทั่งอาจจะเป็นเพราะเซียวอวิ๋นอิงได้พูดอะไรกับเขาแบบนั้นในความโกรธนั้น เซียวจ้านขวางยังมีความตึงเครียดและหวาดกลัวปะปนอยู่อย่างเห็นได้ชัด!"คุณชายเซียวคะ ต่อให้เขาจะเป็นสหายร่วมสาบานของคุณท่านหวาง""แต่คุณก็เป็นหลานชายแท้ๆ ของคุณปู่หวางนะ คุณไม่จำเป็นที่ต้องเครียดกับความเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้""อย่างแย่ที่สุดเพื่อเห็นแก่หน้าของคุณปู่หวาง เรา...เราขอโทษหลินเฟย คุณปู่คงไม่ทำให้คุณชายเซียวต้องลำบากใจเพราะคนข้างนอกแบบนั้นหรอกนะ"ฉีฉงเหยาซึ่งถูกบังคับให้ยอมรับความเป็นจริง ทำได้เพียงอดทนต่อความคิดที่ซับซ้อนและความไม่เต็มใจ พร้อมปลอบเซียวจ้านขวางไปแบบนั้นแต่ทว่าในใจของเธอ หลินเฟยยังคงเป็นแค่ไอ้บ้านนอกคนหนึ่งเท่านั้นโดยไม่ได้เปลี่ยนไปเพียงเพราะการเป็นสหายร่วมสาบานของคุณท่านหวาง"นังโง่ ถ้ามันง่ายอย่างที่เธอพูดขนาดนั้น ฉันก็คงจะไม่โกรธอยู่แบบนี้!""เธอรู้หรือเปล่าว่าคุณปู่จะให้ฉันขอโทษมันยังไง?"เซียวจ้านขวางโกรธจัดจนถลึงตาโตและถามออกมาแทบอยากจะฟาดฝ่ามือไปที่หน้าของฉีฉงเหยาเสียให้ได้!"คุณชายเซียวคะ ฉัน...ฉันไม่รู้..."ฉีฉง
"คุณชายเซียวได้โค้งคำนับต่อหน้าผู้คนแบบนี้แล้ว ก็ถือว่าไว้หน้านายมากแล้วนะ!""ยังมีหน้ามาลังเล ไม่ยอมย้ายไปห้องโถงด้านหลังกับคุณชายเซียวอีก!""คิดว่าหลังจากที่ร่วมสาบานกับคุณท่านหวางแล้ว จะกลายคุณชายผู้สูงศักดิ์ไปได้อย่างนั้นเหรอ?""นายเป็นแค่ไอ้บ้านนอกตั้งแต่แรกแล้ว เป็นไอ้บ้านนอกกระจอกๆ เท่านั้น!"ฉีฉงเหยาที่คอยเฝ้าดูจากระยะไกลอย่างเงียบๆ เมื่อเห็นสีหน้าลังเลใจของหลินเฟยเธอก็กัดฟันด้วยความโกรธ แอบกำหมัดเอาไว้แน่นและพูดออกมาเดิมทีเธอก็พุ่งเป้ามาที่สถานะไอ้บ้านนอกของหลินเฟยอยู่แล้ว โดยที่มันยังทำให้สถานะแฟนของเธอที่เป็นหลานชายแท้ๆ ของคุณท่านหยวนเหล่าสูงส่งมากยิ่งขึ้น!จากนั้นก็จะมาข่มเจียงเฉินหยู่ให้ดูด้อยลงไป!แต่ทว่าในตอนนี้ แฟนของเธอที่เป็นหลานชายของคุณท่านหยวนเหล่าคนนั้น กลับคุกเข่าขอโทษหลินเฟยไอ้บ้านนอกคนนั้นต่อหน้าผู้คนแบบนี้ใครๆ ก็สามารถจินตนาการได้ว่า เธอจะเจ็บปวดมากแค่ไหนในตอนนี้!แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เธอทำได้เพียงก่นด่าหลินเฟยในใจเท่านั้นในขณะที่หลินเฟยยังคงลังเลว่าจะคุยกับเซียวจ้านขวางเป็นการส่วนตัวหรือไม่นั้น"สหายหลิน ในเมื่อคุณชายเซียวอยากจะขอโทษอย่างจ
"พ่อคะ พ่อคะ เรารีบกลับกันเถอะ!""เราอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว!"เมื่อเห็นว่าเซียวจ้านขวางได้ลดตัวและยอมจำนนต่อหลินเฟยแล้วนั้น ฉีฉงเหยาก็เดินคอตกออกจากห้องโถงตระกูลเจียงไปทันทีส่วนเหวินเหรินอวี่ รวมไปถึงพ่อลูกตระกูลตู้ และกลุ่มคนที่วิพากษ์วิจารณ์หลินเฟยอย่างเผ็ดร้อนเมื่อครู่ที่ผ่านมาพวกเขาสามารถสัมผัสกับความกลัวนั้นได้จึงอาศัยการที่แขกเหรื่อในงานค่อนข้างจะมาก โดยที่แอบลัดเลาะด้านหลังของฝูงชนออกไปอย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะหันหลังกลับและเดินออกไปเพียงไม่กี่ก้าวจู่ๆ ฉินหลินที่นั่งอยู่ในตำแหน่งหลักก็ได้ยืนขึ้นมา และตะคอกเสียงดังว่า"เดี๋ยวก่อนสิ หัวหน้าตู้ คุณชายตู้ คุณชายเหวินเหริน พวกคุณคิดจะออกไปไหน?""ลืมสิ่งที่พวกคุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วงั้นเหรอ?"ฮือ ฮา ฮือ ฮา แขกเหรื่อพร้อมใจกันแหวกทางให้พยายามอยู่ห่างจากพ่อลูกตระกูลตู้ เหวินเหรินอวี่และพรรคพวก เพราะกลัวว่าจะพลอยติดร่างแหไปด้วยพ่อลูกตระกูลตู้และพรรคพวกจะไปก็ไม่ได้ จะถอยก็ไม่ได้อีก พวกเขาตะลึงค้างอยู่กับที่ โดยที่ยืนแข็งทื่ออยู่อย่างนั้นด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ สามารถเดาได้ทันทีโดยไม่ต้องคิดเซียวจ้านหวางยอมแพ้แ
"การนับลำดับญาติจะสับสนไม่ได้!""เพียงแต่เมื่อครู่คนเยอะ หลานเขินอายเกินกว่าจะเรียกปู่หลินต่อหน้าทุกคนได้ คุณปู่หลินอย่าถือสาหลานเลยนะครับ!""หากท่านไม่ยกโทษให้กับหลาน หลานก็จะไม่ลุกขึ้น!"แม้ว่าเซียวจ้านขวางจะรู้สึกคับข้องใจอยู่บ้าง แต่หากเขาคิดในทางกลับกันต่อให้เขาจะไม่ทำให้หลินเฟยขุ่นเคือง หากยึดตามลำดับญาติ เมื่อเขาพบกับหลินเฟย เขาก็ยังต้องโขกศีรษะโค้งคำนับอยู่ดีโดยความขุ่นเคืองในใจได้หายไปมากกว่าครึ่งแล้วยิ่งไปกว่านั้นการคุกเข่าโขกศีรษะเพื่อขอโทษ คือสิ่งที่ปู่ของเขาเอ่ยออกมา เขาคงไม่กล้าที่จะไม่คุกเข่า!"คุณชายเซียว ผมเข้าใจดี คุณคุกเข่าขอโทษผมก็เพราะเห็นแก่หน้าของคุณท่านหวาง""จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้มีความแค้นใดๆ กับคุณเลย""หากคุณไม่ซักไซ้ ผมก็จะไม่ถือสาเอาความเช่นกัน เพียงแต่ว่า คุณต้องอบรมแฟนของคุณให้ดีๆ""ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะนะ""ต่อไปเวลาเราพบกัน คุณเรียกผมว่าหลินเฟย หรือสหายหลินก็พอแล้ว"หลินเฟยหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับดึงเซียวจ้านขวางให้ลุกขึ้นจากพื้นพอพูดจบ หลินเฟยก็หันตัวกลับและเดินออกจากห้องโถงด้านหลังไป"คุณปู่หลิน คุณปู่หลิน เดี๋ยวก่อน!""ทางด้านคุณปู่และ
"เอ่อ...ได้ครับพี่เซียว""อันที่จริงก็แค่เข้าใจผิดกัน ทำความเข้าใจแล้วก็ไม่มีปัญหา"เมื่อเห็นเซียวอวิ๋นอิงจริงใจแบบนี้ หลินเฟยก็ทำได้เพียงพยักหน้าตอบรับเท่านั้นจากนั้น โทรศัพท์ก็ได้กลับมาอยู่ในมือของคุณท่านหวางอีกครั้ง"สหายหลิน ฉันไม่รู้ว่าวันนี้เป็นงานหมั้นของคุณ เวลาสั้นๆ แบบนี้ฉันก็ขับออกจากตัวเมืองไม่ทันด้วยสิ เอาแบบนี้ดีไหม วันหลังถ้ามาที่ตี้ตู คุณก็พาน้องสะใภ้มาด้วยก็แล้วกัน""ถึงเวลานั้น ฉันจะชดเชยให้สหายหลินและน้องสะใภ้ หวังว่าจะไม่ตำหนิฉันนะ""พี่หวาง เรื่องนี้ผมก็แจ้งไม่ทันด้วยเหมือนกัน…"หลินเฟยคุยกับคุณท่านหวางอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็วางสาย และเดินเข้าไปที่ห้องโถงใหญ่"คุณปู่หลิน คุณปู่หลิน เดี๋ยวตอนที่ออกไป ผมยังเรียกคุณว่าสหายหลินเหมือนเดิม หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะครับ!""อีกอย่าง เรื่องที่ผมคุกเข่าเมื่อกี้ คุณก็อย่าได้บอกใครเลยนะ!""ได้โปรด!"เซียวจ้านขวางรีบวิ่งตาม กดเสียงให้ต่ำลงและพูดกับหลินเฟยที่อยู่ข้างๆ"ไม่มีปัญหา ผมจะไม่พูดเรื่องนี้ เพียงแต่ว่าผมเคยพูดแล้วไม่ใช่เหรอว่า ต่อไปคุณอย่าเรียกผมว่าคุณปู่อีกเลย ฟังแล้วมันดูแปลกๆ"ความโกรธของหลินเฟยหายไปนา
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได