เซี่ยเหมยหลินน่าจะเป็นหมากตัวสำคัญที่เขาเข้าถึงได้ง่ายที่สุดไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบเขา มือหนาปิดแฟ้มประวัติของครอบครัวเซี่ย ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิดแต่นักธุรกิจธรรมดาเทียบชั้นกับเขาไม่ติด
แค่ได้รับมรดกตกทอดที่ดินผืนงามมาเท่านั้น และมันเตะตาเขามากจนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง
“ผู้หญิงแบบนี้เข้าถึงง่าย”
“เหมือนว่าคุณเซี่ยเหมยหลินจะคบหาดูใจกับนักธุรกิจคนหนึ่งอยู่นะครับ”
“ฉันไม่สนว่าใครจะคบกับใครฉันสนแค่ที่ดินผืนนั้น”
“ผมจะจัดการตามแผนที่เราวางไว้”
ดัสตินสร้างสถานการณ์พาตัวเองไปเจอกับเซี่ยเหมยหลินอย่างเช่นวันนี้หญิงสาวได้รับเป็นพรีเซนเตอร์ของสินค้าหนึ่ง ซึ่งถ่ายทำที่โรงแรมของดัสตินทุกอย่างเป็นแผนของเขาเช่นกัน
.
เฟรินทร์ยืนมองเหมยหลินที่กำลังโพสท่าถ่ายแบบ หญิงสาวเป็นคนสวยมากสง่างามสมกับเป็นลูกคุณหนู เธอมองชีวิตตัวเองที่ต้องเดินตามเงาของคนอื่น ไม่มีอิสระในการใช้ชีวิต
“จะไปไหนครับ”
“เฟย์ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
เฟรินทร์ส่งยิ้มให้ผู้กำกับหนุ่มที่เราสองคนเจอกันบ่อยๆ เขาดูเป็นผู้ชายที่แสนอบอุ่นและที่สำคัญเขากำลังตามจีบเธออยู่
“รีบกลับมานะพี่รอเลี้ยงกาแฟ” มาร์คมองหญิงสาวไปจนลับสายตา เขาชอบเฟรินทร์อยากได้เธอมาเป็นนางแบบแต่หญิงสาวกลับปฏิเสธ
หญิงสาวเดินตามป้ายบอกทางเธอเดินมาเรื่อยๆ จนเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนัวเนียกันที่สวนย่อม จังหวะสายตานั้นทำให้เธอสบตากับเขาพอดี แววตาของเขาเป็นประกายเธอเดาอารมณ์ไม่ถูกจึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป
“โรคจิตโรงแรมแท้ๆ ไม่เปิดห้อง” เธอรีบเดินเข้าห้องน้ำทันที ปากยังคงด่าพวกเขาไม่หยุดพัก
อีกด้านดัสตินเจอสาวที่เขาหมายตาจึงรีบผละออกจากนางแบบสาวที่ตอนนี้อยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยเท่าไร เขาถูกลากมาในที่ลับตาคนแต่ก็ยังมีคนมาเห็นอยู่ดี
“อะไรกันคะดัสติน”
“ไมร่าผมมีงานด่วน” ทั้งๆ ที่หัวสีหวานของเขาจะแทงเข้าไปในถ้ำอยู่แล้ว เขารีบจัดการถอดเครื่องป้องกันออก รูดซิปกางเกงจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วทิ้งไมร่าไว้ตรงนั้นไม่สนใจเสียงโวยวายของหญิงสาว
เขาเดินมาหยุดที่หน้าห้องน้ำหญิงเขาจำใบหน้าของเธอคนนั้นได้ดี เขาล้วงกระเป๋ากางเกงพิงผนังรออย่างใจเย็น และบอกให้ลูกน้องออกไปยืนรอให้ห่างจากตรงนี้ ห้ามใครมาวุ่นวานบริเวณนี้เด็ดขาด
“อุ้ยยย”
“ขอโทษทีผมมองไม่เห็น” เขากลายเป็นคนชอบโกหกไปตั้งแต่เมื่อไรกัน
“ไม่เป็นไรค่ะปล่อยฉันได้แล้ว” ตอนนี้เขาเล่นกอดเอวเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จนเฟรินทร์ต้องเรียกเขาอีกครั้งเพราะเขาเล่นจ้องใบหน้าของเธอไม่วางตา
สวยอะไรขนาดนี้แม่คุณมองไกลๆ ว่าสวยแล้วพอมาอยู่ใกล้ๆ เขาแทบหยุดหายใจดวงตากลมโตปากนิดจมูกหน่อยคงด่าคนเก่งน่าดู วาสนาของคนสวยจริงๆ ที่เขายอมลดตัวเพื่อมาอยู่ใกล้ขนาดนี้
“ชื่ออะไรบอกมาก่อนสิ”
“ปล่อยฉันค่ะ!” เริ่มโมโหแล้วจริงๆ คนไม่รู้จักไม่สมควรทำแบบนี้เขากำลังคุกคามเธอ
“บอกชื่อมาก่อน”
“ไม่ปล่อยใช่ไหม?”
“ไม่ปล่อยแล้วจะทำไม” ตัวเล็กนิดเดียวจะทำอะไรเขาได้ เธอสูงถึงหน้าอกของเขาพอดีแบบนี้อุ้มง่ายคิดแล้วอยากลองเป็นลิงดู ‘ลิงอุ้มแตง’
“โอ๊ยยยยย” เขาร้องโอดโอยเมื่อคนตัวเล็กกว่าแตะเข้าที่กล่องดวงใจของเขาพอดี แต่เขาหลบเลยถูกแค่เล็กน้อยแต่เจ็บจนน้ำตาไหล
“นายใหญ่เกิดอะไรขึ้นครับ” ลี่ถังเห็นผู้หญิงวิ่งสวนออกไป พอมาถึงเจ้านายของเขากำลังนอนอยู่ที่พื้นพร้อมกุมเป้าตัวเองไว้
“ไม่ต้องถามมาพยุงฉัน”
“ครับๆ”
ดัสตินน้อยของเขาจะเป็นหมันหรือไม่ อย่างไรเธอต้องได้รับผิดชอบแน่หากเจอกันอีกรอบหน้าเขาจะใช้ท่องเนื้อของเขาฟาดปากให้เข็ด
.
ดอกลิลลี่สีขาวช่อโตถูกส่งมาให้เหมยหลิน หญิงสาวนั่งอยู่ในห้องรับรอง เธอหยิบการ์ดขึ้นมาอ่าน ‘ดีใจนะครับ ที่คุณมาทำงานที่นี่ ดัสติน’
หญิงสาวรับด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องพลางนึกในใจว่า ‘ไม่มีผู้ชายคนไหน ไม่หลงเสน่ห์ของเธอหรอก’ เขาตามจีบเธอหลายวันแล้ว
เธอเล่นตัวไม่ยอมไปทานข้าวกับเขาเพื่อไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอนั้นง่าย ดันตินผู้ชายที่สาวๆ หมายปองหนึ่งในนั้นคือเธอด้วย แต่วันดีคืนดีเขากลับกระโจนเข้าหาเธอโดยที่ไม่ต้องทำอะไร
“คุณดัสตินฝากบอกมาว่าจะเลี้ยงข้าวทีมงานทุกคนที่ไนต์คลับในโรงแรมครับ” โทนี่รับคำสั่งของเจ้านายมาอีกที
“ยินดีค่ะเจอกันคืนนี้นะคะ”
“ครับ”
โทนี่เห็นหญิงสาวสวยเดินเข้ามาในห้องนี้พอดีเขาจึงรีบออกไป
เหมยหลินชะงักเมื่อเห็นเฟรินทร์ แต่คืนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะเผชิญหน้ากับหญิงสาวคนนั้น เธอไม่ชอบเวลาที่ผู้ชายทุกคนจ้องมองเฟรินทร์ด้วยสายตาหลงใหล มันทำให้เธอหงุดหงิด
“แกกลับไปได้แล้ว คืนนี้ฉันกลับดึก” เสียงเย็นชาของเธอดังขึ้น
“ได้ค่ะ” เฟรินทร์ตอบรับเรียบๆ ก่อนจะเดินจากไป
ดัสตินสบโอกาส เริ่มแผนการหว่านเสน่ห์ใส่เหมยหลินทันที และเธอก็ดูจะมีใจให้เขาไม่น้อย ทั้งคู่ดื่มไวน์ พูดคุยกันอย่างถูกคอ ราวกับรู้จักกันมานาน
“ไหวหรือเปล่าครับ?” ดัสตินเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่ใครเห็นก็ต้องหลงใหล
เหมยหลินมองเขาด้วยสายตาหวานเยิ้ม ก่อนจะเอียงคอถามกลับ “ถ้าบอกว่าไม่ไหว คุณจะไปส่งฉันเหรอคะ?”
เขาขยับเข้าใกล้ โน้มตัวลงกระซิบข้างหูเธอ
“แล้ว...ให้ผมไปส่งไหมล่ะครับ”
“ฉันเต็มใจค่ะ” เธอไม่รอช้าในเมื่อเขาอาสา เธอก็ต้องรีบคว้าโอกาสไว้
ทั้งสองเดินออกจากไนต์คลับโดยไม่สนใจสายตาของเหล่านางแบบที่มองตาม
ดัสตินขับรถไปส่งเหมยหลินด้วยตัวเอง ขณะที่ลี่ถังขับรถของหญิงสาวตามหลังมา
ก่อนที่เธอจะลงจากรถ เขาขอเบอร์และวีแชท ซึ่งเธอก็ยินดีให้โดยไม่ลังเล
“ผมขอถามคำถามเดียว”
“ฉันเต็มใจตอบค่ะ”
“คุณมีคนรักหรือยัง?” เขารู้ดีว่าเธอคบหากับใคร แต่เขาไม่สน เพราะเรื่องนี้เป็นแค่เกมของผลประโยชน์
“ยังค่ะ ฉันโสด”
เธอตอบโดยไม่คิด ไม่สนใจว่าแดนนี่จะเป็นอย่างไร ตอนนี้เธอเบื่อเขาเต็มทน และเมื่อมีหนุ่มหล่อระดับดัสตินเข้าหา เธอก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ
“ผมดีใจนะครับที่ได้ยินคำนี้”
“เราจะได้เจอกันอีกไหมคะ?”
“แน่นอนครับ เราต้องได้เจอกันอีก”
ทั้งสองร่ำลากันอยู่นาน กว่าที่เหมยหลินจะยอมเข้าบ้านไป
ดัสตินโยนกุญแจรถให้ลี่ถัง แล้วเดินไปขึ้นรถอีกคันที่มีโทนี่เป็นคนขับ
โทนี่เหลือบมองเจ้านายผ่านกระจกหลังแล้วเอ่ยขึ้น
“นายใหญ่ยิ้มอะไรครับ?”
“ฉันไม่ได้ยิ้ม”
“ผมคงตาฝาด” ก็เห็นอยู่ว่าเขากำลังยิ้ม หรือว่า... ตกหลุมรักเหมยหลินเข้าแล้ว?
แต่ดัสตินไม่ได้คิดถึงเหมยหลินเลย ในหัวของเขามีเพียงใบหน้าของหญิงสาวอีกคน...
ผู้หญิงที่กล้าทำร้ายร่างกายเขา แต่กลับตรึงเขาเอาไว้ไม่ให้หลุดพ้น
เธอทำเสน่ห์ใส่เขาหรืออย่างไร?
เขาคิดถึงเธอ อยากได้เธอมาครอบครอง
เพียงแค่จินตนาการถึงเสียงครางแผ่วหวานใต้ร่างของเขา ร่างกายก็ร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงทุ้มต่ำกระซิบสั่งออกมาอย่างไม่ลังเล
“เรียกไมร่าให้ฉันที”
“ยัยเฟย์แกหายตัวไปไหนแต่เช้า!” เสียงโวยวายดังขึ้นเหมยหลินอารมณ์เสียเรียกจนเจ็บคอแต่มันไม่ยอมโผล่หน้ามาเสียที “เดี๋ยวจ๋ายเก็บให้นะคะ” แม่บ้านเดินเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงคุณหนูเรียก พร้อมกับบอกว่าจะเก็บให้เองจึงถูกเหมยหลินต่อว่า “ฉันไม่ได้เรียกแก ไปตามเฟรินทร์มาเก็บให้ฉัน” “มีอะไรคะ” เฟรินทร์กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่แม่บ้านอีกคนจึงอาสาขึ้นมาแทน แต่เธอต้องรีบตามขึ้นมาเพราะเหมยหลินไม่ถูกใจแม่บ้านคนไหนเลย เมื่อเธอเดินมาถึงเหมยหลินก็โยนรองเท้าและกระเป๋าใส่และต่อว่าเพราะทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ “มัวทำอะไรอยู่ ฉันเรียกหาแกตั้งนานแล้ว อย่าลืมสิว่าแกอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะอะไร” เฟรินทร์ไม่ตอบอะไร หยิบรองเท้าและกระเป๋าของเหมยหลินเดินออกไปจัดใส่ตู้เรียงไว้อย่างสวยงาม “แกเตรียมน้ำอุ่นให้ฉันด้วย วันนี้ฉันอยากแช่น้ำ” “ค่ะ” เธอหันไปตอบสั้นแล้วรีบไปทำตามคำสั่ง เพราะหากเธอชักช้า เธอคงถูกพี่สาวต่างแม่ดุด่าอีกแน่หญิงสาวต้องตื่นมาเตรียมอาหารให้กับทุกคนในครอบครัวทุกเช้าเป็นประจำ เธอต้องทำไว้ทั้งข้าวต้มและหมูแฮมไข่ดาว กาแฟดำ เพราะพ่อ พี่สาว พี่ชาย
ดัสตินนั่งขาไขว่ห้างนั่งกดดันเจ้าของโรงพยาบาลหรูในเกาะฮ่องกง ลีออนเพื่อนสนิทของเขากำลังตรวจคนไข้และสั่งให้เขานั่งรอ ไม่นานประตูถูกเปิดออก “มีอะไร” “มึงทักทายคนไข้แบบนี้เหรอวะ” “มีอะไรครับคุณมาเฟียแล้วไม่กลับมาเก๊าเหรอวะ” แปลกเพราะดัสตินมักจะขลุกตัวอยู่ในมาเก๊านานๆ ทีถึงจะมาที่ฮ่องกง “กูป่วย” “ป่วย แล้ว?” “ช่วยตรวจให้กูหน่อย” เขาไม่ไว้ใจใครนอกจากเพื่อนรักเท่านั้น “มาผิดที่หรือเปล่ากูหมอฟันโว้ย ทำฟันและฟันอย่างเดียว” เขานั่งแท่นเป็นผู้บริหารตรวจคนไข้บางครั้งยามที่หมอไม่พอ ไม่ได้รับตรวจโรคทั่วไป “กูเจ็บหัวใจหรือกูกำลังป่วยเป็นโรคหัวใจวะ” ไม่ได้พูดเล่นแต่เป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่โผล่หน้ามาให้มันเห็น “แล้วอาการเป็นแบบไหน” ลีออนเริ่มจริงจัง “เจอหน้าสาวสวยคนหนึ่งหลังจากนั้นก็เจ็บหัวใจตอนที่เจอหน้าเขา พอนึกถึงหัวใจมันเต้นเร็วเหมือนจะทะลุออกมา” ลีออนถอนหายใจออกมาเสียงดังเขากลอกตามองบนแล้วหลับตาลงเพื่อหักสายตา และเปิดเปลือกตาขึ้นมามองหน้าเพื่อน งานเขายุ่งมากในแต่ละวันแต่ดัสตินมันโนสนโนแคร์ ห
แดนนี่นั่งหน้าเครียดเขาพอได้ยินข่าวมาบ้างว่าตอนนี้กำลังมีคนตามจีบเหมยหลินแต่ไม่คิดว่าเขาคนนั้นจะเป็นดัสติน ผู้ชายที่เขาไม่อยากวุ่นวายด้วย “คุณโอเคไหมคะ” “ผู้หญิงเขาไม่เลือกผมจะทำอะไรได้” “ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” เฟรินทร์กำลังจะลงจากรถแต่ดัสตินคว้าแขนเธอไว้ก่อน เหมือนเขามีบางอย่างถามแต่เขากลับไม่พูด ใบหน้าของทั้งสองคนหันมองกันหากใครเห็นต้องเข้าใจว่ากำลังจู๋จี๋กัน ปัง! “ว้าย โอ๊ยฉันเจ็บ” เฟรินทร์ตกใจที่เห็นเขาคนนั้น แถมยังลากเธอลงมาจากรถของแดนนี่ตอนนี้มือของเขาราบเอวเธอไว้แน่น ทำให้หน้าอกของเธอเสียดสีกับหน้าอกของเขาพอดี “ปล่อยเธอนะคุณดัสติน” “มึงชอบแส่อีกแล้วนะ” เผลอหน่อยไม่ได้เลยยัยหนูของเขาไปกับคนอื่นเสียแล้ว อะไรที่เขาหมายตาไว้เขาไม่ปล่อยไปง่ายๆ “คุณปล่อยผู้หญิงดีกว่าน้องเขาเจ็บนะ” “น้อง? มึงมีน้องสาวเมื่อไรกูไม่เห็นรู้” เขาโกรธจนเผลอบีบต้นแขนของเธอแน่น จนเกิดเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้านิ้ว “คุณปล่อยฉัน!” “เผลอไม่ได้เลยนะ...มึงอย่าเสือกตามมา” “คุณแดนนี่กลับไปเถอะค่ะ” แดนนี่จึงหยุดมอง
ดัสตินมารับเหมยหลินไปทานข้าว ขณะที่หญิงสาวกำลังแต่งตัว เขาใช้สายตาสำรวจรอบๆ สวนหย่อม หวังว่าจะได้เจอคนที่เขาคิดถึง และแล้วก็เห็นเฟรินทร์กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ท่ามกลางแปลงดอกไม้ เขารีบเดินตรงไปหาเธอทันทีเขามองหญิงสาวด้วยสายตาหวานเยิ้ม ราวกับโหยหาจนอยากดึงเธอเข้ามากอดให้หนำใจ วันนี้เธอดูสดใสกว่าทุกวัน สวมกางเกงยีนส์ขาสั้น เสื้อยืดสีขาวสะอาดตา และผมที่ถักเป็นเปียแกะสองข้าง เขานั่งลงข้างเธอโดยไม่รอช้า “คุณ!” เธอผงะและลุกขึ้นทันทีเหมยหลินเคยเตือนไว้ว่าให้อยู่ห่างๆ จากคนรักของตัวเอง เธอไม่อยากมีปัญหาจึงก้าวเท้าเตรียมหนีแต่ไม่ทันเขา “จะรีบไปไหน”เขารีบลุกขึ้นพร้อมกับคว้าข้อมือของเธอ และกระชากเธอจนเซถลาจนหน้าอกกว้าง และเขาก็ฉวยโอกาสรวบเอวบางทันทีกลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยออกมาจากตัวของคนตัวเล็กกว่าทำให้เขาสูดดมเข้าไป ทั้งสองอยู่ใกล้กันจ
หลังจากนั้นดัสตินพยายามเข้าใกล้เฟรินทร์โดยการไปบ้านของเหมยหลินแทบทุกวัน จนเริ่มมีข่าวออกมาว่าทั้งสองกำลังคบหากันอย่างจริงจัง เขากำลังคิดหาแผนร้ายเพื่อเข้าให้หญิงสาว เจอหน้ากันทีไรเขาพยายามลวนลามตลอด และมันต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดเสมอเขาศึกษาท่วงท่ามาแล้วรับรองรอบนี้ เฟรินทร์ทำอะไรเขาไม่ได้ “ว่าไงจ๊ะคนสวยของไอ้ดัสติน” “โรคจิตหรือไง” เธอเริ่มกลัวเขาขึ้นมาเสียแล้วเฟรินทร์ถอยหลังเมื่อเขาคุกคามเข้ามา จนแผ่นหลังของเธอชนกับผนังพอดี เขาใช้มือยันตัวเธอไว้ “ถะ...ถอยออกไป” “รอบนี้คนสวยทำอะไรพี่ไม่ได้อีกแล้วจ้ะ” สรรพนามเปลี่ยนไปจนหญิงสาวขนลุก สายตาหวานเยิ้มยามที่อยู่ใกล้เฟรินทร์&
บรรยากาศในไนต์คลับเต็มไปด้วยแสงไฟสลัว สีสันฉูดฉาด และเสียงเพลงดังเร้าใจ ผู้คนสนุกสนาน ดื่มเครื่องดื่ม พูดคุยและเต้นรำอย่างอิสระ เสียงหัวเราะและจังหวะดนตรีสร้างบรรยากาศที่ครึกครื้น ดัสตินนั่งหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อไรที่เหมยหลินจะเลิกเกาะแกะเขาเสียที ตั้งแต่มานั่งดื่มในไนต์คลับถ้าเป็นผีนี่สิงเขาได้เลย “คุณรู้ไหมว่าพ่อของคุณมีที่ดินผืนงามในมาเก๊า” เขาเปรยๆ ขึ้นมาเผื่อว่าสิ่งที่เขาลงทุนทำไปอาจจะส่งผลให้เร็ววัน เขาคิดไว้เหมยหลินน่าจะหลงเสน่ห์เขาแล้ว หากจะหลอกใช้เธอเรื่องที่ดิน เธอก็คงไม่ปฏิเสธ “มาเก๊า?” “ผมรู้มาว่าเป็นของครอบครัวคุณ” ดัสตินถามพลางโอบกอดเอวของหญิงสาว ส่วนเธอก็คลอเคลียหน้าอกกว้าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยรอยยิ้มยั่วยวน“ใช่ค่ะ คุณถามทำไมเหรอคะ?” เธอไม่รู้เรื่องที่ดินในมาเก๊าและไม่ทราบมาก่อนว่าพ่อเป็นเจ้าของ แต่เขาถามมาแบบนั้นเธอต้องพูดไว้ก่อน“ต้องการที่ดินแปลงมาทำกาสิโน” เขาบอกความจริงแค่เพียงครึ่งเดียว เพราะหากเขาได้ครอบครองเงินหลายร้อยล้านเหรียญจะแพร่สะพัดเข้ามาในกระเป๋าของเขาทันที“ทั้งๆ ที่คุณก็มีกาสิโน”“ผมยื่นข้อเสนอให้คุ
เหมยหลินกลับมาบ้านด้วยความคับแค้นใจตอนตอนนี้ก็ยังติดต่อดัสตินไม่ได้ หรือเขาจะพาเฟรินทร์เข้าโรงแรม แต่ถามแม่บ้านบอกว่าเจ้าตัวกลับมาบ้านนานแล้ว เธอกำลังหาโอกาสคุยกับพ่อเรื่องที่ดินในมาเก๊า วันนี้ท่านไม่ได้ออกไปทำงานเลยเป็นโอกาสดี เธออยากร่วมงานกับดัสตินและอยากได้หุ้นจากกาสิโนจนตัวสั่น “หนูมีเรื่องจะคุยกับคุณพ่อค่ะ” “นั่งก่อนสิลูก” “หนูเข้าเรื่องเลยนะคะ ที่ดินในมาเก๊าคุณพ่อมีแพลนจะทำอะไรไหมคะพอดีมีคนอยากได้ค่ะเขาให้ราคาดีมากเลยนะคะ” ชิงอีชะงักเมื่อเหมยหลินมาคุยเรื่องนี้ วันนั้นลูกชายคนโตเขาถอนหายใจออกมา คนที่อยากได้คงเป็นดัสตินที่เคยติดต่อขอซื้อกับเขาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เขาปฏิเสธและบอกว่าไม่ใช่ที่ของเขาอีกต่อไป “คุณพ่อขายไปเลยดีกว่าเราจะได้มีเงินเยอะไงคะ” ชิงอีอึกอักเมื่อถูกถาม แต่เหมยหลินก็คะยั้นคะยอจนเขาต้องโกหก “ที่ดินแปลงนั้นกำลังจะขายให้คนอื่นแล้ว” “ใครกันคะ?” “คนรู้จักของพ่อเอง”“คุณดัสตินเขาให้ราคาดีมากเลยนะคะ” เหมยหลินไม่ยอมแพ้พยายามถามว่าจะขายให้ใคร“ออกไปได้แล้วเราจะไม่คุยเรื่องนี้กันอีก อยู่ให้ห่างจา
ดัสตินขมวดคิ้วจนจะผูกเข้าด้วยกันได้เขาแค่แปลกใจชิงอีดูรักลูกสาวคนเล็กมาก แล้วทำไมถึงไม่ยอมปกป้องเฟรินทร์“เราจะทำยังไงกันต่อครับ”“ทำเหมือนเดินแค่เปลี่ยนแผน” ในเมื่อตอนนี้เหมยหลินไม่มีประโยชน์แล้วเขาไม่จำเป็นต้องทนตามจีบอีกต่อไป แต่สิ่งที่เขาเพิ่งรู้ทำให้เขาสับสนเช่นกัน“ผมว่าเราเข้าหาแบบตรงๆ เลยดีกว่าครับ” ส่งสารคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย“ผู้หญิงเหมือนกันหมดแหละส่งคนไปตามประกบเฟรินทร์ รายงานฉันตลอดส่งเครื่องเพชรไปปลอบใจแม่นางแบบนั้นด้วย”เขาหลับตาลงพร้อมนึกถึงใบหน้าแสนสวยที่ทำให้เขาคิดถึงตลอดเวลา จนเวลาจะเอาใครต้องเผลอครางชื่อหญิงสาวทุกครั้ง‘ดีเหมือนกัน ถ้าฉันได้ตัวเธอมาครอง เรื่องที่ดินก็คงไม่ยาก’ ดัสตินคิดแผนร้ายในใจเขาให้คนคอยตามดูเฟรินทร์ว่าแต่ละวันเธอไปไหนบ้าง และเขาก็ได้รู้ว่าหญิงสาวจะออกไปซื้อของใช้เดือนละสองครั้ง แล้วเขาก็วางแผนจะลักพาตัวหญิงสาว“เอายังไงต่อครับเราตามมาจนจะครบ 7 วันแล้ว”“ไปจับตัวเฟรินทร์เราจะกลับมาเก๊ากัน”ลี่ถังแอบกลืนน้ำลายเฟรินทร์ไม่ใช่คนที่อยากจะจับเจ้านาย หากจับตัวกลับมาเก๊าด้วยกันเขาสงสารเจ้านายจะต้องเจออะไรบ้าง“มีปัญหา?”“เปล่าครับ ผมจะสั่งกัปตั
เสียงร้องไห้ของเด็กทารกดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืน ราวกับเสียงระฆังเตือนภัยที่ปลุกให้คนเป็นพ่อสะดุ้งตื่นขึ้นจากสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ดัสตินยันตัวลุกขึ้นจากเตียง มือขยี้ตาที่หนักอึ้งและชุ่มไปด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะก้าวไปอุ้มร่างน้อยขึ้นมาแนบอก “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับลูก” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า กดจูบเบาๆ บนหน้าผากของเจ้าตัวเล็กที่กำลังสะอื้น ร่างน้อยดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขน พยายามผลักอกเขาเล็กน้อยเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง เขาถอนหายใจยาวพยายามไกวตัวลูกไปมา หัวของเขาหนักอึ้งราวกับมีหินก้อนใหญ่ทับเอาไว้ ดวงตาแดงก่ำและใต้ตาคล้ำลึกเป็นวง เหมือนหมีแพนด้าที่อดนอนมาสามวันติด เขาลองเปลี่ยนท่าอุ้ม ลองร้องเพลงกล่อม ลองพาเดินวนรอบห้อง แต่ทุกอย่างดูจะไม่เป็นผล เฟรินทร์ตื่นขึ้นมาพอดีจึงได้เห็นภาพนั้นพอดี ผู้ชายตัวโตที่อุ้มลูกไม่ค่อยเป็นกลางคืนเป็นหน้าที่เขาที่ต้องลุกขึ้นมาอุ้มลูกยามที่ลูกร้อง “ทำไมไม่นอนครับลูก…” น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความอ่อนล้าและสิ้นหวัง ทารกน้อยในอ้อมแขนยังคงแผดเสียงร้องไม่หยุด เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงจนสุดท้าย เมื่อไม่มีแรงแม้แต่จ
เหงื่อซึมทั่วใบหน้าซีดเซียว ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลอาบแก้มขณะกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ“อึก...!” เสียงครางลอดออกมาจากลำคอ เธอรู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง“สูดลมหายใจเข้าไว้! อีกนิดเดียวค่ะคุณแม่!”เสียงปลอบโยนจากหมอและพยาบาลดังก้องในโสตประสาท แต่ทุกอย่างรอบตัวกลับพร่ามัว เธอไม่มีแรงแม้แต่จะตอบรับมืออุ่นของใครบางคนกอบกุมมือเธอไว้แน่น ดวงตาคมเข้มเต็มไปด้วยความเป็นห่วง“อดทนไว้นะเมียจ๋า... พี่อยู่ตรงนี้”เสียงทุ้มต่ำของเขาสั่นเครือ เธอกัดฟันแน่น ก่อนจะเบ่งแรงสุดท้ายเสียงร้องแหลมเล็กดังก้องไปทั่วห้อง พร้อมกับลมหายใจของเธอที่เหมือนถูกดึงกลับมาอีกครั้ง น้ำตาที่เอ่อคลอร่วงเผาะลงข้างแก้ม แต่ครั้งนี้เป็นน้ำตาแห่งความสุข“ลูกของเรา...” เธอพึมพำเสียงแผ่ว ขณะที่พยาบาลวางร่างเล็กๆ ไว้แนบอก“หน้าตาน่าเกลียดน่าชังจัง”หัวใจของเธอเต้นแรง แต่ไม่ใช่เพราะความกลัวหรือความเจ็บปวดอีกต่อไป เป็นเพราะชีวิตน้อยๆ ที่เธออุ้มอยู่ในอ้อมแขนก่อนหน้านี้“อื้ม...!” เสียงครางเบาๆ ทำให้ร่างสูงที่กำลังนั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาสะดุ้งสุดตัว เขาหันขวับไปมองคนบนเตียง คนที่กำลังจับท้องตัวเองแ
เฟรินทร์มองหน้าคนที่เข้ามาบุกรุกห้องนอนของเธอ เขากระโดดขึ้นเตียงโดยที่เธอยังไม่ได้อนุญาต ตั้งแต่เกิดเหตุเขาหายเงียบไปสองสัปดาห์ไม่ยอมส่งข่าว ปล่อยให้เธอคิดไปฝ่ายเดียว และวันนี้เข้าโผล่หน้ามาทั้งโกรธทั้งคิดถึงเป็นห่วงเขาสารพัด แต่คนตรงหน้าเหมือนจะไม่รู้สึกผิด “มานอนสิจ๊ะเมียจ๋าไม่คิดถึงผัวเหรอ” “คุณตลกมากเหรอคะคุณดัสติน” เธอทั้งกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงเขา แต่เขากลับทำหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พี่แค่ปล่อยข่าวลือน่าตอนนี้พี่กลับมาครบ 32” “ไม่ต้องมาจับ!” เธอเบี่ยงตัวหนีไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัว “ที่รักขา~ พี่ผิดไปแล้วมาให้พี่ทักทายลูกหน่อย” “เราเลิกกันเถอะค่ะ เฟย์ไม่อยากให้ลูกตกอยู่ในอันตรายแบบคุณ” เธออยากใช้ชีวิตแบบปกติไม่ต้องคอยมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง ชีวิตอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา “ไม่เลิกให้ตายก็ไม่เลิก” พยานรักอยู่ในท้องแท้ๆ “นั่นเป็นปัญหาของคุณค่ะเราทำหน้าที่พ่อแม่ก็พอ” “ไม่เลิกพี่ไม่เลิก!” ต่อเอามีดมาจ่อที่คอก็ไม่มีวันเลิกเด็ดขาด “ออกไปค่ะ” “เฟย์ทำไมงี่เง่าจังเลยมันคืองาน
ประตูห้องฉุกเฉินปิดลงดัสตินหัวใจสลายเอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นเพราะเขาที่ดูแลเฟรินทร์กับลูกไม่ดี น้ำตาเขาไหลออกมาอย่างไม่อายสายตาของใคร เสื้อเชิ้ตสีขาวเปื้อนไปด้วยเลือดจนเปลี่ยนไป เสียงลมหายใจของเธอหนักขึ้น...เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเฟรินทร์ ขณะที่เธอนอนซมอยู่บนเตียงคนไข้ มือขาวซีดกำผ้าปูแน่น ร่างกายสั่นสะท้านเพราะความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาเป็นระลอก "หมอ...ช่วยลูกฉันด้วย..." เสียงของเธอสั่นเครือ ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หมอไม่พูดอะไรให้เสียเวลา เขาขยับเข้ามาตรวจร่างกายเธออย่างเร่งด่วน สีหน้าเคร่งเครียดขณะมองจอมอนิเตอร์ที่แสดงอาการของทั้งแม่และเด็ก ในขณะที่เฟรินทร์กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาเอ่อคลอจากความทรมาน "ยาได้แล้วค่ะ หมอ" พยาบาลส่งเข็มฉีดยาให้ หมอรับมาและรีบฉีดยาเข้าทางสายน้ำเกลือ พลางเฝ้าดูอาการของเธออย่างใกล้ชิด ทุกวินาทีช่างยาวนานเหลือเกิน หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความเจ็บที่ค่อยๆ ทุเลาลง หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความหวัง "ลูก...ลูกปลอดภัยไหมคะ?" หมอยิ้มบางๆ "ปลอดภัยแล้ว แต่อีกไม่กี่วันคุณต้องพักผ่อนให้มาก ห้ามเครี
“สวัสดีค่ะนายหญิงเมื่อคืนหลับสบายดีไหมคะ” “หลับสบายมากเลยค่ะ แต่มีรู้ว่ามีผีที่ไหนมาร้องห่มร้องไห้ทั้งคืน” พูดแล้วหันไปมองคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ขอบตาดำยิ่งกว่าหมีแพนด้า “ตายจริงโจรหรือเปล่าคะ” “โจรที่ไหนมันจะกล้าเข้ามาเหยียบที่นี่” แม้แต่แมลงสักตัวไม่อาจบินผ่านเข้ามาได้ ดัสตินนั่งทานอาหารเช้าเงียบๆ เมื่อเช้าดีนะตื่นก่อนหญิงสาวไม่อย่างนั้นคงโวยวายบ้านแตกที่ถูกเขาลวนลามตอนที่เธอหลับ “คุณลี่ถังไปส่งเฟย์ที่โรงแรมx หน่อยค่ะ” วันนี้เธอแต่งตัวสวยเพราะมีงานสำคัญ อย่าคิดว่าไม่รู้เมื่อคืนเขาแอบทำอะไรกับเธอ “ไปทำไม” อยู่ดีๆ จะไปโรงแรมไอ้แดนนี่ “ชิ” เฟรินทร์ไม่ตอบเดินไปรอลี่ลังที่รถดัสตินไม่รอช้ารีบเข้าไปนั่งในรถ จนมาถึงโรงแรมเขาถึงนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นงานหมั้นของแดนนี่ เฟรินทร์เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรู โดยมีดัสตินเดินตามหลังและลูกน้องของเขาเดินตามเป็นโขยง หลายคนกำลังคิดว่าสาวน้อยคนนี้คงมีความหมายสำหรับเขามากชายหนุ่มดูหวงแหน “มาแล้วเหรอพี่ชาย” “แด๊ดกับหม่ามี้ยังไม่กลับมาจากเที่ยวรอบโลก ไว้งานแต่งท่านต้องม
ดัสตินพาหญิงสาวกลับมาที่เซฟเฮาส์ในมาเก๊าเขาค่อยๆ วางหญิงสาวลงบนเตียงกลัวว่าคนตัวเล็กจะตื่น เขานั่งมองใบหน้าของเธอและหอมแก้มทั้งว้ายและขวาเวลานี้อะไรก็ยอมทุกอย่างขอแค่หญิงสาวไม่หนีไปจากเขาก็พอ เขาเดินมาส่องกระจกหน้าแดงบวมแดงแต่ไม่คิดโกรธเมีย“ผมเอายามาให้ครับ”“อื้อ ขอบใจ”“ทานยาแก้ปวดก่อนดีกว่าครับ”ดัสตินยอมทานยาเพราะตอนนี้เขาปวดแผลมาก ตอนที่อุ้มเมียไม่รู้สึกเจ็บเท่าไร เขานั่งลงนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง“โทนี่”“ครับ”“นายทำงานกับฉันมากี่ปีแล้ว?”“14 ปีแล้วครับ” ถามแบบนี้คงไม่คิดจะให้กันออกใช่ไหม รู้สึกเสียวสันหลังวาบ“ตอนนี้นายอายุ 36 แล้วหนิ...” เขาเว้นจังหวะการพูด “นายง้อผู้หญิงยังไงวะ นายอายุเยอะกว่าฉันน่าจะมีประสบการณ์มาก่อน”ไอ้โทนี่เป็นขี้ข้ารับใช้นายตั้งแต่เรียนจบจนอายุปูนนี้ยังไม่มีเมียตัวเป็นตน เขาไม่เคยจีบสาวมาก่อนและจะตอบคำถามเจ้านายยังไง“ถ้าตอบว่าไม่เคยจีบสาวมาก่อนเสียชาติเกิดมาก”แรงมาก แล้วตัวเองไม่เคยจีบสาวมาก่อนเหมือนกัน ถึงได้ทุกข์ระทมตกนรกแสนหมื่นล้านครั้งแบบนี้ ทำงานถวายหัวจะเอาเวลาที่ไหนไปจีบสาว“ผม...”“มึงตอบดีๆ” เขาคาดหวังกับคำตอบของโทนี่มาก จะได้ตามง้อเฟรินทร
หนึ่งสัปดาห์ที่เฟรินทร์เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านไม่ยอมออกไปไหน ชิงอีมารับลูกสาวตัวเองถึงมาเก๊าจนหญิงสาวต้องยอมกลับไป เพราะมั่นใจแล้วว่าไห่ฉงไม่มีทางกลับมาทำร้ายเธอได้อีก ส่วนเหมยหลินนั้นไม่มาวุ่นวายกับเธออีก เรื่องลูกในท้องมีแวบแรกที่เธอคิดอยากทำร้ายเขา เพราะไม่อยากให้ลูกมีชีวิตที่เหมือนเธอ เป็นลูกไม่มีพ่อเธอเคยผ่านความเจ็บปวดนั้นมา และไม่ยอมให้ลูกมีชีวิตแบบเธอเด็ดขาด เธอปรึกษากับหมอเรื่องเอาเด็กออก หมอบอกว่าสามารถทำได้หากเธอไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ แต่หมอบอกให้กลับคิดดีๆ ก่อน แต่พอคิดไปคิดมาลูกนั้นเป็นเหมือนตัวแทนความรักของเธอที่มีให้ดัสติน จะใจร้ายทำร้ายเขาลงได้อย่างไรในเมื่อเขาตั้งใจมาเกิดแล้ว “แกท้องได้กี่สัปดาห์แล้วทำไมไม่เห็นท้องโตเลย” เหมยหลินตอนที่รู้ว่าน้องสาวท้องนั้นตกใจไม่น้อย แต่ลึกๆ ก็เห็นใจเฟรินทร์ที่ต้องอุ้มท้องลูกของดัสตินแถมตอนนี้เหมือนว่าความรักจะไปกันไม่รอดอีก เลยเห็นใจในฐานะผู้หญิงด้วยกัน “7 สัปดาห์ค่ะ” “ไม่คิดจะกลับไปหาเขาเหรอ ไม่เห็นเขาจะมาง้อแกเลย” “ไม่ค่ะเฟย์เลี้ยงลูกเองได้” “อย่าหาว่าฉันสอนเลยนะ.
เฟรินทร์นั่งมองรูปอัลตราซาวล์ตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียว กำลังมีอีกหนึ่งชีวิตในท้องเขาเป็นลูกของเธอคนเดียว จะไม่ยอมให้ใครมาแย่งลูกไปจากเธอ“คุณดัสตินติดต่อมาพี่เฟย์จะคุยไหมคะ” มินนี่เห็นสาวรุ่นพี่ไม่ค่อยมีความสุขเลยอยากให้ปรับความเข้าใจกัน“ไม่พี่ไม่อยากคุยกับเขา”“มินนี่พาไปเดินเล่นดีกว่าจะได้หายเครียด”“พี่ขอโทษนะ ที่ทำให้มินนี่รู้สึกไม่ดีไปด้วย” เธอไม่เหลือใครแล้วหากร่างกายแข็งแรงจะรีบกลับเมืองไทยทันที“คุณมินนี่ครับนายให้มาเรียก”มินนี่ออกมาหาแดนนี่ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียง เรื่องนี้เธอกับเขาตกลงกันแล้วว่าให้เขาค่อยๆ เลิกบุหรี่ซึ่งเขาก็ตกลง“ไม่ต้องมาจูบไปปากเหม็น”“ฉันกำลังเลิกอยู่ก็เอาปากมินนี่มาให้ดูดแทนสิ” คนดูดบุหรี่มาตั้งแต่วัยรุ่นจนอายุสามสิบกว่า จะให้เลิกก็ยากแต่มันเลิกได้แต่ต้องใช้เวลาสักนิด จะหักดิบเลยเขาปรับตัวไม่ทัน“อย่ามาหื่นมินนี่จะพาพี่เฟย์ออกไปเดินเล่น”“เดี๋ยวให้คนตามไปห่างๆ อย่านาน” คิดถึงเมียช่วงนี้ชีวิตกำลังสงบสุข หากดัสตินหายเมื่อไรชีวิตคงคงมีสีมันขึ้นมา“เป็นห่วงเหรอคะ?” ตั้งแต่ตกลงคบหาดูใจกันเขาน่ารักขึ้นเยอะ แถมยังตามใจเธอทุกอย่าง“อยากอึ้บเมีย”“คน
เหมยหลินกลับมาบ้านด้วยความเจ็บใจทำให้ความโกรธความเกลียดที่มีต่อเฟรินทร์เพิ่มมากกว่าเดิม เขายอมเสี่ยงชีวิตช่วยมันถ้าไม่รักจะเพราะอะไร ระหว่างที่กำลังนั่งเครียดมีตำรวจน้ำดีขอเข้ามาตรวจค้นภายในบ้าน และออกหมายจับไฉ่หงทำให้เหมยหลินแปลกใจว่าพี่ชายไปทำอะไรมา “ผมขอเข้าตรวจค้นในบ้านครับนี่หมายค้น และนี่หมายจับ” “นี่มันอะไรกันผมไม่เข้าใจ” ชิงอีมองหมายค้นในมือตำรวจ เหมยหลินยืนอยู่ด้านหลังของพ่อใจคอเริ่มไม่ดีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับเฟรินทร์ “ไม่จริงลูกชายผมไม่ได้ทำแบบนั้น” “คุณเซี่ยไห่ฉงวางแผนและพยายามฆ่าคุณเฟรินทร์ ซึ่งเรามีหลักฐานในการเอาผิดรวมถึงการค้ายาเสพติดข้ามชาติ” ชิงอีแถมยืนไม่ไหวเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาเสียใจมากที่รู้ว่าลูกชายทำแบบนั้น เขาเลี้ยงดูไห่ฉงมาอย่างดีแล้วทำไมถึงไม่รักดีไปทำเรื่องเลวทรามแบบนั้น ไห่ฉงที่แอบฟังได้ยินเลยกำลังจะหนีแต่ตำรวจเห็นเสียก่อน เขาจึงถูกจับร่างกายไม่อำนวยต่อการหนีเท่าไรเพราะคนของดัสตินเล่นงานเขาอย่างหนัก “ผมขอจับคุณเซี่ยไห่ฉงในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และค้ายาเสพติดคุณมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ