หลี่เต๋อหลงที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ก็โมโหสุดขีด!ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยรู้สึกอึดอัดใจเหมือนวันนี้มาก่อนเลย!บัดซบ!ช่างบัดซบจริงๆ!“ไอ้เด็กเวรนี่ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าวางสายโทรศัพท์ฉัน!” หลี่เต๋อหลงพูดด้วยความโกรธอาจารย์เฉียวเอ่ยปากแนะนำว่า:“ผู้อาวุโสหลี่ ตอนนี้ชีวิตของคุณหนูหลี่อยู่ในกำมือของอีกฝ่าย คุณทำได้แค่กล้ำกลืนฝืนทนเท่านั้น”หลี่เต๋อหลงก็เข้าใจได้โดยปริยายเขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบสติอารมณ์ของตนเอง ก่อนที่จะโทรออกอีกครั้งทันทีที่รับสาย หลี่เต๋อหลงก็พยายามกล่าวอย่างสุภาพว่า: “เซียวเป่ย ฉันจะไม่พูดอ้อมค้อมกับนายแล้ว นายรีบมาแก้ยมบาลสิบสามเข็มให้ลูกสาวของฉันเร็ว”“ทำไมผมต้องฟังคุณด้วย?” เซียวเป่ยหัวเราะอย่างเย็นชาหลี่เต๋อหลงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ระงับความโกรธเอาไว้ในใจ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำทุ้มว่า: “ถ้านายสามารถแก้ได้ เรื่องนี้ ฉันจะไม่ติดใจเอาความอีกต่อไป”“คุณบอกว่าไม่ติดใจเอาความก็ไม่ติดใจเอาความเหรอ?”เซียวเป่ยหัวเราะ สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา แล้วกล่าวว่า: “คุณไม่ติดใจเอาความ แต่ผมจะติดใจเอาความ!”“โอหัง! ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
แพทย์ชื่อดังเจ็ดถึงแปดคนต่างก็มองหน้ากัน แล้วส่ายหัวหลี่เต๋อหลงทั้งโกรธทั้งร้อนใจ จึงตะโกนว่า: “ออกไป! ไสหัวออกไปจากที่นี่!”แพทย์ชื่อดังเหล่านี้ต่างก็พากันวิ่งออกจากห้องคนไข้อย่างวิตกกังวลหลี่เต๋อหลงตะโกนอยู่ในห้องคนไข้ด้วยความโกรธว่า: “ไอ้พวกหมอไม่มีน้ำยา!เป็นหมอไม่เอาถ่านกันทั้งกลุ่ม! แล้วยังมาโอ้อวดว่าตนมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมอะไรอีก ตอนนี้แม้แต่เข็มสองสามเล่มก็เอาออกมาไม่ได้!”หลี่เต๋อหลงเกรี้ยวโกรธมาก จนแทบจะเป็นบ้าอยู่ตรงนั้น!“พ่อคะ...เจ็บจัง เจ็บมากเลย...”ทันใดนั้น หลี่เซียงเหลียนที่อยู่บนเตียงก็คร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อฟังเสียงคร่ำครวญเหล่านี้ หลี่เต๋อหลงก็ปวดใจดังไฟสุมทรวง“ไม่ได้การแล้ว นายท่าน ทวารทั้งเจ็ดของคุณหนูเริ่มมีเลือดไหลออกมาแล้ว!”ทันใดนั้น ลูกน้องคนหนึ่งที่อยู่ข้างเตียงก็ตะโกนขึ้นมาหลี่เต๋อหลงเหลือบมอง ก็ตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือดทันที: “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เซียงเหลียน เซียงเหลียน ...”“เรียกแพทย์ เรียกแพทย์เข้ามาเร็ว!”ไม่นาน แพทย์ก็รีบเข้ามา แล้วรีบช่วยหลี่เซียงเหลียนเอาไว้พอผ่านไปสักครู่ใหญ่ๆ หลี่เซียงเหลียนก็พ้นจากอันตราย แต่สถานก
หยางเหม่ยหลันรีบดึงซูหว่านเอาไว้ แล้วดุทันทีว่า: “ลูกแม่! ลูกจะทำอะไร? ไม่เห็นด้วย? ถ้าลูกไม่เห็นด้วย ท้ายที่สุดแล้วคนที่น่าอนาถที่สุดจะเป็นตระกูลซูของพวกเรา! และเป็นลูกเองนะ!”“แม่คะ ทุกคนจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ!ถ้าเซียวเป่ยไม่ช่วยหนู หนูอาจจะตายไปแล้วก็ได้” ซูหว่านกล่าวอย่างร้อนใจจากนั้น เธอก็ถอดแว่นกันแดด หน้ากาก และหมวกของตนเองออก จากนั้นทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรวมถึงท่านผู้เฒ่าหญิงก็ได้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นของเธอเมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาอันอัปลักษณ์ของซูหว่าน ทุกคนในตระกูลซูและท่านผู้เฒ่าหญิง ต่างก็พากันตกตะลึง!“หว่าน หว่านเอ๋อร์...หน้าของหลาน...”ท่านผู้เฒ่าหญิงซูถามด้วยสีหน้าท่าทางที่หวาดกลัวรูปลักษณ์ของซูหว่านในขณะนี้ เหมือนครึ่งผีครึ่งคนจริงๆทุกคนในตระกูลซูก็ถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์เช่นเดียวกัน“ทำไมซูหว่านถึงได้กลายเป็นแบบนี้?”“น่าเกลียดเกินไปแล้ว!”“น่าอนาถมาก บาดแผลบนใบหน้า ถูกมีดกรีดมาใช่ไหม...ใครกัน ที่กล้าทำแบบนี้กับตระกูลซูของพวกเรา!”ซูหว่านมองท่านผู้เฒ่าหญิง ด้วยน้ำตาที่ไหลอาบหน้า สะอื้นไห้พร้อมกล่าวว่า: “คุณย่าคะ หลี่เซียงเหลียนของตระกูลหลี่คนนั้นเป็
“ขอบอกตามตรงนะว่า วันนี้ แกจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!ตามพวกเราไปที่ตระกูลหลี่ แล้วปล่อยให้ตระกูลหลี่ลงโทษตามใจชอบเสียแต่โดยดี!”“ถ้าแกมีท่าทีที่ดี บางทีแกอาจจะมีชีวิตรอดก็ได้!”เซียวเป่ยเลิกคิ้ว แล้วมองหยางเหม่ยหลันด้วยสายตาที่เฉียบคม ทำให้เธอตกใจจนต้องถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วพูดด้วยความหวาดกลัวว่า: “แกมองอะไรของแก? แกยังคิดที่จะลงไม้ลงมืออยู่ที่นี่อีกเหรอ?”“เทียนห้าว!ลงมือเร็วเข้า! รีบจับตัวเขาเอาไว้!”ซูเทียนห้าวพยักหน้า โบกไม้โบกมือ แล้วตะโกนว่า: “ลงมือ!”ชายฉกรรจ์หลายสิบคนเหล่านั้น ก็รีบพุ่งเข้าไปหาเซียวเป่ย“อย่านะ อย่า...”ซูหว่านรีบวิ่งออกมา คิดที่จะขัดขวางเซียวเป่ยขมวดคิ้ว กำลังจะต่อสู้กลับที่ประตู จู่ๆก็มีแม่บ้านคนหนึ่งวิ่งเข้ามา แล้วตะโกนด้วยความตื่นตระหนกว่า: “ท่านผู้เฒ่าหญิง แย่แล้วแย่แล้ว คนจากตระกูลหลี่มาแล้ว!”“อะไรนะ?!”สีหน้าท่าทางท่านผู้เฒ่าหญิงดูตกใจมาก ลุกขึ้นยืน พร้อมกับร่างกายที่สั่นเทาเล็กน้อยตระกูลซูทุกคนที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็พากันหวาดกลัวสุดขีดคนตระกูลหลี่มาเยือนถึงบ้าน...แย่แล้วแย่แล้ว!วันนี้ คงจะจบกันด้วยดีไม่ได้แล้ว“ทำยังไงดี?คราวนี้พวกเราจะ
การตบในครั้งนี้ ทำให้ซูเทียนห้าวตกตะลึง มองไปที่ท่านผู้เฒ่าหลี่ด้วยนัยน์ตาที่เบิกกว้าง แล้วกล่าวอย่างนอบน้อมว่า: “ผู้อาวุโสหลี่ คือว่าผม ผมกำลังจะมัดตัวเขา เพื่อมอบตัวเขาให้คุณจัดการนะ?”ซูเทียนห้าวมีสีหน้าที่ตื่นตระหนกท่านผู้เฒ่าตระกูลหลี่เป็นบ้าอะไรเนี่ย ถึงได้ตบหน้าตนเอง เพราะเซียวเป่ย?“ถ้าจะมัด ก็ต้องเป็นตระกูลหลี่มัด! มันไม่เกี่ยวอะไรกับแก? ไสหัวออกไป!”หลี่เต๋อหลงตะคอกด้วยความโกรธในเวลานี้เขาได้ระบายความไม่พอใจที่มีต่อเซียวเป่ย ไปที่บนตัวของซูเทียนห้าวซูเทียนห้าวตกใจกลัวจนขนลุกชูชัน และสั่นเทาไปทั้งตัว จากนั้นก็รีบพยักหน้าอย่างต่อเนื่องแล้วตอบกลับไปว่า: “ครับครับครับ จะไสหัวไปเดี๋ยวนี้เดี๋ยวนี้เลยครับ ...”ทุกคนในตระกูลซูต่างก็พากันตื่นตระหนก มองหน้ากันแล้ว และก็ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าอีกหลี่เต๋อหลงมีใบหน้าที่บูดบึ้ง หันไปมองเซียวเป่ย จากนั้นก็เดินไปหาเขาทีละก้าวซูหว่านที่ยืนอยู่ข้างหลังเซียวเป่ย ไม่รู้ว่าเอาความกล้าหาญมาจากไหน เดินเข้ามายืนที่ตรงหน้า บังเซียวเป่ยเอาไว้ แล้วกล่าวขอโทษหลี่เต๋อหลงอย่างต่อเนื่อง: “ท่านผู้เฒ่าหลี่ ฉันขอโทษฉันขอโทษ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะ
จากนั้น ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจสุดขีดของทุกคน หลี่เต๋อหลงก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว โดยได้โค้งคำนับให้ซูหว่านที่กำลังร่ำไห้แล้วกล่าวว่า “คุณหนูซู ผมขอโทษ”หกคำง่ายๆ แต่กลับทำให้ทุกคนตกตะลึง!เกิดอะไรขึ้น?หลี่เต๋อหลงกำลังขอโทษซูหว่านเหรอ?สมาชิกตระกูลซูกลุ่มหนึ่ง แทบจะไม่เชื่อภาพเหตุการณ์ที่พวกเขาเห็นอยู่ตรงหน้า!นั่นใคร?หัวหน้าตระกูลหลี่ในเมืองหลวงของมณฑลเชียวนะ!เป็นคนที่มีอิทธิพลอำนาจมาก“นี่...หัวหน้าตระกูลหลี่ ท่านจะทำอะไร?”ท่านผู้เฒ่าหญิงซูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยปากถามหลี่เต๋อหลงเพิกเฉยต่อท่านผู้เฒ่าหญิงซู แล้วพูดกับซูหว่านที่ยังคงตื่นตระหนกว่า: “คุณหนูซู มูลเหตุของเรื่องนี้ ผมได้ตรวจสอบมาแล้ว เป็นเพราะหลานชายที่ไม่เอาไหนของผมคนนั้นเป็นคนทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา”“เรื่องนี้ ถือว่าเป็นความผิดอันใหญ่หลวง ล้วนเป็นความผิดของหลานชายและลูกสาวของผม เป็นความผิดของตระกูลหลี่ ที่ผมอบรมสั่งสอนพวกเขาได้ไม่ดี คุณหนูซูได้โปรดเมตตา ยกโทษให้หลานชายและลูกสาวของผมด้วย”พูดจบ หลี่เต๋อหลงก็โค้งคำนับเก้าสิบองศาแล้วกล่าวขอโทษภาพเหตุการณ์นี้ ทำให้ทุกคนในตระกูลซูตะลึงจนอ้าปาก
คำพูดประโยคนี้ของซูหว่าน ทำให้สายตาของทุกคนในตระกูลซู โฟกัสไปที่เซียวเป่ยไปโดยปริยายใช่แล้วเซียวเป่ยเป็นคนทำร้ายหลี่เซียงเหลียน และดูเหมือนว่า จะอนาถกว่าซูหว่านเสียอีกถึงกระนั้น หลี่เต๋อหลงหัวหน้าตระกูลหลี่กลับไม่โกรธเคือง ไม่แก้แค้น แต่กลับวิ่งแจ้นมาขอโทษเป็นไปได้ไหมว่า เซียวเป่ยกำลังปิดบังอะไรกับทุกคนอยู่?“เซียวเป่ย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?แกบอกพวกเรามาเดี๋ยวนี้นะ!”หยางเหม่ยหลันตะโกนเสียงดัง ด้วยสายตาที่เฉียบคมเซียวเป่ยขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “ฉันเคยบอกว่า เรื่องนี้ผมจะแก้ไขปัญหาเอง ในเมื่อตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ผมขอตัวไปก่อนนะ”ทันใดนั้น สีหน้าของหยางเหม่ยหลันก็ดูแปลกไปเด็กคนนี้แก้ไขปัญหาได้เองจริงๆเหรอ?ซูหว่านก็มองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่แปลกๆ ในขณะที่เธอกำลังจะถามต่อ ฉินเฟิงที่สวมชุดสูท และนาฬิกาที่มีชื่อเสียง ก็รีบวิ่งเข้ามาจากประตูเมื่อเห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ฉินเฟิงก็ตะโกนเสียงดังว่า: “ท่านผู้เฒ่าหญิงกับคุณป้าหยางก็อยู่ด้วย พอดีเลย ผมมีข่าวดีจะบอกทุกคน เรื่องที่ตระกูลหลี่แบนตระกูลซูและปิงฉิ้นกรุ๊ป อีกสักพักก็จะถูกยกเลิกแล้ว”“ครั้งนี้ ผมไหว้วานพ
“แม่เป็นคนบอกเขาเอง!”หยางเหม่ยหลันพูดแทรกขึ้นมา แล้วกล่าวกับซูหว่านว่า: “ลูกอกตัญญู แม่เลี้ยงลูกมาตั้งนาน นึกไม่ถึงว่าลูกยังคิดที่จะแบกรับความผิดเอาไว้เอง เพื่อรับโทษแทนเซียวเป่ยไอ้สารเลวคนนั้น? บอกแม่มาสิว่า ทำไมลูกถึงได้เป็นคนจิตใจคับแคบแบบนี้?“ถ้าแม่ไม่ติดต่อเสี่ยวฉินเอาไว้ก่อนหน้านี้ และเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง ตอนนี้ทุกคนจะปลอดภัยไหม?”ต่อว่าไปต่อว่ามา หยางเหม่ยหลันก็หันหน้าไปหาเซียวเป่ยแล้วตะโกนว่า:“ไอ้คนแซ่เซียว! วันนี้ถือว่าช่วยชีวิตแกเอาไว้ได้ ถ้าเสี่ยวฉินไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย ตอนนี้แกคงจะถูกตระกูลหลี่พาตัวไปแล้ว!”“ยังยืนบื้ออยู่ทำไม?ยังไม่รีบโค้งคำนับขอบคุณเสี่ยวฉินอีก!”ทันใดนั้น สายตาของทุกคนในตระกูลซู ต่างก็โฟกัสไปที่เซียวเป่ยเซียวเป่ยขมวดคิ้ว และพูดอย่างไม่พอใจว่า: “อยากให้ผมโค้งคำนับขอบคุณ? คุณแน่ใจขนาดนี้เลยเหรอว่า เรื่องนี้เป็นเพราะเขา?”“โอ๊ย ช่างเป็นคำพูดที่น่าขันจริงๆ!ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวฉิน จะเป็นเพราะไอ้สารเลวอย่างแกหรือยังไง?”หยางเหม่ยหลันกลอกตาใส่ แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า: “ถ้าต้องพึ่งพาแก ตระกูลซูของพวกเรา คงจะจบเห่ไปนานแล้ว!”“ใช่แล้ว!ไอ้คนแซ่เซียว ถ
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?