เมื่อสังเกตเห็นสายตาของหลี่ชิวจวี๋ที่เต็มไปด้วยความรัก จางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายและตอนนั้นเองที่เขาสังเกตเห็นตอนที่หลี่ชิวจวี๋แต่งตัวค่อนข้างจะรีบมาก จนทำให้เธอติดกระดุมเสื้อไม่ถูกต้องจางหยวนยังสามารถมองเห็นร่องสีขาวราวหิมะอันเย้ายวนใจ ได้อย่างวับ ๆ แวบ ๆ อีกด้วย!เมื่อนึกถึงฉากสุดท้ายที่เขาและหลี่ชิวจวี๋กอดกันที่ริมสระน้ำข้างไร่ข้าวโพดของหลี่ชิวจวี๋ จู่ ๆ จางหยวนก็รู้สึกว่าปากของเขาแห้งเล็กน้อยเวลานี้ เติมน้ำได้คงจะดีไม่น้อย!“เอ๊ะ? อาหยวน ทำไมริมฝีปากของนายถึงได้แห้งนักล่ะ? ให้ฉันช่วยทำให้ชุ่มชื้นไหม?” หลี่ชิวจวี๋จ้องไปที่ริมฝีปากของจางหยวนราวกับว่าเธอได้ค้นพบโลกใหม่จางหยวนยิ้มแห้ง ๆ แล้วพูดว่า: "ทำให้ชุ่มชื้น? ทำให้ชุ่มชื้น... ยังไง?"“จะให้พี่สะใภ้พูดออกมาให้ชัดเจนเลยเหรอ? ผู้คนมักพูดว่า ผู้หญิงทำจากน้ำไม่ใช่เหรอ? แน่นอนว่าน้ำสามารถทำให้ริมฝีปากของนายชุ่มชื้นได้!” น้ำเสียงของหลี่ชิวจวี๋มีเสน่ห์มากเมื่อได้ยินดังนี้ จางหยวนก็นึกถึงฉากที่โด่งดังในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งขึ้นมาทันทีชุ่มชื้นมาก... คำนี้ คงจะเหมาะสมมาก ที่จะอธิบายหลี่ชิวจวี๋ที่อยู่ตรงหน้า!หากผู้หญิงท
“ไม่มีในสต๊อกจริง ๆ เหรอ? นอกจากนี้ คุณสามารถรับประกันได้ไหมว่า จะหาโสมป่าที่มีประสิทธิภาพเหมือนกันได้?”ตอนนี้ถึงคราวของจางหยวนที่ต้องประหลาดใจแล้ว: "อะไรนะ?ประธานฉู่ โสมป่าที่ผมขายให้คุณ กับโสมป่าที่คุณขายก่อนหน้านี้ มันไม่เหมือนกันเหรอ?"ฉู่เสวี่ยเยี่ยนเงียบไปสองสามวินาที ก่อนตอบว่า“ใช่! แต่ก่อนฉันเคยซื้อโสมป่ามาเยอะมาก แต่มีแค่โสมป่าที่คุณขายให้ฉันครั้งล่าสุดเท่านั้น ที่ให้ผลดีที่สุด!”เมื่อได้ยินดังนี้ จางหยวนก็รู้สึกงุนงงมากแล้วคิดในใจว่าหรือว่าโสมป่าที่ฉู่เสวี่ยนเยี่ยนซื้อมาก่อนหน้านี้เป็นของปลอมทั้งหมด?แต่ทว่า ต่อมาเขาก็ได้ล้มเลิกความคิดนี้ไปฉู่เสวี่ยเยี่ยนคือใคร เธอเป็นถึงผู้จัดการทั่วไปของภัตตาคารเทียนเหอเชียวนะ ซึ่งเป็นคนที่อยู่สังคมชนชั้นสูง!คนร่ำรวยอย่างฉู่เสวี่ยเยี่ยนเป็นไปได้อย่างไรที่จะซื้อโสมธรรมดาที่ดัดแปลงเป็นโสมป่าทุกครั้ง?มีคำอธิบายเดียวก็คือ โสมป่าที่ปลูกในภูเขาด้านหลังหมู่บ้านของตนเอง มีประสิทธิภาพมากกว่าโสมป่าทั่วไป!จางหยวนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงพี่เทพธิดาที่อยู่ในสระน้ำในเมื่อพี่สาวที่อยู่ในสระน้ำสามารถมีความสามารถอันน่าทึ่งได้!ภูเขาด้านหลังห
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จางหยวนก็ตัดสินใจเข้าไปในห้องเพื่อดูว่าหลี่ชิวจวี๋กำลังเล่นอะไรอยู่หลังจากที่ทั้งสองเข้าไปในห้องแล้ว หลี่ชิวจวี๋ก็มองไปที่จางหยวนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่จริงจังเมื่อเธอจ้องมองเขาด้วยนัยน์ตาอันอ่อนโยนราวกับน้ำ จางหยวนก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ พี่บอกว่าจะช่วยผมรักษาโรค โรคอะไรเหรอ?ผมไม่คิดว่าผมจะเป็นโรคอะไรนะ!” จางหยวนกล่าวหลี่ชิวจวี๋ถอนหายใจ: "อาหยวน นายป่วยแต่ตนเองกลับไม่รู้! มาเถอะ นายหลับตาลง แล้วพี่สะใภ้จะรักษาโรคให้นายเอง!"จางหยวนเหลือบมองเธอด้วยความสับสน แล้วก็หลับตาลงจริง ๆเมื่อเห็นจางหยวนหลับตา รอยยิ้มอันภาคภูมิใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่สวยงามของหลี่ชิวจวี๋ และเธอย่อตัวลงอย่างช้า ๆช่วงเวลาต่อมา จางหยวนรู้สึกเย็นที่เอวที่แท้มือใหญ่ ๆ ของหลี่ชิวจวี๋กำลังวางอยู่บนเอวของจางหยวน ราวกับจะปลดเข็มขัดของจางหยวนจางหยวนรีบคว้ามือของหลี่ชิวจวี๋เอาไว้ แล้วลืมตามองหลี่ชิวจวี๋“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ นี่พี่กำลังทำอะไรอยู่?”หลี่ชิวจวี๋พูดด้วยรอยยิ้ม: "อาหยวน นายไม่เข้าใจความหมายของพี่สะใภ้เหรอ!"“ผม…” จางหยวนไม่รู้จะตอบอย่างไรไปชั่วขณะหนึ่ง!ส
หลังจากได้ยินคำพูดของหญิงสองสามคนนี้ หวังฮุ่ยก็ยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นเธอหัวเราะ เหล่าผู้หญิงก็อดไม่ได้ที่จะถามเธอ“พี่หวัง พี่หัวเราะทำไม? บ้านพี่เลี้ยงไก่เยอะที่สุด แถมยังเป็นไก่พเนจรอีกด้วย พี่ไม่ควรกังวลมากที่สุดไม่ใช่เหรอ?”เมื่อเผชิญกับการซักถามของทุกคน หวังฮุ่ยก็พูดด้วยรอยยิ้ม“กาฬโรคไก่ของบ้านพวกเรา ลูกชายของฉันรักษาหายแล้ว! เขาเขียนใบสั่งยาด้วยตนเอง ไม่ได้ใช้ยารักษาโรคกาฬโรคไก่เลยด้วยซ้ำ!”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พากันตกตะลึง“จริงเหรอเนี่ย? พี่ไม่ได้โกหกพวกเราใช่ไหม? ลูกของพี่รักษากาฬโรคไก่เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่”“ ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ลูกชายของพี่โง่มาตั้งนา จะสามารถรักษากาฬโรคไก่ได้อย่างไร!”“ฉันก็ว่าอย่างนั้น! กาฬโรคไก่รักษายากมาก! ครูหยางที่การศึกษาดีขนาดนั้น ยังบอกว่ากาฬโรคไก่นี้รักษายากเลย! ลูกชายโง่ ๆ ของพี่จะไปรู้วิธีรักษากาฬโรคไก่ได้อย่างไร?”"........"เมื่อได้ยินคนบอกว่าจางหยวนเป็นคนโง่ รอยยิ้มบนใบหน้าของหวังฮุ่ยก็หายไปในทันทีเธอพูดอย่างเคร่งขรึมว่า: "ฉันจะพูดอีกครั้ง! ลูกหยวนของพวกเราไม่โง่อีกต่อไปแล้ว! ต่อไปห้ามใครเรียกเขาว่าค
เมื่อพวกเขามาถึงประตูบ้านของจางหยวน ก็บังเอิญเห็นผู้ปฏิบัติงานในหมู่บ้านเดินออกจากบ้านของจางหยวนด้วยสีหน้าประหลาดใจผู้ปฏิบัติงานในหมู่บ้านทุกคนมือเปล่า และไม่เห็นใครเอาไก่ของจางหยวนที่ตายจากการป่วยออกมาเลย“ผู้ปฏิบัติงานจาง! เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ? ทำไมพวกคุณไม่เอาไก่ที่ป่วยตายของบ้านจางหยวนออกมา?”“ใช่แล้วผู้ปฏิบัติงานจาง ฉันรู้ว่าคุณกับพี่หวังเป็นญาติกัน แต่คุณจะใช้ตำแหน่งของคุณช่วยเหลือญาติของคุณไม่ได้นะ?”“ไก่ที่ป่วยตายของครอบครัวพวกเราก็ให้พวกคุณเอาไปแล้ว! ถ้าพวกคุณไม่เอาไก่ที่ป่วยตายของบ้านจางหยวนไป ฉันจะร้องเรียนหัวหน้าหมู่บ้าน!”เมื่อได้ยินคำตัดพ้อของหญิงสองสามคน ผู้ปฏิบัติงานจางคนที่พวกเธอเรียกก็อดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่พวกเธอ“พูดจาเหลวไหลอะไรเนี่ย?อะไรที่เรียกว่าฉันใช้ประโยชน์จากตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือญาติตนเอง? ฉันจะบอกคุณให้นะ! ไก่พเนจรที่บ้านของพี่ต้าซานเลี้ยง ไม่มีตัวไหนตายเลย!”"ฉันเคยนับแล้ว! มีไก่ทั้งหมดสิบแปดตัว! ทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่! และยังมีท่าทางที่ดูไม่เหมือนติดกาฬโรคไก่เลย!"ทันทีที่ผู้ปฏิบัติงานจางพูดคำนี้ออกมา ผู้หญิงสองสามคนก็ตกตะลึง“อะไรนะ? เป็นไปได้ย
เป็นเพราะว่าครั้งที่แล้วผู้หญิงเหล่านี้บอกว่าจางหยวนเป็นคนโง่ ถึงทำให้หวังฮุ่ยโกรธหวังฮุ่ยไม่เพียงแต่ให้อภัยผู้หญิงหลายคนเท่านั้น แต่ในใจยังรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากเนื่องจากครอบครัวยากจน โดยปกติแล้วเธอจึงมีสถานะต่ำที่สุด ในบรรดาผู้หญิงกลุ่มนี้ไม่เช่นนั้น ผู้หญิงเหล่านี้คงไม่ลามปามเรียกจางหยวนว่าเป็นคนโง่แบบครั้งที่แล้วเพราะว่าเวลาพวกเธออยู่ต่อหน้าหวังฮุ่ย มักจะมีความรู้สึกเหนือกว่าเสมอแต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว!ผู้หญิงที่เคยมีความรู้สึกเหนือกว่าเหล่านั้น ตอนนี้ทุกคนต่างก็มาขอร้องตนเองอย่างพินอบพิเทาสิ่งนี้ทำให้หวังฮุ่ยรู้สึกถึง อะไรที่เรียกว่าความพลิกผลันของชีวิต!“ตกลง! ฉันจะไปเรียกลูกหยวนออกมา ดูว่าตอนนี้เขาจะมีเวลารักษาโรคให้ไก่ของพวกคุณไหม!” น้อยมากที่หวังฮุ่ยจะได้วางฟอร์มกับเขาบ้างเมื่อเผชิญหน้ากับหวังฮุ่ยที่วางมาด ผู้หญิงเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่พอใจเท่านั้น แต่ยังพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นอีกด้วย"ใช่แล้ว! ตอนนี้ลูกหยวนไม่เหมือนเดิมแล้ว! เขามีความสามารถมาก เขาคงยุ่งมากแน่ ๆ !"“พี่หวาง จากความสัมพันธ์ของเรา พี่ต้องให้อาหยวนเจียดเวลามาดูไก่ให้พวกเรานะ!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทุกคนที่มาบ้านพร้อมของขวัญ จางหยวนก็รับไว้ทั้งหมดจากนั้นเขาก็ให้คนเหล่านี้ลงทะเบียนทีละคนเพื่อบันทึกอาการป่วยของไก่ป่วยในบ้านของพวกเขา แล้วทำการจำแนกประเภทหลังจากทำข้อมูลเสร็จแล้ว จางหยวนก็เดินทางไปในเมืองสักเที่ยวเพื่อซื้อสมุนไพรโดยเฉพาะครั้งนี้ต้องการสมุนไพรในปริมาณที่ค่อนข้างมาก ถ้าไปเก็บสมุนไพรที่หลังเขาด้วยตนเอง แม้ว่าจะขึ้นไปเก็บหลายวันก็คงจะได้สมุนไพรมาไม่เพียงพอร้านขายยายังมีเครื่องผงสมุนไพร ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้มากเพียงแต่ว่า ตอนที่ทำเป็นผง จางหยวนจงใจเติมถั่วที่มีสีสันไม่เหมือนกันลงไปเพื่อสร้างความแตกต่างตอนที่จางหยวนรักษาไก่ของผู้หญิงเหล่านั้น เขาก็ใช้ผงยาหลากหลายสีด้วยครั้งนี้ก็ต้องทำให้เหมือนกันดังคำกล่าวที่ว่าไม่ต้องกังวลเรื่องความขาดแคลนแต่ให้กังวลเรื่องความไม่เท่าเทียมถ้าผงยาที่จางหยวนเตรียมแตกต่างจากครั้งก่อนพอถึงเวลานั้นจะมีเพียงสองสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นเท่านั้นผู้หญิงเหล่านั้นจะรู้สึกไม่พอใจหรือไม่คนอื่น ๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจนอกจากนี้ การที่จางหยวนทำแบบนี้ยังมีข้อดีอีกประการหนึ่ง มันจะทำให้เขาดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น!ห
จุดประสงค์การมาของจางหลิน อันที่จริงจางหยวนสามารถเดาได้เมื่อคำนวณเวลาแล้ว วัวเหล่านั้นที่จางจิ่งพ่อของเธอเลี้ยงเอาไว้ อาการน่าจะกำเริบแล้ว!“ จางหลิน มาหาฉันมีธุระอะไรเหรอ?” จางหยวนถามอย่างตรงไปตรงมาจางหลินลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วชี้นิ้วออกไปข้างนอก“พวกเราออกไปคุยกันข้างนอกได้ไหม?”ในที่สุดหวังฮุ่ยที่อยู่ข้างๆก็มองออกว่า จางหลินดูเหมือนอยากจะคุยกับจางหยวนเป็นการส่วนตัวเธอจึงยิ้มพร้อมกล่าวว่า: "อาหยวน ออกไปกับหลินหลินเถอะ! หากหลินหลินอยากจะให้ลูกช่วยเหลืออะไร ลูกจะต้องช่วยเหลือเธอนะ!"หวังฮุ่ยมีความประทับใจที่ดีต่อจางหลินเธอไม่เพียงแต่หน้าตาสะสวยเท่านั้น แต่ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอีกด้วยหากจางหยวนกับจางหลินคบกัน หวังฮุ่ยจะต้องสนับสนุนอย่างแน่นอนแม้ว่าพวกเขาจะนามสกุลจางกันทั้งคู่ แต่นามสกุลจางเป็นนามสกุลที่มีคนใช้จำนวนมากมีคนจำนวนมากที่ใช้นามสกุลจางในหมู่บ้านเซี่ยวาน แต่จางหยวนกับจางหลินมีกลุ่มเครือญาติที่แตกกต่างกันสามารถกล่าวได้ว่า ตระกูลของพวกเขาทั้งสองคนไม่ได้มีเครือญาติเดียวกัน!ในกรณีนี้ ถ้าทั้งสองคนคบกันแต่งงานกัน ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!หลังจากที่หวังฮุ่