ชายหนุ่มสวมแว่นก็มีสีหน้าเย้ยหยัน: "ทำไม? รู้ว่าตัวเองซวยแล้วใช่ไหม จึงอยากกินของข่มความตื่นตระหนก?"เมื่อเผชิญหน้ากับการเหน็บแนมของชายหนุ่มสวมแว่นอีกครั้ง จางหยวนก็มีความหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย“ถ้าไม่อยากให้คนไข้ตายก็รีบสั่งคนไปเอามา!”เมื่อเห็นว่าช่วงเวลาสำคัญเกี่ยวกับชีวิตคน หัวหน้าหญิงยังจะอืดอาดยืดยาดอยู่อีกเมื่อถูกจางหยวนตะคอกใส่ หัวหน้าหญิงจึงได้ตอบสนองขึ้นมา จากนั้นก็รีบสั่งให้หลิวหงเหมยไปเตรียมของที่จางหยวนบอกสองนาทีต่อมา ของที่จางหยวนต้องการเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วเขามองดูชายผิวดำร่างผอมที่นอนหลับตาอยู่บนโซฟา จากนั้นสายตาของจางหยวนก็มองไปที่สาวสวยที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยคนนั้นอีกครั้ง“คุณ เคี้ยวของพวกนี้ให้ละเอียด แล้วป้อนให้เขาแบบปากต่อปาก! อย่าลืมใช้บรั่นดีที่อยู่บนโต๊ะผสมน้ำให้เขาดื่ม!” จางหยวนพูดสาวสวยตกตะลึง: "ให้ฉันป้อนเขาปากต่อปากเหรอ?"“ไม่ได้เหรอ? ก่อนหน้านี้พวกคุณสองคนน่าจะเคยจูบปากกันแล้วไหม? ยังจะใส่ใจเรื่องนี้อีกเหรอ?” จางหยวนขมวดคิ้ว“รีบไปเถอะ! เสี่ยวชุ่ย! ทำตามที่เขาบอก!” หลิวหงเหมยพูดปลอบสาวสวยที่ถูกหลิวหงเหมยเรียกว่าเสี่ยวชุ่ย จึงได้เดินไปยังตรง
เมื่อคิดถึงอนาคตที่มืดมน เสี่ยวชุ่ยก็เกือบจะเป็นลมอีกครั้งหลิวหงเหมยรีบประคองเธอเอาไว้ จากนั้นก็มองไปทางจางหยวนด้วยความโมโห"ถ้าคุณจะรักษาก็รักษาดี ๆ! เริ่มต้นทำได้ดี ตอนท้ายกลับปล่อยวางแบบนี้ แบบนี้ล้อเสี่ยวชุ่ยเล่นไม่ใช่เหรอ?""ผม..." จางหยวนกำลังจะเอ่ยปากพูด ชายหนุ่มสวมแว่นที่อยู่ข้าง ๆ กลับหัวเราะเจ้าเล่ห์ขึ้นมา"หัวหน้า ผมเป็นพยานได้! ก่อนหน้านี้คนไข้คนนี้ยังมีทางรอด! แต่หลังจากที่ถูกหมอนี่กระทำอยู่ยกหนึ่ง คนไข้ถึงได้หมดทางรอดโดยสิ้นเชิง!""ดังนั้นความรับผิดชอบที่ทำให้คนไข้เสียชีวิต น่าจะนับไปที่หมอนี่! ไม่เกี่ยวข้องกับไดนาสตี้คลับสักนิด!"เมื่อเขาพูดออกมาแบบนี้ ดวงตาของหัวหน้าหญิงก็เป็นประกายทันทีทำไมเธอไม่คิดถึงจุดนี้นะ!ถ้าหากปัดความรับผิดชอบทั้งหมดไปที่จางหยวน งั้นก็ไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่เหรอ?"หมอของโรงพยาบาลในเมืองท่านนี้พูดได้ถูกต้อง! เอาแบบนี้แหละ! ลูกค้าคนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ไม่เกี่ยวข้องกับไดนาสตี้คลับของพวกเรา!" หัวหน้าหญิงพูดด้วยความตื่นเต้นหลี่ตงเซิ่งที่อยู่นอกห้องส่วนตัวได้ยินคำพูดนี้ ก็ยิ้มอย่างขมขื่นออกมาอย่างอดไม่ได้เขาคิดได้ตั้งนานแล้วว่าจะเกิดเรื
ได้ยินแบบนี้ ชายหนุ่มสวมแว่นก็ยิ้มเยาะ: "ป้อนยา? นายแน่ใจเหรอว่านั่นยา? นั่นก็แค่พวกถั่วแห้งก็เท่านั้นแหละ! นับว่าเป็นยาอะไรกัน?""เหรอ? ไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินไหมว่า บนโลกนี้มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าตำรายาสมุนไพรพื้นบ้าน!" น้ำเสียงของจางหยวนแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน"จริงด้วย ยังจะบอกว่าตำรายาสมุนไพรพื้นบ้าน นาย...เชี่ย" ชายหนุ่มวัยรุ่นเพิ่งพูดได้ครึ่งหนึ่ง ก็เห็นชายผิวดำร่างผอมที่เดิมทีนอนเป็นศพอยู่บนโซฟา ลืมตาขึ้นมา!วินาทีต่อมา ชายผิวดำร่างผอมก็ค้ำโซฟาลุกนั่งขึ้นมา!เมื่อเห็นชายผิวดำร่างผอมลุกนั่งกะทันหัน ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างสะดุ้งโหยง คิดว่าเขา ยังคิดว่าศพของเขากล้ามเนื้อขยับเสี่ยวชุ่ยที่ขี้กลัวก็กรีดร้องเสียงดังขึ้นมาอย่างอดไม่ได้"หุบปาก! เลิกร้องได้แล้ว! ผมยังไม่ตาย พวกคุณก็เห็นผมเป็นคนตายแล้วเหรอ? จะจัดการเรื่องงานศพให้ผมแล้ว?" ชายผิวดำร่างผอมพิงหลังบนโซฟา และมีสีหน้าโกรธเคืองประโยคครึ่งหลังของเขา กลับพูดกับหัวหน้าหญิงและชายหนุ่มสวมแว่นได้ยินคำพูดนี้ของชายผิวดำร่างผอม ทุกคนถึงได้รู้ว่า ที่แท้เขาไม่ใช่ศพขยับได้ แต่ฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ!"เชี่ย! หมอนี่ตายไปแล้วไม่ใช่เหร
"น้องชาย นายช่วยชีวิตฉันเหล่าเฮยเอาไว้! ฉันต้องตอบแทนนายอย่างแน่นอน!" ชายผิวดำร่างผอมพูดเสียงเคร่งขรึมจางหยวนพยักหน้าโดยไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ และก็ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเขาถึงแม้เขาจะช่วยเหลือชายผิวดำร่างผอมคนนี้ แต่อีกฝ่ายก็ยังต้องไปโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่ออีกเมื่อเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์พาชายผิวดำร่างผอมออกไป ผู้คนที่ล้อมรอบดูความคึกคัก ก็พากันแยกย้ายไปภายในห้องส่วนตัว หัวหน้าหญิงนั่งลงบนพื้นด้วยใบหน้าห่อเหี่ยวชายหนุ่มสวมแว่นได้หายตัวไปนานแล้ว ถือโอกาสตอนที่วุ่นวายวิ่งหนีไปหลิวหงเหมยมองดูหัวหน้าหญิงที่สีหน้าซับซ้อน และก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีพูดได้แค่ว่า นี่เป็นเพราะเธอหาเรื่องใส่ตัวเอง!จางหยวนหวังดีช่วยชีวิตชายผิวดำร่างผอม แต่หัวหน้าหญิงกลับฟังคำใส่ร้ายของชายหนุ่มสวมแว่น ผลักดันความรักผิดชอบไปให้จางหยวน!คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะเป็นการยกก้อนหินทุ่มใส่เท้าตัวเอง!"น้องจาง! พวกเรากลับห้องส่วนตัวกันเถอะ!" หลี่ตงเซิ่งก็เรียกจางหยวนจางหยวนพยักหน้า จากนั้นเหลือบมองหัวหน้าหญิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง และส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่ากรรมตามสนอง!น่
ด้วยเหตุนี้ก็สามารถมองเห็นได้ว่าเจ้าของของห้องทำงานนี้ เว่ยเทียนหมิงเจ้าพ่อของเมืองท่านนี้ มีความฟุ่มเฟือยมากแค่ไหนในตอนนี้ หัวหน้าหญิงเคาะประตู: "ประธานเว่ย ลูกค้าท่านนั้นมาถึงแล้วค่ะ!"“เข้ามาเถอะ!” เสียงของชายที่สุมขุมดังขึ้นข้างในห้องทำงานหัวหน้าหญิงเปิดประตูออก และหันข้างหลีกทางให้จางหยวนเข้าไปจางหยวนเดินเข้าไปในห้องทำงาน นี่ถึงได้เห็นภาพที่อยู่ข้างในเป็นอย่างที่คิด มีความหรูหราเหมือนกับข้างนอก!ตรงข้ามประตู เป็นฉากกั้นไม้ที่ประณีตสวยงาม ส่งกลิ่นหอมที่ทำให้ผ่อนคลายคิดไม่ถึงว่าจะทำจากไม้กฤษณาที่แพงยิ่งกว่าทองคำเสียอีกไม่ไกลจากทางด้านขวา โต๊ะทำงานที่ทำจากไม้พะยูงทั้งหมด ดูโดดเด่นเป็นพิเศษหลังโต๊ะทำงานมีชายวัยกลางคนหน้าซีดเซียวนั่งอยู่ถึงแม้สีหน้าของอีกฝ่ายจะซีดขาวมาก แต่กลับกลบเกลื่อนความดุดันของการเป็นคนชนชั้นสูงในสายตาของอีกฝ่ายไม่มิดชิดชั้นหนังสือที่อยู่ด้านหลังของผู้ชายก็ไม่ได้ทำให้จางหยวนผิดหวัง มันทำจากไม้วอลนัท เนื้อสัมผัสเผยความงามตามธรรมชาติ และเห็นได้ชัดว่าราคาก็ไม่ธรรมดา!"ประธานเว่ย พาลูกค้ามาแล้วค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ!" หัวหน้าหญิงเหลือบมองชายวัยกลางค
เมื่อได้ยินคำพูดของเว่ยเทียนหมิง จางหยวนก็รู้สึกประหลาดใจในทันทีเขาคิดไม่ถึงว่าเว่ยเทียนหมิงจะพูดออกมาแบบนี้หรือว่าเขาก็มีความรู้ด้านแพทย์แผนจีน?เหมือนจะอ่านความคิดในใจของจางหยวนออก เว่ยเทียนหมิงหัวเราะร่าแล้วพูดขึ้น"ผมไม่รู้เรื่องแพทย์แผนจีน แต่ผมรู้จักหมอเทวดาที่วิชาแพทย์เหนือชั้นคนหนึ่ง คำพูดเหล่านั้นเมื่อครู่นี้ ก็เป็นคำพูดของหมอเทวดาคนนั้น!"จางหยวนพยักหน้า: "คนที่ถูกประธานเว่ยเรียกว่าหมอเทวดาได้ ดูท่าคนผู้นั้นวิชาแพทย์จะต้องปราดเปรื่องมากแน่นอน!""อืม น้องชาย ผมไม่อ้อมค้อมแล้ว!" เว่ยเทียนหมิงยิ้มแล้วถาม "คุณช่วยเหล่าเฮยเพื่อนของผมไว้ และก็เลี่ยงไม่ให้คลับของเราเกิดเหตุการณ์คนเสียชีวิต ผมจะต้องให้ค่าตอบแทนคุณ!"จางหยวนโบกมือ: "ค่าตอบแทนช่างมันเถอะ! ผมแค่ไม่อยากเห็นคนใกล้ตายแล้วไม่ยอมเข้าช่วย จึงได้ลงมือ! อีกอย่าง ต่อให้ผมอยากจะเรียกค่ารักษา ก็ต้องไปเรียกกับเหล่าเฮยคนนั้น!""ฮ่า!" เว่ยเทียนหมิงมองจางหยวนด้วยความประหลาดใจ: "น้องชาย คุณอาจจะไม่รู้ว่าผมเว่ยเทียนหมิงเป็นคนอย่างไร! แต่ผมกล้าพูดได้ว่า ค่าตอบแทนที่ผมให้คุณ จำนวนมากกว่าที่คนทั่วไปไม่กล้าคิดแน่นอน!"คุณแน่ใจว่า
"ลำบากใจที่จะพูด?" เว่ยเทียนหมิงชะงักงันจากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปแปลกประหลาดขึ้นมาเล็กน้อยลำบากใจที่จะพูดคำพูดเหล่านี้ ไม่ได้บรรยายว่าเป็นโรคภัยไข้เจ็บทั่ว ๆ ไปมีเพียงโรคเหล่านั้นที่ไม่สามารถพูดกับคนนอกได้ ถึงจะเรียกได้ว่าลำบากใจจะพูดอย่างเช่น...ผู้ชายเกี่ยวกับทางด้านนั้นไม่มีน้ำยา!แต่เว่ยเทียนหมิงคิดว่าเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่าเขายังพอมีความสามารถอยู่มากผู้หญิงเหล่านั้นที่ติดตามเขา คนไหนบ้างที่ไม่พูดว่าเขาลีลาดี?ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่นถ้ากล้าพูดกับเว่ยเทียนหมิงแบบนี้ เขาคงจะโกรธไปนานแล้วแต่ว่าคนที่พูดแบบนี้คือจางหยวนและตอนนี้ความประทับใจที่เว่ยเทียนหมิงมีต่อจางหยวนก็ไม่เลว จึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก“ได้สิ!” เว่ยเทียนหมิงพยักหน้าและยิ้มบางเพียงแต่ หลังจากรอให้จางหยวนออกจากห้องทำงาน รอยยิ้มบนใบหน้าของของเว่ยเทียนหมิงก็หายไปเขาฉีกกระดาษใบนั้นที่จางหยวนทิ้งเบอร์โทรศัพท์เอาไว้อย่างไม่ได้ใส่ใจที่นอกห้องทำงาน ยังมีคนตั้งใจรอจางหยวนอยู่เพียงแต่ไม่ใช่หัวหน้าหญิงก่อนหน้านี้ แต่เป็นหลิวหงเหมย คนที่จางหยวนคิดไม่ถึง!“คุณมาได้ยังไง” จางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวหงเ
แต่หลังจากนั้น เธอก็รู้แล้วว่าเธอเข้าใจผิดแล้วเพราะจางหยวนพูดต่ออีกว่า: "ความหมายของผมก็คือ เสี่ยวชุ่ยอยู่ต่อได้ แต่คุณต้องลาออก!"“อะไรนะ?” หลิวหงเหมยอุทานออกมาเสียงดังจางหยวนมองไปทางหลิวหงเหมยด้วยความประหลาดใจ: "ถ้าหากพูดว่า เสี่ยวชุ่ยเป็นเพราะไม่มีบ้านให้กลับไป ทำได้เพียงอยู่ทำงานต่อที่นี่ งั้นคุณล่ะ?""บางทีในอดีตครอบครัวของคุณจะฐานะธรรมดา แต่ตอนนี้ใช้ชีวิตได้ไม่เลว! คุณไม่จำเป็นต้องทำอาชีพนี้ต่อไปไหม?"หลิวหงเหมยเงียบขรึมอันที่จริงเธอก็เคยมีความคิดแบบนี้เช่นกันเพียงแค่ไม่สามารถตัดสินใจได้มาโดยตลอดเมื่อเห็นความลังเลของหลิวหงเหมย จางหยวนก็พูดอย่างใจเย็น: "ให้คำตอบผมในเวลาห้านาที ไม่ก็คุณอยู่ต่อ ไม่ก็เสี่ยวชุ่ยอยู่ต่อ!"พูดจบ เขาก็หันหลังเดินกลับไปตอนที่เดินได้ก้าวที่สาม หลิวหงเหมยก็เรียกเขาจากด้านหลัง“ฉัน...ฉันลาออก! ให้เสี่ยวชุ่ยอยู่ต่อเถอะ!”คำพูดประโยคง่าย ๆ นี้ กลับเหมือนกับใช้พลังของหลิวหงเหมยไปกว่าครึ่งจางหยวนหันหลังกลับไป ใบหน้ากลับเผยรอยยิ้มออกมา"ผิมคิดว่า คุณได้ทำการตัดสินใจที่ถูกแล้ว!"ผ่านไปครู่หนึ่ง จางหยวนเดินออกมาจากในห้องทำงานของเว่ยเทียนหมิงอี
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ