ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแต่พอตื่นขึ้นมาได้ ก็ไม่เห็นคนที่ชอบนอนกอดเธออยู่ในห้อง เจ้าของร่างบางจึงเปิดประตูออกไปดู ว่าคิมหันต์กำลังทำอะไรอยู่?
หญิงสาวเดินดูทุกห้อง ในขณะที่เรียกชื่อเจ้าของร่างใหญ่ไปพร้อมกัน
“คิม...คุณอยู่ไหนคะ?”
อาหารที่ว่าถูกจัดวางเอาไว้บนโต๊ะอย่างดี โดยมีภาชนะครอบไว้ อยู่ภายในโซนของห้องครัว
ปลายฟ้าเดินวนไปมา เพื่อตามหาชายหนุ่มไปทั่วห้องพักขนาดกว้าง ภายในคอนโดหรูที่อยู่ใจกลางเมืองใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เห็นแม้เงาของเขา
ในขณะที่เจ้าของร่างบางกำลังเดินผ่านกระจกบานสูง ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น ในจังหวะนั้นเองสายตาของหญิงสาวก็ดันเหลือบไปเห็นคิมหันต์ กำลังพูดคุยอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งยืนอยู่ด้วยกันที่ลานจอดรถด้านล่าง
หัวใจของหญิงสาวหล่นวูบ และรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง เมื่อคิมหันต์แสดงให้เธอได้เห็นว่า เขาปล่อยให้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าโผเข้ามากอดพร้อมกับทำสีหน้าออดอ้อนเชิงร้องขอ แล้วพอเป็นอย่างนั้นคิมหันต์ก็ได้กอดเธอกลับไปทันที ก่อนที่จะยกฝ่ามือใหญ่ขึ้นไปลูบหลังเธอเชิงปลอบใจในจังหวะเดียวกัน
และในวินาทีนั้นเองที่ปลายฟ้ารู้สึกว่าโลกทั้งใบ ได้แตกสลายลงไปต่อหน้า แข้งขาพาลอ่อนกำลังจนต้องทรุดกายลงนั่งและร้องไห้ออกมาอย่างไม่คิดจะยั้ง
ทั้งอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังกัดฟันลุกขึ้นยืน และฝืนทนมองทั้งสองคนผ่านกระจกกั้นอีกครั้ง
จนกระทั่งได้เห็นคิมหันต์ เดินตามหลังผู้หญิงคนนั้นไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่ใกล้กัน โดยไม่ได้หันกลับมามองคนข้างหลัง ที่กำลังยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจยังไงบ้าง...
และนั่นคือครั้งสุดท้าย ที่ปลายฟ้าได้เห็นว่าชายคนรัก เดินจากไปพร้อมกับผู้หญิงอีกคน...
ต่อจากนี้ปลายฟ้าคงจะกลายเป็นแค่ความทรงจำสีจางๆ หรือบางทีหญิงสาวอาจจะไม่ได้อยู่ในความทรงจำของเขาอีกต่อไป...
นับแต่วันนั้น...
จนกระทั่งปัจจุบัน ความทรงจำเหล่านั้นกำลังไหลเวียนไปมาอยู่ในสมองของเธอ เพื่อให้รับรู้ถึงความเจ็บปวดทรมานที่เคยได้รับ ซึ่งมันก็ได้ห่างหายไปนานนับปี แต่ในเวลานี้มันกำลังฟื้นคืนกลับมา
หญิงสาวมีอาการกระสับกระส่ายทั้งที่ยังครองสติไม่ได้ เพราะในความฝันยังรู้สึกถึงความเจ็บปวด ที่ถูกทอดทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใยแต่ความเจ็บปวดและชอกช้ำเหล่านั้น กลับทำให้เจ้าตัวตื่นขึ้นมาจากห้วงแห่งความฝันได้
ดวงตากลมโตลืมตาตื่นขึ้นมามองฝ้าเพดาน กับแสงสว่างที่กำลังเจิดจ้าอยู่ภายในห้องที่เป็นของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ซึ่งมันเคยเป็นห้องพักเมื่อหกปีก่อน แต่ตอนนี้มันได้ถูกรีโนเวทให้กลายเป็นโรงพยาบาลที่ทันสมัยไปเสียได้ นั่นจึงทำให้หญิงสาวรู้สึกตกใจ
“ยายปลาย ฟื้นแล้วเหรอลูก เป็นยังไงบ้างยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่าฮึ?”
เสียงของบิดาซึ่งยืนอยู่ข้างกาย ทำให้ปลายฟ้ารู้สึกได้ถึงความอบอุ่น และมันก็บ่งบอกได้ในทันทีว่าเจ้าตัวยังมีลมหายใจ
“คุณพ่อขา พวกของไอ้ชลทิศมันตามมาฆ่าหนู” ปลายฟ้าบอกกับบิดาทันทีที่รู้สึกตัว
“ไม่ต้องกลัวแล้วลูก ไม่มีใครทำอันตรายหนูได้ แล้วตอนนี้หนูก็ปลอดภัย เห็นมั้ยว่าลูกไม่ได้เป็นอะไร”
ปลายฟ้าลองขยับเคลื่อนไหวร่างกาย พร้อมกับกวาดนัยน์ตามองไปทั่วตัว จากนั้นจึงเลื่อนสายตากลับมามองต้นแขนของตนที่มีผ้าพันแผลปิดเอาไว้อยู่ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูงเชิงสงสัยในเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านมา
“ตอนนั้นหนูถูกพวกมันยิงนี่คะคุณพ่อ”
“มันเป็นแค่แผลเฉี่ยวของกระสุนน่ะลูก และคุณหมอก็ได้ช่วยทำแผลให้ลูกแล้ว แต่ที่หนูเป็นลมก็เพราะหนูตกใจ โชคดีเหลือเกินที่คนของพ่อไปช่วยหนูไว้ได้ทัน”
ปลายฟ้านิ่วหน้าพลางทบทวนความจำที่ผ่านมา เมื่อนึกถึงใบหน้าสุดท้ายก่อนที่ภาพนั้นจะหายไป จากนั้นเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
ภาพใบหน้าของผู้ชายที่เธอเคยรักมาก แต่เขามาจากเธอไป และทอดทิ้งเธอไว้พร้อมกับลูกในท้อง
ผู้ชายสารเลวที่ได้ครอบครองพรหมจรรย์ของเธอ!
ภาพที่เธอนั่งรอคิมหันต์อยู่ในห้อง เป็นเวลาถึงหนึ่งสัปดาห์ กำลังไหลเข้ามาในสมองของเธอเป็นฉากๆ
ด้วยความชอกช้ำจากคนที่เธอรักมาก แล้วได้เห็นตำตาว่าเขามีผู้หญิงอื่น อีกทั้งเธอยังต้องฝืนทนมองดูเขายืนกอดกันอย่างไม่รู้สึกอาย ทั้งๆ ที่เพิ่งจะทำเรื่องบนเตียงกับเธอไปแท้ๆ
แต่ที่น่าจะหนักใจมากไปกว่านั้นนั่นก็คือปลายฟ้า กำลังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของผู้ชายคนนั้นอาศัยอยู่ในท้องของเธอ
เพราะมัวแต่เฝ้ารอเขาและเอาแต่เศร้าเสียใจ ปลายฟ้าจึงหลงลืมไปว่าครั้งสุดท้ายในวันนั้น เธอและคิมหันต์ต่างก็ไม่ได้ป้องกัน
หากเป็นเพราะวันนั้นถุงยางอนามัยที่เคยมีไว้มันดันหมดพอดี บวกกับที่ใจของหญิงสาวก็มัวแต่จดจ่ออยู่กับเรื่องราวเลวร้าย เธอจึงไม่ได้สนใจกับเรื่องอะไรทั้งนั้น และจำไม่ได้ด้วยมันจะต้องกินต่อไป แต่พอนึกขึ้นมาได้เวลามันก็ผ่านมาแล้วหลายสัปดาห์ และผลที่ตามมาจึงทำให้ปลายฟ้า ต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอยู่เพียงลำพัง
อีกทั้งยังโชคดีที่เจ้าสัวเทิดเข้าใจคนเป็นลูกสาว และไม่ได้คิดอยากเอาเรื่องราวกับผู้ชายคนนั้น เพราะท่านรู้สึกเป็นห่วงสภาพจิตใจของปลายฟ้าที่ถูกทำลายจนบอบช้ำอย่างน่าสงสาร และยินดีรับเลี้ยงหลานให้โดยไม่เคยต่อว่าอะไรเธอเลยสักคำ หลังจากที่ปลายฟ้าคลอดลูกออกมาได้ไม่กี่เดือน หญิงสาวก็ฝากให้มารดาเป็นผู้ดูแลหลาน ในระหว่างที่หญิงสาวต้องรีบกลับมาช่วยคนเป็นบิดาทำงานทุกๆ อย่างที่อยู่ในประเทศไทยเนื่องจากสถานการณ์มันบังคับให้ปลายฟ้า ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคนเป็นบิดา ดังนั้นเมื่อผิดหวังจากความรัก หญิงสาวจึงไม่อยากจะทำตัวให้เจ้าสัวเทิดต้องเสียใจ กับคนเป็นลูกสาวอย่างเธอเป็นครั้งที่สอง เธอจึงต้องตั้งใจทำงานให้กับท่าน ด้วยการบริหารงานของตนในส่วนที่สามารถรับผิดชอบแทนคนเป็นบิดาได้แม้กระทั่งเรื่องการประมูลเกาะปลาดาว ที่ทำให้เป็นปัญหากับนายทุนใหญ่ที่มีชื่อว่านายชลทิศ จนถึงขั้นสั่งคนตามติด เพราะต้องการจะปลิดชีวิตของเธอมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จสักที“คุณพ่อขาเราคงใช้ชีวิตอย่างประมาทไม่ได้อีกแล้วนะคะ ครั้งนี้มันอุกอาจมาก นี่ขนาดว่าเป็นเวลากลางวันแท้ ๆ แต่พวกมันกลับไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำราวกับ
“พ่อจะให้เขาเป็นคนติดตาม และคอยดูแลความปลอดภัยของหนูไปตลอด เพราะจากที่พ่อได้เห็นเขาเก็บคนของไอ้ชลทิศได้ทั้งหมด นั่นก็ถือว่าเขาเป็นคนที่มีฝีมือดีใช้ได้เลยทีเดียว”“คนแบบนี้หรือคะที่คุณพ่อไว้ใจ แล้วกล้าฝากฝังหนูเอาไว้กับเขาน่ะ อย่ามาตลกกับหนูดีกว่าค่ะ สู้ให้หนูไปไหนมาไหนตามลำพังอย่างเมื่อก่อนไม่ดีกว่าหรือคะคุณพ่อ? หรือไม่ก็ไปจ้างบอดี้การ์ดชุดเก่าให้มาดูแลหนูเหมือนเดิมก็ได้ หนูยอมให้ค่าตัวคนพวกนั้นมากกว่าผู้ชายคนนี้อีกสองเท่า”“ไม่เอาแต่ใจตัวเองแบบนี้สิลูก เรฟเขาจบมาจากสถาบัน ที่มีชื่อเสียงด้านการคุ้มกันผู้ว่าจ้างโดยเฉพาะ และที่สำคัญพ่อได้เซ็นสัญญากับเขาไปแล้วก่อนหน้าที่ลูกจะถูกทำร้ายมาซะอีก เพราะฉะนั้นอย่าเอาแต่ใจจนเกินไปนักเลย เมื่อก่อนเป็นเพราะความเอาแต่ใจของหนูนั่นแหละ ถึงทำให้ต้องกลับมาอยู่กับพ่อครั้งหนึ่งแล้วจำไม่ได้หรือไง?”ทำไมจะจำไม่ได้ในเมื่อตัวต้นเหตุก็ยืนอยู่ข้างกาย แต่กลับไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นเขา หญิงสาวมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มด้วยนัยน์ตาขุ่นขวาง คล้ายกับมีบางอย่างซ่อนอยู่ในดวงตาคู่หวาน แต่อีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้าน และที่สำคัญกว่านั้นนัยน์ตาของคิมหันต์มันดูเย็นชา และมอง
ปลายฟ้าหันไปคว้าแจกันที่วางไว้ข้างหัวเตียงแล้วเหวี่ยงไปที่ร่างใหญ่ แต่คิมหันต์ก็สามารถพลิกตัวหลบมันได้ อย่างว่องไวซึ่งเป็นไปตามสัญชาตญาณเพล้ง!เสียงแจกันตกกระทบมุมห้อง ทำให้มีเศษของกระเบื้องที่กระจัดกระจายไปทั่ว และตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเจ้าตัว“เป็นคุณเองไม่ใช่หรือไงที่ทอดทิ้งฉัน แล้วเดินหายไปกับผู้หญิงอื่นโดยไม่คิดจะบอกลา เพราะคุณเห็นว่าฉันเป็นแค่คู่นอนที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายและได้ระบายความใคร่ ของตัวเองลงไปก็เท่านั้นไงละ”“ปลาย!”“อย่ามาเรียกชื่อฉันอย่างนั้นนะ! คุณต้องเรียกฉันว่า เจ้านาย สิมันถึงจะถูกต้อง...เข้าใจตรงกันนะเรฟ...”เมื่อได้ยินปลายฟ้าพูดออกมาอย่างนั้น คิมหันต์จึงได้แต่กัดฟัน จนเป็นสันนูนขึ้นรูปชัดอย่างรู้สึกอัดอั้น เพราะไม่สามารถจะตอบอะไรกลับไปได้เจ้าของร่างใหญ่จ้องมองใบหน้าของอีกฝ่าย ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่อยู่ในดวงตาคู่คม “ผมไม่คิดเลยว่าเมื่อเราได้กลับมาพบกันอีกครั้ง นิสัยของคุณจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้”“ฉันไม่เคยเปลี่ยน! และนี่มันก็คือตัวตนของฉัน ทุกอย่างมันคืออดีตและฉันไม่ต้องการจะรื้อฟื้น... ”เขาหัวเราะเสียงขื่นในลำคอทันทีที่ได้ฟัง อีกทั้งยังเดินเข้ามาใกล้
ปลายฟ้าเพิ่งจะผ่านการถูกรอบฆ่าอันน่าหวาดเสียวคนเดียวมาหมาดๆ เจ้าสัวจึงไม่ยอมเด็ดขาดที่จะปล่อยให้คนเป็นลูกสาวต้องออกไปเผชิญกับเหตุการณ์ ที่เป็นอันตรายกับเจ้าตัวเพราะกลัวว่าฝ่ายตรงข้าม จะอาศัยจังหวะนี้มากระทำกับลูกของเขาเพราะต้องการจะซ้ำรอยเดิม(“พ่อยังอนุญาตให้หนูออกไปตอนนี้ไม่ได้หรอกลูก มันอันตรายเกินไป อีกอย่างตอนนี้พวกของมันกำลังมีท่าทีจะเข้ามาโจมตีในหลายๆ สถานที่ของเรา”) สิ่งที่ปลายฟ้ากังวลใจมาตลอดเริ่มจะกลายเป็นเรื่องจริง เพราะบิดาของหญิงสาวได้ขยายฐานธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ไปได้กว้างไกลกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมาดังนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่จึงถูกมองว่าเป็นทำเลทอง เพราะมีบริษัทของบิดาเข้าไปกว้านซื้อมันมาเก็บไว้ และนั่นหมายความว่ามันจะทำกำไรให้กับบริษัทของเจ้าสัวอย่างมากมายมหาศาล แล้วมันก็ดันไปขัดหูขัดตาของอีกฝ่ายเจ้าสัวเทิดจึงไม่ต้องการเอาชีวิตของลูกสาว ที่มีเพียงคนเดียวมาเสี่ยงอันตราย เพราะยังไงมันก็ได้ไม่คุ้มเสีย(“พ่ออยากจะให้ลูกวางเรื่องงานทุกอย่างลงก่อน เพราะตอนนี้สถานการณ์ที่เกาะปลาดาว ก็ยังไม่มีอะไรที่ทำให้น่าเป็นห่วงมาก ที่สำคัญแป้งร่ำก็กำลังอยู่ในวัยน่ารัก ช่วงนี่พ่อเลยอยากจะใ
เจ้าของมือบางกำปืนในมือเอาไว้แน่น แต่ในเวลาเดียวกันก็ความสับสนในใจเธอเกลียดคนตรงหน้ามากพอที่จะกล้าหันปลายกระบอกปืนไปหาเขาแล้วอย่างนั้นเหรอ? การบุกรุกเข้ามาในห้องของเธอในยามวิกาลมันต้องมีเหตุผลบางอย่างรึเปล่า? แต่ทุกเรื่องราวที่เธอเคยเผชิญมามันสอนให้เธอรู้ว่าไม่ควรไว้ใจใครหากไม่ใช่คนในครอบครัวในเมื่อเขาไม่ใช่ ปลายฟ้าจึงเลือกที่จะกำด้ามกระบอกปืน เอาไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้คนเย็นชายืนมองปลายฟ้าเงียบๆ ก่อนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“คุณพ่อของคุณถูกยิงเสียชีวิตแล้ว”นั่นเป็นเพราะเขารู้สึกคุ้นชินกับการสูญเสียทุกสิ่งอย่าง ที่มันมักจะเกิดขึ้นกับตนและคนที่อยู่รอบกายบ่อยครั้ง กระทั่งความตายเขาก็ยังเห็นว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วนั่นแหละแต่สำหรับปลายฟ้าพอได้ฟังข่าวการตายของคนเป็นบิดา มันทำให้เธอตัวชาวาบถึงกับสตั๊นไปชั่วขณะ คล้ายกับถูกสายฟ้าฟาดเข้ามาทั่วทั้งร่าง มองเห็นทุกอย่างรอบกายกลายเป็นสีขาวโพลน หัวใจเหมือนโดนบีบอัดด้วยอะไรสักอย่างจนแตกสลายไม่มีชิ้นดี ก่อนที่มันจะเต้นรัวขึ้นมาอีกครั้งอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับเสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ดังออกมาจนสุดเสียง“ไม่จริง!”ปลายฟ้ารู้ได้ทัน
คิมหันต์รู้ดีว่าปลายฟ้ากำลังตกอยู่ในภวังค์ของความแค้น เหมือนกับที่เขาเคยเจอและเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาทิ้งเธอไปโดยที่ไม่ได้เอ่ยลาเมื่อ โจแอล เพื่อนสนิทถูกองค์กรพิเศษส่งคนมาตามล่า เขาจึงต้องหาทางช่วย ด้วยการยอมเสี่ยงตายเข้าไปในสถานที่อันตราย โดยไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะเอาชีวิตรอด และสามารถเอาเพื่อนของเขากลับออกมาด้วยกันได้ หรืออีกอย่างทั้งคู่อาจจะนอนตายอนาจอยู่ในนั้นด้วยกันโจแอลกับคิมหันต์เป็นเพื่อนที่รักกันมาก เพราะทั้งสองคนได้เกิดและเติบโตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และถูกองค์กรต่างๆ มารับตัวไปอุปการะเลี้ยงดูตั้งแต่พวกเขามีอายุได้แค่เพียงเก้าปี โดยทางองค์กรได้อ้างว่าจะพาพวกเขาไปเลี้ยงดูอย่างดีและให้มีการศึกษา แต่ทว่าความจริงองค์กรเหล่านั้น กลับนำพวกเขาไปฝึกการต่อสู้อย่างหนัก เพื่อเป็นนักฆ่าหรือไม่ก็เป็นบอดี้การ์ดที่มีความสามารถเป็นพิเศษนักฆ่าและบอดี้การ์ดเหล่านั้นและจะถูกส่งตัวไปตามประเทศต่างๆ ที่ว่าจ้างกันมาในราคาค่อนข้างสูงโจแอลถูกฝึกให้เป็นนักฆ่า ส่วนคิมหันต์โชดดีกว่านั้นที่ครูฝึกมองเห็นแวว แล้วนำเขามาฝึกให้เป็นบอดี้การ์ด และจะต้องมีความสามารถที่ทำได้ทั้งสองทาง เพราะบางครั้งอาจต้
หลังจากนี้คิมหันต์คงจะต้องสะสางและจัดการเรื่องราวทุกอย่าง ตามที่ได้รับมอบหมายมาจากท่านเจ้าสัว ด้วยการใช้ชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพันงานศพของบิดาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ปลายฟ้าจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไปบ้าง แต่เท่าที่จำได้ดูเหมือนคิมหันต์จะทำทุกอย่างให้เธอมากกว่าในช่วงระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา การอารักขาผู้ว่าจ้างเป็นไปอย่างครบวงจรและเต็มรูปแบบ โดยที่ปลายฟ้าไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่างนอกจากนั่งเฉยๆ โดยมีคิมหันต์เป็นคนดูแลและวางแผนการ แต่ในส่วนของบ้านใหญ่คิมหันต์กลับไม่สามารถเอื้อมมือเข้าไปได้ เพราะเจ้าของเขาไม่อนุญาตให้ชายหนุ่มเข้าไปยุ่งวุ่นวาย แต่ความจริงปลายฟ้าไม่ต้องการให้คิมหันต์ได้เจอกับลูกสาวของเธอมากกว่า“กินข้าวสักคำก่อนไหมคะคุณหนู”เสียงของคนรับใช้ภายในบ้านเดินเข้ามาถามปลายฟ้าอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเจ้านายยังนั่งมองอาหาร โดยที่ไม่แตะต้องมันมามากว่าครึ่งชั่วโมง สาเหตุหลักก็มาจากที่เธอกลืนมันไม่ลง“ไม่ดีกว่า...ขอบใจมากนะ แล้วคุณแม่ละโทรมาบ้างหรือเปล่า?”“คุณผู้หญิงโทรมาบอกว่า ท่านอยากจะมาหาคุณหนูมากเลยค่ะ”“ช่วยไปรายงานคุณแม่ทีว่า ฉันอยากให้ท่านอยู่ที่นั่นไปก่อน สถานการณ์ใ
ดวงตาของร่างใหญ่ไหววูบลง แต่ยังคงมองใบหน้าเจ้าของร่างบาง ที่มักจะเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง อีกทั้งยังแตกต่างจากผู้หญิงที่เขารักเธอจนหมดหัวใจพอหายจากอาการโศกเศร้า เธอก็พร้อมจะแผลงฤทธิ์ใส่เขาทันที อย่างที่ชายหนุ่มคิดเอาไว้ไม่มีผิด“ปลาย....คุณกำลังจะหาเรื่องใส่ตัว” คิมหันต์กดเสียงต่ำ อย่างพยายามระงับอารมณ์ของตน ซึ่งผิดกับอีกคนที่ยังคงตะเบ็งเถียงเขาด้วยเสียงสูง“ฉันมีเงินมากมาย อยากจะทำอะไรก็ทำได้ ส่วนคุณเป็นคนรับจ้าง คุณไม่สิทธิ์จะมาต่อรอง เพราะฉันใช้เงินของฉันจ้างคุณมาพร้อมกับทำสัญญาถูกต้อง ไม่ใช่แค่คำพูดพล่อยๆ คุณว่าจริงมั้ยละ?....เรฟ...” ปลายฟ้าจงใจจะย้ำคำในท้ายประโยคนั่น มันเลยทำให้คิมหันต์สาดคำพูดร้ายๆ กลับไปให้เธอบ้างแทบจะทันที“เหมือนคุณจงใจจะพูดให้ตัวเองดูดีเลยนะปลาย แต่คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าว่าตัวคุณเอง ก็เป็นพวกที่ดีแต่ปาก ‘อยากมาก’ จนอดทนรอคนรักไม่ไหว ถึงกับต้องหนีไปมีผัวใหม่ แบบนี้ก็ไม่ไหวจะเคลียร์ แต่เสียดายที่ผู้หญิงประเภทนี้ ไม่ค่อยก้มหัวดูเงาของตัวเองเท่าไหร่ คุณว่าจริงมั๊ยละ?”ปลายฟ้าหน้าตึงขึ้นมาทันทีหลังจากที่ได้ฟัง แถมเจ้าของร่างบางยังพุ่งตัวเข้าไปใกล้ ราวกับต้องการจะเ
เมื่อกลับมาถึงบ้านตอนช่วงหัวค่ำ ทั้งสองคนจึงเดินไปส่งแป้งร่ำที่ห้องนอน ก่อนจะอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวสักพัก จนเจ้าตัวหลับไปแล้วนั่นแหละ ทั้งสองคนถึงได้พากันกลับมาที่ห้องเพราะคิมหันต์ต้องการทำให้ปลายฟ้าเซอร์ไพรส์ เขาจึงตีเนียนหน้าตาย หลังจากที่เก็บงำความลับนี้ไว้กับตัวมาหลายวัน“คุณไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ เหนื่อยกับลูกมาทั้งวัน ผมว่าจะไปดูความเรียบร้อยด้านล่างนั่นสักหน่อย เดี๋ยวผมมา”หญิงสาวทำเป็นเมิน ก่อนเดินจ้ำเท้าเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำหลังจากอาบน้ำชำระร่างกาย ปลายฟ้าก็มานั่งแปรงผมอยู่หน้ากระจกเงาราวชั่วโมงกว่าๆ แต่ก็ไม่เห็นทีท่าว่าคนเป็นสามีจะเข้ามาในห้องไวเท่าความคิดเมื่อได้ยินเสียงของลูกบิดประตู ที่ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับคนเป็นสามีและเมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกกักเก็บเอาไว้ก็ตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่อีกคนก็ยังไม่รู้ตัวงอนผัว!...แล้วเขาจะรู้ตัวตอนกี่โมง?ด้วยความหมั่นไส้หญิงสาวจึงทำท่าจะเดินหนีเขาไปอีกทาง แต่ถูกเจ้าของร่างใหญ่คว้าตัวมากอดไว้ได้จากทางด้านหลัง“คุณกำลังงอนผมอยู่ใช่มั้ย?” เขาฝังจมูกโด่งไล้ลงตามข้างแก้มของเธอเบาๆ ตอนถาม ส่วนห
ห้องรับรองแขกชัญญ่ายอมคายความลับของพี่ชายให้ปลายฟ้าได้รับรู้ทุกอย่าง กระทั่งสถานะของตนซึ่งรวมไปถึงเหตุผลของการมาที่เกาะปลาดาวแห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน“ฉันก็แค่อยากเห็นหน้าพี่สะใภ้ ว่าตัวจริงจะสวยงามตามที่พี่คิมเขาเล่าให้ฉันฟังมากแค่ไหน ฉันไม่อยากเห็นพี่ปลายแค่รูปถ่ายนี่นา พอดีว่าพี่คิมเขาอยากได้งาน เขาจึงวางแผนการให้ฉันได้มาที่นี่ ถ้าพี่ปลายจะโกรธพี่คิมก็โกรธไปสิคะ แต่พี่อย่าโกรธฉันเลยนะ...ฉันขอโทษ ”เมื่อโบ้ยความผิดให้คนเป็นพี่ชายเสร็จสรรพ เจ้าตัวก็ขยับเข้าไปใกล้คนที่เรียกว่าพี่สะใภ้ทีละนิดๆ แถมยังเรียกชื่อกันซะสนิทเชียว“แน่ใจนะว่าเป็นแผนของคิมหันต์แค่เพียงคนเดียว เธอไม่ได้มีเอี่ยวด้วยน่ะ” ปลายฟ้าเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตาตอนถาม เพราะยังไม่อยากจะเชื่อชัญญ่าตามนั้น“พี่ปลายยังไม่รู้อะไร พี่คิมน่ะเขาเป็นคนเจ้าแผนการจะตายไป พี่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือไง ที่พี่คิมเขายอมมาเป็นคนคุ้มกันให้กับพี่ ทั้งที่มีผู้ว่าจ้างแถบตะวันออกกลาง ยอมจ่ายค่าตัวให้พี่คิมเขาต่างหาก ซึ่งมันมากถึงเก้าหลักเลยนะพี่ปลาย แต่พี่คิมเขาก็ไม่เอา...”เรื่องนี้คิมหันต์ไม่เคยเล่าให้ปลายฟ้าฟัง อีกทั้งเธอเองก็ยังอยากจะร
เมื่อได้ยินคำถามนั่นชัญญ่าถึงกับทำหน้าตาเลิ่กลั่ก จากนั้นจึงหันซ้ายแลขวาซึ่งดูทีท่าแล้วไม่ค่อยน่าไว้วางใจ ปลายฟ้าต้องการจับคนทั้งคู่ให้มั่น แล้วคั้นให้ตายไปพร้อมกันเลยทั้งสองคนเพราะสิ่งที่เธอกำลังกังวลใจ มันน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่าครึ่ง ซึ่งไม่มีวันที่เธอจะยอมปล่อยผ่านมันไปง่าย ๆ“คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องที่พวกคุณแอบไปกินกันลับหลังฉันมันเป็นเรื่องผิด แล้วทำไมพวกคุณยังคิดที่จะทำ เคยนึกถึงความถูกต้องกันบ้างมั้ย อายุขนาดนี้แยกแยะชั่วดีกันไม่ได้เลยหรือไง”ยิ่งได้ว่าออกไปมันก็ยิ่งทำให้ปลายฟ้า ของขึ้นเสียจนอยากจะฆ่าทั้งสองคนให้ตกตายตามกันไป“เดี๋ยวนะคะ ในเมื่อมันเป็นเรื่องงาน ทำไมคุณจะต้องโกรธขนาดนั้นด้วยละคะ คุณไม่ดีใจเหรอที่สามีของคุณทำหน้าที่ของเขาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง”ชัญญ่ามองใบหน้าของปลายฟ้า ที่แสดงความเจ็บปวดผ่านทางสายตาออกมาให้เห็น เช่นเดียวกันกับคำพูดของเธอซึ่งฟังดูแล้วมันคล้ายกับกำลังดูหนังคนละม้วน ชวนพูดคนละเรื่องเดียวกันยังไงยังงั้นเลย...แล้วชัญญ่าก็ยังไม่คิดที่จะเฉลยให้อีกฝ่ายได้ฟัง ว่ากำลังเข้าใจอะไรผิดๆ และคงปล่อยให้ปลายฟ้าคิดไปเองตามนั้น“เอาแบบนี้ดีกว่านะคะคุณปล
เช้าวันต่อมาคิมหันต์ตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เพราะเขามีงานบางอย่างที่จำเป็นต้องไปจัดการ และทำให้เสร็จทันก่อนที่จะถึงวันสำคัญของตัวเอง“เดี๋ยวผมขอตัวเข้าไปทำธุระที่ฝั่งโน้นสักหน่อยนะ สัญญาว่าจะรีบกลับมาให้ทันมื้อค่ำของเรา”คิมหันต์บอกกับปลายฟ้า ที่ยังไม่ทันจะหายจากอารมณ์หงุดหงิด แต่แล้วสามีก็ยังคิดจะทิ้งเธอกับลูกไป ทั้งที่งานสำคัญจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้“คุณจะไปที่ไหน? กับใคร? แล้วธุระที่ว่านั่นมันคือธุระอะไร? และสำคัญกับคุณแค่ไหนเหรอ? ”เธอซักไซ้เขาราวกับว่าอีกฝ่าย ได้กลายเป็นนักโทษที่อยู่ในเรือนจำ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับไปไม่เป็น “อ่า...ผมแค่จะไปคุยธุระกับคนที่รู้จักกันแค่นั้นเอง” คิมหันต์ตอบไม่ตรงประเด็น และปลายฟ้าก็เห็นว่าเขาไม่ยอมสบตากับเธอตอนพูด“ไม่ต้องห่วงเรื่องงานในวันพรุ่งนี้นะ เดี๋ยวผมจะให้ออแกไนซ์มาคุยรายละเอียดเรื่องงานกับคุณ เธอชื่อ ชัญญ่า ผมฝากคุณด้วยละกัน”เขาฝากฝังปลายฟ้าเรื่องงาน หรือฝากให้เธอดูแลออแกไนซ์นั่นกันแน่...แถมเรียกแม่นั่นว่า ชัญญ่า อย่างสนิทสนมเจอกันแค่เพียงวันเดียว แต่สามีกลับฝากฝังผู้หญิงคนนั้น ไว้กับเธอได้อย่างหน้าตาเฉย เธอก็เลยตอบเขากลับไปว่า“ได้ค
เช้าวันรุ่งขึ้นคิมหันต์มองเรือลำใหญ่ที่วิ่งออกมาจากชายฝั่งผ่านกล้องส่องทางไกล จนกระทั่งเรือลำนั้นได้เข้ามาจอดเทียบท่าที่เกาะปลาดาวซึ่งคนที่อยู่บนเรือลำดังกล่าว ก็คือคณะที่มาจากบริษัทจัดทำออแกไนซ์ และเวลานี้ทุกคนต่างก็ช่วยกันขนของ ทยอยลงมาจากเรือลำที่เขาเป็นคนส่งให้ไปรับมาจากอีกฝั่งรูปร่างบอบบางของหญิงสาวเชื้อสายจีน-อิตาลี ได้ก้าวเท้าลงมายืนอยู่ที่บนพื้นทราย ขณะกวาดสายตามองหาใครบางคน จนได้พบกับเป้าหมายจากนั้นจึงเดินเข้าไปหาเจ้าของร่างใหญ่ พร้อมกับกล่าวคำทักทายซึ่งคล้ายกับคนคุ้นเคย“สวัสดีค่ะรุ่นพี่ สบายดีไหมคะ?”“สบายดีแล้วเราล่ะชัญญ่า ไม่เจอกันนานโตขึ้นเยอะเลยนะเรา” คิมหันต์เอ่ยทักและถามอีกฝ่ายกลับไปเช่นเดียวกัน“ฉันสบายดีค่ะ แล้วก็มีบางอย่างที่ฉันตั้งใจจะเอามาฝากพี่ด้วยนะ ไม่รู้ว่าพี่จะสนใจไหม?”ประโยคบอกเล่ากึ่งคำถามทำให้อีกคนต้องหันซ้ายแลขวา เหมือนกับกลัวว่าใครจะเห็นเข้าจากนั้นเจ้าของร่างสูงก็เดินจูงมือหญิงสาวปริศนา แล้วพาไปพูดคุยกันในมุมลับตาแต่ไม่ว่าคิมหันต์จะขยับตัวไปทางไหน มันก็ยังอยู่ในสายตาของใครบางคน ปลายฟ้าได้เห็นการกระทำของคนทั้งคู่จากบนอาคารที่อยู่สูงสุด เธอถึงกับส
เกาะปลาดาวช่วงต้นเดือนกุมภาพันธุ์ครอบครัวของปลายฟ้า ก็มักจะพากันมาจัดงานรำลึกถึงผู้วายชนม์ นั่นก็คือคนเป็นบิดาของเธอในทุกๆ ปี และสถานที่จัดงานก็คือเกาะปลาดาวเหมือนที่ผ่านมาแต่ปีนี้ปลายฟ้าต้องการทำบรรยากาศของงานให้มีความสนุกครึกครื้นเพิ่มขึ้นมาบ้าง ซึ่งระยะหลังก็สามารถทำใจกันได้แล้วนั่นแหละส่วนตัวของคิมหันต์เองก็ได้กลายเป็นคุณพ่อติดลูก ซึ่งความผูกพันธ์อันนี้ที่ทำให้เขาตัดสินใจ ลาออกจากองค์กรของบอดี้การ์ดและนักฆ่า ซึ่งเขาคิดว่าคงจะไม่กลับเข้าไปทำอาชีพนั้นอีกแล้วคิมหันต์ไม่ต้องการเสี่ยงอันตราย แล้วทำให้คนในครอบครัว ต้องมาคอยเป็นห่วงเป็นใยในตัวเขาเหมือนที่ผ่านมาการจัดงานครั้งนี้คิมหันต์จึงเสนอปลายฟ้า ให้เธอว่าจ้างบริษัทที่รับจัดงานออแกไนซ์ แล้วหลังจากที่ตกลงกันได้ เขาจึงนำโบชัวร์มาให้เธออ่านถึงรายละเอียดต่างๆ พลางปล่อยให้เธอเลือกเอา ตามที่ใจของเธอต้องการหญิงสาวนั่งอ่านมันอย่างขะมักเขม้น ก่อนเหลือบไปเห็นคนเป็นสามีจ้องมองมาที่เธอ ด้วยสายตาที่เจ้าตัวอ่านเขาได้ไม่ยากนักหากแต่ทำเป็นสนใจกับเอกสารตรงหน้า ขณะที่สายตาก็คอยชำเลืองมองสามีของตัวเองเป็นระยะๆ“คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ?”ก็รู้แห
คิมหันต์เคยผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความเป็นความตายมาแล้วนับครั้งไม่ได้ เรื่องความเจ็บปวดมากมายที่เคยได้รับ มันไม่เท่ากับความเจ็บปวดในครั้งนี้ หากเขาจะต้องพลัดพราก จากคนที่รักมากไปถึงสองคนถ้าเขายอมปล่อยมือจากเธอไป เขาคงเจ็บปวดเจียนตาย ถึงแม้จะอยู่ได้ แต่มันก็เหมือนกับคนที่ตายทั้งเป็น“ผมไม่อยากไปไหน ผมอยากอยู่กับคุณและลูกของเรา ผมอยากสัมผัสกับคำว่าครอบครัวที่ผมไม่เคยมี ผมจะไม่ยอมเป็นผู้ชายหน้าโง่คนนั้นอีกแล้ว และผมจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้คุณกับแป้งร่ำได้อยู่กับผมตลอดไป ต่อให้ผมต้องขังคุณไว้ ผมก็จะทำ!...”มันเป็นคำง้องอน เชิงข่มขู่ที่ดูแข็งกระด้าง อย่างที่ไม่น่าให้อภัย แต่มันก็ทำให้ปลายฟ้า เผลอยิ้มออกมาได้ทั้งน้ำตาเลยนั่นหละคิมหันต์หยัดตัวลุกขึ้นยืน พร้อมกับอุ้มลูกสาวเอาไว้ข้างหนึ่งจากนั้นจึงรั้งร่างของปลายฟ้าเข้ามากอดเอาไว้แนบกาย ก่อนจะเช็ดน้ำตาออกให้พ่อแม่ลูก...จึงได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง...“คุณห้ามทำให้ฉันเสียใจแล้วก็ผิดหวังอีกนะคะ เพราะฉันไม่ใช่ผู้หญิงปัญญาอ่อน ที่จะยอมให้ผู้ชายอย่างคุณมาหลอกครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้ามีครั้งต่อไปฉันจะหาผู้ชายคนใหม่ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนดีก
เมื่อคิมหันต์มองผ่านทะลุกระจกบานกว้าง ก็ได้เห็นว่าปลายฟ้ากำลังพาลูกสาวขึ้นไปนั่งบนรถโดยสาร เพื่อมุ่งหน้าไปยังเครื่องบินที่กำลังจอดรออยู่ไม่ไกล พอเห็นอย่างนั้นคิมหันต์จึงรีบพุ่งตัว วิ่งตามออกไปทันที โดยที่ไม่สนใจว่า ประตูทางฝั่งขาเข้ากำลังจะปิดลงเจ้าของร่างสูงวิ่งตามรถมินิบัสที่บรรทุกผู้โดยสาร ขณะเดียวกันเขาก็พยายามโบกมือไปมา เพื่อร้องขอให้รถคันนั้นหยุดรอ พอเป็นอย่างนั้น แป้งร่ำที่มองเห็นคนเป็นลุงกำลังวิ่งไล่ตามมาในระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกล เธอจึงรีบทุบกระจกบานใส ที่กั้นอยู่ทางด้านหลังของคนขับ พร้อมกับตะโกนออกไปว่า “จอดรถก่อนได้มั้ยคะ? คนลุงของหนูมาตามหนูแล้ว ช่วยจอดรถให้คุณลุงหนูก่อนได้ไหมคะ?...หนูขอร้อง...ฮึกๆ ”“แป้งร่ำ! หนูอย่าพูดอย่างนั้นนะ เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรา ทำไมหนูจะต้องเป็นห่วงใยเขาขนาดนั้นด้วยลูก”“ไม่ห่วงได้ยังไงละคะ ในเมื่อคุณยายบอกกับหนูว่า คุณลุงเป็นพ่อของหนู...ฮื่อๆ ”เด็กหญิงรีบแย้งกลับไป พร้อมกับร้องไห้ออกมาตามประสาหัวใจของปลายฟ้าร่วงลงไปกองรวมกันอยู่ที่ตาตุ่มทันทีที่ได้ยินที่แท้แล้วพ่อและแม่ของเธอรู้เรื่องนี้ มาตั้งนานแล้วนั่นแหละ แต่กลับไม่มีใครยอมบอกเธอน
เสียงสะอื้นไห้ของคนเป็นมารดา ทำให้แป้งร่ำรู้สึกเสียใจไม่ต่างกัน สองวันแล้วที่ปลายฟ้า พาแป้งร่ำมานอนอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในแถบชานเมือง เพราะไม่ต้องการให้แป้งร่ำรู้เรื่องรู้ราวของพวกผู้ใหญ่ เธอจึงไม่ได้บอกอะไรลูกสาว ทำได้ก็แค่ร้องไห้ออกมาราวใจจะขาด กับภาพบาดตาบาดใจ ที่ปลายฟ้าได้เห็นว่าจูลี่ กำลังนั่งคร่อมอยู่บนตัวตน ของอีกคนที่นั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาแถมใบหน้าของคนทั้งคู่ ก็คล้ายกำลังจูบกันอยู่ อีกทั้งมือใหญ่ก็ยังสอดเข้าไปรั้งเอวบางเข้ามากอดแนบกาย นั่นยิ่งทำให้ปลายฟ้ามั่นใจว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ไม่ใช่แค่เพียงคนรู้จักกันในแบบธรรมดา ทั้งที่หญิงสาวควรจะเชื่อตัวเองให้มากกว่าใคร แต่กลับปล่อยตัวปล่อยใจให้ต้องเจ็บช้ำเพราะน้ำมือของเขา เธอรู้สึกสมน้ำหน้าตัวเองเอามากๆ ที่ไม่รู้จักหลาบจำได้สักที“ทำไมคุณแม่ต้องร้องไห้หนักขนาดนี้ด้วยละคะ ตอนที่คุณแม่เดินเข้าไปในบ้าน แล้วรีบวิ่งออกมาคุณแม่ไปเจออะไรเข้าหรือคะ?”แป้งร่ำเอ่ยถามคนเป็นมารดา ด้วยความอยากรู้ตามประสา แต่ปลายฟ้าก็รีบปฏิเสธกลับไปว่า“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะลูก ไม่ต้องสนใจแม่หรอกนะ แม่มันโง่เอง แต่ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าความรักความภักดีมันไม่มีอยู