Share

บทนำ 3

ลูกชายฉันตำหนิที่ฉันไม่ตอบข้อความ

หลานชายกระโดดโลดเต้นไปที่ห้องครัวเพื่อกินลูกชิ้นซอสน้ำแดง แต่กลับเดินออกมาด้วยความผิดหวัง

“คุณย่า ลูกชิ้นซอสน้ำแดงล่ะ เอามาให้ผมเร็ว ๆ ผมจะกิน!”

"ไม่ได้ทำ"

กล่าวจบ หลานชายก็ร้องไห้ทันที

ลูกสะใภ้เข้าไปกอดหลานชายและปลอบโยนด้วยความสงสาร

ลูกชายยืนอยู่ตรงหน้าฉันด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

“แม่ วันนี้แม่บ้าไปหรือเปล่า ผมโทรหาก็ตัดสาย ส่งข้อความมาก็ไม่ตอบ แม้แต่ลูกชิ้นของเหวินเหวินก็ไม่ได้ทำ แม่ทำอะไรอยู่ที่บ้านทั้งวัน?”

คำตำหนิถาโถมเข้ามา ราวกับว่าฉันไม่ใช่แม่ของเขา แต่เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เขาจ้างมา

ฉันมองเขาอย่างสงบ และไม่ตอบเขา แต่เอ่ยถาม "แกไม่กลัวความสูงใช่ไหม?"

เขาชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วหันไปทางอื่นด้วยความรู้สึกผิด

“เพราะงั้นแกโกหกฉันว่ากลัวความสูง เพราะไม่อยากช่วยฉันปีนขึ้นไปตัดแต่งกิ่งไม้น่ะสิ”

“แต่ไปปีนต้นไม้บ้านคนอื่นเพื่อช่วยเขาตัดแต่งกิ่งไม้ได้?”

“คนอื่นที่ไหนกัน?” ลูกชายรีบเอ่ยตัดฉันทันที “นั่นน้าอู๋ของผม เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวทำงานแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมช่วยเธอก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เธอเป็นเพื่อนสนิทของแม่ไม่ใช่เหรอ?”

ฉันไม่พูดอะไร แค่จ้องมองลูกชายอยู่นาน ลูกชายที่ฉันพยายามสุดชีวิตเพื่อคลอดเขาออกมา

ตอนพักร่างกายหลังการคลอดหนึ่งเดือน น้ำนมของฉันไม่เพียงพอ เขาทานไม่อิ่มจนร้องไห้กลางดึก

นมผงก็ไม่ยอมกิน

ในที่สุดฉันก็คั้นนมออกมาได้นิดหน่อย และเขาก็ดูดไม่หยุดอย่างมีความสุข

พอกินอิ่ม ในที่สุดก็ไม่ร้อง ปากเล็ก ๆ ของเขายิ้มไม่หยุด ฉันอดที่จะบีบแก้มเล็ก ๆ ของเขาไม่ได้

ฉันคิดอยู่ในใจว่าทำไมลูกชายของฉันถึงได้น่ารักขนาดนี้

เขาใกล้ชิดผูกพันกับฉันมาตลอด ตอนที่เขาฝึกพูด คำแรกที่เขาพูดคือ "แม่"

พอเข้าโรงเรียนประถม ก็ยังรั้นว่าจะนอนกับฉัน ฉันบอกว่าเขาเป็นผู้ชาย โตแล้วต้องหัดนอนคนเดียว

เขาพูดด้วยน้ำเสียงไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม "ผมไม่สน ผมจะอยู่กับแม่และรักแม่ไปตลอดชีวิต!"

แต่เขาผิดสัญญา

เขาเห็นแม่อย่างฉันเป็นเพียงพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่ง กล่าวคำพูดชั่วร้ายกับฉัน

เขารังเกียจที่แม่อย่างฉันเรียนไม่จบแม้แต่ชั้นประถม ไร้การศึกษา ไร้ความสามารถ

สู้พ่อของเขาไม่ได้ที่สามารถปูทางไปสู่อนาคตให้เขาได้ และไม่มีหน้ามีตาเหมือนอู๋ชุ่ยที่เป็นนักวิจารณ์วรรณกรรม

หยดน้ำตาไหลลงมาอย่างเงียบ ๆ

ฉันพูดด้วยเสียงแหบแห้ง "หลังจากนี้ แกไม่ใช่ลูกชายฉันอีกต่อไป"

เขามองฉันด้วยความรังเกียจเล็กน้อย ราวกับเป็นยัยป้าสติฟั่นเฟือนที่กินเนื้อหมาบ้า

เฉินจุ้นฮุยซึ่งเงียบมาตลอดดุฉันด้วยความโกรธ "คุณเป็นบ้าอะไรของคุณกันแน่? ทุกคนในบ้านมีความดี คุณเป็นประสาทอะไรของคุณ ทำให้ที่บ้านเสียบรรยากาศแบบนี้คุณพอใจหรือยัง”

ฉันมองเขาอย่างสงบ “คุณก็อีกคน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คุณไม่ใช่สามีของฉันอีกแล้ว”

เฉินจุ้นฮุยขมวดคิ้ว "คุณหมายความว่ายังไง"

“พวกเราควรหย่ากัน ฉันไม่อยากใช้ชีวิตกับคุณอีกต่อไป”

ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อ และกล่าวอย่างเย็นชา "เหลวไหลสิ้นดี! พวกเราอายุขนาดนี้แล้ว จะมายงมาหย่าอะไร ไม่กลัวพวกเด็ก ๆ หัวเราะเยาะเอาหรือไง"

ลูกสะใภ้เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีเช่นนี้ จึงจับมือฉันเพื่อคลี่คลายสถานการณ์

“แม่คะ พ่อทำอะไรผิดหรือเปล่า มีอะไรก็ให้เขาเปลี่ยนตัวเอง อย่าโกรธเลยนะคะ…”

ลูกชายขัดจังหวะด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว “พ่อจะทำอะไรผิดได้ แม่อยู่บ้านทั้งวันไม่ทำอะไรเลย คงว่างเกินไปก็เลยหาเรื่อง”

“อายุขนาดนี้แล้ว คงไม่ใช่เป็นโรคอัลไซเมอร์หรอกนะ พอพวกเรากลับถึงบ้านก็เริ่มพูดเรื่องไร้สาระทันที”

“แม่ ผมขอเตือนนะ รีบขอโทษพ่อเดี๋ยวนี้เลย เรื่องหย่าแม่อย่าแม้แต่จะคิด ผมเป็นคนแรกที่ไม่เห็นด้วย”

เขาพูดไม่หยุด ในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป

“แกคิดว่าแกเป็นใคร ฉันคิดจะหย่ายังต้องให้แก่เห็นด้วยด้วยเหรอ?”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status