กาญจนบุรี
“พี่ดาว!!”
“อยู่ไหนพ่อให้มาตามครับ”
“พี่ดาว! พี่นับดาว!”
“อยู่ไหน!”
“คิก...คิก...”
ร่างบางที่แอบอยู่หลังต้นไม้ ถึงกับต้องกลั้นขำ หัวเราะคิกคัก
เมื่อเด็กชายตะวัน น้องชายวัย 6 ขวบ วิ่งหอบจากบ้านเข้าสวนที่อยู่ไกลพอสมควร เพื่อมาตามพี่สาวคนสวย
เด็กชายชะเง้อคอมองซ้ายทีขวาที แล้วทำหน้ามุ่ยเมื่อหาคนพี่ไม่เจอ
“พี่นับดาว!!!!!!!”
เด็กชายตะวันตะโกนสุดเสียง
“.......” แต่เธอกลับเงียบค่อย ๆ เดินย่องไปยืนอยู่หลังน้อง
“ตะวัน!!!!” และตะโกนใส่หูน้องชายสุดเสียง
“......”
แต่ทว่าเด็กชายตะวันกลับหันมาจ้องหน้าพี่สาวตาเขม็ง
ถ้าเป็นคนอื่นปกติทั่วไปด้วยระดับเสียงดังขนาดนี้หูคงแตกไปแล้ว แต่เพราะเด็กชายพิการทางหู มาตั้งแต่เด็ก ให้ตะโกนจนคอแตกก็แทบจะไม่ได้ยิน
พ่อเคยพาลูกชายไปรักษาตัวในกรุงเทพฯ หลายต่อหลายครั้ง แต่เพราะครอบครัวฐานะค่อนข้างลำบาก เลยช่วยลูกชายได้แค่ซื้อเครื่องช่วยฟังราคาถูก พอให้ลูกนั้นได้ยินเสียงอะไรบ้าง
“ไว้พี่เรียนจบ พี่จะหาเงินผ่าตัดให้ตะวันนะ” พี่สาวย่อตัวลงลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู ดวงตากลมโตเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น
เธอกับน้องห่างกัน 15 ปี ถึงจะเป็นลูกที่เกิดมาจากมารดาคนละคน แต่สายใยรักสายสัมพันธ์ ความรักที่มีให้กันมันก็มากล้นเอ่อ
ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมหญิงสาวเลยกลับมาช่วยพ่อทำงานที่สวนเล็ก ๆ พ่อเธอเป็นชาวสวนปลูกผักปลูกผลไม้ขายตามตลาด
ด้วยที่พ่อเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ตั้งแต่เธออายุเท่า ๆ กับน้องชาย
พ่อแม่แยกทางกันแต่เธอเลือกที่จะอยู่กับพ่อเพราะไม่อยากไปจากบ้านที่มีความทรงจำมากมายนี้ไปไหน
หลังจากที่เลิกกับแม่ พ่อก็ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินส่งเสียลูกสาวเรียน จนได้เจอกับแม่ของตะวันแต่โชคร้ายคุณน้าสาวคลอดลูกชายได้เพียงไม่กี่วันก็ด่วนจากโลกไปก่อน
ทำให้พ่อเสียใจมาก แต่พ่อไม่เคยทำตัวไม่ดียิ่งขยันทำมาหากินขยันเป็นเท่าตัวเพื่อหาเลี้ยงลูกทั้งสอง
แต่โชคดีหน่อยที่ลูกสาวเป็นคนรักดีได้ทุนเรียนฟรี จนจบมหาวิทยาลัยและได้เข้าไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ
หลังเลิกเรียนหญิงสาวก็ไปทำงานประจำเป็นพนักงานงานขายที่ร้าน 7 ถึงเงินเดือนจะไม่มากแต่ก็ทำให้เธอไม่ต้องรบกวนพ่อ
และมีเงินเก็บส่งให้พ่อกับน้องทุกเดือน แต่เธอก็ไม่ได้ทำแต่งานประจำ
ยังรับตัดต่อทำคลิปตามสายงานที่เล่าเรียนมาถึงจะไม่เก่งอะไรมากมายแต่ก็พอเอาตัวรอดได้
เธอมีความฝันมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่ชอบเสียงเพลง ชอบร้อง ชอบการตัดต่อ ชอบดูหนังละครซีรีส์ มันเลยเป็นแรงบันดาลใจให้อยากเรียนด้านนี้
ถึงฐานะทางบ้านจะไม่อำนวยเหมือนคนอื่นเขาแต่เธอก็เลือกใช้ความสามารถให้เกิดประโยชน์ เธอตัดสินใจทำคลิปวิดีโอเรื่องสั้นส่งเข้าประกวด
และเป็นที่น่าภูมิใจเธอได้รับรางวัลชนะเลิศ เลยได้มีโอกาสสานฝันเรียนมาถึงทุกวันนี้
เธอเลือกเรียนด้านภาพยนตร์ คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ เรียนฟิล์มโดยเฉพาะ มีสามสาขาให้เลือก คือ โพรดักชัน เรียนเกี่ยวกับ กำกับ ตัดต่อ อาร์ตฯ
ต่อมาคือแอดมิน เรียนเกี่ยวกับการบริหารงาน หรือโปรดิวเซอร์
สุดท้ายคือ ศึกษาหนัง เรียนเกี่ยวกับโครงสร้างหนัง วิจารณ์หนัง
ที่เธอเลือกเรียนด้านนี้เพราะชอบร้องเพลง ชอบดูซีรีส์ ชอบการตัดต่อ
ระหว่างที่เรียนก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองว่าง รับทำนี่นั่นหารายได้เสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ตลอด
วันไหนอารมณ์ดีหน่อยก็จะมีไลฟ์สดร้องเพลงให้แฟนคลับทางแอปพลิเคชัน TikTok ฟัง ถ้ามีคนถูกใจชอบเพลงที่ร้องก็พอได้ค่าขนมอาหารแต่ละอาทิตย์
แต่...เธอกลับไม่เคยเปิดเผยตัวตนกับใคร ไม่มีใครรู้จักเพราะค่อนข้างเป็นคนขี้อาย
แต่เวลาเรียนเธอกลับเต็มที่ไปกับมัน ตัดความเขินอายทิ้งไป แต่พออยู่นอกตำรา เฮ้อ! กลับเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย
เพราะชีวิตครอบครัวที่เราลำบาก ต้นทุนชีวิตที่ต่ำ เป็นที่ดูถูกดูแคลนแต่นั่นมันกลับทำให้เธออยู่เหนือคนอื่น
คือการที่ต้องดิ้นรนด้วยตัวเองมันทำให้เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเข้มแข็งและสามารถยืนหยัดสู้เพื่อตัวเอง ครอบครัววิ่งตามความฝัน
เธอไม่เคยอายที่มีพ่อเป็นคนจน เป็นแค่ชาวไร่ชาวนาแต่หญิงสาวกลับพูดอย่างภาคภูมิเพราะเธอมีพ่อที่เป็นตัวอย่างที่ดี ขยันอดออม ไม่เคยคดโกงใคร มันเป็นความภาคภูมิใจที่เธอรักและศรัทธาในตัวพ่อมาตั้งแต่เด็ก
ถึงจะอดมื้อกินมื้อแต่ก็ไม่เคยงอมืองอเท้าขอใคร พ่อจะสอนลูกเสมอ “เกิดเป็นคนแค่ขยันก็ไม่อดตาย ไม่เลือกงานไม่ดูถูกเงินบาท” เพราะคำสอนเหล่านี้ถูกปลูกฝังตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ จนถึงทุกวัน
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ไม่อดตายขอแค่ขยันและซื่อสัตย์แค่นั้นพอ
“พ่อบอกแล้วใช่ไหมไม่ต้องไปทำงานช่วยพ่อ มีหน้าที่เรียนก็เรียนเรื่องทำงานเป็นหน้าที่ของพ่อ”
ทันทีที่ลูกสาวมาถึงบ้านคนเป็นพ่อก็จัดแจงตั้งโต๊ะตักข้าวเสิร์ฟอาหารที่ลงมือทำเองจากพืชผักปลอดสารพิษที่ปลูกเองในสวนให้ลูกสาวสุดที่รัก
“ได้ไงคะ หนูเป็นลูกก็ต้องช่วยงานพ่อสิ จะปล่อยให้พ่อลำบากคนเดียวได้ไง!”
“นั่งเลย หนูทำเอง” ร่างบางลุกขึ้นแย่งชามข้าวจากมือพ่อ ตักข้าวใส่จานให้น้องและพ่อด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณครับ!” เด็กชายยกมือไหว้พี่สาวแบบนี้ทุกครั้งเพราะมีครูดีอย่างพ่อคอยสอนให้รู้จักมีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่
“น้องชายพี่น่ารักที่สุดเลยไว้พรุ่งนี้พี่จะพาไปซื้อของ” ใบหน้าหวานเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ไม่มีอะไรสุขใจเท่าได้อยู่กับคนที่รัก
ชีวิตในเมืองกรุงช่างเปล่าเปลี่ยว เด็กผู้หญิงตัวคนเดียวต้องไกลบ้านวิ่งตามความฝัน ดิ้นรนทุกอย่างด้วยตัวเอง เพื่อความอยู่รอด
สังคมที่วุ่นวายเต็มไปด้วยความแก่งแย่งชิงดี ไม่มีญาติสนิทหรือมิตรสหายที่จริงใจ ทำให้เธอกลายเป็นคนพูดน้อยและไม่ค่อยมีเพื่อนเพราะไม่มีใครอยากผูกมิตรกับคนจนอย่างเธอ
แต่ทุกครั้งที่ได้กลับบ้านเธอเหมือนเป็นคนละคน เธอสดใสยิ้มเก่งเป็นที่รักของเด็ก ๆ และผู้ใหญ่แถวนั้น
“มีเงินก็เก็บไว้ ซื้อข้าวของให้ตัวเองไม่ใช่ซื้อให้แต่พ่อกับน้อง” เพราะเห็นลูกเป็นคนประหยัด แต่พอกลับบ้านมาที กลับสิ้นเปลืองเงินให้กับพ่อและน้องเลยทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกไม่ค่อยดี
ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นพ่อกลับต้องอาศัยลูกทุกอย่าง
“ดาวไม่อยากได้อะไรค่ะ แต่มีคนอยากได้ของเล่นใช่ไหม”
นับดาวหันไปยิ้มให้น้องชายที่อ้อน อยากได้ของเล่น หุ่นยนต์บังคับวิทยุกับพ่อมานานแต่ก็ไม่ได้สักทีเธอเห็นแล้วอดที่จะสงสารน้องไม่ได้
เลยควักเงินในกระเป๋าที่เก็บไว้เพื่อจะซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้น้องล่วงหน้า
“พ่ออะ ชอบคิดมาก ดาวเป็นพี่คนโตเป็นลูกสาวพ่อดาวก็ต้องหาเงินเลี้ยงพ่อกับน้องสิคะ!” หญิงสาวทำหน้าอ้อนเอียงหน้าถูแขนพ่อไม่ต่างอะไรกับลูกแมวตัวน้อย ๆ
“เราก็แบบนี้ตลอด ตามใจแต่อย่าใช้สุรุ่ยสุร่ายก็พอเผื่อเวลาเดือดร้อนจะได้ไม่ลำบาก”
คนเป็นพ่อได้แต่ยิ้มอย่างปลื้มปีติที่ลูกสาวที่เขาเลี้ยงมากับมือเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณ แบบนี้เวลาเขาจากไปเขาก็เชื่อได้ว่าพี่น้องจะไม่ทอดทิ้งกัน!
สายตาคนเป็นพ่อได้แต่มองลูกสองคนแล้วแอบถอนหายใจ เพราะไม่รู้จะได้อยู่เห็นความสำเร็จของลูกถึงวันไหน…
“ส่วนมึง!” ชายหนุ่มชี้หน้าด่าหญิงสาวที่ยังคงนั่งลอยหน้าลอยตา ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเปลื้องผ้าอย่างไม่อาย สายตาเขาที่มองเธอมันเต็มไปด้วยโทสะ ความเคียดแค้นเกลียดชัง“ถ้าหม่าม้ากูเป็นอะไรไปมึงคนแรกที่กูจะฆ่า!” เขาตะเบ็งเสียงใส่เธออย่างเหี้ยมโหด ยิ่งเห็นท่าทียั่วยวนของหญิงสาวมันยิ่งทำให้เขานึกรังเกียจผู้หญิงตรงหน้าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เธอมันน่ารังเกียจยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือเสียอีก!“ไอ้สไนเปอร์!!”“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับหนูนับดาว เพราะหม่าม้ามึงมันบ้า!!”เมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อพูดแบบนั้นไฟแค้นในกายยิ่งลุกโชน สายตาเย็นชาเปลี่ยนเป็นดุดันและเลือดเย็นขึ้นมาทันที“หึ...ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่ปืนกับพี่กันต์สองคนนั้นเขาถึงเกลียดพ่อ” เขาหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันเพียะ!!!“กูเลี้ยงมึงมาให้มึงมายืนด่ากูแบบนี้หรือไง! ไอ้ลูกสารเลว!!”ยิ่งเห็นอารมณ์ผู้เป็นพ่อเดือดดาลขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งสะใจ เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาตัวเขากับแม่ได้รับผลกระทบจากนิสัยและสันดานชั่ว ๆ ของพ่ออยู่ไม่น้อยแม่กลายเป็นคนซึมเศร้าวัน ๆ เอาแต่นั่งเหม่อร้องไห้อยู่คนเดียวส่วนเขาที่เห็นสภาพแม่แบบนั้นแต่กลับทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่
“เราแต่งงานกันนะตอนนี้เปอร์พร้อมแล้วที่จะดูแลซอนบี” ร่างหนากระชับกอดคนตัวเล็กในอ้อมกอดไว้แน่น“ซอนบีรักเปอร์นะ รักเปอร์มากกว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้” คนตัวเล็กในอ้อมแขนก็ช่างออดอ้อนเอาใจแฟนหนุ่มเพราะเธอรอเวลานี้มานานรอวันที่เขาและเธอจะได้ใช้ชีวิตครองคู่รักอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต…2 เดือนต่อมา“เปอร์!” แฟนสาวทันทีที่เห็นหน้าแฟนหนุ่มที่ตอนนี้เขาพาแม่ ย้ายออกจากบ้าน มาซื้อบ้านหลังใหม่อยู่ตามประสาสองคนแม่ลูกด้วยน้ำพักน้ำแรงที่ตัวเองหามาได้ เดินเข้าไปสวมกอดเขาด้วยความคิดถึง หลังจากที่ฝ่ายชายต้องบินไปคุมกองถ่ายภาพถึงต่างประเทศนานเป็นอาทิตย์“มีอะไรหรือเปล่าถึงยิ้มหน้าบานแบบนี้”เวลาอยู่กับเธอเขาจะเป็นคนละคน อ่อนโยนอบอุ่นแต่เวลางานใครก็ไม่อาจหาญกล้าเข้าหน้าเพราะเขาจะหน้านิ่งจริงจังอยู่ตลอดเวลา“ของขวัญให้ว่าที่คุณพ่อค่ะ!” แฟนสาวยื่นที่ตรวจครรภ์ให้แฟนหนุ่มที่ตอนนี้ยืนนิ่งอึ้งเหมือนโลกมันหยุดหมุน“พะ...พ่อ?” เขาพูดตะกุกตะกักด้วยความตื่นเต้น“ไม่ดีใจเหรอ?” จนแฟนสาวถึงกับหน้าถอดสี หรือเขาจะคิดว่าเธอตั้งใจปล่อยตัวเองให้ท้องเพื่อเอาลูกมาเป็นเครื่องผูกมัดเขากันนะแต่เพราะเธออยากให้เขามีความสุขคิดว่าถ้า
Ep: 3 แผนร้าย“เป็นไงบ้างเหนื่อยไหม!” ทันทีที่แฟนหนุ่มเดินเข้าบ้านแฟนสาวที่ตอนนี้รับหน้าที่เป็นพยาบาลส่วนตัวดูแม่ที่ป่วยเดินเข้าไปสวมกอดแฟนหนุ่มด้วยความคิดถึงหลังจากวันนั้นทั้งสองก็ได้จดทะเบียนสมรส และย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านฝ่ายชายโดยที่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงก็ไม่ได้คัดค้านอะไรเพราะจำนวนเงินก้อนโต ที่สไนเปอร์มอบให้มันมากมายจนพวกเขาไม่สนใจในตัวลูกสาวจะมีแค่เพียงผู้เป็นน้องสาวที่ไม่พอใจเพราะตัวเองก็แอบรักสไนเปอร์ตั้งแต่ยังเป็นแค่เพื่อนกับพี่สาวคิดหาทางที่จะแย่งสามีพี่ทุกวิถีทาง“เปอร์ไม่เหนื่อยแล้วซอนบีล่ะเหนื่อยไหม วันนี้แพ้ท้องมากไหม ขอโทษนะช่วงนี้เรามีงานทุกวันเลยไม่มีเวลาดูแล” มือหนาลูบหัวแฟนสาวอย่างอ่อนโยน“นิดหน่อย แต่พรุ่งนี้วันหยุดเราไปเที่ยวกันนะ พอดีป๊ากับหม่าม้าอยากคุยเรื่องแต่งงานของเรา ส่วนเรื่องหม่าม้าเราให้เพื่อนมาช่วยดูแลแทนวันหนึ่ง” แฟนสาวพูดอย่างออดอ้อน“ไม่มีปัญหา อะไรที่ทำให้คุณแม่สบายใจ พ่อคนนี้ทำให้ได้ทุกอย่าง!”น้ำเสียงทุ้มนุ่มพูดพลางปลายจมูกโด่งคลอเคลียแก้มนวล ก่อนกลีบปากนุ่มจะประทับจูบมอบจุมพิตอันแสนหวานให้แฟนสาวพรึบ!“ก่อนมื้อค่ำ” ร่างบางถูกช้อนอุ้มเดินตรงไปยังห้อ
“จะเซอร์ไพรส์อะไรนะ” ซอนบียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตรงไปยังที่นัดหมายแต่เธอต้องรู้สึกไม่ดีจนต้องหยุดเดินมองซ้ายมองขวาเหมือนรู้สึกว่ามีคนเดินตามเธอมา...ก็ไม่มีใครสงสัยคิดมากไปเอง...หญิงสาวคิดในใจแล้วตัดสินใจเดินต่อหมับ!!พรึบ!!กรี๊ด!!!!!“หุบปาก! ถ้าไม่อยากตาย!”ตุ้บ!!“อึก!” แต่ไม่ทันจะได้ก้าวขาเดินต่อไปร่างบางถูกกระชากเข้าไปที่โขดหิน ร่างเธอถูกเหวี่ยงจนกระแทกก้อนหินอย่างแรง เป็นเหตุให้เธอรู้สึกจุกเสียดที่ท้องน้อยจนแทบขยับตัวไม่ได้!“พะ...พวกแกเป็นใคร!” หญิงสาวเอ่ยเสียงเบาหวิวพร้อมเลือดสีสดที่ไหลอาบสองขา“ละ...ลูก” ดวงตากลมโตสั่นระริกเมื่อก้มมองตรงหว่างขาเห็นเลือดไหลออกมาไม่หยุด“ก็เป็นผัวน้องไงคนสวย!” ชายร่างใหญ่ผิวเข้มพูดขึ้นพร้อมทำหน้าหื่นกระหายใส่หญิงสาว พร้อมพุ่งตรงเข้าประชิดตัว“อย่านะ!”“ออกไป!”ด้วยสัญชาตญาณเอาตัวรอดร่างบางถอยกรูดหนี มือเล็กคว้ากำทรายไว้ในมือ“อย่าเข้ามานะ!” ซอนบีพยุงตัวลุกขึ้น พร้อมกับความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อตอนนี้เธอรู้ตัวว่าได้เสียทารกน้อยในท้องไปแล้ว“ฮึ!! สภาพแบบนี้มึงจะหนีไปไหนได้!!” ชายร่างใหญ่พูดกระแทกเสียง สองเท้าก้าวเข้าไปหาเธอพรึบ!!“อีบ้า!!!”“มึงตาย!!!
คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ ปี 4“นับดาว!!!”“ดีใจจัง!!”“อะไรของแกยัย มะเหมี่ยว!”นับดาวที่เพิ่งเดินเข้าห้องเรียนหลังจากเพิ่งไปรายงานตัวจ่ายค่าเทอมที่งานทะเบียน ถึงกับต้องส่ายหัวเมื่อเพื่อนรัก เดินเข้ามากอดเหมือนไม่ได้เจอกันนานเป็นชาติทั้ง ๆ ที่ก็เพิ่งจะคุยแชตกันเมื่อคืน!“ก็แค่ดีใจ! ว่าแต่เตโชไปไหน?”เพื่อนสาวชะเง้อคอยาวมองไปที่ประตู“จะไปรู้เหรอไม่ได้มาด้วยกันสักหน่อย!”นับดาวต้องถอนหายใจกับเรื่องนี้เพราะเพื่อน ๆในห้องต่างคิดว่าเธอกับเตโชกำลังคบกัน“ก็แกสองคนเป็นแฟนกันนิ!”มะเหมี่ยวพูดอย่างไม่คิดอะไร“ฟังนะ! ฉันกับเตโช! เราไม่ได้เป็นแฟนกันเราเป็นเพื่อนกัน! เข้าใจไหม!”นับดาวพูดออกไปอย่างชัดเจน จนเตโชที่กำลังจะเดินเข้าห้องถึงกับต้องชะงัก!“อ้าว! เต!”น้ำตาล เพื่อนในกลุ่มลูกคุณหนูสวยหวานเอ่ยทักเตโชที่ได้ยินคำพูดของนับดาว เขาถึงกับหน้าเหวอ อึ้งกับคำพูดหญิงสาว ถึงจะรู้ว่าเธอไม่เคยคิดกับตัวเองเกินกว่าคำว่าเพื่อน แต่พอได้ยินจากปากเธอมันก็ถึงกับเสียความมั่นใจไปเลย...ฮึ...เจ็บดีเหมือนกันแฮะ!...แต่เขาก็ได้แต่คิดในใจส่งยิ้มให้เพื่อน ๆ และทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เพราะตัวเองแอบรักเพื่อนส
“ดาวเป็นอะไร?”“แล้วปากไปโดนอะไรมาทำไมถึงบวมขนาดนั้น?”ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าห้องมะเหมี่ยวก็ถามเพื่อนสาวคนสนิทที่ทำหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับ แถมริมฝีปากบางยังบวมเป่งจนเห็นได้ชัด“ปะ...เปล่า! มดกัดน่ะ”นับดาวตอบยิ้ม ๆ ถ้าบอกว่าโดนขโมยจูบมีหวังได้อายเพื่อนตายเลย“ฮึ...มดอะไรคงจะตัวใหญ่น่าดูถึงได้เจ่อขนาดนี้!”ขวับ!!ร่างบางหันขวับคอแทบเคล็ดเมื่อได้ยินเสียงยียวนกวนประสาท เสียงนั้นเธอจำได้ดีว่าเป็น ชายโรคจิตที่ขโมยจูบแรกเธอไป!“นาย!! ไอ้โรคจิต!”หญิงสาวจ้องหน้าชายหนุ่มตาขวาง“ทำไม! อยากโดนมดกัดอีกหรือไง!”ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ใกล้จนปลายจมูกโด่งชนกับแก้มใส พูดด้วยน้ำเสียงยียวน...ไอ้บ้า! นายมันโรคจิตที่สุด...แต่เธอก็ได้แต่ด่าเขา ทางสายตา ก่อนจะเดินหนีหมับ!!ทว่ามือสากกลับรวบเอวคอดดึงเข้าหาตัว เป็นเหตุให้ใบหน้าหวานชนเข้ากับแผงอกแกร่งอย่างจัง“นี่นาย!!”สองมือเรียวดันแผงอกแกร่ง พยายามดันตัวออกจากท่อนแขน แต่ร่างหนากลับยิ่งออกแรงดึงเธอเข้ามาแนบชิด“ทำอะไรวะ!” เตโชที่เพิ่งคุยโทรศัพท์เดินเข้าห้องเห็นภาพบาดตา กระชากสไนเปอร์ออกจากนับดาวทันที“หึ...”แต่สไนเปอร์กลับเบ้ปากมองหญิงสาวอย่างเย้ยหยันแล้
Ep: 7 ผู้ชายใจร้าย“อ๊ะ!! ออกไปนะ!” สองมือดันหน้าอกแกร่ง“อยากจับเสียบมากกว่า!”หมับ!!“เฮือก!!” นับดาวถึงกับตาเบิกกว้าง ยืนตัวแข็งทื่อเมื่อมือสากจับหมับตรงส่วนสงวน!แถมคนทำยังชักสีหน้ายียวนกวนประสาทที่สุด!“อะ...ไอ้โรคจิต!!!”“ปล่อยฉันนะ!!” ทันทีที่ตั้งสติได้เธอดิ้นพยายามดันตัวออกจากชายหนุ่ม แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งกอดรัดตัวเธอไว้แน่น พร้อมมือที่ค่อย ๆ ล่วงล้ำเข้าไปใต้กระโปรง“ชะ...ช่วย อุ๊บ!!!”...อีกแล้วไอ้บ้าโรคจิตนี่มันจูบฉันอีกแล้ว กรี๊ด!!...“ฮื่อ!!” สองมือดันแผงอกแกร่ง แต่มันไม่เป็นผลเพราะเขาตัวใหญ่กว่าเธอมากพรึบ!!หมับ!ปึก!“อึก” ร่างบางถูกดันตัวหลังติดผนังห้อง เรียวแขนเล็กถูกรวบตรึงเข้าหากัน ชูขึ้นเหนือหัวด้วยมือข้างเดียวของอีกฝ่ายพร้อมบดเบียดความเป็นชายแนบชิดเข้ากลางหว่างขาจ๊วบ!!ยิ่งเธอดิ้น เขายิ่งบดขยี้กลีบปากบางอย่างบ้าคลั่ง พยายามสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็ก แต่อีกฝ่ายปิดปากแน่นไม่ยอมให้เขาทำสำเร็จ“ฮื่อ!!!” เธอดิ้นสุดแรงเกิดพยายามจะสลัดตัวให้หลุดจากพันธนาการของคนตัวโตแต่มันกลับไม่เป็นผลเมื่อเขารู้ว่าเธอจะทำอะไร ไม่มีทางที่เขาจะโง่ให้เธอกระทำกับสไนเปอร์ตัวน้อยของเขาได้อี
20.00 น.“เหนื่อยชะมัด!”“เกิดเป็นนับดาวทำไมถึงลำบากขนาดนี้!”นับดาวบ่นพึมพำคนเดียว เพราะกว่าจะทำกิจกรรมช่วยคณะเสร็จก็ปาเข้าไปสองทุ่ม...ข้าวก็ยังไม่ได้กินรีบก็รีบ...แต่เธอก็ได้แค่บ่นก่อนจะพาร่างที่เมื่อยล้าเดินขึ้นบันไดหนีไฟขึ้นไปบนห้องมันเป็นห้องเช่าราคาถูก ความปลอดภัยนะเหรอ แทบไม่มีอะไรเลย แต่ก็ต้องอยู่เพราะถ้าอยู่หอพักนักศึกษาไม่สามารถทำงานได้เพราะหอพักมีกฎ ต้องเข้าออกเป็นเวลาแต่โชคดีที่อาม่าเจ้าของห้องเช่าใจดีและเอ็นดูเธอเลยไม่น่าห่วงอะไรมากมาย‘แต่ถ้าเธอฮู้แล้ว เธอสิเลิกอยู่เบาะบ่ เฮาเลิกบ่ได้ กะคนมีฮักหมดใจไปแล้วความฮักมันควรสิมีสองคนท่อนั่นเธอกับเขาสิฮักกัน ฉันยอมบ่ได้แล้วสิให้เฮ็ดจั่งใด๋ กะหัวใจ มันฮัก’นับดาวร้องเพลงพึมพำเดินเข้าห้อง วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยและหนักสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอแค่เรื่องเรียนเธอไม่เคยหนักใจ มันหนักใจกับเพื่อนคนใหม่ที่พยายามเข้าหา และตอนนี้อาจารย์ยังสั่งงานและตัวเองต้องทำงานกับคนโรคจิตแบบนั้นจะปฏิเสธก็ไม่ได้เพราะมันคืองาน ถ้าไม่ทำก็ไม่ผ่านอีก“เฮ้อ!!”...ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอกับคนบ้าแบบนี้ด้วย ชอบพูดอะไรแปลก!...ปัก!!กระเป๋าสะพายใบเ
ตอนเช้า“ตื่นสายนะเรา”“เพราะใครล่ะ ดาวถึงตื่นสายแบบนี้ แล้วลูกล่ะคะไปไหนแล้ว”“ตื่นมาก็ถามหาแต่ลูกสนใจผัวบ้างไหม?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันมองคนตัวเล็กที่ยังคงนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม“ก็ผัวอยู่ตรงนี้ ดาวไม่เห็นลูกก็ต้องถามหาลูกสิ พี่จะมางอแงทำไมกัน” นับดาวได้แต่ถอนหายใจพร้อมดันตัวลุกขึ้นนั่ง“หึ ต่อปากต่อคำเก่งนักนะ แบบนี้มันน่าเอา” สายตาเจ้าเล่ห์มองต่ำไปที่เป้ากางเกงตัวเอง“ลามก พี่หยุดลามกแล้วตอบดาวมาก่อนลูกไปไหน” นับดาวพูดจริงจัง“อยู่กับหม่าม้า เธอตื่นสายฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เลยพาลงไปเล่นข้างล่าง” มือหนาลูบที่หัวเมียแล้วเอาแต่ยิ้มกริ่ม“ยิ้มอะไรคะ พี่ดูแปลก ๆ นะดาวว่า” นับดาวพยายามจับผิดคนตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้ม“ไปอาบน้ำพ่อกับตะวันรอนานแล้วนะ” เมื่อได้ยินพ่อของลูกพูดแบบนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเขาจะพาไปที่ไหนสักแห่ง“พี่จะพาดาวไปไหนเหรอ”“ไปอาบน้ำไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง ให้เวลา 20 นาทีเดี๋ยวไปเล่นกับลูกรอ” เขายักคิ้วกวน ๆ พร้อมจุ๊บปากบาง แล้วเดินออกจากห้องทันที นับดาวได้แต่ทำหน้าสงสัยก่อนจะหอบผ้าห่มเดินเข้าห้องน้ำ30 นาทีผ่านไป“ช้า” ทันทีที่เห็นเมียเดินมาคุณพ่อคนหล่อก็บ่นเสียงดุ“…….” แต่เม
“แดดดี้อยากจะขอบคุณเบบี๋ที่ทำให้ผู้ชายเลว ๆ คนนี้กลับตัวกลับใจ เป็นคนดี ขอบคุณที่เบบี๋ยอมไว้ใจฝากชีวิตไว้กับแด๊ด ขอบคุณที่มอบสิ่งมีค่าที่สุดให้แด๊ด” กันต์มองไปที่ลูกสาวทั้งสองคน พร้อมส่งยิ้มให้เมียรักที่มองหน้าเขาน้ำตาคลอด้วยความซึ้งใจ“แดดดี้ขอมอบเพลงนี้แทนความรู้สึกที่แด๊ดมีต่อเบบี๋” กันต์เดินเข้าไปนั่งลงคุกเข่าร้องเพลงต่อหน้าเมียสุดที่รัก พร้อมลูกสาวจอมแสบ อย่างญี่ปุ่นที่วิ่งเข้าไปกอดหอมพ่อเพื่อให้กำลังใจ‘ที่ผ่านมานานเท่าไรกาลเวลาไม่อาจลืมหัวใจเปลี่ยนไปจากเธอคงเป็นไปไม่ได้เมื่อใจผูกพันมีแต่เธอแม้จะนอนและฝัน ฉันมีแต่เธอเท่านั้นไม่อาจแบ่งใจเผื่อไว้ให้ใครใจเมื่อเจอเธอแล้ว เหมือนคนที่เจอจุดหมายเมื่อมีเธอไม่ต้องการใครเมื่อวานก็รัก วันนี้รักเธอพรุ่งนี้ก็รักเธอ เพราะใจที่มีเธอไม่มีอีกแล้ว ใครจะมาเข้าใจฉันได้ดีอย่างเธอตอบแทนเธอรักเดียวใจเดียว’“เบบี๋รักแดดดี้ ขอบคุณนะคะที่แดดดี้ทำทุกอย่างเพื่อเบบี๋กับลูก ๆ” เบบี๋พูดเสียงสะอื้น มันตื้นตันใจจนห้ามน้ำตาไม่ได้ ก่อนสี่คนพ่อแม่ลูกจะกอดหอม แสดงความรักอย่างไม่อายสายตาทุกสายตาที่มองแล้วได้แต่ยิ้มตาม“……” มีแต่สไนเปอร์นั่งทำหน้าขรึมไม่
1 ชั่วโมงผ่านไป“แม่จ๋า พี่ตะวัน คุณตาขา” ร่างอ้วนกลมวิ่งเข้าไปกอดแม่ที่ประคองคุณตาเดินเข้าบ้าน“ไปดูลูกก่อน บ่นถึงเธอทั้งวัน” สไนเปอร์เดินเข้าไปประคองพ่อตาทันที“คิดถึงจังเลย วันนี้ภูพิงค์ของแม่จ๋าดื้อไหม” นับดาวยิ้มรับพร้อมเดินเข้าไปอุ้มลูกสาวตัวน้อยในชุดเจ้าหญิงสีชมพูน่ารัก“ไม่ค่ะ หนูเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซนเยย” แล้วทำไมต้องอ้อนขนาดนี้ด้วย แค่นี้แม่ก็หลงลูกไม่ไหวแล้ว“พี่ตะวันกอดหนูหน่อย” พร้อมอ้าแขนป้อม ๆ ยื่นไปหาพี่ชายอีกคน“คุณตาด้วยกอดหนูหน่อยคิดถึงคุณตาที่สุดในโลกเลย” พี่ชายกับคุณตาได้แต่มองหลานสาวตัวน้อยแล้วยิ้ม ก่อนจะกอดหอมกันพักใหญ่แล้วขึ้นไปพักบนห้องที่กันต์เตรียมไว้ให้“ยิ้มอะไรคะ แล้วภูผาล่ะ ตั้งแต่มาดาวยังไม่เห็นลูกเลย” นับดาวชะเง้อคอมองหาลูกชาย“อยู่กับพี่กันต์ โดนญี่ปุ่นลวนลามทั้งวัน” สไนเปอร์พูดอย่างเหนื่อยใจ พร้อมทำหน้าบูดบึ้งเพราะหวงลูกชาย“แม่จ๋าหนูหิวหม่ำแม่” ระหว่างที่พ่อกับแม่พูดถึงพี่ชายเด็กน้อยตัวอ้วนกลับงอแงเอาเสียดื้อ ๆ“อะไรกันคะ” นับดาวจับมือเล็กที่ล้วงเข้าไปในเสื้อพร้อมจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มที่งัวเงีย“พี่เปอร์ลูกนอนกลางวันไหม”“……” สไนเปอร์ได้แต่ส่ายหัว เพร
หลายวันผ่านไป“พี่กันต์พี่บอกลูกสาวพี่ให้หยุดวอแวลูกชายผมสักทีได้ไหมวะ” สไนเปอร์ที่เอาลูกขี่หลัง หลังเตรียมจัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ เซอร์ไพรส์เมียที่ออกไปรับพ่อกับน้องชาย บ่นพี่ชายที่ไล่วิ่งตามจับลูกสาวตัวแสบที่เอาแต่แกล้งคนนั้นกวนคนนี้ โดยเฉพาะภูผาลูกชายสุดที่รักพ่อเปอร์ ที่ตอนนี้กอดคอพ่อแน่นส่วนลูกสาวตัวอ้วน ๆ เล่นอยู่กับป้า ๆ หัวเราะคิกคักตามประสาผู้หญิง“เออ กูรู้แล้วไอ้เปอร์ กูก็ตามอยู่เนี่ย!”“ญี่ปุ่นแด๊ดไหว้ละ ลูกไปอยู่กับหม่ามี้ แด๊ดไม่ไหวแล้วนะ” กันต์มือเท้าเอวจ้องหน้าลูกสาว ที่ทำหน้านิ่งไม่ได้สนใจฟังที่พ่อพูดเลย“ภูผา เราไปวิ่งเล่นกันดีกว่าญี่ปุ่นไม่มีเพื่อนเลย พี่พาร์ทก็ไม่เล่นด้วยเอาแต่รักฟองเบียร์ น้องตอร์ชก็ไม่เล่นด้วยหยิกญี่ปุ่นตลอดเลย” เด็กน้อยทำหน้าน่าสงสาร“พอร์ช ลูกพอร์ช ไม่ใช่ตอร์ช คำอื่นแด๊ดก็เห็นหนูพูดชัดแล้วทำไมเรียกพอร์ชแบบนั้น” กันต์พูดอย่างเหนื่อยใจ“ตอร์ช ตอร์ช ญี่ปุ่นจะเรียกตอร์ช!!!!!”“เฮ้อ กูจะบ้าตายใครก็ได้เอาปืนมายิงกูที!!!” แต่ก็ทำได้แค่บ่น ท่องไว้กันต์ท่องไว้ ลูกกู ลูกกู ก็คือลูกกู แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวจะตายให้ได้ จะทำยังไงลูกสาวตัวน้อยจะเหมือนลูกคนอื่น
“กูยอมลูกมึงไอ้เปอร์ กูว่าญี่ปุ่นอ้อนแล้วลูกมึงสุดจริง” กันต์ได้แต่ยิ้มอย่างดีใจที่เห็นน้องชายมีวันนี้ มีความสุขเหมือนคนอื่นได้สักที“เข้าไปกราบหม่าม้าสิ ไม่ต้องกลัว” มือหนาลูบลงที่หัวแม่ของลูกอย่างห่วงใย พร้อมเดินจูงมือเมียเข้าไปกราบแม่“หม่าม้าขอโทษ อย่าไปไหนอีกนะ คงจะลำบากมากสินะผู้หญิงตัวคนเดียวเลี้ยงลูกเพียงลำพัง” เสียงพูดที่อ่อนโยนเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย หลังจากที่คิดอะไรได้หลายอย่างและไม่ควรมองคนแค่ภายนอก มือบางลูบลงที่หัวนับดาวที่ได้แต่นั่งยิ้มด้วยความดีใจ ที่ในที่สุดเธอจะได้อยู่กับคนที่รัก“เปอร์ขอบคุณหม่าม้าที่ยอมรับในตัวนับดาว” สไนเปอร์โผเข้ากอดแม่ โดยมีพี่ทั้งสองคนนั่งมองแล้วยิ้ม“พอ ๆ ๆ ๆ จะดึงเศร้าทำไม” กันต์พูดแทรกขึ้น“ภูพิงค์มาหาลุงสิคะ ไหนดูสิไม่เจอกันนานมาให้ลุงกอดหน่อย มาค่ะคนสวยภูผาด้วย คืนนี้นอนบ้านลุงนะรู้ไหม” พร้อมผายมือเรียกหลานรักให้เข้าไปหา“ดีเลยค่ะ ญี่ปุ่นจะได้มีเพื่อน พี่พาร์ทด้วยนอนกับญี่ปุ่นนะคะ ญี่ปุ่นอยากมีเพื่อนเล่น” ไม่พูดเปล่าญี่ปุ่นเดินเข้าไปหาภูผาที่เอาแต่นั่งกอดอก มองหน้าญี่ปุ่นอย่างเบื่อหน่าย“ทำไมทำหน้าแบบนั้นลูก” สไนเปอร์จ้องหน้าลูกอย่างส
ตอนเช้า“แม่จ๋า” เด็กหญิงตัวน้อยงัวเงียตื่น คลานเข้าไปกอดแม่ที่ยังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดคนตัวโต“ว่าไงคะ” ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มให้ลูกน้อยตะแคงข้างกอดตัวอ้วนกลมแนบอก“พ่อจ๋าหนูล่ะ พ่อจ๋าไปไหน” เด็กน้อยงอแงเรียกหาพ่อทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตา“พ่อจ๋าอยู่นี่ครับมาหาพ่อมา ภูผาด้วยมาให้พ่อนอนกอดหน่อย” สไนเปอร์ยิ้มรับพร้อมอ้าแขนรับลูก“หนูจะนอนตรงนี้” เด็กหญิงตัวอ้วน ลุกขึ้นไปนอนบนตัวพ่อ“ภูพิงค์น้องตัวหนักเดี๋ยวพ่อก็หายใจไม่ออกเหมือนพี่หรอก”“พ่อจ๋า พี่ภูผาว่าหนูอ้วน” เมื่อได้ยินพี่ชายพูดแบบนั้นใบหน้าจิ้มลิ้มก็บูดบึ้งทันที“พี่ไม่ได้ว่าสักหน่อย” เมื่อเห็นน้องงอนพี่ชายก็ได้แต่ถอนหายใจ เห็นแบบนี้คนเป็นพ่อกับแม่ก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้“ชิ หนูงอนแย้ว พี่ภูผาต้องง้อหนูเยย”“พ่อจ๋า วันนี้พ่อจ๋าพาไปหาคุณตาหน่อยนะคะ” แต่ไม่ทันไรกลับเปลี่ยนเรื่องพูดเสียงเจื้อยแจ้วเรื่องอื่นลืมว่าตัวเองกำลังงอนพี่ชายเอาเสียดื้อ ๆ“ครับพ่อจ๋าพาไปแน่นอน แต่ขอพ่อจ๋านอนกอดภูพิงค์กับภูผาให้หายคิดถึงก่อน” ท่อนแขนแกร่งโอบกอดร่างเล็กของลูกทั้งสองคนไว้แนบอก ทำเอานับดาวได้แต่นั่งมองมันตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกบ้านกันต์หลังจากที่พาลูกและ
“คิดถึงร่างกายดาว งั้นก็แสดงว่าพี่ไม่เคยคิดถึงดาว?” นับดาวเอ่ยถามออกไปอย่างน้อยใจ“หึ นึกว่าจะไม่ท้วง งอนแบบนี้ต้องง้อไหม” แต่สไนเปอร์กลับยิ้มอย่างพอใจที่เห็นเมียงอน“ก่อนจะคิดถึงร่างกายร่างนี้” นิ้วเรียวเชยปลายคางให้คนใต้ร่างเชิดหน้าขึ้นมองหน้าสบตาเขา“มันก็ต้องคิดถึงเจ้าของร่างกายคนขี้งอน แม่ของลูกฉันก่อน จริงไหม” ไม่พูดเปล่าเขายื่นหน้าหล่อคมเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม ปลายจมูกโด่งคลอเคลียพวงแก้มอย่างหลงใหล“ไม่ต้องมาปากหวานกับดาวหรอก เอาไว้ใช้กับสาว ๆ ของพี่เถอะ”“สาว ๆ ที่ไหนอย่ามาหาเรื่องตั้งแต่ฉันกลับไปฉันก็ไม่เคยมีใคร ฉันรักเธอคนเดียวนะนับดาว” จากที่ว่าจะงอนพอได้ยินเขาพูดแบบนั้นหัวใจดวงน้อยมันก็พองโตเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ“แล้วพี่ทำแบบนี้ พี่จะไม่ถามดาวเหรอว่าดาวมีคนอื่นไหม” ที่ถามก็แค่อยากจะรู้ว่าเขาจะเชื่อใจเธอมากแค่ไหน“ไม่จำเป็นเพราะฉันรู้จักเธอดี ว่าเธอรักฉันมากแค่ไหน” แต่พอได้ยินจากที่กำลังซึ้งใจกลับรู้สึกหมั่นไส้คนตัวโตขึ้นมาทันที“หลงตัวเองดาว มะ...อืม” เขาไม่รอให้เธอได้เอ่ยคำใดออกมาประทับจูบดูดเม้มกลีบปากบางอย่างหนักหน่วง สัมผัสมันเต็มไปด้วยรักและคิดถึง“ฉันรักเธอรัก
“…” เด็กน้อยพยักหน้า สวมกอดพ่ออีกครั้งทุกครั้งเวลาที่แม่พาไปเที่ยว ก็ได้แต่แอบน้อยใจเวลาเห็นเพื่อนคนอื่นมีพ่อไปด้วย ถึงจะเป็นเด็กแต่ก็มีความรู้สึกและสัมผัสได้ เวลาแม่ดูรูปแล้วร้องไห้กอดลูกน้อยทั้งสอง พออยู่ ๆ วันนี้ได้มาเจอตัวจริงเด็กน้อยก็ทำตัวไม่ถูกไม่กล้าที่จะแสดงความรักอย่างที่น้องสาวทำ ด้วยนิสัยที่เคร่งขรึม เอาแต่ใจถอดแบบจากพ่อมาทุกอย่าง“ไม่ต้องอายพ่อเข้าใจ ไอ้เสือเราเป็นผู้ชายแมน ๆ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น” เมื่อปรับความเข้าใจกันได้สองพ่อลูกก็เล่นหัวเราะลั่นห้องทำเอานับดาวที่เดินออกจากห้องน้ำกับลูกสาวตัวอ้วนเห็นพ่อลูกนอนคุยเล่นกันก็ยิ้มไม่หุบ“ไปอาบน้ำกันได้แล้วค่ะ”“ว่าแต่พี่จะนอนที่นี่จริงเหรอ ดาวว่า” นับดาวมองไปรอบ ๆ ห้องที่เล็กยังกับรูหนู“ไอ้เสือเราไปอาบน้ำกัน”“ครับ” แล้วสองพ่อลูกก็เดินเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจ“คนบ้า เอาแต่ใจตัวเองไม่เลิก” ถึงปากจะบ่นแต่กลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า“แม่จ๋าหนูอยากใส่ชุดหมีนอน แล้วอยากกินหม่ำแม่ด้วย นะคะภูพิงค์หิวหม่ำอยากจับนุ่มนิ่มจะได้ไม่ฝันร้าย” เด็กน้อยพูดอย่างออดอ้อน ทำตาใสแป๋วอย่างน่าสงสาร“หยิกก้นเลยดีไหมไปใส่เสื้อผ้า พรุ่งนี้แม่จ๋าพาไปหาคุ
20.00 น.“ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้และขอบคุณที่มาส่ง” นับดาวยิ้มให้สไนเปอร์ที่ยืนทำหน้านิ่งเมื่อได้ยินเธอเอ่ยอย่างนั้น“มาส่ง” เขายื่นใบหน้าหล่อ ๆ เข้าไปใกล้เธอ“ก็พี่กำลังจะกลับแล้วนิ”หลังจากที่ทานข้าวเสร็จก็พาลูกไปเดินเที่ยวซื้อของและมาส่งลูกเมียที่ห้องพัก เพราะอยากจะเห็นกับตาว่าเธอลำบากมากแค่ไหนและต้องพูดไม่ออกเมื่อห้องที่เธอกับลูกอยู่มันเล็กกว่าห้องเก็บของบ้านเขาเสียอีก แต่เขากลับภูมิใจและรักเธอมากขึ้นถึงจะลำบากขนาดไหนแต่เธอกลับเลี้ยงลูกให้สบายไม่ได้อดอยากของเล่นน้อยใหญ่เต็มห้อง“อ๊าก!! พี่ภูผา น้องเดินได้ด้วย” สองสายตาที่จดจ้องมองตากันต้องหันขวับไปทางต้นเสียงเล็กที่กรีดร้องออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจเมื่อเด็กน้อยภูพิงค์ได้ตุ๊กตาซานริโอ My Melody ตัวสีชมพูน่ารักที่อ้อนพ่อจนต้องซื้อให้ ไหนจะของเล่นชิ้นอื่นที่เขาไม่เอาลงจากรถ ส่วนคนพี่กลับไม่เอาอะไรสักอย่างเอาแต่เดินจูงมือแม่“ภูพิงค์เบา ๆ มันดึกแล้วนะ” ภูผาเอามือเล็ก ๆ ปิดปากน้องสาว ทันทีที่พี่ชายทำแบบนั้นภูพิงค์ก็เงียบแล้วนั่งเล่นหัวเราะคิกคักกับพี่สองคน โดยมีสายตาสองคู่ที่มองลูกน้อยทั้งสองแล้วอดที่จะยิ้มตามไม่ได้“พี่เปอร์ จะทำอะไร”“