Share

บทนำ 2

ฉันเปิดโมเมนต์ขึ้นมา เฉินจุ้นฮุยเพิ่งโพสต์ไทม์ไลน์ไป

ในภาพ แม้ว่าเขาจะอายุเจ็ดสิบแล้ว แต่รูปร่างของเขาก็ยังเหยียดตรงสูงโปร่งเหมือนต้นสนบนภูเขา

ยังคงมีรูปลักษณ์ตอนเป็นหนุ่มให้เห็นอยู่รำไร

เขาเป็นศาสตราจารย์อาวุโสของคณะอักษรศาสตร์ ส่วนอู๋ชุ่ยเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรม

พวกเขามักนั่งคุยกันเรื่องงานวรรณกรรมแบบนี้อยู่บ่อย ๆ

เฉินจุ้นฮุยที่ไม่ชอบยิ้มมาตลอด ตอนนี้กลับยิ้มอย่างมีความสุข

ห่างออกไป ลูกชายที่ไม่เคยทำงานที่บ้าน กำลังยืนใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้อยู่บนต้นไม้ใหญ่ในสวนของอู๋ชุ่ย

ตั้งใจจนไม่มีเวลาเช็ดเหงื่อด้วยซ้ำ

แต่ฉันจำได้ชัดเจนว่า ตอนที่ฉันขอให้เขาช่วยตัดมัน เขาบอกว่าเขากลัวความสูง

หัวใจของฉันรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทำให้หลังของฉันทรุดลงอย่างเหลือทน

หยดน้ำตาไหลลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่า ความพยายามของฉันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันช่างน่าหัวเราะถึงเพียงนี้

ฉันตื่นนอนตอนตีห้าทุกวัน เพื่อช่วยทำอาหารเช้าให้ทั้งครอบครัว

หลังทานอาหารเช้าเสร็จต้องรีบล้างถ้วยล้างชามเก็บกวาดห้องครัว ลูกชายกับลูกสะใภ้ต้องไปทำงาน และฉันต้องส่งหลานชายไปโรงเรียนอย่างเร่งรีบ

ขากลับฉันต้องไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของกินของใช้ เมื่อกลับถึงบ้านต้องทำความสะอาดและซักผ้า

หลังจากนั้นก็ต้องรีบเลือกผักล้างผัก เตรียมอาหารกลางวัน

ทำมื้อเที่ยงเสร็จแล้วฉันต้องไปรับหลานชาย

หลานชายเป็นคนเลือกกิน ชอบกินอาหารอร่อยๆอย่างพวกลูกชิ้นซอสน้ำแดง มะเขือยาวชุบแป้งทอด กุ้งอบ เป็นต้น

การเตรียมอาหารอร่อยต้องใช้เวลามากขึ้น บางครั้งฉันยุ่งจนทำไม่ทัน ขอให้เฉินจุ้นฮุยช่วยไปรับหลาน เขาทำท่าขมวดคิ้วหาว่าฉันรบกวนการอ่านหนังสือของเขา

ฉันยุ่งตัวหมุนเหมือนลูกข่าง หลายปีที่ผ่านมาฉันเหนื่อยจนแทบจะล้มลง แต่ก็ไม่เคยบ่นเลยสักคำ

แต่กลับแลกมาด้วยจุดจบเช่นนี้

ไม่ยอมรับไม่ได้ว่า ฉันเป็นภรรยาที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ แถมยังเป็นแม่ที่จะมีหรือไม่มีก็ได้เช่นกัน

หลังจากที่ฉันรับรู้สถานะของตนเอง ฉันก็ตาสว่างขึ้นมาทันที

ฉันไม่อยากเสียเวลากับเดนมนุษย์พวกนี้อีกแม้แต่วินาทีเดียว

จากนี้ไป ฉันจะดีกับตัวเองมากขึ้น

ฉันไปห้างสรรพสินค้าและซื้อชุดใหม่ให้ตัวเอง

ตอนกลับรู้สึกหิวนิดหน่อย เลยไปที่ร้านอาหารและสั่งอาหารมาสองสามอย่าง

หลายปีมานี้ ด้านหนึ่งเพราะต้องการประหยัดเงิน อีกด้านหนึ่งเพราะอยากให้พวกเขาทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สี่สิบปีมานี้ ถ้าไม่นับวันที่ไปงานเลี้ยงงานแต่ง ฉันต้องยุ่งวุ่นวายอยู่ในห้องครัวทั้งวัน

หลังจากนี้ ฉันจะไม่เห็นห้องครัวเป็นโลกของฉันอีกต่อไป

เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันดูวิดีโอสั้นอยู่พักหนึ่ง

ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ฉันลุกขึ้นเพื่อจะไปดื่มน้ำ เสียงหมุนกุญแจเปิดประตูดังมาจากด้านนอก

เฉินจุ้นฮุยเดินเข้ามา

เขาไม่ยิ้มอย่างอ่อนโยนเหมือนในรูปอีกต่อไป สีหน้าเคร่งขรึมประกอบกับแว่นตาขอบทอง ให้ความรู้สึกห่างเหินจนไม่กล้าเข้าใกล้

เมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน เขามักทำตัวห่างเหินเย็นชาแบบนี้อยู่เสมอ ฉันรู้สึกกลัวเขานิดหน่อย และฉันเคยบอกเขาตอนแต่งงานกันใหม่ ๆ

เขาบอกว่าเขาแสดงออกไม่เป็น แค่ในใจมีฉันอยู่ก็พอ

หลังจากเห็นความอ่อนโยนที่เขามีให้อู๋ชุ่ยในวิดีโอ ฉันก็ไม่คิดว่านี่เป็นธรรมชาติของเขาอีกต่อไป รู้สึกเพียงว่าเขาน่าขยะแขยง และจอมปลอมมาก

เขานวดตรงกลางระหว่างคิ้ว และกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ "ไปชงน้ำผึ้งมาให้ผมที เมื่อกี้ดื่มเหล้าไปนิดหน่อย รู้สึกไม่ค่อยสบายท้อง"

ถ้าเป็นในเวลาปกติ ฉันคงรีบลุกขึ้นไปชงมาให้เขาทันที แต่ตอนนี้ฉันกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน

เมื่อเห็นว่าฉันไม่ขยับ เฉินจุ้นฮุยก็ขมวดคิ้วแน่น "ผมกำลังคุยกับคุณอยู่นะ!"

เมื่อก่อน เห็นเขามีท่าทีสุดจะทนแบบนี้ ฉันก็จะประหม่าขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

แต่วันนี้ ฉันพบว่าตัวเองรู้สึกสงบมาก

“ฉันไม่ว่าง คุณไปชงเองเถอะ”

เฉินจุ้นฮุยมีท่าทีไม่อยากจะเชื่อ แต่มันก็ไม่น่าแปลกหรอก นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันปฏิเสธเขา

ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมลง “วันนี้คุณเป็นอะไรไป ลูกชายโทรมาก็ไม่รับ?”

"วันนี้พวกเรากินข้าวมาจากข้างนอก ไม่ได้ให้คุณเตรียมอะไร ให้คุณพักสักวันไม่ดีเหรอ?"

ขณะที่ฉันกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ลูกชายและครอบครัวทั้งสามคนก็กลับมา

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status