“พี่จาง ลูกหยวนโตแล้วจริง ๆ !”หลังจากที่จางหยวนออกไป หวังฮุ่ยก็กล่าวด้วยใบหน้าที่ตื้นตันใจกับจางต้าซานหางตาของจางต้าซานมีน้ำตาไหลออกมา: "ใช่แล้ว! น้องหวัง น้องพูดถูกแล้ว! ลูกของเราโตแล้วจริง ๆ !"เรื่องที่จางหยวนกลับมาเป็นปกติ แถมยังแสดงความแข็งแกร่งที่ไม่เหมือนคนอื่นออกมา รวมถึงเรื่องที่เขาสั่งสอนหลิวเค่อและคนอื่น ๆ ที่มาทวงนี้ถึงบ้าน ได้แพร่กระจายไปในหมู่บ้านอย่างรวดเร็วชาวบ้านต่างก็พากันรู้สึกประหลาดใจ แล้วแอบกำชับลูกบ้านตนว่า อย่าไปมีเรื่องตบตีกับจางหยวนเด็ดขาดจางหยวนมีพลังมากมาย จนสามารถโยนผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ลอยออกไปได้หลายเมตรถ้าต่อสู้กับเขา ก็เท่ากับว่าหาเรื่องใส่ตัว!ในอีกสองวันต่อมา ขณะที่จางหยวนได้ทำการฝังเข็มให้กับจางต้าซานทุกวันแล้ว เขาก็ยังขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเก็บสมุนไพรเป็นครั้งคราวอีกด้วยแต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังเล็กน้อยก็คือ สองวันนี้เขาไม่ได้กลิ่นสมุนไพรอันล้ำค่าเลยจางหยวนก็เข้าใจดีว่าสมุนไพรยาหายากเช่นโสมป่านั้น ไม่ได้หาเจอได้ง่าย ๆภูเขาด้านหลังใหญ่มาก โอกาสที่จะเจอโสมป่าสักต้นมีน้อยมากเกินไปแต่เขาเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า ถ้าตนเองขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนภู
จางหยวนกล่าวปลอบใจ: "แม่ครับ ไม่เป็นไร! ผมเคยเรียนวิธีการรักษาโรคให้สัตว์ บางทีผมอาจจะรักษาไก่พวกนี้ได้!"“จริงเหรอ? ลูกหยวนไปเรียนกับครมาเหรอ?” หวังฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยจางหยวนรักษาโรคให้จางต้าซานก่อนหน้านี้ ก็ทำให้พวกเขาทั้งสองประหลาดใจแล้วคิดไม่ถึงว่าจางหยวนยังรู้วิธีรักษาสัตว์จริงๆ!จางหยวนไอสองครั้ง: "คือว่า ตอนที่ผมทำงานอยู่ต่างเมือง ได้เรียนรู้สิ่งนี้จากผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง! ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นเก่งมาก!"พอได้ยินจางหยวนพูดเช่นนี้ หวังฮุ่ยก็ไม่ได้ซักถามต่อไปหลังจากเดินไปรอบ ๆ ลานบ้านแล้ว จางหยวนก็อุ้มไก่ตัวหนึ่งขึ้นมา แล้วคลี่ตาไก่ออกเบา ๆ เพื่อดูอาการจากนั้นก็เปิดจะงอยปากของไก่ แล้วตรวจดูลิ้นของมันหวังฮุ่ยที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าที่ประหลาดใจโดยปกติแล้วไก่พเนจรเหล่านี้ จะไม่เชื่อฟังขนาดนี้!แม้แต่เธอซึ่งเป็นเจ้าของที่ให้อาหารทุกวัน ก็ไม่สามารถทำให้ไก่เชื่อฟัง เหมือนอย่างที่จางหยวนทำได้ตอนนี้หวังฮุ่ยเชื่อแล้วว่าจางหยวนต้องเคยเรียนรู้วิธีการรักษาสัตว์มาอย่างแน่นอนไม่อย่างนั้นตอนที่ไก่อยู่ในอ้อมแขนเขาคงจะไม่เชื่องขนาดนี้!หลังจากการตรวจสอบแล้ว จ
หลังทานอาหารเสร็จแล้ว จางหยวนกับหวังฮุ่ยก็แยกทางกันจางหยวนแบกตะกร้าสะพายหลังขึ้นไปบนภูเขาที่ยู่ด้านหลัง ไปเก็บสมุนไพรที่จำเป็น เช่น ใบไอ้ และหวงเหลียนบนภูเขามีใบไอ้เป็นจำนวนมากจางหยวนเด็ดใส่เต็มตะกร้า เตรียมนำกลับไปตากแดดเพื่อใช้ในภายหลังในชีวิตประจำวันใบไอ้มีประโยชน์เป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ใช้ฆ่าเชื้อโรคในอากาศเท่านั้น แต่ยังช่วยไล่สามารถไล่แมลงไล่ยุงได้อีกด้วยการแช่เท้าด้วยใบไอ้ ยังช่วยเปิดเส้นลมปราณของขา และขับลมเย็นได้อีกด้วยโดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นอัมพาตขาอย่างพ่อของเขาจางต้าซาน ก็สามารถใช้ใบไอ้แช่เท้า เพื่อช่วยฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บที่ขาได้ตอนเที่ยง จางหยวนก็แบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยสมุนไพรกลับบ้านเวลานี้หวังฮุ่ยก็กลับมาแล้วเช่นกันเธอซื้อสมุนไพรเหล่านั้นที่จางหยวนกล่าวถึงกลับมาหมดแล้ว แถมยังตั้งใจซื้อในปริมาณที่เยอะกว่าสามเท่าแต่มีบางอย่างที่จางหยวนไม่รู้ อันที่จริงหวังฮุ่ยยังแอบซื้อยารักษากาฬโรคไก่จากในเมืองด้วยเธอกังวลว่าจางหยวนจะถูกหลอก ใบสั่งยาที่เขียนออกมาจะใช้ไม่ได้ผลเลยคิดเตรียมยารักษากาฬโรคไก่ไว้ล่วงหน้า เผื่อใช้ในตอนฉุกเฉินหลังจากเตรียมสมุนไพรทั้งหมดแล้
จางต้าซานชื่นชมจางหยวนเป็นอย่างมากแถมยังกล่าวอีกว่าเมื่อไก่พเนจรโตขึ้น จะให้หวังฮุ่ยผัดไก่ให้จางหยวนกินแม้ว่าอาการของไก่พเนจรจะดีขึ้นมากก็ตามแต่จางหยวนยังคงไม่ผ่อนคลาย ยังให้หวังฮุ่ยป้อนยาไก่ให้ตรงเวลาเหมือนเดิมในขณะเดียวกัน จางหยวนยังใช้ไฟจุดใบไอ้ รมควันทั้งลานหลังบ้านและแม้แต่ลานหน้าบ้านด้วยไม่นาน ทั้งในลานบ้าน ก็เต็มไปด้วยกลิ่นควันของใบไอ้แต่กลิ่นนี้ไม่ได้แรงมากนัก แต่มันกลับมีกลิ่นหอมอ่อน ๆก่อนเข้านอนตอนกลางคืน จู่ ๆ จางหยวนก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมากาฬโรคไก่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลาไก่ที่เลี้ยงแบบครัวเรือนมักประสบปัญหากาฬโรคไก่ไก่เพื่อนบ้านที่อยู่บริเวณรอบ ๆ หรือแม้แต่ไก่ของคนในหมู่บ้าน ก็จะต้องติดเชื้อกาฬโรคไก่ด้วย!เพื่อทดสอบแนวคิดนี้ ในเช้าวันรุ่งขึ้น จางหยวนจึงคิดที่จะไปดูที่บ้านของหลี่ชิวจวี๋ได้ยินมาว่าหลี่ชิวจวี๋กลับบ้านเกิดไปเมื่อไม่กี่วันก่อน เมื่อวานเพิ่งจะกลับมา ตอนนี้น่าจะอยู่ที่บ้านแล้วแถมบ้านของหลี่ชิวจวี๋ก็เลี้ยงไก่ด้วย แต่มีจำนวนไม่เยอะ ก็แค่สี่ห้าตัวเท่านั้นเมื่อมาถึงประตูบ้านของหลี่ชิวจวี๋ จางหยวนก็เคาะประตู“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ ผมเอง จางหย
เมื่อสังเกตเห็นสายตาของหลี่ชิวจวี๋ที่เต็มไปด้วยความรัก จางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายและตอนนั้นเองที่เขาสังเกตเห็นตอนที่หลี่ชิวจวี๋แต่งตัวค่อนข้างจะรีบมาก จนทำให้เธอติดกระดุมเสื้อไม่ถูกต้องจางหยวนยังสามารถมองเห็นร่องสีขาวราวหิมะอันเย้ายวนใจ ได้อย่างวับ ๆ แวบ ๆ อีกด้วย!เมื่อนึกถึงฉากสุดท้ายที่เขาและหลี่ชิวจวี๋กอดกันที่ริมสระน้ำข้างไร่ข้าวโพดของหลี่ชิวจวี๋ จู่ ๆ จางหยวนก็รู้สึกว่าปากของเขาแห้งเล็กน้อยเวลานี้ เติมน้ำได้คงจะดีไม่น้อย!“เอ๊ะ? อาหยวน ทำไมริมฝีปากของนายถึงได้แห้งนักล่ะ? ให้ฉันช่วยทำให้ชุ่มชื้นไหม?” หลี่ชิวจวี๋จ้องไปที่ริมฝีปากของจางหยวนราวกับว่าเธอได้ค้นพบโลกใหม่จางหยวนยิ้มแห้ง ๆ แล้วพูดว่า: "ทำให้ชุ่มชื้น? ทำให้ชุ่มชื้น... ยังไง?"“จะให้พี่สะใภ้พูดออกมาให้ชัดเจนเลยเหรอ? ผู้คนมักพูดว่า ผู้หญิงทำจากน้ำไม่ใช่เหรอ? แน่นอนว่าน้ำสามารถทำให้ริมฝีปากของนายชุ่มชื้นได้!” น้ำเสียงของหลี่ชิวจวี๋มีเสน่ห์มากเมื่อได้ยินดังนี้ จางหยวนก็นึกถึงฉากที่โด่งดังในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งขึ้นมาทันทีชุ่มชื้นมาก... คำนี้ คงจะเหมาะสมมาก ที่จะอธิบายหลี่ชิวจวี๋ที่อยู่ตรงหน้า!หากผู้หญิงท
“ไม่มีในสต๊อกจริง ๆ เหรอ? นอกจากนี้ คุณสามารถรับประกันได้ไหมว่า จะหาโสมป่าที่มีประสิทธิภาพเหมือนกันได้?”ตอนนี้ถึงคราวของจางหยวนที่ต้องประหลาดใจแล้ว: "อะไรนะ?ประธานฉู่ โสมป่าที่ผมขายให้คุณ กับโสมป่าที่คุณขายก่อนหน้านี้ มันไม่เหมือนกันเหรอ?"ฉู่เสวี่ยเยี่ยนเงียบไปสองสามวินาที ก่อนตอบว่า“ใช่! แต่ก่อนฉันเคยซื้อโสมป่ามาเยอะมาก แต่มีแค่โสมป่าที่คุณขายให้ฉันครั้งล่าสุดเท่านั้น ที่ให้ผลดีที่สุด!”เมื่อได้ยินดังนี้ จางหยวนก็รู้สึกงุนงงมากแล้วคิดในใจว่าหรือว่าโสมป่าที่ฉู่เสวี่ยนเยี่ยนซื้อมาก่อนหน้านี้เป็นของปลอมทั้งหมด?แต่ทว่า ต่อมาเขาก็ได้ล้มเลิกความคิดนี้ไปฉู่เสวี่ยเยี่ยนคือใคร เธอเป็นถึงผู้จัดการทั่วไปของภัตตาคารเทียนเหอเชียวนะ ซึ่งเป็นคนที่อยู่สังคมชนชั้นสูง!คนร่ำรวยอย่างฉู่เสวี่ยเยี่ยนเป็นไปได้อย่างไรที่จะซื้อโสมธรรมดาที่ดัดแปลงเป็นโสมป่าทุกครั้ง?มีคำอธิบายเดียวก็คือ โสมป่าที่ปลูกในภูเขาด้านหลังหมู่บ้านของตนเอง มีประสิทธิภาพมากกว่าโสมป่าทั่วไป!จางหยวนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงพี่เทพธิดาที่อยู่ในสระน้ำในเมื่อพี่สาวที่อยู่ในสระน้ำสามารถมีความสามารถอันน่าทึ่งได้!ภูเขาด้านหลังห
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จางหยวนก็ตัดสินใจเข้าไปในห้องเพื่อดูว่าหลี่ชิวจวี๋กำลังเล่นอะไรอยู่หลังจากที่ทั้งสองเข้าไปในห้องแล้ว หลี่ชิวจวี๋ก็มองไปที่จางหยวนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่จริงจังเมื่อเธอจ้องมองเขาด้วยนัยน์ตาอันอ่อนโยนราวกับน้ำ จางหยวนก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ พี่บอกว่าจะช่วยผมรักษาโรค โรคอะไรเหรอ?ผมไม่คิดว่าผมจะเป็นโรคอะไรนะ!” จางหยวนกล่าวหลี่ชิวจวี๋ถอนหายใจ: "อาหยวน นายป่วยแต่ตนเองกลับไม่รู้! มาเถอะ นายหลับตาลง แล้วพี่สะใภ้จะรักษาโรคให้นายเอง!"จางหยวนเหลือบมองเธอด้วยความสับสน แล้วก็หลับตาลงจริง ๆเมื่อเห็นจางหยวนหลับตา รอยยิ้มอันภาคภูมิใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่สวยงามของหลี่ชิวจวี๋ และเธอย่อตัวลงอย่างช้า ๆช่วงเวลาต่อมา จางหยวนรู้สึกเย็นที่เอวที่แท้มือใหญ่ ๆ ของหลี่ชิวจวี๋กำลังวางอยู่บนเอวของจางหยวน ราวกับจะปลดเข็มขัดของจางหยวนจางหยวนรีบคว้ามือของหลี่ชิวจวี๋เอาไว้ แล้วลืมตามองหลี่ชิวจวี๋“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ นี่พี่กำลังทำอะไรอยู่?”หลี่ชิวจวี๋พูดด้วยรอยยิ้ม: "อาหยวน นายไม่เข้าใจความหมายของพี่สะใภ้เหรอ!"“ผม…” จางหยวนไม่รู้จะตอบอย่างไรไปชั่วขณะหนึ่ง!ส
หลังจากได้ยินคำพูดของหญิงสองสามคนนี้ หวังฮุ่ยก็ยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นเธอหัวเราะ เหล่าผู้หญิงก็อดไม่ได้ที่จะถามเธอ“พี่หวัง พี่หัวเราะทำไม? บ้านพี่เลี้ยงไก่เยอะที่สุด แถมยังเป็นไก่พเนจรอีกด้วย พี่ไม่ควรกังวลมากที่สุดไม่ใช่เหรอ?”เมื่อเผชิญกับการซักถามของทุกคน หวังฮุ่ยก็พูดด้วยรอยยิ้ม“กาฬโรคไก่ของบ้านพวกเรา ลูกชายของฉันรักษาหายแล้ว! เขาเขียนใบสั่งยาด้วยตนเอง ไม่ได้ใช้ยารักษาโรคกาฬโรคไก่เลยด้วยซ้ำ!”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พากันตกตะลึง“จริงเหรอเนี่ย? พี่ไม่ได้โกหกพวกเราใช่ไหม? ลูกของพี่รักษากาฬโรคไก่เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่”“ ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ลูกชายของพี่โง่มาตั้งนา จะสามารถรักษากาฬโรคไก่ได้อย่างไร!”“ฉันก็ว่าอย่างนั้น! กาฬโรคไก่รักษายากมาก! ครูหยางที่การศึกษาดีขนาดนั้น ยังบอกว่ากาฬโรคไก่นี้รักษายากเลย! ลูกชายโง่ ๆ ของพี่จะไปรู้วิธีรักษากาฬโรคไก่ได้อย่างไร?”"........"เมื่อได้ยินคนบอกว่าจางหยวนเป็นคนโง่ รอยยิ้มบนใบหน้าของหวังฮุ่ยก็หายไปในทันทีเธอพูดอย่างเคร่งขรึมว่า: "ฉันจะพูดอีกครั้ง! ลูกหยวนของพวกเราไม่โง่อีกต่อไปแล้ว! ต่อไปห้ามใครเรียกเขาว่าค