“ใครวะ?”หานตงถิงตกใจ และหันกลับไปมองทันทีก็เห็นว่าร่างหนึ่งที่มีจิตสังหารแพร่กระจายออกมาอย่างท่วมท้น ราวกับราชาปีศาจแห่งนรก กำลังพุ่งเข้ามาหา!วินาทีต่อมา ร่างนั้นก็รีบวิ่งไปที่ตรงหน้าหานตงถิง เขาถึงมองเห็นคนที่มาได้อย่างชัดเจน“เป็นแกนี่เอง เซียวเป่ย!”หานตงถิงอุทานออกมาแต่ว่า เขายังไม่ทันได้ตอบสนอง เซียวเป่ยก็ลงมือ คว้าผมของเขาเอาไว้ แล้วเหวี่ยงเขาลอยกระเด็นออกไป ชนโต๊ะเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆดังโครม แล้วกระแทกลงบนพื้น ไถลห่างออกไปหลายเมตรในขณะนี้ บนเตียง จิตรู้สำนึกของซูหว่าน ก็ได้เลือนลางไปหมดแล้วจึงทำให้มองเห็นร่างที่อยู่ตรงหน้า ได้ไม่ชัดเจนนักเธอรู้สึกอย่างคลุมเครือว่า มีร่างหนึ่งเข้ามาใกล้ จึงยกมือขึ้นผลักอีกฝ่ายออกไปตามสัญชาตญาณแต่ว่า สิ่งที่ตามมาก็คือผ้าห่มอุ่นๆผืนหนึ่ง ปกคลุมไปที่ร่างกายของเธอวินาทีต่อมา ซูหว่านก็ได้หมดสติไปเซียวเป่ยมองไปที่ซูหว่านที่หมดสติอยู่ตรงหน้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย ยกมือขึ้น และเจาะเข็มเงินสองสามเข็มเข้าไป เพื่อควบคุมฤทธิ์ยาในร่างกายของซูหว่านเอาไว้ชั่วคราวจากนั้น เขาก็เผยนัยน์ตาที่เย็นชาออกมา หันหลังกลับ และมองไปที่หานตงถิงที่กำลังคลานข
เพียะ!หานตงถิงได้แต่มองดูปืนที่อยู่ในมือของตัวเองถูกเตะลอยกระเด็นออกไปวินาทีต่อมาเซียวเป่ยก็มาอยู่ที่ตรงหน้าของเขา แสยะยิ้มอย่างเย็นชา และคว้าศีรษะของเขาเอาไว้ จากนั้นก็กดลงอย่างแรง!พลั่ก!ใบหน้าของหานตงถิง กระแทกเข้ากับโต๊ะกาแฟหินอ่อนจนแตกกระจุยเลือดพุ่งกระฉูดออกมา!หานตงถิงพลิกกลิ้งลงไปกองกับพื้นในทันที เขาเอามือกุมใบหน้าเอาไว้ แล้วร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด“โอ๊ยโอ๊ยโอ๊ย! เซียวเป่ย ฉันเป็นถึงนายน้อยของตระกูลหานเลยนะเว้ย ฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่!” หานตงถิงตะโกนสีหน้าของเซียวเป่ยเคร่งขรึมลง และกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “งั้นเหรอ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้แกเป็นขันทีไปตลอดชีวิตเลยก็แล้วกัน!”พูดจบ เซียวเป่ยยกเท้าขึ้น แล้วเหยียบไปที่เป้าของหานตงถิง ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็ได้ระเบิดออกมา!หานตงถิงส่งเสียงโอดครวญออกมาอย่างน่าสมเพชในทันที ดวงตาเบิกกว้าง และมองดูเป้าของตัวเองถูกบดขยี้อย่างน่าเหลือเชื่อ!กระจู๋ผลิตทายาทของตัวเองนั้น ได้ถูกเซียวเป่ยเหยียบจนแหลกไปหมดแล้ววินาทีต่อมา หานตงถิงก็ได้กุมเป้าเอาไว้ กลิ้งไปมาอยู่บนพื้น ส่งเสียงโอดครวญออกมาอย่างเวทนาสาหัสไม่
หยางเหม่ยหลันและหลี่เซียวลี่ ก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนพอมาถึงที่ประตู พวกเธอก็ตกใจเมื่อเห็นสภาพอันน่าอนาถภายในห้องสวีท!ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!เละตุ้มเป๊ะไปหมดบนพื้นเต็มไปด้วยเลือด และมีคนคนหนึ่งนอนกองอยู่ตรงนั้น...หลี่เซียวลี่เดินเข้าไป ใช้เท้าสะกิดศีรษะของชายคนนั้นมา ตกใจจนตะโกนออกมาว่า: “นายน้อยหาน...”แย่แล้ว แย่แล้ว!เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว!ใบหน้าของนายน้อย หานเต็มไปด้วยเลือด หากหลี่เซียวลี่ไม่พินิจดูอย่างละเอียด ก็คงจะจำเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ หลี่เซียวลี่เห็นว่า ตรงเป้าของหานตงถิงมี เปื้อนไปด้วยเลือดนี่คือการทำให้ตระกูลหานไร้ทายาทสืบสกุลเลยนะใครเป็นคนทำ?นอกเหนือจากเซียวเป่ยแล้ว หลี่เซียวลี่ก็นึกถึงคนอื่นไม่ออกเลยจริงๆ“เลขาหลี่ แล้ว แล้ว แล้ว...แล้วเราจะทำยังไงดี?” พอหยางเหม่ยหลานเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจกลัวจนตัวสั่นเทาเธอก็รู้จักหานตงถิงเช่นเดียวกันตอนนี้นายน้อยของตระกูลหานกลายเป็นแบบนี้แล้ว หากตระกูลหานเอาเรื่องขึ้นมา ตระกูลซูจะต้องแย่แน่ๆหลี่เซียวลี่พยายามสงบสติอารมณ์ของตนเอง กวาดสายตามองสภาพในห้อง ก็พบกล้องที่ตะแคงอยู่อีกด้านหนึ่งเ
“ไม่ค่ะ! เป็นไปไม่ได้ เซียวเป่ยไม่ใช่คนแบบนั้น ฉันจำได้ชัดเจนว่า เป็นหานตงถิงที่ต้องการจะลวนลามฉัน จากนั้น ดูเหมือนว่าจะมีคนบุกรุกเข้ามา แล้วช่วยฉันเอาไว้…”ซูหว่านตบศีรษะของตนเอง แล้วพยายามรื้อฟื้นความทรงจำแต่ว่า เธอปวดศีรษะเอามากๆ และจำอะไรได้ไม่ชัดเจน“ลูกแม่ มาถึงตอนนี้แล้ว ลูกยังช่วยพูดแทนไอ้สารเลวนั่นอีกเหรอ ลูกเลอะเลือนไปแล้วหรือยังไง?”“แม่จะบอกลูกให้นะว่า ตอนนี้เซียวเป่ย ไม่เพียงแต่ทำให้ลูกแปดเปื้อนเท่านั้น ยังทุบตีนายน้อยหานจนได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย!”“หากตระกูลหานเอาเรื่องขึ้นมา ตระกูลซูของพวกเราจะต้องแย่แน่ๆ”หยางเหม่ยหลันกล่าวอย่างร้อนใจซูหว่านรีบส่ายหัว แล้วกล่าวว่า: “ไม่ ไม่ใช่ เซียวเป่ยไม่ได้ลวนลามฉัน หานตงถิงต่างหากที่ต้องการจะลวนลามฉัน เซียวเป่ยลงมือเพราะช่วยฉันเอาไว้แน่ๆ”“เหลวไหล! ผมว่า พอเซียวเป่ยรู้ว่าพี่จะเจรจาธุรกิจอยู่กับนายน้อยหาน ก็เลยรู้สึกอิจฉา ดังนั้นจึงตั้งใจมาที่นี่เพื่อทำร้ายคน! เพื่อขัดขวางไม่ให้พี่คุยธุรกิจกับนายน้อยหานได้สำเร็จอย่างแน่นอน!”ซูเทียนห้าวตะโกนคำพูดแต่ละประโยค ของหยางเหม่ยหลันกับซูเทียนห้าว ทำให้ซูหว่านรู้สึกสับสนวุ่นวาย
ณ ห้องโถงบรรยากาศตึงเครียดเป็นอย่างมากซูเทียนห้าวถามอย่างกังวลว่า: “แม่ครับ ตอนนี้พวกจะทำยังไงดี?ไอ้สารเลวเซียวเป่ยนั่นทำให้นายน้อยหานพิการ หากตระกูลหานเอาเรื่องขึ้นมา ครอบครัวของพวกเราจะต้องจบเห่แน่ๆเลยครับ ...”“แม่รู้!”หยางเหม่ยหลันตอบด้วยความหงุดหงิดโมโห และหันไปมองหลี่เซียวลี่ และถามว่า “เลขาหลี่ หนูมีไอเดียอะไรบ้างไหม?”หลี่เซียวลี่เอามือกอดอก นัยน์ตาเป็นประกาย มองไปที่หยางเหม่ยหลัน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “ป้าหยางคะ วิดีโออันนี้ ตอนนี้มีเพียงพวกเราเท่านั้นที่ได้ดูนี่คะ”“ใช่สิ ทำไมเหรอ?”หยางเหม่ยหลันถามอย่างงุนงง“นายน้อยหานถูกเซียวเป่ยทุบตีจนได้รับบาดเจ็บ ในนี้มีวิดีเป็นหลักฐานยืนยัน ถ้าพวกเราส่งวิดีโอไปให้ตระกูลหาน หนูคิดว่า ตระกูลหานอาจจะไม่เอาเรื่องประธานซูและตระกูลซูอย่างแน่นอนเลยนะคะ”หลี่เซียวลี่รีบกล่าวทันทีหยางเหม่ยหลันขมวดคิ้ว ตัวสั่นเทา และพูดว่า “หนูหมายความว่า ให้เซียวเป่ยเป็นคนรับผิดชอบแทนอย่างนั้นเหรอ?”“ใช่ค่ะ!”หลี่เซียวลี่พยักหน้า“แต่ว่า เซียวเป่ยก็ทำเพื่อช่วยหว่านเอ๋อร์นะ…” หยางเหม่ยหลันกล่าวหลี่เซียวลี่มองไปที่หยางเหม่ยหลันอย่างจริ
หลี่เซียวลี่รีบพูดขึ้นว่า: “ประธานหานคะ คนที่ทำร้ายจนทำให้คุณชายหานต้องบาดเจ็บพิการแบบนี้ก็คือคนเลวที่มีชื่อว่าเซียวเป่ยค่ะ! เรื่องนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบมันไม่เกี่ยวกับประธานซูและตระกูลซูของพวกเราเลยนะคะ”“ถ้าหากว่าประธานหานต้องการจะแก้แค้นให้กับคุณชายหานล่ะก็ ก็ไปหาเขาได้เลย”หลี่เซียวลี่ปัดความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับเซียวเป่ยแต่อย่างไรก็ตาม เธอกลับไม่ได้สังเกตว่าสีหน้าของหานเทียนซานดูจริงจังและสับสนเป็นอย่างมาก“ผมรู้แล้วล่ะ เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจะจัดการเอง พวกคุณออกไปก่อนเถอะ”หานเทียนซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ส่งสัญญาณให้ลูกน้องมาส่งแขกหลี่เซียวลี่อึ้งไปชั่วครู่หนึ่ง เหมือนยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอกลับถูกไล่ออกไปจากห้องคนไข้“เลขาหลี่ ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมรู้สึกว่าสีหน้าของประธานหานดูเคร่งเครียดมากเลยล่ะ?”ที่หน้าประตูห้องคนไข้ หยางเหม่ยหลันถามด้วยความสงสัย“คุณแม่ หนูก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเหมือนกันค่ะ”“ตามหลักแล้ว หานตงถิงถูกทำร้ายจนสภาพกลายเป็นแบบนี้ แล้วยังพิการอีกด้วย เขาไม่สามารถเป็นทายาทสืบทอดตระกูลหานได้ หานเทียนซานควรจะโมโหจนบ้าคลั่ง แทบจะรอไม่ไหวที่จะไ
เซียวเป่ยหัวเราะออกมาเบา ๆ และพูดขึ้นว่า: “ประธานหาน ดูเหมือนคุณต้องการแก้แค้นผมอย่างนั้นสินะ?”หานเทียนชานหายใจเข้าลึกๆ สุดท้ายก็ระงับความโกรธที่อยู่ภายในใจของเขาเอาไว้ได้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า: “ปรมาจารย์เซียวก็พูดเล่นไป ผมก็แค่ถามเฉยๆแหละครับ เรื่องของวันนี้ถือซะว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน ลูกชายของผม ผมจะสั่งสอนเขาให้ดีเองครับ”“อีกอย่าง เรื่องวัตถุดิบยาทั้งหมดที่ปรมาจารย์เซียวต้องการ ตระกูลหานของผมหามาให้ได้แล้วนะครับ”เมื่อเซียวเป่ยได้ยินก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยไม่คิดเลยว่า หานเทียนซานจะอดทนได้จริงๆเขาเป็นคนที่โหดเหี้ยมคนหนึ่ง“ถ้าอย่างนั้นขอบคุณประธานหานมากเลยครับ”เซียวเป่ยยิ้ม จากนั้นก็พูดต่อไปอีกว่า: “ที่จริง ลูกชายของคุณไม่ได้พิการไปทั้งหมดหรอก เมื่อกี้ผมเหลือช่องทางพอจะช่วยเขาได้อยู่นิดหน่อย”เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหานเทียนซานก็ดูตกใจและถามกลับไปด้วยความตื่นเต้นว่า: “ปรมาจารย์เซียว คุณพูดจริงๆเหรอครับ?”“ผมจำเป็นต้องโกหกคุณด้วยเหรอ?” เซียวเป่ยถามกลับหน้าผากของหานเทียนซานเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลซึมออกมา หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นมาในทันทีตอนนี
หลังจากพูดจบ กู้โย่เสวี่ยก็หลับตา รอคอยเซียวเป่ยดวงตาคู่นั้น วันนี้คุณก็สามารถกลืนกินรูปร่างของฉันได้เลยเมื่อมองดูกู้โย่เสวี่ยที่ทำหน้าเย้ายวนใจยืนอยู่ตรงหน้าเขา เซียวเป่ยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคอแห้งขึ้นมาผู้หญิงหน้าตาดีน่าหลงใหลขนาดนี้ เป็นชายคนไหนก็คงจะอดใจไม่ได้หรอก“เอ่อ คุณหนูกู้ครับ ปากคุณไม่สบายเหรอครับ? ไหน ผมขอดูหน่อยสิ?”เซียวเป่ยกระแอ่มสองครั้งแล้วพูดขึ้นมาจู่ๆบรรยากาศก็พังทลายลงกู้โย่เสวี่ยจ้องมองไปที่เซียวเป่ยด้วยความโกรธ กระทืบเท้าแล้วตะโกนออกมาว่า: “คุณนี่เป็นผู้ชายซื่อบื้อจริงๆเลย! จูบฉัน จูบฉันสิ!”กู้โย่เสวี่ยโกรธมากจนเธออยากจะจูบเขาอย่างรุนแรงแต่ว่าถ้าหากทำแบบนั้น ก็จะสูญเสียความเป็นตัวตนของเธอเองอีกมุมปากของเซียวเป่ยกระตุกขึ้นพร้อมกับพูดขึ้นว่า: “คุณหนูกู้ ทำแบบนี้ไม่ดีมั้งครับ?”“ช่างมันเถอะ ขี้เกียจจะคุยกับคุณแล้ว ตั้งแต่นี้ไป คุณหมดโอกาสแล้ว!” กู้โย่เสวี่ยพูดด้วยความโกรธเซียวเป่ยก็ถอนหายใจเช่นกันโอกาสแบบนี้ มีให้มันน้อยๆหน่อยจะดีกว่า“จริงสิ ครั้งที่แล้วที่คุยกับคุณ คุณคิดยังไงกับการเป็นหัวหน้าแพทย์ประจำตระกูลกู้คะ คุณคิดไปถึงไนแล้วบ้าง?” กู้
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?