คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ ปี 4
“นับดาว!!!”
“ดีใจจัง!!”
“อะไรของแกยัย มะเหมี่ยว!”
นับดาวที่เพิ่งเดินเข้าห้องเรียนหลังจากเพิ่งไปรายงานตัวจ่ายค่าเทอมที่งานทะเบียน ถึงกับต้องส่ายหัวเมื่อเพื่อนรัก เดินเข้ามากอดเหมือนไม่ได้เจอกันนานเป็นชาติทั้ง ๆ ที่ก็เพิ่งจะคุยแชตกันเมื่อคืน!
“ก็แค่ดีใจ! ว่าแต่เตโชไปไหน?”
เพื่อนสาวชะเง้อคอยาวมองไปที่ประตู
“จะไปรู้เหรอไม่ได้มาด้วยกันสักหน่อย!”
นับดาวต้องถอนหายใจกับเรื่องนี้เพราะเพื่อน ๆในห้องต่างคิดว่าเธอกับเตโชกำลังคบกัน
“ก็แกสองคนเป็นแฟนกันนิ!”
มะเหมี่ยวพูดอย่างไม่คิดอะไร
“ฟังนะ! ฉันกับเตโช! เราไม่ได้เป็นแฟนกันเราเป็นเพื่อนกัน! เข้าใจไหม!”
นับดาวพูดออกไปอย่างชัดเจน จนเตโชที่กำลังจะเดินเข้าห้องถึงกับต้องชะงัก!
“อ้าว! เต!”
น้ำตาล เพื่อนในกลุ่มลูกคุณหนูสวยหวานเอ่ยทักเตโชที่ได้ยินคำพูดของนับดาว เขาถึงกับหน้าเหวอ อึ้งกับคำพูดหญิงสาว ถึงจะรู้ว่าเธอไม่เคยคิดกับตัวเองเกินกว่าคำว่าเพื่อน แต่พอได้ยินจากปากเธอมันก็ถึงกับเสียความมั่นใจไปเลย
...ฮึ...เจ็บดีเหมือนกันแฮะ!...
แต่เขาก็ได้แต่คิดในใจส่งยิ้มให้เพื่อน ๆ และทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เพราะตัวเองแอบรักเพื่อนสาว นับดาว นางสาว หฤทย์ณิศา เอกอนันต์ เธอที่สวยเก่ง ฉลาด พ่วงตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัย และดาวคณะเป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ ทั้งมหาวิทยาลัยแต่กลับไม่มีใครเอาชนะใจหญิงสาวได้สักคน
ไม่ว่าชายหนุ่มพวกนั้นจะเข้ามาจีบเธอในรูปแบบไหน แต่เธอก็ปฏิเสธพวกเขาหมดทุกคนเพราะเธอมีเป้าหมายในชีวิต ถ้ายังไม่ประสบความสำเร็จครอบครัวยังไม่สบายเธอจะไม่มีแฟนเด็ดขาด
แต่ผู้ชายพวกนั้นพอได้รู้ถึงฐานะทางบ้านที่มีพ่อเป็นแค่คนสวนจน ๆ พวกเขาก็นึกรังเกียจและไม่สนใจเธอแล้ว จะมีก็แค่เพื่อนรัก อย่างเตโช มะเหมี่ยว และน้ำตาลที่ไม่สนใจเรื่องนี้
แต่สำหรับเธอถึงจะเพื่อนน้อยแต่เกินร้อยแบบนี้ ดีกว่ามีเพื่อนเยอะแต่ไม่มีความจริงใจแบบนี้ก็ไม่เอา!
“งั้นดาวขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะเดี๋ยวมา” ยังไม่สิ้นคำร่างบางก็รีบเดินไปเข้าห้องน้ำทันทีเพราะอีกแค่ไม่เกิน 10 นาทีจะเริ่มเรียนวิชาแรก
เพราะเธอเป็นถึงหัวหน้าห้องจะเข้าช้ากว่าเพื่อนไม่ได้ ไม่งั้นได้โดนว่า ว่าไม่มีความรับผิดชอบ
...วันแรกของการเรียนดาวจะตั้งใจเรียนนะคะพ่อ...
มือเรียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูรูปถ่ายครอบครัวเพราะพ่อและน้องคือแรงผลักดันและกำลังใจให้เธอไม่ยอมแพ้กับทุกสิ่งอย่าง!
“สู้!”
เธอพูดให้กำลังใจตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ หลังจากที่ทำธุระเสร็จ แต่แปลกจริงทำไมวันนี้ห้องน้ำมันเงียบและน่ากลัวแบบนี้
...เงียบแบบนี้จะมีผีออกมาเหมือนในหนังไหมนะ!...
เธอได้แต่คิดและนึกขำตัวเองเวลาเข้าห้องน้ำคนเดียวทีไร เจอบรรยากาศวังเวงแบบนี้ชอบนึกถึงแต่เรื่องผี
...ท่าจะบ้า!...
หมับ!!
พรึบ!
ตุ้บ!!
“...อึก!!”
ร่างบางที่กำลังจะก้าวขาออกจากห้องน้ำ แต่กลับถูกมือใหญ่ของใครไม่รู้คว้าเอวดันตัวเธอหลังติดกำแพง
สายตาเย็นชาดุจยอดน้ำค้างแข็ง มองจ้องเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า! อย่างพิจารณา
สองเดือนเต็ม ๆ ที่เขาให้คนสืบตามหาเธอจนสุดท้ายก็เจอตัวเธอจนได้!
“ปล่อย! สิ! นายจะมาจับฉันไว้ทำไมเนี่ย!!” นับดาวดิ้นเมื่อชายหนุ่มในชุดนักศึกษา เจ้าของใบหน้าหล่อคมเข้ม จับตัวเธอไว้แล้ว
สายตาเขาที่มองเธอมันยิ่งทำให้เธอสงสัย
...มองเหมือนฉันไปฆ่าญาติเขาตายงั้นแหละ
แต่เธอก็ได้แต่คิดในใจ ไม่กล้าพูดต่อกรกับชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้เพราะเธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร!
“ฮึ!! ไง! ไม่เจอฉันแค่สองเดือนไม่อยากได้ฉันเป็นผัวแล้ว?”
เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างเย้ยหยัน ยิ่งเสียงหัวเราะในลำคอมันยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับอีกฝ่าย
“พูดบ้าอะไร! ฉันไม่รู้จักกับนายสักหน่อย!” เธอดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการท่อนแขนแกร่งที่กอดรัดเอวคอด พร้อมดันตัวเข้าใกล้จนเธอแทบหายใจไม่ออก
“ฉลาดนิ! ถึงกับลงทุนมาเรียนมหาลัย หวังจะอัปเกรดราคาสินะ หึ!”
“มึงนี่มันทุเรศสิ้นดี!”
ชายหนุ่มยังคงหัวเราะพูดยิ้มกวนประสาทแต่ทว่ากลับมีความดุดัน สายตาเย็นชาเริ่มเปลี่ยนเป็นเลือดเย็นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น!
“อ้าว!! นายสิบ้า! ฉันไม่รู้จักนายสักหน่อยทำไมมาพูดกับฉันแบบนี้!” เธอจ้องหน้าเขาอย่างไม่เกรง จริงอยู่ที่เป็นคนไม่สู้คนอาจจะขี้อายไปบ้างแต่เจอแบบนี้ใครจะไปทนไหว
…...ขนาดพ่อยังไม่เคยพูดกูมึงด้วยแล้วไอ้บ้าหน้าหล่อนี่กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้? แล้วไอ้สายตาที่มองฉันแบบนี้หมายความว่าไง!......
สองสายตามองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ปล่อย!! ฉันจะไปเรียน!!”
สองมือดันแผงอกแกร่งอย่างแรงแต่มันกลับไม่เป็นผลเมื่ออีกฝ่ายกลับไม่ขยับเลยสักนิด!
“หึ...เล่นละครเก่งนิ! ทำเป็นจำฉันไม่ได้แล้วคิดเหรอว่ามึงจะรอด!!”
“ทำอะไรผิดไว้แล้วคิดว่าจะหนีรอดได้หรือไง!!”
หมับ!!
มือสากเอื้อมขึ้นบีบคอระหงอย่างแรง
“ฮื่อ!! ปะ...ปล่อย!”
นับดาวดิ้นทุรนทุรายเมื่ออีกฝ่ายออกแรงบีบจนเธอหายใจไม่ออกและกำลังจะขาดอากาศหายใจ
“อย่างเธอตายมันง่ายไป! ฉันจะทำให้เธอทรมาน ทรมาน!! ทีละนิด ทีละนิด ค่อย ๆ ตาย! อย่างช้า ๆ”
เพียงเสี้ยววินาทีที่เธอกำลังจะขาดใจเขาปล่อยมือจากคอ แต่ทว่ากลับล้วงมือเข้ามาใต้กระโปรงนักศึกษา
“แค่ก ๆ ๆ ๆ ฮื่อ!! ไอ้บ้า!! หยุดนะไอ้โรคจิต!” นับดาวที่หน้าแดงก่ำ รีบปัดมือชายหนุ่มออกทันที
“ชะ...ช่วย อุ๊บ!!”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ยังไม่ทันจะได้ร้องขอความช่วยเหลือคำพูดของเธอมันก็ถูกกลืนหายไป เมื่อถูกอีกฝ่ายปิดปากเธอด้วยปากเขา
“ฮื่อ!!!”
ตุ้บ!!
มือน้อย ๆ ทุบตีหลังชายหนุ่มแต่นั่นมันยิ่งเป็นการกระตุ้นอารมณ์โทสะของอีกฝ่าย
เขาจูบดูดเม้มริมฝีปากบางอย่างแรง ขบกัดด้วยความป่าเถื่อน
ยิ่งเธอดิ้นทุบตีเขาแรงเท่าไรเขาก็ยิ่งบดขยี้ริมฝีปากเธอแรงขึ้นเท่านั้น มันแรง แรงจนเธอชาไปทั้งปาก มันบวมเป่งและรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือด
“ฮื่อ!!” มือเล็กดันแผงอกแกร่ง เธอใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักตัวเขาแต่ด้วยสรีระร่างกายที่แตกต่างกัน
เขาตัวโตกล้ามใหญ่แล้วดูเธอสิตัวเล็กอย่างกับลูกหมาจะไปสู้แรงผู้ชายตัวใหญ่ได้ไง
แต่จะอยู่เฉย ๆ ให้เขาย่ำยีแบบนี้ได้เหรอ แค่เขาเป็นใครก็ไม่รู้ขโมยจูบแรกเธอไปมันก็มากพอแล้ว
แล้วชายตรงหน้ายังป่าเถื่อนรุนแรงดูดกัดริมฝีปากจนบวมเจ่อขนาดนี้เขายังไม่มีท่าทีจะหยุดเลย
ตุ้บ!!!
“อั้ก!!”
พรึบ!!
ร่างบางรีบวิ่งหนีออกจากห้องน้ำ ปล่อยให้คนบ้าโรคจิตที่สองมือกุมเป้าหน้าเขียวซีดเมื่อเจอเข่าหญิงสาวแทงเข้าให้อย่างจัง
“นับดาว!! ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่! งานนี้เธอต้องรับผิดชอบรวมถึงชีวิตลูกกับเมียฉัน!!”
เสียงเข้มปนเจ็บร้าวเมื่อท่อนล่างเขาโดนทารุณด้วยข้อเข่าอย่างจัง
และนั่นมันยิ่งทำให้เขาแค้นใจอยากจะฆ่าเธอให้ตายตามลูกเมียไปเสียวันนี้พรุ่งนี้ด้วยซ้ำ!
แต่การตายมันง่ายไปสำหรับผู้หญิงที่ชื่อ นับดาว!!!
“ดาวเป็นอะไร?”“แล้วปากไปโดนอะไรมาทำไมถึงบวมขนาดนั้น?”ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าห้องมะเหมี่ยวก็ถามเพื่อนสาวคนสนิทที่ทำหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับ แถมริมฝีปากบางยังบวมเป่งจนเห็นได้ชัด“ปะ...เปล่า! มดกัดน่ะ”นับดาวตอบยิ้ม ๆ ถ้าบอกว่าโดนขโมยจูบมีหวังได้อายเพื่อนตายเลย“ฮึ...มดอะไรคงจะตัวใหญ่น่าดูถึงได้เจ่อขนาดนี้!”ขวับ!!ร่างบางหันขวับคอแทบเคล็ดเมื่อได้ยินเสียงยียวนกวนประสาท เสียงนั้นเธอจำได้ดีว่าเป็น ชายโรคจิตที่ขโมยจูบแรกเธอไป!“นาย!! ไอ้โรคจิต!”หญิงสาวจ้องหน้าชายหนุ่มตาขวาง“ทำไม! อยากโดนมดกัดอีกหรือไง!”ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ใกล้จนปลายจมูกโด่งชนกับแก้มใส พูดด้วยน้ำเสียงยียวน...ไอ้บ้า! นายมันโรคจิตที่สุด...แต่เธอก็ได้แต่ด่าเขา ทางสายตา ก่อนจะเดินหนีหมับ!!ทว่ามือสากกลับรวบเอวคอดดึงเข้าหาตัว เป็นเหตุให้ใบหน้าหวานชนเข้ากับแผงอกแกร่งอย่างจัง“นี่นาย!!”สองมือเรียวดันแผงอกแกร่ง พยายามดันตัวออกจากท่อนแขน แต่ร่างหนากลับยิ่งออกแรงดึงเธอเข้ามาแนบชิด“ทำอะไรวะ!” เตโชที่เพิ่งคุยโทรศัพท์เดินเข้าห้องเห็นภาพบาดตา กระชากสไนเปอร์ออกจากนับดาวทันที“หึ...”แต่สไนเปอร์กลับเบ้ปากมองหญิงสาวอย่างเย้ยหยันแล้
Ep: 7 ผู้ชายใจร้าย“อ๊ะ!! ออกไปนะ!” สองมือดันหน้าอกแกร่ง“อยากจับเสียบมากกว่า!”หมับ!!“เฮือก!!” นับดาวถึงกับตาเบิกกว้าง ยืนตัวแข็งทื่อเมื่อมือสากจับหมับตรงส่วนสงวน!แถมคนทำยังชักสีหน้ายียวนกวนประสาทที่สุด!“อะ...ไอ้โรคจิต!!!”“ปล่อยฉันนะ!!” ทันทีที่ตั้งสติได้เธอดิ้นพยายามดันตัวออกจากชายหนุ่ม แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งกอดรัดตัวเธอไว้แน่น พร้อมมือที่ค่อย ๆ ล่วงล้ำเข้าไปใต้กระโปรง“ชะ...ช่วย อุ๊บ!!!”...อีกแล้วไอ้บ้าโรคจิตนี่มันจูบฉันอีกแล้ว กรี๊ด!!...“ฮื่อ!!” สองมือดันแผงอกแกร่ง แต่มันไม่เป็นผลเพราะเขาตัวใหญ่กว่าเธอมากพรึบ!!หมับ!ปึก!“อึก” ร่างบางถูกดันตัวหลังติดผนังห้อง เรียวแขนเล็กถูกรวบตรึงเข้าหากัน ชูขึ้นเหนือหัวด้วยมือข้างเดียวของอีกฝ่ายพร้อมบดเบียดความเป็นชายแนบชิดเข้ากลางหว่างขาจ๊วบ!!ยิ่งเธอดิ้น เขายิ่งบดขยี้กลีบปากบางอย่างบ้าคลั่ง พยายามสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็ก แต่อีกฝ่ายปิดปากแน่นไม่ยอมให้เขาทำสำเร็จ“ฮื่อ!!!” เธอดิ้นสุดแรงเกิดพยายามจะสลัดตัวให้หลุดจากพันธนาการของคนตัวโตแต่มันกลับไม่เป็นผลเมื่อเขารู้ว่าเธอจะทำอะไร ไม่มีทางที่เขาจะโง่ให้เธอกระทำกับสไนเปอร์ตัวน้อยของเขาได้อี
20.00 น.“เหนื่อยชะมัด!”“เกิดเป็นนับดาวทำไมถึงลำบากขนาดนี้!”นับดาวบ่นพึมพำคนเดียว เพราะกว่าจะทำกิจกรรมช่วยคณะเสร็จก็ปาเข้าไปสองทุ่ม...ข้าวก็ยังไม่ได้กินรีบก็รีบ...แต่เธอก็ได้แค่บ่นก่อนจะพาร่างที่เมื่อยล้าเดินขึ้นบันไดหนีไฟขึ้นไปบนห้องมันเป็นห้องเช่าราคาถูก ความปลอดภัยนะเหรอ แทบไม่มีอะไรเลย แต่ก็ต้องอยู่เพราะถ้าอยู่หอพักนักศึกษาไม่สามารถทำงานได้เพราะหอพักมีกฎ ต้องเข้าออกเป็นเวลาแต่โชคดีที่อาม่าเจ้าของห้องเช่าใจดีและเอ็นดูเธอเลยไม่น่าห่วงอะไรมากมาย‘แต่ถ้าเธอฮู้แล้ว เธอสิเลิกอยู่เบาะบ่ เฮาเลิกบ่ได้ กะคนมีฮักหมดใจไปแล้วความฮักมันควรสิมีสองคนท่อนั่นเธอกับเขาสิฮักกัน ฉันยอมบ่ได้แล้วสิให้เฮ็ดจั่งใด๋ กะหัวใจ มันฮัก’นับดาวร้องเพลงพึมพำเดินเข้าห้อง วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยและหนักสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอแค่เรื่องเรียนเธอไม่เคยหนักใจ มันหนักใจกับเพื่อนคนใหม่ที่พยายามเข้าหา และตอนนี้อาจารย์ยังสั่งงานและตัวเองต้องทำงานกับคนโรคจิตแบบนั้นจะปฏิเสธก็ไม่ได้เพราะมันคืองาน ถ้าไม่ทำก็ไม่ผ่านอีก“เฮ้อ!!”...ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอกับคนบ้าแบบนี้ด้วย ชอบพูดอะไรแปลก!...ปัก!!กระเป๋าสะพายใบเ
“ว่าไง! สไนเปอร์เพื่อนรัก!” อชิ หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น เพื่อนรักเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นเพื่อนเดินทำหน้าเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบเดินตรงเข้าไปหา“.......” สไนเปอร์ไม่พูดอะไรแต่กลับกระดกเหล้าเข้าปาก“เบาเพื่อนเบา! ไปหงุดหงิดอะไรมา” อชิ คาสโนวาหนุ่มเอ่ยถามอย่างห่วงใย “เบื่อ!” เขาตอบแค่นั้นก่อนจะกินเหล้าต่ออชิได้แต่มองเพื่อนแล้วถอนหายใจ ก่อนจะขอตัวไปหาสาว ๆ เพราะรู้ว่าเพื่อนรักไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายอีกมุมของไนต์คลับ“สวัสดีครับคนสวย”“พอดีพี่เห็นน้องมาคนเดียว กลัวคนสวยจะเหงาเลยอยากนั่งเป็นเพื่อน”“…...” เธอไม่ตอบแค่ยิ้มอ่อน แต่แค่นั้นอีกฝ่ายก็เข้าใจความหมายของเธอแล้ว“พี่นิกส์ คนสวยชื่ออะไรครับ!”“นับดาวค่ะ จะเรียกนับเฉย ๆ ก็ได้” เธอยิ้มอ่อย“ชื่อก็เพราะคนก็สวย” เมื่อเห็นอีกฝ่ายให้ท่า มีเหรอเขาจะแค่นั่งคุยเฉย ๆ มือปลาหมึกเริ่มทำงานลูบไล้ สัมผัสเรียวขาขาว“คืนนี้ไปต่อห้องพี่ไหม!”หญิงสาวไม่ตอบแต่มือเรียวเอื้อมไปลูบเป้าหนุ่มหล่อ แค่เพียงเธอสัมผัสความเป็นชายใต้ร่มผ้าก็ผงาดตัวตื่นสีหน้าแววตาชายหนุ่มเต็มไปด้วยความปรารถนา ยิ่งเธอลูบเขาก็ยิ่งมีอารมณ์“ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ!”พูดจบหญิงสาวลุกขึ้นเดิ
แกร๊ก!ตึก ตึก ตึกเสียงกลอนลูกบิดประตูห้องถูกเปิด พร้อมเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินเข้าไปในห้องเช่าเล็ก ๆสายตาคมกริบจ้องไปยังร่างบางที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงขนาดเล็ก...หึ อยากรู้เหมือนกันผู้หญิงอย่างเธอมีอะไรดีนักหนา ถึงทำให้ผู้ชายหลาย ๆ คนเป็นบ้าได้!...สไนเปอร์มองร่างบางอย่างพิจารณา หลังจากที่ดื่มกับเพื่อนรักอย่างอชิจนเมา“ยัยนับก็แบบนั้นแหละชอบทำเป็นใสซื่อ ไร้เดียงสา ทำเป็นสร้างภาพให้ตัวเองดูดี เพื่อที่จะอัปเกรดราคา ที่จริงนางเป็นสาวไซด์ไลน์ ก็เห็นขายมาตั้งแต่ปีหนึ่ง อ้างต้องส่งตัวเองเรียน แต่เท่าที่รู้จักและคบกันมานาน มันก็แค่ข้ออ้าง แต่ก็อย่างว่าครอบครัวเธอจนก็ต้องดิ้นรนเป็นธรรมดา แต่ที่ไม่เห็นด้วยคือ ทั้งที่ฝ่ายชายมีลูกมีเมียอยู่แล้วทำไมต้องไปทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกกันด้วย”“ในฐานะเพื่อน น้ำตาลเตือนนับดาวตลอด แต่...นับดาวกลับหาว่าน้ำตาลยุ่งเรื่องของเธอ”“ที่นับดาวทำแบบนั้นคงเพราะเธออยากให้พี่สนใจ เธอบอกว่าไม่เกิน 7 วันเธอต้องได้ขึ้นเตียงกับพี่ น้ำตาลไม่อยากให้พี่เสียรู้ให้ผู้หญิงแบบนั้นเลย”ยิ่งนึกถึงคำพูดของหญิงสาวที่เขาเจอที่คลับ เพราะความบังเอิญหรือตั้งใจของอีกฝ่ายก็ไม่รู้ เพราะพ
ตอนเช้า“พ่อคะ กอดดาวหน่อยดาวหนาว”นับดาว นอนตัวสั่นเมื่อเพ้อละเมอถึงแต่พ่อ เพราะทุกครั้งที่ไม่สบายพ่อจะเป็นคนดูแลมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต แต่ตั้งแต่ย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เวลาไม่สบายก็ได้แต่ดูแลตัวเองแต่ครั้งนี้มันต่างจากทุกครั้ง ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยพิษไข้ จากความหยาบโลนของชายหนุ่มที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ข้างกาย ไหนจะข้อมือที่เริ่มบวมเป่ง เพราะถูกมัดไว้ทั้งคืน“ซอนบี ซอนบี อย่าทิ้งเปอร์ไป ทำไมซอนบีกับลูกต้องทิ้งเปอร์ไปด้วย!”สไนเปอร์ที่นอนกอดร่างบางไว้แน่นร้องไห้สะอื้นเมื่อเมียและลูกมาบอกลา“ซะ...ซอน”“เฮือก!!”ก่อนเขาจะสะดุ้งตื่นเพราะสัมผัสถึงไอร้อนจากคนข้างกาย มันร้อนเหมือนเปลวไฟกำลังโหมไหม้“พ่อคะ ดาวหนาว ดาวคิดถึงพ่อ ดาวอยากกลับไปหาพ่อ”นับดาวยังคงละเมอเพราะพิษไข้กำลังเล่นงานจากบาดแผลที่อักเสบสไนเปอร์งัวเงียดันตัวลุกขึ้น ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ห้องก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเขาทำอะไรลงไปบ้าง และต้องแปลกใจเมื่อเห็นถุงยางที่ถูกใช้แล้ววางอยู่ที่พื้นมันถูกเคลือบไปด้วยคราบเลือด“พะ...พ่อดาวหนาว”แล้วต้องหันกลับไปมองร่างบางที่ยังละเมอเพ้อ เขามองร่างเธอย่างพิจารณา แต่หัวเขามันหนักอึ้งเพราะเห
ซึ่งเวลานี้ก็ดึกพอสมควรและแน่นอนเสียงดังขนาดนี้ยังไงพี่ชายอย่างกันต์ก็คงได้ยิน“หุบปาก! ถ้าไม่อยากเจ็บตัวอีก”ทันทีที่ถึงเขาวางเธอลงอย่างไม่ถนอมเอาเสียเลย พร้อมขึ้นคร่อมร่างบางไว้เมื่อเธอทำท่าจะลุกหนี“ปล่อยนะ! นายพาฉันมาที่นี่ทำไม?” นับดาวจ้องหน้าคนตัวโตอย่างไม่เกรงกลัว เพราะเขาได้ทำลายชีวิตเธอไปแล้วจะมีอะไรที่ต้องกลัวอีก“เธอเป็นใครกันแน่?”สไนเปอร์ถามอย่างสับสน เพราะทุกอย่างที่เขาเจอเธอคนนั้น กับคนนี้คนที่อยู่ตรงหน้าถ้าตัดทิฐิความแค้นและให้สมองคิดทบทวน เธอสองคนไม่มีอะไรเหมือนกันเลย นอกจากหน้าตาและชื่อแต่เขาก็ยังเชื่อใจอะไรไม่ได้จนกว่าจะได้รู้เรื่องทุกอย่างจากเพื่อนรัก ที่ตอนนี้ลืมสิ่งที่เขาบอกมัวแต่เสพสุขอยู่กับสาว ๆ“ฉันชื่อนับดาว! ฉันไม่เคยรู้จักนายรู้จักครอบครัวนาย! แล้วดูสิ่งที่นายทำกับฉัน อึก!”นับดาวพูดเสียงสั่นเครือพร้อมน้ำตาคลอเบ้าเมื่อนึกถึงฝันร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง“เธอไม่เคย?” เขาถามเสียงเรียบ!“ปล่อย!! ฉันจะกลับ!!” นับดาวเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงมันในเมื่อเสียไปแล้วก็ให้มันจบเพียงแค่นี้ เธอแค่ต้องการกลับไปห้องของเธอเท่านั้น“ถามก็ตอบสิวะ!!” แต่นั่นมันกลับทำให้สไนเปอร์ หงุ
“ไม่ต้องกลัว ไอ้ตัวก่อเรื่องมันออกไปแล้ว”“ฉันแค่อยากถามอะไรเธอสักสองสามอย่างให้แน่ใจ แค่นั้น” กันต์พูดอย่างหนักใจ เพราะนับดาวกำลังอยู่ในอาการหวาดกลัว“มะ...ไม่ทำอะไรหนูจริง ๆ นะ” เธอพูดเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า“เชื่อใจฉันได้ ถ้าเธอยังอยู่ในบ้านหลังนี้จะไม่มีใครทำร้ายเธอได้ ฉันรับรอง” กันต์พูดจริงจัง“เรื่องแรก เธอได้ไปทำงานที่ไนต์คลับฉันไหม?”เพราะหลายเดือนก่อนมีคนชื่อนับดาวไปสมัครงานกับเทวา กันต์ก็ยังไม่ทันได้เจอหน้า ผู้หญิงคนนั้นก็โดนเทวาไล่ออกก่อนเพราะพฤติกรรมเธอค่อนข้างไม่ดี และชอบหาเรื่องเด็กในร้านคนอื่น ๆ“ไม่ค่ะ ดาวไม่เคยทำงานในไนต์คลับ” นับดาวพูดปฏิเสธทันทีเพราะเธอไม่ชอบที่อโคจรแบบนั้น แค่เป็นพนักงานขายในร้านสะดวกซื้อ เวลาเข้ากะกลางคืนเธอยังกลัวเลยแล้วจะไปทำงานที่แบบนั้นได้ไง“แล้วเธอเคยไปเกาหลีไหม?” กันต์ก็แค่ถามไปอย่างนั้นเพราะแค่ข้อแรกก็ไม่ใช่แล้ว“ไม่เคยค่ะ ดาวไม่เคยไปเที่ยวไหนด้วยซ้ำ ขนาดจะกลับบ้านไปหาพ่อยังไม่มีเวลาเลย”นับดาวหยุดร้องไห้เพราะเชื่อใจและไว้ใจกันต์ ว่าเขาคงไม่ทำร้ายเธอเหมือนผู้ชายใจร้ายคนนั้น“ฉันเชื่อที่เธอพูด แต่...” กันต์ทำหน้าครุ่นคิด“เธอมีพี่น้องไห
ตอนเช้า“ตื่นสายนะเรา”“เพราะใครล่ะ ดาวถึงตื่นสายแบบนี้ แล้วลูกล่ะคะไปไหนแล้ว”“ตื่นมาก็ถามหาแต่ลูกสนใจผัวบ้างไหม?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันมองคนตัวเล็กที่ยังคงนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม“ก็ผัวอยู่ตรงนี้ ดาวไม่เห็นลูกก็ต้องถามหาลูกสิ พี่จะมางอแงทำไมกัน” นับดาวได้แต่ถอนหายใจพร้อมดันตัวลุกขึ้นนั่ง“หึ ต่อปากต่อคำเก่งนักนะ แบบนี้มันน่าเอา” สายตาเจ้าเล่ห์มองต่ำไปที่เป้ากางเกงตัวเอง“ลามก พี่หยุดลามกแล้วตอบดาวมาก่อนลูกไปไหน” นับดาวพูดจริงจัง“อยู่กับหม่าม้า เธอตื่นสายฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เลยพาลงไปเล่นข้างล่าง” มือหนาลูบที่หัวเมียแล้วเอาแต่ยิ้มกริ่ม“ยิ้มอะไรคะ พี่ดูแปลก ๆ นะดาวว่า” นับดาวพยายามจับผิดคนตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้ม“ไปอาบน้ำพ่อกับตะวันรอนานแล้วนะ” เมื่อได้ยินพ่อของลูกพูดแบบนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเขาจะพาไปที่ไหนสักแห่ง“พี่จะพาดาวไปไหนเหรอ”“ไปอาบน้ำไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง ให้เวลา 20 นาทีเดี๋ยวไปเล่นกับลูกรอ” เขายักคิ้วกวน ๆ พร้อมจุ๊บปากบาง แล้วเดินออกจากห้องทันที นับดาวได้แต่ทำหน้าสงสัยก่อนจะหอบผ้าห่มเดินเข้าห้องน้ำ30 นาทีผ่านไป“ช้า” ทันทีที่เห็นเมียเดินมาคุณพ่อคนหล่อก็บ่นเสียงดุ“…….” แต่เม
“แดดดี้อยากจะขอบคุณเบบี๋ที่ทำให้ผู้ชายเลว ๆ คนนี้กลับตัวกลับใจ เป็นคนดี ขอบคุณที่เบบี๋ยอมไว้ใจฝากชีวิตไว้กับแด๊ด ขอบคุณที่มอบสิ่งมีค่าที่สุดให้แด๊ด” กันต์มองไปที่ลูกสาวทั้งสองคน พร้อมส่งยิ้มให้เมียรักที่มองหน้าเขาน้ำตาคลอด้วยความซึ้งใจ“แดดดี้ขอมอบเพลงนี้แทนความรู้สึกที่แด๊ดมีต่อเบบี๋” กันต์เดินเข้าไปนั่งลงคุกเข่าร้องเพลงต่อหน้าเมียสุดที่รัก พร้อมลูกสาวจอมแสบ อย่างญี่ปุ่นที่วิ่งเข้าไปกอดหอมพ่อเพื่อให้กำลังใจ‘ที่ผ่านมานานเท่าไรกาลเวลาไม่อาจลืมหัวใจเปลี่ยนไปจากเธอคงเป็นไปไม่ได้เมื่อใจผูกพันมีแต่เธอแม้จะนอนและฝัน ฉันมีแต่เธอเท่านั้นไม่อาจแบ่งใจเผื่อไว้ให้ใครใจเมื่อเจอเธอแล้ว เหมือนคนที่เจอจุดหมายเมื่อมีเธอไม่ต้องการใครเมื่อวานก็รัก วันนี้รักเธอพรุ่งนี้ก็รักเธอ เพราะใจที่มีเธอไม่มีอีกแล้ว ใครจะมาเข้าใจฉันได้ดีอย่างเธอตอบแทนเธอรักเดียวใจเดียว’“เบบี๋รักแดดดี้ ขอบคุณนะคะที่แดดดี้ทำทุกอย่างเพื่อเบบี๋กับลูก ๆ” เบบี๋พูดเสียงสะอื้น มันตื้นตันใจจนห้ามน้ำตาไม่ได้ ก่อนสี่คนพ่อแม่ลูกจะกอดหอม แสดงความรักอย่างไม่อายสายตาทุกสายตาที่มองแล้วได้แต่ยิ้มตาม“……” มีแต่สไนเปอร์นั่งทำหน้าขรึมไม่
1 ชั่วโมงผ่านไป“แม่จ๋า พี่ตะวัน คุณตาขา” ร่างอ้วนกลมวิ่งเข้าไปกอดแม่ที่ประคองคุณตาเดินเข้าบ้าน“ไปดูลูกก่อน บ่นถึงเธอทั้งวัน” สไนเปอร์เดินเข้าไปประคองพ่อตาทันที“คิดถึงจังเลย วันนี้ภูพิงค์ของแม่จ๋าดื้อไหม” นับดาวยิ้มรับพร้อมเดินเข้าไปอุ้มลูกสาวตัวน้อยในชุดเจ้าหญิงสีชมพูน่ารัก“ไม่ค่ะ หนูเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซนเยย” แล้วทำไมต้องอ้อนขนาดนี้ด้วย แค่นี้แม่ก็หลงลูกไม่ไหวแล้ว“พี่ตะวันกอดหนูหน่อย” พร้อมอ้าแขนป้อม ๆ ยื่นไปหาพี่ชายอีกคน“คุณตาด้วยกอดหนูหน่อยคิดถึงคุณตาที่สุดในโลกเลย” พี่ชายกับคุณตาได้แต่มองหลานสาวตัวน้อยแล้วยิ้ม ก่อนจะกอดหอมกันพักใหญ่แล้วขึ้นไปพักบนห้องที่กันต์เตรียมไว้ให้“ยิ้มอะไรคะ แล้วภูผาล่ะ ตั้งแต่มาดาวยังไม่เห็นลูกเลย” นับดาวชะเง้อคอมองหาลูกชาย“อยู่กับพี่กันต์ โดนญี่ปุ่นลวนลามทั้งวัน” สไนเปอร์พูดอย่างเหนื่อยใจ พร้อมทำหน้าบูดบึ้งเพราะหวงลูกชาย“แม่จ๋าหนูหิวหม่ำแม่” ระหว่างที่พ่อกับแม่พูดถึงพี่ชายเด็กน้อยตัวอ้วนกลับงอแงเอาเสียดื้อ ๆ“อะไรกันคะ” นับดาวจับมือเล็กที่ล้วงเข้าไปในเสื้อพร้อมจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มที่งัวเงีย“พี่เปอร์ลูกนอนกลางวันไหม”“……” สไนเปอร์ได้แต่ส่ายหัว เพร
หลายวันผ่านไป“พี่กันต์พี่บอกลูกสาวพี่ให้หยุดวอแวลูกชายผมสักทีได้ไหมวะ” สไนเปอร์ที่เอาลูกขี่หลัง หลังเตรียมจัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ เซอร์ไพรส์เมียที่ออกไปรับพ่อกับน้องชาย บ่นพี่ชายที่ไล่วิ่งตามจับลูกสาวตัวแสบที่เอาแต่แกล้งคนนั้นกวนคนนี้ โดยเฉพาะภูผาลูกชายสุดที่รักพ่อเปอร์ ที่ตอนนี้กอดคอพ่อแน่นส่วนลูกสาวตัวอ้วน ๆ เล่นอยู่กับป้า ๆ หัวเราะคิกคักตามประสาผู้หญิง“เออ กูรู้แล้วไอ้เปอร์ กูก็ตามอยู่เนี่ย!”“ญี่ปุ่นแด๊ดไหว้ละ ลูกไปอยู่กับหม่ามี้ แด๊ดไม่ไหวแล้วนะ” กันต์มือเท้าเอวจ้องหน้าลูกสาว ที่ทำหน้านิ่งไม่ได้สนใจฟังที่พ่อพูดเลย“ภูผา เราไปวิ่งเล่นกันดีกว่าญี่ปุ่นไม่มีเพื่อนเลย พี่พาร์ทก็ไม่เล่นด้วยเอาแต่รักฟองเบียร์ น้องตอร์ชก็ไม่เล่นด้วยหยิกญี่ปุ่นตลอดเลย” เด็กน้อยทำหน้าน่าสงสาร“พอร์ช ลูกพอร์ช ไม่ใช่ตอร์ช คำอื่นแด๊ดก็เห็นหนูพูดชัดแล้วทำไมเรียกพอร์ชแบบนั้น” กันต์พูดอย่างเหนื่อยใจ“ตอร์ช ตอร์ช ญี่ปุ่นจะเรียกตอร์ช!!!!!”“เฮ้อ กูจะบ้าตายใครก็ได้เอาปืนมายิงกูที!!!” แต่ก็ทำได้แค่บ่น ท่องไว้กันต์ท่องไว้ ลูกกู ลูกกู ก็คือลูกกู แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวจะตายให้ได้ จะทำยังไงลูกสาวตัวน้อยจะเหมือนลูกคนอื่น
“กูยอมลูกมึงไอ้เปอร์ กูว่าญี่ปุ่นอ้อนแล้วลูกมึงสุดจริง” กันต์ได้แต่ยิ้มอย่างดีใจที่เห็นน้องชายมีวันนี้ มีความสุขเหมือนคนอื่นได้สักที“เข้าไปกราบหม่าม้าสิ ไม่ต้องกลัว” มือหนาลูบลงที่หัวแม่ของลูกอย่างห่วงใย พร้อมเดินจูงมือเมียเข้าไปกราบแม่“หม่าม้าขอโทษ อย่าไปไหนอีกนะ คงจะลำบากมากสินะผู้หญิงตัวคนเดียวเลี้ยงลูกเพียงลำพัง” เสียงพูดที่อ่อนโยนเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย หลังจากที่คิดอะไรได้หลายอย่างและไม่ควรมองคนแค่ภายนอก มือบางลูบลงที่หัวนับดาวที่ได้แต่นั่งยิ้มด้วยความดีใจ ที่ในที่สุดเธอจะได้อยู่กับคนที่รัก“เปอร์ขอบคุณหม่าม้าที่ยอมรับในตัวนับดาว” สไนเปอร์โผเข้ากอดแม่ โดยมีพี่ทั้งสองคนนั่งมองแล้วยิ้ม“พอ ๆ ๆ ๆ จะดึงเศร้าทำไม” กันต์พูดแทรกขึ้น“ภูพิงค์มาหาลุงสิคะ ไหนดูสิไม่เจอกันนานมาให้ลุงกอดหน่อย มาค่ะคนสวยภูผาด้วย คืนนี้นอนบ้านลุงนะรู้ไหม” พร้อมผายมือเรียกหลานรักให้เข้าไปหา“ดีเลยค่ะ ญี่ปุ่นจะได้มีเพื่อน พี่พาร์ทด้วยนอนกับญี่ปุ่นนะคะ ญี่ปุ่นอยากมีเพื่อนเล่น” ไม่พูดเปล่าญี่ปุ่นเดินเข้าไปหาภูผาที่เอาแต่นั่งกอดอก มองหน้าญี่ปุ่นอย่างเบื่อหน่าย“ทำไมทำหน้าแบบนั้นลูก” สไนเปอร์จ้องหน้าลูกอย่างส
ตอนเช้า“แม่จ๋า” เด็กหญิงตัวน้อยงัวเงียตื่น คลานเข้าไปกอดแม่ที่ยังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดคนตัวโต“ว่าไงคะ” ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มให้ลูกน้อยตะแคงข้างกอดตัวอ้วนกลมแนบอก“พ่อจ๋าหนูล่ะ พ่อจ๋าไปไหน” เด็กน้อยงอแงเรียกหาพ่อทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตา“พ่อจ๋าอยู่นี่ครับมาหาพ่อมา ภูผาด้วยมาให้พ่อนอนกอดหน่อย” สไนเปอร์ยิ้มรับพร้อมอ้าแขนรับลูก“หนูจะนอนตรงนี้” เด็กหญิงตัวอ้วน ลุกขึ้นไปนอนบนตัวพ่อ“ภูพิงค์น้องตัวหนักเดี๋ยวพ่อก็หายใจไม่ออกเหมือนพี่หรอก”“พ่อจ๋า พี่ภูผาว่าหนูอ้วน” เมื่อได้ยินพี่ชายพูดแบบนั้นใบหน้าจิ้มลิ้มก็บูดบึ้งทันที“พี่ไม่ได้ว่าสักหน่อย” เมื่อเห็นน้องงอนพี่ชายก็ได้แต่ถอนหายใจ เห็นแบบนี้คนเป็นพ่อกับแม่ก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้“ชิ หนูงอนแย้ว พี่ภูผาต้องง้อหนูเยย”“พ่อจ๋า วันนี้พ่อจ๋าพาไปหาคุณตาหน่อยนะคะ” แต่ไม่ทันไรกลับเปลี่ยนเรื่องพูดเสียงเจื้อยแจ้วเรื่องอื่นลืมว่าตัวเองกำลังงอนพี่ชายเอาเสียดื้อ ๆ“ครับพ่อจ๋าพาไปแน่นอน แต่ขอพ่อจ๋านอนกอดภูพิงค์กับภูผาให้หายคิดถึงก่อน” ท่อนแขนแกร่งโอบกอดร่างเล็กของลูกทั้งสองคนไว้แนบอก ทำเอานับดาวได้แต่นั่งมองมันตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกบ้านกันต์หลังจากที่พาลูกและ
“คิดถึงร่างกายดาว งั้นก็แสดงว่าพี่ไม่เคยคิดถึงดาว?” นับดาวเอ่ยถามออกไปอย่างน้อยใจ“หึ นึกว่าจะไม่ท้วง งอนแบบนี้ต้องง้อไหม” แต่สไนเปอร์กลับยิ้มอย่างพอใจที่เห็นเมียงอน“ก่อนจะคิดถึงร่างกายร่างนี้” นิ้วเรียวเชยปลายคางให้คนใต้ร่างเชิดหน้าขึ้นมองหน้าสบตาเขา“มันก็ต้องคิดถึงเจ้าของร่างกายคนขี้งอน แม่ของลูกฉันก่อน จริงไหม” ไม่พูดเปล่าเขายื่นหน้าหล่อคมเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม ปลายจมูกโด่งคลอเคลียพวงแก้มอย่างหลงใหล“ไม่ต้องมาปากหวานกับดาวหรอก เอาไว้ใช้กับสาว ๆ ของพี่เถอะ”“สาว ๆ ที่ไหนอย่ามาหาเรื่องตั้งแต่ฉันกลับไปฉันก็ไม่เคยมีใคร ฉันรักเธอคนเดียวนะนับดาว” จากที่ว่าจะงอนพอได้ยินเขาพูดแบบนั้นหัวใจดวงน้อยมันก็พองโตเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ“แล้วพี่ทำแบบนี้ พี่จะไม่ถามดาวเหรอว่าดาวมีคนอื่นไหม” ที่ถามก็แค่อยากจะรู้ว่าเขาจะเชื่อใจเธอมากแค่ไหน“ไม่จำเป็นเพราะฉันรู้จักเธอดี ว่าเธอรักฉันมากแค่ไหน” แต่พอได้ยินจากที่กำลังซึ้งใจกลับรู้สึกหมั่นไส้คนตัวโตขึ้นมาทันที“หลงตัวเองดาว มะ...อืม” เขาไม่รอให้เธอได้เอ่ยคำใดออกมาประทับจูบดูดเม้มกลีบปากบางอย่างหนักหน่วง สัมผัสมันเต็มไปด้วยรักและคิดถึง“ฉันรักเธอรัก
“…” เด็กน้อยพยักหน้า สวมกอดพ่ออีกครั้งทุกครั้งเวลาที่แม่พาไปเที่ยว ก็ได้แต่แอบน้อยใจเวลาเห็นเพื่อนคนอื่นมีพ่อไปด้วย ถึงจะเป็นเด็กแต่ก็มีความรู้สึกและสัมผัสได้ เวลาแม่ดูรูปแล้วร้องไห้กอดลูกน้อยทั้งสอง พออยู่ ๆ วันนี้ได้มาเจอตัวจริงเด็กน้อยก็ทำตัวไม่ถูกไม่กล้าที่จะแสดงความรักอย่างที่น้องสาวทำ ด้วยนิสัยที่เคร่งขรึม เอาแต่ใจถอดแบบจากพ่อมาทุกอย่าง“ไม่ต้องอายพ่อเข้าใจ ไอ้เสือเราเป็นผู้ชายแมน ๆ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น” เมื่อปรับความเข้าใจกันได้สองพ่อลูกก็เล่นหัวเราะลั่นห้องทำเอานับดาวที่เดินออกจากห้องน้ำกับลูกสาวตัวอ้วนเห็นพ่อลูกนอนคุยเล่นกันก็ยิ้มไม่หุบ“ไปอาบน้ำกันได้แล้วค่ะ”“ว่าแต่พี่จะนอนที่นี่จริงเหรอ ดาวว่า” นับดาวมองไปรอบ ๆ ห้องที่เล็กยังกับรูหนู“ไอ้เสือเราไปอาบน้ำกัน”“ครับ” แล้วสองพ่อลูกก็เดินเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจ“คนบ้า เอาแต่ใจตัวเองไม่เลิก” ถึงปากจะบ่นแต่กลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า“แม่จ๋าหนูอยากใส่ชุดหมีนอน แล้วอยากกินหม่ำแม่ด้วย นะคะภูพิงค์หิวหม่ำอยากจับนุ่มนิ่มจะได้ไม่ฝันร้าย” เด็กน้อยพูดอย่างออดอ้อน ทำตาใสแป๋วอย่างน่าสงสาร“หยิกก้นเลยดีไหมไปใส่เสื้อผ้า พรุ่งนี้แม่จ๋าพาไปหาคุ
20.00 น.“ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้และขอบคุณที่มาส่ง” นับดาวยิ้มให้สไนเปอร์ที่ยืนทำหน้านิ่งเมื่อได้ยินเธอเอ่ยอย่างนั้น“มาส่ง” เขายื่นใบหน้าหล่อ ๆ เข้าไปใกล้เธอ“ก็พี่กำลังจะกลับแล้วนิ”หลังจากที่ทานข้าวเสร็จก็พาลูกไปเดินเที่ยวซื้อของและมาส่งลูกเมียที่ห้องพัก เพราะอยากจะเห็นกับตาว่าเธอลำบากมากแค่ไหนและต้องพูดไม่ออกเมื่อห้องที่เธอกับลูกอยู่มันเล็กกว่าห้องเก็บของบ้านเขาเสียอีก แต่เขากลับภูมิใจและรักเธอมากขึ้นถึงจะลำบากขนาดไหนแต่เธอกลับเลี้ยงลูกให้สบายไม่ได้อดอยากของเล่นน้อยใหญ่เต็มห้อง“อ๊าก!! พี่ภูผา น้องเดินได้ด้วย” สองสายตาที่จดจ้องมองตากันต้องหันขวับไปทางต้นเสียงเล็กที่กรีดร้องออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจเมื่อเด็กน้อยภูพิงค์ได้ตุ๊กตาซานริโอ My Melody ตัวสีชมพูน่ารักที่อ้อนพ่อจนต้องซื้อให้ ไหนจะของเล่นชิ้นอื่นที่เขาไม่เอาลงจากรถ ส่วนคนพี่กลับไม่เอาอะไรสักอย่างเอาแต่เดินจูงมือแม่“ภูพิงค์เบา ๆ มันดึกแล้วนะ” ภูผาเอามือเล็ก ๆ ปิดปากน้องสาว ทันทีที่พี่ชายทำแบบนั้นภูพิงค์ก็เงียบแล้วนั่งเล่นหัวเราะคิกคักกับพี่สองคน โดยมีสายตาสองคู่ที่มองลูกน้อยทั้งสองแล้วอดที่จะยิ้มตามไม่ได้“พี่เปอร์ จะทำอะไร”“