หยางซินทำสีหน้าเคร่งขรึม “ต่อไปนี้ฉันจะระวังตัวให้มากขึ้น จะไม่ให้ท่านพ่อรู้เด็ดขาด”“นายไม่ต้องห่วงมากหรอก ฉันว่าท่านพ่อคงแค่สงสัยน่ะ หมอฉินช่วยเราปกปิดไปได้แล้ว คราวนี้พ่อคงสบายใจแล้วล่ะ” เจิ้งชิวเยว่พูดพร้อมรอยยิ้มหยางซินจึงโล่งใจจากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างคลุมเครือ“ที่รัก คืนนี้เราลองกันอีกครั้งดีหรือไม่? สองวันนี้เป็นช่วงไข่ตกของเธอ อาจจะ......ลองดูแล้วจะท้องก็ได้นะ”เจิ้งชิวเยว่ใบหน้าแดงก่ำ พยักหน้าเบาๆ ถือว่าเป็นการตอบตกลงสองวันมานี้เธอเองก็มีความคิดแบบนั้นแล้วก็......ตอนที่จางหยวนนวดข้อเท้าให้เธอบนหลังเขา ความรู้สึกเสียวซ่านบริเวณที่อ่อนไหวทำให้เจิ้งชิวเยว่รู้สึกคันๆ ในใจ“เท้าเธอเจ็บอยู่ คืนนี้ฉันจะทะนุถนอมเธอเป็นพิเศษนะ” หยางซินพูดต่อเมื่อได้ยินเช่นนั้น ความคิดที่ปะทุขึ้นมาในใจของเจิ้งชิวเยว่ก็ลดลงไปไม่น้อยนอกจากเรื่องที่หยางซินไม่สามารถมีบุตรได้ และความสามารถไม่ค่อยมี เขาก็ถือเป็นสามีที่ดีคนหนึ่งปากหวานเสมอ ทำให้เจิ้งชิวเยว่มีความสุขได้ตลอดเวลาในชีวิตประจำวัน หยางซินก็ดูแลเป็นอย่างดี ทำงานบ้านทุกอย่าง และอ่อนโยนกับเจิ้งชิวเยว่มากพูดได้เต็มปากว่าเขาเป็นพ่
“พี่สะใภ้ซิ่วอวิ๋นลองดื่มดู ดื่มแล้วจะเห็นผลภายในครึ่งชั่วโมง”เสิ่นซิ่วอวิ๋นก้มศีรษะด้วยใบหน้าแดงก่ำ และถามว่า “จะได้ผลจริงๆ หรือ” “แน่นอน! ยานี้ได้ผลดีมาก ผมกังวลว่าพี่จะต้มยาไม่เป็น จึงต้มมาให้เลย” จางหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม เสิ่นซิ่วอวิ๋นเงยหน้ามองมาด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ และกล่าวด้วยน้ำเสียงขอบคุณ “ขอบคุณพี่หยวนมาก”จางหยวนโบกมือปฏิเสธ “ไม่เป็นไร เราเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน การช่วยเหลือกันเป็นเรื่องธรรมดา”พอเสิ่นซิ่วอวิ๋นดื่มยาหมด จางหยวนก็เก็บกล่องข้าวเตรียมตัวจะกลับ แต่เสิ่นซิ่วอวิ๋นกลับเรียกเขาไว้ด้วยสีหน้าเขินอาย “พี่หยวน ช้าก่อน อย่าเพิ่งไป”จางหยวนหัวใจเต้นตึกตัก กลางดึกแบบนี้ หม้ายสาวสวยกลับเรียกเขาไว้ หรือว่า......จะให้เขาค้างคืน? คิดถึงใบหน้าอันงดงามและรูปร่างสุดเซ็กซี่ของเสิ่นซิ่วอวิ๋น โดยเฉพาะช่วงให้นมบุตร จางหยวนกลืนน้ำลายหนึ่งอึกเขาไม่อยากรังแกหม้ายสาว แต่หากหม้ายสาวเชื้อเชิญเขาเอง เขาจะทำอย่างไรดี? เขาควรปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่?หรือจะยอมตามใจไปเลย ใช้เวลากับหม้ายสาวให้เป็นค่ำคืนแสนโรแมนติก?ยังไม่ทันที่จางหยวนจะได้คิดอะไรต่อ เสิ่นซิ่วอวิ๋นก็พู
หากอยู่ต่อก็จะดูเหมือนว่าเขารังแกหม้ายสาวลูกติดเมื่อเห็นว่าจางหยวนจะจากไป เสิ่นซิ่วอวิ๋นก็พยักหน้าพร้อมใบหน้าแดงก่ำตอนนี้เกือบสี่ทุ่มแล้ว หากให้จางหยวนอยู่ที่บ้านคนต่อ คนอื่นรู้เข้าก็จะเสื่อมเสียชื่อเสียงเอาได้เสิ่นซิ่วอวิ๋นเดินมาส่งจางหยวน พอใกล้ถึงประตูก็นึกเรื่องหนึ่งออกครั้งนี้จางหยวนช่วยรักษาให้ เธอยังไม่ได้จ่ายค่ารักษาเลยแต่ก่อนทุกครั้งที่จางหยวนช่วย เสิ่นซิ่วอวิ๋นก็จะตอบแทนโดยให้จางหยวนดื่มนมแพะทว่าคราวนี้จางหยวนรู้สึกเก้อเขินที่จะเผชิญหน้ากับเสิ่นซิ่วอวิ๋น จึงไม่ได้ขอดื่ม “นมแพะ”เสิ่นซิ่วอวิ๋นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วให้จางหยวนรอเธออยู่ในสวนไม่นานเธอก็เดินออกมาพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำและถ้วยนมแพะอุ่นๆ “พี่หยวน พี่ช่วยฉันได้มากเลย ฉันไม่มีอะไรจะตอบแทน พี่รับนมแพะถ้วยนี้แทนคำขอบคุณนะ”จางหยวนยิ้มทันที “ขอบคุณพี่สะใภ้เสิ่นซิ่วอวิ๋นที่ยังจำได้ว่าผมชอบดื่มนมแพะ”เขาหยิบถ้วยขึ้นมาดื่มรวดเดียว จึงขอตัวลาเสิ่นซิ่วอวิ๋นยืนอยู่หน้าประตู มองตามแผ่นหลังของจางหยวนที่เดินจากไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ “อย่างไรเสีย......อย่างไรเสียฤดูร้อนของก็เก็บไม่ได้อยู่แล้ว หากเก็บไว้ให้ถิงถิงก็ด
ฉะนั้น เขาจึงช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับจางหยวนอย่างเต็มที่ถึงขั้นไม่เพียงแค่เขาแม้แต่คนงานก่อสร้างในทีมก็ช่วยกันบอกชาวบ้านตามคำสั่งของหวังต้าเหลยว่า จางหยวนจะสร้างบ้านสองชั้นในราคาสามแสนทันทีที่พวกเขาพูดจบ ชาวบ้านที่มามุงดูก็ต่างตกตะลึง “อะไรนะ บ้านราคาสามแสน! ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่หรือไม่ บ้านที่สร้างในหมู่บ้านเราไม่ใช่ประมาณสองแสนหรอกหรือ” “ใช่แล้ว! บ้านของหลินจงเฟย เศรษฐีประจำหมู่บ้านดูเหมือนจะใช้เงินไปไม่ถึงสองแสนแปดหมื่นเลย!” “จางหยวนจะสร้างบ้านราคาสามแสนได้อย่างไร เขามีเงินมากกว่าหลินจงเฟยอีกหรือ เก่งจริงๆ!” “พูดมั่วอะไรกันเนี่ย! หลินจงเฟยเขามีโรงงานด้วยนะ! แต่จางหยวนก็เก่งจริงๆ แหละที่เอาเงินสามแสนมาสร้างบ้านได้!” “ดูเหมือนหมู่บ้านเราจะมีบ้านใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลังแล้ว!”“......”ชาวบ้านต่างพูดคุยกันอย่างคึกคักทุกคนล้วนตกตะลึงที่จางหยวนใช้เงินจำนวนมหาศาลถึงสามแสนสร้างบ้านสองชั้นที่หรูหราที่สุดในหมู่บ้านเมื่อจางหยวนกินข้าวที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้งเสร็จแล้วกลับมา เหล่าชาวบ้านก็รีบเข้ามาล้อมรอบเขาและถามว่าเขาจะสร้างบ้านหรูจริงๆ ใช่หรือไม่หลังจากที่ได้รับคำตอบยืนยันจากจางหยว
โดนผู้หญิงรายล้อมเช่นนี้ หวังฮุ่ยก็ยิ้มไม่หุบ วันนี้เธอยิ้มมากกว่าที่เคยยิ้มมาทั้งชีวิตเสียอีก“น้องสาวตระกูลหลี่ อย่าพูดอย่างนั้นเลย! ถึงลูกชายฉันจะเริ่มมีหน้ามีตา แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้สาวๆอยากแต่งงานด้วยขนาดนั้นหรอก” หวังฮุ่ยพูดด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน“แหม! พี่สะใภ้ก็อย่าถ่อมตัวหน่อยเลย! ลูกชายพี่สะใภ้ทั้งสูง ทั้งหล่อ แล้วยังหาเงินเก่งอีกต่างหาก! ถือว่าเป็นหนุ่มที่ดีที่สุดในหมู่บ้านเลยก็ว่าได้!”“ใช่เลย! เสียดายที่ฉันไม่มีลูกสาว มิเช่นนั้นฉันจะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายพี่สะใภ้แน่!”“ฉันมีลูกสาวคนเล็กอยู่ แต่เพิ่งจะอายุสิบห้าเอง จะให้หมั้นกับลูกชายพี่สะใภ้ตอนนี้ จะเร็วไปหรือไม่”“อายุสิบห้าไม่น้อยแล้วนะ! สมัยก่อนแต่งงานตอนอายุสิบเอ็ดสิบสองก็มี!”“……”เห็นว่าผู้หญิงกลุ่มนั้นพูดคุยนอกเรื่องไปไกลแล้วหวังฮุ่ยจึงรีบหยุดยั้ง“อย่าเลย! ลูกชายฉันอายุยี่สิบกว่าแล้ว หากจะแต่งงานก็ต้องแต่งกับหญิงสาวที่อายุยี่สิบขึ้นไปสิ!” หวังฮุ่ยรีบพูดขึ้นมาผู้หญิงที่เพิ่งพูดว่าจะให้ลูกสาววัยสิบห้าหมั้นหมายกับจางหยวนก็หน้าเสียทันทีแต่เธอก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้นอกกลุ่มคน มีสายตาอาฆาตแค้นจ้องมองหวังฮุ
ได้ยินเช่นนั้น สวีฉางชุนก็อุทานด้วยความไม่พอใจ “ทำไม ก็เพราะลูกสาวคนเก่งของเธอนั่นแหละ!” พอได้ยินว่าไฟลามมาถึงตัวเอง เสี่ยวเจียวเจียวที่อยู่ในห้องโถงก็เบ้ปากทันที “ท่านพ่อ เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย ลูกก็ทำตามที่ท่านพ่อสั่ง ไม่ได้ออกไปไหนเลยตั้งแต่กลับมาบ้านสองวันนี้” หนิวอ้ายชุนพยักหน้า “ถูก! เจียวเจียวช่วงนี้เรียบร้อยมาก!” “เรียบร้อย? หึ! เธอยังไม่รู้อีกหรือ ได้ข่าวมาจากหมู่บ้านเซี่ยวานแล้ว! จางหยวนกำลังสร้างบ้านหลัง ราคาสามแสนเลยนะ!” สวีฉางชุนหัวเราะเยาะ พอได้ยินถึงตรงนี้ ทั้งหนิวอ้ายชุนและลูกสาวก็ตกตะลึง “อะไรนะ? บ้านสามแสนหรือ พ่อเจียวเจียว ไม่ได้ล้อเล่นกันใช่หรือไม่ บ้านของจางหยวนจนขนาดนั้น จะสร้างบ้านสองแสนยังไม่ไหวเลย แล้วจะสร้างบ้านสามแสนได้ยย่างไร” หนิวอ้ายชุนพูดด้วยความตกตะลึง เสี่ยวเจียวเจียวก็กระโดดขึ้นมาและตะโกน “ใช่เลย! ลูกไปดูที่หมู่บ้านเซี่ยวานมาแล้ว! บ้านเขายังเป็นบ้านดินอยู่เลย จะสร้างบ้านสามแสนได้อย่างไร!” “ถูกต้อง ครั้งก่อนจางหยวนหยิบเงินออกมาสองแสนต่อหน้าทุกคน แต่นั้นแค่เงินสองแสน จะว่าจางหยวนไม่มีเงินสามแสนก็ไม่ใช่! ถึงแม้เขาจะมีเงินสามแสน ก็ย่อมไม่กล้า
หากเป็นแบบนั้นจริง เกรงว่าบ้านหลังละสามแสนที่กำลังสร้างอยู่นี่ อาจไม่ใช่ของจางหยวนเพียงคนเดียว แต่เป็นของทั้งเธอและจางหยวน! แต่ความคิดแบบนี้ผุดขึ้นในสมองเพียงแวบเดียวแล้วสวีเจียวเจียวก็กัดฟันพูดออกมาเสียงแข็งว่า “ถึงจะสร้างบ้านราคาสามแสนได้แล้วจะอย่างไร ก็ยังเป็นคนบ้านนอกอยู่ดี! ฉันจะต้องแต่งเข้าเมือง! แต่งกับคนที่อยู่ในเมืองและมีบ้าน!” พูดจบ สวีเจียวเจียวก็ตะโกนไปยังห้องของบิดาว่า “ท่านพ่อ! ท่านพ่อรอไว้เลยนะ! ลูกจะหาแฟนที่เก่งกว่าจางหยวนร้อยเท่าพันเท่าให้ได้!” สวีฉางชุนที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ในห้อง ได้ยินเช่นนั้นก็ฮึดฮัดออกมา ในสายตาของเขา ความคิดของลูกสาวดูผิดเพี้ยนไปเสียหมด คนบ้านนอกจะต้องด้อยกว่าคนในเมืองเสมอไปหรือ? ในเมืองก็มีคนจนที่ต้องประหยัดกินประหยัดใช้จำนวนมาก ถึงจะมีบ้านอยู่ในเมือง ก็ยังต้องผ่อนบ้านกันเป็นสิบปี ดูจางหยวนสิ บ้านราคาสามแสน สร้างได้ง่ายดายขนาดนี้ หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าเขามีฝีมือและความมั่นใจที่จะหาเงินก้อนโตมาได้ไง! กล้าใช้เงินสามแสนสร้างบ้าน ก็แสดงให้เห็นว่าเขามีความมั่นใจว่าจะหาเงินอีกสามแสนบาทมาได้! คิดได้เช่นนั้น สวีฉางชุนก็สู
จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ถูกต้อง ประธานฉู่ ผมเจอโสมป่าอีกต้นหนึ่ง อายุราวสิบสองปี!”“จริงหรือ” น้ำเสียงของฉู่เสวี่ยเยี่ยนเต็มไปด้วยความประหลาดใจถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบจางหยวนเท่าใดนักแต่โสมป่าที่จางหยวนจัดหาให้กลับเป็นโสมป่าที่มีสรรพคุณทางยาดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น“แต่ประธานฉู่ คราวนี้ผมไม่ได้จะคุยแค่เรื่องการค้าโสมป่าอย่างเดียว ผมอยากคุยกับคุณอีกเรื่องด้วย!” จางหยวนพูดพร้อมรอยยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉู่เสวี่ยเยี่ยนทางปลายสายก็ค่อนข้างประหลาดใจ “การค้าอะไร หรือว่านอกจากโสมป่าแล้ว คุณยังมีสมุนไพรหายากอื่นๆ จะมาขายให้ฉัน?”เมื่อพิจารณาถึงคุณภาพของโสมป่าที่จางหยวนส่งมา หากเขามีสมุนไพรหายากอื่นๆ ฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็อยากจะซื้อมาด้วยสำหรับคนรวยอย่างเธอ เงินหลักหมื่นหรือหลักแสนไม่ใช่เรื่องใหญ่หากจะใช้เงินหลักแสเพื่อแลกกับสมุนไพรหายากที่มีสรรพคุณโดดเด่น ฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็ย่อมไม่ปฏิเสธจางหยวนกระแอมแล้วพูดว่า “ไม่ใช่แบบนั้น ตอนนี้ผมเพาะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์ที่เลี้ยงด้วยสมุนไพรจีนอยู่จำนวนหนึ่ง การค้าที่อยากจะพูดคุยคือการค้าเกี่ยวกับไก่ฟีนิกซ์น่ะ”“ไก่ฟีนิกซ์หรือว่าไก่ป่า?” ฉู่เสวี่ยเย
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ