Share

บทนำ 2

Author: จินซุ่นจื่อ
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ฉันเปิดโมเมนต์ขึ้นมา เฉินจุ้นฮุยเพิ่งโพสต์ไทม์ไลน์ไป

ในภาพ แม้ว่าเขาจะอายุเจ็ดสิบแล้ว แต่รูปร่างของเขาก็ยังเหยียดตรงสูงโปร่งเหมือนต้นสนบนภูเขา

ยังคงมีรูปลักษณ์ตอนเป็นหนุ่มให้เห็นอยู่รำไร

เขาเป็นศาสตราจารย์อาวุโสของคณะอักษรศาสตร์ ส่วนอู๋ชุ่ยเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรม

พวกเขามักนั่งคุยกันเรื่องงานวรรณกรรมแบบนี้อยู่บ่อย ๆ

เฉินจุ้นฮุยที่ไม่ชอบยิ้มมาตลอด ตอนนี้กลับยิ้มอย่างมีความสุข

ห่างออกไป ลูกชายที่ไม่เคยทำงานที่บ้าน กำลังยืนใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้อยู่บนต้นไม้ใหญ่ในสวนของอู๋ชุ่ย

ตั้งใจจนไม่มีเวลาเช็ดเหงื่อด้วยซ้ำ

แต่ฉันจำได้ชัดเจนว่า ตอนที่ฉันขอให้เขาช่วยตัดมัน เขาบอกว่าเขากลัวความสูง

หัวใจของฉันรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทำให้หลังของฉันทรุดลงอย่างเหลือทน

หยดน้ำตาไหลลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่า ความพยายามของฉันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันช่างน่าหัวเราะถึงเพียงนี้

ฉันตื่นนอนตอนตีห้าทุกวัน เพื่อช่วยทำอาหารเช้าให้ทั้งครอบครัว

หลังทานอาหารเช้าเสร็จต้องรีบล้างถ้วยล้างชามเก็บกวาดห้องครัว ลูกชายกับลูกสะใภ้ต้องไปทำงาน และฉันต้องส่งหลานชายไปโรงเรียนอย่างเร่งรีบ

ขากลับฉันต้องไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของกินของใช้ เมื่อกลับถึงบ้านต้องทำความสะอาดและซักผ้า

หลังจากนั้นก็ต้องรีบเลือกผักล้างผัก เตรียมอาหารกลางวัน

ทำมื้อเที่ยงเสร็จแล้วฉันต้องไปรับหลานชาย

หลานชายเป็นคนเลือกกิน ชอบกินอาหารอร่อยๆอย่างพวกลูกชิ้นซอสน้ำแดง มะเขือยาวชุบแป้งทอด กุ้งอบ เป็นต้น

การเตรียมอาหารอร่อยต้องใช้เวลามากขึ้น บางครั้งฉันยุ่งจนทำไม่ทัน ขอให้เฉินจุ้นฮุยช่วยไปรับหลาน เขาทำท่าขมวดคิ้วหาว่าฉันรบกวนการอ่านหนังสือของเขา

ฉันยุ่งตัวหมุนเหมือนลูกข่าง หลายปีที่ผ่านมาฉันเหนื่อยจนแทบจะล้มลง แต่ก็ไม่เคยบ่นเลยสักคำ

แต่กลับแลกมาด้วยจุดจบเช่นนี้

ไม่ยอมรับไม่ได้ว่า ฉันเป็นภรรยาที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ แถมยังเป็นแม่ที่จะมีหรือไม่มีก็ได้เช่นกัน

หลังจากที่ฉันรับรู้สถานะของตนเอง ฉันก็ตาสว่างขึ้นมาทันที

ฉันไม่อยากเสียเวลากับเดนมนุษย์พวกนี้อีกแม้แต่วินาทีเดียว

จากนี้ไป ฉันจะดีกับตัวเองมากขึ้น

ฉันไปห้างสรรพสินค้าและซื้อชุดใหม่ให้ตัวเอง

ตอนกลับรู้สึกหิวนิดหน่อย เลยไปที่ร้านอาหารและสั่งอาหารมาสองสามอย่าง

หลายปีมานี้ ด้านหนึ่งเพราะต้องการประหยัดเงิน อีกด้านหนึ่งเพราะอยากให้พวกเขาทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สี่สิบปีมานี้ ถ้าไม่นับวันที่ไปงานเลี้ยงงานแต่ง ฉันต้องยุ่งวุ่นวายอยู่ในห้องครัวทั้งวัน

หลังจากนี้ ฉันจะไม่เห็นห้องครัวเป็นโลกของฉันอีกต่อไป

เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันดูวิดีโอสั้นอยู่พักหนึ่ง

ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ฉันลุกขึ้นเพื่อจะไปดื่มน้ำ เสียงหมุนกุญแจเปิดประตูดังมาจากด้านนอก

เฉินจุ้นฮุยเดินเข้ามา

เขาไม่ยิ้มอย่างอ่อนโยนเหมือนในรูปอีกต่อไป สีหน้าเคร่งขรึมประกอบกับแว่นตาขอบทอง ให้ความรู้สึกห่างเหินจนไม่กล้าเข้าใกล้

เมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน เขามักทำตัวห่างเหินเย็นชาแบบนี้อยู่เสมอ ฉันรู้สึกกลัวเขานิดหน่อย และฉันเคยบอกเขาตอนแต่งงานกันใหม่ ๆ

เขาบอกว่าเขาแสดงออกไม่เป็น แค่ในใจมีฉันอยู่ก็พอ

หลังจากเห็นความอ่อนโยนที่เขามีให้อู๋ชุ่ยในวิดีโอ ฉันก็ไม่คิดว่านี่เป็นธรรมชาติของเขาอีกต่อไป รู้สึกเพียงว่าเขาน่าขยะแขยง และจอมปลอมมาก

เขานวดตรงกลางระหว่างคิ้ว และกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ "ไปชงน้ำผึ้งมาให้ผมที เมื่อกี้ดื่มเหล้าไปนิดหน่อย รู้สึกไม่ค่อยสบายท้อง"

ถ้าเป็นในเวลาปกติ ฉันคงรีบลุกขึ้นไปชงมาให้เขาทันที แต่ตอนนี้ฉันกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน

เมื่อเห็นว่าฉันไม่ขยับ เฉินจุ้นฮุยก็ขมวดคิ้วแน่น "ผมกำลังคุยกับคุณอยู่นะ!"

เมื่อก่อน เห็นเขามีท่าทีสุดจะทนแบบนี้ ฉันก็จะประหม่าขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

แต่วันนี้ ฉันพบว่าตัวเองรู้สึกสงบมาก

“ฉันไม่ว่าง คุณไปชงเองเถอะ”

เฉินจุ้นฮุยมีท่าทีไม่อยากจะเชื่อ แต่มันก็ไม่น่าแปลกหรอก นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันปฏิเสธเขา

ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมลง “วันนี้คุณเป็นอะไรไป ลูกชายโทรมาก็ไม่รับ?”

"วันนี้พวกเรากินข้าวมาจากข้างนอก ไม่ได้ให้คุณเตรียมอะไร ให้คุณพักสักวันไม่ดีเหรอ?"

ขณะที่ฉันกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ลูกชายและครอบครัวทั้งสามคนก็กลับมา

Related chapters

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 3

    ลูกชายฉันตำหนิที่ฉันไม่ตอบข้อความหลานชายกระโดดโลดเต้นไปที่ห้องครัวเพื่อกินลูกชิ้นซอสน้ำแดง แต่กลับเดินออกมาด้วยความผิดหวัง“คุณย่า ลูกชิ้นซอสน้ำแดงล่ะ เอามาให้ผมเร็ว ๆ ผมจะกิน!”"ไม่ได้ทำ"กล่าวจบ หลานชายก็ร้องไห้ทันทีลูกสะใภ้เข้าไปกอดหลานชายและปลอบโยนด้วยความสงสารลูกชายยืนอยู่ตรงหน้าฉันด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ“แม่ วันนี้แม่บ้าไปหรือเปล่า ผมโทรหาก็ตัดสาย ส่งข้อความมาก็ไม่ตอบ แม้แต่ลูกชิ้นของเหวินเหวินก็ไม่ได้ทำ แม่ทำอะไรอยู่ที่บ้านทั้งวัน?”คำตำหนิถาโถมเข้ามา ราวกับว่าฉันไม่ใช่แม่ของเขา แต่เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เขาจ้างมาฉันมองเขาอย่างสงบ และไม่ตอบเขา แต่เอ่ยถาม "แกไม่กลัวความสูงใช่ไหม?"เขาชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วหันไปทางอื่นด้วยความรู้สึกผิด“เพราะงั้นแกโกหกฉันว่ากลัวความสูง เพราะไม่อยากช่วยฉันปีนขึ้นไปตัดแต่งกิ่งไม้น่ะสิ”“แต่ไปปีนต้นไม้บ้านคนอื่นเพื่อช่วยเขาตัดแต่งกิ่งไม้ได้?”“คนอื่นที่ไหนกัน?” ลูกชายรีบเอ่ยตัดฉันทันที “นั่นน้าอู๋ของผม เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวทำงานแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมช่วยเธอก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เธอเป็นเพื่อนสนิทของแม่ไม่ใช่เหรอ?”ฉันไม่พูดอะไร แค่จ้องมองลู

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 4

    ปกติแล้วฉันจะพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เคยตะโกนใส่เขาแบบนี้เสียเมื่อไหร่กัน เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจส่วนคนอื่นๆ ก็ล้วนยืนนิ่งอยู่กับที่ ราวกับว่ากำลังหวาดกลัวกับปฏิกิริยาของฉันเมื่อฉันพูดใส่ลูกชายเช่นนั้นแล้ว เขาก็ดูเสียหน้าเอามากๆ เขาจึงกระแทกประตูออกไปด้วยท่าทีขุ่นเคืองลูกสะใภ้เห็นท่าทีผิดปกติของฉันก็ไม่พูดอะไร เธออุ้มหลานชายขึ้นมาและเดินหนีไปเฉินจุ้นฮุยตำหนิฉันด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก “เด็กๆ โกรธคุณจนหนีไปหมดแล้ว ตอนนี้คุณคงมีความสุขแล้วสินะ?"เมื่อเขาเห็นว่าฉันไม่สนใจ สีหน้าของเขาก็ฉายแววเย็นชา“หวังหงสยา ผมว่าคุณอย่าทำอีกดีกว่า ถ้าคุณยังทำอีก ต่อไปผมคงช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ”น้ำเสียงของเขาเหลือทนเต็มที ราวกับว่านี่คือสุดขีดความอดทนของเขาแล้ว“คุณฟังภาษาคนไม่ออกหรือไง? ฉันบอกว่าให้หย่า จะหย่าก็คุยแค่เรื่องหย่าสิ เลิกพูดเรื่องไร้สาระสักที"เขาเป็นศาสตราจารย์ผู้เก่งกาจ ทั้งยังมีการศึกษา ถึงแม้จะโกรธก็ไม่แม้แต่จะพ่นคำหยาบออกมาสักคำแต่ฉันทำได้ ตอนนี้ฉันอยากด่าเขาด้วยคำพูดหยาบโลนหาที่หาที่เปรียบไม่ได้จริงๆฉันอยากจะพุ่งไปหั่นร่างของเขาเป็นชิ้นๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเ

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 5

    ฉันปลูกผักเสร็จแล้วก็ไปซื้อเค้กชิ้นเล็กๆ ให้ตัวเองเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชีวิตใหม่ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่เพื่อพวกเขาอีกต่อไป ไม่อยากจะอยู่เพื่อใครอีกต่อไปแล้วฉันอยากมีชีวิตอยู่เพื่อตนเองก่อนที่ฉันจะเป็นภรรยาและแม่ ฉันจะต้องเป็นตัวเองให้ได้ก่อนฉันกินเค้กเสร็จก็นอนลงบนโซฟาดูโทรทัศน์อย่างสบายๆท้องทะเลในโทรทัศน์ช่างสวยงามและกว้างใหญ่ไพศาล ทันใดนั้นฉันก็นึกขึ้นได้ว่าตนเองยังไม่เคยไปเที่ยวเลยสักครั้งในชีวิตฉันหาคำแนะนำทันทีและตัดสินใจเลือกชิงเต่าฉันอยากเห็นเหลือเกินว่าสิ่งที่อยู่อีกฟากของทะเลคืออะไรฉันไปซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟ ถือกระเป๋าและออกเดินทางทันทีฉันยืนกางแขนรับลมอยู่ริมชายหาด พลางสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายและอิสรภาพอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันจะได้พบกับความหมายของชีวิตและรู้สึกว่าตนยังมีชีวิตอยู่ฉันไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นหลายแห่งและกินของอร่อยมากมายแต่ละสถานที่ล้วนทำให้ฉันเพลิดเพลินนอกจากนี้ฉันยังสมัครบัญชีแอปโซเชียลมีเดียเพื่อโพสต์ชีวิตประจำวันของฉันด้วยหลายคนกดถูกใจและแสดงความคิดเห็นให้ฉันในวันที่ฉันต้องกลับ ฉันก็มองดูท้องทะเลเ

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 6

    วันรุ่งขึ้น ทันทีที่ฉันตื่นและเดินออกมาจากห้องพักก็เห็นเฉินจุ้นฮุยนั่งอยู่ด้านหน้าประตูเขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีเขินอาย“ถ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อคุยเรื่องหย่าก็ออกไปซะ!”“หงสยา ผม...คุณให้โอกาสผมอีกสักครั้งไม่ได้จริงๆ เหรอ?”“เฉินจุ้นฮุยเลิกเสแสร้งได้แล้ว คุณมัวมาเล่นละครอะไรตรงนี้ ถ้าคุณหย่ากับฉัน คุณก็จะได้ไปอยู่กับนังผู้หญิงต่ำไง ยังไม่พอใจอีกเหรอ?"“คุณจะไม่บอกลูกๆ หรือแพร่ข่าวใช่ไหม?"ฉันมองดูชายผู้มีอายุเกินเจ็ดสิบปีแล้วแต่ยังคงดูหล่อเหลาสง่างามตรงหน้าก็พลันรู้สึกสมเพชขึ้นมาทันใด ฉันตกหลุมรักคนแบบนี้ไปได้อย่างไร“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว เซ็นสัญญาหย่าเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะไปติดประกาศที่โรงเรียนของคุณ เอาให้คุณอับอายไปเลย"ในที่สุดเขาก็ตกลงที่จะหย่ากับฉันโดยมีเงื่อนไขว่าฉันจะดูแลบั้นปลายชีวิตของเขา แต่เขาจะต้องมอบทรัพย์สินทั้งหมดของเขาให้ฉันเขาเก็บกวาดเตรียมย้ายออก ซึ่งฉันก็ให้เวลาเขาหนึ่งเดือนในการจัดการเรื่องย้ายออกจากบ้านหนึ่งเดือนต่อมา ฉันก็ได้มาเจอเขาอีกครั้งที่สำนักงานกิจการพลเรือนเราฟ้องหย่าและแยกทางกันโดยสิ้นเชิงและฉันก็เหลือบไปเห็นรถของอู๋ชุยจอดอยู่ไม่

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 7

    หลังจากนั้นฉันก็เริ่มใช้ชีวิตของตัวเองบัญชีโซเชียลมีเดียของฉันก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆบางครั้งเมื่อมีเวลาฉันจะถ่ายทอดสด หลายคนถามและคุยโต้ตอบกับฉัน และยังชมว่าฉันสวยอีกด้วย สมัยตอนยังสาว จะต้องเป็นคนที่สวยมากแน่ ๆฉันยังได้รับความสนใจมากขึ้นฉันชอบของโบราณมาโดยตลอด จริง ๆ แล้วตอนที่ฉันเรียนหนังสือฉันเรียนเก่งมาก โดยเฉพาะด้านภาษา ฉันมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในบทกวีโบราณแต่เพราะยากจนเกินไป พ่อของฉันบอกว่าเป็นเด็กผู้หญิงเรียนหนังสือไปก็ไม่มีประโยชน์ อย่างไรเสียก็ต้องแต่งงาน จึงไม่อยากเสียเงินกับฉัน กลัวไม่มีใครตัดหญ้าให้วัวที่บ้าน ก็เลยไม่ให้ฉันเรียนหนังสือบางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากฉันได้เรียนหนังสือ อย่างนั้นฉันก็จะไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกับเฉินจุ้นฮุย ไม่แน่ฉันอาจจะมีสามีที่รักเดียวใจเดียวอย่างไรก็ตาม ปล่อยให้อดีตผ่านไปเถอะ พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ กาลเวลาไม่สามารถย้อนกลับไปได้นอกจากการแบ่งปันชีวิตสำหรับเรือกสวนไร่นาของฉันแล้ว ฉันยังสามารถเขียนบทกวี ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับมากมายขนาดนี้ ในเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสองเดือน ผู้ติดตามของฉันเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งล้านคนและฉันก็ได

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 8

    ลูกสะใภ้ตีลูกชายไปทีหนึ่งแล้วพูดว่า “ ยังไม่รีบขอโทษแม่อีก เธอเป็นแม่ที่ให้กำเนิดคุณ เลี้ยงดูคุณและรักคุณมาตลอดชีวิต ดูคำพูดแย่ ๆ ที่คุณพูดในวันนั้นสิ คราวนี้คุณทำให้แม่ใจสลายแล้วจริง ๆ”“ แม่ ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้วจริง ๆ และผมก็เสียใจจริง ๆ ที่ทำแบบนั้นกับแม่ก่อนหน้านี้”" เสียใจเหรอ แกเคยคิดว่าฉันเป็นแม่ของแกจริง ๆ มั้ย หรือเป็นเพียงเพราะว่าที่บ้านขาดพี่เลี้ยงเด็กที่ไม่ต้องเสียเงินจ้าง ที่จริงแล้วแกไม่เคยเสียใจอะไรเลย แกแค่เสียใจที่อู๋ชุ่ยเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ไม่เชื่อฟัง"“ แกลืมไปแล้วหรือไงว่าตอนเด็ก ๆ พูดอะไรไว้ ตอนเด็ก ๆ แกบอกว่าจะอยู่กับแม่ตลอดชีวิต รักฉันตลอดชีวิต และจะไม่ปล่อยให้ฉันได้รับความไม่เป็นธรรม แต่แกทำอะไรลงไปล่ะ แกก็เหมือนกับพ่อที่ไร้หัวใจของแก เห็นแก่ตัว หน้าซื่อใจคดไร้ยางอาย ฉันจะไม่มีวันให้อภัยพวกแก ถ้าไม่มีใครดูแลลูกคอยรับคอยส่ง พวกแกก็ไปหาพี่เลี้ยงเด็กสิ อย่าคิดจะหาฉันมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ไม่ต้องเสียเงินจ้างเลย ”“ ตอนนี้ฉันอยากมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง และฉันก็มีอาชีพเป็นของตัวเองแล้ว ฉันไม่ใช่หวังหงสยาที่รู้แต่วิธีล้างจานขัดหม้ออีกต่อไป แกฟังเข้าใจแล้วหรือยัง

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 9

    ฉันมีแฟน ๆ จำนวนมาก และเนื่องจากฉันสามารถบรรลุความสำเร็จระดับสูงได้อีกครั้งเมื่ออายุได้ 70 ปี ผู้คนที่เดินผ่านไปมาจำนวนมากเห็นใจฉัน และจำนวนแฟน ๆ ของฉันก็พุ่งสูงขึ้นทุกคนในส่วนของความคิดเห็นช่วยฉันด่าชายโฉดหญิงชั่วและเฉินจุ้นฮุยกับอู๋ชุ่ยก็บ้านแตกโดยสิ้นเชิงและถูกบังคับให้เลิกเล่นอินเทอร์เน็ตฉันคิดว่าสิ่งต่าง ๆ จะสงบลงอย่างช้า ๆ แต่คิดไม่ถึงว่าคอมพิวเตอร์ของเฉินจุ้นฮุยจะเสียเขาเอาไปซ่อมแล้วช่างซ่อมก็เห็นแฟ้มข้างในช่างซ่อมเป็นแฟนหนังสือของฉันและเผยแพร่วิดีโอเหล่านั้นต่อสาธารณชนเกิดความโกลาหลอีกครั้งบนโลกอินเทอร์เน็ต และการวิจารณ์ทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษระหว่างเฉินจุ้นฮุยและอู๋ชุ่ยก็ได้กลับมาอีกครั้งหน่วยงานก่อนหน้าของเฉินจุ้นฮุยได้รับรู้เรื่องราว ตำแหน่งทางวิชาชีพและเกียรติยศทั้งหมดที่เขาเคยได้รับถูกเพิกถอนและเป็นโมฆะไม่นานหลังจากนั้น ครอบครัวของลูกชายฉันก็มาที่บ้านของฉันอีกครั้งพร้อมกับเฉินจุ้นฮุยพวกเขานำกระเป๋าใบใหญ่และใบเล็กมามากมาย และ เฉินจุ้นฮุยก็ซื้อสร้อยข้อมือทองคำ แหวนทอง และสร้อยคอทองคำมาให้ฉันด้วย“ ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ฉันด้วย ตอนนี้

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 1

    ฉันมองหน้าจอด้วยความไม่อยากจะเชื่อ มือที่จับเมาส์ของฉันมันสั่นสะท้านแต่ละไฟล์วิดีโอถูกตั้งชื่อเอาไว้อย่างใส่ใจว่า วันที่ x เดือน x ปี xเขาที่มีผมหงอกทั้งหัวกดเธอที่มีผมขาวเอาไว้ใต้ร่างจูบคอของเธอด้วยความรักอันลึกซึ้ง ลูบไล้ร่างของเธออย่างอ่อนโยนเลื่อนขึ้นไปด้านบน ภาพค่อนข้างเบลอ ความรู้สึกของวันวานถาโถมเข้ามา ใบหน้าของพวกเขาดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ด้วยสายตารูปแต่งงานของฉันกับเฉินจุ้นฮุยวางอยู่ข้างเตียงแต่ผู้หญิงบนเตียงที่ถูกเขากระชากเสื้อออกอย่างรุนแรงกลับไม่ใช่ฉันเขากดเธอเอาไว้ข้างล่าง สองคนกอดกันแน่น ออกแรงราวกับต้องการรวมเป็นร่างเดียวกันกับอีกฝ่ายฉันล้มลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ความรู้สึกใจสั่นถาโถมเข้ามา และหายใจเร็วขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ฉันหายใจหอบอย่างหนัก แต่ไม่ว่าจะอ้าปากอย่างไร ออกซิเจนก็ไม่สามารถเข้าถึงทรวงอกของฉันได้น้ำตาหยดลงบนหลังมือตอนที่เขาบอกว่าตนเองเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ฉันเองก็ลังเลเหมือนกัน แต่ฉันตัดใจจากเขาไม่ได้เพื่อเขาฉันทนความเหงามาสี่สิบปี แต่คิดไม่ถึงว่าทั้งหมดนี้มันเป็นเพียงเรื่องหลอกลวงในตอนที่ฉันปรนนิบัติดูแลทั้งคนแก่และเด็กจนผมเผ้า

Latest chapter

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 9

    ฉันมีแฟน ๆ จำนวนมาก และเนื่องจากฉันสามารถบรรลุความสำเร็จระดับสูงได้อีกครั้งเมื่ออายุได้ 70 ปี ผู้คนที่เดินผ่านไปมาจำนวนมากเห็นใจฉัน และจำนวนแฟน ๆ ของฉันก็พุ่งสูงขึ้นทุกคนในส่วนของความคิดเห็นช่วยฉันด่าชายโฉดหญิงชั่วและเฉินจุ้นฮุยกับอู๋ชุ่ยก็บ้านแตกโดยสิ้นเชิงและถูกบังคับให้เลิกเล่นอินเทอร์เน็ตฉันคิดว่าสิ่งต่าง ๆ จะสงบลงอย่างช้า ๆ แต่คิดไม่ถึงว่าคอมพิวเตอร์ของเฉินจุ้นฮุยจะเสียเขาเอาไปซ่อมแล้วช่างซ่อมก็เห็นแฟ้มข้างในช่างซ่อมเป็นแฟนหนังสือของฉันและเผยแพร่วิดีโอเหล่านั้นต่อสาธารณชนเกิดความโกลาหลอีกครั้งบนโลกอินเทอร์เน็ต และการวิจารณ์ทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษระหว่างเฉินจุ้นฮุยและอู๋ชุ่ยก็ได้กลับมาอีกครั้งหน่วยงานก่อนหน้าของเฉินจุ้นฮุยได้รับรู้เรื่องราว ตำแหน่งทางวิชาชีพและเกียรติยศทั้งหมดที่เขาเคยได้รับถูกเพิกถอนและเป็นโมฆะไม่นานหลังจากนั้น ครอบครัวของลูกชายฉันก็มาที่บ้านของฉันอีกครั้งพร้อมกับเฉินจุ้นฮุยพวกเขานำกระเป๋าใบใหญ่และใบเล็กมามากมาย และ เฉินจุ้นฮุยก็ซื้อสร้อยข้อมือทองคำ แหวนทอง และสร้อยคอทองคำมาให้ฉันด้วย“ ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ฉันด้วย ตอนนี้

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 8

    ลูกสะใภ้ตีลูกชายไปทีหนึ่งแล้วพูดว่า “ ยังไม่รีบขอโทษแม่อีก เธอเป็นแม่ที่ให้กำเนิดคุณ เลี้ยงดูคุณและรักคุณมาตลอดชีวิต ดูคำพูดแย่ ๆ ที่คุณพูดในวันนั้นสิ คราวนี้คุณทำให้แม่ใจสลายแล้วจริง ๆ”“ แม่ ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้วจริง ๆ และผมก็เสียใจจริง ๆ ที่ทำแบบนั้นกับแม่ก่อนหน้านี้”" เสียใจเหรอ แกเคยคิดว่าฉันเป็นแม่ของแกจริง ๆ มั้ย หรือเป็นเพียงเพราะว่าที่บ้านขาดพี่เลี้ยงเด็กที่ไม่ต้องเสียเงินจ้าง ที่จริงแล้วแกไม่เคยเสียใจอะไรเลย แกแค่เสียใจที่อู๋ชุ่ยเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ไม่เชื่อฟัง"“ แกลืมไปแล้วหรือไงว่าตอนเด็ก ๆ พูดอะไรไว้ ตอนเด็ก ๆ แกบอกว่าจะอยู่กับแม่ตลอดชีวิต รักฉันตลอดชีวิต และจะไม่ปล่อยให้ฉันได้รับความไม่เป็นธรรม แต่แกทำอะไรลงไปล่ะ แกก็เหมือนกับพ่อที่ไร้หัวใจของแก เห็นแก่ตัว หน้าซื่อใจคดไร้ยางอาย ฉันจะไม่มีวันให้อภัยพวกแก ถ้าไม่มีใครดูแลลูกคอยรับคอยส่ง พวกแกก็ไปหาพี่เลี้ยงเด็กสิ อย่าคิดจะหาฉันมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ไม่ต้องเสียเงินจ้างเลย ”“ ตอนนี้ฉันอยากมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง และฉันก็มีอาชีพเป็นของตัวเองแล้ว ฉันไม่ใช่หวังหงสยาที่รู้แต่วิธีล้างจานขัดหม้ออีกต่อไป แกฟังเข้าใจแล้วหรือยัง

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 7

    หลังจากนั้นฉันก็เริ่มใช้ชีวิตของตัวเองบัญชีโซเชียลมีเดียของฉันก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆบางครั้งเมื่อมีเวลาฉันจะถ่ายทอดสด หลายคนถามและคุยโต้ตอบกับฉัน และยังชมว่าฉันสวยอีกด้วย สมัยตอนยังสาว จะต้องเป็นคนที่สวยมากแน่ ๆฉันยังได้รับความสนใจมากขึ้นฉันชอบของโบราณมาโดยตลอด จริง ๆ แล้วตอนที่ฉันเรียนหนังสือฉันเรียนเก่งมาก โดยเฉพาะด้านภาษา ฉันมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในบทกวีโบราณแต่เพราะยากจนเกินไป พ่อของฉันบอกว่าเป็นเด็กผู้หญิงเรียนหนังสือไปก็ไม่มีประโยชน์ อย่างไรเสียก็ต้องแต่งงาน จึงไม่อยากเสียเงินกับฉัน กลัวไม่มีใครตัดหญ้าให้วัวที่บ้าน ก็เลยไม่ให้ฉันเรียนหนังสือบางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากฉันได้เรียนหนังสือ อย่างนั้นฉันก็จะไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกับเฉินจุ้นฮุย ไม่แน่ฉันอาจจะมีสามีที่รักเดียวใจเดียวอย่างไรก็ตาม ปล่อยให้อดีตผ่านไปเถอะ พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ กาลเวลาไม่สามารถย้อนกลับไปได้นอกจากการแบ่งปันชีวิตสำหรับเรือกสวนไร่นาของฉันแล้ว ฉันยังสามารถเขียนบทกวี ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับมากมายขนาดนี้ ในเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสองเดือน ผู้ติดตามของฉันเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งล้านคนและฉันก็ได

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 6

    วันรุ่งขึ้น ทันทีที่ฉันตื่นและเดินออกมาจากห้องพักก็เห็นเฉินจุ้นฮุยนั่งอยู่ด้านหน้าประตูเขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีเขินอาย“ถ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อคุยเรื่องหย่าก็ออกไปซะ!”“หงสยา ผม...คุณให้โอกาสผมอีกสักครั้งไม่ได้จริงๆ เหรอ?”“เฉินจุ้นฮุยเลิกเสแสร้งได้แล้ว คุณมัวมาเล่นละครอะไรตรงนี้ ถ้าคุณหย่ากับฉัน คุณก็จะได้ไปอยู่กับนังผู้หญิงต่ำไง ยังไม่พอใจอีกเหรอ?"“คุณจะไม่บอกลูกๆ หรือแพร่ข่าวใช่ไหม?"ฉันมองดูชายผู้มีอายุเกินเจ็ดสิบปีแล้วแต่ยังคงดูหล่อเหลาสง่างามตรงหน้าก็พลันรู้สึกสมเพชขึ้นมาทันใด ฉันตกหลุมรักคนแบบนี้ไปได้อย่างไร“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว เซ็นสัญญาหย่าเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะไปติดประกาศที่โรงเรียนของคุณ เอาให้คุณอับอายไปเลย"ในที่สุดเขาก็ตกลงที่จะหย่ากับฉันโดยมีเงื่อนไขว่าฉันจะดูแลบั้นปลายชีวิตของเขา แต่เขาจะต้องมอบทรัพย์สินทั้งหมดของเขาให้ฉันเขาเก็บกวาดเตรียมย้ายออก ซึ่งฉันก็ให้เวลาเขาหนึ่งเดือนในการจัดการเรื่องย้ายออกจากบ้านหนึ่งเดือนต่อมา ฉันก็ได้มาเจอเขาอีกครั้งที่สำนักงานกิจการพลเรือนเราฟ้องหย่าและแยกทางกันโดยสิ้นเชิงและฉันก็เหลือบไปเห็นรถของอู๋ชุยจอดอยู่ไม่

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 5

    ฉันปลูกผักเสร็จแล้วก็ไปซื้อเค้กชิ้นเล็กๆ ให้ตัวเองเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชีวิตใหม่ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่เพื่อพวกเขาอีกต่อไป ไม่อยากจะอยู่เพื่อใครอีกต่อไปแล้วฉันอยากมีชีวิตอยู่เพื่อตนเองก่อนที่ฉันจะเป็นภรรยาและแม่ ฉันจะต้องเป็นตัวเองให้ได้ก่อนฉันกินเค้กเสร็จก็นอนลงบนโซฟาดูโทรทัศน์อย่างสบายๆท้องทะเลในโทรทัศน์ช่างสวยงามและกว้างใหญ่ไพศาล ทันใดนั้นฉันก็นึกขึ้นได้ว่าตนเองยังไม่เคยไปเที่ยวเลยสักครั้งในชีวิตฉันหาคำแนะนำทันทีและตัดสินใจเลือกชิงเต่าฉันอยากเห็นเหลือเกินว่าสิ่งที่อยู่อีกฟากของทะเลคืออะไรฉันไปซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟ ถือกระเป๋าและออกเดินทางทันทีฉันยืนกางแขนรับลมอยู่ริมชายหาด พลางสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายและอิสรภาพอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันจะได้พบกับความหมายของชีวิตและรู้สึกว่าตนยังมีชีวิตอยู่ฉันไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นหลายแห่งและกินของอร่อยมากมายแต่ละสถานที่ล้วนทำให้ฉันเพลิดเพลินนอกจากนี้ฉันยังสมัครบัญชีแอปโซเชียลมีเดียเพื่อโพสต์ชีวิตประจำวันของฉันด้วยหลายคนกดถูกใจและแสดงความคิดเห็นให้ฉันในวันที่ฉันต้องกลับ ฉันก็มองดูท้องทะเลเ

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 4

    ปกติแล้วฉันจะพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เคยตะโกนใส่เขาแบบนี้เสียเมื่อไหร่กัน เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจส่วนคนอื่นๆ ก็ล้วนยืนนิ่งอยู่กับที่ ราวกับว่ากำลังหวาดกลัวกับปฏิกิริยาของฉันเมื่อฉันพูดใส่ลูกชายเช่นนั้นแล้ว เขาก็ดูเสียหน้าเอามากๆ เขาจึงกระแทกประตูออกไปด้วยท่าทีขุ่นเคืองลูกสะใภ้เห็นท่าทีผิดปกติของฉันก็ไม่พูดอะไร เธออุ้มหลานชายขึ้นมาและเดินหนีไปเฉินจุ้นฮุยตำหนิฉันด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก “เด็กๆ โกรธคุณจนหนีไปหมดแล้ว ตอนนี้คุณคงมีความสุขแล้วสินะ?"เมื่อเขาเห็นว่าฉันไม่สนใจ สีหน้าของเขาก็ฉายแววเย็นชา“หวังหงสยา ผมว่าคุณอย่าทำอีกดีกว่า ถ้าคุณยังทำอีก ต่อไปผมคงช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ”น้ำเสียงของเขาเหลือทนเต็มที ราวกับว่านี่คือสุดขีดความอดทนของเขาแล้ว“คุณฟังภาษาคนไม่ออกหรือไง? ฉันบอกว่าให้หย่า จะหย่าก็คุยแค่เรื่องหย่าสิ เลิกพูดเรื่องไร้สาระสักที"เขาเป็นศาสตราจารย์ผู้เก่งกาจ ทั้งยังมีการศึกษา ถึงแม้จะโกรธก็ไม่แม้แต่จะพ่นคำหยาบออกมาสักคำแต่ฉันทำได้ ตอนนี้ฉันอยากด่าเขาด้วยคำพูดหยาบโลนหาที่หาที่เปรียบไม่ได้จริงๆฉันอยากจะพุ่งไปหั่นร่างของเขาเป็นชิ้นๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเ

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 3

    ลูกชายฉันตำหนิที่ฉันไม่ตอบข้อความหลานชายกระโดดโลดเต้นไปที่ห้องครัวเพื่อกินลูกชิ้นซอสน้ำแดง แต่กลับเดินออกมาด้วยความผิดหวัง“คุณย่า ลูกชิ้นซอสน้ำแดงล่ะ เอามาให้ผมเร็ว ๆ ผมจะกิน!”"ไม่ได้ทำ"กล่าวจบ หลานชายก็ร้องไห้ทันทีลูกสะใภ้เข้าไปกอดหลานชายและปลอบโยนด้วยความสงสารลูกชายยืนอยู่ตรงหน้าฉันด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ“แม่ วันนี้แม่บ้าไปหรือเปล่า ผมโทรหาก็ตัดสาย ส่งข้อความมาก็ไม่ตอบ แม้แต่ลูกชิ้นของเหวินเหวินก็ไม่ได้ทำ แม่ทำอะไรอยู่ที่บ้านทั้งวัน?”คำตำหนิถาโถมเข้ามา ราวกับว่าฉันไม่ใช่แม่ของเขา แต่เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เขาจ้างมาฉันมองเขาอย่างสงบ และไม่ตอบเขา แต่เอ่ยถาม "แกไม่กลัวความสูงใช่ไหม?"เขาชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วหันไปทางอื่นด้วยความรู้สึกผิด“เพราะงั้นแกโกหกฉันว่ากลัวความสูง เพราะไม่อยากช่วยฉันปีนขึ้นไปตัดแต่งกิ่งไม้น่ะสิ”“แต่ไปปีนต้นไม้บ้านคนอื่นเพื่อช่วยเขาตัดแต่งกิ่งไม้ได้?”“คนอื่นที่ไหนกัน?” ลูกชายรีบเอ่ยตัดฉันทันที “นั่นน้าอู๋ของผม เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวทำงานแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมช่วยเธอก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เธอเป็นเพื่อนสนิทของแม่ไม่ใช่เหรอ?”ฉันไม่พูดอะไร แค่จ้องมองลู

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 2

    ฉันเปิดโมเมนต์ขึ้นมา เฉินจุ้นฮุยเพิ่งโพสต์ไทม์ไลน์ไปในภาพ แม้ว่าเขาจะอายุเจ็ดสิบแล้ว แต่รูปร่างของเขาก็ยังเหยียดตรงสูงโปร่งเหมือนต้นสนบนภูเขายังคงมีรูปลักษณ์ตอนเป็นหนุ่มให้เห็นอยู่รำไรเขาเป็นศาสตราจารย์อาวุโสของคณะอักษรศาสตร์ ส่วนอู๋ชุ่ยเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรมพวกเขามักนั่งคุยกันเรื่องงานวรรณกรรมแบบนี้อยู่บ่อย ๆเฉินจุ้นฮุยที่ไม่ชอบยิ้มมาตลอด ตอนนี้กลับยิ้มอย่างมีความสุขห่างออกไป ลูกชายที่ไม่เคยทำงานที่บ้าน กำลังยืนใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้อยู่บนต้นไม้ใหญ่ในสวนของอู๋ชุ่ยตั้งใจจนไม่มีเวลาเช็ดเหงื่อด้วยซ้ำแต่ฉันจำได้ชัดเจนว่า ตอนที่ฉันขอให้เขาช่วยตัดมัน เขาบอกว่าเขากลัวความสูงหัวใจของฉันรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทำให้หลังของฉันทรุดลงอย่างเหลือทนหยดน้ำตาไหลลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัวทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่า ความพยายามของฉันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันช่างน่าหัวเราะถึงเพียงนี้ฉันตื่นนอนตอนตีห้าทุกวัน เพื่อช่วยทำอาหารเช้าให้ทั้งครอบครัวหลังทานอาหารเช้าเสร็จต้องรีบล้างถ้วยล้างชามเก็บกวาดห้องครัว ลูกชายกับลูกสะใภ้ต้องไปทำงาน และฉันต้องส่งหลานชายไปโรงเรียนอย่างเร่งรีบขากลับฉันต้อง

  • แค่ร่วมรักกับเพื่อนสนิทคุณมาสี่สิบปี ถึงขั้นต้องหย่าด้วยเหรอ   บทนำ 1

    ฉันมองหน้าจอด้วยความไม่อยากจะเชื่อ มือที่จับเมาส์ของฉันมันสั่นสะท้านแต่ละไฟล์วิดีโอถูกตั้งชื่อเอาไว้อย่างใส่ใจว่า วันที่ x เดือน x ปี xเขาที่มีผมหงอกทั้งหัวกดเธอที่มีผมขาวเอาไว้ใต้ร่างจูบคอของเธอด้วยความรักอันลึกซึ้ง ลูบไล้ร่างของเธออย่างอ่อนโยนเลื่อนขึ้นไปด้านบน ภาพค่อนข้างเบลอ ความรู้สึกของวันวานถาโถมเข้ามา ใบหน้าของพวกเขาดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ด้วยสายตารูปแต่งงานของฉันกับเฉินจุ้นฮุยวางอยู่ข้างเตียงแต่ผู้หญิงบนเตียงที่ถูกเขากระชากเสื้อออกอย่างรุนแรงกลับไม่ใช่ฉันเขากดเธอเอาไว้ข้างล่าง สองคนกอดกันแน่น ออกแรงราวกับต้องการรวมเป็นร่างเดียวกันกับอีกฝ่ายฉันล้มลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ความรู้สึกใจสั่นถาโถมเข้ามา และหายใจเร็วขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ฉันหายใจหอบอย่างหนัก แต่ไม่ว่าจะอ้าปากอย่างไร ออกซิเจนก็ไม่สามารถเข้าถึงทรวงอกของฉันได้น้ำตาหยดลงบนหลังมือตอนที่เขาบอกว่าตนเองเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ฉันเองก็ลังเลเหมือนกัน แต่ฉันตัดใจจากเขาไม่ได้เพื่อเขาฉันทนความเหงามาสี่สิบปี แต่คิดไม่ถึงว่าทั้งหมดนี้มันเป็นเพียงเรื่องหลอกลวงในตอนที่ฉันปรนนิบัติดูแลทั้งคนแก่และเด็กจนผมเผ้า

DMCA.com Protection Status